ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    IMG_9377.JPG
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    กระทรวงศึกษาธิการ รอผลสอบจาก ป.ป.ง. เพื่อนำมาพิจารณายึดทรัพย์ กลุ่มบุคคลที่ทุจริตเงินกองทุนเสมา พัฒนาชีวิต

    E15B7D27-6E6B-4163-B6BF-B096F8D7DBFD-2493-000002D2307580BA.jpeg

    ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายการุณ สกุลประดิษฐ์ บอกว่า กรณีจะดำเนินการยึดทรัพย์กลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องการทุจริตเงินกองทุนเสมา พัฒนาชีวิต ต้องรอผลการสอบสวนจาก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือป.ป.ง. หากพบเข้าข่ายประมาทเลินเล่อ ก็จะมีมาตรการที่กำหนดไว้ว่าต้องดำเนินการอย่างไร

    ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้า จะมีการประชุมคณะกรรมการกองทุนเสมาฯ เพื่อพิจารณาแนวทางการเยียวยา นักเรียน และครูที่ไม่ได้รับเงิน รวมถึงอนุมัติทุนสำหรับรายใหม่ที่จะเปิดภาคเรียนในปีการศึกษา 2561 และยังจะหารือแนวทางและปรับปรุงการดำเนินงาน และการจ่ายเงิน ของกองทุนนี้ด้วย

    http://www.nationtv.tv/main/content/378610765/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2018
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สาวร้อง! รับงานโชว์เซ็กซี่ เจอข้าราชการซาดิสม์หื่นกระหาย รุมขยี้ ใช้วาจาดูถูก (คลิป)
    วันที่ 22 มีนาคม 2561 - 09:39 น.
    05-29-696x403.jpg
    อีกหนึ่งเรื่องราวความรุนแรงที่ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ สำหรับกรณีที่มีผู้ใช่เฟซบุ๊กชื่อ จุฑาทิพย์ ฉายมณีรักษ์ ที่ได้โพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมเผยเรื่องราวว่า เธอและเพื่อนรับงานเอนเตอร์เทรนโชว์เซ็กซี่ให้กับหน่วยงานราชการหนึ่ง ทว่าต้องเจอชายทั้ง รุมทึ้ง ขยำขยี้ ใช้ความรุนแรง ลากจนหนังเข่าหลุด และยังใช้วาจาถากถางที่เกินกว่าจะรับได้ โดยระบุข้อความว่า

    “จ้างมาเอนเตอร์เทรน เราก็ทำหน้าที่ของเราเต็มที่ เท่าที่เราไหวเอาหน้างานอยู่ ไม่ใช่จ้างมาแล้วจะทำอะไรกะพวกเราก็ได้ มันไม่ใช่ เป็นคนมียศมีศักดิ์แต่คำพูดไม่สมกับยศ คำขอโทษออกจากปากสักคำยังไม่มี ไม่จ้างไม่ว่าคะ ก็ครั้งเดียวเหมือนกัน นี่โดนเหมือนกัน แค่ลากไปแต่ไม่ถึงกะเป็นขนาดนี้ จะเอาลงน้ำอย่างเดียว ขนาดบอกเป็นเมนส์ยังบอก มันมืดไม่มีใครเห็น”

    ทั้งนี้ผู้โพสต์ระบุเพิ่มว่า คนที่โวยวายนี่คือคนจ่ายตังค์นะ ประมาณว่ายังไม่ถึงเวลาเลิกก็จะไม่จ่าย ใครจะอยู่ ถึงเลิกถ้าอยู่ยังเลิกพวกตนไม่กลายเป็นซากเลยเหรอ อีกอย่างจะให้ตามตัวคนที่ทำ โอ้โหทั้งงานหื่นกระหายทุกคน หัวเกรียนทุกคน ใครจะจำได้ว่าใครทำ รูปที่เป็นแผลโดนลากลงน้ำ และน้ำตื้นเท่าหน้าแข้ง ปูนทั้งนั้น โดนลุมในน้ำ พอเห็นเท่านั้นแหละ โหไม่ไหวพอเลย เลิกเลย จบ และดูคำพูดของคนเป็นนายเอาละกัน

    BBC54817-16BB-4E92-9F77-BB433DEC49E2-2493-000002D4E2196C54.jpeg DE05E09C-BC5E-46B6-88BE-F2A0F12BACFA-2493-000002D4E1253C27.jpeg 9F80CD01-24C7-4E41-95B9-0FE4BA3A5781-2493-000002D4E6A2B8D3.jpeg

    https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_870489
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Visudhi Punya

    เวลานี้
    กำลังเกิดรอยแยกของแผ่นดิน
    ขนาดใหญ่และลึกจนน่ากลัวอีกแห่งหนึ่ง
    ในประเทศ #เคนย่า
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    โลกกับเรื่องตลกอันน่าเศร้า
    เผยแพร่: 22 มี.ค. 2561 16:47: โดย: ทับทิม พญาไท

    561000003005001.jpg

    ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ต้อนรับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย
    ว่ากันเรื่องในบ้าน ในเล้า มาพอหอมปาก-หอมคอ...ปิดท้ายสุดสัปดาห์นี้คงต้องลองเปลี่ยนบรรยากาศตามไปดูรายการ “ช้างเหยียบนา-พญาเหยียบเมือง” หรือการเดินทางไปเยือนอังกฤษ อเมริกา อย่างเป็นทางการของมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย เจ้าชาย “MbS” (Mohammed bin Salman) ดูซักนิด เพราะถือเป็นรายการน่าสนใจในระดับที่นักวิเคราะห์อาวุโสแห่งสำนักข่าว “อัล จาซีรา” อย่าง “นายMarwan Bishara” เขาถึงกับจัดให้เป็นรายการ “ตลกเศร้า”(Tragicomedy) ระดับโลก เอาเลยถึงขั้นนั้น...

    เหตุที่ต้องจัดให้เป็นรายการ “ตลกเศร้า” ดังที่ว่า...คงเป็นเพราะบรรดาผู้นำประเทศมหาอำนาจทั้งเก่าและใหม่ อย่างอังกฤษและอเมริกาต่างพร้อมใจกันออกมาสรรเสริญเยินยอ เจ้าชาย “MbS” ในฐานะผู้ที่มีคุณูปการเอามากๆ ต่อการช่วยเหลือกอบกู้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศทั้งสองไล่มาตั้งแต่“นางเทเรซา เมย์” นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่ออกมากล่าวถึงการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพซาอุฯ อันถือเป็นตัวช่วยให้เกิดการจ้างงาน การสร้างรายได้ให้กับประเทศอังกฤษ มูลค่านับพันๆ ล้านดอลลาร์ โดยไม่คิดจะพูดถึงข้อหา“อาชญากรสงคราม” ที่พลเมืองชาวอังกฤษ พยายามไปฟ้องศาลให้เอาผิดต่อเจ้าชาย “MbS” ในกรณีนำเอา “ระเบิดพวง”ซึ่งผลิตขึ้นในประเทศอังกฤษและจัดเป็น “อาวุธต้องห้าม” ไปใช้ถล่มใส่ประชาชนชาวเยเมนเอาเลยแม้แต่น้อย...

    ไม่ต่างไปจากผู้นำมหาอำนาจสูงสุดอย่าง “ทรัมป์บ้า” ที่ถึงขั้นลงทุนถือชาร์ต อวดโชว์กับบรรดาผู้สื่อข่าว ระหว่างการร่วมแถลงข่าวกับเจ้าชาย “MbS” เพื่อแจกแจงรายละเอียดให้เห็นกันจะจะว่าอาวุธประเภทใดบ้างที่กองทัพซาอุฯ คิดจะซื้อจากสหรัฐฯ ในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้า ไม่ว่าเรือดำน้ำ จรวด รถถัง ฯลฯ อันนำมาซึ่งรายได้ให้กับประเทศอเมริกาไม่น้อยไปกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์ตลอดช่วงระยะ 4 ปี ก่อให้เกิดการจ้างงานในสหรัฐฯ ไม่น้อยกว่า 40,000 ตำแหน่ง และเพื่อสร้างความประทับใจให้กับ “ทรัมป์บ้า” หรือกับอเมริกันชนก็แล้วแต่ มกุฎราชกุมารซาอุฯ เลยตัดสินใจ “เกทับ” ขึ้นไปอีกเท่าตัว คือประกาศว่า...จะเพิ่มงบประมาณในการซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ ตลอดช่วง 4 ปีขึ้นไปเป็น 400,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนบรรดาอาวุธเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ทำอะไรบ้าง อันนี้นี่แหละ...ที่ออกไปทาง “น่าเศร้า” หรือต้องกลายเป็น “ตลกเศร้า” ระดับโลกกันเห็นๆ...

    เพราะในช่วงจังหวะเดียวกัน...สำนักข่าว “อัล จาซีรา” เขาได้ไปนำเอา “ปฏิบัติการทิ้งระเบิด” ของกองทัพซาอุฯ และพันธมิตรต่อประเทศที่ได้ชื่อว่า “ยากจนที่สุด” ของโลกอาหรับ หรือแทบทั้งโลกก็ว่าได้ นั่นคือประเทศเยเมน ที่ถูกกองทัพซาอุฯ โดยการตัดสินใจของรัฐมนตรีกลาโหม เจ้าชาย“MbS” เปิดฉากถล่มใส่ตั้งแต่ปี ค.ศ.2015 เป็นต้นมา มาแจกแจงให้เห็นโดยละเอียดอันพอสรุปได้คร่าวๆ ว่า...ตลอดช่วงประมาณเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา บรรดาเครื่องบิน ลูกระเบิด ที่กองทัพซาอุฯ และพันธมิตรซื้อไปจากอังกฤษและอเมริกานั้น ได้ถูกนำมาทิ้งใส่ประเทศเยเมนไปแล้วไม่น้อยกว่า 16,633 เที่ยวบิน สังหารพร่าผลาญผู้คนไม่ต่ำกว่าหมื่นๆ ศพขึ้นไป สร้างความทุกข์ระทม ความอดอยากให้มนุษย์ตาดำๆ จำนวนนับสิบๆ ล้านคน ที่ตกอยู่ในสภาวะขาดอาหาร ขาดน้ำ ขาดยารักษาโรค จนเกิดฉากเหตุการณ์ที่องค์กรระหว่างประเทศ อย่างองค์การสหประชาชาติ ถึงกับต้องใช้คำเรียกขานว่า“โศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดของมวลมนุษยชาติ” นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา...

    ในจำนวน 1 ใน 3 หรือประมาณ 31 เปอร์เซ็นต์ของ “เป้าหมาย” ที่ถูกนำเอาระเบิดไปหย่อนใส่ ล้วนแล้วแต่เป็นเป้าหมายที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการทหารไปด้วยกันทั้งสิ้น หรือจำนวนไม่ต่ำกว่า 1,424 เป้าหมาย ก็คือบ้าน ที่อยู่อาศัย ของพลเรือนผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย ส่งผลให้เด็กๆ ชาวเยเมนไม่ต่ำกว่า 4 ล้านคน ไม่มีโรงเรียนให้เรียน เนื่องจากโรงเรียนไม่น้อยกว่า 1,600 แห่ง ได้ถูกทำลายชนิดราบเรียบเป็นหน้ากลอง แถมบรรดาโรงงานผลิตอาหาร เครื่องดื่ม ไปจนถึงโรงงานปูนซีเมนต์ โรงเลื่อย ฯลฯ จำนวนไม่ต่ำกว่า 57 แห่ง ก็พลอยตกเป็นเหยื่อระเบิดซึ่งถูกผลิตขึ้นในอังกฤษและอเมริกาควบคู่ไปด้วย แม้แต่บรรดาโบราณสถานที่ถือเป็นมรดกของชนรุ่นหลัง ไม่ว่าจะเป็นชาวเยเมนหรือชาวโลกก็ตาม จำนวนไม่น้อยกว่า 44 แห่ง พังพินาศระดับไม่เหลือเศษซากใดๆ เอาไว้เลย ในจำนวนนี้เป็นโบราณสถานที่องค์การยูเนสโกขึ้นป้ายให้เป็น “มรดกโลก” มาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นป้อมโบราณในเมืองซานา ปราสาท Taiz’s Cairo หรือเขื่อนมาริบของพระนางชีบา ราชินีผู้มีชื่อจดจารึกอยู่ในพระคัมภีร์ไบเบิล ฯลฯ ต่างต้องกลายเป็นจุณมหาจุณไปด้วยกันทั้งสิ้น...

    ส่วนบรรดาศาสนสถาน...ที่แม้จะเป็นของชาวอิสลามแท้ๆ ไม่ว่าจะเป็นซุนหนี่หรือชีอะห์ก็ตาม ต่างพังพินาศเรียบวุธไปเป็นแถบๆ รวมทั้งสุเหร่า Al-Hadi ที่มีอายุเก่าแก่ประมาณ 1,200 ปี ก็ยังแทบไม่เหลือเศษซาก พูดง่ายๆ ก็คือว่า...ภายใต้ความแฮปปี้ของผู้นำอังกฤษและอเมริกา อันเนื่องมาจากการได้มาซึ่งเงินๆ ทองๆ ไม่ว่าจะกี่พัน กี่หมื่น กี่แสนล้านดอลลาร์ การได้มีตำแหน่งงานให้กับผู้คนระดับหมื่นๆ ในสองประเทศมหาอำนาจ ต่างหนีไม่พ้นต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวทรมาน ด้วยชีวิต เลือดเนื้อ และน้ำตา ของ “มนุษย์ด้วยกันเอง” อย่างประชาชนชาวเยเมนจำนวนไม่รู้กี่ต่อกี่สิบล้านชีวิต การปูพรมแดงพร้อมกับสรรเสริญเยินยอ“อาชญากรสงคราม” ของผู้นำระดับโลกเหล่านี้ จึงไม่ใช่เป็นแค่ “ตลกแห้ง” แต่หนักไปทาง “Tragicomedy” หรือ “ตลกเศร้า” ที่เรียกเสียงหัวเราะไปพร้อมกับคราบเลือดและคราบน้ำตา ด้วยประการละฉะนี้...

    https://mgronline.com/daily/detail/9610000028802
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    โกงดะ 67ล. เงินพัฒนาชาวเขา ชาวบ้านไม่เคยได้เงินสักบาท
    750x422_796460_1521700761.jpg
    22 มีนาคม 2561

    “จรัมพร” นำทีมป.ป.ท.-สตง. ตรวจศูนย์พัฒนาชาวเขาจ.เชียงใหม่ พบเบิกจ่ายเงินอุดหนุนหลายครั้งใน 15 อำเภอ แต่ชาวบ้านถูกอมเงิน ไม่เคยได้สงเคราะห์สักบาท

    พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ป.ป.ท.) พร้อมด้วยพ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายสัญชาติ อุปนันชัย ผอ.กองอำนวยการต่อต้านการทุจริต และเจ้าหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินงบประมาณประเภทเงินอุดหนุนเฉพาะกิจของศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดเชียงใหม่ โดยงบประมาณที่ได้รับจัดสรรในปี 2560 รวมจำนวน 67,917,000 บาท

    พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวว่า ป.ป.ท. พร้อมด้วยสตง. ได้ลงพื้นที่สอบถามชาวบ้านหมู่ 1 ตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จ.เชียงใหม่ ปรากฏรายชื่อผู้รับเงินสงเคราะห์ จำนวน 36 ราย เป็นบุคคลกลุ่มชาติพันธุ์ จำนวน 31 ราย สัญชาติไทย 5 ราย ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านสัญชาติไทยทั้ง 5 รายและกลุ่มชาติพันธุ์จำนวน 18 ราย ให้ข้อมูลตรงกันว่าไม่เคยได้รับเงินสงเคราะห์ตามที่ปรากฏในเอกสารใบสำคัญรับเงิน แบบ 5 (จำนวน 2,000 บาท) แต่อย่างใด ขณะที่การลงพื้นที่สอบถามข้อมูลชาวบ้านหมู่ที่ 8 ตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จำนวน 36 ราย มีชื่อกำนันตำบลกึ๊ดช้าง เป็นผู้ได้รับเงินสงเคราะห์ด้วย จึงไปสอบถามข้อมูลกำนันคนดังกล่าวได้รับการยืนยันว่า ตนเองและลูกบ้านไม่เคยได้รับเงินสงเคราะห์

    ต่อมาชุดปฏิบัติการจากสำนักงาน ป.ป.ท. ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ท. เขต 5 ได้สอบถ้อยคำ หัวหน้าเขตอำเภอแม่ริม แม่แตง และเชียงดาว จำนวน 3 เขต ที่ปรากฏลายมือชื่อว่าเป็นผู้รับมอบเงินอุดหนุนมาจากศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดเชียงใหม่ โดยหัวหน้าเขตอำเภอแม่ริม รับเงินสดมา จำนวน 2,877,000 บาท หัวหน้าเขตอำเภอแม่แตง รับเงินสดมา จำนวน 5,075,000 บาท และหัวหน้าเขตอำเภอเชียงดาวรับเงินสดมา จำนวน 6,120,000 บาท เพื่อนำมามอบให้กับชาวบ้านในเขตรับผิดชอบตามอำเภอของตนเองนั้น อย่างไรก็ตาม หัวหน้าเขตทั้ง 3 เขต ต่างให้ถ้อยคำสอดคล้องตรงกันว่า ไม่เคยได้รับเงินดังกล่าวแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบเอกสาร พบว่าในปีงบประมาณ 2560 เขตรับผิดชอบอำเภอจอมทอง มีการเบิกจ่ายงบประมาณสูงสุดถึง 11.25 ล้านบาท

    สำหรับลักษณะการใช้จ่ายเงินงบประมาณในจ.เชียงใหม่ จะแบ่งพื้นที่รับผิดชอบ 15 เขตคือ อ.ฝาง มีการเบิกจ่าย 16 ครั้ง จำนวนเงิน 8.5 ล้านบาท อ.พร้าวเบิกจ่าย 12 ครั้ง จำนวนเงิน 9.4 ล้านบาท อ.เวียงแหง เบิกจ่าย 4 ครั้ง จำนวนเงิน 1.1 ล้านบาท อ.เวียงแหง เบิกจ่ายรอบ 2 อีก 8 ครั้ง จำนวนเงิน 1.2 ล้านบาท อ.เชียงดาว เบิกจ่าย 14 ครั้ง จำนวนเงิน 6.1 ล้านบาท อ.กัลยานิวัฒนา เบิกจ่าย 11 ครั้งจำนวนเงิน 2.8 ล้านบาท อ.แม่อาย เบิกจ่าย 14 ครั้ง จำนวนเงิน 5.1ล้านบาท อ.แม่แตง เบิกจ่าย 15 ครั้ง จำนวนเงิน 5 ล้านบาท อ.แม่วาง เบิกจ่าย 14 ครั้ง จำนวนเงิน 3.7 ล้านบาท อ.จอมทอง เบิกจ่าย 16 ครั้ง จำนวนเงิน 11 ล้านบาท อ.แม่ริม เบิกจ่าย 13 ครั้ง จำนวนเงิน 2.8 ล้านบาท อ.ไชยปราการ เบิกจ่าย 10 ครั้ง จำนวนเงิน 1.9 ล้านบาท อ.สเมิง เบิกจ่าย 8 ครั้ง จำนวนเงิน 2.5 ล้านบาท อ.อมก๋อย เบิกจ่าย 9 ครั้ง จำนวนเงิน 3.5 ล้านบาท อ.แม่แจ่ม เบิกจ่าย 7 ครั้ง จำนวนเงิน 2.3 ล้านบาท รวมงบประมาณที่เบิกจ่ายทั้งหมดเป็นเงิน 67.9 ล้านบาท
    http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/796460
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    tnews_1521614212_6641.jpg
    พม.ฉาวไม่หยุด!! ปปช.ตามเช็กบิล เจออีกโกงเงินชาวเขา แฉเจ้าหน้าที่รัฐไร้จิตสำนึก ยกขบวนโกง ไม่ต่างเงินทอนวัด!!?! (มีคลิป) Publisher : 2018-03-21 13:36:52

    วันที่ 20 มีนาคม พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงกรณีตรวจสอบพบการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่า ปปช. ได้ตรวจสอบพบการทุจริตในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งเป็นการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับเงินอุดหนุนสงเคราะห์ชาวเขา จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปแสวงหาข้อเท็จจริง รวมรวมข้อมูล เพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ไปมีส่วนเกี่ยวข้อง

    เบื้องต้น พบว่ามีเส้นทางทุจริตที่ชัดเจน น่าจะเอาผิดกับผู้ทุจริตได้ ส่วนการทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่งที่เชื่อมโยงกับศูนย์นิคมช่วยตนเองนั้น ได้สั่งการให้สำนักไต่สวนภาค 3 ไปแสวงหาข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งเบื้องต้นพบว่า การทุจริตมีรูปแบบคล้ายกรณีทุจริตเงินทอนวัดของ สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ซึ่งต้องดูต้นทางการทุจริตว่า มีผู้บริหารระดับสูงเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยขณะนี้ยังเร็วเกินไปหากจะเร่งสรุปว่า มีข้าราชการระดับไหนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง เพราะขั้นตอนการตรวจสอบต้องรอบคอบ และประสานข้อมูลอย่างละเอียดกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.)


    http://www.tnews.co.th/contents/jd/431039
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    โผล่อีก! แฉเทคนิครร.เอกชน ปลอมใบเกิดเด็ก สร้างนร.ผี โกงเงินแผ่นดินต่อเนื่องนับสิบปี
    วันที่ 22 มีนาคม 2561 - 12:24 น.
    [​IMG]
    23-8-728x455.jpg
    ตะลึง ร.ร.เอกชนเมืองกาญจน์ เพิ่มรายชื่อ น.ร.ผีรับเงินอุดหนุนจากรัฐปีละ 3 แสน ใช้เทคนิคปลอมใบเกิด เผยทำมานานกว่า 10 ปี

    ผู้สื่อข่าวมติชนได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวเกี่ยวข้องกับการทุจริตของสถาบันการศึกษาเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี เปิดสอนระดับอนุบาลจนถึงระดับประถมศึกษา โดยแหล่งข่าวเปิดเผยถึงเทคนิคการทุจริตของผู้บริหารของโรงเรียนด้วยวิธีการสร้างนักเรียนล่องหนขึ้นมา เพื่อเรียกรับเงินอุดหนุนของรัฐจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เป็น รายหัว โดยจากการตรวจสอบรายชื่อนักเรียน ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จ.กาญจนบุรี ซึ่งรับผิดชอบศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ที่จะรับเด็กในช่วงอายุก่อนที่จะเข้าโรงเรียนรัฐ พบว่ามีรายชื่อซ้ำซ้อนกับโรงเรียนดังกล่าว กล่าวคือชื่อเด็กอยู่ในสังกัดของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลแห่งหนึ่งในชั้นเตรียมอนุบาล แต่ในขณะเดียวกันก็กลับมีรายชื่ออยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ในระดับชั้นเรียนอนุบาล หลักสูตร 3 ปี ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม ก็พบรายชื่อเด็กซ้ำซ้อน ชัดเจนกว่า 20 คน โดยมีมีหลักฐานรายชื่อ ซ้ำซ้อนชัดเจน

    แหล่งข่าวระบุต่อว่าธุรกิจโรงเรียนเอกชนถูกกำหนดเรื่องค่าเทอม หากไม่ใช่หลักสูตรพิเศษจะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐประมาณคนละ 15,524 บาทต่อปีเท่ากันทั้งระดับอนุบาลและประถม ซึ่งรัฐจะนำเงินตรงนี้มาอุดหนุนเอกชนเพื่อช่วยประชาชนไม่ให้ค่าเทอมของบุตรหลานสูงมากนัก โดยเงินตรงนี้เป็นส่วนที่จำเป็น เพราะนำไปใช้แม้แต่การจ่ายเป็นเงินเดือนของครู ซึ่งหากคิดเป็นตัวเลขโดยประมาณ ตามหลักฐานที่พบนักเรียนล่องหนคือ 20 คน ผู้บริหารของโรงเรียนก็จะได้รับเงินจากรายชื่อล่องหนดังกล่าวปีละ 310,480 บาท ซึ่งในความเป็นจริงนักเรียนล่องหนดังกล่าวมีมากกว่า 20 คน

    เทคนิคขอใบเกิดมาปลอม

    แหล่งข่าวระบุข้อมูลเพิ่มเติมถึงเทคนิควิธีการได้มาซึ่งนักเรียนล่องหน คือการใช้ใบเกิดของเด็กที่เกิดใหม่ตามโรงพยาบาล โดยผู้บริหารจะสั่งให้เจ้าหน้าที่จัดตะกร้าของขวัญเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กทารกยี่ห้อเดียวกันทั้งหมด โดยจะแอบอ้างว่าโรงเรียนจัดกิจกรรมร่วมกับผลิตภัณฑ์ยี่ห้อดังกล่าว และจะมาแจกให้กับเด็กแรกเกิด มีเงื่อนไขว่าจะขอหลักฐานคือใบเกิดไปยื่นกับบริษัท จากนั้นทางโรงเรียนก็จะเอาใบเกิดมาปลอมแปลง จากเด็กแรกเกิดก็เปลี่ยนตัวเลขอายุเพิ่มอีก 3 ปี ให้สามารถเข้าเรียนในชั้นอนุบาลได้ แหล่งข่าวระบุอีกว่า นอกจากเทคนิคดังกล่าว ยังมีวิธีการอื่นๆ เช่นการให้ครูหรือเจ้าหน้าที่โรงเรียนไปขอใบเกิดจากคนในหมู่บ้าน ที่ทราบว่ามีเด็กเกิดใหม่โดยใช้เทคนิคการจัดตะกร้าของขวัญไปมอบให้เช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่ที่ทำก็ไม่ทราบว่าเป็นหนึ่งในกระบวนการทุจริตของผู้บริหารโรงเรียนเพื่อหารายชื่อนักเรียนล่องหน

    แหล่งข่าวเผยอีกว่า เคยได้รับข้อมูลจากครูที่เคยทำทะเบียนด้านนี้ที่ลาออกไปแล้ว ยอมรับว่าเคยทำบัญชีรายชื่อนักเรียนล่องหนขึ้นมา 1 ห้องเต็มๆ ประมาณ 30-40 คน ซึ่งเป็นเด็กผีไม่มีตัวตนจริงอยู่ในห้องนั้น โดยคนที่ลงชื่อเป็นครูประจำชั้นก็เป็นลูกชายของผู้บริหารที่ไม่มีห้องอยู่จริง

    โกงนานกว่า10ปี-นับร้อยคน

    ทั้งนี้ จากการสอบถามครูที่ลาออกเล่าว่าได้ทำมานับ 10 ปีแล้ว โดยตามที่คำนวณ คือผู้บริหารจะได้เงินปีละ 310,480 บาท ตามจำนวนนักเรียนที่พบชัดเจนว่าไม่มีอยู่จริง แต่จากการสอบถามครูที่ลาออกไปแล้ว คาดว่าน่าจะถึงหลักร้อยคน เมื่อถามว่าการตรวจสอบของหน่วยงานรัฐเป็นอย่างไร แหล่งข่าวระบุว่ากรณีเขตพื้นที่การศึกษามาตรวจ หากเข้มข้นมากก็จะมีการนับตัวเด็ก โดยโรงเรียนแห่งนี้จะใช้วิธีการไม่ให้นักเรียนล่องหนกระจุกอยู่ในหนึ่งห้อง แต่จะใช้วิธีแจกเด็กล่องหนไปตามห้องต่างๆ และวันที่มาตรวจก็จะให้เด็กใส่เสื้อกีฬาของโรงเรียนเพราะไม่มีการปักชื่อ

    แหล่งข่าวเผยอีกว่า คนที่เป็นผู้ตรวจยังส่งลูกชิ้นทอดมาขายในโรงเรียน ได้เงินประมาณ 1,000-2,000 บาทต่อวัน โดยลูกชิ้นดังกล่าวแม้เด็กไม่ซื้อ โรงเรียนก็ต้องรับไว้ในทุกวัน เป็นเงินประมาณเดือนละ 20,000 บาท ทั้งนี้ การทุจริตดังกล่าวได้มีการส่งข้อมูลไปยังสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนแล้ว จึงอยากเรียกร้องไปยังหน่วยงานของรัฐให้เร่งตรวจสอบกรณีดังกล่าว เพราะเป็นการทุจริตงบประมาณแผ่นดิน โดยในส่วนผู้ที่ยังตรวจสอบไม่พบ คาดว่าน่าจะมีอีกเป็นจำนวนมาก

    สช.ทราบเรื่องเร่งตรวจสอบ

    นายชลำ อรรถธรรม รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กล่าวว่า กรณีมีผู้ระบุว่าโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี นำชื่อเด็กจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สังกัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) หรือนำใบเกิดของเด็กแรกเกิดจากโรงพยาบาลมาปลอมแปลงเป็นรายชื่อนักเรียนในโรงเรียนของตน เพื่อจะได้รับจัดสรรเงินอุดหนุนรายหัวจาก ศธ.มากขึ้นนั้นว่า ไม่แน่ใจว่ามีผู้ทำหนังสือแจ้งมาเป็นทางการหรือยัง แต่จะไปตรวจสอบจากกลุ่มส่งเสริมสถานศึกษาเอกชน จ.กาญจนบุรี ว่ามีปัญหาทุจริตลักษณะนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ โดยปัญหาลักษณะนี้มี 2 รูปแบบ คือ 1.ไม่ได้จงใจ เช่น อาจมีความผิดพลาดในการทำงาน ความผิดนี้ต้องคืนเงิน และ 2.หากจงใจทุจริตจริง ต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมายในข้อหาทุจริต ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา และคืนเงินพร้อมดอกเบี้ย

    “ต้องดูเจตนาว่าหากมีการจงใจนำรายชื่อเด็กที่ไม่ใช่นักเรียนในโรงเรียนของตนมาใช้จริง เป็นการสร้างเอกสารอันเป็นเท็จเพื่อให้ได้งบประมาณเงินอุดหนุนรายหัวหรือไม่ เพื่อที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” นายชลำ

    https://www.matichon.co.th/news/885848
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เล่าเรื่อง พระเพทราชา ตกกระไดพลอยโจน
    1-23-696x479.jpg
    ๑ พระเพทราชา (วัย ๕๖ ปี) ตามจินตนาการของจิตรกร (ม. วรพินิต) บนฐานของภาพจิตรกรรม วัดยม อยุธยา
    ที่มา ศิลปวัฒนธรรม ฉบับ กรกฎาคม 2556
    ผู้เขียน ส.สีมา
    เผยแพร่ วันอังคารที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2560
    ชื่อ “เพทราชา” เป็นชื่อที่ผู้เขียนคุ้นเคยอย่างมาก มาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้น ด้วยเป็นชื่อถนนที่อยู่หน้าโรงเรียน และพวกเราก็เดินบนถนนนี้แทบทุกวัน คือ ถนนเพทราชา เป็นถนนเล็กๆ แคบและสั้น ทอดยาวตลอดกำแพงวังด้านใต้ของพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ทางตะวันออกจรดถนนสรศักดิ์และทางตะวันตกจรดถนนพระราม ความยาวของถนนเท่ากับความยาวของกำแพงวัง ประมาณ ๑๘๐ เมตรเท่านั้น พื้นถนนลาดยางดูไม่สู้เรียบร้อย ข้างถนนด้านกำแพงวังมีเพิงพิงกำแพงมีหลังคาคลุม เป็นคอกม้ายาวไปตามกำแพง สลับกับเป็นโกดังรกรุงรัง เก็บฟืนและกระสอบถ่าน ส่วนของถนนอีกด้านเป็นบ้านเรือนเลียบมาจนจรดปากประตูโรงเรียน

    ผู้เขียนในขณะนั้น ไม่ทราบที่มาที่ไปของชื่อนี้มากนัก รู้แต่เพียงว่าเป็นพระนามของพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่ง ผู้เป็นต้นราชวงศ์บ้านพลูหลวง คือ พระเพทราชาหรือพระมหาบุรุษ และรู้สึกต่อมาว่า ถนนเล็กๆ หลังวังสายนี้ ไม่สมพระเกียรติพระมหากษัตริย์ระดับต้นราชวงศ์ ผู้ทรงเคยกระทำการรัฐประหาร ในช่วงปลายสมัยสมเด็จพระนารายณ์ (๒๒๓๑) ไม่เช่นนั้นสยาม (อยุธยา) อาจถูกยึดครองโดยฝรั่งเศสมาตั้งแต่ปีนั้นเลยก็เป็นได้ บางทีจะมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น เพราะถนนในเมืองอีกสายหนึ่ง จากประตูวังด้านตะวันออก (ประตูพยัคฆา) ทอดผ่านวัดราชา (สวนราชานุสรณ์) ไปจรดถนนหน้าพระธาตุ ยังใช้ชื่อเจ้าเมือง คือ ถนนพระยากำจัดฯ(พ.ต.อ. พระยากำจัดโสณฑ์ทุจริต ๒๔๖๖-๖๙) อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นชื่อถนนสายสำคัญสายนั้นได้ ให้ความรู้สึกลึกๆ ถึงความแตกต่างบางประการ ชวนให้ค้นหา

    2-10.jpg
    ๒ ถนนเพทราชาในปัจจุบัน (ถ่ายเมื่อวันงานลพบุรี กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖)
    สมเด็จพระเพทราชา ได้ราชสมบัติต่อจากสมเด็จพระนารายณ์ เป็นพระมหากษัตริย์ต้นราชวงศ์บ้านพลูหลวงและอยู่ในราชสมบัตินาน ๑๕ ปี เมื่อแรกได้ราชสมบัตินั้นพระชนมายุได้ ๕๑ พรรษา

    เมื่อได้ราชสมบัติใหม่ๆ ทรงเจริญพระราชกรณียกิจตามประเพณี คือทำนุบำรุงพระศาสนา และสร้างวัดเป็นอันมาก เช่น วัดพญาแมน วัดบ้านป่าตอง และวัดบรมพุทธาราม เป็นต้น

    ส่วนพระราชกรณียกิจทางการเมืองที่สำคัญมากน่าจะมี ๓ กรณี อย่างแรกเป็นกรณีสำคัญก่อนได้ราชสมบัติ ครั้งยังเป็นพระเพทราชา จางวางกรมช้าง หรือเจ้ากรมช้างในฐานะรักษาการสมุหกลาโหม กับอีก ๒ กรณีหลัง คือ การปราบกบฏธรรมเถียรและยุติการต่อต้านของสองเมืองใหญ่ คือ นครราชสีมากับนครศรีธรรมราช ส่วนกรณีสุดท้ายคือกรณีขับไล่กองทหารฝรั่งเศสจากป้อมบางกอกให้พ้นจากสยาม

    3-6.jpg
    ๓ สวนราชานุสรณ์ เมืองลพบุรี
    กรณีการเมือง (ก่อนได้ราชสมบัติ) ก็คือการจับตาวิไชยเยนทร์ เมื่อเขานำทหารฝรั่งเศสพร้อมอาวุธทันสมัยเข้ามาประจำการที่ป้อมบางกอก ซึ่งถือว่าเป็นอันตราย เพราะอาวุธเหล่านั้นมีอานุภาพเหนือกว่าทางอยุธยามาก แม้มีทหารเพียงกองร้อย ก็สามารถเอาชนะทหารไทยในระดับกองทัพได้ พระเพทราชาเคยติงเรื่องนี้ในที่ประชุมขุนนางต่อหน้าพระพักตร์เรื่องการคบหากับต่างชาติที่ต้องระมัดระวัง สมเด็จพระนารายณ์ในเวลานั้นทรงชื่นชอบพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ และโปรดวิไชยเยนทร์เป็นพิเศษ และทรงโกรธการติงของพระเพทราชา แต่ก็ระงับไว้ได้ ถ้าเป็นขุนนางผู้อื่นอาจถูกโบยได้ แต่นี่เป็นพระเพทราชาที่มีฐานะเป็นทั้งพระญาติสนิท เพราะแม่จริงของพระเพทราชา คือแม่นมของสมเด็จพระนารายณ์ นั่นคือเจ้าแม่วัดดุสิต นอกจากนั้นยังเป็นศิษย์พระอาจารย์องค์เดียวกัน (พระอาจารย์พรหม) ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ พระเพทราชาเป็นคนลุ่มลึกเยือกเย็นองอาจกล้าหาญ และเฉลียวฉลาด ซึ่งสมเด็จพระนารายณ์ทรงรู้จักดีมานานแล้ว

    4-3.jpg
    ๔ วัดบรมพุทธาราม อยุธยา (ก่อนบูรณะ)
    พระเพทราชาเวลานั้น ดำรงตำแหน่งรักษาการสมุหกลาโหมอีกตำแหน่งหนึ่ง๑ มาตั้งแต่ปี ๒๒๑๙ เป็นตำแหน่งที่ต้องรับผิดชอบดูแลความมั่นคงของบ้านเมือง จึงจำเป็นต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวของวิไชยเยนทร์อย่างเป็นพิเศษ ความจริงก็คือ วิไชยเยนทร์จะใช้กองกำลังทหารฝรั่งเศสที่ป้อมบางกอกทำการรัฐประหารยึดอำนาจ กองทหารนั้นควบคุมโดยนายพลเดส์ฟาร์จ ทั้งนี้จะใช้กองกำลังเพียง ๖๐-๘๐ คน ก็สามารถดำเนินการได้เพราะมีอาวุธที่ดีกว่ามาก

    พระเพทราชามีทหารน้อยกว่า และรู้ดีถึงสมรรถภาพของทหารฝ่ายตนดี

    5-3.jpg
    ๕ วัดบรมพุทธาราม อยุธยา ในปัจจุบัน
    นักประวัติศาสตร์ท่านหนึ่งชี้ว่า พระเพทราชาฉลาดพอที่จะอาศัยพระสงฆ์ตามวัดต่างๆ ในเขตเมืองลพบุรีและปริมณฑล ทั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากพระสังฆราชเมืองลพบุรี ณ วัดราชา ทั้งในเรื่องการสอดแนมการเคลื่อนไหวต่างๆ การก่อม็อบและอาจใช้เป็นกำลังรบถ้าจำเป็น การอาศัยกำลังจากพระสงฆ์ในกิจกรรมต่างๆ เหล่านั้น เป็นวิธีที่แนบเนียน ซึ่งวิไชยเยนทร์ไม่เข้าใจ เขารู้แต่เพียงว่า พระเพทราชาไม่มีกำลังรบที่ดีๆ อยู่ในมือเลย กว่าจะระดมคนได้ต้องใช้เวลาเป็นเดือน กระนั้นก็ตามวิไชยเยนทร์ก็มิได้ตายใจ เร่งกระชับสัญญาและเอาอกเอาใจนายพลเดส์ฟาร์จมากขึ้น มีการพบปะ เลี้ยงดูกันบ่อยครั้งขึ้น

    เมื่อถึงเดือนเมษายน ๒๒๓๑ จึงเป็นเดือนของการชิงไหวชิงพริบกันอย่างมากระหว่างพระเพทราชากับ
    วิไชยเยนทร์ บรรยากาศการเมืองในเวลานั้นจึงสับสนอึมครึมอย่างมาก ดังบรรยายไว้ในจดหมายของบาทหลวงผู้หนึ่ง ชื่อบาทหลวงมาติโน ที่ฉายให้เห็นภาพความวุ่นวาย ปั่นป่วนของข่าวลือต่างๆ ที่ล้วนเขย่าขวัญคณะบาทหลวงให้หวาดหวั่นอย่างที่สุด

    ย้อนกลับไปเดือนมีนาคม ก่อนหน้านั้นพระเพทราชาได้ตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์จึงอยู่ในฐานะได้เปรียบกว่าในการสั่งการต่างๆ โดยอ้างพระราชโองการ แต่ก็เต็มไปด้วยความระมัดระวังในการใช้อำนาจสั่งการนั้นอย่างยิ่ง วิไชยเยนทร์เองก็เชื่อมั่นในกองทหารฝรั่งเศสของนายพลเดส์ฟาร์จ อย่างเต็มที่

    ราวๆ ต้นเดือนพฤษภาคม พระอาการประชวรก็ทรุดลงอย่างหนักด้วยโรคไอหืด (asthmatic cough) นั่นย่อมเป็นโอกาสส่งให้พระเพทราชาชิงกระทำการรัฐประหารโดยทันที ในวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๒๓๑ โดยมีหลวงสรศักดิ์หรือพระยาศรีสรศักดิ์ ๒ เป็นกำลังสำคัญ เสริมด้วยม็อบชาวบ้านและชาววัดในเขตเมืองและปริมณฑลเป็นตัวช่วย
    6-2.jpg
    ๖ พิธีพระราชทานเพลิงศพเจ้าแม่วัดดุสิต
    ๗ วิไชยเยนทร์
    ๘ ซากตำหนักสมเด็จพระสังฆราชเมืองลพบุรี วัดราชา สมัยสมเด็จพระนารายณ์ ถนนพระยากำจัดฯ กำลังรอการบูรณะเร่งด่วน (ถ่ายโดย สมพงษ์ นิติกุล)
    วิไชยเยนทร์เอง ก็อยู่ในวิสัยและเวลาเดียวกันที่จะกระทำการรัฐประหาร แต่ก็เกิดการขัดข้องขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะนายพลเดส์ฟาร์จเกิดลังเลใจไม่ยอมยกกองทหารฝรั่งเศสขึ้นมาลพบุรีตามสัญญานัดหมาย และนี่ก็คือจุดจบของวิไชยเยนทร์อย่างไม่มีข้อสงสัย เขาถูกจับและถูกขังอยู่ระยะหนึ่งเพื่อสอบสวนที่ซ่อนทรัพย์ และเพื่อการถูกทรมานก่อนจะนำไปประหารที่วัดซาก ทางเหนือนอกกำแพงเมืองลพบุรี เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๒๓๑ เวลาบ่ายสี่โมงเย็น

    สำหรับพระปีย์๓ ราชบุตรบุญธรรมของสมเด็จพระนารายณ์ ผู้ซึ่งเคยถูกคาดหมายว่าจะได้รับราชสมบัติโดยการสนับสนุนของวิไชยเยนทร์ก็ถูกลอบสังหารก่อนหน้านั้นไม่นานนัก ณ ริมกำแพงแก้ว พระที่นั่งสุทธาสวรรย์ เมืองลพบุรี โดยศพถูกนำไปฝังที่วัดซากเช่นเดียวกัน เมื่อสมเด็จพระนารายณ์ทรงรู้เรื่อง ก็ทรงทุกข์โศกอย่างหนัก และออกพระโอษฐ์สาปแช่งต่างๆ ๔กระนั้นก็ตามแม้พระอาการโรคจะทรุดลงอย่างรวดเร็วก็ทรงมีพระสติดี โดยให้นิมนต์พระสงฆ์จำนวนหนึ่งเข้ามาในเขตพระราชฐานชั้นกลาง และ
    พระราชทานพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ให้เป็นพระอุโบสถกระทำพิธีบวชขุนนางและข้าราชการฝ่ายในที่จงรักภักดีเหล่านั้นประมาณ ๖๐ คน เพื่อพ้นภัยรัฐประหาร

    9-1.jpg
    ๙ ตึกพระเจ้าเหาในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ศูนย์บัญชาการรัฐประหารของพระเพทราชา ๑๘ พฤษภาคม ๒๒๓๑
    พระที่นั่งดุสิตฯ ได้กลับคืนความเป็นพระที่นั่งดังเดิมอีกครั้งหนึ่งโดยพิธีผาติกรรม ถ่ายโอนความเป็นพระ
    อุโบสถไปยังวัดขวิด (วัดกระหวิด วัดกรวิท หรือวัดกวิศรารามราชวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นตรีในปัจจุบัน) ซึ่งเป็นวัดเก่าริมวังด้านทิศใต้ ในสมัยรัชกาลที่ ๔ นี่เอง ทิ้งช่วงเวลาไว้นานกว่า ๒๐๐ ปี

    จนถึงเมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๒๓๑ สมเด็จพระนารายณ์ก็เสด็จสวรรคต พระศพคืนกลับไปยังอยุธยา ก่อนหน้านี้เจ้าฟ้าอภัยทศและเจ้าฟ้าน้อยพระอนุชา ซึ่งมีสิทธิ์โดยประเพณีที่จะได้พระราชสมบัติต่อจากสมเด็จพระนารายณ์ และสมเด็จพระเพทราชาปรารถนาจะให้เป็นเช่นนั้น แต่เจ้าฟ้าทั้งคู่ก็ถูกลอบปลงพระชนม์อย่างลึกลับ นัยว่าเป็นบัญชาของหลวงสรศักดิ์

    ในที่สุดพระเพทราชาก็จำได้ราชสมบัติ แบบตกกระไดพลอยโจน หรือที่สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นแบบเลยตามเลย

    เมื่อได้ราชสมบัติแบบไม่ทรงตั้งใจเช่นนั้น ไม่นานนักก็จำต้องปราบกบฏจากอ้ายธรรมเถียร ที่สำคัญตนว่าเป็นเจ้าฟ้าอภัยทศ และปราบเจ้านครใหญ่ ๒ นคร คือ เจ้านครราชสีมาและเจ้านครศรีธรรมราช และการปราบปรามได้เสร็จสิ้นลงโดยไม่ช้า

    ส่วนกรณีหลังได้ราชสมบัติอีกกรณีหนึ่ง คือ กรณีขับไล่ทหารฝรั่งเศสที่ป้อมบางกอก ที่อยู่ในความควบคุมของนายพลเดส์ฟาร์จ และที่ป้อมเมืองมะริด ในความควบคุมของนายพลดูบรูอัง เฉพาะที่ป้อมบางกอกค่อนข้างใช้เวลาและมีการสูญเสียของทั้ง ๒ ฝ่าย ครั้นทำท่าจะสงบศึกกันได้ แต่เพราะเต็มไปด้วยความหวาดระแวง ทำให้กลายเป็นศึกยืดเยื้อโดยไม่จำเป็น ในที่สุดสงครามก็ยุติลงโดยไทยได้ตัวประกัน ๔ คนคืนมา ๕ (ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ๒ คน ล่ามและทหารรับใช้) กับได้สมบัติฝรั่งเศส และได้กักกันนักบวชจำนวน ๗๐ คน ไว้ระยะหนึ่งก่อนจะให้อิสรภาพ โดยเฉพาะบุตรชาย ๒ คน ของนายพลเดส์ฟาร์จ ซึ่งเป็นตัวประกัน ซึ่งท่านนายพลก็โหดเหี้ยมพอที่จะยอมเสียบุตรชายทดแทนกับการกระทำขัดคำสั่งของพระเพทราชา อย่างไรก็ดีทรงมีเมตตาให้อิสรภาพแก่บุคคลเหล่านั้นทั้งหมด รวมทั้ง มารี กีมาร์ ภรรยาและบุตรของฟอลคอนอีกคนหนึ่ง โดยฝ่ายอยุธยายอมสูญเรือสินค้า ๒ ลำ ที่ท่านนายพลขอยืมไป คือเรือชื่อสยามและละโว้ กับเงินอีก ๓๐๐ ชั่ง

    สมเด็จพระเพทราชา หรือพระมหาบุรุษ อยู่ในราชสมบัตินาน ๑๕ ปี จึงสวรรคตเมื่อลุศักราช ๑๐๖๕ ปีมะแม เบญจศก

    10.jpg
    ๑๐ ภาพถ่ายเก่าวัดขวิด (วัดกวิศรารามราช
วรวิหาร) ปัจจุบันตั้งอยู่ริมถนนเพทราชา
    กล่าวกันว่าสมเด็จพระเพทราชา เป็นกษัตริย์ที่มีพื้นฐานคนบ้านนอก บ้านเดิมอยู่บ้านกร่าง หรือบ้านพลูหลวง ชานเมืองสุพรรณบุรี แต่ได้ดิบได้ดีเพราะมีมารดาเป็นแม่นมสมเด็จพระนารายณ์ พระเพทราชาบังอาจกระทำการรัฐประหาร เป็นกบฏชิงราชสมบัติ กับสังหารวิไชยเยนทร์ ผู้เสมือนเป็นกำลังสำคัญทางการต่างประเทศและเศรษฐกิจ กับช่วยนำพาสยามให้พ้นภัยจากฮอลันดา ประกอบกับมีคุณูปการแก่บ้านเมืองอีกมาก ข้อมูลที่ค่อนข้างจะคลาดเคลื่อนไม่สมบูรณ์ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง กับการด่วนสรุปของนักประวัติศาสตร์บางคนและผู้ปกครองยุคหนึ่งนั้น ทำให้ภาพของสมเด็จพระเพทราชาที่สง่างาม บูดเบี้ยวไปอย่างน่าอนาถใจ นี่น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ถนนเพทราชาตามพระนามนั้น เป็นถนนแคบสั้น สกปรกรกรุงรัง ขาดความสวยงาม แม้ในปัจจุบันจะดูดีขึ้นมากแล้วก็ตาม และหรือว่าเพราะได้ราชสมบัติแบบตกกระไดพลอนโจน?

    ผู้เขียนและผู้ร่วมเดินทางเข้าไปถึงบ้านกร่าง บ้านพลูหลวง ซอย ๙ ชานเมืองสุพรรณบุรี ได้รับการต้อนรับดีจากพี่ ส.ว. (สูงวัย) ผู้หนึ่งผู้มีเมตตาพร้อมภรรยาของท่าน (น.อ. สำอาง กลิ่นคำหอม ร.น.) ที่ตรงซอยนั้นสุดซอยเป็นศาลเจ้าพ่อขุนเณร อดีตนักรบเลือดสุพรรณผู้กล้าแกร่ง ย่านนี้เป็นชาวบ้านพลูหลวงทั้งหมด ดูสงบร่มรื่น น่าจะหลายๆ เจนเนอเรชั่น ถัดมาจากสมเด็จพระเพทราชา ได้ถูกบอกเล่าให้รับรู้กันเงียบๆ ปากต่อปากมาจนถึงปัจจุบัน คุณพี่ผู้การทหารเก่าย้ำว่า ผู้ที่รู้เรื่องราชวงศ์บ้านพลูหลวงดีมาก มีอยู่ ๒ ท่าน ท่านหนึ่งคือ คุณมนัส โอภากุล (เสียชีวิตแล้ว) และคุณน้าเจ้าของร้านสังฆภัณฑ์ในตลาดสุพรรณบุรีอีกท่านหนึ่ง ซึ่งผู้เขียนจะต้องติดตามไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สักวันหนึ่งให้จงได้

    อันความเป็นไปของสมเด็จพระเพทราชา กรณีก่อการรัฐประหาร ต่อต้านวิไชยเยนทร์ มีรายละเอียดที่น่าสนใจอีกมาก อันแสดงให้เห็นถึงปัญญาอันลึกซึ้งในการวางแผนการรัฐประหารอย่างระมัดระวังและรอบคอบเป็นที่สุด เพราะหากว่าผิดพลาดเมื่อไร ก็ย่อมถึงตายเมื่อนั้น ส่วนกรณีหลังคือขับไล่ทหารฝรั่งเศสออกจากป้อมบางกอก แสดงให้เห็นถึงความมีเมตตาที่น่านับถือเป็นอย่างยิ่ง

    เชิงอรรถ

    อยุธยาอาภรณ์. พิมพ์เป็นบรรณาการเนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพ พันตรี หลวงจบกระบวนยุทธ อังคารที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๐. น. ๖๒.
    ๒ เชื่อกันว่าเป็นโอรสลับของสมเด็จพระนารายณ์ เกิดแต่นางสนมกุสาวดี ทรงยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของพระเพทราชา ครั้งเป็นพระยาสุรสีห์
    ๓ เป็นบุตรของขุนไกร สิทธิศักดิ์ บ้านแก้ง จังหวัดพิษณุโลก
    ๔ “May the Protector of the Buddist Faith grant me but seven more days grace of life to be quit of this disloyal couple, father and son,” in 1688 Revolution in Siam by E.W. Hutchinson. p. 153.
    ๕ ออกพระพิชัยสงคราม ออกหลวงกัลยา ณ ราชไมตรี นายพลฟรังซัว แปงเฮโร (ล่าม) และคนรับใช้อีก ๑ คน

    https://www.silpa-mag.com/club/art-and-culture/article_9992


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2018
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    The most dangerous time in human history.
    ตอนที่ 1

    ผมพยายามคิดอยู่นานว่า จะเขียนเรื่องนี้ให้เข้าใจได้อย่างไร เนื่องจากส่วนตัวก็อ่านเรื่องนี้มามาก พออ่านเสร็จก็ค้นพบว่าความรู้เท่าเดิมหรือถึงขั้นน้อยลง
    เพราะส่วนตัวผู้เขียนเอง..ก็ถือว่าเป็นผู้มีการศึกษา....ต่ำ
    จึงอาจไม่ค่อยเข้าใจได้

    เอาเป็นว่าเริ่มต้นแบบนี้ก็แล้วกัน
    จากภาพแรก เราจะเห็นว่า หลังจากที่มีการจัด event ด้วยการระเบิดตึก world trade center โชว์ความหวาดกลัวให้โลกเห็น รัฐบาลบุช ก็เพิ่มงบประมาณมากมายมหาศาล ทำให้หนี้สาธารณะของคนอเมริกันเพิ่มจาก 5 ล้านล้านเหรียญ ไปสู่ 10 ล้านล้านเหรียญ จากภาพเราจะเห็นว่าการเพิ่มขึ้นของหนี้จะค่อนข้างสมดุลย์คือ ทั้ง
    ภาครัฐบาล
    ภาคเอกชน
    ภาคประชาชน

    จากการเพิ่มขึ้นของ money supply ในระบบทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และที่สำคัญคือ การเพิ่มขึ้นของบรรดาตราสารอ้างอิงทางการเงินแบบพิศดาร ที่เกิดขึ้นมากมาย

    ระบบได้ถูกออกแบบให้เกิด Boom Bust Cycle
    เพราะ....เมื่อ Boom ผู้คนก็จะก่อหนี้กันมหาศาลเพื่อมาจ่ายดอกเบี้ย
    เมื่อ Bust ระบบล่มลง ก็จะให้ผู้คนหวาดกลัว ก็จะยอมถูกขุดรีดภาษีเพิ่ม เพื่อมารักษาความล้มเหลวของระบบที่ตัวเองไม่ได้ก่อ

    เพราะผู้คนไม่เคย....ฉลาดพอ...ที่จะเห็นว่าระบบออกแบบไว้อย่างไร และจำยอมที่จะจ่ายราคาในความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อไว้

    หลังจากนั้น เปลี่ยนม้า...ให้โอบาม่า เข้ามา ก็จัดการสร้างหนี้ จาก 10 ล้านล้านเหรียญ ไปสู่ 20 ล้านล้านเหรียญและลดอัตราดอกเบี้ยมาสู่ 0 - 0.25%
    ทำให้ Balance Sheet ของ FED เพิ่มขึ้นมี DE Ratio ขึ้นมาเป็น 77:1 แต่ไม่มีกฏหมายเรื่องความเสี่ยงจึงไม่มีปัญหาอะไรเพราะนี่คือ The Biggest scam in History.

    ถ้าสังเกตจากรูปจะพบว่า money supply ได้เพิ่มขึ้นมากใน 2 ส่วนคือ
    ภาครัฐบาล
    ภาคเอกชน
    เราจะค้นพบว่าการเพิ่มขึ้นนี้มีผลคือ....การเพิ่มขึ้นของ
    Balance Sheet ของบริษัทเอกชนทั่วโลก ซึ่งมีผลทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลก ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    และ
    การเพิ่มขึ้นของ....หนี้สาธารณะ...ของรัฐบาลทั่วโลก
    เนื่องจากเงินดอลล่าร์ที่พิมพ์จากอากาศปริมาณมหาศาลไหลเข้าธนาคารกลางกลางทั่วโลก

    ในนาม...ทุย...สำรองเงินตราต่างประเทศ

    (อ๋อ..ลืมบอกไปว่า แบงค์ชาติทั่วโลก รับนโยบายจาก BIS ที่ Rothschild ตั้งขึ้นเมื่อปี 1933 แล้วก็จัดการหา Spacial Goyem ไปทำการ Brian washing เพื่อให้คิดและแก้ปัญหาในทางที่ผู้คุมระบบออกแบบไว้ สังเกต นายกฯไม่สามารถปลดผู้ว่าฯแบงค์ชาติได้ ส่วนลึกกว่านี้เอาไว้หลังไมค์)

    มาถึงต่อนี้ Fed ส่งที่ปรึกษา Carlyle Group ที่ดูแลพอร์ตการลงทุนของตระกูลบุช และ บินลาเดน (เอ๋...ยังงัยกันนะ เหอะๆๆ)
    มาเป็นประธาน FED คนใหม่

    ก็มามีหน้าที่...ขึ้นดอกเบี้ยแบบ non stop เพราะ
    FED ได้สูญเสียการควบคุมสภาพคล่องของโลกไปแล้ว
    (สังเกตพอ Bond Yield ถูกลากขึ้นมา ก็จะมีแรงขายออกมาตลอดในทุกวัน)

    ที่นี้ผมก็เห็นแต่คนมาพูดในเชิงบวกของการขี้นดอกเบี้ย
    ฟังแล้วรู้สึก....รำคาญมากกกกกกก.......!!!!
    คิดง่ายๆนะ

    ในปีนี้ ...ผมมีเงินเหลือ 50,000 บาท
    ผมก็เอาเงินที่คาดว่าจะได้ก้อนนี้ มาทำเป็นอัตราดอกเบี้ย
    (เพราะอเมริกา...มันมีความสามารถพิเศษในฐานะ..นักเลงคุมซอย...คือ...มันกู้เงินจากคนทั้งโลก....และเป็นลูกหนี้อภิสิทธิ์ชน..ที่กำหนด...อัตราดอกเบี้ย...เจ้าหนี้ได้)

    กลับมา...ผมเอาเงิน 50,000 มาเป็นอัตราดอกเบี้ย ถ้าคิด 5%
    ผมก็จะกู้เงินทุกๆท่าน (ในนามการลงทุนตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงไม่สูง...มันสั่งสอนกันมาแบบนี้)
    ผมก็จะกู้เงินได้ 1,000,000 ในอัตราดอกเบี้ย 5%
    ถ้าผมลดดอกเบี้ยมาเป็น 1% เงิน 50,000 ของผมจะสามารถเอามาเป็นดอกเบี้ยเพื่อกู้เงินได้
    5,000,000 ในอัตราดอกเบี้ย 1% ใช่มั๊ย
    และ
    ถ้าผมใช้อัตราดอกเบี้ยเหลือ 0.25% ผมก็จะกู้เงินได้ 20,000,000 ใช่มั๊ยครับ

    แต่ปัญหาคือ....เมื่อหนี้เกิด...มันไม่เคยลด
    เมื่อดอกเบี้ยขึ้น จาก 0.25% มาเป็น 1.5%
    สิ่งที่ผมจะเผชิญคือ เงินกู้ 20 ล้าน
    ผมมีภาระต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 300,000 ทันที
    แต่ ผมมีเงินจ่าย 50,000

    จากภาพจะเห็นว่า เงินมาไม่ถึง ประชาชนเท่าที่ควรจึงดันเศรษฐกิจไม่ขึ้น จึงเกิด.....คำว่า

    "รวยกระจุก..จนกระจาย"

    ทั้งๆที่มี Money Supply ในปริมาณมหาศาล

    ที่นี้ GDP โลก มีขนาด 80 ล้านล้านเหรียญ ถ้าโต 3%
    จะโต 2.4 ล้านล้านเหรียญ
    แต่หนี้ทั่วโลกมีขนาด 233 ล้านล้านเหรียญ
    ถ้าอัตราดอกเบี้ยขึ้น 1% จะมีภาระดอกเบี้ย 2.33 ล้านล้านเหรียญ
    ไม่คิดถึงว่าเรื่องตราสารหนี้ในเกรดการลงทุนที่ต่างกัน

    คุณคิดแบบง่ายๆคือ
    เวลากู้ซื้อบ้าน....ในสลิปคุณจ่าย...เงินต้น...หรือ..ดอกเบี้ย
    มากกว่ากัน....แล้วถ้าอัตราดอกเบี้ยที่กู้ซื้อบ้านขึ้น 1% คุณมีภาระจ่ายดอกเบี้ยเท่าไรครับ ตอนแรกก็พอได้
    ปัญหาจะไม่หนักถ้ารายได้คุณเพิ่มขึ้นใช่มั๊ย
    แต่ถ้ารายได้...ไม่เพิ่ม...แต่..ค่าใช้จ่ายอื่นๆเพื่มจะเกิดอะไรขึ้นครับ

    ปัญหานี้มันจะไม่ระเบิดทันที จะค่อยๆเป็นค่อยไป
    ครั้งต่อไปจะมาเขียนถึง
    การเกิดผลกระทบและตราสารหนี้และตราสารการเงินอ้างอิงต่างๆ

    เพราะ.....
    This is the crisis.
    The greatest crisis in the history of mankind.

    ทวีสุข ธรรมศักดิ์

    ปล.เวลาเขียนพวกนี้ที่ไร..จะมีพวกไร้ปัญญาแต่อยากเป็น กูรู้
    ก็อปเอาไปสร้างภาพ แต่กลวงกลาง ทำให้สะท้อนวุติภาวะ การอบรมสั่งสอนจากครอบครัว และสถาบันการศึกษา
    ดังนั้นจะก็อปก็กรุณาเอาไปให้หมด

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    The most dangerous time in human history.
    ตอนที่ 2

    ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 หรือ 4 ครั้ง
    แต่ FED ต้องเร่งขึ้น...อัตราดอกเบี้ย
    มีสาเหตุหลัก 3 สาเหตุด้วยกันคือ

    1).. FED ไม่สามารถควบคุมสภาพคล่องในระบบได้แล้ว โดยเฉพาะการเทขายจากธนาคารกลางสำคัญของโลก (ยกเว้นที่มี Spacial Goyem บริหารอยู่แล้วมีความภาคภูมิใจที่มี...ทุย..สำรองสูง)
    และ...การประมูลการขายพันธบัตรอเมริกา..ทั่วโลกลดปริมาณการเข้าซื้อแบบมีนัยสำคัญ
    (คือ..พูดง่ายๆ เริ่มขายไม่ออกแล้ว)

    2)..FED ไม่เหลือเครื่องมือที่จะใช้..ถ้าเกิด Financial Crisis ในอีกไม่นานนี้ อาจจะรวมถึง ธนาคารกลางที่สำคัญอย่าง BoE ,BoJ

    3)..ต้องเร่งขึ้น...อัตราดอกเบี้ย..เพื่อให้ผลตอบแทนพันธบัตรสูงกว่าตลาดหุ้น ซึ่งจะมีผลทำให้
    คนเทขาย...สินทรัพย์เสี่ยงคือ...หุ้น..
    แล้ว...ไปซื้อ..สินทรัพย์ที่เสี่ยงกว่าคือ...พันธบัตรอเมริกา

    ซึ่งข้อนี้คือ...การเดินเกมที่เสี่ยงที่สุด..อย่างไม่มีทางเลือก
    (หรือ..จริงๆแล้วได้เลือกไว้แล้วเพื่อให้เกิด...หายนะ..แล้วนำไปสู่การจัดระเบียบโลกใหม่คือ One World Order

    โดยจะสังเกตุได้ว่า ผลตอบแทนพันธบัตรไทย ต่ำกว่า ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอเมริกา
    แต่...เงินไม่ไหลกลับ...(เอ๋....ที่มันสอนมาต้องไหลกลับดิ แต่พอไม่เป็นไปตามตำราที่สอน...กอยยิม...เลยหาคำตอบไม่ได้)

    อะ...เฉลยให้.....!!!!

    ก็ระบบออกแบบไว้แล้ว...ว่า
    ถ้าเงินดอลล่าร์ไหลกลับ...จะเกิดวิกฤติใหญ่ในอเมริกาทันที เพราะมีโอกาสสูงมากที่จะเกิด
    Deflation เพื่อไปสู่ Hyper Inflation
    ดังนั้นเพื่อใม่ให้...ขยะไหลกลับ
    คุณต้องทำดังนี้
    - พิมพ์..ขยะ..โดยเป็นลูกหนี้ที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยเจ้าหนี้ได้
    แล้วเอาสินค้าขยะส่งออกนี้...ไปไว้ที่ธนาคารกลางทั่วโลก
    ในนาม....ทุย..สำรอง... แล้วให้ Spacial Goyem ไปป่าวประกาศว่า..
    เรามี...ทุย..สำรองสูงและมั่นคงม๊ากกกกกก
    - แล้วทำให้ค่าเงินดอลล่าร์....อ่อนค่าลง..แบบ..ค่อยเป็นค่อยไป
    แล้วให้ Spacial Goyem ในส่วนของ นักวิแคระ..และ..พวกสื่อสร้าง propaganda ที่คิดอะไรไม่ออก นอกจาก...อ้างข่าว..จากสำนักข่าว รอยแตร..etc...
    และจากนักวิเคราะห์ JP Goldman Etc
    ...ที่มีคุณพ่อคนเดียวกัน....มาจับยัดใส่ปาก...
    ให้ Goyem ฝั่งสร้าง propaganda เอาไปป่าวประกาศ....ประมาณผู้เชี่ยวชาญ

    บอกว่า...เงินดอลล่าร์...ของคุณพ่อจะอ่อนนะ

    แล้วทั้งโลกขับดันด้วยการส่งออก...ผลออกมาตรงกันข้าม
    ก็.....หายนะ...ชิคร้าบบบบบ
    แต่...ทำแบบต้มกบ..นะ..ตบที่ละนิดให้พวกมัน..ค่อยๆตาย
    เพราะ...การที่ทำให้มัน...ค่อยๆตาย...จะสร้างปัญหาที่ใหญ่กว่าคือ.....สร้างหนี้..เพื่อ..แก้ปัญหาหนี้
    (หัวข้อ: Debt ใน The Potocal )

    ดังนั้น.....แบงส์ชาติ....ที่เป็นสาขาของ B.I.S ของ Rothschild
    แต่...ทำคล้ายๆว่าขึ้นกับรัฐบาลแต่ละประเทศ
    แต่...แท้จริงคือรัฐฐาธิปัตษ์ พิเศษที่เอาไว้สร้าง Boom Bust Cycle ให้แต่ละประเทศ

    จะต้องเผชิญ 2 อย่างคือ
    - พันธบัตรที่ถือในนาม...ทุย..สำรองก็จะขายทุนจากการ Mark to Market เวลาที่ดอกเบี้ยเพื่อขึ้น
    (ดูจากภาพที่ลงทุน $100,000 ในพันธบัตร 10ปี นะครับ)
    และ
    - ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน

    พวกมันจะเชื่อสิ่งที่สั่งสอนมา...และมันจะแก้ปัญหาตามที่มันถูกสั่งสอนกันมา
    ดังนั้น...ทำให้มันตายช้าๆ เพราะ...เมื่อถึงเวลามันจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย

    ดังนั้น เมื่อค่าเงินอ่อนจะเอาความเสี่ยงไปไว้ที่ธนาคารกลางทั่วโลกให้.....พวกมัน..รับความเสี่ยงแทน...พอหายนะเกิด...Spacial Goyem ที่ถูกส่งไปไว้ในที่ต่างๆ ก็จะแนะนำให้ผู้นำประเทศโง่...ไปรีดภาษี...Goyem มาโป๊ะ

    เงิน...มันถึงไม่ไหลกลับ....งัยคร้าบบบบบบ

    กลับมาเรื่อง FED กันต่อ ....
    พวกคุณจะเห็นว่า .....เงินที่ถูกพิมพ์ออกมา...มันไม่สามารถสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจได้เมื่อเทียบกับเงินที่..ถ่มเข้าไป

    แต่ Spacial Goyem มันจะมาพูดความจริง...ครึ่งเดียว
    ว่า...เศรษฐกิจกลับแล้ว ดูดิ GDP โต 2%
    แต่มันไม่เคยบอกว่า....หนี้เพิ่มขึ้นเท่าไร...ที่ดันได้ 2%
    ที่นี้ กอยยิม...ทั่วโลกก็จะเชื่อ Spacial Goyem เพราะพวกนี้มีภาพ...ลัก...ดี มีสื่อรองรับ เพื่อสร้าง propaganda และมี Dog นำหน้าเสมอ

    กอยยิมท้องถิ่น....ก็จะรีบ...สร้างหนี้แบบมหาศาลโดยมี 2 เหตุผล
    1 .....กู้มาขยายธุรกิจ
    2..... กู้มาปล้น
    (เคยเขียนไปแล้ว..ขบวนการปล้นผ่านตลาด..ลักทรัพย์....แล้วกอยยิมคุมกฏ...มันก็ทำทุกอย่าง...ยกเว้น...สิ่งแรกที่พวกมันต้องทำคือ...ปกป้องนักลงทุน)

    วันนี้..แค่นี้ก่อนนะ (พิมพ์ผิดบ้างถูกบ้าง...คือ..แก่แล้วสายตาก็ไม่ดี...เอาเป็นว่า..ไปเดาเอานะ)

    ทำไม...คุณต้องเรียนรู้

    เพราะ.....

    This is the crisis.
    The greatest crisis in the history of mankind.

    ทวีสุข ธรรมศักดิ์

    ปล.เวลาเขียนพวกนี้ที่ไร..
    จะมีพวกไร้ปัญญาแต่อยากเป็น กูรู้
    ก็อปเอาไปสร้างภาพ แต่กลวงกลาง
    ทำให้สะท้อนวุติภาวะ การอบรมสั่งสอนจากครอบครัว
    และสถาบันการศึกษา
    ดังนั้นจะก็อปก็กรุณาเอาไปให้หมด
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อยู่ได้ไหม? จีนออกบททดสอบให้ปชช.อยู่โดยไม่มีน้ำ 11 ชั่วโมง

    ในวันที่ 22 มีนาคมนี้ ซึ่งตรงกับวันน้ำโลก (World Water Day) ที่องค์การสหประชาชาติได้กำหนดขึ้นมา เพื่อให้ผู้คนได้ตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ในประเทศจีนเอง ก็ได้คิดกิจกรรมขึ้นมา ให้ผู้คนได้เจอกับเหตุการณ์ขาดแคลนน้ำ 11 ชั่วโมง

    เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในเมืองปินโจว มณฑลซานตง ทางตะวันออกของประเทศจีน ได้ประกาศว่าแผน "สัมผัสประสบการณ์การขาดแคลนน้ำ" จะเริ่มขึ้นในเวลา 9.30 น. และดำเนินไปจนถึง 20.30 น. ในหลายพื้นที่ที่มีผู้คนอยู่เป็นจำนวนมาก

    อย่างไรก็ตาม คำสั่งดังกล่าวได้ถูกเปลี่ยนเป็นกิจกรรมตามความสมัครใจ หลังจากที่มีผู้ร้องเรียนจำนวนหนึ่ง ด้วยเหตุผลที่ว่าการทำเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและเกิดความไม่สะดวกหลายประการ

    แต่ก็ยังคงมีคนจำนวนมากที่ชื่นชมวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ที่หวังจะเรียกร้องให้ประชาชนตระหนักถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ บางคนก็แสดงความคิดเห็นว่าพวกเขาจะลองใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีน้ำเป็นเวลา 11 ชั่วโมงดูบ้าง

    แหล่งข่าวระบุว่ากิจกรรมครั้งนี้ ถือเป็นกิจกรรมในลักษณะเดียวกัน ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่สองแล้วในเมืองปินโจว โดยครั้งแรกนั้นก็จัดขึ้นในวันน้ำโลกของปี 2007 โดยให้ประชาชนใช้ชีวิตอยู่ด้วยน้ำในปริมาณจำกัด

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    น่ากังวล!พบนักศึกษาในปักกิ่งติดเชื้อเอชไอวี 722 ราย เกือบทั้งหมดเป็นเพศชาย

    มีรายงานเมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า จนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2017 ปักกิ่งพบนักศึกษาในกรุงปักกิ่งเป็นผู้ป่วยเอดส์หรือผู้ติดเชื้อเอชไอวี แล้วทั้งสิ้น 1,244 ราย

    รายงานระบุว่า ในบรรดานักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในปักกิ่ง (อายุ 18-22 ปี) พบผู้ติดเชื้อเอชไอวีรวม 722 ราย กระจายอยู่ใน 59 สถาบัน และในจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นนักศึกษาเพศชายมากถึงร้อยละ 98.48 สาเหตุหลักของการติดเชื้อคือการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชาย-ชาย โดยคิดเป็นสัดส่วนที่ร้อยละ 86.70

    คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติกล่าวว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในหมู่นักศึกษาวัยหนุ่มสาวมีแนวโน้มที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นอันตรายทั้งต่อสุขภาพกายของเด็ก ความปรองดองในครอบครัว ตลอดจนความมั่นคงทางสังคม

    ดังนั้น ทุกสถาบันการศึกษา ควรมองเห็นปัญหา ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการให้ความรู้ความเข้าใจแก่เด็กในด้านสุขศึกษา เพื่อป้องกันและควบคุมโรคเอดส์รวมถึงโรคติดเชื้ออื่นๆ อย่างเข้มงวด ตลอดจนหามาตรการอื่นๆ เช่น การปรับหลักสูตรการเรียนการสอนด้านเพศศึกษาให้เป็นระบบและเคร่งครัดมากยิ่งขึ้น

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รอยแยก Suswa เคนยา, ไนจีเรีย, อินโดนีเซีย, สการ์เบอโร, เวียดนาม,
    แซมเบียและรัฐควีนส์แลนด์ "

    FB_IMG_1521731414575.jpg

    Please Place Evidence of the 7 of 10 Plate Movements Here
    http://poleshift.ning.com/profiles/...of-10-plate-movements-here?xg_source=activity

    Suswa rift Kenya, Nigeria, Indonesia, Scarborough, Vietnam,
    Zambia, and Queensland.."


    .
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    บรรดามหาเศรษฐีต่างเตรียมพร้อมสำหรับวันสิ้นโลกเรียงแถวซื้อหลุมหลบภัยในนิวซีแลนด์จ้าละหวั่น

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    FB_IMG_1521734777999.jpg FB_IMG_1521734781369.jpg

    ให้ความสนใจกับ 3 + 1/2 ปีก่อนเดือนมีนาคมปี ค.ศ. 2021
    มองหาผลกระทบที่อาจทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนอาหาร เช่น ภาวะน้ำท่วม, อุทกภัย, ฯลฯ ในแถบอาหารของโลก ตัวชี้วัดที่ผ่านมาของ P-7X pass ทำให้เกิดความแห้งแล้ง 3 1/2 ปีหรือขาดแคลนอาหาร ดาวเคราะห์ผ่านช่วงระยะเวลา 7 ปีของภัยแล้งและการขาดแคลนอาหาร
    นี่น่าจะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าตัวบ่งชี้เหล่านี้จะเห็นได้ก่อนปี พ.ศ. 2564 ปี และปี พ.ศ. 2564 เดือนมีนาคมดวงจันทร์อยู่ที่ปลายราศีกันย์ ดังนั้นจงตื่นตัวอยู่เสมอ

    Pay close attention to the 3 1/2 years before March 2021.
    Look for effects that will cause a food shortage like droughts, floods, etc in the food belts of the world. The past indicators of P-7X passing cause a 3 1/2 yr drought or food shortage. The planet passes mid of a 7 yr period of drought & food shortage.
    This would be a strong sign if these indicators are seen before 2021. The year 2021 and in March the Moon is at the foot of Virgo. So stay alert.

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    FB_IMG_1521735163649.jpg FB_IMG_1521735167401.jpg FB_IMG_1521735170932.jpg FB_IMG_1521735174365.jpg FB_IMG_1521735178031.jpg FB_IMG_1521735181639.jpg FB_IMG_1521735185276.jpg FB_IMG_1521735188779.jpg FB_IMG_1521735192129.jpg FB_IMG_1521735195537.jpg FB_IMG_1521735198962.jpg FB_IMG_1521735202305.jpg FB_IMG_1521735205619.jpg

    นี่คือข้อมูลทั้งหมดที่น่าสนใจในการมองหาผลกระทบที่เป็นไปได้ของการรบกวนในดวงจันทร์ของดาวเสาร์และดาวพฤหัสบดี มองหาผลกระทบที่เป็นไปได้ในการเอียงของดาวเคราะห์สองดวงใหญ่และดวงจันทร์ของพวกเขา นอกจากนี้คุณอาจเห็นกิจกรรมออโรร่า (พลาสมา) ผิดปกติที่ขั้วโลก
    ซอฟต์แวร์คำนวณตำแหน่งคร่าวๆของ P-7X สำหรับการมาถึง "ทฤษฎี" ในเดือนมีนาคมปีพ. ศ. 2564 โดยใช้กฎของเคปเลอร์เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์ แบบจำลองแสดงให้เราเห็นว่ามันจะอยู่ไกลแค่ไหนในแต่ละขั้นตอนของการโคจรของมัน
    โปรดทราบว่านี่คือ "การประมาณค่า" ของข้อมูลที่เก็บรวบรวม เราจำเป็นต้องมีภาพเพื่อยืนยันวันที่มาถึงจริง

    Shalom

    Here is the info to all who are interested in looking for the possible effect of perturbations in the moons of Saturn and Jupiter. Look also for possible effects on the tilt of the two big planets and their moons. You may also see unusual aurora (plasma) activity at the poles.
    The software calculates the rough position of P-7X for a "theoretical" arrival for March 2021 using Kepler's laws of planetary motion. The model shows us how far out it would be at each step of its orbital journey.
    Keep in mind that this is an "estimate" of the collected data. We still need a visual to confirm an actual date of arrival.
    Shalom

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #มอร์มูฟเป็นข่าว ช่างน่าอนาถจิตเหลือเกิน!!#โกงรายวัน ปปท.ลงพื้นที่ตรวจสอบ 'คดีโกงเงินคนจน จ.เชียงใหม่' พบความผิดปกติการเบิกจ่ายเงิน #ศูนย์เดียวได้รับงบประมาณจัดสรรสูงผิดสังเกตเกือบ67ล้านบาท #มากกว่าศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั้ง76จังหวัดเกือบ10เท่าตัว ขณะที่ สตง.พบความผิดปกติตั้งแต่รองปลัดกระทรวง พม.เป็นอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ คาดว่าอีก 2 สัปดาห์รู้ผลผู้บงการเบื้องหลัง!!!

    วันนี้ (22 มีนาคม 2561) พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ปปท.) นำทีมลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบการใช้จ่ายเงินงบประมาณประเภทเงินอุดหนุนเฉพาะกิจของศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดเชียงใหม่หรือศูนย์สงเคราะห์ชาวเขา และศูนย์ประสานงานโครงการหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยงบประมาณที่ได้รับจัดสรรในปี 2560 รวมจำนวน 66,605,000 บาท โดย สตง.พบความผิดปกติการเบิกจ่ายเงิน ตั้งแต่ นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดกระทรวง พม.ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ

    อนึ่ง เนื่องจากงบประมาณกว่า 370 ล้านบาท จาก 490 ล้านบาท ในปีงบประมาณปี 2560 ถูกจัดสรรไปยังนิคมสร้างตนเอง และศูนย์สงเคราะห์ชาวเขาสูงผิดสังเกต เช่น จังหวัดเชียงใหม่ 67 ล้านบาท มากกว่าศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั้ง 76 จังหวัด เกือบ 10 เท่าตัว รองลงมาจังหวัดเชียงราย 16 ล้านบาท พะเยา 13 ล้านบาท แพร่ 6 ล้านบาท ตาก 5 ล้านบาท กำแพงเพชร 3 ล้านบาท เพชรบูรณ์ 3 ล้านบาท ราชบุรี 2 ล้านบาท กาญจนบุรี 1 ล้านบาท แม่ฮ่องสอน 1 ล้านบาท #แต่ศูนย์สงเคราะห์ชาวเขาบางแห่งกลับได้รับงบประมาณเพียงหลักแสนบาทเท่านั้น เช่น จังหวัดน่าน ลำปาง พิษณุโลก อุทัยธานี และเพชรบุรี

    อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ปปท.ย้ำชัดเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า ขณะนี้ยังรอคำชี้แจงจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ว่าทำไมส่วนใหญ่นิคมสร้างตนเองและศูนย์สงเคราะห์ชาวเขา จึงได้รับงบประมาณสูงกว่าศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ทั้งที่จำนวนประชากรน้อยกว่ามาก

    “การเบิกจ่ายเป็นลักษณะเดียวกัน เราจะไปตรวจสอบจากบุคคลที่มีรายชื่อว่าเขาได้รับเงินจริงหรือเปล่า ลายเซ็นเป็นของเขาไหม ในขณะเดียวกันก็มีข้อสังเกตที่เราได้ข้อมูลจาก สตง.บางส่วนที่เขามีข้อสังเกตว่าการถ่ายเทงบประมาณลงไปที่ศูนย์ ที่จังหวัด หรือนิคม ทำไมมีตัวเลขที่แตกต่างกันมาก ถ้าดูจำนวนประชากร ดูเขตพื้นที่ก็ไม่ได้ ตรงนี้ต้องรอข้อมูลจากทาง พส.ว่าหลักเกณฑ์เขายึดอันไหน” พ.ต.ท.วันนพ กล่าว

    ทั้งนี้ เกี่ยวกับผู้อยู่เบื้องหลังคดีทุจริตคนไร้ที่พึ่งนี้ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ปปท.กล่าวว่า ขณะนี้ทราบเบื้องต้นเพียงว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับกระบวนการทุจริต มีทั้งหญิงและชายจำนวนหลายคน เป็นข้าราชการคนในและคนนอก โดยที่ผ่านมาผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองฯเกือบครึ่งประเทศทยอยให้ปากคำที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ รวมทั้งข้าราชการที่เกษียณอายุบางคนให้การว่า #เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องทำเพราะไม่เช่นนั้นจะกระทบกับการเลื่อนตำแหน่ง แต่ก็ต้องตรวจสอบหลักฐานให้รอบด้าน ซึ่งคาดว่าภายใน 2 สัปดาห์นี้ ปปท.จะรู้ผลว่าใครเกี่ยวข้องกับการทุจริต และย้ำว่าจะไม่เป็นมวยล้มต้มคนดูแน่นอน

    อนึ่ง หลังจากที่ ปปท.พร้อมด้วย สตง.ได้ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่เพื่อสอบถามชาวบ้านหมู่ 1 ตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จ.เชียงใหม่ ปรากฏรายชื่อผู้รับเงินสงเคราะห์จำนวน 36 ราย เป็นบุคคลกลุ่มชาติพันธุ์จำนวน 31 ราย สัญชาติไทย 5 ราย ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านสัญชาติไทยทั้ง 5 รายและกลุ่มชาติพันธุ์จำนวน 18 รายให้ข้อมูลตรงกันว่า #ไม่เคยได้รับเงินสงเคราะห์ตามที่ปรากฏในเอกสารใบสำคัญรับเงิน แบบ 5 (จำนวน 2,000 บาท) แต่อย่างใด ขณะที่การลงพื้นที่สอบถามข้อมูลชาวบ้านหมู่ที่ 8 ตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จำนวน 36 ราย มีชื่อกำนันตำบลกึ๊ดช้างเป็นผู้ได้รับเงินสงเคราะห์ด้วย จึงไปสอบถามข้อมูลกำนันคนดังกล่าวได้รับการยืนยันว่า ตนเองและลูกบ้านไม่เคยได้รับเงินสงเคราะห์

    ต่อมาชุดปฏิบัติการได้เดินทางไปสอบถ้อยคำหัวหน้าเขตอำเภอแม่ริม แม่แตง และเชียงดาว จำนวน 3 เขต ที่ปรากฏลายมือชื่อว่าเป็นผู้รับมอบเงินอุดหนุนมาจากศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดเชียงใหม่ โดยหัวหน้าเขตอำเภอแม่ริมรับเงินสดมา จำนวน 2,877,000 บาท หัวหน้าเขตอำเภอแม่แตงรับเงินสดมา จำนวน 5,075,000 บาท และหัวหน้าเขตอำเภอเชียงดาวรับเงินสดมาจำนวน 6,120,000 บาท เพื่อนำมามอบให้กับชาวบ้านในเขตรับผิดชอบตามอำเภอของตนเองนั้น อย่างไรก็ตาม หัวหน้าเขตทั้ง 3 เขต #ให้ถ้อยคำสอดคล้องตรงกันว่าไม่เคยได้รับเงินดังกล่าวแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบเอกสารพบว่าในปีงบประมาณ 2560 เขตรับผิดชอบอำเภอจอมทองมีการเบิกจ่ายงบประมาณสูงสุดถึง 11.25 ล้านบาท
    ----------------------------------
    Source : http://news.thaipbs.or.th/content/271152 // http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/796460

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #มอร์มูฟเป็นข่าว สังคมไทยเน่าเฟะได้อีก!! ตีแผ่ปัญหาการขายบริการทางเพศ #ซ่องซ่อนรูป ที่แปรสภาพใหม่อาศัยเทคโนโลยีเป็นอาวุธครบวงจร ซื้อขายผ่านกรุ๊ปลับในไลน์ ส่วนสถานที่นัดเจอก็เปิดเป็นร้านสปาบังหน้า พบมีเด็กอายุต่ำกว่า 17 ปี ยังเรียนอยู่ ม.ปลาย ให้บริการด้วย ใส่ชุดนักเรียนเป็นจุดขายเรียกแขก!! บอกเลยงานนี้ตำรวจยังมึน เพราะไม่ได้แบขาย-จับง่ายแบบสมัยก่อน

    ข่าวนี้ได้รับการตีแผ่แบบเจาะลึกโดยสำนักข่าว ThaiPBS โดยระบุว่า การขายบริการทางเพศไม่ใช่ปัญหาใหม่ แต่เมื่อคนในขบวนการนี้ถูกตรวจจับบ่อยๆ ก็มักจะหาวิธีการใหม่ๆ อยู่เสมอ

    ทั้งนี้ วิธีการก็คือ นายหน้าจะอยู่ในคราบผู้ดูแลร้านสปาซึ่งเปิดเอาไว้บังหน้า โดยกิจกรรมหลักคือเป็นนายหน้าขายบริการทางเพศ โดยเปิดกรุ๊ปไลน์ลับเฉพาะ ซึ่งมีแคททาล็อกหญิงสาวมากหน้าหลายตาเพื่อให้ผู้ที่ต้องการบริการทางเพศเลือกสรร จากการสืบค้นพบว่า หญิงสาวที่ให้บริการอายุต่ำสุด 17 ปี และมากสุดไม่เกิน 24 ปี โดยจะถูกการันตีจากผู้ที่ดูแลว่า #บางคนเป็นเด็กนักเรียนระดับมัธยมศึกษาโรงเรียนดัง โดยมีภาพสวมชุดนักเรียนส่งในกลุ่มไลน์ให้สมาชิกดู หากใครสนใจจะส่งภาพเปลือยให้ในไลน์ส่วนตัวเช่นเดียวกับอีกหลายคนที่อ้างว่าเป็นนักศึกษาสถาบันการศึกษาดัง ซึ่งมีทั้งนักศึกษาแพทย์ พยาบาล สถาปัตย์ และบางคนอ้างว่าเป็นพนักงานธนาคาร

    เมื่อมีการนัดหมายเพื่อใช้บริการทางเพศกับเด็กในสังกัด สถานที่ประกอบกิจคือร้านสปาซึ่งเปิดบังหน้านั่นเอง หากดูภายนอกสถานที่แห่งนี้ไม่ต่างจากร้านสปาทั่วไป แต่เข้าไปภายในกลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับนวด ภายในแบ่งซอยเป็นห้องเล็กๆ มีเพียงเตียงสำหรับทำกิจกรรมทางเพศที่ชายนักเที่ยวเลือกซื้อจากหญิงสาวที่ประกาศขายในไลน์กลุ่ม #วิธีการเช่นนี้กำลังแพร่หลายในไลน์กลุ่มผู้ค้าบริการทางเพศเพราะเจ้าหน้าที่รัฐเข้าถึงได้ยาก การจับกุมของตำรวจก็ทำได้ไม่ง่ายนักเพราะมีการคัดกรองผู้ที่เข้าไปเป็นสมาชิกกลุ่มไลน์ลับเฉพาะ #แต่หญิงสาวเข้าถึงการขายบริการได้ง่ายขึ้น เพราะสามารถติดต่อกับผู้ดูแลร้านได้โดยตรง และไม่มีขบวนการตรวจสอบที่ยุ่งยาก

    อนึ่ง โดยส่วนมากการที่หญิงสาวสักคนเข้าสู่วังวนของการค้าบริการทางเพศมักจะทำโดยที่คนในครอบครัวไม่รู้มาก่อน ถ้าหากว่าอายุยังน้อยเหตุผลก็คล้ายๆ กันคือต้องการเงินไปซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย หรือไม่มีงานทำแต่ต้องการใช้เงิน แต่ก็มีอีกหลายคนเช่นกันที่คนในครอบครัวบังคับให้ค้าบริการ
    -------------------------------------
    Source : http://news.thaipbs.or.th/content/271159

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ว้าว! ลุกขึ้นและใกล้ชิดกับรอยแตกลึก 90 เมตรในถนน Gibihi ใกล้ Moura

    บริษัท เหมืองแร่แองโกลอเมริกันทำให้เกิดรอยร้าวสี่เดือนที่ผ่านมา ... ไม่คิดว่ามันสามารถแก้ไขได้

    ขอเสนอให้สร้างถนนอื่นแทนซึ่งจะใช้เวลาอย่างน้อย 15 เดือนหลังจากได้รับการอนุมัติแล้ว

    Woah! Get up close and personal with the 90-metre deep crack in the Gibihi road near Moura.

    Mining company Anglo American caused the crack four months ago... it doesn't think it can fix it.

    It is proposing to build another road instead, which will take at least 15 months, once it's approved.


    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...