ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    InClip:ฮ่องกงเข้าคูหาเลือกตั้งซ่อมเช้านี้ แต่สาวประชาธิปไตยร่มเหลืองเพื่อน “โจชัว หว่อง” ถูกตัดสิทธิ์ เผยแพร่: 11 มี.ค. 2561 11:04: โดย: MGR Online
    561000002534401.jpg

    เอเจนซีส์/เอเอฟพี - วันนี้(11 มี.ค)ประชาชนบนเกาะฮ่องกงเดินเข้าสู่คูหาเพื่อเลือกตั้งซ่อมสภานิติบัญญัติแห่งฮ่องกงที่มีเก้าอี้ว่างลง 4 ตำแหน่งหลังจากอดีตสมาชิกพรรคเดโมซิสโต (Demosisto)และอดีตสมาชิกสภาอื่นนรวม 4 คนถูกสั่งให้ออกจากการทำหน้าที่ พบเพื่อนโจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวประชาธิปไตยร่มเหลือง แอกเนส จ้าว ทิง (Agnes Chow Ting) นักศึกษามหาวิทยาลัยวัย 21 ปี และแกนนำกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยร่มเหลืองปี 2014 ไม่ได้เป็น 1 ใน 15 ผู้รับสมัครเลือกตั้งวันนี้เนื่องมาจากถูกทางการฮ่องกงตัดสิทธิ์

    CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้(11 มี.ค)ว่า ในวันอาทิตย์(11) ผู้สมัครจำนวน 15 คนต่างลุ้นระทึกในเลือกตั้งซ่อมสภานิติบัญญัติแห่งฮ่องกงที่มีเก้าอี้ว่างลง 4 ตำแหน่งจากทั้งหมด 6 ตำแหน่ง อ้างอิงจากเอเอฟพี หลังจากอดีตสมาชิกพรรคเดโมซิสโต (Demosisto)ถูกฮ่องกงสั่งให้ไม่สามารถนั่งทำหน้าที่เป็นสมาชิกในสภาผู้ทรงเกียรติได้เนื่องจากพวกเขาจัดการประท้วงมีเป้าหมายเล่นงานปักกิ่งในระหว่างพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในขณะนั้น

    เอเอฟพีรายงานว่า อดีตสมาชิกสภา 6 คนนั้นถูกศาลสูงฮ่องกงตัดสินว่าให้พ้นจากความเป็นสมาชิก หลังจากทางปักกิ่งได้ใช้อำนาจแทรกแซงยื่นการตีความแบบใหม่ให้ทางฮ่องกงต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญเกาะฮ่องกงที่ระบุว่า ว่าที่สมาชิกรัฐสภานิติบัญญัติแห่งฮ่องกงจะถูกถอดถอนหากไม่สาบานตนอย่างเป็นทางการ และซื่อสัตย์ ซึ่งคนเหล่านี้จะถูกแบนหากละเมิด

    การเลือกตั้งเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันกับประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน NPC ซึ่งถูกมองว่าเป็นเสมือนสภาตรายางของปักกิ่งที่ในวันนี้(11) คาดว่าจะมีการยกมือสนับสนุนการปลดล็อกระยะเวลาการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง

    สื่อสหรัฐฯชี้ว่า การประกาศถึงการปลดล็อกระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของสีเกิดขึ้นครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ได้สร้างความแตกตื่นในฮ่องกง ซึ่งในช่วงสมัยการดำรงตำแหน่งของเขา ปักกิ่งเข้มงวดฮ่องกงมากขึ้น และเสรีภาพทางการเมืองลดลง

    ความกลัวเหล่านี้เพิ่มขึ้นตั้งแต่วันจันทร์(5) ซึ่งเป็นวันแรกของการประชุมสภา NPC จากการที่นายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เค่อเฉียงเลือกที่จะไม่กล่าวถึงการอ้างไปถึงการที่ประชาชนฮ่องกงมีสิทธิ์ปกครองตนเองภายใต้ 1 ประเทศ 2 ระบบตามข้อตกลงการส่งมอบเกาะคืนจากอังกฤษปี 1997

    ทั้งนี้ผลซ่อมสภานิติบัญญัติแห่งฮ่องกงคาดว่าจะออกมาในวันพรุ่งนี้(12)

    CNN ชี้ว่า จากการที่สีกระชับอำนาจมากขึ้นยิ่งเป็นการเสี่ยงต่อกลุ่มเคลื่อนไหวประชาธิปไตยร่มเหลืองที่มีโจชัว หว่อง และนาธาน เหลาเป็นแกนนำ ซึ่งอาจนำมาสู่การจับกุมและถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ และตัวแทนถูกตัดสิทธิ์ทางการการเมืองหากมีการประท้วงต่อต้านอำนาจจากปักกิ่ง ซึ่งหนึ่งในตัวแทนจากกลุ่มแกนนำ แอกเนส จ้าว ทิง (Agnes Chow Ting) นักศึกษามหาวิทยาลัยวัย 21 ปีเพื่อนหว่อง แต่เดิมที่ประกาศตัวยื่นสมัครรับเลือกตั้งเพื่อหวังว่าจะเข้าไปทำหน้าที่แทนเหลาที่ถูกประกาศให้หมดคุณสมบัติจากการเป็นสมาชิกรัฐสภาฮ่องกง แต่เธอไม่สามารถมีชื่ออยู่ในบัตรลงคะแนนได้เนื่องมาจากทางการฮ่องกงประกาศให้เธอขาดคุณสมบัติ

    พรรคเดโมซิสโตที่เธอสังกัดเป็นตัวตั้งตัวตีต้องการให้ชาวฮ่องกงมีสิทธ์สามารถออกเสียงในอนาคตของฮ่องกงหลังจากที่ข้อตกลง 1 ประเทศ 2 ระบบได้สิ้นสุดแล้วในปี 2047

    ซึ่งความล้มเหลวของฝ่ายบริหารฮ่องกงในการปฎิรูปทางการเมืองเป็นตัวเร่งให้มีเสียงต้องการที่จะสามารถเลือกผู้นำของตัวเองได้ บวกกับความกดดันจากจีนที่ทำให้จำนวนคนกลุ่มน้อยเพิ่มมากขึ้นที่ต้องการเรียกร้องเอกราชจากปักกิ่ง

    สำหรับสภานิติบัญญัติแห่งฮ่องกง หรือที่มีชื่อย่อว่า สภาเล็กโก (LegCo)พบว่ามีสมาชิกโปรปักกิ่งนั่งอยู่ในเสียงข้างมากอย่างล้นหลาม จากทั้งหมด 70 ที่นั่งมี 24 ที่นั่งเป็นของค่ายประชาธิปไตย อ้างอิงจากเอเอฟพี

    ซึ่ง CNN อธิบายว่าที่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ระบบที่ถูกออกแบบให้เป็นเช่นนั้น เจาะจงที่นั่งให้กับบางประเภทธุรกิจ การค้า และกลุ่มทางสังคมซึ่งรับไม้คำสั่งจากทางปักกิ่ง ส่งผลทำให้เป็นการยกที่จะปฎิรูปทางการเมือง และไม่มีความหวังโดยสิ้นเชิง ซึ่งพบว่าคนรุ่นใหม่ของฮ่องกงบางส่วนเลือกที่จะทิ้งฮ่องกง และเดินทางไปยังไต้หวัน หรือประเทศตะวันตกแทน






    561000002534402.jpg


    561000002534403.jpg


    561000002534404.jpg


    561000002534405.jpg

    https://mgronline.com/around/detail/9610000024291
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    InClip: “กระทรวงการคลังญี่ปุ่น” ฉาวคดีแก้เอกสารขายที่รัฐ จะเข้าให้การยอมรับต่อรัฐสภาไดเอทพรุ่งนี้ เผยแพร่: 11 มี.ค. 2561 13:43: โดย: MGR Online
    561000002538301.jpg

    เอเจนซีส์ - แหล่งข่าวเปิดเผยวันเสาร์(10 มี.ค)ว่า กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยข้อเท็จจริงต่อรัฐสภาไดเอทแห่งชาติในวันจันทร์(12 มี.ค) ถึงการยอมรับว่าได้แอบแก้ไขเอกสารที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงปี 2016 กับโมริโตโมะ กาคูเอ็น(Mor{itomo Gakuen) บริษัทผู้จัดการโรงเรียนที่มีฐานในโอซากาใกล้ชิดกับภรรยานายกรัฐมนตรีอาเบะ ซึ่งพบว่ามีการเปลี่ยนแปลง และประเด็นสำคัญได้ถูกนำออกไปจากเอกสารที่ยื่นให้กับบรรดาสมาชิกสภาไดเอทญี่ปุ่น

    แชเนลนิวส์เอเชียรายงานเมื่อวานนี้(10 มี.ค)ว่า แหล่งข่าวเปิดเผยในวันเสาร์(10) จากการรายงานของสำนักข่าวเกียวโดญี่ปุ่นว่า กระทรวงการคลังแดนอาทิตย์อุทัยจะยอมขึ้นให้การยอมรับต่อรัฐสภาไดเอทแห่งชาติวันพรุ่งนี้(12)ที่ว่า ทางกระทรวงได้ทำการแก้ไขเอกสารขายที่รัฐที่ได้ยื่นให้กัลรัฐสภาญี่ปุ่นจริง

    โดยในวันจันทร์(12) จะเป็นการรายงานถึงการการค้นพบในหลายกรณีที่ว่า มีการปกปิดในหลายจุดต่อเอกสารรายงานข้อตกลงต่อบรรดาสมาชิกรัฐสภาไดเอทซึ่งถูกนำออกมาไป

    เจแปนไทม์ส์รายงานว่า ข้อมูลสำคัญที่ถูกนำออกไปรวมไปถึง ประวัติการเจรจาต่อรองกับทางโมริโตโมะ กาคูเอ็น(Moritomo Gakuen) บริษัทผู้จัดการโรงเรียนที่มีฐานในโอซากาข้อตกลงซื้อขายที่ดินปี 2016 สำหรับแผนการเปิดโรงเรียนประถมในที่ดินที่ โทโยนากะ(Toyonaka) จ.โอซาก้า

    นอกจากนี้ยังมีข้อความที่ระบุถึง “ความผิดปกติตามธรรมชาติ” ของข้อตกลงซื้อขายที่ดินที่มีการลดราคามหาศาลถูกตัดออกไป แหล่งข่าวกล่าว

    การยอมรับผิดของกระทรวงการคลังญี่ปุ่นจะเป็นอีกหนึ่งมรสุมที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะต้องเผชิญ ซึ่งเขาประสบกับมรสุมนานนับเดือนต่อข้อกล่าวหา ***ที่ผู้จัดการโรงเรียนที่อื้อฉาวใช้ความใกล้ชิดกับภรรยาของเขาในการให้ได้ข้อตกลง*** ที่มีราคาซื้อขายลดอย่างมโหฬารในที่ดินตั้งอยู่ในเขตตะวันตกของโอซาก้า

    และยังเป็นการสร้างแรงกดดันไปยังตัวรัฐมนตรีการคลังญี่ปุ่น ทาโร อาโซ ซึ่งได้ออกมาประกาศก่อนหน้าว่า จะไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังต่อคดีที่ดินที่อื้อฉาวนี้ที่นำมาสู่การลาออกอธิบดีสำนักงานภาษีและสรรพากรญี่ปุ่น โนบุฮิสะ ซางาวะ(Nobuhisa Sagawa) วันศุกร์(9)

    ซึ่งในวันที่อธิบดีซางาวะลาออก สื่อแดนอาทิตย์อุทัยรายงานถึงตำรวจญี่ปุ่นได้สอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตที่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตายของเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังซึ่งรับผิดชอบด้านที่ดินรายหนึ่ง ทางโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เขาได้รับทราบเรื่องเกี่ยวกับการเสียชีวิต แต่ปฎิเสธที่จะให้ความเห็นเพิ่มเติม

    ทั้งนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่โตเมื่อหนังสือพิมพ์อาซาฮีชิมบุนเป็นผู้เปิดเผยเป็นเจ้าแรกว่า เอกสารที่ยื่นให้กับทางสมาชิกรัฐสภาไดเอท “อาจมีการปลอมแปลงทางเอกสารขึ้น”

    อย่างไรก็ตาม ตัวผู้นำญี่ปุ่น อาเบะออกมาปฎิเสธต่อสาธารณะว่า ทั้งตัวเขาหรือภรรยาไม่ได้ให้ประโยชน์ต่อทางโมริโตโมะ กาคูเอ็น ผู้จัดการโรงเรียนแต่อย่างใด

    เจแปนไทม์ชี้ว่า หากข้อกล่าวหาการปลอมแปลงเอกสารเป็นจริงจะถือเป็นเรื่องใหญ่เพราะละเมิดกฎหมายที่ว่าด้วยการปลอมแปลงเอกสารราชการ อย่างไรก็ตามในเวลานี้ อ้างอิงจากแหล่งข่าวชี้ว่า ทางกระทรวงยังไม่ตัดสินใจไปถึงรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวข้องกับ “เมื่อใด” หรือ “สาเหตุที่มีการกระทำผิดเกิดขึ้น” และ “ใครบ้างที่มีส่วนในเรื่องนี้” ซึ่งการสอบสวนภายในยังคงดำเนินการอยู่ในเวลานี้

    ทั้งนี้สำหรับไทม์ไลน์ของคดีนี้ สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า

    ***วันที่ 9 ก.พ 2017หนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุน รายงานว่า โมริโตโมะ กาคูเอ็น สามารถซื้อที่ดินจากรัฐในราคาแค่เสี้ยวเดียวของราคาตลาดเปรียบเทียบกับที่ดินบริเวณใกล้เคียง

    ***วันที่ 16 มี.ค 2017 รัฐบาลญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะออกมาปฎิเสธ ว่าอาเบะได้บริจาคให้กับผู้จัดการของโรงเรียน

    ***วันที่ 23 มี.ค 2017 ยาซูโนริ คาโงอิเกะ(Yasunori Kagoike)หัวหน้าของโมริโตโมะ กาคูเอ็น แถลงต่อสภาไดเอทว่าเขาได้รับเงินบริจาค 1 ล้านเย็น ซึ่งเป็นเงินสดจากนายกรัฐมนตรีอาเบะผ่าน อากิเอะ อาเบะ (Akie Abe) ภรรยาของอาเบะ แต่รัฐบาลญี่ปุ่นออกมาปฎิเสธเช่นเดิม

    ***วันที่ 24 มี.ค 2017 อาโซออกมาแถลงต่อสื่อว่า กระบวนการขายที่ดินรัฐให้กับโมริโตโมะนั้นโปร่งใสทั้งด้านการดำเนินการและราคาตามสัญญา

    ***วันที่ 21 เม.ย 2017 โมริโตโมะ กาคูเอ็นยื่นขอล้มละลาย
    ***วันที่ 31 ก.ค คาโงอิเกะแลภรรยา จุนโกะ(Junko) ถูกจับข้อหาฉ้อโกง
    ***วันที่ 2 มี.ค 2018 หนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุนเปิดประเด็น รายงานว่ากระทรวงการคลังญี่ปุ่นตกแต่งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ดินรัฐในโอซาก้าคดีเจ้าปัญหา

    ***วันที่ 9 มี.ค 2018 อธิบดีสำนักงานภาษีและสรรพากรญี่ปุ่นลาออก






    561000002538302.jpg


    561000002538303.jpg


    561000002538304.jpg

    อากิเอะ อาเบะ (Akie Abe) สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของญี่ปุ่น

    https://mgronline.com/around/detail/9610000024339
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    InClip: พี่ชายอดีตพ่อเมืองโตรอนโต “ร็อบ ฟอร์ด” พี้โคเคนสุดอื้อฉาว ขึ้นนั่งปธ.พรรคอนุรักษ์นิยมก้าวหน้าคนใหม่ เผยแพร่: 11 มี.ค. 2561 14:27: โดย: MGR Online
    561000002538501.jpg

    อดีตนายกเทศมนตรีเมืองโตรอนโต ร็อบ ฟอร์ด
    เอพี – พรรคอนุรักษ์นิยมก้าวหน้า (PC) ของจ.ออนแทริโอ แคนาดาวันเสาร์(10 มี.คฉ เลือกดั๊ก ฟอร์ด(Doug Ford) พี่ชายที่เสียชีวิต อดีตนายกเทศมนตรีเมืองโตรอนโตที่อื้อฉาวจากคดีสูบโคเคน ร็อบ ฟอร์ด เป็นผู้นำพรรคคนใหม่

    เอพีรายงานวันนี้(11 มี.ค)ว่า ในการเลือกผู้นำพรรคคนใหม่ในวันเสาร์(10) พบว่าพรรคอนุรักษ์นิยมก้าวหน้า (The Progressive Conservatives) หรือพรรค PC ตัดสินใจออกเสียงเลือกดั๊ก ฟอร์ด(Doug Ford) พี่ชายอดีตนายกเทศมนตรีเมืองโตรอนโต ร็อบ ฟอร์ด ที่โด่งดังไปทั่วโลกในปี 2013 จากการแถลงข่าวของเขาในข้อกล่าวหาการใช้ยาเสพติดโคเคน และดื่มจัด ขึ้นเป็นประธานพรรคคนใหม่ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในเดือนมิถุนายนที่จะมาถึง

    ทั้งนี้พบว่าฟอร์ดผู้พี่เป็นอดีตสมาชิกสภาเมือง และเป็นผู้ออกมาปกป้องร็อบ ฟอร์ดพี่ชายซึ่งได้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งประเภทหายากในปี 2016 ซึ่งพบว่าสมัยการดำรงตำแหน่งของพี่ชายกลายเป็นอุปสรรคจากประเด็นการใช้ยาเสพติดและสุรา พบว่าเขาถูกบันทึกภาพเคลื่อนไหวในขณะที่กำลังเมาไม่ได้สติในที่สาธารณะหลายครั้ง

    แต่ทว่าดูเหมือนประเด็นยาเสพติดยังรวมไปถึงตัวหัวหน้าพรรค PC คนใหม่ เพราะหนังสือพิมพ์โกลบแอนด์เมลในปี 2013 ได้เคยรายงานถึงการที่ดั๊ก ฟอร์ดเคยขายกัญชา(hashish)เป็นเวลานานไม่กี่ปีในช่วงยุค 80 แต่เจ้าตัวออกมาปฎิเสธ

    ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์การเมืองออกมาคาดการณ์ว่า พรรคPC ของเขาน่าจะชนะการเลือกตั้งที่จะมาถึงหลังจากการปกครองของพรรคลิเบอรัลตลอดช่วงเวลา 15 ปี

    “เราจะใช้เวลาในอีกหลายสัปดาห์ข้างหน้า จัดรูปกระบวนทัพเพื่อสู้ศึกเลือกตั้ง เพราะประชาชนในจังหวัดนี้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง” ดั๊ก ฟอร์ดแถลง

    การออกมาประกาศชัยชนะการเป็นประธานพรรคคนใหม่ของฟอร์ดเกิดขึ้นในช่วงค่ำวันเสาร์(10) โดยไม่มีความอลหม่านอย่างที่เกรงไว้แต่แรก มีผู้คนจำนวนร่วมหลายร้อยต่างรวมตัวภายในหอประชุมในทางเหนือของเมืองโตรอนโต เพื่อที่จะฉลองกับว่าที่ประธานพรรคคนใหม่หลังจากคนเก่าได้ลงจากตำแหน่งท่ามกลางข้อกล่าวหาประพฤติผิดทางเพศที่อดีตผู้นำพรรคออกมาปฎิเสธ

    เอพีรายงานว่า ดั๊ก ฟอร์ด สามารถเอาชนะคู่แข่ง อดีตสมาชิกรัฐสภาประจำจังหวัด คริสตีน เอลเลียต(Christine Elliott) ในการลงคะแนนรอบ 3








    561000002538502.jpg


    561000002538503.jpg

    https://mgronline.com/around/detail/9610000024353
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปรีดี พนมยงค์ อยากรู้ “อาสาจาม” กรมพระยาดำรงฯยอมบอกให้คนแสลงใจ! แต่ไม่ให้บอกว่าใครบอก!! เผยแพร่: 12 มี.ค. 2561 12:00: โดย: โรม บุนนาค
    561000002566101.jpg

    อาสาจาม
    ถ้าอ่านประวัติศาสตร์หรือพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ก็จะพบคำว่า “อาสาจาม” อยู่ในหลายที่ รู้กันแต่ว่าเป็นกองทหารกองหนึ่ง แต่ไม่มีคำอธิบายให้ความกระจ่างว่า จาม เป็นใคร ทำไมจึงมาเป็นกองทหารอาสาของกรุงศรีอยุธยา

    ดร.ปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส ก็มีความสงสัยในเรื่องนี้และต้องการความกระจ่าง จึงมีบันทึกไปถึงนายธนิต อยู่โพธิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์คนหนึ่ง เมื่อปี ๒๔๘๖ มีข้อความว่า

    คำถามเรื่องอาสาจาม

    ต้องการทราบ (เรื่องอาสาจาม) ว่าประวัติเป็นมาอย่างไร โดยอยากทราบความกระจ่างแจ้งดังนี้

    จามนี้ เป็นคนของประเทศจาม ซึ่งจะหมายถึงอาณาจักรจำปา หรืออาณาจักรจาม ซึ่งอยู่ระหว่างเขมรกับญวน หรือไม่

    คนจามเป็นคนในท้องถิ่นนั้นเอง หรือเป็นผู้มาจากอินเดีย หรือจากชวา

    พวกจาม ดูเหมือนถือศาสนาฮินดู หรือศาสนาพราหมณ์

    พวกจาม เข้ามาอาสาเป็นทหารในประเทศไทยเมื่อราวสมัยไหนแน่

    มาในชั้นหลังๆครั้งกรุงศรีอยุธยา ดูเหมือนอาสาจามจะได้แก่พวกมลายู หรือพวกแขก ซึ่งสมัครเข้าเป็นทหาร โดยมากพวกนี้ถ้าจะกล่าวก็คือ เป็นทหารที่ถือศาสนาอิสลาม

    ในสมัยรัตนโกสินทร์ ทหารเรือในสมัยก่อนก็มักเป็นพวกอิสลาม ทั้งนี้จะสืบเนื่องมาจากอาสาจามครั้งอยุธยามีหน้าที่ทางทหารเรือ เพราะชาวมลายูสันทัดการเดินเรือ

    จะสรุปรวมความหรือวินิจฉัยคำว่า “จาม” ที่เข้าใจกันในกรุงศรีอยุธยาจะหมายถึงชาวอิสลามโดยทั่วไปได้หรือไม่ (โดยคนสมัยนั้นในตอนหลังได้เลือนคำว่าจามจากความหมายเดิม)

    ข้อความที่ควรรู้เกี่ยวกับอาสาจามมีประการใด เท่าที่จะค้นให้ได้ โปรดค้นให้ด้วย

    ปรีดี พนมยงค์

    นายธนิต อยู่โพธิ์ก็คงไม่ได้ค้นคว้าเรื่องอาสาจามอย่างกระจ่างแจ้งนัก จึงได้กราบทูลถามไปยังสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ผู้ที่ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็น “พระบิดาประวัติศาสตร์ไทย” ซึ่งก็ทรงพระเมตตาประทานมาว่า

    บันทึกรับสั่ง
    คำตอบเรื่องอาสาจาม
    สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
    ประทานแก่ นายธนิต อยู่โพธิ์

    เรื่องมนุษย์ พวกจาม ถ้าหาความรู้ทางฝรั่งเศสอาจจะได้ความรู้ที่ดีจริง เพราะฝรั่งเศสเขาค้นคว้ามากกว่าไทย ตัวฉันเองรู้แต่หัวข้อ ไม่ถ้วนถี่ บางทีจะผิดไปบ้างก็เป็นได้ จะบอกให้เป็นเลาความต่อไปนี้

    พวกจาม เป็นมนุษย์อยู่จำพวกชาวเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ที่แยกย้ายกันไปตั้งชาติตั้งประเทศต่างๆ ตั้งแต่ประเทศญี่ปุ่นมาจนฟิลิปปินส์ ชวา มลายู เพราะฉะนั้นมนุษย์พวกนี้บ้านเมืองจึงอยู่ชายทะเลทั้งนั้น เป็นพวกชำนาญการใช้เรือทะเลไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนๆ นานมาจึงกลายเป็นต่างชาติกันไป

    พวกจาม มาตั้งบ้านเมืองอยู่ชายทะเลตั้งแต่ต่อแดนจีนลงมาจนแหลมเขมร อาณาเขตเดิมแค่ไหนไม่รู้ แต่พวกอินเดียที่มาสอนศาสนาและวัฒนธรรมทางนี้ ขนานนามประเทศอย่างประเทศหนึ่งที่มีในอินเดียว่า “จัมปา” คำว่า “จาม” นั้นย่อมาจากจัมปา ประเทศกัมพูชาก็เป็นนามที่ชาวอินเดียมาตั้งเหมือนกัน

    พวกจาม รับอารยะธรรมและศาสนาของชาวอินเดีย ประพฤติเหมือนเขมร ถือศาสนาพราหมณ์เป็นพื้น ยังมีซากเทวสถานของโบราณอยู่มาก ครั้นพวกอาหรับออกมาสอนศาสนาอิสลาม พวกจามเหมือนกับพวกมลายูและชวา ด้วยบ้านเมืองอยู่ริมทะเล ได้ค้าขายสมาคมกับพวกอาหรับ จึงตามกันไปเข้ารีตถือศาสนาอิสลาม

    เรื่องราวพงศาวดารของพวกจามนั้น เคยเจริญถึงได้เป็นคู่รบกับพวกขอม มีรูปภาพจารึกอยู่ที่ปราสาทบายนเมืองนครธม ทีหลังถูกขอมแผ่อาณาเขตรุกลงมาทางข้างเหนือ พวกจามจึงเสื่อมกำลัง บ้านเมืองแบ่งเป็นอาณาเขตญวนบ้าง เขมรบ้าง ส่วนพวกจามเองโดยมากอาศัยอยู่ในเมืองเขมร ประวัติศาสตร์ก็มารวมกับเขมร บางคราววิวาทกับเขมรหนีมาพึ่งไทยบ้าง บางทีอพยพมาอยู่เมืองไทยด้วยกันกับเขมรบ้าง จึงมีพวกจามมาอยู่เมืองไทยแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา

    ก็ธรรมเนียมไทยในครั้งกรุงศรีอยุธยานั้น ชาวต่างประเทศต่างชาติที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ในเมืองไทย รัฐบาลมักจัดให้เป็นกรมอาสา เช่น อาสาญี่ปุ่น อาสาจาม ฝรั่งแม่ปืน เป็นต้น ถือว่าเวลามีศึกสงครามต้องช่วยรบพุ่งตอบแทนที่ให้ตั้งทำมาหากินอยู่เป็นสุข ก็พึงสันนิษฐานว่าพวกจามถนัดในการใช้เรือทะเลมาแต่เดิม จึงให้มีหน้าที่เป็นพนักงานเดินเรือกำปั่นของหลวง มาตั้งแต่ครั้งสมเด็จพระนารายณ์จนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์นี้ กำปั่นหลวงเดิมเป็นเรือค้าขายมีมาแต่รัชกาลที่ ๑ ให้พวกอาสาจามเป็นพนักงานเดินเรือ กำปั่นคือเรือทะเลทั้งนั้น มาจนสมัยต่อเรือไฟในรัชกาลที่ ๔ และที่ ๕ ก็ยังใช้พวกอาสาจามเป็นพนักงานเดินเรือ ทหารเรือไทยเพิ่งตั้งขึ้นในรัชกาลที่ ๕ การเดินเรือก็ยังใช้ฝรั่งกับพวกอาสาจามเป็นนาย จนมาถึงสมัยกรมหลวงชุมพรฯ จึงได้หัดนายทหารเรือไทยให้เดินเรือได้เองมาจนบัดนี้

    มีข้อประหลาดในโบราณคดีอยู่เรื่องหนึ่ง ที่ชนชาติเหล่านี้ คือพม่า มอญ ไทย เขมร นิสัยเป็นชาวดอน ไม่ชอบออกทะเลด้วยกันทุกชาติมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ใช้เรือก็ถนัดใช้แต่ในแม่น้ำเหมือนกันทุกชาติ จะเป็นเพราะถิ่นเดิมมาแต่เมืองดอนด้วยกัน หรืออย่างไร ยังคิดไม่เห็น

    นึกเค้าเงื่อนเรื่องจามขึ้นมาได้อีก ในหนังสือพระราชพงศาวดารมีว่า เมื่อสมเด็จพระรามราชา ราชโอรสสมเด็จพระราเมศวร ครองกรุงศรีอยุธยาเกิดวิวาทกับเจ้าเสนาบดี เจ้าเสนาบดีไปเชิญพระนครินทราชา ราชนัดดาของสมเด็จพระบรมราชาธิราชพะงั่ว เข้ามาตีได้พระนครศรีอยุธยา แล้วให้สมเด็จพระรามราชาไปครองเมือง “ปท่าคูจาม” เมืองปท่าคูจามไม่มีที่อื่น แต่ที่แม่น้ำริมฝั่งตะวันตกข้างใต้พระนครศรีอยุธยาลงมา เหนือคลองตะเคียน ยังมีคลองเก่าปรากฏอยู่จนทุกวันนี้ เรียกว่า “คลองคูจาม” ที่ว่าให้สมเด็จพระรามราชาไปครองนั้น ที่จริงอาจจะเป็นให้เอาไปคุมขังหรือที่สุดปลงพระชนม์ที่ตำบลคูจาม นอกพระนคร ตำบลคูจามนั้นชื่อส่อว่าเป็นที่พวกจามที่มาค้าขายมาใช้เป็นท่าจอดเรือทะเล หรือเป็นที่ต่อเรือของพวกจามที่นั่น เพราะในแขวงเมืองสงขลาก็มีตำบลหนึ่งอยู่ชายทะเล เรียกว่า “ปละท่า” เป็นที่เรือไปมาค้าขาย เห็นได้ว่าเป็นคำเดียวกับ ปท่าคูจาม โดยความที่กล่าวมานี้พึงเห็นได้ว่า พวกจามเคยเข้ามาอยู่เมืองไทยใกล้ๆกับรัชกาลพระเจ้าอู่ทอง ยิ่งกว่านั้นอีก ยังมีเค้าซึ่งเป็นแต่ความสงสัยว่า พวกจามจะได้ไปมาค้าขายในอ่าวสยามแต่ดึกดำบรรพ์ แลมาให้ชื่อตำบลต่างๆไว้ ที่ยังเรียกกันอยู่จนทุกวันนี้ก็หลายแห่ง ไม่มีใครแปลออก และไม่รู้ว่าภาษาอะไร ยกตัวอย่างเช่น เกาะสมุย เกาะพงัน เกาะสีชัง สัตหีบ เหล่านี้เป็นต้น

    ยังมีเค้าสำคัญต่อไปอีกว่า พวกจามได้มาร่วมสมพงศ์กับเจ้าขอมที่เมืองละโว้ คือที่เรียกว่า “นางจามเทวี” ปรากฏอยู่

    บันทึกนี้เขียนให้นายธนิต อยู่โพธิ์ โดยมีข้อไขว่า ถ้านายธนิตจะเอาไปแสดงแก่ผู้ใด อย่าให้

    บอกว่าได้ไปจากสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ

    เดช คงสายสินธุ์
    จดบันทึก
    ๑๐ กันยายน ๒๔๘๖

    นายเดช คงสายสินธุ์เป็นมหาดเล็กอยู่ในวังวรดิศ และเคยรับราชการในกรมศิลปากร ในตอนท้ายของยันทึกที่ว่า “...ถ้านายธนิตจะเอาไปแสดงแก่ผู้ใด อย่าให้บอว่าได้ไปจากสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ...” สมเด็จฯกรมพระยาดำรงฯก็คงทราบว่าแท้ที่จริงแล้วปัญหานี้เป็นปัญหาของใคร ไม่ใช่ปัญหาของนายธนิตเอง พระองค์ท่านต้องลี้ภัยไปประทับอยู่ที่ปีนังหลังการยึดอำนาจเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๕ นั้น ก็มีปรีดี พนมยงค์เป็นต้นคิด และท่านเพิ่งเสด็จกลับมาประทับที่วังวรดิศตามเดิม ก็คงยังแสลงพระทัยกับเจ้าของปัญหาอยู่ ซึ่งนายธนิตก็มีหนังสือกราบทูลขอประทานอภัยโทษที่จะขัดพระกระแสรับสั่งเปิดเผยที่มา

    พร้อมกันนี้ นายธนิต อยู่โพธิ์ก็ได้ค้นคว้าเรียบเรียงคำตอบปัญหาเรื่องอาสาจามด้วยตนเองอีก และได้กราบเรียนเสนอไปยังนายปรีดี พนมยงค์ ตามข้อถามอย่างกระจ่างแจ้ง ซึ่งสรุปความว่า

    จาม หมายถึงคนของประเทศจาม หรืออาณาจักรจัมปา มีเมืองหลวงชื่อจัมปานคร ซึ่งยังคงมีซากโบราณอยู่หลายแห่งในประเทศญวนขณะนี้

    พบศิลาจารึกหลักหนึ่งเป็นภาษสันสกฤต อยู่ในคริสต์ศตวรรษที่ ๒ หรือที่ ๓ ระบุว่าผู้ตั้งประเทศจัมปา เป็นชาวอินเดีย ปกครองดินแดนที่เรียกว่า แคว้นเกาฐาระ พระนามของกษัตริย์จะลงท้ายว่า วารมัน หรือ วรมัน ทุกองค์ ซึ่งตรงกับพระนามของกษัตริย์อินเดียตอนใต้ ประเทศจามติดต่อกับชวาและมลายูสะดวก ไปมาด้วยลมมรสุม ไม่อับลมเหมือนในอ่าวไทย พลเมืองจัมปาจึงปะปนกันหลายชาติ ทั้งขอมที่อยู่เดิม อินเดียที่มาอยู่กับขอม และพวกมลายูที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมา เมื่อศาสนาอิสลามแพร่มาถึง ชาวจัมปาก็พากันถือศาสนาอิสลาม ได้พบจดหมายเหตุว่าในสมัยพระเจ้าทรงธรรม ได้มีราชทูตจัมปาเข้ามากรุงศรีอยุธยา

    พวกจามในระยะแรกๆนับถือศาสนาพราหมณ์เป็นส่วนใหญ่ ศาสนาพุธก็มี กษัตริย์บางองค์นับถือทั้งพราหมณ์ทั้งพุทธ อย่างพระเจ้าชัยอินทรวรมัน ที่ ๖ ขณะนี้มีพวกจามอยู่ในญวน เขมร และไทย แบ่งเป็นจามที่นับถือศาสนาพราหมณ์และอิสลาม จามที่อยู่ในเขมรและไทยถืออิสลามทั้งหมด เรียกว่า บานีจาม ซึ่งบานีเป็นภาษาอาหรับ แต่เรียกกันว่า แขกจาม ส่วนพวกจามในไทยเรียกกันว่า แขกครัว

    พวกจามเข้ามาเป็นทหารอาสาในประเทศไทยเมื่อใดไม่มีหลักฐานปรากฏชัด แต่สมัยต้นกรุงศรีอยุธยาก็มีกล่าวถึงพวกจามแล้ว ที่กรุงศรีอยุธยาตอนใต้วัดพุทไธสวรรค์ลงมาก็มีคลองคูจาม และมีแขกจามอยู่จนถึงวันนี้ ในพงศาวดารตอนที่สมเด็จพระนเรศวรยาตรทัพไปทรงทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา มีกล่าวไว้ว่า

    “พระราชวังสันขี่ช้างพลายมาเมือง ถือพลอาสาจามห้าร้อย” แสดงว่าอาสาจามมีมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวรแล้ว กฎหมายศักดินาซึ่งมีมาก่อนหน้านั้น ก็มักกล่าวถึงตำแหน่งในกรมอาสาจามไว้หลายตำแหน่ง ทั้งในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชก็มี เจ้าจาม พร้อมด้วยข้าราชบริพารอพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร

    ในบรรดาศักดิ์ของกรมอาสาจามที่ปรากฏอยู่ในกฎหมายศักดินา มีหลายชื่อที่สำเนียงเป็นภาษามลายู เช่น วิสุทรายา ศรีมหาราชา ที่เป็นชื่อมลายูโดยตรงก็มี เช่น ราชวังสัน แปลงมาจาก บังสวัน ตำแหน่งแม่ทัพเรือของมลายู พวกจามกับพวกมลายูจะรวมอยู่ในกรมเดียวกัน

    ในสมัยรัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ กล่าวถึงการส่งสมณทูตไปลังกาในปี พ.ศ.๒๓๕๒ ว่า “ลงเรืออาสาจามไปจากกรุงเทพฯ” ก็อาจตีความได้ว่า พวกจามกับมลายูอยู่ร่วมกัน เพราะชาวมลายูสันทัดในการเดินเรือ เนื่องจากมีดินแดนยื่นลงไปในทะเล

    ปัญหาข้อที่ถามว่า จะสรุปหรือวินิจฉัยคำว่า จาม ที่เข้าใจกันในสมัยกรุงศรีอยุธยา จะหมายถึงชาวอิสลามโดยทั่วไปได้หรือไม่นั้น ขอประทานเสนอว่าน่าจะสรุปความวินิจฉัยเช่นนั้นได้ เพราะปรากฏคำประกาศ “เรื่องชำระโต๊ะต่วนหะยีเป็นทหาร” ลงวันที่ ๓ ธันวาคม ร.ศ.๑๐๘ (พ.ศ.๒๔๓๒) มีกล่าวถึงแขกกรมอาสาจาม ย่อมเป็นคนถือศาสนามะหะหมัดแทบทั้งสิ้น และเมื่อแขกไพร่หลวงในกรมอาสาจามคนใดปรารถนาออกไปยังเมืองเมกกะ จึงได้โปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เจ้าพนักงานทำใบอนุญาตยอมให้ไปตามประสงค์ แต่เมื่อกลับมาถึงจะมีชื่อสมมติว่าเป็นโต๊ะต่วนหะยีประการใด ก็คงให้สังกัดขึ้นกับกรมอาสาจามตามเดิมต่อไป

    นายธนิตแจ้งว่า ขณะที่กำลังบันทึกเสนอนี้ได้ถวายปัญหาไปกราบทูลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระองค์ท่านโปรดประทานบันทึกมา จึงเสนอมาพร้อมกันนี้ หากข้อความตอนใดไม่ตรงกับบันทึกรับสั่ง โปรดถือตามบันทึกรับสั่งเป็นหลัก

    การตั้งปัญหาเรื่อง “อาสาจาม” ของรัฐบุรุษอาวุโสในครั้งนี้ ได้มีปราชญ์ทางประวัติศาสตร์ถึง ๒ ท่านเป็นผู้เฉลย ก็คงจะเป็นคำตอบเรื่องอาสาจามได้อย่างกระจ่างแจ้ง เป็นความรู้ความเข้าใจในเรื่ออาสาจามในประวัติศาสตร์ต่อไป

    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9610000024586
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    กำลังซื้อทรุดหนักในรอบ 10 ปี รายได้คงที่ แต่หนี้สูงขึ้น March 11, 2018 I

    %B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81.jpg

    แนวโน้มตลาดผู้บริโภคในปีนี้ ประเมินว่ายังคงเป็นปีที่ยากลำบากในการทำตลาด และคาดว่าอาจติดลบได้ถึง 1%

    ตลาดผู้บริโภคปี 2561 มีแนวโน้มติดลบต่อเนื่องถึง 1% หลังผู้บริโภครายได้คงที่ แต่หนี้ยังคงสูงอยู่ ถ้าลองดูเมื่อปีที่ผ่านมา ถือว่าตลาดตกต่ำสูงสุดรอบ 10 ปี เหลือมูลค่ากว่า 4.42 แสนล้านเท่านั้น โดยกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มโดนหนักสุด คือ ติดลบไป 2.4% เพราะคนพิจารณาตัดรายจ่ายได้ง่าย และเลือกกินของที่ถูกกว่าแทน

    ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาส่งผลกระทบทำให้สินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Products) หรือ FMCG (Fast Moving Consumer Goods) ตกต่ำมาโดยตลอด ล่าสุด บริษัท กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล (ไทยแลนด์)ฯ ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการวิจัยพฤติกรรมของผู้บริโภคเชิงลึก ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ได้ออกมาบอกว่า การเติบโตของกลุ่มสินค้าดังกล่าว ในปี 2560 ที่ลดต่ำลงมากที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ด้วยอัตราการเติบโตที่ติดลบ 0.4% มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 4.42แสนล้านบาท Fast Moving Consumer Goods

    ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออัตราการเติบโตของตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค คือ ภาวะเศรษฐกิจและความระมัดระวังในการใช้จ่ายเงินของผู้บริโภคทั้งประเทศ ขณะที่รายได้ของผู้บริโภคโดยส่วนใหญ่ไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น ตามภาวะเงินเฟ้อหรือค่าครองชีพที่สูงขึ้น สวนทางกับหนี้ครัวเรือนของภาคประชาชนที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    นายอิษณาติ วุฒิธนากุล ผู้อำนวยการด้านพัฒนาธุรกิจ บริษัท กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยถึงผลการศึกษาชุด “สรุปภาพรวมตลาด FMCG ในปี 2560และแนวโน้มปี 2561-2562 พร้อปัจจัยที่กระทบต่อการเติบโตและการปรับกลยุทธ์” พบว่าภาพรวมของตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค ได้ลดลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2557 ที่มีอัตราการเติบโต 2.6% ปี 2558 มีอัตราการเติบโต 2.2% ปี 2559 มีอัตราการเติบโต 1.7% และในปี 2560 ติดลบ 0.4% ดังกล่าว นับว่าเป็นอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่ที่ได้เกิดวิกฤติด้านการเงินในปี 2550 เป็นต้นมา จากที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่าหากสถานการณ์เลวร้าย สินค้าคอนซูเมอร์จะติดลบเพียง 0.1% เท่านั้น

    จากสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อในรอบปีที่ผ่านมายังไม่ฟื้นตัวดีขึ้น ยังส่งผลกระทบให้พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย คือ ผู้บริโภคลด จำนวนครั้งในการออกไปซื้อสินค้า แม้ว่าผู้ประกอบการผู้ค้าปลีกจะออกแคมเปญโปรโมชันจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่สามารถกระตุ้นความถี่ในการซื้อสินค้าให้เพิ่มมากขึ้นได้ และผู้บริโภคยังมีพฤติกรรมชอบเปลี่ยนแหล่งช็อปปิ้งไปเรื่อย ๆ เพื่อแสวงหาสินค้าและโปรโมชันที่มีความคุ้มค่าและประหยัดเงินมากที่สุด แหล่งอ้างอิง ฐานเศรษฐกิจ Share this:

    Read more at: https://investing-street.com/2018/03/11/กำลังซื้อทรุดหนักในรอบ-1/
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ฝากถึงข้าราชการ : ข้าราชการผู้ปฏิบัติหน้าที่ "จะอ้างว่าไม่รู้กฎหมาย-ละเลยการปฏิบัติหน้าที่" ไม่ได้!!

    STtM9b.jpg

    การเป็นข้าราชการ ก็เสมือนเป็นนักกฎหมายไปในตัว เพราะตั้งแต่บรรจุแต่งตั้งเข้ามา ก็แต่งตั้งตามกฎหมาย มีอำนาจหน้าที่ ก็ตามกฎหมายบัญญัติ ให้ได้รับเงินเดือนก็ตามกฎหมายกำหนด หากจะอ้างว่า "ไม่รู้...ไม่เคยทำ...ทำไม่เป็น...ฯลฯ" ย่อมเอามาเป็นข้ออ้างไม่ได้ ดังนั้น ผู้มีอำนาจหน้าที่ ถ้าไม่รู้ ก็ต้องขวนขวายศึกษาให้รู้ งานในหน้าที่ต้องเชี่ยวชาญ ให้คุ้มกับเงินภาษีประชาชนที่เขาจ่ายให้เราทำงาน

    ฝากให้กับข้าราชการหรือท่านผู้มีอำนาจหน้าที่ใด ๆ ตามที่กฎหมายกำหนดทุกท่านนะครับ

    มติ ครม เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2497
    สำเนาหนังสือกรมสารบรรณคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ที่ นว. 89/2497 ลว. 1 เม.ย. 2497
    https://www.mediafire.com/view/ffqa9eugllasf63/IMG_20180310_103045_740.jpg

    STT45z.jpg

    http://www.thailocalmeet.com/index.php/topic,65739.0.html
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สุดเจ๋ง…เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าจากการไหลของน้ำในแม่น้ำ เป็นขุมพลังงานไฟฟ้าแห่งใหม่
    โดย admin -มีนาคม 12, 2018

    Untitled-1-48-696x365.jpg
    ในรัฐแห่งหนึ่งของ ประเทศเยอรมนี ที่มีชื่อว่า “บาวาเรีย” เป็นรัฐที่มีอาณาเขตใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนีอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีประชากรราวๆ 12.5 ล้านคน หารู้หรือไม่ในปัจจุบันพลังงานที่ถูกใช้สอยในรัฐแห่งกว่า 30 % เป็นพลังงานสะอาดจากพลังงานหมุนเวียนซึ่งพลังงานหลักที่ขับเคลื่อนพลังงานอาณาเขตแห่งนี้ส่วนใหญ่คือกำเนินมาจากพลังน้ำ

    ในปัจจุบัน นักวิจัยของบริษัท Fraunhofe กำลังพัฒนาพลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรกว่าต่อสิ่งเเวดล้อม ทั้งนี้กลุ่มนักวิจัยกลุ่มดังกล่าวกำลังพัฒนาอุปกรณ์สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าในแม่น้ำขนาดเล็กให้กลายเป็นขุมพลังงานไฟฟ้าแห่งใหม่ของชาวบาวาเรียภายใต้นโยบายพลังงานที่เคร่งคัด รัฐบาวาเรีย ตั้งเป้าหมายที่จะใช้พลังงานกว่าครึ่งของความต้องการในรัฐแห่งนี้ด้วยพลังงานหมุนเวียนตามท้องถิ่นนั้น

    2-2-300x127.jpg
    การสูบน้ำโดยท่อ Venturi
    เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่จะถูกติดตั้งตามแม่น้ำสายเล็ก ๆ หรือลำธารขนาวจิ๋วจะใช้เเผ่นอีลาสโตเมอร์ที่บางเเละยืดหยุ่นได้สูงเป็นตัวเก็บประจุไฟฟ้า เครื่องนี้จะถูกติดตั้งไว้ในแม่น้ำขนาดเล็กซึ่งเจ้าเครื่องมือตัวนี้จะเปลี่ยนพลังงานจลน์จากกระแสน้ำให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า กระแสน้ำจะเป็นตัวแปรสำคัญในการทำให้แผ่นฟิล์มที่บางขยับและกระแสไฟฟ้าจะถูกผลิต ศาสตราจารย์ Bernhard Brunner

    ผู้บริหารโครงการและนักวิทยาศาสตร์ของบริษัท Fraunhofer ISC อธิบายแนวคิดการพัฒนาเครื่องกำเนินไฟฟ้าตัวนี้สั้นๆ ว่า “การที่น้ำไหลผ่านท่อที่มีเล็กทำให้แรงดันอากาศต่ำลง แนวคิดนี้เรียกอีกอย่างว่า Venturi effect ซึ่งทำให้แผ่นฟิล์มอีลาสติกเล็กลงจากนั้นช่องลมก็เปิดขึ้นให้สัมพันธ์กับแรงดันอากาศที่ลดลง”

    3-2.jpg
    แผนที่รัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี
    หัวใจสำคัญในการพัฒนาเครื่องกำเนินไฟฟ้าตัวนี้คือความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนเส้นผ่าศูนย์กลางของแผ่นฟิล์มทำให้นักวิจัยสามารถปรับแรงดันได้ตามต้องการดังนั้นเครื่องผลิตไฟฟ้าสามารถปรับไปตามความแรงของกระแสน้ำได้ และส่วนท่อซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ไปตามความกว้างและความลึกของน้ำทำให้สามารถวางเจ้าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าได้ทุกที่ตามความต้องการ

    และสุดท้ายนี้ศาสตราจารย์ Bernhard Brunner ทิ้งท้ายว่า “ข้อดีของแนวคิดนี้คือมันยืดหยุ่นได้และสามารถใช้ได้ทุกความลึกอีกทั้งยังสามารถควบคุมพลังงานน้ำได้อีกด้วย” ที่รัฐบาวาเรียแห่งนี้ มีแม่น้ำลำธารขนาดเล็กที่ปกคลุมรอบบริเวณรัฐแห่งนี้กว่า 30,000 กิโลเมตร ซึ่งสามารถแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานได้อย่างต่ำราว ๆ 876 เมกะวัตต์ชั่วโมง

    1-2.jpg

    http://ev-time.net/2018/03/12/สุดเจ๋ง-เครื่องผลิตกระ/
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    326128.jpg
    เกินครึ่งประเทศ! ปปท.แฉพบทุจริตงบฯ 'คนไร้ที่พึ่ง' แล้ว 44 จังหวัด 97 ล้าน
    วันจันทร์ ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561, 14.22 น.

    นอกจากนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังตรวจสอบพบความผิดปกติอีก 20 จังหวัด ประกอบด้วย มหาสารคาม ลำพูน นครราชสีมา อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี นครพนม กาฬสินธุ์ พิจิตร ราชบุรี มุกดาหาร ลำปาง เชียงราย แม่ฮ่องสอน ตาก อุทัยธานี สตูล ลพบุรี หนองบัวลำภู นครปฐม

    “สรุปเวลานี้เราตรวจสอบพบความผิดปกติ จำนวน 44 จังหวัด งบ 97,842,000 บาท คิดเป็นประมาณ 80% ของงบประมาณศูนย์ โดยคณะกรรมการ ป.ป.ท. ได้รับไว้ไต่สวนข้อเท็จจริง จำนวน 7 จังหวัด ประกอบด้วย ขอนแก่น เชียงใหม่ บึงกาฬ หนองคาย สุราษฎร์ธานี ตราด น่าน อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ท. รับไว้ไต่สวนข้อเท็จจริง อีก 37 จังหวัด ประกอบด้วย สระแก้ว อุดรธานี สระบุรี อยุธยา กระบี่ ตรัง ร้อยเอ็ด ยะลา พัทลุง ชุมพร สุรินทร์ อ่างทอง พิษณุโลก ชัยภูมิ มหาสารคาม ลำพูน นครราชสีมา อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี นครพนม กาฬสินธุ์ พิจิตร ราชบุรี มุกดาหาร ลำปาง เชียงราย แม่ฮ่องสอน ตาก อุทัยธานี สตูล ลพบุรี หนองบัวลำภู บุรีรัมย์ สงขลา นราธิวาส นครปฐม นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอีก 32 จังหวัด งบประมาณ 25,317,000 บาท คิดเป็นประมาณ 20% ของงบประมาณศูนย์”

    พ.ต.ท.วันนพ กล่าวต่อว่า สำหรับพฤติการณ์ทุจริตที่มีการตรวจสอบพบ ประกอบด้วย 1.มีการปลอมเอกสารทั้งหมด โดยผู้มีรายชื่อไม่ได้รับเงินเลย 2.ปลอมเอกสารบางส่วน ผู้มีรายชื่อไม่ได้รับเงินเลยหรือได้รับแค่บางส่วน 3.ผู้ได้รับเงินเป็นผู้ไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับเงินสงเคราะห์ 4.มีการนำเงินมาให้ผู้มีรายชื่อในช่วงเวลาที่ทำการตรวจสอบ และมีการแจ้งให้ผู้มีรายชื่อว่าหากมีการตรวจสอบให้บอกว่าได้เงินเงินครบถ้วน ซึ่งได้มีการสอบถ้อยคำเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินคดีต่อไป

    ติดตามแนวหน้า
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    … “อเมริกาโจมตีธนาคารลัตเวียเป็นส่วนหนึ่งของสงครามการเงินกับรัสเซีย”

    ... “สงครามการเงินระหว่างอเมริกากับรัสเซีย” ( จริงๆจะเรียกว่าอเมริกาไปรังแกเขาฝ่ายเดียวมากกว่า ) นั้นตอนนี้มีตัวละครเล็กๆที่มาเกี่ยวข้องด้วย คือประเทศ “ลัตเวีย” ตอนนี้พวกเขาอีแร้งกับอียู โดยธนาคารกลางยุโรป ECB กำลังบีบรัฐบาลประเทศนี้ ให้บีบให้ธนาคาร ABLV ที่มีขนาดใหญ่อันดับสามของลัตเวียล้มละลาย โดยที่ไม่เดินตามหลักกฎหมายด้วย

    ... โดยหน้าฉากอ้างว่ามีสภาพคล่องทางการเงินที่ต่ำมาก แต่แท้จริงแล้วพวกเขารู้ว่าธนาคารดังกล่าวของลัตเวียไปมีเรื่องพัวพัน เกี่ยวพันคบค้าทางการเงินกับทางประเทศรัสเซียและเกาหลีเหนือ และเป็นสัญญาณว่าอเมริกากำลังเริ่มแผนเฟสที่สองของการบีบประเทศในอียูและอื่นๆที่ไม่เดินตามทางที่ตัวเองกำหนดไว้

    ... ในรายละเอียดนั้นแม้ว่าเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมาธนาคาร ABLV จะประกาศว่าเพิ่มเงินสำรองสำหรับการถอนอีกกว่า 1,700 ล้านดอลล่าร์แล้วก็ตาม ECB บริวารของอเมริกาก็ยังกดดันต่อว่าปัญหาของที่นี่คือปริมาณเงินไหลเวียนสำรองของธนาคารที่มีเพียงพอ และมีแน้วโน้มว่าจะล้มในอนาคต ECB ทำแบบนี้เหมือนเป็นการแทรกแซงและกลั่นแกล้งธนาคารนี้โดยตรง เพราะยิ่งจะทำให้คนแห่ถอนและเกิดแบ้งค์รัน หรือหุ้นธนาคารตกได้ ซึ่งเรื่องแบบนี้นานาชาติถือว่าเป็นการแทรกแซงทางการเงินของประเทศเล็กๆอย่างชัดเจน ( แต่ HRW หรือประเทศพิทักษ์สิทธ์ต่างๆ มองไม่ออก หรือว่า ไม่กล้าขัดใจออกนอกกรอบเจ้าของเงิน เจ้านาย ) เท่านั้นยังไม่พอหลังจากวิจารณ์แบบแทรกแซง ก็ตามมาด้วยการจับกุมตัวแทนประเทศลัตเวียในสภายุโรปหรืออียู แต่หลังจากนั้นก็ปล่อยตัวเขาไปในอีกสองวันถัดมา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก ที่ทาง EU ไปจับกุมคนใหญ่ระดับตัวแทนประเทศถึงสองวันโดยไร้แม้แต่ข้อกล่าวหาอย่างถูกกฏหมาย ( ประชาธิปไตยแบบจักรวรรดินิยมชายเดี่ยว )

    ... ขณะเดียวกันก็ทำเนียนเสมือนหวังดีโดยได้แนะนำให้คณะกรรมการทางการเงินที่ดูแลธนาคารของลัตเวียให้ควรจะประกาศพักการชำระหนี้จากธนาคาร ABLV ก่อนเพื่อว่าจะให้เวลาฟื้นตัวในการกลับมาสู่เสถียรภาพอีกครั้ง , พวกเขาทำงานกันเป็นทีม เพราะขั้นแรก ECB ประกาศว่าธนาคารลัตเวียมีปัญหาสภาพคล่องอย่างหนัก ควรจะยุบไป และไม่นาน 13 กุมภาพันธ์ 2018 ทางอเมริกาหัวหน้าแก๊งก็บอกว่า ธนาคารนี้มีความเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินให้กับฝ่ายรัสเซีย เพื่อหาความชอบธรรมในการปิดธนาคารที่พวกเขาคิดว่ายังคบค้ากับทางรัสเซีย หลังจากนั้นเองก็เกิดแบ้งค์รัน คนแห่ถอนเงินออกจากธนาคาร ABLV ทันที เป็นการแทรกแซงต่างประเทศทางการเงินอย่างชัดเจน ( เรื่องแบบนี้ นิติเรด เนติแดง วีแดงทีวี จะเข้าใจไหม ว่าเผด็จการมีมากกว่าแค่เผด็จการทหาร )

    ... ถ้าประเด็นแค่เรื่องการฟอกเงินนั้นทางธนาคารใหญ่ๆที่เป็นลูกน้องเฟด เช่น เจพีมอร์แกน HSBC หรือ Deutsche แบงค์ต่างก็โดนด้วย แต่กลับโดนตำหนิหรือลงโทษเพียงน้อยๆนิด ก็เพราะว่าพวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับรัสเซียอย่าง ABLV เป็นการสองมาตรฐานในการเลือกปฏิบัติของอเมริกาและ ECB

    .. ในปี 2012 นั้น อเมริกาและ ECB ก็รังควานการเงินและเล่น “สงครามการเงิน” กับรัสเซียที่มาฝากไว้กับธนาคารไซปรัสมากมาย และ ECB ก็สร้างข่าวเรื่องสถานะเงิน ทำให้คนแห่ถอนเงินออก เพราะสื่อหลักของพวกเขาก็ประโคมข่าวรับเจ้านาย แล้วขั้นต่อมาพวกเขาบีบให้ทางการไซปรัสออกมาตราการ Bail-in คือการเอาเงินฝากของผู้ฝากธนาคารมาช่วยเหลือสภาพคล่องของธนาคารโดยไม่ต้องกู้เงินจากภายนอก เพราะอเมริกาและ ECB รู้ว่ารัสเซียคือผู้ฝากรายใหญ่ และเบลอินนั้นผู้ฝากไม่สามารถถอนเงินออกไปได้มากตามที่ต้องการในช่วงเวลาหนึ่ง ทำให้ผู้ฝากเงินจากรัสเซีย เช่นบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่เดือดร้อน ต้องย้ายฐานการเงินไปที่ลัตเวียมาจนถึงปัจุบัน

    ... และเป็นการ “เชือดไก่ให้ลิงดู” ธนาคารอื่นๆ ของประเทศอื่นๆ จะได้ไม่กล้าคิดทำธุรกรรมกับฝ่ายรัสเซียอีก และนอกจากนั้นพวกเขายังจะขยายการปั่นป่วนธนาคารที่เกี่ยวข้องกับเอเชียกลาง ที่รู้กันว่าเป็นพันธมิตรกับฝ่าย “จีน” ในโครงการ “ทางสายไหมใหม่” อีกด้วย ( เป็นการสกัดการเงินของประเทศเหล่านั้นที่จะเอามาลงทุนร่วมกับจีนในการระบบรางรถไฟ หรือสาธารณูปโภคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ไปด้วย )

    ... จริงๆแล้ว เหตุการณ์วิกฤติการเงินต้มยำกุ้งของไทยเมื่อปี 2540 หรือปี 1997 นั้น นักการเงิน นักวิชาการไทย ควรจะกล้าออกมาสรุปและให้บทเรียนกับประชาชนไทยทราบว่า มันมีมากกว่าแค่การกู้เงินดอกเบี้ยราคาถูกระยะสั้นจากต่างประเทศที่พิมพ์เงินจากละอองอากาศในสายลม มาปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยแพงในระยะยาวในไทยเหมือนปล่อยน้ำลงนาไทยจนท่วมและไร่นาเสียหาย จนเกิดฟองสบู่ แต่แท้จริงมันคือแผนการระยะยาวที่ออกแบบวางออกมาเป็นระบบของพวกนักล่าอาณานิคมสมัยใหม่ ที่ทำมาหลายที่แล้ว จักรวรรดินิยมยังไม่หายไปไหน มันยังฝังยีนไวรัสร้ายอยู่ในองค์กรต่างๆของโลกและไส้ศึกบริวารในประเทศเล็กน้อยต่างๆทั่วโลก เพื่อจะบีบให้กู้เงินโดย “การล่าและยึดเอารัฐวิสาหกิจประเทศ” เป้าหมายที่ทำเงินดีๆในประเทศนั้นมาแลก โดนการแก้กฎหมายก่อนการกู้เงินไอเอ็มเอฟ และรู้กันดีว่า รัฐวิสาหกิจนั้นๆ มีที่ดินและทรัพย์สินมากมายในประเทศนั้นๆ เช่น ปตท. มีที่ดินและทรัพย์สินมากมายในไทย มันคือการล่าอาณานิคมและปล้นชาติต่างๆทั่วโลกสมัยใหม่อย่างชัดเจน โดยแค่ผ่านทางตัวละครอย่างสถาบันการเงินที่เชื่อมต่อท่อกันทางการเงินเสรี ตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร ตลาดโภคพันธ์ และมากมาย ที่คนในประเทศนั้นก็ไม่รู้ตัว ว่าประเทศตัวเองนั้นถูกงูเหลือมปีศาจสีดำอำมหิตแห่งมหาอำนาจกำลังกลืนกินไปแล้วกว่าครึ่งค่อนตัวของประเทศแล้ว

    .

    .
    . https://russia-insider.com/en/washi...an-bank-part-its-financial-war-russia/ri22713

    .

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ... "ทฤษฎีสมคบคิด แผนการ Northwood, ที่กลายเป็นจริง"

    ... หนึ่งในนั้น ข้อที่ 7, บอกว่า ในปี 1962, "ปฏิบัติการ Northwood" หน่วยราชการลับของอเมริกา วางแผนจะจี้เครื่องบิน ระเบิดเรืออเมริกา และทำลายเมืองต่างๆในอเมริกาแล้วสร้างหลักฐานขึ้นมาโยนบาปและสร้างคิวบาให้เป็นแพะเพื่อจะหาประโยชน์จากกระแสโกรธแบบขาดสติจากประชาชนอเมริกาที่ลูกหลอกและขาดการยั้งคิดและสุดท้ายจะสนับสนุนพวกเขาส่งทหารไปโจมตีคิวบา แต่สุดท้ายปฏิบัติการนี้ถูกปฏิเสธเหยียบเบรคหัวทิ่มโดยประธานาธิบดีเจเอฟเค พวกเขาจึงไม่พอใจเจเอฟเค ( พวกเขาไม่พอใจเจเอฟเคในหลายเรื่อง จนสุดท้ายถูกลอบยิงเสียชีวิต ) และเรื่องนี้ก็ถูกปิดบังจากการรับรู้ของชาวอเมริกันและชาวโลกมากกว่า 40 ปี เพิ่งจะมารื้อฟื้นและเปิดเผยไม่นาน จนทำให้คนอเมริกันโกรธและไม่พอใจอย่างมาก

    ... บทละครทำลายตัวเองของ "ปฏิบัติการ Northwood" นี้เหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในปี 2001 มาก ที่มีการอ้างว่าผู้ก่อการร้ายจี้เครื่องบินแล้วบังคับชนตึกแฝดจนระเบิด ( ตอนนั้นโบอิ้งที่ผลิตทั้งเครื่องบืนโดยสารพานิชย์และเครื่องบินรบ มีเทคโนโลยีในการบังคับเครื่องบินแบบไร้คนขับผ่านดาวเทียมแบบโดรนในปัจจุบันแล้ว แต่รู้จักกันในวงแคบ ) ทุกอย่างเหมือนมาก ประหนึ่งว่าแผน Northwood ที่ถูกเขียนบทเนียนกริ้บแบบฮอลลีวู้ดในปี 1962 ถูกเอามาใช้สร้างจริงในปี 2001

    ... การแสดงของตัวผู้เล่นที่ออกมาตามเวทีละครแห่งสื่อกระแสหลักนั้นเหมือนกันมาก จะต่างกันก็แค่ช่วงสงครามเย็น อเมริกาสร้าง "คอมมิวนิสต์" เป็นผีร้ายตัวโกงที่หลอกหลอนให้คนกลัวไปทั่วโลก แต่มาหลังจากกำแพงเบอร์ลินแตกสงครามเย็นจบลงรูดม่านปิดฉาก คอมมิวนิสต์ตกกระป๋องกลิ้งลงคลองข้างทาง อีแร้งจึงต้องสร้างตัวละครใหมให้่โหดแสสกว่าเดิม เป็นทหารรับจ้างที่เรียกตามสื่อกระแสหลักว่าตามท้องเรื่องลิเกโรงนี้ว่า "ผู้ก่อการร้าย" ที่บ้าคลั่งแล้วอ้างอิงโยนบาปไปให้ศาสนาที่ดีงามว่าเป็นตัวร้าย จริงๆแล้วพวกเขาต้องการจะกำจัดทุกศาสนาและทุกแนวคิดที่ขัดขวางหรือไม่เดินตามก้นดมตรูดทุนนิยมสุดโต่งปีศาจกิเลศฝังในวิญญานและสมองอย่างเขา ( จีน บอกโลกเรามานานแล้วระบบที่สมดุลคือระบบลูกครึ่งระหว่าง สังคมนิยม แต่งงานกับทุนนิยม จนจีนยิ่งใหญ่แบบปัจจุบัน ไม่ต้องเลือกตั้งให้เมื่อยตุ้ม ... แต่ก็ต้องมีระบบการคานอำนาจและตรวจสอบได้ เพื่อจะได้มั่นใจว่ามาทำเพื่อส่วนรวมจริงๆ )

    ... ยังมีอีกหลายๆเรื่องที่คนเราชาวโลกควรเรียนรู้จากอดีต เพื่อจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันจากการถูกมหาอำนาจสร้างละครมาหลอกให้เราทะเลาะกันเอง หรือเป็นเครื่องมือของเขาในการทำลายฝ่ายตรงข้าม แบบที่เราอาจจะเป็นคนร่วมสร้างบาปแบบไม่รู้ตัวได้

    .

    .
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    เมื่อลูกสมุนถูกถล่มหนักและกำลังแพ้ยับ บรรดาลูกพี่โจรก็ดิ้นกันใหญ่... สหรัฐขู่หากยูเอ็นไม่ผ่านร่างมติของสหรัฐให้หยุดยิง 30 วันในกูตาตะวันออก สหรัฐจะจัดการด้วยตัวเอง กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียหั่นกูตาตะวันออกเป็นสามชิ้นตัดการเชื่อมต่อและท่อน้ำเลี้ยงของพวกกบฏและขบวนการก่อการร้าย
    FB_IMG_1520947799456.jpg FB_IMG_1520947811772.jpg FB_IMG_1520947815400.jpg FB_IMG_1520947820689.jpg FB_IMG_1520947823731.jpg FB_IMG_1520947833556.jpg
    ----------

    วันที่ 12 มี.ค. 61 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "กรุงมอสโคแฉพวกผู้ก่อการร้ายอัลนุสราฟร้อนท์ (อัลเคด้า) ใช้อาวุธเคมีโจมตี สหรัฐเตือนพร้อมจะดำเนินการเองในซีเรีย" (Moscow Exposes Nusra's Chemical Attack as US Warns It's Ready to Act in Syria) [ให้ไว! ทหารรัสเซียและซีเรียเตรียมจัดมื้อใหญ่รออยู่นะครับ กล้าจริงหรือเปล่า? - ผู้แปล]

    สหรัฐได้เสนอร่างมติฉบับใหม่เกี่ยวกับซีเรียต่อยูเอ็นเมื่อวันจันทร์นี้ โดยเรียกร้องให้มีการหยุดยิง (หยุดปราบปรามขบวนการก่อการร้าย) เป็นเวลา 30 วัน ในเขตกูตาตะวันออก (East Ghouta) ชานเมืองกรุงดามัสกัส ซึ่งเป็นเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งเดือน หลังจากที่ตณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติผ่านร่างมติหยุดยิงทั่วประเทศซีเรียฉบับก่อนหน้านี้อย่างเป็นเอกฉันท์

    "เราได้ร่าง ร่างมติหยุดยิงฉบับใหม่ขึ้นมา ซึ่งจะไม่มีที่เหลือให้หลีกเลี่ยงได้" นางนิกกี้ เฮลี่ย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเอ็นกล่าว ในการอ้างถึงปฏิบัติการของกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียต่อกลุ่มก่อการร้ายในกูตาตะวันออก ซึ่งยังคงระดมการโจมตีใส่กรุงดามัสกัสอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะอยู่ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงก็ตาม

    "มันเป็นเรื่องง่ายๆ ก็แค่ตรงไปตรงมาและรักษาสัญญา (straightforward and binding) มันจะมีผลในทันที ซึ่งขึ้นอยู่กับการยอมรับร่างมติโดยสภาแห่งนี้ มันไม่มีการต่อต้านขบวนการก่อการร้าย ซึ่งก็วนกลับไปที่อัสซาด อิหร่าน และพวกรัสเซียที่หลบซ่อนอยู่เบื้องหลัง" หล่อนเน้นย้ำในขณะที่นำเสนอร่างมติฉบับใหม่ โดยกล่าวอีกว่า ฉบับก่อนหน้านี้ "ล้มเหลว"

    [เป็นไงหละ วาทกรรมของหล่อน ยัยนี่แสบมาก! เก่งเรื่องการประดิษฐ์ประดอยคำพูดให้ตัวเองดูดีและใส่ร้ายคนอื่น การสร้างตรรกวิบัติ การพูดแบบกลับดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ ถือว่าเป็นงานถนัดของหล่อน และการทูตแบบอเมริกันในยุคปัจจุบันนี้

    ช่วงเดือนกุมภาพันธ์กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรตัดสินใจระดมพลจากหลายจุดทั่วไปประเทศเข้าปิดล้อมเขตกูตาตะวันออก ในกรุงดามัสกัส เนื่องจากบรรดากลุ่มก่อการร้ายและพวกกบฏลูกสมุนของสหรัฐและพรรคพวกยังคงระดมยินปืนใหญ่ ปืนครก จรวด เข้าใส่เขตที่อยู่อาศัยของประชาชนชาวซีเรียและโรงเรียนของเด็กๆ ในเขตยึดครองของฝ่ายรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง

    สหรัฐและพันธมิตรพยายามเป็นอย่างยิ่งในการสกัดแผนการนี้ของฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรโดยใช้ยูเอ็นเป็นเครื่องมือ และได้เสนอร่างมติให้มีการหยุดยิงจากทุกฝ่าย โดยอ้างว่าเพื่อจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปให้ประชาชนราว 400,000 คนในเขตยึดครองของแก๊งโจรกบฏซีเรียและกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งแน่นอนว่ามันคือการส่งเสบียงและกองหนุนไปให้พวกกบฏและกลุ่มก่อการร้ายนั่นเอง

    ทางรัสเซียและซีเรียก็เล่นตามน้ำแต่ใช้แผนซ้อนแผน โดยยอมยกมือรับร่างมติดังกล่าว (สหรัฐยิ้ม แหม… พวกรัสเซียนี่หลอกง่ายจังเลยน้อ) แต่จากนั้นปูตินก็ประกาศว่า จะอนุญาตให้มีการหยุดยิงได้เพียงแค่วันละ 5 ชั่วโมงเท่านั้น (จากช่วงสายไปถึงช่วงบ่าย) เพื่อปล่อยให้ขบวนรถขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ของยูเอ็นและกาชาดสากล (ของสหรัฐและพรรคพวก) เข้าไปในพื้นที่

    แต่มติฉบับนั้นก็ไม่ได้ครอบคลุมปฏิบัติการปราบปรามขบวนการก่อการร้าย ไม่คุ้มครองพวกขบวนการก่อการร้ายอัลนุสราฟรอนท์ในพื้นที่ ซึ่งร่วมมือกับพวกที่อ้างว่าเป็นกบฏฝ่ายค้านซีเรียที่สหรัฐและพันธมิตรสนับสนุน ดังนั้นปฏิบัติการปราบปรามขบวนการก่อการร้ายทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศทั้งในกูตาตะวันออกและพื้นที่อื่นๆเช่นที่อิดลิบ หรือที่อาฟริน (ตุรกีซัดกับเคิร์ดสมุนของสหรัฐ) ก็ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ในทางปฏิบัติ คอนวอยของยูเอ็นจึงไม่กล้าเข้าไป คงจะกลัวโดนลูกหลง (เข้าไปดิ เราหยุดยิงให้แล้วนะครับ ตูมๆๆ... เข้าไปสิ รออัลไรอยู่หรือยูเอ็นจ๋า? ตูมๆๆ หยุดแล้วนะนี่ ฮ่าๆๆ)

    สหรัฐเพิ่งจะรู้ตัวว่า "อัยย๊ะ! ตรูถูกปูติน อัสซาด และอิหร่าน ซ้อนแผนอีกแล้วหรือนี่?" มีรายงานข่าวในพื้นที่เปิดเผยอีกว่า หัวหน้าระดับสูงของกลุ่มก่อการร้ายบางกลุ่มถูกสังหาร และผู้กำกับการถ่ายหนังของแก๊งหมวกกันน็อกขาวจอมจัดฉากถ่ายคลิปลวงโลกก็ถูกเก็บด้วย นี่อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่กบฏติดอาวุธบางกลุ่ม หรืออาจจะเป็นกลุ่มก่อการร้ายในคราบกบฏซีเรีย ยอมแพ้ให้กับฝ่ายรัฐบาลซีเรียก็ได้

    ส่วนนาย Vasily Nebenzya เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติกล่าวตอบโต้นางเฮลี่ย์ว่า "กรุงดามัสกัสมีสิทธิ์ทุกอย่างที่จะพยายามและกำจัดภัยคุกคามใดๆที่มีต่อความปลอดภัยของพลเมืองของตนเอง" โดยอ้างถึงพวกผู้ก่อการร้ายที่แฝงตัวอยู่ข้างในเขตกูตาตะวันออก ว่าเป็น "แหล่งเพาะพันธุ์ขบวนการก่อการร้าย"

    นอกจากนี้ทูตสหรัฐยังได้เดินหน้าโจมตีรัฐบาลซีเซียด้วยการกล่าวหาว่าฝ่ายรัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีต่อพลเรือนด้วย (แต่ไม่มีหลักฐาน) รัสเซียได้เตือนสหรัฐและยูเอ็นหลายรอบแล้วว่า ให้ระวังพวกผู้ก่อการร้ายในกูตาตะวันออกจะใช้อาวุธเคมีกับพลเรือนเพื่อสร้างสถานการณ์ขึ้นมาอีกรอบ แต่เพนตากอนบอกว่า ไม่มีหลักฐานว่าพวกกบฏและผู้ก่อการร้ายใช้อาวุธเคมี ล่าสุดรัสเซียก็ออกมาเตือนแบบนี้อีก กลาโหมสหรัฐก็เล่นมุกนี้กลับบ้างว่า สหรัฐขอเตือนรัฐบาลอัสซาดว่าอย่าใช้อาวุธเคมีกับพลเรือนในซีเรีย แต่ล่าสุดกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและรัสเซียประกาศว่า พบหลักฐานอาวุธเคมี (สารเคมี) หลายตัน ในพื้นที่ยึดครองของพวกกบฏและผู้ก่อการร้ายในเขตกูตาตะวันออก ที่กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียเพิ่งจะยึดพื้นที่คืนมาได้เมื่อเร็วๆนี้ (อันนี้แปลโดยสรุปนะครับ เนื้อหาเยอะมาก)

    สถานการณ์ภายในกูตานั้น สื่อท้องถิ่นรายงานพร้อมแสดงคลิปประกอบว่า พวกกบฏฝ่ายค้านซีเรียระดมยิงอาวุธปืนใส่ประชาชนชาวซีเรียที่พากันออกมาเดินขบวนประท้วงต่อต้าน และแสดงท่าทีสนับสนุนกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรีย

    ส่วนพวกกบฏและกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับบาดเจ็บ ยอมเจรจากับฝ่ายรัฐบาลซีเรีย ซึ่งรัสเซียประกาศให้เวลา 48 ชั่วโมงเพื่อมอบตัว ถ้าพวกมันไม่ยอมแพ้ ก็ตายสถานเดียว! จึงยอมมอบตัวเพื่อแลกเปลี่ยนกับการอพยพไปอยู่ที่อื่น (ที่อิดลิบ รังใหญ่แห่งสุดท้ายของพวกมัน) แน่นอนว่า ศึกที่อิดลิบเองก็ยังคงดุเดือดไม่แพ้ที่กูตาตะวันออก เครื่องบินรบของรัสเซียถล่มพวกมันทุกวัน (เพื่อเอาใจยูเอ็นและทำให้ดูเหมือนว่ารัสเซียและฝายรัฐบาลซีเรียยินดีปฏิบัติตามข้อตกลงของฝ่ายค้านเพื่อแลกับการได้พื้นที่คืนมา และให้พวกมันปล่อยตัวชาวบ้านที่ถูกจับเป็นตัวประกันออกมาด้วย)

    และคาดว่าเมื่อส่งพวกโจรเหล่านี้ไปถึงอิดลิบแล้ว รัสเซียก็จะส่งเครื่องบินรบตามไปเก็บพวกมันทีหลังหรือในทันที เพราะว่าในทางปฏิบัตินั้น รัสเซียส่งโดรนสอดแนมติดตามขบวนรถของพวกนี้โดยไม่ให้คลาดสายตาอยู่แล้ว และดูว่าเมื่อพวกนี้ลงจากรถแล้ว พวกมันไปหลบอยู่ที่ไหนบ้าง จากนั้นก็ "จัดการ!" แผนซ้อนแผนแบบง่ายๆ - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    13/03/2561
    ----------
    https://www.rt.com/news/421074-russian-envoy-un-ghouta/
    https://sputniknews.com/middleeast/201803121062448936-haley-syria-un-resolution-nusra/
    https://www.almasdarnews.com/articl...-open-fire-on-civilians-one-protestor-killed/
    https://www.almasdarnews.com/articl...ghborhood-in-south-damascus-attacked-by-isis/
    https://www.almasdarnews.com/article/breaking-ghouta-militants-to-evacuate-wounded-as-per-agreement/
    https://www.almasdarnews.com/articl...t-held-east-ghouta-into-3-pockets-map-update/
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ปิรันย่า-ที จิ๋วแต่โหด หนึ่งในสุดยอดเรือดำน้ำโจมตี ลาดตระเวน ส่งหน่วยปฏิบัติพิเศษลุยภารกิจลับนอกพื้นที่ อีกหนึ่งเขี้ยวเล็บทัพเรือจากค่ายรัสเซีย

    FB_IMG_1520948151850.jpg FB_IMG_1520948157215.jpg FB_IMG_1520948161442.jpg FB_IMG_1520948172270.jpg FB_IMG_1520948175851.jpg FB_IMG_1520948180138.jpg FB_IMG_1520948189752.jpg FB_IMG_1520948195278.jpg FB_IMG_1520948198334.jpg

    ----------

    วันนี้ช่วงตระเวนข่าวต่างประเทศ ไปสะดุดข่าวหนึ่งเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของรัสเซียแถวตะวันออกกลางจากสื่อออนไลน์สายทหาร (Defense World) ซึ่งรายงานข่าวเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2561 ว่า บริษัท Rosoboronexport ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ส่งออกอาวุธของรัสเซียได้นำเสนอ เรือดำน้ำมินิ Piranya-T (ดีเซล-ไฟฟ้า) สำหรับปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนชายฝั่ง และเรือดำน้ำ Amur Class (ดีเซล-ไฟฟ้า) (Project 865) ที่มีขนาดใหญ่กว่า (แต่เล็กกว่ากิโลคลาส) ในงานแสดงอาวุธยุทธปกรณ์ทางน้ำ DIMDEX 2018 (สำหรับ ทร.โดยตรง) ที่ประเทศกาตาร์ (ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 มีนาคมนี้)

    ในงานนี้ TASS รายงานว่ารัสเซียได้นำเอาอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวน 200 กว่ารายการไปแสดง ซึ่งรวมทั้ง Project 636 (Kilo-class submarine) และ เจ้า Amur-1650 (Project 677 หรือ Lada class) ที่ทันสมัยด้วย

    ประเด็นที่ต้องการจะนำเสนอในโพสต์นี้ก็คือเจ้าเรือดำน้ำ "Piranya-T" (ปิรันย่า-ที) ตัวนี้ (พัฒนามาจาก Piranya ยุคสงครามโลกครั้งที่สอง สมัยนั้นโซเวียตตั้งใจจะผลิตจำนวน 6 ลำ แต่ผลิตได้เพียง 2 ลำ) ปี 2013 สื่อรัฐบาลรัสเซียรายงานว่า รัสเซียได้นำเจ้าปิรันย่าจิ๋วมาปัดฝุ่นและอัพเกรดอีกครั้ง

    เดือนมิถุนายน 2016 Sputnik รายงานว่า บริษัท UIMC ของรัสเซียจะนำเสนอเรือรบและเรือดำน้ำ Piranha-T ซึ่งใช้ในทะเลแคสเปี้ยน ในงานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ KADEX-2016

    จุดประสงค์หลักของเรือดำน้ำรุ่นนี้ (Piranha-T) เพื่อป้องกันแนวหน้าตามแนวชายฝั่ง โดยการลาดตระเวน ทำลายเรือผิวน้ำลำเดียวหรือเรือพาณิชย์ทั่วไป ส่งกำลังพลขนาดเล็กสำหรับปฏิบัติการพิเศษขึ้นบกและคุ้มกันหน่วยคอมมานโด ลอบวางทุ่นระเบิด ปฏิบัติการสอดแนมในพื้นที่ที่ได้รับมอบหมาย และระบุพิกัด (ชี้เป้า) สำหรับการการโจมตีใส่กองทัพศัตรู ดักฟังการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิก อพยพผู้คนหรือสิ่งของที่มีค่ามีความสำคัญทางทะเลจากพื้นที่สู้รบในท้องถิ่น ทำลายเป้าหมายชายฝั่งของศัตรู ทั้งอยู่ใกล้และห่างไกลชายฝั่ง

    คุณลักษณะเบื้องต้นของ Piranha-T
    - ระวางขับน้ำ 245 ตัน
    - ยาว 30 เมตร
    - กว้าง (beam) 4.7 เมตร
    - กินน้ำลึก (draft) 3.9 เมตร
    - รอบปฏิบัติการ 20 วัน
    - ความเร็วสูงสุด 12 นอต
    - แบบประหยัด 4 นอต
    - ลูกเรือ 3-4 นาย
    - นักประดาน้ำสำหรับสู้รบ (หน่วยซีล) 6 นาย
    - ดำน้ำต่อเนื่อง 260 ไมล์ทะเล (481 กม.)
    - ระยะปฏิบัติการ 2,000 ไมล์ทะเล (3,704 กม.)
    - ดำน้ำลึกสุด 200 เมตร
    - เครื่องยนต์ดีเซล 1x160 Kw (ข้อมูลบางแห่งบอกว่า 2 เครื่อง)
    - มอเตอร์ขับเคลื่อน 1 x 250 kW
    - ตอร์ปิโดขนาด 533 มม. และมิสไซล์ 2 ลูก
    - ตอร์ปิโดขนาด 400 มม. 8 ลูก
    - ทุ่นระเบิด 4 ลูก

    ที่น่าสนใจก็คือมันสามารถยิงมิสไซล์จากเรือดำน้ำสำหรับโจมตีเป้าหมายภาคพื้น (บนบก) ได้ เหมือนกับที่เจ้า Kilo-class ของรัสเซียปล่อยมิสไซล์นำวิถีจากใต้น้ำถล่มพวกไอซิสที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตรในซีเรีย สำนักข่าว TASS ของรัฐบาลรัสเซียเปิดเผยว่า ในงานแสดงอาวุธที่กาตาร์ในครั้งนี้ รัสเซียได้นำขีปนาวุธนำวิถี Kalibr-PLE (Club-S) และ Kalibr-NKE (Club-N) ไปร่วมแสดงด้วย

    เจ้ากาลิเบอร์ (ตระกูลคลับ) นี่ก็ร้ายไม่ใช่ย่อย แสดงว่า Piranha-T อาจจะติดตั้งกาลิเบอร์สำหรับโจมตีเป้าหมายภาคพื้นด้วย น่าสนใจใช่ไหมหละครับ ใช้กำลังพลหรือลูกเรือแค่ 3-4 นาย เหมาะสำหรับภารกิจลับเช่นช่วยเหลือตัวประกันในต่างแดน หรือส่งหน่วยซีลไปเด็ดหัวพวกหัวหน้าโจรใต้ในต่างแดนแถวๆนี้ ยิ่งเล็ก ก็ยิ่งเงียบ และยิ่งอันตราย

    แหมะ… อยากให้ ทร.ไทยมีไว้ประจำการซัก 3 ลำเคียงคู่ 039A ซ่งคลาสจากจีนจังเลย ถ้าสั่งซื้อซัก 6 ลำ อาจจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีบางอย่าง และบางส่วนผลิตในประเทศไทยด้วยก็ได้นะ ถ้าผลิตเรือดำน้ำไม่ได้ ขอให้ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเจ้าขีปนาวุธกาลิเบอร์ก็ยังดี ใช้วิธีทำการค้าแบบจีนแล้วจะรุ่งและมั่นคง

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    13/03/2561
    ----------
    http://tass.com/defense/993547
    http://www.defenseworld.net/news/22..._Piranya_Mini_submarine_In_Qatar#.WqbyNYX9724
    http://www.aoosk.ru/en/products/piranha-t

    https://en.wikipedia.org/wiki/Losos-class_submarine
    http://gentleseas.blogspot.com/2014/10/suspected-russian-mini-submarine-in.html
    https://sputniknews.com/military/201606011040607338-pirahha-kadex-chernigovtsev-uimc/
    https://defence.pk/pdf/threads/midget-submarines.329960/
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    โฉมหน้าพวกปีศาจก่อการร้ายทั้ง 13 ตัว ยอมปลดอาวุธและมอบตัวหลังจากรบแพ้กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรนำโดยรัสเซียในเขตกูตาตะวันออก

    FB_IMG_1520948559398.jpg FB_IMG_1520948567774.jpg

    ----------

    วันที่ 10 มี.ค. 61 RT พาดหัวข่าวว่า "พวกผู้ก่อการร้ายกลุ่มแรกที่ยอมมอบตัวและอาวุธ และย้ายออกจากเขตกูตาตะวันออกหลังเจรจาสงบศึกโดยมีรัสเซียเป็นคนกลาง" (First group of militants surrender arms & leave East Ghouta after Russia-brokered talks)

    [ก็ประมาณว่า พวกเมิงจะไปเสพสุขกับแม่แพะพรหมจรรย์ในนรกหรือจะวางอาวุธและมอบตัวกับกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและรอการนิรโทษกรรมและย้ายไปอยู่ที่อื่น? เลือกเอา! ปรากฎว่า งานนี้บรรดาแก๊งผัวแพะทั้ง 13 ตัวซึ่งมีทั้งคนในพื้นที่และชาวต่างชาติ ไม่มีใครยอมตายเพื่ออุดมการณ์ลวงโลกซักราย - ผู้แปล]

    รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มก่อการร้ายกลุ่มแรกได้มอบอาวุธให้กับกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรีย และเดินทางออกจากเขตกูตาตะวันออก (East Ghouta) เนื่องจากมีพวกกบฏพยายามแยกตัวออกจากกลุ่มก่อการร้ายอัลนุสราฟรอนท์มากขึ้นเรื่อยๆ กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลง

    "บรรดากลุ่มติดอาวุธผิดกฎหมายหลายคนได้ขยายความพยายามในการติดต่อกับกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและศูนย์สร้างความปรองดองของรัสเซีย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อแยกตัวออกจากกลุ่มก่อการร้าย Jabhat al-Nusra (ซึ่งปัจจุบันใช้ชื่อว่า HTS)" พล.ต. Yury Yevtushenko ผบ.ศูนย์สร้างความปรองดองของรัสเซียในซีเรียกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

    ความพยายามที่จะแยกพวกฝ่ายค้านที่เรียกว่า "นักรบฝ่ายค้านสายกลาง" ออกจากกพวกจีฮาดิสต์ในเขตกูตาตะวันออก ชานเมืองของกรุงดามัสกัส ยังคงเดินเนินไปอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลซีเรียได้กำหนดเขตระเบียงให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งยังคงเปิดต้อนรับสำหรับทั้งฝ่ายพลเรือนและกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงซึ่งประสงค์ที่จะวางอาวุธของตนเองลง

    กลุ่มแรกประกอบด้วยสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงติดอาวุธจำนวน 13 คน ซึ่งใช้เส้นทางดังกล่าวเพื่อออกจากพื้นที่ควบคุมของพวกกบฏในกรุงดามัสกัสผ่านแนวระเบียง Muhayam al-Wafideen ในตอนกลางคืน กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียได้ถ่ายคลิปการดำเนินการในครั้งนี้เอาไว้ ตามรายงานข่าวแจ้งว่ากลุ่มหัวรุนแรงเหล่านี้จะถูกส่งตัวไปยังพื้นที่จังหวัดอิดลิบ ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลแห่งสุดท้ายที่ใหญ่ที่สุดของพวกผู้ก่อการร้ายในซีเรีย

    [สหรัฐและพันธมิตรมีความพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้าไปดูแลและให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆแก่กลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ ในนามของยูเอ็นและกาชาดสากล โดยอ้างว่าเพื่อส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปให้ประชาชนหลายแสนคนที่ติดอยู่ข้างในเขตกูตาตะวันออก ซึ่งถูกปิดล้อมจากทุกด้านโดยกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธมิตร

    ยูเอ็นไม่ประสงค์ที่จะนำประชาชนที่ติดอยู่ภายในออกจากพื้นที่ แต่เลือกที่จะส่งออกหารและอื่นๆเข้าไปแทน ซึ่งไม่มีอะไรเป็นเครื่องรับประกันได้เลยว่า อาหาร สิ่งของบรรเทาทุกข์เหล่านั้นจะตกไปถึงมือประชาชนพลเรือนหรือไม่ เนื่องจากการบริหารจัดการทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของกลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้าและกลุ่มอื่นๆ

    และหากยูเอ็นพยายามที่จะอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ตามแผนการที่ฝ่ายรัฐบาลซีเรียและรัสเซียเสนอและพยายามดำเนินการ พวกผู้ก่อการร้ายเหล่านั้นก็จะไม่มีข้ออ้างที่จะอยู่ในพื้นที่ต่อไป และจะไม่มีตัวประกันหรือโล่ห์มนุษย์สำหรับใช้เป็นเกราะป้องกันตนเอง และก็จะถูกกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและรัสเซียรุมกินโต๊ะได้ไม่ยาก สงครามก็จะจบเร็วขึ้น ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่สหรัฐและพันธมิตรและยูเอ็นต้องการ ไม่มีใครตรวจสอบได้เลยว่า ในรถบรรทุกของยูเอ็นและกาชาดเป็นสิบๆคันเหล่านั้น พวกเขาขนอะไรเข้าไปบ้าง - ผู้แปล]

    วันที่ 9 มี.ค. 61 The New York Times ของสหรัฐพาดหัวข่าวว่า "พวกสไนเปอร์คอยเหนี่ยวไกปิดกั้นการหลบหนีออกจากนรกในซีเรีย" (Snipers Slam Shut an Escape Hatch From a Syrian Hell)

    [มีบางคนตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่า เอ๋… NYT ลืมหรือตั้งใจที่จะไม่ใส่คำว่า "Rebel" (กบฏ) ในการหัวข่าวหรือเปล่า? ทำไมถึงไม่จั่วหัวไปอย่างชัดเจนเลยหละว่า "Rebel snipers…" - ผู้แปล]

    แต่ในย่อหน้าแรกของข่าวนี้ NYT กลับเขีนนไว้อย่างชัดเจนว่า "สไนเปอร์ฝ่ายกบฏ (Rebel snipers) กำลังขัดขวางพลเรือนชาวซีเรียไม่ให้ออกจากเขตกูตาตะวันออกที่ถูกปิดล้อม ผ่านระเบียงที่เปิดขึ้นในสัปดาห์นี้โดยรัฐบาล เพื่ออำนวยความสะดวกในการอพยพ เจ้าหน้าที่ยูเอ็นกล่าว"

    [วิธีการนี้ พวกมันเคยใช้มาแล้วในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะศึกใหญ่ที่จังหวัดอะเลปโปเมื่อปลายปีที่แล้ว พวกกบฏและผู้ก่อการร้ายจะไม่อนุญาตให้ประชาชนและพลเรือนอพยพออกจากพื้นที่ จะมีสไนเปอร์คอยซุ่มยิงผู้ที่พยายามหลบหนีออกจากนรก นั่นแหละผลงานของ "กบฏฝ่ายค้านสายกลางซีเรีย" ลูกสมุนของสหรัฐและพันธมิตร - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    12/03/2561
    ----------
    https://www.rt.com/news/420907-ghouta-militants-humanitarian-convoy/
    https://www.nytimes.com/2018/03/09/...s-evacuations-ghouta-syria.html?smid=tw-share

    http://tass.com/defense/993287
    http://tass.com/politics/993474
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    FB_IMG_1520948840315.jpg FB_IMG_1520948845559.jpg FB_IMG_1520948849701.jpg FB_IMG_1520948853459.jpg FB_IMG_1520948857325.jpg FB_IMG_1520948863619.jpg FB_IMG_1520948867961.jpg FB_IMG_1520948871888.jpg FB_IMG_1520948876086.jpg FB_IMG_1520948881713.jpg FB_IMG_1520948885867.jpg FB_IMG_1520948901288.jpg
    ข่าวดี… ศึกที่กูตาตะวันออก ลูกสมุนของสหรัฐและพันธมิตรแพ้แน่ ฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรนำโดยรัสเซียกำลังได้รับชัยชนะอย่างต่อเนื่อง สามารถผ่าตัดแยกกูตาออกเป็นสองส่วนได้แล้ว ประชาชนชาวซีเรียที่ติดอยู่ภายในเริ่มมีความหวัง พากันลุกฮือต่อต้านพวกกบฏฝ่ายค้านและกลุ่มก่อการร้าย ชูธงชาติของซีเรียแทนธงของพวกกบฏ ขึ้นโปสเตอร์ประธานาธิบดีอัสซาดขนาดใหญ่หน้าตึก กองทัพฝ่ายรัฐบาลสามารถชวยเหลือประชาชนอพยพออกจากพื้นที่อิทธิพลของกลุ่มก่อการร้ายชุดแรกได้ 50 กว่าคน หลังจากที่พวกกบฏและผู้ก่อการร้ายบางส่วนยอมแพ้และมอบตัวกับกองทัพซีเรีย กองทัพรัสเซียกดดันให้พวกกบฏแยกตัวออกจากขบวนการก่อการร้ายอัลนุสราฟรอนท์ (อัลเคด้า/HTS) ในกูตาตะวันออก ขบวนรถขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ของยูเอ็นที่จะส่งไปให้พวกหัวรุนแรงถูกสกัดเนื่องจากมีการสู้รบอย่างต่อเนื่อง เข้าไปช่วยลูกสมุนไม่ได้ (12 มี.ค.61)
    ----------
    https://www.rt.com/news/420990-ghouta-civilians-leave-corridor/
    https://sputniknews.com/middleeast/201803091062376132-east-ghouta-protests-militants-video/
    http://tass.com/politics/993474
    http://tass.com/defense/993287
    https://muraselon.com/en/2018/03/an...syrias-east-ghouta-in-support-of-syrian-army/
    https://www.rt.com/news/420927-four-civilians-killed-ghouta/

    https://www.almasdarnews.com/articl...ide-recently-captured-east-ghouta-town-video/
    https://www.almasdarnews.com/article/east-ghouta-region-nearly-split-into-three-pockets-map/
    https://www.almasdarnews.com/articl...-militants-possible-evacuation-to-take-place/
    https://www.almasdarnews.com/articl...y-troops-inside-of-captured-east-ghouta-town/
    https://www.almasdarnews.com/articl...ours-to-surrender-southern-damascus-district/
    http://www.presstv.com/Detail/2018/03/10/554998/Syria-Eastern-Ghouta
    https://www.almasdarnews.com/articl...monstration-takes-place-in-east-ghouta-video/
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    โลกร้อน: ชั้นดินเยือกแข็งอาร์กติกที่กำลังละลายอาจปล่อยปรอทปริมาณมหาศาลออกมา! By NGThai -March 5, 2018

    28754911_1674537802604130_1221319109_o-696x365.jpg
    เมื่อชั้นดินเยือกแข็งที่กำลังละลายปล่อยปรอทที่เก็บกักเอาไว้ออกมา บางส่วนจะเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร และบางส่วนจะเข้าสู่สัตว์ต่างๆ เช่นกวางคาริบูอะลาสกันเหล่านี้
    โลกร้อน: ชั้นดินเยือกแข็งอาร์กติกที่กำลังละลายอาจปล่อยปรอทมหาศาลออกมา!
    นักวิทยาศาสตร์เพิ่งพบแหล่งพิษธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ทวีปอาร์กติก และยังไม่แน่ชัดว่าจะเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารมากเพียงใดเมื่อ”โลกร้อน”ขึ้นเรื่อยๆ

    นักวิทยาศาสตร์ค้นพบภัยอีกอย่างหนึ่งที่ถูกฝังไว้ในน้ำแข็งทางเหนือ นั่นคือแหล่งเก็บกักปรอท ซึ่งเป็นโลหะหนักที่เป็นพิษ ขนาดมหึมา ซึ่งสามารถเข้าสู่ปลาและสัตว์อื่นๆ จนทำให้เกิดปัญหาใหญ่ต่อสุขภาพในมนุษย์ได้

    จากการวิจัยที่เพิ่งตีพิมพ์ใน Geophysical Research Letters เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2018 รายงานว่าปริมาณของปรอทธรรมชาติที่เคยอยู่ในชั้นดินเยือกแข็ง ซึ่งอาจมากกว่าที่มนุษย์ปล่อยสู่บรรยากาศจากการเผาถ่านหินและจากแหล่งมลพิษอื่นในรอบ 30 ปีที่ผ่านมาถึง 10 เท่า เมื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้แผ่นดินอุ่นขึ้น ชั้นดินเยือกแข็งหรือ permafrost ก็ละลายและอาจปล่อยปรอทปริมาณมหาศาลสู่สิ่งแวดล้อม ส่งผลให้เกิดมลพิษต่อชั้นบรรยากาศและห่วงโซ่อาหารออกมาอีกมาก

    “ก่อนหน้าที่งานวิจัยจะเริ่มขึ้น คนมักคิดว่าชั้นดินเยือกแข็งจะไม่มีปรอทเก็บกักอยู่เลย หรือถ้ามีก็น้อยมาก” เควิน แชเฟอร์ แห่งศูนย์ข้อมูลหิมะและน้ำแข็งแห่งชาติ มหาวิทยาลัยโคโลราโด ผู้ร่วมวิจัย “แต่มันกลับกลายเป็นว่า ไม่ใช่แค่ปรอทที่อยู่ในชั้นดินเยือกแข็ง แต่ยังเป็นแอ่งปรอทยักษ์ที่อยู่บนโลกเลยด้วย”

    เรื่องที่ยังไม่ชัดเจนก็คือปรอทปริมาณมากขนาดไหนและเมื่อใดที่จะถูกปล่อยออกมาในรูปแบบที่จะเป็นพิษกับมนุษย์



    พิษจากธรรมชาติ

    ปรอทมักพบตามธรรมชาติในสิ่งแวดล้อมและถูกปล่อยออกมาเมื่อเกิดไฟไหม้ป่า ภูเขาไฟระเบิด และการผุกร่อนของหิน แต่ปรอทในอากาศราว 2 ใน 3 มาจากการการปล่อยของมนุษย์ ส่วนใหญ่จากถ่านหิน ขยะทางการแพทย์ หรือการทำเหมืองบางประเภท ทันทีที่ปรอทแพร่สู่อากาศแล้ว ในที่สุดจะตกลงมาบนโลก แล้วลงเอยในแหล่งน้ำและผืนดิน เข้าสู่ร่างกายปลาและสัตว์ต่างๆ สะสมในปริมาณมากและเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารในที่สุด

    ปรอทเป็นพิษต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง และทำลายพัฒนาการของสมองในเด็ก ส่งผลต่อพัฒนาการทางสติปัญญา ความจำ ภาษา ตลอดจนการเคลื่อนไหวและการมองเห็น แม้แต่ในผู้ใหญ่ หากได้รับปรอทในปริมาณที่มากเกินไปก็จะหยุดการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ การพูด และการมองเห็นได้ ลดการเจริญพันธุ์และระบบภูมิคุ้มกัน และทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมักมีการเตือนห้ามบริโภคปลาจากแม่น้ำลำธารที่ปนเปื้อนปรอท และทำไมเด็กและหญิงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานปลาทูน่าหรือปลาอายุยืนเช่นปลากระโทงแทงดาบ

    ด้วยความซับซ้อนของกระบวนการของชั้นบรรยากาศและทะเล ปรอทปริมาณมากขึ้นต่างลงเอยในเขตละติจูดสูงทางตอนเหนือมากกว่าที่อื่นๆ และเป็นที่รู้กันดีว่ามันสะสมอยู่ในนก ปลา แมวน้ำ วอลลัส หมีขั้วโลก และวาฬ ต่อให้อยู่ไกลจากแหล่งมลพิษเป็นพันๆ ไมล์ก็ตาม ความที่มลพิษแพร่ไปได้กว้างไกลเช่นนี้ ทำให้ชนพื้นเมืองรอบอาร์กติกที่ต้องพึ่งพาอาหารจากการล่า ต่างก็มีระดับปรอทสูงสุดในเลือด

    กระแสลมและกระแสน้ำที่พาปรอทขึ้นไปทางตอนเหนือนี้พัดมานานเป็นหมื่นๆ ปีแล้ว และยังพัดพาปรอทเข้มข้นตามธรรมชาติไปทั่วอาร์กติก แต่เพราะปรอทเหล่านั้นถูกเก็บกักอยู่ในพื้นน้ำแข็งมานานเป็นพันๆ ปี มันจึงไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์หรือมนุษย์ มาถึงตอนนี้ชั้นดินเยือกแข็งของอาร์กติก ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 24 ของแผ่นดินทั้งหมดในซีกโลกเหนือ กำลังละลายและเสี่ยงต่อการปล่อยปรอทจากแหล่งกักเก็บยักษ์ออกมา ซึ่งถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครรู้ว่ามีปริมาณเท่าใด



    งานวิจัยหนึ่งทศวรรษ

    พอล ชูสเตอร์ นักอุทกศาสตร์จากหน่วยสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ ทำงานวิจัยเรื่องปรอทในชั้นบรรยากาศมานานหลายทศวรรษ ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990 เขาเริ่มเก็บตัวอย่างแท่งน้ำแข็งจากธารน้ำแข็งในแม่น้ำวิน ที่ไวโอมิง และพัฒนาบันทึกการสะสมปรอทที่ย้อนกลับไปได้ถึงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม งานวิจัยครั้งนั้นมีบทบาทสำคัญในการโน้มน้าวผู้ออกกฎหมายของรัฐบาลกลางว่าปรอทที่ปล่อยโดยมนุษย์มีค่าสูงและสหรัฐควรผ่านกฎหมายใช้เครื่องดักจับเพื่อลดปรอทที่โรงไฟฟ้าถ่านหินปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ

    ชูสเตอร์เข้าไปทำวิจัยในลุ่มน้ำยูคอนที่อะแลสกา และพบว่าไม่เคยมีใครลองหาปริมาณของปรอทที่ถูกกับเก็บในชั้นดินเยือกแข็งมาก่อนเลย ที่จริง ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ ก็ไม่มีใครเชื่อว่าจะมีปรอทอยู่ที่นั่นด้วยซ้ำ

    ระหว่างปี 2004-2012 ชูสเนอร์และทีมของเขาเก็บตัวอย่างแท่งน้ำแข็ง 13 แท่งจากทั่วอะแลสกา โดยเลือกพื้นที่ตัวอย่างชั้นดินเยือกแข็งในอะแลสกาที่จะนำมาสรุปเป็นผลของอาร์กติกได้ และใช้เวลาสร้างเป็นแบบจำลองอยู่หลายปี

    ผลที่ได้แสดงให้เห็นว่าชั้นดินเยือกแข็งของอาร์กติกกักเก็บปรอทปริมาณมหึมาถึง 15 ล้านแกลลอน (ราว 6 หมื่นลูกบาศก์เมตร) หรือราวสองเท่าของที่มีอยู่ในมหาสมุทร ชั้นบรรยากาศ และทวีปทั้งหมดรวมกันเป็นอย่างน้อย “ความเข้มข้นของปรอทก็มหาศาล สูงกว่าที่เราคาดเอาไว้มาก” ชูสเตอร์กล่าว

    คำถามสำคัญก็คือ “แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับปรอทเหล่านั้น”

    ไม่มีทางที่ปรอทเหล่านั้นจะอยู่ในชั้นดินเยือกแข็งตลอดไป เมื่อแผ่นดินเริ่มละลาย พืชก็จะเติบโตขึ้นและดึงเอาปรอทขึ้นมา แล้วจุลชีพที่ย่อยสลายพืชจะปล่อยเมทิลเมอคิวรีออกมาส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นรูปที่ปรอทเป็นพิษมากกว่าออกมา ปรอทบางส่วนจะแพร่กระจายทางน้ำและอากาศสู่ระบบนิเวศ และสู่สัตว์ต่างๆ ในที่สุด



    ปรอทจะเข้าสู่อาหารมากเพียงใด

    การระบุความเสี่ยงดังกล่าวมีอยู่มากน้อยขนาดไหนเป็นเรื่องยาก แรกสุดอุณหภูมิจะสูงขึ้นขนาดไหน หรือจะช้าเร็วเพียงใด ย่อมขึ้นอยู่กับว่ามนุษย์จะจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากเพียงใด ซึ่งจะบ่งชี้ว่าชั้นดินเยือกแข็งจะละลายได้มากเพียงใด และจะนำไปสู่ปริมาณปรอทที่จะถูกปล่อยออกมา แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องทั้งหมด คำถามเงินล้านก็คือ “ปรอทปริมาณเท่าใดที่จะลงเอยในห่วงโซ่อาหารและไปที่ไหนบ้าง” ชูสเตอร์กล่าว “พอเราก้าวไปสู่เรื่องห่วงโซ่อาหารในงานวิจัยนี้ เรื่องต่างๆ เริ่มดูหมดหวัง”

    อาจดูเหมือนว่าการรั่วไหลของปรอทจากชั้นดินเยือกแข็งจะเป็นอันตรายต่อคนและสัตว์ในแถบอาร์กติกก่อน “แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในอาร์กติก ไม่ได้อยู่แต่ในอาร์กติกหรอก” ชูสเตอร์ว่า “ในที่สุดแล้วมันก็จะแพร่กระจายไปทั่วโลก” ซึ่งส่งผลต่อมนุษยชาติอย่างแน่นอน

    เรื่อง เครก เวล์ช

    ภาพถ่าย โจเอล ซาร์ตอร์

    http://www.ngthai.com/environment/8511/permafrost_thaws_releasing_mercury/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2018
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นายกฯ โต้ปล่อยปละ ขรก.โกง สั่ง ป.ป.ท.ตรวจทุกกระทรวง พร้อมคุ้มครองพยาน

    “ประยุทธ์” ปัดเกียร์ว่างปล่อยข้าราชการโกง สั่ง ป.ป.ท.ไล่ตรวจละเอียดทุกกระทรวง พร้อมคุ้มครองพยานเต็มที่ ขอให้ออกมาพูด

    คลิก >>https://mgronline.com/politics/detail/9610000025248

    #MGROnline #การเมือง #นายกรัฐมนตรี #ข้าราชการโกง #คุ้มครองพยาน

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สื่อเมืองเบียร์เผย EU จ่อใช้มาตรการ “จำกัดวีซ่า” บีบประเทศนอกกลุ่มรับคืน “ผู้ลี้ภัย”

    คณะกรรมาธิการยุโรปเตรียมใช้มาตรการจำกัดวีซ่ากับประเทศนอกกลุ่มอียู เพื่อบีบให้รัฐบาลเหล่านั้นยอมร่วมมือในการส่งตัวผู้ขอลี้ภัยที่ถูกอียูปฏิเสธกลับไปสู่ประเทศต้นทาง หนังสือพิมพ์ดีเวลต์ของเยอรมนีรายงานวันนี้ (13 มี.ค.)

    คลิก >>https://mgronline.com/around/detail/9610000025249

    #MGROnline #EU #จำกัดวีซ่า #ผู้ลี้ภัย
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สาวปมทุจริต "ทุนเสมาฯ" พบโอนเงินทุน นศ.พยาบาล-ค่าจ้างครูล่าช้าทุกปี

    สบช.แฉโอนเงินให้ นศ.พยาบาลทุนเสมาฯ ล่าช้าทุกคน มีเด็กร้องเรียนทุกปี จนต้องทวงถามกองทุนทุกครั้ง พบให้ล่าช้าตั้งแต่ 1 เทอม ไปจนถึง 1 ปี บางคนเรียนปี 4 จนจบแล้วก็ยังไม่ได้รับทุน ด้าน ร.ร.ร่วมแฉด้วยโอนเงินทุนเสมาฯ เป็นค่าจ้างครูล่าช้าทุกปีเช่นกัน

    คลิก >>https://mgronline.com/qol/detail/9610000025253

    #MGROnline #กองทุน #นักศึกษา #พยาบาลทุนเสมาฯ

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปูติน’ จี้กระทบจุดเดือดคนยิว
    เผยแพร่: 13 มี.ค. 2561 14:41: โดย: โสภณ องค์การณ์
    561000002627301.jpg

    ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย

    ลูกเล่นของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ช่างเหลือร้าย หลังจากตกเป็นเป้าหมายของสหรัฐฯ ที่กล่าวหาว่ารัสเซียมีส่วนร่วมอย่างแรงในการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2016 ด้วยการเจาะข้อมูลของพรรคเดโมแครต และเจาะยางฮิลลารี คลินตัน

    โดนโจมตีและกล่าวหาอย่างต่อเนื่องว่าเป็นตัวแทนการแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ เอฟบีไอตั้งคณะสอบสวนอย่างจริงจัง แม้ทรัมป์จะไม่ค่อยกระตือรือร้นในช่วงแรกของการสืบสวน แต่ภายหลังต้องยอมเพราะเอฟบีไอเริ่มมีหลักฐานเพียงพอทำคดีได้

    การสืบและสอบสวนเข้มทำให้เอฟบีไอสั่งให้มีการดำเนินคดีชาวรัสเซีย 13 ราย และนิติบุคคล 3 รายในข้อหาแทรกแซงการเมืองสหรัฐฯ คดียังไม่ถึงที่สุด แต่ปูตินก็โดนโจมตีว่าอยู่เบื้องหลัง จนกระทั่งถูกสัมภาษณ์โดยผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี

    หลังจากโดนผู้สัมภาษณ์ไล่บี้อย่างหนักเรื่องแทรกแซงการเลือกตั้ง ปูติน บอกว่า “เป็นไปได้พวกที่แทรกแซงการเลือกตั้งคือพวกชาวยิว ชาวตาตาร์ และชนกลุ่มน้อยอื่นๆ หรือแม้แต่ชาวยูเครนที่ถือสัญชาติรัสเซีย น่าจะมีการมองประเด็นนี้อย่างจริงจัง”

    แค่นี้เอง ทำให้องค์กรต่างๆ ของกลุ่มชาวยิวเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ แม้แต่ ส.ว.สหรัฐฯ ก็ร่วมเล่นงานปูติน หาว่าเล่นเกมไม่เข้าท่า เป็นการใส่ร้ายป้ายสีคนยิว และชนกลุ่มน้อยที่อาศัยในสหรัฐฯ แต่ปูตินยังยืนยันว่าคนถือสัญชาติรัสเซียแท้ที่จริงเป็นคนชาติอื่นได้เช่นกัน

    “จะไปรู้ได้อย่างไรว่าพวกที่แทรกแซงเลือกตั้ง เจาะข้อมูล อาจเป็นพวกที่ถือ 2 สัญชาติ มีกรีนการ์ดอยู่ในสหรัฐฯ ได้ หรืออาจเป็นคนอเมริกันเองที่ว่าจ้างพวกเหล่านี้ให้ทำงานได้ ไม่รู้สิ คุณก็ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้ แต่น่าจะไปตรวจสอบดูให้จริงจังนะ” ปูตินตอบ

    กลุ่มสันนิบาตชาวยิว สวนกลับปูติน อ้างว่าเล่นเกมป้ายสีคนยิวและชนกลุ่มน้อยในสหรัฐฯ เป็นแนวความคิดต่อต้านชาวยิว เพราะคนยิวที่อาศัยอยู่ในรัสเซียโดนเล่นงานมาเป็นร้อยๆ ปี และในยุคที่จอมเผด็จการโจเซฟ สตาลินเป็นผู้นำช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

    ช่วงนั้นสตาลินเล่นงานพวกตาตาร์ในแหลมไครเมีย กล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดกันช่วยเหลือเยอรมนีภายใต้อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ช่วงสงคราม หลังจากยุคสหภาพโซเวียตล่มสลาย รัฐบาลรัสเซียได้ผ่อนคลายการคุมเข้มสำหรับความเคลื่อนไหวของพวกตาตาร์

    แหลมไครเมียของยูเครนถูกปูตินผนวกเข้าเป็นของรัสเซีย ทำให้เกิดการสู้รบตามชายแดนที่ติดต่อกับรัสเซียโดยรัฐบาลยูเครนกล่าวหารัสเซียว่าช่วยเหลือพวกกบฏต่อสู้กับรัฐบาลกลาง กลายเป็นความขัดแย้งยืดเยื้อระหว่าง 2 ประเทศจนทุกวันนี้

    ไม่มีคำอธิบายว่าทำไมปูตินจึงกล่าวหายิวและชนกลุ่มน้อย ส.ว.รัฐคอนเนคติกัต นายริชาร์ด บลูเมนทัล บอกว่าคำพูดของปูตินสมควรได้รับการประณามอย่างแรง โดยด่วนโดยกลุ่มผู้นำโลก องค์กรชาวยิวในสหรัฐฯ ก็เรียกร้องปูตินให้ชี้แจงว่าทำไมกล่าวเช่นนั้น

    กลุ่มชาวยิว และชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ในสหรัฐฯ มักนิยมพรรคเดโมแครต ซึ่งมีจุดยืนอยู่ข้างคนจน คนด้อยโอกาส ขณะที่พรรครีพับลิกันถูกมองว่าอยู่ข้างกลุ่มนักธุรกิจ บริษัทขนาดใหญ่ มีแนวคิดอนุรักษนิยม แบ่งเป็น 2 ขั้วต่างกันอย่างชัดเจน

    ความเกี่ยวโยงกับกลุ่มคนรัสเซียมีแน่ เพราะลูกเขยทรัมป์ จาเร็ด คุชเนอร์ ก็มีสายสัมพันธ์กับกลุ่มนักธุรกิจการเงินรัสเซีย และอยู่ในข่ายที่ต้องถูกเอฟบีไอสอบสวนด้วย ดังนั้นพรรคเดโมแครตจึงอยากจับให้มั่นคั้นให้ตาย ในข้อกล่าวหาว่าแทรกแซงการเลือกตั้ง

    มีผลทำให้นางคลินตันพ่ายแพ้คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ แบบหักปากกาเซียน หักผลโพลทุกแห่งที่คาดการณ์ว่านางคลินตัน จะได้นอนมาแบบม้วนเดียวจบ ปรากฏว่าความพ่ายแพ้แบบคาดไม่ถึงทำให้พวกเดโมแครต “ช็อก” แทบตาตั้ง

    นางคลินตันถึงกับเสียศูนย์ ไปไม่เป็น ต้องใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะทำใจได้ เพราะไม่มีใครคาดฝันว่าทรัมป์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผู้อื้อฉาว จะพลิกชะตามาเป็นผู้นำประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก สร้างความปั่นป่วนให้ระบบการเมืองสหรัฐฯ

    ความพ่ายแพ้ทำให้หน่วยงานของสหรัฐฯ สำนักข่าวกรองต่างๆ รวมทั้งเอฟบีไอ ลงมือสอบสวน ค้นหาเบาะแสอย่างจริงจังว่าข้อสงสัยที่ว่าคนรัสเซียและหน่วยสืบราชการลับ เช่นเอฟเอสบี หรืออดีตเคจีบีเดิมนั้น เป็นตัวการสำคัญในเรื่องเจาะข้อมูลหรือไม่

    ทั้งปูตินเองก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สั่งการให้เจาะข้อมูลพรรคเดโมแครต เอาข้อมูลลับเกี่ยวโยงกับการใช้อีเมลส่วนตัวของนางคลินตันมาเปิดโปง รวมทั้งเปิดเผยแผนของคนวงในพรรคเดโมแครตเองว่ามีบางพวกที่ไม่ชอบ และไม่สนับสนุนนางคลินตันให้ชนะ

    นอกจากนั้นยังทำให้ผู้สมัครพรรคเดโมแครตอีกราย คือ เบอร์นี แซนเดอร์ส กลายเป็นคู่แข่งของนางคลินตัน กว่านางจะเอาชนะพรรคได้ก็แทบหืดจับ แต่ผลสุดท้ายก็มาพ่ายแพ้ต่อจอมขี้คุย ปากเสียอย่างมหาเศรษฐีมีเรื่องฉาวโฉ่เพียบ

    รัสเซียและปูตินโดนจิกกัดโดยหน่วยงานสหรัฐฯ แบบไม่ยอมปล่อย ขณะที่สื่อสหรัฐฯ เองก็เปิดโปงว่าทรัมป์และเครือข่ายธุรกิจได้มีการติดต่อ มีความสัมพันธ์เชิงธุรกิจการลงทุน การเงินกับนักธุรกิจและสถาบันการเงินของรัสเซีย ทั้งกู้เงินมาฟื้นฟูธุรกิจ

    ต้องรอดูว่าเพียงคำพูดไม่กี่ประโยคพาดพิงคนยิวจะทำให้เรื่องลุกลามไปมากแค่ไหน แต่ปูตินคงไม่แคร์ เพราะอ้างได้ว่าเป็นข้อสงสัย เหมือนตนเองถูกสงสัยและกล่าวหา ดังนั้นลีลาของผู้นำรัสเซียไม่ธรรมดา ย้อนแรงๆ ทำให้คนอเมริกันยิวเดือดร้อนหนัก

    https://mgronline.com/daily/detail/9610000025173
     

แชร์หน้านี้

Loading...