ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    หนุ่มเวียดนามโวยนายจ้างญี่ปุ่นหลอกไปขนดินปนเปื้อนรังสีโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ
    เผยแพร่: 19 มี.ค. 2561 17:38: โดย: MGR Online
    561000002784202.jpg

    รัฐบาลญี่ปุ่นออกคำสั่งห้ามผู้ฝึกงานชาวต่างชาติทำงานในพื้นที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี หลังชาวเวียดนามรายหนึ่งร้องเรียนว่าถูกให้ไปทำงานในพื้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ที่รั่วไหลจากเหตุแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อปี 2011

    หนุ่มเวียดนามวัย 24 ปีรายนี้เข้าร่วมโครงการฝึกงานของรัฐบาลญี่ปุ่น ที่เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติสามารถมาทำงานในญี่ปุ่นได้ เพื่อเรียนรู้เทคนิคกับบริษัทญี่ปุ่น ซึ่งตามสัญญาจ้างแล้ว เขาจะรับผิดชอบงานวิศวกรรมของบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งในจังหวัดอิวาเตะ โดยได้เดินทางมาญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2015

    แต่ในการทำงานจริง ทางบริษัทได้ส่งหนุ่มเวียดนามไปทำงานที่จังหวัดฟุกุชิมะหลายสิบครั้ง เพื่อทำขนย้ายดินปนเปื้อนรังสี รวมทั้งรื้อถอนอาคารในพื้นที่ต้องห้ามที่ทางการสั่งอพยพผู้คนทั้งหมดออกจากพื้นที่เพราะมีประมาณรังสีรั่วไหลสูง โดยที่พนักงานหนุ่มไม่รับรู้เลยว่าพื้นที่นี้เป็นพื้นที่อันตราย และตัวเองมีโอกาสสัมผัสกับกัมมันภาพรังสี



    561000002784201.jpg

    ในเวลาต่อมา หนุ่มเวียดนามรายนี้ได้เข้าร้องเรียนกับองค์กรพิทักษ์สิทธิแรงงานในญี่ปุ่นว่า เขาถูกล่อลวงให้มาญี่ปุ่นเพื่อทำงานจัดการพื้นที่ปนเปื้อนรังสี

    องค์กรพิทักษ์สิทธิแรงงานได้ตรวจสอบว่า ทางบริษัทที่รับหนุ่มเวียดนามรายนี้เข้าฝึกงานไม่เคยแจ้งเลยว่าต้องไปทำงานในพื้นที่เสี่ยง โดยระบุว่าได้รับมอบหมายงานแบบเดียวกับเพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่น โดยไม่แจ้งว่าอาจมีอันตรายต่อสุขภาพ และจงใจปิดบังข้อมูลที่ไม่เป็นไปตามสัญญาจ้าง

    การกระทำของบริษัทต้นสังกัดถือว่าผิดกฎหมายแรงงานของญี่ปุ่น และองค์กรพิทักษ์สิทธิแรงงานได้ช่วยหนุ่มเวียดนามรายนี้เจรจากับทางบริษัทให้จ่ายค่าชดเชยให้ โดยเขาได้ค่าจ้างราวเดือนละ 140,000 เยน ขณะที่ชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในลักษณะเดียวกันนี้จะได้ค่าจ้างมากกว่าถึง 3 เท่าตัว

    561000002784203.jpg

    โครงการฝึกงานทางเทคนิคที่รัฐบาลญี่ปุ่นริเริ่มขึ้นมีจุดประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติได้มาเรียนรู้งานในญี่ปุ่น และชดเชยการขาดแคลนแรงงาน แต่หลายบริษัทกลับใช้โครงการนี้เพื่อหาแรงงานต่างชาติราคาถูก หรือทำงานเสี่ยงภัยที่ชาวญี่ปุ่นไม่อยากทำ

    กรณีอื้อฉาวนี้ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศคำสั่งเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ห้ามชาวต่างชาติที่เข้าร่วมโครงการฝึกงานทำงานที่เกี่ยวข้องกับการปนเปื้อนรังสี

    รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานของญี่ปุ่น ระบุว่า โครงการฝึกงานทำงานมุ่งหวังให้ชาวต่างชาตินำเทคนิคการทำงานที่ญี่ปุ่นกลับไปให้พัฒนาบ้านเกิดของตัวเอง ไม่ใช่เพื่อให้มาเป็นแรงงานราคาถูก โดยบริษัทที่ต้องการเข้าร่วมโครงการรับชาวต่างชาติเข้าฝึกงานจะต้องยื่นเอกสารระบุถึงงานที่ให้ทำอย่างชัดเจน หากบริษัทใดปกปิดข้อมูลให้แจ้งเท็จจะถูกขึ้นบัญชีดำและรับโทษตามกฎหมาย.

    https://mgronline.com/japan/detail/9610000026670
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง 'รอง ผบช.สพฐ.' เปลี่ยนของกลางล้มคดีฆาตกรรม! 19 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 16:52 น.


    19 มี.ค.61 - พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบช.พฐ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่ พ.ต.อ.สาธิต ก้อนแก้ว นักวิทยาศาตร์ สบ.5 กองพิสูจน์หลักฐานกลาง อดีตรอง ผบก.ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 (รอง ผบก.ศพฐ.8) จ.สุราษฏร์ธานี ส่งเรื่องร้องเรียนถึง พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบช.สพฐ.ตร. ให้ดำเนินการทางวินัยกับ พล.ต.ต.ปรีดี พงศ์เศรษฐสันต์ รอง ผบช.สพฐ. ขณะดำรงตำแหน่ ผู้บังคับการ ศพฐ.10 ดูแล 3 กลั่นแกล้งยัดข้อหาให้ได้รับโทษ หลังร้องเรียนพบการทุจริตเปลี่ยนของกลางคดีฆาตกรรม ว่า เรื่องที่มีการร้องเรียนแล้วไม่ดำเนินการนั้น ข้อเท็จจริงได้ตรวจสอบดูแล้ว ทางสำนักงานพิสูจน์หลักฐานได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบไม่ได้ปล่อยปะละเลยหรือเพิกเฉย เป็นเรื่องที่ดำเนินการมาก่อนที่ผมจะมาเป็น ผบช.พฐ.

    เรื่องนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตั้งแต่ ผบช.คนก่อน คณะกรรมการได้ตรวจสอบพบว่ามีมูล กระทั่งมีการตั้งคณะกรรมสอบสวนพิจารณาทัณฑ์ทางวินัยและชี้มูลเรื่องวินัยร้ายแรง คณะกรรมการเขามีความเห็นเสร็จแล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นตอนที่บอร์ดกลั่นกรองตามระเบียบ เนื่องจากเป็นเรื่องวินัยร้ายแรงต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งผู้ถูกกล่าวหาด้วย

    ผบช.สพฐ. เปิดเผยต่อ ยืนยันว่าไม่ได้ปล่อยปะละเลยตามที่เป็นข่าว วินัยร้ายแรงโทษถึงออกจากราชการ ส่วนให้ออกหรือปลดออกต้องดูความหนักเบาในรายละเอียดของเนื้อสำนวนอีกครั้ง ส่วนผลสรุปอย่างไรบอร์ดกลั่นกรองจะส่งมาให้ผมดูอีกครั้ง แล้วเสนอไปยังสำนักงานตำรวจตำรวจแห่งชาติทราบถึงการลงทัณฑ์วินัยข้าราชการ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเห็นข่าวค่อนข้างกังวล กองพิสูจน์หลักฐานอยู่ได้เพราะผลการปฏิบัติงานที่เป็นระบบ เป็นเรื่องที่สังคมยอมรับเชื่อถือ มีมาตรฐาน ส่วนน้อยที่อาจจะมีบ้างที่นอกลูกนอกทางหรือนอกแถว เราได้พิจารณาลงทันษ์ไม่ได้ปล่อยปะละเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องของปัจเจคบุคคล ไม่ใช่เรื่องของหน่วยงาน.
    http://www.thaipost.net/main/detail/5337
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    แม่ลูกจันทร์ แห่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มีเรื่องที่จะต้องบอกพี่น้องประชาชน เรื่องการใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดินของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

    เรียน ประชาชนและผู้เสียภาษีทุกท่าน
    (จากแม่ลูกจันทร์)

    ที่ประชุม ครม.นัดล่าสุด ไฟเขียว เพิ่มงบประมาณกลางปี เป็นกรณีเร่งด่วนอีก 1.5 แสนล้านบาทโดยงบกลางปีที่เพิ่มพิเศษอีก 1.5 แสนล้านบาท จะแยกรายจ่ายออกเป็น 2 ส่วน

    ส่วนแรกจะนำไปชดใช้เงินคงคลัง 5 หมื่นล้านบาท

    ส่วนที่ต้องกู้เพิ่มอีก 1 แสนล้านบาทจะนำไปใช้อัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจ

    แสดงว่างบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 ที่ตั้งวงเงินไว้ 3.3 ล้านล้านบาท (สูงกว่างบปีที่แล้ว 4 แสนล้านบาท) ยังไม่พอใช้จ่ายว่างั้นเถอะ

    “แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าการที่รัฐบาล คสช.ตั้งงบรายจ่ายกลางปีเพิ่มอีก 1.5 แสนล้านบาท จะทำให้งบรายจ่ายประจำปี 2561 ขาดดุลติดลบตัวแดงเพิ่มเป็น 6 แสนล้านบาท

    เฉพาะในยุครัฐบาล คสช. เริ่มตั้งแต่ปี 2558 ขาดดุล 2.5 แสนล้านบาท

    ปี 2559 ขาดดุลเพิ่มอีก 3.9 แสนล้านบาท

    ปี 2560 ขาดดุลพุ่งไปถึง 5.5 แสนล้านบาท

    และปีนี้ 2561 ขาดดุลพุ่งกระฉูดสูงสุดอีก 6 แสนล้านบาท

    รวมเบ็ดเสร็จ 4 ปี รัฐบาลนายกฯบิ๊กตู่ใช้เงินเกินหน้าตักไปแล้วถึง 1.79 ล้านล้านบาท

    ไม่เคยมีรัฐบาลไหนที่กล้าขาดดุลมากขนาดนี้มาก่อน

    “แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าการตั้งเบิกงบกลางปีเป็นกรณีพิเศษอีก 1 แสนล้านบาท จะแบ่งการใช้จ่ายใน 3 ยุทธศาสตร์เร่งด่วน

    1, ใช้อัดฉีดปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร 2.4 หมื่นล้านบาท

    2, ใช้อัดฉีดเสริมสร้างและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อย 2.1 หมื่นล้านบาท

    3, ใช้อัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาศักยภาพชุมชนอีก 5.4 หมื่นล้านบาท

    “แม่ลูกจันทร์” กระชุ่นรัฐบาลว่าการกู้เพิ่มงบกลางปีอีก 1.5 แสน ทำให้รัฐบาลต้องแบกภาระหนี้เพิ่มอีกก้อนใหญ่

    ฉะนั้น การใช้จ่ายงบกลางทุกบาททุกสตางค์ จึงต้องคำนึงถึงความคุ้มค่ามากที่สุด

    ต้องให้เกิดประโยชน์ยั่งยืนที่สุด และต้องรั่วไหลน้อยที่สุด

    ข้อสำคัญ ต้องไม่ซ้ำซ้อนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลอัดฉีดไปแล้วเยอะแยะสารพัดอย่าง

    อย่างไรก็ดี ถ้าพิจารณาในรายละเอียดจะพบว่า รัฐบาลให้น้ำหนักความสำคัญ “กองทุนหมู่บ้าน” มากที่สุด

    ปี 2559 รัฐบาลอัดฉีดเงินใส่กองทุนหมู่บ้านเพิ่มไปแล้ว 3.5 หมื่นล้านบาท

    ปี 2560 รัฐบาลอัดฉีดใส่กองทุนหมู่บ้านอีก 1.5 หมื่นล้านบาท

    แถมปีนี้ 2561 รัฐบาลจะอัดฉีดงบเพิ่มให้กองทุนหมู่บ้านอีกกว่า 1 หมื่นล้านบาท

    สิริรวม 3 ปี รัฐบาลอัดฉีดงบใส่กองทุนหมู่บ้านมากกว่า 6 หมื่นล้านบาท

    ยังไม่รวมที่รัฐบาลทุ่มงบอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน 7,255 ตำบล หรือที่เรียกว่า “โครงการตำบลละ 5 ล้านบาท” เป็นเงินกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท

    “แม่ลูกจันทร์” ไม่แน่ใจว่างบที่ทุ่มลงไปกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนหมู่บ้านเกือบ 1 แสนล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับล่างให้ฟื้นได้จริงหรือไม่??

    ยิ่งถ้าหากมองภาพรวม 4 ปี รัฐบาลใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจเกินหน้าตักไปแล้วถึง 1.79 ล้านล้านบาท

    แต่เหตุใดเศรษฐกิจรากหญ้ายังไม่ฟื้นจากสลบ??

    จะต้องรออีกนานแค่ไหน? จะต้องใช้งบอัดฉีดเพิ่มอีกเท่าใด? เศรษฐกิจไทยถึงจะหายป่วย

    สรุปว่า...ใช้เงินมาก แต่ยิงไม่เข้าเป้า ก็เปล่าประโยชน์

    ใช้เงินน้อย แต่ยิงเข้าเป้าจะได้ประโยชน์มากกว่า

    อ้อ...งบปีหน้าจะขาดดุลติดลบตัวแดงอีก 4.5 แสนล้านบาท.

    จึงเรียนมาเพื่อทราบ

    ปล. แล้วใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ หาเงินมาชดใช้ ?
    https://www.thairath.co.th/content/1228500
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ข้าวโพดเป็นหมาตัวหนึ่ง

    29425555_822834631246980_3398502198710270375_n.jpg

    #อ่านแล้วก็ทั้งสงสารและใจหายเลยค่ะ #คิดอย่างไรกับเหตุการณ์นี้ 1f62d.png พวกเขาโกหกว่าเป็นการควบคุมพิษสุนัขบ้า เมื่อความจริงคือการควบคุมประชากรสุนัข ทำไมพวกเขาไม่ฉีดวัคซีนแทนที่จะฆ่า ลูกหมาหนึ่งตัวได้รับยาพิษ และตายใน 2 ชั่วโมง นี่เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ควรจะหยุดทำสิ่งนี้ตอนนี้

    เรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยโดยเพจ The man that rescues dogs ได้โพสต์รายละเอียดไว้ว่า นี่คือวัดแห่งหนึ่ง ในอ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อสัปดาห์ก่อน เจ้าหน้าที่รัฐเปิดฉากฆ่าลูกหมาไร้เดียงสา เพื่อทำพื้นที่ให้ปลอดพิษสุนัขบ้า ที่เรียกว่า Set Zero พวกเขากำลังอยู่ระหว่างการพยายามปิดบัญชีเฟสบุ๊กของผู้หญิงคนนี้ ที่วิดีโอนี้มีคนดูกว่า 320,000 วิว ให้พวกเขาได้ยินเสียงของคุณ แชร์ออกไปให้โลกได้รู้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองไทย

    จากนั้นได้มีเฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งเป็นครูชาวต่างชาติที่มาสอนในประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ว่า วันนี้เป็นวันที่ไม่ดีเลยค่ะ มีหลายสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยตอนนี้ที่ทำให้โจแอนไม่มีความสุขเลย ตั้งแต่วันที่หมา100กว่าตัวจากปราณบุรีถูกจับเอาไปไว้ที่กักกันที่บุรีรัมย์ โจแอนรู้ว่ามันเป็นแค่ฉากเริ่มต้นของสิ่งอื่นๆที่จะตามมา วันนี้ได้รับฟังเรื่องราวจากครูคนหนึ่งที่สอนอยู่ที่นครศรีธรรมราช ครูคนนี้เล่าว่ามีลูกหมา 14 ตัวที่วัดแห่งหนึ่งที่โดนฆ่าในวันพุธที่ผ่านมา

    ลูกหมาเหล่านี้เป็นลูกหมาที่ถูกทิ้งที่วัดซึ่งเกิดขึ้นบ่อยๆในประเทศไทยเพราะคนไม่ทำหมันหมาของเขาและเอาไปทิ้งตอนมีหมาเยอะเกินที่จะเลี้ยงต่อ วันนั้นครูคนนี้เอาอาหารไปให้ลูกหมาและหมาที่วัดเหมือนกับที่เขาทำทุกวันหลังเลิกงาน เมื่อเธอไปถึงวัดเขาเจอลูกหมาทั้งหมดโดนวางยา ครูคนนี้เห็นว่ามีลูกหมาตัวหนึ่งวิ่งมาหาเขา แต่ก่อนที่เธอจะอุ้มลูกหมาขึ้นมาได้มีเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จับลูกหมาไปแล้ว เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ด่าครูคนนี้ใหญ่เลยและบอกเขาว่าห้ามถ่ายรูปเก็บไว้ เจ้าหน้าที่ก็ทำงานต่อไปเอาศพลูกหมากับหมาทั้งหมดใส่ถุงพลาสติกใหญ่ๆสีส้มและเอาถุงไปใส่ลังรถกระบะ ในชั่วงพริบตากอไม่มีหมาที่วัดนี้เลยเพราะโดนฆ่าหมด

    เด็กคนหนึ่งได้เก็บลูกหมาสีดำตัวหนึ่งเอาไว้และเด็กคนนี้ก็เอาลูกหมามาให้คุณครูดู คุณคนก็สงสารลูกหมาและเอาลูกหมาไปดูแลที่บ้าน แต่ในที่สุดลูกหมาตัวนี้ก็ตายเช่นเดียวกันภายใน 2 ชั่วโมงต่อมา ครูคนนี้ก็นำศพลูกหมาสีดำไปที่เทศบาล ถามนายกเทศมนตรีว่าทำไมสิ่งเหล่านี่ถึงเกิดขึ้นได้ที่วัด เขาถามนายกเทศมนตรีว่าคนไทยเป็นชาวพุทธไม่ใช่หรือ นายกมีแต่บอกคุณครูว่าขอโทษด้วยเพราะเขาก็ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จะมาฆ่าหมาที่วัด

    “ฉันขอให้ครูคนนี้มีใจเข้มแข็งเอาไว้และมีแรงที่จะสู้ต่อไป ฉันไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าการที่ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งเลวร้ายต่อหน้าต่อตาแต่ไม่สามารถช่วยชีวิตลูกหมาที่ให้ข้าวมากับมือได้เลยจะต้องเจ็บปวดแค่ไหน ในขณะนี้คุณครูก็เกรงว่าอันตรายจะมาเยือนหมาข้างถนนในแบบเดียวกัน พวกเราอยากให้คุณครูทราบว่าในสถานการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นนี้ ไม่มีใครที่สามารถลืมได้ พวกเราขอต่อสู้และเดินหน้าไปกับคุณครูด้วยค่ะ”

    #ที่มาของเรื่อง
    Miracle Paws Thungsong Thailand

    #แหล่งข่าว
    https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_859670

    ขอบคุณภาพประกอบ
    คุณไทร-คุณออมสิน

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    327817.jpg
    เอาจริง!ภาษีหมา-แมว 'ปศุสัตว์'รับลูกถก5หน่วยงานจัดระเบียบ
    วันจันทร์ ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2561, 19.50 น.

    อธิบดีกรมปศุสัตว์เด้งรับลูกเก็บภาษี “หมา-แมว” เตรียมนำเข้าหารือที่ประชุม 5 หน่วยงานปลายเดือนนี้ ยันหลายประเทศในยุโรปก็ใช้ ช่วยลดปัญหาสุนัขจรจัด บ่อเกิดโรคพิษสุนัขบ้า

    กลายเป็นประเด็นที่ผู้เลี้ยงหมา-แมวให้ความสนใจและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางทันที จากกรณี นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้พูดเสนอแนวความคิดการจัดทะเบียนและเก็บภาษีสัตว์เลี้ยงตัวที่ 3 ซึ่งแม้ว่า เจ้าตัวจะอ้างว่าเป็นเพียงการพูดยกตัวอย่างการจัดการสุนัขและสัตว์จรจัดของต่างประเทศเท่านั้น แต่กรมปศุสัตว์ก็ได้ออกมารับลูกเรื่องดังกล่าวอย่างทันท่วงที

    “ปศุสัตว์”รับลูกเก็บภาษีหมา-แมว

    โดย นายอภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้ให้สัมภาษณ์เรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ว่า เห็นด้วยกับแนวความคิดดังกล่าว เพราะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาสัตว์เลี้ยงที่ถูกปล่อยเป็นสัตว์จรจัด ก่อเกิดโรคระบาด ที่ปัจจุบันเพิ่มจำนวนมากขึ้น ซึ่งมีหลายๆประเทศในยุโรปได้ดำเนินการเก็บภาษีเจ้าของหมา แมว เพื่อนำรายได้เอาไปแทนงบของรัฐบาล เหมือนที่ประเทศเราที่ทุ่มงบให้ท้องถิ่นในหลายๆเรื่อง และกำลังให้ท้องถิ่น นำงบที่จัดเก็บรายได้เองออกมาช่วยจัดการดูแลท้องถิ่น เช่น ในการจ้างคนงานไปดูแล เจอหมา จับขึ้นทะเบียน ฉีดวัคซีน ทำหมัน ติดไมโครชิบ เจ้าของปล่อยเผ่นพล่านออกนอกบ้านโดนดำเดินคดีทันที ทำให้บ้านเมืองต่างประเทศ มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยดีมาก

    เอาจริง!เตรียมถก5หน่วยงานขับเคลื่อน

    โดยปลายเดือนนี้ซึ่งจะมีการประชุมร่วม 5 หน่วยงาน อาทิ กรมปศุสัตว์ กรมควบคุมโรค กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมประชาสัมพันธ์ และสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อผลักดันแผนการดำเนินงานตามพระปณิธานให้ปลอดโรคพิษสุนัขบ้าภายในปี 2563 ของ สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ จะมีการนำประเด็นขับเคลื่อนเรื่องการขึ้นทะเบียนสุนัข-แมว การเก็บภาษี เข้าหารือกับที่ประชุมด้วย

    ยืนยันจะต้องจัดระเบียบหมา-แมว

    “ในอนาคต ผมยืนยันว่า บ้านเราต้องต้องจัดระเบียบสุนัข แมว ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามพระปณิธาน ปลอดพิษสุนัขบ้า ซึ่งการเซ็ตซีโร่ หมา แมว ในไทย โดยการเก็บภาษีผู้เลี้ยง ให้ท้องถิ่นเก็บเอง มีการพูดกันนานหลายเวทีมาแล้ว ตอนนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหารือเพื่อดำเนินการขึ้นทะเบียน เร่งรัดให้เป็นรูปธรรม หากปล่อยไปจะเกิดโรคระบาดมากขึ้น เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเหนื่อยกันมากทุกปี”

    บุรีรัมย์ติดพิษสุนัขบ้าตายอีก1ราย

    นายอภัย กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการ์โรคพิษสุนัขบ้า กรมควบคุมโรค ได้รายงานว่า ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 18 มีนาคม 2561 มีผู้เสียชีวิต 6 ราย จากเดิม 5 ราย โดยผู้เสียชีวิตรายล่าสุดอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ รวมทถึงมีการประกาศเขตโรคระบาดชั่วคราว (อายุ 30 วัน) จำนวน 38 จังหวัด ปัจจุบันคงเหลือ 24 จังหวัด

    http://www.naewna.com/local/327817/preview
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    327814.png
    จนท.'อิสราเอล'จับลูกจ้างกงสุลฝรั่งเศส หลังใช้รถราชการลอบขนอาวุธส่ง'ปาเลสไตน์' วันจันทร์ ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2561, 19.44 น.

    19 มี.ค.61 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เจ้าหน้าที่อิสราเอล ได้จับกุมชายชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นลูกจ้างของสถานกงสุลฝรั่งเศสในนครเยรูซาเลม ในข้อหาใช้รถของสถานกงสุล ลักลอบขนปืนหลายสิบกระบอกจากฉนวนกาซาไปยังเขตเวสต์แบงค์ อย่างน้อย 5 ครั้ง ในจำนวนชนี้เขาขนย้ายปืนพกราว 70 กระบอกและปืนไรเฟิลอัตโนมัติ 2 กระบอก

    โดยชายชาวฝรั่งเศสคนดังกล่าวใช้ประโยชน์จากการ ไม่ค่อยมีการตรวจสอบความปลอดภัยยานพาหนะของราชการมาลักลอบขนอาวุธดังกล่าว โดยเขาสารภาพว่าทำด้วยตัวคนเดียวและมีเงินเป็นแรงจูงใจ โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานกงสุลไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำของเขาแต่อย่างใด

    http://www.naewna.com/inter/327814
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ลอบบึ้มกลางเมืองออสติน สหรัฐฯ เจ็บ2ราย
    icon-calendar.png 19 มี.ค. 61, 15.20 น.

    เกิดเหตุระเบิดในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดผู้ก่อเหตุต้องการส่งสารบางอย่าง

    วันนี้ (19 มี.ค. 61) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดในเมืองออสติน ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน เป็นชายอายุในช่วง 20 ปีแต่อาการไม่สาหัส โดยตำรวจท้องที่และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ได้รุดไปยังที่เกิดเหตุ

    โดยเหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเพิ่งเกิดเหตุระเบิดพัสดุ 3 ครั้งเมื่อต้นเดือน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน แต่ตำรวจยังไม่ระบุว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้านและห้ามแตะต้องพัสดุต้องสงสัย โดยเหตุระเบิดในเมืองออสตินครั้งล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนได้เกิดเหตุระเบิดพัสดุ 2 ครั้ง โดยเหตุการณ์หนึ่งมีวัยรุ่นชายวัย 17 ปีเสียชีวิตและหญิงบาดเจ็บ 2 คน โดยชายวัยรุ่นเสียชีวิตหลังพบกล่องพัสดุวางบนขั้นบันไดหน้าบ้าน จึงเปิดดูและเกิดระเบิดขึ้น ส่วนอีกเหตุการณ์หญิงชราวัย 75 ปีบาดเจ็บสาหัสหลังเปิดกล่องพัสดุที่คนร้ายมาวางไว้ที่หน้าบ้านเช่นกัน

    ขณะที่จากการสอบสวน ตำรวจระบุว่า เหตุระเบิดพัสดุ 2 ครั้งนี้มีความเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดพัสดุเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ชายวัย 39 ปีเสียชีวิตในย่านแฮร์ริส – ริดจ์ โดยตำรวจเชื่อว่ามือระเบิดเป็นรายเดียวกันและลงมือเพียงคนเดียว อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถจับกุมได้ นอกจากนี้ ตำรวจยังสันนิษฐานด้วยว่าผู้ก่อเหตุต้องการส่งสารบางอย่าง

    ทั้งนี้ เกิดกระแสคาดเดากันว่ามีเหตุจูงใจจากการเหยียดเชื้อชาติ โดยผู้เสียชีวิต 2 คนเป็นชาวผิวดำและหญิงสูงอายุที่บาดเจ็บเป็นพวกผิวสีจากละตินอเมริกา อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่สรุปเกี่ยวกับเหตุจูงใจเหล่านี้


    http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=163354&t=news
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ออสตินขวัญหาย-บึ้มต่อเนื่องครั้งที่ 4 ตำรวจมืดแปดด้านเพิ่มรางวัลนำจับ
    เผยแพร่: 19 มี.ค. 2561 19:21: โดย: MGR Online
    561000002872901.jpg

    เอพี – เกิดเหตุระเบิดซ้ำในออสตินเมื่อคืนวันอาทิตย์ (18 มี.ค.) มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน โดยตำรวจไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ว่า อาจเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดสามครั้งช่วงต้นเดือนในเมืองหลวงของรัฐเทกซัสแห่งนี้ มิหนำซ้ำเหตุการณ์ล่าสุดยังเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากทางการเพิ่มรางวัลนำจับผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดต่อเนื่องเหล่านี้

    เหตุระเบิดล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ในเทศมณฑลเทรวิสทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองออสติน ไกลจากสถานที่เกิดเหตุ 3 ครั้งแรกที่อยู่ในย่านที่พักอาศัยทางตะวันออกของเมือง และเจ้าหน้าที่สอบสวนยังไม่สามารถยืนยันสาเหตุได้ทันที โดยผู้บัญชาการตำรวจ ไบรอัน แมนลีย์ ออกคำเตือนซ้ำให้ประชาชนงดแตะต้องหรือแม้แต่เข้าใกล้กล่องพัสดุใดๆ ที่ไม่ได้คาดหมายว่าจะได้รับแต่มีผู้มาวางทิ้งไว้หน้าประตูบ้าน

    แมนลีย์เสริมว่า เป็นไปได้ที่อุปกรณ์ดังกล่าวอาจทำงานเนื่องจากมีบางคนไปจับ เตะ หรือสัมผัสสายดึงชนวน พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนที่อยู่ในรัศมีครึ่งไมล์จากที่เกิดเหตุ งดออกจากบ้าน และแจ้งว่า เจ้าหน้าที่จะห้ามเข้าออกจากพื้นที่ดังกล่าวเพื่อทำการตรวจสอบอย่างน้อยจนถึงรุ่งเช้าวันจันทร์ (19 มี.ค.)

    นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบกระเป๋าเป้ต้องสงสัยใบหนึ่งที่พบในที่เกิดเหตุ

    ทั้งนี้ ผู้ได้รับบาดเจ็บในเหตุระเบิดล่าสุดเป็นชายหนุ่มวัย 20 ปีโดยประมาณ 2 คน ตำรวจเผยว่า ทั้งสองคนไม่มีอันตรายถึงชีวิต

    เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุระเบิดครั้งที่ 4 ที่เกิดขึ้นในออสตินในช่วงเวลาไม่ถึง 3 สัปดาห์ โดยในครั้งแรกระเบิดถูกซุกซ่อนในกล่องพัสดุและระเบิดในบ้านหลังหนึ่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเมื่อวันที่ 2 เดือนนี้ ทำให้ชายวัย 39 ปีเสียชีวิต ส่วนระเบิดอีกสองครั้งบรรจุในกล่องพัสดุเช่นเดิมและเกิดเหตุทางใต้ของเมืองเมื่อวันที่ 12 ทำให้วัยรุ่นวัย 17 ปีคนหนึ่งเสียชีวิต ผู้เป็นแม่และหญิงชราวัย 75 ปีอีกคนได้รับบาดเจ็บ

    ตำรวจระบุว่า เหตุการณ์ทั้งสามครั้งมีแนวโน้มเกี่ยวพันกัน และเกี่ยวข้องกับกล่องพัสดุที่ส่งไปรษณีย์หรือจัดส่งโดยบริษัทจัดส่งพัสดุเอกชน ซึ่งไปส่งไว้ที่หน้าประตูบ้านเป้าหมายในยามวิกาล แรก

    ทีเดียวนั้น แมนลีย์ชี้ว่า อาจเป็นอาชญากรรมจากความเกลียดชังเนื่องจากเหยื่อทั้งหมดเป็นคนดำหรือฮิสปานิก แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่สอบสวนไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ใดๆ

    สัปดาห์ที่แล้ว แมนลีย์เรียกร้องให้ประชาชนที่ได้รับพัสดุที่ไม่คาดคิดโทรแจ้งทางการ และห้ามแตะต้องหรือเปิดพัสดุดังกล่าวเด็ดขาด ซึ่งปรากฏว่า ตำรวจได้รับแจ้งนับร้อยสายแต่ไม่พบวัตถุที่เป็นอันตรายแต่อย่างใด

    เหตุระเบิดครั้งล่าสุดยังเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากทางการประกาศเพิ่มรางวัลอีก 50,000 ดอลลาร์ เป็น 115,000 ดอลลาร์สำหรับผู้ให้เบาะแสที่นำไปสู่การจับกุมผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดสามครั้งแรก

    เหตุระเบิดเมื่อวันอาทิตย์ยังเกิดขึ้นในวันสุดท้ายของเทศกาลดนตรีเซาธ์ บาย เซาธ์เวสต์ ที่จัดขึ้นในออสตินเป็นประจำทุกเดือนมีนาคม และดึงดูดแฟนเพลงเข้าร่วมนับแสนคน รวมทั้งเป็นช่วงเวลาสิ้นสุดช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิในหลายเขตการศึกษา ซึ่งครอบครัวต่างๆ ที่เดินทางออกจากเมืองทยอยเดินทางกลับบ้าน

    https://mgronline.com/around/detail/9610000027597
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รมต.ต่างประเทศอังกฤษบอก รัสเซียปัดวางยาพิษสายลับสองหน้าเป็น “เรื่องน่าขัน” เผยแพร่: 19 มี.ค. 2561 17:28: โดย: MGR Online
    561000002871301.jpg
    รอยเตอร์ – รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษวิพากษ์วิจารณ์มอสโคในวันนี้ (19) เกี่ยวกับการใช้สารทำลายประสาทกับอดีตสายลับสองหน้าชาวรัสเซียในอังกฤษ โดยเรียกการปฏิเสธความรับผิดชอบของรัสเซียว่าเป็น “เรื่องน่าขันมากขึ้นเรื่อยๆ”

    บอริส จอห์นสัน ซึ่งกำลังจะบรรยายสรุปต่อเหล่ารัฐมนตรีสหภาพยุโรปในกรุงบรัสเซลในวันนี้ (19) ยังได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรปอีกครั้ง ถึงแม้ว่านักการทูตหลายคนจะเตือนว่า ไม่น่าจะมีการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจชุดใหม่ต่อรัสเซียจากเรื่องนี้

    “การปฏิเสธของรัสเซียนั้นน่าขบขันมากขึ้นเรื่อยๆ” จอห์นสัน บอกกับผู้สื่อข่าวในขณะที่เขามาถึงการประชุมประจำเดือนนี้ซึ่งมีขึ้นหนึ่งวันหลังจาก วลาดิมีร์ ปูติน ชนะการเลือกตั้งอีกครั้งและครองตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียต่ออีก 6 ปี

    “นี่เป็นกลยุทธ์ดั้งเดิมของรัสเซีย พวกเขาหลอกใครไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” จอห์นสัน กล่าว

    “แทบไม่มีประเทศใดเลยในที่นี้ในบรัสเซลส์ที่ไม่เคยได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมอันร้ายกาจและเกเรของรัสเซีย” เขากล่าวเสริม

    รัสเซียปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับความพยายามฆ่า เซอร์เกย์ สกริปัล และ ยูเรีย ลูกสาวของเขาในสิ่งที่เรียกว่าเป็นการใช้ก๊าซทำลายประสาทครั้งแรกในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
    561000002871302.jpg
    เมื่อวันเสาร์ (17) มอสโคประกาศขับไล่นักการทูตอังกฤษ 23 คนในการตอบสนองแบบตาต่อตากับการตัดสินของอังกฤษเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ขับไล่นักการทูตรัสเซียจำนวนเท่ากันออกจากลอนดอน

    เมื่อวานนี้ (18) จอห์นสันกล่าวหาว่ารัสเซียเก็บสะสมสารทำลายประสาทยุคโซเวียต โนวิชอค (Novichok) ที่ถูกใช้กับพ่อลูกสกริปัล ข้อกล่าวหาที่รัสเซียก็ปฏิเสธ พวกเขาถูกพบหมดสติในเมืองซาลิสบูรีของอังกฤษเมื่อวันที่ 4 มีนาคมและยังคงอยู่ในอาการสาหัสในโรงพยาบาล

    เมื่อมาถึงการประชุมที่บรัสเซลส์ในวันนี้ (19) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ของเยอรมนี ไฮโก มาสส์ แสดงความสนับสนุนอังกฤษ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอียูทั้ง 28 คนคาดว่าจะออกถ้อยแถลงร่วมเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าวในวันนี้ (19)

    ถึงแม้จะไม่มีแนวโน้มว่าจะมีการเห็นชอบคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมในวันนี้ (19) แต่นายกรัฐมนตรี เทเรสซา เมย์ ของอังกฤษจะมีโอกาสเสนอวาระของเธอเพื่อขอมาตรการใดๆ ก็ตามในการประชุมซัมมิทอียูในวันพฤหัสบดี (22) หรือเรียกร้องให้ชาติอื่นๆ ขับไล่นักการทูตด้วย

    “เราต้องการกดดันรัสเซียให้เข้าร่วมการสืบสวนเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าว” ดิดิเยร์ เรนเดอร์ส รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของเบลเยียม บอกกับผู้สื่อข่าว

    https://mgronline.com/around/detail/9610000027551
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อดีตนายพลสี่ดาวอเมริกันระบุชัดๆ ทรัมป์คือ ‘ภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ’ เผยแพร่: 19 มี.ค. 2561 16:04: โดย: MGR Online
    561000002861001.jpg
    ฮัฟฟ์โพสต์/อินดีเพนเดนต์ – นายพลสี่ดาวเกษียณอายุของสหรัฐฯ ออกมาระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คือภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา

    พลเอก แบร์รี แมคแคฟฟรีย์ (Barry McCaffrey) ตั้งข้อกล่าวหาเช่นนี้ในข้อความที่เขาโพสต์ทางทวิตเตอร์ โดยเขาบอกว่า ทรัมป์ “ตกอยู่ใต้การบงการ” ของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และพลังต่างๆ จากฝ่ายรัสเซีย

    “ด้วยความลังเลใจแต่ผมต้องขอสรุปว่า ประธานาธิบดีทรัมป์คือภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ” แมคแคฟฟรี เขียนในข้อความที่เขาโพสต์ “เขากำลังปฏิเสธไม่ยอมปกป้องคุ้มครองผลประโยชน์ต่างๆ ที่สำคัญยิ่งยวดของสหรัฐฯ จากการถูกโจมตีอย่างกระตือรือร้นจากฝ่ายรัสเซีย มันดูเหมือนกับว่าด้วยเหตุผลที่ไม่เป็นที่ทราบกันบางประการ เขากำลังตกอยู่ใต้การบงการของมิสเตอร์ปูติน”

    แมคแคฟฟรีย์เป็นอดีตนายทหารที่ได้รับเหรียญตราเครื่องราชอิสริยาภรณ์มากมาย และเวลานี้ทำหน้าที่เป็นนักวิเคราะห์ให้แก่ฝ่ายข่าวของเครือข่ายโทรทัศน์เอ็นบีซีของสหรัฐฯ (NBC News) เขายังเคยทำงานให้คณะบริหารของประธานาธิบดีบิลล์ คลินตัน ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ในตำแหน่งผู้อำนวยการของสำนักงานนโยบายควบคุมยาเสพติดแห่งชาติ (Office of National Drug Control Policy)

    รัสเซียนั้นถูกกล่าวหาว่าเข้าแทรกแซงก้าวก่ายการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 ของสหรัฐฯ ด้วยการใช้บ็อตทวิตเตอร์จำนวนมาก และลงโฆษณาทางเฟซบุ๊กอย่างมีเป้าหมาย เพื่อทำให้ผลการเลือกตั้งเอนเอียงมาในทางเป็นประโยชน์แก่ทรัมป์ โดยที่ตั้งแต่ทรัมป์ชนะและขึ้นเป็นประธานาธิบดี เขาแสดงท่าทีลังเลไม่อยากตอบโต้เล่นงานปูตินและรัฐบาลของเขาจากการที่เข้าก้าวก่ายแทรกแซงการเลือกตั้งดังกล่าว

    ตั้งแต่การเลือกตั้งคราวนั้นแล้วเช่นกัน ยังมีคำถามตัวโตๆ ที่ยังต้องการคำตอบ ในเรื่องที่ว่าตัวทรัมป์เองและทีมงานของเขามีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหนในการแทรกแซงการเลือกตั้งของรัสเซียนี้ และพวกสมาชิกในทีมรณรงค์หาเสียงของทรัมป์มีการสมรู้ร่วมคิดกับความพยายามนี้ของฝ่ายรัสเซียหรือไม่
    561000002861002.jpg
    ขณะที่ทรัมป์ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้มีการสมคบคิดระหว่างเขากับรัสเซีย แต่การสอบสวนที่ดำเนินการโดย โรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพิเศษของกระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วก็ได้นำไปสู่การกล่าวโทษฟ้องร้องบุคคลหลายคนซึ่งใกล้ชิดกับทรัมป์หรือกับทีมรณรงค์หาเสียงเมื่อปี 2016 ของเขา

    การฟ้องร้องกล่าวโทษเหล่านี้ส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่ความผิดอาชญากรรมทางการเงินซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแทรกแซงของฝ่ายรัสเซีย อย่างไรก็ดีมีการเสนอทฤษฎีว่า ทีมงานของมุลเลอร์พยายามใช้การฟ้องร้องกล่าวโทษเหล่านี้ด้วยจุดประสงค์ที่จะบีบบังคับให้ผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายของพวกเขา ต้องยอมเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับความพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งของฝ่ายรัสเซีย

    ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังถูกกล่าวหาจากฝ่ายปรปักษ์และสื่อจำนวนมากว่า ใช้ท่าทีเงียบเฉยอย่างเป็นปริศนา เมื่อเผชิญการยั่วยุท้าทายจากรัสเซีย

    เป็นต้นว่า ตอนต้นเดือนมีนาคมนี้ ปูตินคุยโวเกี่ยวกับสมรรถนะด้านอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซีย โดยที่วิดีโอจำลองภาพสถานการณ์ที่เขานำเสนอนั้นดูเหมือนทำเป็นเป็นภาพขีปนาวุธนิวเคลียร์รุ่นต่อไปของแดนหมีขาว กำลังถล่มใส่รัฐฟลอริดา แต่ปรากฏว่าทรัมป์ยังไม่เคยแสดงปฏิกิริยาตอบโต้เรื่องนี้เลย

    เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พลเรือเอก ไมเคิล โรเจอร์ส (Michael Rogers) ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Agency) และผู้บัญชาการของกองบัญชาการไซเบอร์ของสหรัฐฯ (US Cyber Command) กล่าวระหว่างไปให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการการทหารของวุฒิสภาว่า ทรัมป์ไม่ได้ให้อำนาจใดๆ แก่เขาในการใช้ปฏิบัติการเพื่อเล่นงานตอบโต้การโจมตีทางไซเบอร์ของฝ่ายรัสเซีย

    เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (15 มี.ค.) คณะบริหารทรัมป์ได้ประกาศแซงก์ชั่นชาวรัสเซียและองค์กรหลายแห่งของรัสเซีย จากการที่เข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯเมื่อปี 2016 และทำการโจมตีทางไซเบอร์ ทว่าพวกนักวิจารณ์พากันลดทอนน้ำหนักของการแซงก์ชั่นคราวนี้โดยบอกว่ามันน้อยเกินไปและล่าช้าเกินไป

    https://mgronline.com/around/detail/9610000027486
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    “ดูเตอร์เต” เรียกร้องนานาชาติถอนตัวจากศาล ICC ตามอย่างฟิลิปปินส์
    เผยแพร่: 19 มี.ค. 2561 15:36: โดย: MGR Online
    561000002851101.jpg
    เอเอฟพี - ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ เรียกร้องเมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) ให้ประเทศอื่นๆ ถอนตัวจากการเป็นภาคีศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court - ICC) ซึ่งกำลังดำเนินการสอบสวนสงครามยาเสพติดในแดนตากาล็อก

    ผู้นำขาโหดออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของไอซีซีอีกครั้ง หลังจากรัฐบาลมะนิลาได้ส่งหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการไปยังองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่าฟิลิปปินส์มีความประสงค์ที่จะถอนตัวออกจากธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ (Rome Statute)

    “ผมออกคำสั่งถอนตัวเพื่อประกาศให้โลกรู้ และผมจะทำให้ทุกๆ ประเทศที่ยังอยู่ภายใต้ธรรมนูญฉบับนี้เชื่อว่า จงออกมาเถอะ ออกมาเสีย เพราะมันหยาบคาย” ดูเตอร์เต กล่าวสุนทรพจน์ต่อบรรดาเยาวชนซึ่งสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยฟิลิปปินส์

    “ผู้ที่ร่างธรรมนูญฉบับนี้ขึ้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือสหภาพยุโรป (อียู)” ดูเตอร์เต กล่าว พร้อมกล่าวหาไอซีซีว่ามีอคติต่อ “คนผิวดำ”

    ศาลไอซีซีที่กรุงเฮกได้ประกาศเมื่อต้นเดือนนี้ว่าจะเริ่มเปิดการสอบสวนเบื้องต้นเกี่ยวกับสงครามยาเสพติดของ ดูเตอร์เต เพื่อพิสูจน์ว่าเข้าข่ายก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติหรือไม่

    ดูเตอร์เต วัย 72 ปี ชนะศึกเลือกตั้งเมื่อกลางปี 2016 อย่างถล่มทลาย ด้วยคำมั่นสัญญาว่าจะกำจัดยาเสพติดให้หมดไปจากฟิลิปปินส์ และพร้อมที่จะฆ่าคนเป็นแสนๆ เพื่อให้บรรลุซึ่งเป้าหมายดังกล่าว

    ตำรวจฟิลิปปินส์ยอมรับว่า มีผู้ต้องสงสัยถูกวิสามัญฆาตกรรมไปแล้วราวๆ 4,100 คน ขณะที่องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนระบุว่าตัวเลขที่แท้จริงสูงกว่านั้นประมาณ 3 เท่า

    ไอซีซีก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2002 และเป็นศาลอาชญากรรมสงครามถาวรแห่งเดียวในโลก มีเป้าหมายในการลงโทษผู้ก่อคดีล่วงละเมิดอย่างร้ายแรงซึ่งกระบวนการยุติธรรมภายในประเทศนั้นๆ ไม่เต็มใจหรือไม่สามารถที่จะเอาผิดได้

    รัฐบาลฟิลิปปินส์ส่งหนังสือแจ้งเรื่องการถอนตัวจากไอซีซีไปยังยูเอ็นเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (15) ซึ่งทำให้ไอซีซีออกมาเตือนว่า การกระทำของมะนิลาจะบั่นทอนความพยายามยุติการลอยนวลพ้นผิด (impunity) ของผู้ที่ก่ออาชญากรรมร้ายแรงระดับโลก

    การถอนตัวจากไอซีซีจะมีผลบังคับอย่างเป็นทางการ 1 ปีหลังจากที่รัฐภาคีได้แสดงความจำนง จึงยังไม่อาจยุติการสอบสวนสงครามยาเสพติดได้

    อย่างไรก็ตาม ดูเตอร์เต ประกาศเมื่อวานนี้ (18) ว่า ไอซีซี ไม่สามารถเอาผิดกับตนได้ เนื่องจากการเข้าเป็นภาคีธรรมนูญกรุงโรมของรัฐบาลฟิลิปปินส์ไม่เคยถูกเผยแพร่ให้สาธารณชนรับทราบตามที่กฎหมายท้องถิ่นกำหนด

    ดูเตอร์เต ยังกล่าวหาศาลแห่งนี้ว่าเป็นแค่เครื่องมือของ “พวกผิวขาวงี่เง่าในอียู” ที่ต้องการ “ไถ่โทษ” ความผิดที่พวกเขาเคยกระทำไว้กับแอฟริกาและตะวันออกกลาง

    “คนผิวขาวพวกนี้เข้าไปรุกรานแอฟริกา แถมยังฆ่าคนอาหรับตายเป็นเบือ... นี่จึงเป็นแค่ความพยายามไถ่บาปที่พวกเขาเคยทำไว้ จากนั้นพวกเขาก็ไปจองล้างจองผลาญคนดำอีก ตัวเองก็มีปัญหามากอยู่แล้ว ยังไปก้าวก่ายเรื่องของคนอื่น” ดูเตอร์เต ระบุ

    ฟิลิปปินส์ถือเป็นประเทศที่สองที่ขอถอนตัวจากไอซีซี หลังจากบุรุนดีลาออกเป็นประเทศแรกเมื่อเดือน ต.ค. ปี 2017

    https://mgronline.com/around/detail/9610000027460
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ตุรกีทวงเงินอียู3,000ล้านยูโร เคยสัญญาจะมอบเป็นทุนช่วยเหลือดูแลผู้ลี้ภัยซีเรีย เผยแพร่: 20 มี.ค. 2561 01:01: โดย: MGR Online
    561000002885601.jpg
    รอยเตอร์ - ตุรกึจะถามไถ่สหภาพยุโรปเกี่ยวกับเงินสนับสนุนราว 3,000 ล้านยูโรที่เหลือ ที่เคยให้สัญญาจะมอบแด่อังการา สำหรับเป็นทุนดูแลพวกผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย ระหว่างการประชุมในบัลแกเรียสัปดาห์หน้า จากการเปิดเผยของประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิป แอร์โดอันในวันจันทร์(19มี.ค.)

    ตุรกีได้อ้าแขนรับและต้องดูแลผู้ลี้ภัยจำนวนกว่า 3.5 ล้านคนจากซีเรีย โดยอียูได้จ่ายเงินไปแล้ว 3,000 ล้านยูโร เพื่อช่วยเหลือพวกเขาส่วนหนึ่งในข้อตกลงยับยั้งผู้อพยพจากการไหล่บ่าเข้าสู่ยุโรป อย่างไรก็ตาม แอร์โดอัน เปิดเผยว่าอียูยังไม่ส่งมอบเงินสนับสนุนที่เหลืออีกราว 3,000 ล้านยูโรตามคำสัญญา

    "พวกเขาไม่ทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเรา พวกเขาบอกว่าจะมอบเงิน 3,000 ล้านยูโรบวกกับเงินสนับสนุนอีก 3,000 ล้านยูโร แต่จนถึงตอนนี้มันเข้ามายังเซฟของเรา 850 ล้านยูโร" แอร์โดอันกล่าว "ถ้าพวกคุณกำลังจะมอบเงินเหล่านั้น ก็ทำมันซะ ประเทศแห่งนี้มีเกียรติและคุณไม่สามารถล้อเล่นกับเกียรติภูมิของเราได้"

    ความสัมพันธ์ระหว่างแอร์โดอันกับยุโรปเต็มไปด้วยปัญหาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในขณะที่พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอียูจะพบกับเขาในเมืองวาร์นา ของบัลแกเรีย ประธานหมุนเวียนของกลุ่ม ในวันที่ 26 มีนาคม เพื่อหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย รวมถึงประเด็นระดับภูมิภาคและประเด็นระหว่างประเทศ

    อียู กระพือความขุ่นเคืองของแอร์โดอัน ด้วยการวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำรายนี้ต่อกรณีเดินหน้าปราบปรามพวกผู้สนับสนุนรัฐประหารที่ล้มเหลวเมื่อปี 2016 กระตุ้นให้ประธานาธิบดีตุรกีกล่าวโจมตีชาติสมาชิกอียูบางส่วนหลายต่อหลายครั้ง

    ทางสหภาพยุโรปตอบโต้ด้วยการระดับเงินทุนที่ตุรกีมีสิทธิ์ได้รับในฐานะผู้สมัครเป็นสมาชิกอียู และพักการเจรจาร่วมระหว่างตุรกีและอียู แม้ในความเป็นจริงมันหยุดชะงักมานานแล้วก็ตาม

    อย่างไรก็ตามเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อียูแถลงเกี่ยวกับเงินงวดที่ 2 ของเงิน 3,000 ล้านอียูในโครงการต่างๆที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ลี้ภัยชาวซีเรียในตุรกี "ตอนนี้พวกเขากำลังหาเรือเงินงวดสอง แต่เรายังไม่ได้รับแม้กระทั่งเงินงวดแรกเลยด้วยซ้ำ" แอร์โดอันกล่าว "หากพวกเขาขอเวลาตัดสินใจ นั่นก็เป็นทางเลือกของพวกเขา แต่เราจะนำเรื่องนี้ไปวางลงเบื้องหน้าพวกเขาอีกครั้งในวาร์นา"

    https://mgronline.com/around/detail/9610000027666
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปูตินสัญญาไม่แข่งสะสมอาวุธ-ลดใช้จ่ายกลาโหม มุ่งคลายขัดแย้งชาติอื่น หลังชนะเลือกตั้งถล่มทลาย เผยแพร่: 19 มี.ค. 2561 23:30: โดย: MGR Online
    561000002884701.jpg
    เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ใช้สุ้มเสียงที่เบาลงต่อตะวันตกในวันจันทร์(19มี.ค.) หนึ่งวันหลังจากคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งถล่มทลาย ระบุว่าไม่ปรารถนาแข่งขันสะสมอาวุธ พร้อมให้สัญญาจะลดใช้จ่ายด้านทหารและจะทำทุกอย่างเพื่อคลี่คลายความเห็นต่างกับประเทศอื่นๆ

    ชัยชนะของปูติน จะช่วยขยายอิทธิพลทางการเมืองของเขาในรัสเซียออกไปอีก 6 ปีจนถึงปี 2024 และจะทำให้เขากลายเป็นผู้ปกครองยาวนานที่สุดของประเทศ นับตั้งแต่ โจเซฟ สตาลิน ผู้นำเผด็จการแห่งโซเวียต ขณะที่ชัยชนะครั้งนี้ของเขามีขึ้นในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตะวันตกอยู่ในวงโคจรแห่งความเป็นปรปักษ์

    อย่างไรก็ตาม ปูติน วัย 65 ปี ใช้โอกาสเปิดวังเครมลินต้อนรับเหล่าผู้สมัครที่เขาเอาชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์(18มี.ค.) ส่งสัญญาณถึงความปรารถนามุ่งเน้นให้ความสำคัญกับประเด็นภายในประเทศไม่ใช่ระหว่างประเทศ และจะพยายามยกระดับมาตรฐานการครองชีพของประชาชน ผ่านการลงทุนเพิ่มเติมในด้านการศึกษา, โครงสร้างพื้นฐานและสาธารณสุข ในขณะเดียวกันก็จะลดการใช้จ่ายด้านกลาโหม

    "ไม่มีใครมีแผนเร่งการแข่งขันทางอาวุธ เราจะทำทุกอย่างเพื่อคลี่คลายความเห็นต่างกับพันธมิตรของเราโดยใช้ช่องทางทางการทูตและการเมือง" ปูตินระบุ พร้อมเผยว่ารัสเซียจะลดการใช้จ่ายด้านการทหาร "เรามีแผนลดการใช้จ่ายด้านกลาโหมทั้งในปีนี้และปีหน้า แต่มันจะไม่ทำให้แสนยานุภาพด้านการป้องกันประทศลดลง" เขากล่าว

    คำพูดของเขา ซึ่งแน่นอนว่าจะก่อความเคลือบแคลงในหมู่ชาติตะวันตกอยู่บ้าง หลังจากเผชิญหน้ากันมานานหลายปี ถือเป็นน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป ตามหลังการรณรงค์หาเสียงที่ก้าวร้าว โดยระหว่างนั้น ปูติน ได้เปิดตัวอาวุธนิวเคลียร์ใหม่ที่เขาอ้างว่าสามารถโจมตีได้ทุกหัวระแหงบนโลกใบนี้

    รัสเซียเผชิญหน้ากับตะวันตกในวิกฤตการณ์ต่างๆไม่ว่าจะเป็น ซีเรีย, ยูเครน, คำกล่าวหาโจมตีทางไซเบอร์และแทรกแซงศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ รวมถึงวางยาพิษอดีตสายลับสองหน้าและลูกสาวในอังกฤษ ผลก็คือฉุดความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายดำดิ่งที่สุดนับตั้งแต่ยุคหลังสงครามเย็น

    หลังจากนับคะแนนไปได้เกือบ 100% คณะกรรมการเลือกตั้งกลาง(CEC) แถลงว่า ปูติน ซึ่งปกครองรัสเซียทั้งในฐานะประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่ปี 1999 ได้รับคะแนนโหวต 76.69% และด้วยคะแนนมากกว่า 56 ล้านเสียง มันจึงกลายเป็นชัยชนะครั้งถล่มทลายที่สุดของปูตินและเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดของผู้นำรัสเซียในยุคหลังสหภาพโซเวียตคนไหนๆ

    อย่างไรก็ตามองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป(OSCE) ระบุว่าการจำกัดสิทธิเสรีภาพพื้นฐานเช่นเดียวกับการลงทะเบียนของผู้สมัคร กลายเป็นตัวยับยั้งการมีส่วนร่วมทางการเมืองและขัดขวางการแข่งขัน

    ผู้ท้าชิงที่มีคะแนนใกล้กับปูตินมากที่สุด ได้แก่ พาเวล กรูดินิน จากพรรคคอมมิวนิสต์ โดยได้รับคะแนนโหวต 11.8% ส่วน วลาดิมีร์ ซิรีนอฟสกี ได้ 5.6% ในขณะที่ อเล็กเซย์ นาวัลนี นักรณรงค์ต่อต้านคอรัปชันและแกนนำฝ่ายค้านคนดังที่มีภาษีดีที่สุดที่จะท้าทายเก้าอี้ปูติน โดนตัดสิทธิ์จากการลงชิงชัย

    ทั้งนี้ตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการ พบว่ายอดผู้ออกมาใช้สิทธิ์อยู่ที่ 67.7% ไม่ห่างจากตัวเลข 70% ที่ทางเครมลินวางเป้าหมายไว้ก่อนถึงวันเลือกตั้ง

    ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของเครมลินปฏิเสธข้อบ่งชี้ที่ว่าความตึงเครียดกับตะวันตกเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้คนออกมาใช้สิทธิ์ โดยเขาบอกแต่เพียงว่าผลลัพธ์ที่ออกมา แสดงให้เห็นว่าชาวรัสเซียสนับสนุนอย่างเป็นหนึ่งเดียวต่อแผนพัฒนาประเทศของปูติน

    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เป็นหนึ่งในผู้นำคนแรกที่แสดงความยินดีกับ ปูติน แต่ ไฮโก มาสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ของเยอรมนี ตั้งคำถามว่ามันเป็นการแข่งขันทางการเมืองที่ยุติธรรมหรือไม่

    ส่วนประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในผู้นำตะวันตกไม่กี่คนที่ต่อสายตรงพูดคุยทางโทรศัพท์กับปูตินในวันจันทร์(19มี.ค.) โดยเขาปรารถนาเห็นรัสเซียและประชาชนชาวรัสเซียประสบความสำเร็จในการปฏิรูปประเทศ

    https://mgronline.com/around/detail/9610000027660
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รัสเซียเดินหน้าไม่หยุดเพิ่มถือครองทองคำ รับมือโลกเผชิญความยุ่งเหยิง เผยแพร่: 19 มี.ค. 2561 22:03: โดย: MGR Online
    561000002881801.jpg

    รัสเซียทูเดย์ - เผยธนาคารกลางรัสเซีย (ซีบีอาร์) เพิ่มการถือครองทองคำในทุกๆเดือนมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2015 และปัจจุบันมีทองคำสะสมพุ่งแตะระดับ 455,000 ล้านดอลลาร์ สูงสุดในประวัติศาสตร์ ด้วยมีเป้าหมายป้องกันประเทศจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์

    จากข้อมูลของธนาคารกลางรัสเซียพบว่าทองคำสำรองของพญาหมีระหว่างวันที่ 2 ถึง 9 มีนาคม แตะระดับ 455,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงสุดเป็นประวัติการณ์และเป็นระดับที่ไม่พบเห็นมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2014

    "ทองคำสำรองระหว่างประเทศของเราเพิ่มขึ้นอีก 2,900 ล้านดอลลาร์หรือ 0.6% ในสัปดาห์เดียว" ธนาคารกลางรัสเซียกล่าว

    เมื่อเดือนมกราคม รัสเซียแซงหน้าจีน ซึ่งมีทองคำสำรอง 1,843 ตัน ขยับขึ้นมาติด 1 ใน 5 ชาติและสถาบันที่ถือครองทองคำมากที่สุดในโลก เป็นรองเพียงสหรัฐฯ, เยอรมนี, กองทันการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) และฝรั่งเศส

    ทั้งนี้ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา มอสโกและปักกิ่งเร่งยกระดับการสะสมทองคำ เพื่อลดการพึ่งพิงดอลลาร์สหรัฐฯ

    ตามข้อมูลของสภาทองคำโลกพบว่าเมื่อปีที่แล้ว ธนาคารกลางรัสเซียกลายเป็นหนึ่งในผู้นำโลกในด้านสะสมทองคำ

    สถิติชี้ว่าธนาคารกลางแห่งนี้ยกระดับการซื้อทองคำเป็น 2 เท่า ซึ่งการเพิ่มคลังสำรองทองคำของรัสเซียก็เพื่อเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เพื่อให้ประเทศเข้มแข็งพอที่จะรับมือกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์

    นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา คลังสำรองทองคำของรัสเซียเพิ่มขึ้นกว่า 500%

    ในขณะเดียวกันรัสเซียยังเป็นผู้ผลิตโลหะมีค่าชนิดนี้รายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก โดยแค่ทศวรษที่ผ่านมาทศวรรษเดียว รัสเซีย ผลิตแร่ทองคำได้มากกว่า 2,000 ตัน และคาดหมายว่ากำลังผลิตรายปีของประเทศจะเพิ่มขึ้น 400 ตันในปี 2030

    รัฐบาลรัสเซียซื้อแร่ทองคำที่ผลิตในประเทศราว 2 ใน 3 โดยเป็นการซื้อผ่านธนาคารท้องถิ่น ในขณะที่เครมลินมองว่าโลหะมีค่าชนิดนี้เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงเวลาแห่งความยุ่งเหยิงทางภูมิรัฐศาสตร์

    https://mgronline.com/around/detail/9610000027631
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์

    กองเรือรบอเมริกาเตรียมพร้อมที่ภาคตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน:

    สมัยศตวรรษที่ ๑๙ ซึ่งเป็นยุคที่มีชาตินักล่าอาณานิคมหลายชาติมารุกรานเอเซีย อ่านประวัติแต่ละชาติที่อยู่รอบๆ เมืองไทย ไม่ว่าพม่า ลาว กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ แม้กระทั่งอินเดีย จีน ต่างก็ถูกชาตินักล่าอาณานิคมอย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส อเมริกา โปรตุเกส ดัทช์ ใช้อาวุธที่เหนือกว่าล่าหรือปล้นเอาทรัพยากรไปทั้งนั้น บางทีมันเอาเรือปืนไฟที่ทันสมัยมาเทียบท่าเพื่อทำสัญญาอย่างไม่เป็นธรรมก็มี

    พอสิ้นสงครามโลกครั้งที่ ๒ มีสหประชาชาติขึ้นมา จะล่าอาณานิคมเหมือนเก่าแต่เพียงชาติเดียวก็จะถูกตราหน้าว่าป่าเถื่อน ประเทศอดีตนักล่าอาณานิคมสมัยก่อน จึงมาสุมหัวกันควบคุมสหประชาชาติและก่อตั้งกลุ่มประเทศนาโต้ขึ้นมาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์

    วันดีคืนดี ชาติที่เคยเป็นนักล่าอาณานิคมป่าเถื่อนเหล่านี้ก็แท็คทีมกันมาปล้นอิรัก ลิเบีย ได้ทองมหาศาลกลับไปแบ่งกัน พอปล้นอิรัคและลิเบียอย่างง่ายดายก็คิดจะพากันปล้นซีเรียต่อ กลับปรากฎว่าซีเรียไหวทัน ขอให้รัสเซียช่วย รัสเซียจึงยกกองทัพมาช่วย แก๊งชาตินักล่าอาณานิคมจึงยึดซีเรียไม่ได้สักที ตอนนี้ ได้ตกลงจะยาตราทัพเรือมาพร้อมกันที่ด้านตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

    เปรียบเทียบแสนยานุภาพกันครับ

    ๑.กองทัพเรือรัสเซียมีเรือรบซึ่งรวมทั้งฟรีเกตรวมทั้งหมด ๕ ลำ (วันศุกร์ที่แล้วเพิ่มมาอีก ๒), เรือส่งกำลังบำรุง ๒ ลำ, เรือปฏิบัติการสงครามอีเล็กทรอนิกส์ ๑ ลำและเรือดำน้ำ ๓ ลำ ในจำนวนเรือดำน้ำนี้มี ๒ ลำเป็นชั้นกิโล อีกลำไม่มีรายงาน

    ๒.กองเรือรบอเมริกาและแก๊งพันธมิตร เห็นได้ชัดว่าฝ่ายอเมริกาและพันธมิตรมีเรือรบเยอะกว่า เพราะอเมริกามีกองเรือรบที่ ๖ ซึ่งปฏิบัติการอยู่รอบๆ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและซ้อมรบกับกลุ่มประเทศนาโต้ประจำ นอกจากเรือรบที่เห็นตามผิวน้ำแล้ว ซึ่งประกอบไปด้วยเรือฟรีเกต (ชื่อที่ปรากฎคือ the USS Oak Hill, the Iwo Jima, the USS New York, the USS William McClean) และเรือบรรทุกเครื่องบินต่างๆ แล้วยังมีเรือดำน้ำอีกจำนวนหนึ่งอยู่ด้วย ส่วนพันธมิตรก็มีเรือฟรีเกตของฝรั่งเศส ๒ ลำที่ภาคใต้ของไซปรัส, เยอรมนีมีเรือฟรีเกต ๑ ลำ ส่วนอังกฤษมีฐานทัพที่ประเทศไซปรัส ยังไม่มีข้อมูลระบุว่าส่งเรือรบมาเสริมด้วยหรือไม่

    ดูๆ ไปแล้วทำท่าจะเหมือนในสามก๊ก ตอนโจโฉแตกทัพเรือที่ผาแดง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีหุ่นเชิดของรัฐบาลเงาในอเมริกาขณะนี้เปรียบได้กับโจโฉ ส่วนผู้นำรัสเซียกับซีเรียตอนนี้ก็คงอุปมาเหมือนซุนกวนกับเล่าปี่สามัคคีกันรับมือโจโฉนั่นแหละ

    ผมคิดว่าถ้าประทุกันขึ้นมาจริง เครื่องมือทำสงครามอีเล็กทรอนิกส์ที่กองทัพรัสเซียมีน่าจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมครับ
    ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๑
    หมายเหตุ: ๑.ถ้าจะแชร์ ไม่ต้องขออนุญาตแต่โปรดอ้างที่มาให้ชัดเจน ๒.หากจะวิจารณ์โปรดใช้คำสุภาพ สองข้อนี้สำคัญเพื่อป้องกันมิให้ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ โปรดสะกดใช้คำให้ถูกต้องตาม *หลักภาษาไทย* ด้วย ข้อความวิจารณ์ที่ *หยาบ* และ *สะกดผิด* หรือ *ไร้สาระ* จะลบออกทุกครั้งที่เห็นครับเห็น ๓.ถ้าอยากติดตามข่าวต่างประเทศมากกว่าเพจนี้ ติดตามได้ที่ https://vk.com/bodhinanda แต่ว่าต้องระบุชื่อ นามสกุลจริง รูปจริงในโปรไฟล์ของสมาชิกด้วยครับ

    https://southfront.org/u-s-deploys-...ns-militants-for-false-flag-chemical-attacks/
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    จับตา!ครม.เคาะปฏิรูปตำรวจเพิ่มเงินเดือนอัดฉีดสวัสดิการ
    20 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 09:03 น.
    image_big_5ab06bd819c11.jpg

    20 มี.ค.61- การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ มีวาระพิจารณาอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ ตามที่ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) เป็นผู้เสนอ

    สาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติองค์ประกอบอำนาจหน้าที่คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ให้กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ตำรวจ ยกเลิกอำนาจการคัดเลือกแต่งตั้ง ผบ.ตร. แก้ไขปรับปรุงหน้าที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีอำนาจพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้ง ผบ.ตร.

    แก้ไขกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจทุกระดับและกำหนดให้มีคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ระดับกองบัญชาการ ทำหน้าที่แต่งตั้งข้าราชการตำรวจ

    นอกจกนี้ยังกำหนดพิจารณาบำเหน็จความชอบเลื่อนเงินเดือนเป็นรูปแบบคณะกรรมการ กำหนดให้มีคณะกรรมการพิจารณาร้องทุกข์เป็นหลักประกันการตรวจสอบการใช้อำนาจแต่งตั้งโยกย้าย

    ก่อนนี้นายมานิจ สุขสมจิตร คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม(ตำรวจ) เปิดเผยว่ามีการพูดถึงประเด็นการเพิ่มค่าตอบแทนและสวัสดิการของข้าราชการตำรวจ ตามที่คณะอนุกรรมการด้านการบริหารบุคคลเสนอให้พิจารณา งานตำรวจเป็นงานที่มีความเสี่ยงมากกว่าข้าราชการพลเรือนสามัญอยู่ระหว่าง 13.56-22.57เท่า ซึ่งในต่างประเทศนั้นค่าตอบแทนของตำรวจชั้นประทวนกับค่าตอบแทนของข้าราชการพลเรือนสามัญมีสัดส่วน ความเสี่ยง 1.28 ต่อ 1 ส่วนระดับสัญญาบัตรมีสัดส่วน 1.74 ต่อ 1

    จากผลการวิจัยโดยมูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง เสนอว่าข้าราชการตำรวจในสายงานป้องกันปราบปรามซึ่งมีความเสี่ยงเฉพาะในการปฏิบัติหน้าที่มากกว่างานตำรวจในกลุ่มงานอำนวยการและกลุ่มงานสนับสนุนคิดเป็นค่าเฉลี่ย 2.66 ต่อ 2.97 จึงควรได้รับเงินเพิ่มในระดับชั้นประทวนเป็นเงิน 4,300-5,000 บาท ต่อเดือนและในระดับสัญญาบัตรเป็นเงิน 18,500-21,500บาทต่อเดือน จะมีผลทำให้ตำรวจในสายงานป้องกันปราบปรามตำแหน่ง ผบ.หมุู่ที่จบจากโรงเรียนนายสิบ ได้เงินเดือนแรกบรรจุเดือนละ 9,330 บาทบวกเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว 2,000 บาท และเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งอีก 4,300-5,000 บาท รวมรายได้เดือนละ 15,630-16,330 บาท

    ส่วนตำแหน่งรองสารวัตรที่จบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจควรจะได้รับเงินเดือนๆแรกบรรจุ 15,290 บวกกับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่ง 18,500-21,500 บาทจะทำให้มีรายได้เดือนละ 33,790-36,790 บาท

    นอกเหนือจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจยังเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการด้านการบริหารงานบุคคลที่ให้ปรับอัตราการจ่ายเงินค่าตอบแทนการสอบสวนคดีอาญาหรือที่เรียกว่า ”ค่าทำสำนวน” เพิ่มขึ้นอีก 100% เพราะอัตราที่ใช้อยู่ กำหนดไว้เมื่อ พ.ศ. 2534 และยังมิได้ปรับเพิ่มในขณะที่ค่าครองชีพและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ.



    http://www.thaipost.net/main/detail/5380
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    deepsnews_1521517536_4977.jpg
    เสื่อม...ฉาววงการครู !!?? แฉยับ "อบรมพัฒนาครูอาเซียน" สั่งลุก-นั่ง ให้ถอดทีละชิ้น พีคหนัก ! ขรก.ผู้ใหญ่รู้เห็น (มีภาพ)

    เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2561 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก ANTI SOTUS ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความแฉกิจกรรมงานอบรมพัฒนาครูอาเซียน รุ่นที่ 1 โดยมีภาพหลุดออกมาเป็นภาพกิจกรรมหนึ่งที่มีครูผู้ชายยืนเรียงหน้ากระดาน เอามือไพร่หลังไม่ได้สวมเสื้อ แต่ท่อนล่างยังคงสวมกางเกงสีกากีและรองเท้าอยู่

    29386346_1622815701105479_4477447198447492461_n.jpg

    ทางเพจระบุข้อความว่า

    แชร์ไปให้ไปศาล เรื่องนี้ ต้องการคำตอบ
    @แอดมินประธานกลับมาแล้ววว

    วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2561 ในงานการอบรมพัฒนาครูผู้ช่วยสู่การเป็นครูมืออาชีพในประชาคมอาเซียน ประจำปี 2561 รุ่นที่ 1 ณ จังหวัดนครนายก คำถาม กิจกรรมนี้ส่งผลต่อการพัฒนาครูในประชาคมอาเซียนอย่างไร ครูผู้ช่วยทุกท่านใส่ชุดราชการ และมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อยู่ในการอบรมนั้นด้วย

    ข้อมูลจากแหล่งข่าว บอกว่า นี่คือกิจกรรมที่เชื่อมโยงให้เห็นถึงความเสียสละ โดยให้ผู้ชายในแต่ละกลุ่มออกมากลุ่มละ 1 คน เริ่มจากการถอดป้ายชื่อ ถอดรองเท้า มาจนถึงถอดเสื้อ โดยก่อนหน้า นอกจากเสื้อราชการแล้ว ทุกคนมีเสื้อกล้ามข้างใน ก็ถูกให้ถอดออกอยู่ดี คำถามคือกิจกรรมเหล่านี้ มีประโยชน์อย่างไรต่อการศึกษา

    ครูก็คือผู้เรียน ซึ่งมีหน้าที่สอนและยังต้องเรียนรู้ ถ้าวิธีการบวนการอย่างนี้ยังมีอยู่ในครู และหากกระบวนการนี้ถูกยอมรับโดยครู การรับน้องหรือกิจกรรมต่างๆที่ละเมิดสิทธิเด็กในโรงเรียนจะหมดไปจากสังคมหรือไม่

    29389069_1622809401106109_4173993652652031505_n.jpg

    ต่อจากนั้นได้เผยแพร่รูปภาพอีกเป็นภาพกิจกรรมเพิ่มเติมในมุมต่างออกไป

    29356373_1622912171095832_6538595360757793416_n.jpg

    สพม .4 ต้องมีคำตอบ อบรมพัฒนาครูอาเซียน โดนการลุกนั่ง ให้ถอดชุดข้าราชการ ให้ถึงขนหน้าแข้ง และให้ดึงขนจมูก โดยมีครูที่เป็นสุภาพสตรีอยู่ในนั้นจำนวนมากด้วย ให้ถอดเหลือแต่กางเกงข้าราชการ ซึ่งมาตราครุฑติดอยู่ที่เข็มขัด แบบนี้ถูกต้องหรือไม่

    29386587_1622912194429163_5391810992893103816_n.jpg

    29356833_1622912701095779_6297608893361664665_n.jpg

    29366042_1622912691095780_7510881588212482785_n.jpg

    ขอบคุณ ANTI SOTUS

    http://www.deepsnews.com/contents/qc/2552
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สื่ออิสราเอล รายงาน: การล่มสลายของ “กูต้า” เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลและสหรัฐอเมริกา!
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - 20 มีนาคม 2018
    maxresdefault-696x392.jpg

    Jerusalem Post รายงาน: ความพ่ายแพ้ของกลุ่มกบฏและการล่มสลายของกูต้าตะวันออก เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลและสหรัฐอเมริกา และทั้งสองจะต้องเข้าแทรกแซงโดยเร็วที่สุด

    จากการพิจารณาถึงปฏิบัติการของกองทัพซีเรีย เพื่อปลดปล่อยกูต้าตะวันออกของกรุงดามัสกัส หนังสือพิมพ์ Jerusalem Post ได้เขียนระบุว่า การพ่ายแพ้ของฝ่ายตรงข้าม(กบฏ)ในภูมิภาคนี้ จะเป็นการคุกคามต่อผลประโยชน์ของอิสราเอลและสหรัฐอเมริกา

    ในช่วงเริ่มต้นของบันทึกนี้ ได้อ้างว่า การปรากฏตัวทางทหารของอิหร่านในซีเรียได้ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่ออิสราเอล ทั้งนี้ภัยคุกคามดังกล่าวหมายถึง อิทธิพลของรัสเซียที่เพิ่มขึ้นในซีเรีย และเขียนเสริมว่า: “การล่มสลายของกูต้า จะเป็นการสื่อไปยังความหมายสองประการ ประการแรกอิหร่านจะเป็นนายของกรุงดามัสกัส ซึ่งหมายถึงภัยคุกคามถาวรต่ออิสราเอล ประการที่สอง อเมริกาจะแพ้พ่ายต่อรัสเซียในซีเรีย “

    นอกจากนี้ Jerusalem Post ยังชี้ถึงสถานะของกูต้าตะวันออกว่าเป็น “ฐานสุดท้ายของกลุ่มกบฏที่ตั้งมั่นอยู่ใกล้ดามัสกัส” โดยเขียนว่า: “มีการชุมนุมใหญ่ขององค์กรกลุ่มต่อต้าน โดยไม่มีผู้ก่อการร้าย ISIS แต่มีกลุ่มขบวนการ Jaysh al-Islam ในจังหวัดทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสมาชิกนักรบประมาณ 11,000 คน

    ขบวนการ Filagur-rahman มีนักรบประมาณ 10,000 คน และขบวนการ Ahrar al-Sham มีนักรบมากกว่า 6,000 คน ในบรรดากลุ่มติดอาวุธในพื้นที่ โดยกลุ่มคนเหล่านี้ ไม่ได้จัดอยู่กลุ่มผู้ก่อการร้ายในระดับนานาชาติแต่อย่างใด แต่รัสเซียยืนยันว่าพวกเขาเป็นผู้ก่อการร้าย

    หนังสือพิมพ์อิสราเอลยังอ้างว่า อิหร่านและรัสเซียยังคงละเมิดมติ 2401 ของคณะมนตรีความมั่นคง ในการหยุดยิง โดยอ้างว่า “ทั้งสองต้องการที่จะยึดกูต้ากลับคืนมา และแต่ละฝ่ายก็มีเหตุผลเชิงตรรกะของตัวเอง การล่มสลายของกูต้าสำหรับรัสเซียแล้วหมายถึงการรักษาอำนาจของรัฐบาลซีเรียให้คงอยู่ต่อไป และสร้างความมั่นใจว่า รัสเซียจะมีสถานะอยู่ในซีเรีย และสามารถรักษาฐานทัพของตนได้ในระยะยาว “

    Jerusalem Post ได้อ้างอีกว่า “คำสั่งของอิหร่านในปฏิบัติการกูต้านั้น เพื่อกวาดล้างและยึดเมืองคืนกลับมา และอิหร่านคือ ผู้กุมบังเหียนของดามัสกัสที่แท้จริง และจะสามารถควบคุมถนนเส้นทางจากเตหะราน – เบรุต มันทำให้เตหะรานมีอำนาจและอิทธิพลเหนืออิสราเอลและตะวันตก และเป็นพลังที่จะผลักดันการเจรจานิวเคลียร์ “

    หนังสือพิมพ์อิสราเอลเขียนเสริมว่า สหรัฐฯต้องกังวลในเรื่องนี้ เพราะการล่มสลายของกูต้าจะเป็นการกดดันพื้นที่ของดิรอาและกลุ่มกบฏในภาคใต้ของซีเรีย และสิ่งนี้จะเป็นภัยคุกคามต่ออิทธิพลของอังกฤษและอเมริกันในภาคใต้ของซีเรียเช่นเดียวกับฐานทัพในอัลตันฟ์ ที่ควบคุมโดยพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ

    ในตอนท้ายของบทความนี้ชี้ว่า สหรัฐฯและอังกฤษกำลังสนับสนุนกลุ่มต่อต้าน ที่เรียกว่ากองทัพปลดปล่อยซีเรียในภาคใต้ โดยเขียนเสริมว่า “ถ้าวอชิงตันและอิสราเอลไม่สามารถทำหน้าที่ปกป้องกูต้าได้ หรืออย่างน้อยรักษาความปลอดภัย(ให้กับกลุ่มกบฏ)ทางใต้ของซีเรีย ก็จะเป็นเรื่องหนักอึ้งสำหรับทั้งสองประเทศอย่างแน่นอน เพราะการล่มสลายของกูต้าจะหมายถึง การสูญเสียความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯในกลุ่มฝ่ายต่อต้าน และกลุ่มกบฏของซีเรีย ขณะที่การแทรกแซงอย่างรวดเร็ว (ของสหรัฐฯและอิสราเอล) ต้องรีบดำเนินการ เพื่อหยุดความเข้มแข็งของอิหร่านและความเป็นมหาอำนาจของรัสเซียในซีเรีย ซึ่งมันจะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯและความมั่นคงของอิสราเอล ”

    เอบีนิวส์ทูเดย์
    http://www.abnewstoday.com
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    http://www.abnewstoday.com/12788
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สื่อตุรกี แฉ : 6 ขั้นตอนของ “ 5 ประเทศ” ในการทำลายและแบ่งแยกซีเรีย โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - 18 มีนาคม 2018
    030320180218358098300_3.jpg

    สื่อตุรกีเปิดเผยเนื้อหาของการประชุมลับในสหรัฐอเมริกา โดยเผยถึงแผนการ 6 ขั้นตอนของ 5 ประเทศ เพื่อทำลายซีเรีย

    ในรายงของหนังสือพิมพ์ตุรกี “Star” ได้อ้างถึงแผนการของ 5 ประเทศในการทำลายและแบ่งแยกซีเรีย โดยได้เปิดเผย 6 ขั้นตอนที่ถูกกำหนดวางเพื่อการนี้

    หนังสือพิมพ์ดังกล่าว ที่มีความใกล้ชิดกับรัฐบาลตุรกี รายงานว่า ตัวแทนจากสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส จอร์แดนและซาอุดิอาระเบียได้พบปะกันอย่างลับๆในกรุงวอชิงตันเพื่อเตรียมแผนยุทธศาสตร์ในการทำลายและแบ่งแยกซีเรีย

    รายงานระบุว่าสหรัฐฯเรียกร้องให้จัดตั้งรัฐอิสระขึ้นใหม่ ทางตอนเหนือและตะวันออกของประเทศซีเรีย ภายใต้การนำของพรรคประชาธิปไตย (Democratic Alliance หรือ PYD)

    หนังสือพิมพ์ดังกล่าวยังอ้างว่า หลังจากการเริ่มต้นปฏิบัติการทางทหารของตุรกีในซีเรียตอนเหนือ ที่เรียกว่า ปฏิบัติการกิ่งมะกอก เพนตากอนและกระทรวงกลาโหมอเมริกา ก็ได้เร่งความพยายามที่จะใช้แผนยุทธศาสตร์ในการแบ่งแยกและทำลายซีเรีย และพยายามเชื่อมต่อกับกลุ่มก่อการร้ายชาวเคิร์ดไปยังทะเลเมดิเตอเรเนียน

    หนังสือพิมพ์ Star ยังชี้ถึงรายงานที่คล้ายกันจากหนังสือพิมพ์เลบานอน Al-Akhbar กรณี “หกขั้นตอน” ที่ได้ดำเนินการ โดยประเทศเหล่านี้เพื่อทำลายและแบ่งแยกประเทศซีเรีย ซึ่งมีดังนี้:

    1. จัดตั้ง “รัฐบาลก่อการร้าย” ในภาคตะวันออกและซีเรียตอนเหนือ (หมายถึงกองกำลังชาวเคิร์ด)
    2. ช่วย “รัฐบาลก่อการร้าย” ให้เข้าถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
    3. ให้สหประชาชาติเข้ามาเกี่ยวข้องในการจัดตั้งรัฐบาลนี้และยอมรับสถานะการมีอยู่
    4. ปฏิเสธผลการเจรจาสันติภาพของซีเรียในเมืองอัสตานาและโซซี
    5. ให้อำนาจอเมริกาในการจัดตั้งตัวแทนของรัฐบาลนี้ในสหประชาชาติ
    6. บังคับให้ตุรกียอมรับแผนนี้และหยุดการปฏิบัติการทางทหารในภาคเหนือของซีเรีย
    พื้นที่ที่จะจัดตั้ง “รัฐก่อการร้าย” นี้จะครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ ได้แก่ เขตพื้นที่น้ำมันในเมือง Deirazor ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย

    ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์ Al-Akhlab เคยเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับจดหมายจากสถานทูตอังกฤษในสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการประชุมที่เป็นความลับนี้ ซึ่งเป้าหมายของอเมริกาคือการแบ่งแยกซีเรีย และแบ่งแยกทางตะวันออกของซีเรียออกจากทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศนี้

    Sources: star farsnews

    เอบีนิวส์ทูเดย์
    http://www.abnewstoday.com
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    http://www.abnewstoday.com/12772
     

แชร์หน้านี้

Loading...