ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปิดฉากสวยงาม! คิม-ทรัมป์ เซ็นข้อตกลงฉบับประวัติศาสตร์ หลังประชุม-ทานมื้อเที่ยง-เดินเล่นด้วยกัน

    นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามเอกสารข้อตกลงร่วมซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด หลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดระดับทวิภาคีและการรับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรมคาเปลลาบนเกาะเซนโตซาของสิงคโปร์ในวันนี้ (12 มิ.ย.)

    ทรัมป์กล่าวว่าข้อตกลงดังกล่าวมีความสำคัญและครอบคลุมประเด็นต่างๆ พร้อมเสริมว่าขั้นตอนการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือจะเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว เขาจะเชิญคิมเยือนทำเนียบขาวและคาดหวังว่าจะได้พบกับผู้นำเกาหลีเหนืออีกบ่อยๆ ในอนาคต

    คิมกล่าวว่า “โลกจะพบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” หลังจากเขาลงนามข้อตกลงร่วมฉบับ “ประวัติศาสตร์”

    ทั้งนี้ ทำเนียบขาวได้เปิดเผยเมนูอาหารกลางวัน ซึ่งเริ่มด้วยคอกเทลกุ้งกับสลัดอะโวคาโด ยำมะม่วง แตงกวายัดไส้ ต่อด้วยจานหลักอย่างกงฟีซี่โครงเนื้อเสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งอบและบรอกโคลีต้มสุก ข้าวผัดซอสเผ็ดเอ็กซ์โอ (XO) เคียงหมูกรอบ และปลาคอดเคี่ยวซอสสไตล์เกาหลี ก่อนปิดท้ายด้วยของหวานเป็นไอศกรีมวานิลลาและขนมโทรเปอเซียน

    หลังจากร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกลางวันแล้ว คิมและทรัมป์ยังได้เดินเล่นรอบโรงแรมคาเปลลาด้วยกัน โดยทรัมป์กล่าวกับกลุ่มผู้สื่อข่าวว่าการหารือกับคิมนั้น “ดีกว่าที่ทุกคนคาดคิด” และ “มีความก้าวหน้าอย่างมาก”

    #TrumpKimSummit

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นักวิเคราะห์ชาวรวันดา:ไม่แปลกที่แอฟริกาจะยอมรับเงินหยวนจีนเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ

    นักเศรษฐศาสตร์จากรวันดากล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่ “สมเหตุสมผลอย่างมาก” สำหรับรวันดาและประเทศอื่นๆ ในแอฟริกา" ที่จะใช้เงินหยวนเป็นสกุลเงินสำรองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีการทำธุรกรรมกับจีน

    การประชุมในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่การเงินจาก 14 ประเทศในทางภาคใต้และภาคตะวันออกของแอฟริกา ที่ตกลงว่าจะใช้เงินหยวนของจีนเป็นเงินสำรองระหว่างประเทศเนื่องจากจีนมีบทบาทอย่างเข้มแข็งในเศรษฐกิจของตน

    ในการดำเนินธุรกิจกับประเทศอื่นๆ ของรวันดา การมีทุนสำรองมากกว่าหนึ่งสกุลเงินจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ Teddy Kaberuka นักเศรษฐศาสตร์ชาวรวันดากล่าวขณะให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวเมื่อไม่นานมานี้ โดยกล่าวว่าหยวนจะมีประโยชน์มากเนื่องจากเงินในการจัดหาเงินทุนของประเทศรวันดาส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน และข้อตกลงระหว่างสองประเทศเรื่องการใช้เงินหยวนจะส่งผลดีต่อการอำนวยความสะดวกในด้านการทำธุรกรรมระหว่างกัน

    นอกจากนี้เขายังแนะนำให้จีนลงทุนในภาคการเงินของรวันดาและแอฟริกาผ่านทางธนาคารของจีน เพราะจะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศรวันดาเข้าถึงเศรษฐกิจจีนได้ ส่งผลให้การทำธุรกรรมระหว่างทั้งสองฝ่ายเป็นไปอย่างสะดวกสบาย อีกทั้งยังช่วยให้ธนาคารกลางของรวันดาสามารถรับเงินหยวนได้

    จากข้อมูลของ Doreen Makumi ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรของธนาคารแห่งชาติรวันดา ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา รวันดามีเงินหยวนในเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ เนื่องจากหยวนกำลังกลายเป็นสกุลเงินสำรองของโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้มีมติให้เงินหยวนรวมอยู่ในตะกร้าเงินสิทธิพิเศษถอนเงิน (SDR)

    Makumi กล่าวว่า เงินหยวนในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งในทุนสำรองระหว่างประเทศของรวันดา ยังคงได้รับแรงกระตุ้นจากความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนและรวันดาที่เพิ่มขึ้น และช่วยกระจายความเสี่ยงในการบริหารเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของรวันดา

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Jeerachart Jongsomchai


    ... “ยุโรปกำลังถูกอเมริกา ใช้ภาษีต่อรองเพื่อมาร่วมคว่ำบาตรอิหร่าน , กับระเบิดหนี้ที่ไม่กล่าวถึง”


    ... แม้การประชุม G6+1 ที่ผ่านมาผู้นำหลายคนของยุโรปจะแสดงภาษากายเพื่อให้ภาพออกมาว่าพวกเขาไม่เกรงกลัวและไม่พอใจ “อเมริกา” อีกต่อไปโดยการยืนค้ำโต๊ะขณะที่ “ทรัมป์” นั่งกอดอกอยู่ใกล้ๆ และนักวิเคราะห์อย่าง รอย พอล อดีตสส.น้ำดีของอเมริกามองว่ามันคือเกมการต่อรองของทรัมป์ ในการใช้นิ้วจูงจมูกยุโรปมาร่วมคว่ำบาตร “อิหร่าน”


    ... โดยก่อนหน้าที่จะไปประชุม G6+1 นั้นอเมริกาก็มีการประกาศการขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมในหลายประเทศ ไม่เว้นแม้แต่หางเครื่องวงดนตรีอย่างยุโรป ลูกน้องบริวาร คำถามจึงมีว่า อเมริกาทำแบบนั้นทำไม ?


    ... โดยรอนพอลมองว่า อเมริกามีเป้าใหญ่คือ “อิหร่าน” ในตอนนี้จึงต้องทำการ “ต่อรอง” โดยการขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมเพื่อบีบให้ยุโรปถอนตัวออกจาก JCPOA ตามตนเพื่อจะโดดเดี่ยวอิหร่าน เอาใจซาอุดิอาระเบีย และ อิสราเอล คือประมาณถ้าเอ็งถอนตัวออกจาก JCPOA ข้าก็จะยกเลิกการขึ้นภาษีเหล็กกับอลูมิเนียมเอ็ง


    ... The row over tariffs between the US and EU might actually be a part of Trump’s “maneuvers” over the Iranian nuclear deal, Ron Paul believes, warning that behind this smokescreen, the real problems


    .... โดยรอน พอล มองว่าภายใต้ม่านหมอกของการตะโกนด่ากันเรื่องภาษีเหล็กและอลูมิเนียมนั้น มีหลายอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่ ที่เขามองว่ามันคือการต่อรอง และเขามองว่ายุโรปไม่กล้าที่จะเอาคืนแรง เพราะว่าอเมริกายังครอบครองควบคุมเรื่องอาวุธทางการทหารได้ เรื่องระบบการเงินโลก และมีเงินดอลล่าร์ในทุนสำรองเงินตรา แต่ในระยะยาวเขาเชื่อว่าพวกยุโรปจะค่อยๆถอนเงินดอลล่าร์ออกจากคลุงทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศลงเรื่อยๆ ที่จะเข้าทางจีนกับรัสเซีย

    ... และรอนพอล มองว่าภาพถ่ายหรือการแสดงออกของผู้นำเหล่านั้นที่ยืนค้ำโต๊ะสูงกว่าทรัมป์ มันคือเกมการเอาใจประชาชนชาวบ้านเมื่อเดินทางกลับบ้านว่า พวกเขาพยายามทำเพื่อประเทศชาติแล้วนะ ( เป็นแค่การแสดงละครเท่านั้น )


    ... ซึ่งความเห็นของรอน พอล ก็สอดคล้องกับลุงปูตินที่บอกว่าการขึ้นภาษีเรื่องเหล็กอลูมิเนียมนั้น เป็นแค่เกมการต่อรองบีบยุโรปให้กลับมาคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง


    ... และการประชุม G6+1 ที่ผ่านมา ไม่แม้แต่มีการย้ำเรื่องปัญหาใหญ่ของยุโรปก็คือเรื่องหนี้สินที่ล้นทะลักทั่วทวีป เรื่องการค้าเสรี เรื่องเงินเฟียสไร้ทองคำค้ำ เรื่องดอลล่าร์กับการเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ที่ทั้งหมดนั้นกำลังทำให้เกิดปัญหาความไม่สมดุลในโลก ( ยังไม่นับเรื่องผู้อพยพในยุโรปอีก ที่พรรคขวาจัดของอิตาลีที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งบอกว่าจะส่งตัวผู้อพยพออกนอกประเทศ )


    ... ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมายุโรปก็มีปัญหาหนี้เสียมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจาก กรีซก่อน แล้วตามมาด้วย โปรตุเกศ ไอร์แลนด์ อิตาลี สเปน ประเทศเหล่านี้มีทั้งหนี้เอกชน เช่นหนี้ของธนาคารต่างๆหนี้ที่ปล่อยกู้จะเป็นหนี้เสีย อสังหาริมทรัพย์ที่สร้างจนล้นไม่สอดคล้องกับคนซื้อขายไม่ได้ หนี้เก็บคืนไม่ได้ รวมทั้งหนี้ของภาครัฐที่ขาดดุลต้องเอาเงินไปอุ้มธนาคารเหล่านั้นจนอุ้มไม่ไหว ต้องกู้เงินนอก เช่นทั้งไอเอ็มเอฟและอีซีบี แบบไทยปี 1997 โดย ไอเอ็มเอฟ ธนาคารกลางยุโรปที่เคยทั้งลดดอกเบี้ยลงเพื่อเอาใจคนกู้ มีเพียงเจ้าหนี้เงินกู้รายหลักจากสองประเทศอย่าง เยอรมันและฝรั่งเศส ที่พยายามบีบเอาเงินจากธนาคารตน จากเงินฝากของคนในประเทศไปอุ้มจนหลังแอ่นและถูกประชาชน แทนที่จะอาเงินมาพัฒนาประเทศ จนประชาชนในทั้งสองประเทศบ่นกันใหญ่ และทั้งสองประเทศก็ได้ประโยชน์ เพราะว่าต้องมีเงื่อนไขในการช่วยเหลือ คือบริษัทเอกชนใหญ่ๆได้ไปซื้อรัฐวิสาหกิจในประเทศ อย่าง กรีซ ในเงื่อนไขของการกู้เงิน แต่ประชาชนชาวบ้านในเยอรมัน ฝรั่งเศสขาดโอกาศอาเงินมาพัฒนาประเทศตัวเอง เช่น ธุรกิจใหม่ทุนน้อย อย่างพวกสตาร์ทอัพที่ต้องการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมสมัยใหม่ที่ต้องการกู้เงินจากธนาคาร ( การที่อังกฤษถอนตัวออกจากอียู ทำให้ไม่ต้องบีบให้ธนาคารของตนเอาเงินไปเข้ากองกลางธนาคารยุโรป ECB เพื่อเอาไปให้พวกยุโรปใต้เอาไปถลุงเล่น )


    ... และถ้าประเทศลูกหนี้ทางใต้ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเหล่านั้นไม่มีเงินจ่าย หรือชักดาบหนี้ แบบที่อิตาลีกำลังขู่อาจจะออกจากอียู ก็จะทำให้ธนาคารหลายแห่งในยุโรปอาจจะล้มคลืนมาก็ได้ ดังนั้นตอนนี้ทั้ง ฝรั่งเศส เยอรมันเองก็ไม่กล้าปล่อยกู้มากนัก ซึ่งนักวิเคราะห์บอกว่าโอกาศที่จะไม่มีเงินมาจ่ายหนี้มีสูงมาก มีแต่จะก่อหนี้ขึ้นเรื่อยๆ และถ้าเกิดวิกฤติการเงินขึ้นมา จะหนักหนากว่าในปี 2008 ของอเมริกา


    ... เยอรมันเคยเสนอให้ลดรายจ่าย ลดการเติบโตของยุโรปลงเพื่อลดการสร้างหนี้ที่มากขึ้นทั่วยุโรป ที่หลายประเทศมีหนี้มากกว่าจีดีพีไปหลายเปอร์เซนท์แล้ว แต่ฝรั่งเศสไม่เห็นด้วย สมัยประธานาธิบดีออลลองค์คนก่อนฝรั่งเศสเคยเสนอให้ทำ “พันธบัตรยูโร” ขึ้นมาเพื่อขายไปทั่วโลก และดูดเงินออมจากทั่วโลกมาล้างและปรนเปรอหนี้ของยุโรป


    ... “หนี้ยุโรป” ยังเป็นอีกปัญหาที่เหมือนระเบิดเวลารอวันตูมตามขึ้นมา และสร้างความเสียหายไปทั่วโลก

    .


    ... “They can, but I’m not optimistic that they will, because they complain about it, but I’m not sure they’re this determined. Because I think that the United States still intimidates a few of them. We do have a lot of power, we have a military power, we have control of the international financial system, we have the dollar system, we put on sanctions,”


    ... In the long term, however, the US will face some sort of response, as the “annoyance” with Washington's policies continues to grow. “Maybe there will be an alternative to dollar as a reserve currency of the world. I know that Russia and China and India and some other countries would like to see that happen,”


    ... Paul believes, as he already demonstrated his love for such fashion of “negotiating.” European leaders would also eagerly engage in them, as it would make them look like they are standing for their national interests.


    ... “I think that most of the people, the leaders the other six countries are going to try to be really really tough on Trump and make a lot of noise. Because they have to look tough, they are going to go home, and they are going to say ‘Look, I stood up to the president,’” Paul said, adding that it actually was “not the answer, because Trump usually wins all those types of arguments, he proved that in our campaigning.”


    ... This time, it's not the emerging markets but the developed markets that are in danger of default. Germany, France, and the United States, the major backers of the IMF, are themselves highly indebted. There would be little political appetite to add to that debt to fund the massive bailouts needed.


    .


    .


    .


    https://www.rt.com/usa/429085-ron-paul-tariffs-row/

    https://en.wikipedia.org/wiki/European_debt_crisis


     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    แถลงข่าวการฟ้องจนท.รัฐประพฤติมิชอบกรณีแบ่งแยกทรัย์สินกรณีปตท.ไม่ครบถ้วน

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    "...ล่าสุด ในช่วงเช้าวันที่ 12 มิ.ย.2561 ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา ได้เดินทางไปตรวจสอบข้อมูลสถานะปัจจุบัน ที่ดิน จำนวน 9 แปลง เนื้อที่ 50-3-08 ไร่ ซึ่งอยู่ติดริมถนนบางบอน 3 ติดกับคลองหนามแดง พื้นที่ลากยาวไปจนถึงโรงเรียนสอนภาษา อาภาพัฒนาดังกล่าวอีกครั้ง พบว่า ยังไม่มีการพัฒนาทำธุรกิจใดๆ ในพื้นที่ดังกล่าว ..."


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.isranews.org/isranews/66781-report03_66781.html


     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    บิ๊กตู่ ปรับปรุงองค์ประกอบ หน้าที่ อํานาจ คตช. สอดคล้อง คสช. ปราบทุจริตต่อเนื่อง เขียนวันที่ วันอังคาร ที่ 12 มิถุนายน 2561 เวลา 21:11 น. เขียนโดย isranews

    'บิ๊กตู่' ลงนามคำสั่งปรับปรุงองค์ประกอบ หน้าที่ อํานาจ คตช. สอดคล้อง คสช. เพื่อความเหมาะสมเพิ่มประสิทธิภาพขับเคลื่อนงานป้องกันเกิดผลรูปธรรมต่อเนื่อง เผยให้อำนาจเชิญจนท. บุคคล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง เสนอแนะความเห็นคําแนะนําทางวิชาการ เรียกเอกสารหลักฐานได้ตามความจําเป็น

    pic889999.jpg

    สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2561 ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ คําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 2/2561 เรื่อง การปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติระบุว่า ตามที่ได้มีคําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 127/2557 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ลงวันที่ 15 ธันวาคม พุทธศักราช 2557 กําหนดให้มีคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติภายในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อทําหน้าที่ในการบูรณาการ ติดตามประสานงานและสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐหรือภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้การดําเนินการตามนโยบายในเรื่องดังกล่าวเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ และต่อมาได้มีคําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2558 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตามองค์ประกอบคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ลงวันที่ 27 ตุลาคม พุทธศักราช 2558 กําหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการดังกล่าวให้เกิดความชัดเจนเพื่อให้การดําเนินการเป็นไปโดยเรียบร้อยนั้น

    เนื่องจากปัจจุบันได้มีการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ประกอบกับมีการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารราชการและการมอบหมายงานของฝ่ายบริหาร จึงสมควรปรับปรุงองค์ประกอบ ตลอดจนหน้าที่และอํานาจของคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติให้สอดคล้องกันเพื่อให้การดําเนินการเป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้การขับเคลื่อนการดําเนินการในเรื่องของการป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบเกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่องอาศัยอํานาจตามความในมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 42 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้

    ข้อ 1 ให้ยกเลิกคําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 127/2557 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ลงวันที่ 15 ธันวาคม พุทธศักราช 2557 คําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2558 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตามองค์ประกอบคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ลงวันที่ 27 ตุลาคม พุทธศักราช 2558 คําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 6/2559 เรื่อง แก้ไขบุคคลตามองค์ประกอบคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ลงวันที่30 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2559 และคําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2560เรื่อง เปลี่ยนแปลงคณะกรรมการตามองค์ประกอบคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ลงวันที่7 มีนาคม พุทธศักราช 2560

    ข้อ 2 ให้แต่งตั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติขึ้นภายในคณะรักษาความสงบแห่งชาติประกอบด้วย

    (1) หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานกรรมการ

    (2) รองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นรองประธานกรรมการ

    (3) หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เป็นกรรมการ

    (4) ผู้ดํารงตําแหน่งในคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมอบหมาย จํานวนไม่เกินสามคน เป็นกรรมการ

    (5) ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติแต่งตั้ง จํานวนไม่เกินเก้าคนเป็นกรรมการ

    (6) เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เป็นกรรมการและเลขานุการ

    (7) ผู้แทนสํานักงานเลขาธิการ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

    (8) ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

    ข้อ 3 คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติตามข้อ 2 มีหน้าที่และอํานาจดังต่อไปนี้

    (1) จัดทําแนวทางและมาตรการในการบูรณาการเพื่อเสริมสร้างและประสานความร่วมมือในการป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบระหว่างหน่วยงานของรัฐหรือภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องและเสนอให้คณะรัฐมนตรีทราบเพื่อดําเนินการตามหน้าที่และอํานาจต่อไป

    (2) ประสาน เร่งรัด ติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐให้เป็นไปตามกฎหมายกฎ ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และอยู่ภายใต้กรอบธรรมาภิบาล

    (3) ติดตาม ประสานงาน และสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือในการดําเนินการเพื่อป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ ทั้งในส่วนของหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่และอํานาจเกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ คณะกรรมการตามกฎหมาย ระเบียบ หรือคําสั่งที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนพิจารณาข้อเสนอของภาคเอกชนในการต่อต้าน ป้องกัน และขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ

    (4) จัดทําผลการดําเนินการและเสนอแนะความเห็นหรือกลไกในการดําเนินการที่จําเป็นในการป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาดําเนินการตามหน้าที่และอํานาจในการบริหารราชการแผ่นดิน

    (5) ในกรณีที่เห็นสมควรอาจเสนอหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อขอให้มีการประชุมร่วมกันของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี เพื่อปรึกษาหารือหรือพิจารณาแนวทางการดําเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องของการป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

    (6) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทํางานเพื่อช่วยเหลือหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานตามความจําเป็น

    (7) เชิญเจ้าหน้าที่ บุคคล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ให้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะความเห็นหรือคําแนะนําทางวิชาการ ตลอดจนขอให้ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาได้ตามความจําเป็น

    (8) ดําเนินการอื่นใดตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมอบหมาย

    ข้อ 4 การดําเนินการอื่นใดในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่6 มกราคม พุทธศักราช 2558 และวันที่ 27 ตุลาคม พุทธศักราช 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

    ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

    สั่ง ณ วันที่ 8 มิถุนายน พุทธศักราช 2561

    พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

    หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

    (ดูคำสั่งฉบับเต็มประกอบ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/134/28.PDF)

    https://www.isranews.org/isranews-news/66792-news04_66792.html
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สุดเจ๋ง! นวัตกรรมใหม่น้ำมันจาก “ต้นยางนา” ใช้แทนน้ำมันดีเซล เติมรถไถนาได้เลย by admin - June 11, 2018 0680
    New-TemplateCover-121.jpg

    รู้หรือไม่ว่า ต้นยางนาสามารถแปรเปลื่ยนไปเป็นนน้ำมันได้ด้วยนะวันนี้ทางทีมงานจะพามาดูความน่ามหัศจรรย์นี้ ต้นไม้จะเปลี่ยนเป็นเป็นน้ำมัน วัตถุดิบที่มีค่ามากเช่นนี้ได้อย่างไร

    1-99.jpg

    เรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้นี้เกิดขึ้นที่ อำเภอนาแกล จังหวัดนครพนม ได้ทำการวิจัยสำเร็จ จากต้นยางนากลายเป็นน้ำมันไบโอดีเซล แทนน้ำมันดีเซล โดยสามารถขับเคลื่อนเป็นพลังงานได้

    2-96.jpg

    ในศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ตำบลพิมาน อำเภอนาแกล จังหวัดนครพนม รถไถนาเดินตามคันนี้ ขับเคลื่อนโดยใช้น้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันจากต้นยางนา ทดแทน ได้สองปีแล้ว

    3-99.jpg

    เริ่มแรกทำการผสมกับน้ำมันดีเซลร้อยละ 50 ก่อใช้น้ำมันยางนาร้อยะ 50 ผสมกันครึ่งต่อครึ่ง แต่ต่อมาใช้น้ำมันไบโอดีเซลที่สกัดจากต้นยางนาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการใดๆ และไม่ต้องปรับแต่งเครื่องยนต์

    โดยเมื่อลองใช้มาเป็นระยะเวลาหนึ่งพบว่า กำลังเครื่องยนต์ไม่ตกและไม่ส่งผลกกระทบต่อเครื่องยนต์แต่อย่างใด ทั้งยังช่วยเกษตรกรลดต้นทุนไปได้ถึงเท่าตัว

    4-102.jpg

    เป็นผลงานการวิจัยจาก อบต.พิมาน จับมือ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี โดยน้ำมันต้นยางนานี้ใช้กับแค่รถไถนาเดินตาม ซึ่งขณะนี้กำลังวิจัยต่อยอดเพื่อให้สามารนำไปใช้กับเครื่องยนต์อื่นๆได้อีก

    5-100.jpg

    โดยคุณ บัญชา ศรีชาหลวง นายกอบต. พิมาน แจ้งว่า น้ำมันดีเซล 1 ลิตร สามารถใช้กับรถไถนาได้ราวๆ 2 ชั่วโมง โดยใช้เครื่องรอบต่ำ แต่ถ้าหากเราผสมน้ำมันยางนาเข้าไปด้วยจะใช้ได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมงเลยทีเดียว

    6-97.jpg

    ต้นยางนาที่เจาะเอาน้ำมันได้ จะอายุราว 15-20 ปี ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ในป่าชุมชน ดอนย่านาง ต.พิมาน กว่า 300 ต้น บางต้นอายุ 200-300 ปี

    วิธีการเจาะเอาน้ำมันก็ไม่ยุ่งยาก

    เริ่มจากการนำสว่านไฟฟ้ามาเจาะเข้าไปในเนื้อยางนา ความลึกราว 10-20 เซนติเมตร สูงจากพื้นดินขึ้นมาประมาณ 30-50 เซนติเมตร พอให้ตัวขวดได้

    7-87.jpg

    จากนั้นใช้ขวดพลาสติกที่ต่อกับจุกยาง เสียบเข้ากับเนื้อไม้ ใช้ดินน้ำมันปิดกันรั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน จะได้น้ำมันยางนาเต็มขวด ราวๆ 500 มิลลิลิตร

    8-76.jpg

    9-68.jpg

    ขณะนี้ อบต. พิมานกำลังทำการขยายพันธ์ปลูกต้นยางนา เพื่อเป็นพลังงานทดแทนในอนาคต ใช้เวลาเพียง 15 ปี ก็เสมือนมีบ่อน้ำมันบนดิน เป็นของตัวเองซ้ำยังเพิ่มพื้นที่ป่าเพิ่มความสมบูรณ์ในระบบนิเวศอีกด้วย

    10-57.jpg

    ถือเป็นทางเลือกใหม่ของเกษตรกร ยุคนี้น้ำมันแพงเหลือเกิน ปลูกต้นยางนาไว้ก็ดี การเก็บน้ำมันก็ง่าย ไม่ต้องผ่านกระบวนการยุ่งยาก เผื่อในอนาคตหากทำการวิจัยพัฒนาต่อยอดได้สำเร็จ อาจจะได้เห็นน้ำมันจากต้นยางนาถูกนำมาใช้งานกับเครื่องยนต์ชนิดอื่นได้อีกมาก จะได้มีแหล่งพลังงานอีกหนึ่งทางเลือก



    https://isan.siamtodaynews.com/8190
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • New-TemplateCover-121.jpg
      New-TemplateCover-121.jpg
      ขนาดไฟล์:
      123.6 KB
      เปิดดู:
      20
    • 1-99.jpg
      1-99.jpg
      ขนาดไฟล์:
      167.3 KB
      เปิดดู:
      37
    • 2-96.jpg
      2-96.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.6 KB
      เปิดดู:
      36
    • 3-99.jpg
      3-99.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24 KB
      เปิดดู:
      24
    • 4-102.jpg
      4-102.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.1 KB
      เปิดดู:
      38
    • 5-100.jpg
      5-100.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.9 KB
      เปิดดู:
      33
    • 6-97.jpg
      6-97.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.4 KB
      เปิดดู:
      38
    • 7-87.jpg
      7-87.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20 KB
      เปิดดู:
      33
    • 8-76.jpg
      8-76.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.9 KB
      เปิดดู:
      36
    • 9-68.jpg
      9-68.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.9 KB
      เปิดดู:
      34
    • 10-57.jpg
      10-57.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23 KB
      เปิดดู:
      44
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2018
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ดุเดือดสุดๆ "บิ๊กตู่" เอาจริง? แต่งตั้ง สีกากี ต้องไม่มีทุจริต เรียกเงินทอง ลั่น!!! ทหารทำได้ ตำรวจก็ต้องทำได้

    เมื่อวันที่ 12มิ.ย.61 เวลา 13.45 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมครม.สัญจร ว่า ได้สั่งการได้ที่ประชุมถึงเรื่องการปฏิรูปตำรวจ 1 ปีที่ผ่านมา ทำในสิ่งที่ทำได้ก่อน ส่วนเรื่องการแต่งตั้ง ขอให้เกิดความชัดเจน ต้องไม่มีการทุจริตเรียกเงินเรียกทองมันมีวิธีการอยู่ ตรงนี้ทหารเขาทำได้ ตำรวจก็ต้องทำได้ ฉะนั้นมันมีทั้ง 2 อย่างคือ จริงบ้างไม่จริงบ้าง บางอย่างก็ไม่บอกกัน บางอย่างก็อ้างกัน ฉะนั้น จะทำอย่างไรนั้นตนมอบหมายไปแล้ว การแต่งตั้งต้องเป็นธรรม ซึ่งมีสัดส่วนของมันอยู่ ทั้งเรื่องอาวุโส และความเหมาะสม ซึ่งต้องมีฟาสแทร็คขึ้นมาด้วย หากเอาความอาวุโสอย่างเดียวบางทีมันไม่ได้ ทหารก็เหมือนกันบางทีเราอาวุโสอย่างเดียว มันก็อาจไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ต้องเตรียมคนรุ่นใหม่ไว้พร้อมกัน ไม่เช่นนั้นความอาวุโสที่เท่ากัน เมื่อขึ้นมาแล้วเกษียณพร้อมกันหมด ไม่เกิดความต่อเนื่องจึงต้องดูสัดส่วนตรงนี้ให้เหมาะสม

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องงานสอบสวน คงต้องดูแลส่วนนี้อยู่ ต้องมีกลไกเพื่อให้เกิดการประสานสอดคล้อง เมื่อรับเรื่องร้องเรียนเข้ามาแล้วไม่เป็นธรรมแล้วจะทำอย่างไร ทั้งนี้ ในส่วนของการโอนหน้าที่ ที่ไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจโดยตรง เช่น ตำรวจรถไฟ ตำรวจจราจร แต่อย่าลืมว่าบางอย่างเราต้องใช้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ อยู่ที่การบริหารจัดการว่าจะทำอย่างไร ให้สิ่งที่เรามีอยู่แล้วทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นการบริหารงานของจราจร ศูนย์บก.02 ที่ดูแลการจราจรทั้งกรุงเทพและปริมณฑล เขามีอำนาจแค่ไหนอย่างไร จราจรพื้นที่เป็นอย่างไร สามารถสั่งการลงไปในพื้นที่ได้หรือไม่ในการที่จะระบายรถในพื้นที่ต่างๆ ไม่ใช่เขตนี้รถไม่ติด เขตหน้ารถติด ฉะนั้น ตนจะหาโอกาสไปดูศูนย์ควบคุมการจราจร เพราะต้องมีบทบาทตรงนี้ให้มากขึ้น เราอาจจะแก้ปัญหาการจราจรให้ได้ผล เป็นเรื่องที่ตนให้ความสำคัญมาก อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างเส้นทางต่างๆจำเป็นจะต้องก่อสร้าง ไปอาจทำให้เกิดรถติด ซึ่งทุกคนต้องเข้าใจปัญหา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องแก้ปัญหาให้ได้ เพื่อประชาชนเข้าใจว่าทำเต็มที่แล้ว แต่ถ้ายังทำไม่เต็มที่แล้วยังมีข้อสงสัยกันอยู่ก็จะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้

    "การเจริญเติบโตของตำรวจ และการปรับปรุงโครงสร้างของดีเอาไอว่า ควรทำหน้าที่อะไร ในเมื่อตั้งขึ้นมาเพื่อทำคดีพิเศษ ไม่ใช่บางคดี ไม่ให้ตำรวจทำ ตำรวจก็เอาไปให้ดีเอสไอทำ เพราะดีเอสไอตั้งมาเป็นหน่วยงานพิเศษ เหมือนสกอตแลนด์ยาร์ด หรือเอฟบีไอ จะทำอย่างไร ไม่ใช่ทางเลือก แต่มันเป็นหน้าที่หรือพันธกิจที่ต้องทำให้เกิดความชัดเจนขึ้น แล้วบุคลากรของดีเอสไอควรจะเป็นอย่างไร มาจากตำรวจทั้งหมดได้หรือไม่ มันก็ต้องลดสัดส่วนตรงนี้ลงไป เอาบุคคลภายนอกที่เรียนรู้เรื่องกฎหมายระหว่างประเทศหรืออะไรมาอยู่ในดีเอสไอ นี่คือเรื่องการปรับโครงสร้างตำรวจคร่าวๆ ยังคงอีกหลายเรื่องเช่นกันพิสูจน์หลักฐาน บางทีมันทำงานร่วมกัน ลำบาก ฉะนั้นควรจะต้องแยกแยะให้เกิดความชัดเจนหรือไม่ตรงไหนจะทำอะไรอย่างไรมันทำได้ ซึ่งก็อยู่ที่ความบริสุทธิ์ใจ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ทุกคน อันนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วงผมได้ย้ำเตือนไปเเล้ว"พล.อ.ประยุทธ กล่าว



    ขอบคุณภาพจาก http://www.thaigov.go.th

    เรียบเรียงโดย
    เอกสิทธิ์ ชูวารี,สำนักข่าวทีนิวส์
    Publisher : 2018-06-12 15:32:15


    http://m.tnews.co.th/contents/la/461626
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ชาวบ้านโวย ! นายทุนลอบขุดดินหลวงขาย สูญกว่า 30 ล้านบาท
    5 นาที 12 มิถุนายน 2018

    1528773780_34627_002.jpg

    นายทุนรับเหมา ลักลอบขุดดินหลวงขาย 15 ไร่ เมืองกาฬสินธุ์ เสียหายกว่า 30 ล้านบาท พบขุดเป็นบ่อลึกกว่า 10 เมตร จนท.เร่งตามตัวมาดำเนินคดี

    วันที่ 12 มิ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.มานพ ไขขุนทด รอง ผอ.รมน. จ.กาฬสินธุ์ นายเดชา เจนกลรบ ปฏิรูปที่ดิน จ.กาฬสินธุ์ นายพลานุภาพ ธนพรคำแพทย์ นายอำเภอท่าคันโท พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบแปลงที่ดิน สปก.ในพื้นที่บ้านยางอุ้ม ม.1 ต.ยางอุ้ม อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มนายทุนรับเหมา นำเครื่องจักรเข้ามาลักลอบขุดดินและหินลูกรังในที่ดินหลวง ซึ่งอยู่ในที่ดิน ส.ป.ก. บริเวณดังกล่าว แล้วนำไปขายโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย

    1528773789_70449_003.jpg

    จากการตรวจสอบ พบว่าที่ดินบริเวณดังกล่าว เป็นที่ดิน ส.ป.ก. มีเนื้อที่ 4 แปลง จำนวน 30 ไร่ ซึ่งมีชาวบ้านเป็นผู้ครอบครองและใช้กรรมสิทธิ์ จำนวน 4 ราย พบร่องรอยการใช้เครื่องจักรเข้ามาลักลอบขุดดิน และหินลูกรัง จำนวน 15 ไร่เศษ จนเป็นบ่อขนาดใหญ่ความลึก 5-7 เมตร และหลายจุดมีการลักลอบขุดลึกลงไปมากกว่า 10 เมตร แล้วนำดินออกไปจากพื้นที่ ซึ่งสร้างความเสียหายให้หลวงกว่า 30 ล้านบาท

    นายเดชา เจนกลรบ ปฏิรูปที่ดิน จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สำนักงาน ส.ป.ก. กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีนายทุนนำเครื่องจักรเข้ามาลักลอบขุดดินและหินลูกรัง ซึ่งเป็นทรัพย์สินของหลวง และนำไปขาย จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทันที ซึ่งขณะนั้น พบรถแม็คโคร จำนวน 2 คัน กำลังขุดดินและหินลูกรังอยู่ พร้อมทั้งมีรถบรรทุก 6 ล้อ ลักลอบบรรทุกดิน วิ่งเข้าออกอย่างไม่ขาดสาย

    1528773871_23569_005585.jpg

    เจ้าหน้าที่จึงประสานขอกำลังไปยังเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. จ.กาฬสินธุ์ ทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยระหว่างที่กำลังจะเข้าไป กลุ่มนายทุนรับเหมาไหวตัวทัน นำรถบรรทุกและรถแม็คโครหลบหนีไปได้ 1 คัน และทิ้งรถแม็คโครไว้ 1 คัน โดยพบมีป้ายข้อความติดบริเวณหน้ากระจกคนขับว่า เทพเขมราฐ เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ตรวจสอบ ส่วนคนงานสามารถหลบหนีไปได้

    ทั้งนี้ ทาง ส.ป.ก.กาฬสินธุ์ ได้เข้าแจ้งความกับ สภ.ท่าคันโท ไว้แล้ว พร้อมกับกำลังตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ชาวบ้านที่ครอบครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวทั้ง 4 ราย เป็นใครบ้าง และกลุ่มนายทุนรับเหมาเข้ามาลักลอบขุดดินและหินลูกรังได้อย่างไร

    1528773792_37466_004.jpg

    ด้าน พ.อ.มานพ ไขขุนทด รอง ผอ.รมน. จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินอยู่ในเขต ส.ป.ก. ทั้งหมด มีจำนวน 4 แปลง เนื้อที่รวม 30 ไร่ ซึ่งมีชาวบ้านถือครองกรรมสิทธิ์ 4 ราย โดยพื้นที่ติดถนนปลูกอ้อย แต่จากการตรวจสอบลึกเข้าไปข้างใน พบมีการลักลอบขุดดินและหินลูกรังในพื้นที่ จำนวน 15 ไร่

    เบื้องต้น เป็นการลักลอบขุดที่ทำมานานแล้ว และคาดว่าดินและหินลูกรังที่ถูกขุดลักลอบออกไป น่าจะนำไปสร้างถนน โดยความเสียหายทั้งหมด มีมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มนายทุนรับเหมาในพื้นที่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวทาง กอ.รมน. จ.กาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการตรวจสอบ พร้อมกับเร่งขยายผลหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย


    เขียนโดย WorkpointNews


    https://workpointnews.com/2018/06/12/ชาวบ้านโวย-นายทุนลอบขุ/
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปปง.เตรียมยึดทรัพย์อดีตปลัด-รองปลัด พม. 88 ล้านบาท 12 มิถุนายน 2018

    1528819248_39503_.jpg

    การทุจริตงบประมาณช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่ง ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) วันนี้ กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง เมื่อ ปปง.เตรียมจะยึดทรัพย์ อดีตปลัด พม.และพวก รวมเกือบ 90 ล้านบาท

    ก่อนหน้านี้ อดีตปลัด พม.ถูกให้ออกจากราชการไว้ระหว่างการสอบสวน แต่ระหว่างนี้ ปปง.พบทรัพย์สินที่เข้าข่ายการฟอกเงิน เชื่อมโยงกับการทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่ง

    คณะกรรมการธุรกรรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เตรียมยึดทรัพย์ นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายณรงค์ คงคำ อดีตรองปลัดกระทรวงฯ และ นายธีรพงษ์ ศรีสุคนธ์ อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวง พร้อมพวก มูลค่าทรัพย์สินกว่า 88 ล้านบาท พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงิน

    1528819250_91589_2.jpg

    จากการตรวจสอบรายงานการทำธุรกรรม เกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคล รวมทั้งผู้ซึ่งเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดมูลฐานฟอกเงิน พบว่าเป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในห้วงเวลาเดียวกันที่พบปัญหาการทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่ง ปี 2560 งบประมาณกว่า 500 ล้านบาท

    ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ พบว่า นายพุฒิพัฒน์ยังให้เพื่อนหญิงคนสนิท ที่อดีตเคยเป็นข้าราชการกระทรวง พม. แต่เพิ่งลาออกจากราชการเมื่อปี 2559 ดำเนินการซื้อทรัพย์สินหลายรายการอีกด้วย

    ขณะที่อดีตผู้บริหารกระทรวง พม.ทั้ง 3 คน ถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน โดยถูกตัดขาดจากสวัสดิการเงินเดือนทุกอย่าง จนกว่าผลการสอบวินัยร้ายแรงแล้วเสร็จ

    https://workpointnews.com/2018/06/12/ปปง-เตรียมยึดทรัพย์อดีต/
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Thirachai Phuvanatnaranubala

    "ภาพทรัมป์นั่งอยู่กับคิมน้อย ที่จริงมีสีจิ้นผิงยืนอยู่ข้างหลัง!"

    สิ่งที่จีนต้องการ จากการพบปะระหว่างทรัมป์กับคิมน้อย คือเปิดช่องให้มีการลดระดับการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ และผลักดันอเมริกาออกไปจากคาบสมุทรเกาหลี

    ในเรื่องการคว่ำบาตร ทรัมป์กล่าวว่า จะยังไม่ยกเลิก แต่กระทรวงต่างประเทศจีนออกข่าวชัดเจน จีนจะเสนอสหประชาขาติให้ผ่อนคลายแซงชั่น เพื่อเป็นกำลังใจให้คิมน้อย

    และเนื่องจากทรัมป์ก็ต้องการให้การเจรจาคืบหน้า จึงมีความเป็นไปได้ ที่อเมริกาจะยอมผ่อนปรนลงบ้าง

    แต่ประเด็นที่น่าสนใจที่สุด คือการที่ทรัมป์ประกาศว่าอเมริกาจะพิจารณาเลิกการซ้อมรบกับเกาหลีใต้

    การซ้อมรบเป็นจุดขัดแย้งกับเกาหลีเหนือมาตลอด

    แต่หลังจากคิมน้อยจับมือกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เชื่อได้ว่า เกาหลีใต้บวกลบคูณหารดูแล้ว การที่เกาหลีใต้มีอเมริกานั่งอยู่บนบ่ามาหลายสิบปี ถึงเวลาต้องทบทวน

    เพราะถ้ามีเหตุการณ์ปะทุขึ้น เกาหลีใต้มีแต่แบนแต๊ดแต๋ ดังนั้น คาดได้ว่าประธานาธิบดีมูนคงจะเปรยเรื่องนี้กับทรัมป์ก่อนหน้าแล้ว ถึงแม้ต่อหน้าสื่อ มูนจะทำทีว่าแปลกใจก็ตาม

    แต่คนที่จะตกใจเรื่องนี้มากที่สุด น่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เนื่องจากญี่ปุ่นอาศัยอเมริกาในการถ่วงดุลกับจีนและเกาหลีใต้มาตลอด

    อย่างไรก็ดี ถ้าฟัง ซีเอ็นเอ็น จะได้ข้อมูลสำคัญประการหนึ่ง ...

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวที่กระทรวงต่างประเทศจีน โฆษกจีนชมเชยว่าการเจรจามีข้อตกลงยกเลิกการซ้อมรบ ซึ่งเป็นไปตามข้อเสนอของจีน

    ผู้สื่อข่าวพากันงง เพราะทางการสหรัฐไม่ได้เปิดเผยจุดยืนเกี่ยวกับเรื่องนี้แก่ผู้สื่อข่าวอเมริกันแม้แต่น้อย

    ปรากฏว่า หลังจากนั้น 2 ชั่วโมง ทรัมป์ก็แถลงข่าวเรื่องนี้ เป็นไปตามที่กระทรวงต่างประะทศจีนกล่าวทุกประการ

    เป็นการโชว์พาวอย่างหนึ่งทีเดียว เป็นการแสดงว่าจีนรู้ประเด็นเจรจาครบถ้วน

    และเป็นการแสดงว่า จีนรู้ความคืบหน้าการเจรจาอย่างลึกซึ้งด้วย

    นี่คือภาพสีจิ้นผิงที่มองไม่เห็น ยืนอยู่เบื้องหลังในการเจรจาครั้งนี้

    วันที่ 12 มิถุนายน 2561
    ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล
    Facebook Thirachai Phuvanatnaranubala

    https://www.telegraph.co.uk/news/20...m-jong-un-summit-live-latest-news-updates-us/

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    จับไต๋ รบ.ประยุทธ์ อุ้มสูตรราคาน้ำมันเทียม ก๊อบปี้ใช้กับแอลพีจี โกยกำไรให้โรงแยกก๊าซ
    เผยแพร่: 12 มิถุนายน 2561 18:11 น. ปรับปรุง: 12 มิถุนายน 2561 21:09 น. โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    561000006092001.jpg

    นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    อดีต รมว.คลัง วิเคราะห์รัฐบาลประยุทธ์ ไม่ยอมเปลี่ยนสูตรราคาขายน้ำมันในประเทศ โดยบวกค่าขนส่งเทียมจากสิงคโปร์ ทั้งที่หมดความจำเป็นต้องสร้างแรงจูงใจให้โรงกลั่นแล้ว นายกฯ และ รัฐมนตรีหลายคนเคยเป็นกรรมการโรงกลั่นน่าจะรู้เรื่องดี แต่ยังคงเอาไว้เพราะต้องการเอาสูตรนี้ไปใช้กับแอลพีจีเพื่อเพิ่มกำไรมหาศาลให้โรงแยกก๊าซฯ

    วันนี้ (12 มิ.ย.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala ในหัวข้อ “ทำไมรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จึงไม่แก้ไขสูตรค่าขนส่งน้ำมันเทียม?” โดยระบุว่า เหตุผลที่ไม่แก้ไขสูตรค่าขนส่งน้ำมันเทียม น่าจะเพราะมุ่งหวังประโยชน์ในเรื่องก๊าซหุงต้ม (LPG) ซึ่งใหญ่กว่ามาก เป็นจริงหรือไม่?

    สูตรราคาหน้าโรงกลั่นน้ำมันในไทย ที่รัฐบาลในอดีตยินยอมให้บวกค่าขนส่งเทียมจากสิงคโปร์มาไทยนั้น เป็นเรื่องที่เถียงกันมานานแล้ว เพียงแต่ข้อถกเถียงในอดีต เน้นในประเด็นเพียงว่า โรงกลั่นในไทยได้กำไรเกินควร หรือไม่? จึงไม่หนักแน่น แต่ลืมนึกกันไปว่า สูตรดังกล่าว เป็นการให้แรงจูงใจที่บิดเบือน และกระตุ้นให้โรงกลั่นน้ำมันในไทย ขยายกำลังผลิตเพื่อส่งออก …

    และปีนี้ ก็มี 2 โรงกลั่นใหญ่ที่ประกาศแผนขยายกำลังผลิต ** ทั้งที่ทุกวันนี้ ไทยมีกำลังกลั่นเกินความต้องการในประเทศอยู่แล้ว เกือบ 1 ใน 5 **

    เหตุที่มุ่งมั่นขยายเพื่อส่งออก เพราะสามารถเอากำไรจากขายคนไทย ไปตัดราคาส่งออกได้ มาถึงวันนี้ จึงต้องแก้ไขสูตรราคาน้ำมันด่วน! เพราะถ้าต่อไป ยิ่งขยายกำลังกลั่นเพื่อส่งออก คนไทยจะยิ่งถูกเฉือนเลือดเฉือนเนื้อ ก้อนใหญ่มากขึ้น

    ถามว่า รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ ที่บริหารประเทศมาตลอดสี่ปี และราคาน้ำมันในตลาดโลกอยู่ในระดับที่ต่ำ จึงสามารถจะแก้ไขสูตรราคาที่ไม่เป็นธรรมแก่คนไทยได้ง่าย แต่กลับไม่ดำเนินการ น่าจะมีเหตุผลใด?

    นอกจากนี้ ข้อมูลก็ปรากฏว่า พลเอก ประยุทธ์ และรัฐมนตรีพลังงานคนปัจจุบัน รวมทั้งรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลประยุทธ์ ก็เคยเป็นกรรมการในโรงกลั่นน้ำมันไทย

    ครม. ของพลเอก ประยุทธ์ และผู้พิจารณาเสนอนโยบาย จึงย่อมรู้ถึงสภาพปัญหาเหล่านี้เป็นอย่างดี แต่ทำไมไม่แก้ไข?

    หลักฐานข้อมูลที่ 1
    นายทวารัฐ ผอ.สนพ. ที่ออกมาชี้แจงคำวิจารณ์ของผม เกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ ในการเปลี่ยนแปลงวิธีกำกับราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) (รูป 1) ระบุว่า ตามที่รัฐบาลในอดีต เคยกำหนดเพดานขายก๊าซแก่ครัวเรือนไว้ 333 ดอลลาร์ต่อตัน เพื่อมิให้ครัวเรือนเดือดร้อนนั้น รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ เปลี่ยนเป็น “เปิดเสรีด้านราคา” โดยให้อ้างอิงราคานำเข้าก๊าซหุงต้มจากตะวันออกกลางแทน! ซึ่งทำให้ราคาเริ่มต้นของครัวเรือนสูงขึ้นอย่างมาก เช่น ในเดือนตุลาคม 2560 สูงกว่าเดิมประมาณ 1 เท่าตัว
    561000006092002.jpg

    เจตนาเพื่อให้ “กลไกการค้าก๊าซ LPG จะคล้ายกลไกการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง และนำมาสู่การแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้น” (ลูกศร) ตรงนี้เอง เป็นจุดบอกเหตุ!!!

    เหตุผลที่รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ ไม่แก้ไขสูตรราคาน้ำมัน ที่อ้างอิงราคานำเข้า จึงน่าจะเป็นเพราะ ...มีความประสงค์จะก๊อบปี้ เอาหลักการนี้ ซึ่งเดิมใช้อยู่แต่เฉพาะในธุรกิจน้ำมัน จะต้องการจะขยายวง เอาไปใช้ในธุรกิจก๊าซหุงต้มด้วย!

    พูดภาษาง่ายๆ ถ้าหากมีการยกเลิก การอ้างอิงราคานำเข้า สำหรับน้ำมัน ก็จะขัดกับหลักการใหม่ ที่จะนำมาใช้กับก๊าซหุงต้ม …

    ถามต่อไปว่า ธุรกิจก๊าซหุงต้ม มีความสำคัญต่อกำไรบริษัทพลังงาน มากน้อยเพียงใด?

    เนื่องจากธุรกิจโรงแยกก๊าซ และโรงกลั่นน้ำมันยังมีการผูกขาดอยู่ระดับหนึ่ง …

    ดังนั้น การเปิดเสรีแต่ด้านราคา ทั้งที่ยังไม่เปิดเสรีด้านแข่งขันการผลิต จึงเปิดช่องโหว่ ให้บริษัทพลังงานสามารถเพิ่มกำไร

    ผมใช้ข้อมูลในงบการเงินปี 2560 ของบริษัท ปตท. เพื่อเป็นตัวอย่างอธิบายเรื่องนี้ โดยไม่สื่อว่าบริษัทดังกล่าว มีส่วนในการกำหนดนโยบายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์แต่อย่างใด

    หรือกล่าวหาว่ามีใครทำผิดกฎหมายเรื่องใดนะครับ

    หลักฐานข้อมูลที่ 2
    561000006092003.jpg

    ในรูป 2 จะเห็นว่า ปี 2559 และ 2560 บริษัทมีกำไรก่อนต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้ เป็นเงิน 1.8 และ 2.4 แสนล้านบาท
    ตัวเลขดังกล่าว เป็นกำไรจากธุรกิจก๊าซ มากถึง 5.4 และ 7.0 หมื่นล้านบาท คร่าวๆ คิดเป็น 30% ของกำไรทั้งหมด ...
    สูงเป็นอันดับสอง รองจากกำไรปิโตรเคมีและการกลั่นเท่านั้น เป็นการยืนยันว่า ธุรกิจก๊าซสำคัญต่อบริษัทพลังงานมาก!

    และที่ประชาชนน่าจะสงสัย คือ กำไรธุรกิจก๊าซซึ่งพรวดพราดสูงขึ้น จาก 5.4 หมื่นล้านบาท ขึ้นไปมากถึง 7.0 หมื่นล้านบาทนั้นเป็นกำไรที่เกิดขึ้น สืบเนื่องจากนโยบายก้อปปี้วิธีการกำกับราคาน้ำมัน เอาไปใช้กับก๊าซหุงต้ม เป็นจำนวนเงินเท่าใด?

    หลักฐานข้อมูลที่ 3

    และในรูป 3 จะเห็นว่า ก๊าซหุงต้ม (LPG) เป็นผลิตภัณฑ์หลักในกลุ่มก๊าซธรรมชาติ เป็นสัดส่วนกว่า 40%
    561000006092004.jpg

    ดังนั้น การที่รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ เปลี่ยนวิธีการกำกับราคาก๊าซหุงต้ม ไปเลียนแบบที่ใช้อยู่สำหรับน้ำมัน จึงอาจทำให้บริษัทพลังงานต่างๆ ดังตัวอย่างกรณี ปตท. ได้ประโยชน์มาก

    ดังในรูป 3 จะเห็นได้ว่า ภายหลังจากที่รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ เปลี่ยนวิธีการกำกับราคาก๊าซหุงต้ม ราคาอ้างอิงของโรงแยกก๊าซได้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทำให้บริษัทกำไรเพิ่มขึ้น ใช่หรือไม่? …

    ในปี 2559 ราคาอ้างอิงเท่ากับ 336 ดอลลาร์ต่อตัน ต่อมาในปี 2560 พุ่งขึ้นเป็น 485 ดอลลาร์ต่อตัน เพิ่มขึ้น 44.3% !!!
    เป็นอัตราเพิ่มที่แซงหน้าผลิตภัณฑ์ก๊าซอื่นๆ ทั้งหมด! (ดูรูป 3 ตารางข้างล่าง)

    ดังนั้น ...
    ถามว่า การก๊อบปี้นโยบายอ้างอิงราคานำเข้า ที่ใช้สำหรับน้ำมัน เอาไปใช้กับก๊าซหุงต้ม LPG นั้น ทำให้บริษัทพลังงานต่างๆ กำไรมากขึ้น หรือไม่? คำตอบปรากฏอยู่ในงบการเงินชัดเจนอยู่แล้ว หรือไม่?

    ในรูปที่ 10 บริษัท ปตท. ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของโรงแยกก๊าซและโรงกลั่นน้ำมัน แถลงว่า ได้กำไรในปี 2560 “ถือเป็นกำไรสุทธิสูงสุดนับแต่ก่อตั้ง ปตท.”
    561000006092011.jpg

    ในเมื่อนโยบายรัฐบาลนี้ มีผลให้บริษัทพลังงานต่างๆ มีกำไรเพิ่มขึ้น แต่เป็นการควักเงินออกมาจากกระเป๋าของคนไทย ...
    ซึ่งผลกำไรที่เพิ่ม เป็นที่ยินดีของนักเล่นหุ้น ทั้งคนไทย และคนต่างชาติ …

    ผมจึงเรียกนโยบายแบบนี้ว่า “เฉือนเนื้อคนจน ไปให้คนรวย!” เมื่อมีเจตนาอย่างนี้ จะไปยกเลิกการอ้างอิงราคานำเข้าสำหรับน้ำมันได้อย่างไร?

    “ตามข้อวิเคราะห์ข้างต้น นโยบายราคาน้ำมัน “เฉือนเนื้อคนไทย ไปให้โรงกลั่น!” ก็เลยยังจำเป็นต้องคงเอาไว้ก่อน ด้วยเหตุนี้หรือเปล่า?” นายธีระชัย ระบุ

    http://news1live.com/detail.aspx?NewsID=9610000058454
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2018
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    แฉทำเป็นขบวนการ '12อดีตขรก.พม' ยึดทรัพย์กว่า 88 ล้าน ฟอกเงินโกงคนจน
    750x422_804638_1528853387.jpg
    13 มิถุนายน 2561

    เปิดพฤติกรรมฉาว! หลัง ปปง. สั่งยึดทรัพย์ "12อดีตขรก.พม" กว่า 88 ล้าน ทำเป็นขบวนการ-ฟอกเงิน ชี้เป็นเงินฝาก บ้าน คอนโด รถหรู เซ่นคดีทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่ง ชี้พฤติกรรมทุจริตหมุนเงินกลับผู้บริหารระดับสูง

    สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) - 13 มิ.ย. 61. พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. เปิดเผยถึงมติคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุมเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า ตามที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ ปปง. ตรวจสอบ ธุรกรรมและทรัพย์สินของกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ทุจริตการยักยอกเงินช่วยเหลือคนยากไร้ ซึงมีความเกี่ยวข้องกับ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ปปง. ได้ดำเนินการตรวจสอบเชิงลึกแล้วพบว่า ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ 3 ราย ได้แก่ นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายณรงค์ คงคา อดีตรองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายธีรพงษ์ ศรีสุคนธ์ อดีตผู้ตรวจราชการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีพฤติการณ์ทุจริตการยักยอกเงินช่วยเหลือคนยากไร้

    โดยพฤติการณ์ของกลุ่มบุคคลดังกล่าวมีลักษณะ การทำงานเป็นขบวนการผ่านทางการจัดสรรเงินงบประมาณลงไปยังศูนย์และหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดทั่วทุกภาค และมีการจัดทำเอกสารการเบิกจ่ายเงินงบประมาณอันเป็นเท็จ โดยนำเงินที่ได้จากการทุจริตเบิกจ่ายส่งกลับคืนไปยังผู้บริหารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการในขณะนั้น และแปลงเงินไปเป็นทรัพย์สินในรูปแบบอื่นให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์ เช่น ที่ดิน ห้องชุด รถยนต์หรู เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร และหลักทรัพย์ต่างๆ จากการสืบสวนข้อมูลทางการเงินและ ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้องพบว่า มีการได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานตาม กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเป็นจำนวนมาก

    คณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่ เกี่ยวกับการกระทำความผิดของนายพุฒิพัฒน์ นายณรงค์ และนายธีรพงษ์ และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับบุคคลดังกล่าว ประมาณ 12 ราย เช่น ที่ดิน ห้องชุด รถยนต์หรู เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร และหลักทรัพย์ต่างๆ รวม 41 รายการ มูลค่าประมาณ 88 ล้านบาท เพื่อดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

    พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มคนดังกล่าวมีพฤติการณ์กระทำความผิดทางอาญาฐานฟอกเงิน ซึ่งปปง. จะได้ดำเนินการกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีอาญา ความผิดฐานฟอกเงินกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ขอแจ้งเตือนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการทุจริตในหน้าที่ว่า นอกจากจะถูกยึดหรืออายัดทรัพย์สินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินแล้ว หากใครมีพฤติการณ์ในการรับหรือโอนทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการทุจริตก็อาจต้องถูกดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงิน ซึ่งมีโทษ จำคุก 10 ปีต่อการโอนหรือรับโอน 1 ครั้ง กล่าวโดยสรุปแล้วผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต นอกจากจะถูกยึดหรืออายัด ทรัพย์สินแล้ว ตัวผู้กระทาความผิดเอง ผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ หรือนอมินี ที่รับโอนทรัพย์สินจากผู้กระทาความผิดทุกคนก็ยัง อาจต้องถูกลงโทษจาคุกในความผิดฐานฟอกเงินด้วย

    http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/804638
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2018
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    หลายคนให้ความสนใจ นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด ของมาเลเซีย ประกาศแผนเศรษฐกิจขับเคลื่อนประเทศ แต่รู้หรือไม่ว่า ปัญหาใหญ่ของมาเลเซีย คือ หนี้ในประเทศ

    .

    ล่าสุด มหาเธร์ ระบุว่าอาจต้องขอกู้เงินจากญี่ปุ่นเพื่อมาจัดการกับปัญหานี้

    .

    https://brandinside.asia/malaysia-ask-for-loans-from-japan/

    #Malaysia #Brandinside


     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149



    กว่าจะมาถึงจุดที่เป็นประเทศมหาอำนาจของจีนไม่ใช่เรื่องง่าย จีนต้องพัฒนาประเทศในทุกด้าน แต่สิ่งสำคัญคือการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ด้วยการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมถึงนโยบายทางของรัฐที่ส่งเสริมให้เศรษฐกิจจีนเติบโตได้อย่างรวดเร็ว จีนมีวิธีอย่างไร มาเรียนรู้ไปพร้อมกัน #ThaiPBS

    .

    ▶️ #ThaiPBSPlay อัปเดตข้อมูล เติมเต็มความรู้ของคุณ

    ด้วยคลิปสั้น กระชับ รับกับสมาร์ตโฟน ที่ www.facebook.com/ThaiPBSPlay
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เจาะลึกตะวันออกกลาง


    #ด่วน_จับตัวประกันฝรั่งเศส_ขอพบทูตอิหร่าน!!!


    เกิดเหตุจับตัวประกันที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส คนร้ายเรียกร้องจะพบทูตอิหร่านประจำฝรั่งเศส

    .

    มีรายงานว่าคนร้ายมีตัวประกันสามคน หนึ่งในนั้นเป็นสตรีมีครรภ์

    .

    คนร้ายอ้างว่ามีระเบิดมือและมีปืนพก และสั่งมิให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใกล้เด็ดขาด

    .

    #update: คนร้ายต้องการจะส่งจดหมายไปยังรัฐบาลฝรั่งเศส ผ่านทูตอิหร่าน ( สำนักข่าว FNA) ... ยังงงอยู่ดีว่าทำไมต้องทูตอิหร่าน รออัพเดทครับ

    ............

    จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่คนร้าย #ต้องการพบทูตอิหร่าน หากมีรายงานคืบหน้าจะอัพเดทให้ทราบครับ

    .

    .

    ............

    เพจเจาะลึกตะวันออกกลาง


     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เจาะลึกตะวันออกกลาง


    #กาตาร์เย้ยซาอุฯ_ตั้งทูตพิเศษอิหร่าน!


    ล่าสุดกษัตริย์กาตาร์แต่งตั้งทูตพิเศษประจำกรุงเตหะราน ตำแหน่งดังกล่าวเทียบได้กับผู้แทนพิเศษของกาตาร์ สื่อชัดเจนว่า กาตาร์ต้องการกระชับความสัมพันธ์กับอิหร่านให้แน่นแฟ้นกว่าเดิม

    .......................


    ทั้งนี้เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวว่าซาอุฯแยกเขี้ยวคำรามใส่กาตาร์ โดยขู่ว่าหากกาตาร์ติดตั้งระบบ S400 เมื่อไหร่ จะเคลื่อนพลบุกกาตาร์แน่! ฮึ่มๆ!!


    พันธมิตรแน่นแฟ้นที่กาตาร์มีอยู่ในตะวันออกกลางก็คือ...ตุรกี


    แต่อานิจจา ตุรกีอยู่ไกลออกไปหลายพันกิโล เมื่อซาอุฯและเหล่าหางเครื่องอย่างบาห์เรน และ UAE ที่ล้อมรอบกาตาร์ใช้ไม้แข็ง ปิดชายแดน น่านฟ้า และน่านน้ำไม่ให้กาตาร์ผ่าน


    ครั้นจะขอช่วยตุรกี ก็อยู่ไกล


    ยังมีน่านน้ำและน่านฟ้าของประเทศเดียวที่เป็นทั้งหลอดลมและหลอดอาหารของกาตาร์ในยามนี้ นั่นก็คือ...


    อิหร่าน!


    ตุรกีจะช่วยเหลือกาตาร์ก็ต้องผ่านน่านฟ้าอิหร่าน สายการบินกาตาร์ที่ยังไม่เจ๊งก็เพราะยังบินผ่านอิหร่านได้ แถมอิหร่านยังให้เช่าท่าเรือไว้ทำมาค้าขายอีกด้วย


    ในยามนี้ที่ซาอุส่งสัญญาณว่าจะบุกแน่ ใหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้ว กาตาร์ก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจาก...กระชับสัมพันธ์อิหร่าน


    ขณะที่อิหร่านเองที่กำลังโดนคว่ำบาตรระลอกใหม่ ก็จำเป็นต้องมีพันธมิตรไว้ซื้อขายกันในภูมิภาค เผลอๆอาจเนียนซื้อขายสินค้าผ่านกาตาร์ได้อีก...


    ทั้งนี้ หนึ่งในสัญญาณกระชับสัมพันธ์ก็คือ การยกระดับทูตปกติให้เป็นทูตพิเศษ


    ในเมื่อกาตาร์เข้าตาจน สอดรับกับอิหร่านก็อยากมีเกลอข้างกาย กษัตริย์กาตาร์จึงทรงแต่งตั้งให้นาย โมฮัมมัด สะอี้ด อัลฮาจิรี ดำรงตำแหน่งทูตพิเศษประจำกรุงเตหะราน


    สวนทางกับซาอุและเหล่าหางเครื่อง ที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตทุกประเภทกับอิหร่านเรียบร้อยโรงเรียนแขก แต่กลับทำตาหวานส่อเค้าทอดสะพานเชื่อมสัมพันธ์การทูตกับ..


    #อิสราเอล

    .

    .

    .

    ......................

    เพจเจาะลึกตะวันออกกลาง

    ขอบพระคุณที่ติดตาม กดไลค์ แสดงความคิดเห็น และร่วมกันแชร์ครับ

    .

    #กาตาร์ #ทูตพิเศษ #อิหร่าน #ซาอุ #ตุรกี


     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปปง.ยึดทรัพย์บิ๊กพม.เกือบ 100 ล้าน
    ข่าวทั่วไป :
    5ifi8h7e6gcda6dbahc7i.jpg
    คณะกรรมการธุรกรรม ปปง.มีมติยึดและอายัดทรัพย์อดีตบิ๊ก พม.กับพวกเกือบ100ล้านเซ่นคดีทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่งชี้พฤติกรรมทุจริตเป็นขบวนการหมุนเงินกลับผู้บริหารระดับสูง

    สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) - 13 มิ.ย. 61. พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง.เปิดเผยถึงมติคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุมเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ตามที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ ปปง. ตรวจสอบ ธุรกรรมและทรัพย์สินของกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ทุจริตการยักยอกเงินช่วยเหลือคนยากไร้ ซึงมีความเกี่ยวข้องกับ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ปปง. ได้ดำเนินการตรวจสอบเชิงลึกแล้วพบว่า ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ 3 ราย ได้แก่ นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายณรงค์ คงคา อดีตรองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายธีรพงษ์ ศรีสุคนธ์ อดีตผู้ตรวจราชการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีพฤติการณ์ทุจริตการยักยอกเงินช่วยเหลือคนยากไร้

    โดยพฤติการณ์ของกลุ่มบุคคลดังกล่าวมีลักษณะ การทำงานเป็นขบวนการผ่านทางการจัดสรรเงินงบประมาณลงไปยังศูนย์และหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดทั่วทุกภาค และมี การจัดทำเอกสารการเบิกจ่ายเงินงบประมาณอันเป็นเท็จ โดยนำเงินที่ได้จากการทุจริตเบิกจ่ายส่งกลับคืนไปยังผู้บริหาร กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการในขณะนั้น และแปลงเงินไปเป็นทรัพย์สินในรูปแบบอื่นให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์ เช่น ที่ดิน ห้องชุด รถยนต์หรู เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร และหลักทรัพย์ต่างๆ ซึ่งจากการสืบสวนข้อมูลทางการเงินและ ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้องพบว่า มีการได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานตาม กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเป็นจานวนมาก

    คณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่ เกี่ยวกับการกระทำความผิดของนายพุฒิพัฒน์ นายณรงค์ และนายธีรพงษ์ และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับบุคคลดังกล่าว ประมาณ 12 ราย เช่น ที่ดิน ห้องชุด รถยนต์หรู เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร และหลักทรัพย์ต่างๆ รวม 41 รายการ มูลค่าประมาณ 88 ล้านบาท เพื่อดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

    พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มคนดังกล่าวมีพฤติการณ์กระทำความผิดทางอาญาฐานฟอกเงิน ซึ่งปปง. จะได้ดำเนินการกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีอาญา ความผิดฐานฟอกเงินกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ขอแจ้งเตือนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการทุจริตในหน้าที่ว่า นอกจากจะถูกยึดหรืออายัดทรัพย์สินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินแล้ว หากใครมีพฤติการณ์ในการรับหรือโอนทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการทุจริตก็อาจต้องถูกดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงิน ซึ่งมีโทษ จำคุก 10 ปีต่อการโอนหรือรับโอน 1 ครั้ง กล่าวโดยสรุปแล้วผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต นอกจากจะถูกยึดหรืออายัด ทรัพย์สินแล้ว ตัวผู้กระทำความผิดเอง ผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ หรือนอมินี ที่รับโอนทรัพย์สินจากผู้กระทาความผิดทุกคนก็ยัง อาจต้องถูกลงโทษจาคุกในความผิดฐานฟอกเงินด้วย

    http://www.komchadluek.net/news/regional/330063
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2018

แชร์หน้านี้

Loading...