ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นี่ดูไม่ปกติ ภาพที่ถ่ายก่อนที่ไฟจะไหม้กรีซ

    IMG_1495.JPG IMG_1496.JPG IMG_1497.JPG IMG_1498.JPG

    This doesn’t look normal. Pictures captured before Greece fires


     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รัฐมนตรีเกษตรฯ พร้อมเยียวยาเกษตรกรเพชรบุรี เตือนขึ้นทะเบียนด่วนก่อนน้ำทะลัก #ฐานเศรษฐกิจ


    นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ ณ จังหวัดเพชรบุรี ว่า ปัจจุบันเขื่อนแก่งกระจานมีปริมาณน้ำ 730 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 103% โดยกรมชลประทานได้ติดตั้งท่อระบายน้ำที่เรียกว่ากาลักน้ำ 15 ชุด เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากอ่างฯ ขณะนี้ มีน้ำล้นออกทางระบายน้ำล้น (spillway) สูง 45 เซนติเมตร (ไม่ใช่สันเขื่อน)ทำให้มีปริมาณน้ำไหลออกท้ายเขื่อนแก่งกระจานรวม 15.30 ล้าน ลบ.ม./วัน

    "ปริมาณน้ำดังกล่าวไหลผ่าน อ.แก่งกระจาน และ อ.ท่ายางจนถึงเขื่อนเพชร ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง 1.08 - 2.20 ม. คาดการณ์ว่าในวันที่ 10 ส.ค.61 ระดับน้ำที่ล้นทางระบายน้ำล้น (Spill way) จะสูงสุดประมาณ 65 เซนติเมตร อัตราการไหลประมาณ 106 ลบ.ม./วินาที เมื่อรวมกับปริมาณน้ำที่ระบายผ่านอาคารชลประทาน จะทำให้มีน้ำไหลผ่านท้ายเขื่อนแก่งกระจานรวม 224 ลบ.ม./วินาที ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าว ยังไม่เกินความจุของแม่น้ำเพชรบุรีจะรับได้"

    แต่อาจจะมีผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งบางแห่ง ที่จะมีระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 10 – 20 เซนติเมตร และคาดว่าในวันที่ 11 ส.ค. 61 จะมีปริมาณน้ำสูงสุดที่ไหลมารวมกันบริเวณหน้าเขื่อนเพชรในเกณฑ์ 230 – 250 ลบ.ม./วินาที ซึ่งกรมชลประทานจะแก้ไขปัญหาน้ำมากดังกล่าวโดยทำการบริหารจัดการน้ำด้วยวิธีหน่วงน้ำหน้าเขื่อน และตัดน้ำเข้าคลองระบบชลประทานฝั่งซ้าย – ขวา ของแม่น้ำเพชรบุรีรวม 55 ลบ.ม./วินาที และผันเข้าคลองระบาย D9 ในอัตรา 35 ลบ.ม./วินาที รวมปริมาณน้ำที่ตัดเข้าระบบทั้งสิ้น 90 ลบ.ม./วินาที

    พร้อมกับควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านท้ายเขื่อนเพชรในอัตรา 140 – 160 ลบ.ม./วินาที ซึ่งปริมาณน้ำนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน ในเขตอำเภอท่ายางและอำเภอบ้านลาด ก่อนปริมาณน้ำดังกล่าวจะไหลผ่านลงสู่เขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี ในวันที่ 12 ส.ค. 61 อาจส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งและพื้นที่ชุมชนบางแห่ง ระดับน้ำสูงเฉลี่ยประมาณ 30 – 50 เซนติเมตร

    ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้วางมาตรการในการช่วยเหลือและเร่งระบายน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี โดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดเสี่ยงที่อาจจะมีน้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่และชุมชน จำนวน 31 เครื่อง (สำรอง 5 เครื่อง) และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี เพื่อเร่งระบายน้ำในจุดที่มีการระบายน้ำได้ช้า จำนวน 38 เครื่อง (สำรอง 8 เครื่อง) นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนเรือผลักดันน้ำ จำนวน 20 ลำ ติดตั้งในแม่น้ำเพชรบุรี บริเวณวัดคุ้งตำหนัก อ.บ้านแหลม ช่วยระบายน้ำลงสู่ทะเลได้เร็วขึ้น พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมยานพาหนะและเครื่องจักรกลต่างๆ เช่น รถบรรทุก รถขุดตัก จำนวน 20 คัน ประจำในพื้นที่เพื่อขุดเปิดทางน้ำอีกด้ว

    อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ ได้เตรียมมาตรการบรรเทาสาธารณภัยแก่เกษตรกรและประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมที่ลุ่มต่ำด้านเกษตรไว้แล้ว โดยประเมินพื้นที่เสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย 1. ด้านพืช 5 อำเภอ 461 ครัวเรือน พื้นที่ 4,681 ไร่ 2. ด้านประมง 5 อำเภอ 587 ราย พื้นที่ 9,822 ไร่ และ 3. ด้านปศุสัตว์ 4 อำเภอ 2,948 ราย สัตว์ 151,769 ตัว ซึ่งจังหวัดได้ประกาศเขตความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) แล้ว 2 อำเภอ 5 ตำบล 27 หมู่บ้าน ประกอบด้วย อำเภอท่ายาง 2 ตำบล 17 หมู่บ้าน และ อำเภอแก่งกระจาน 3 ตำบล 10 หมู่บ้าน

    โดยหากพื้นที่เกษตรได้รับความเสียหายจากสถานการณ์ดังกล่าว จะดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2556 ซึ่งหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเกษตรกร จะต้องเป็นเกษตรกรที่มาขึ้นทะเบียนกับไว้ก่อนเกิดภัยจึงขอให้เกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าวที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนเกษตรกรได้ไปแจ้งเกษตรอำเภอหรือเกษตรตำบลที่อยู่ใกล้บ้านตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปด้วย


     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    น้ำมาแน่! วันที่ 10 ส.ค.นี้ สั่งเมืองเพชรรับมือน้ำท่วม #ฐานเศรษฐกิจ


    วันนี้ (8 ส.ค.61) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจการบริหารจัดการน้ำพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี โดยมี ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน และนายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำปัจจุบัน ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี (เขื่อนเพชร) อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

    ขณะที่ ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนแก่งกระจานล่าสุด (8 ส.ค. 61) ว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนแก่งกระจานขณะนี้อยู่ที่ 730 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 103 ของความจุอ่างฯ จนถึงขณะนี้ยังคงมีน้ำไหลล้นข้ามทางระบายน้ำล้นหรือ Spillway แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำ กรมชลประทานได้ติดตั้งกาลักน้ำ จำนวน 15 ชุด เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำออกจากอ่างฯ ปัจจุบันมีน้ำล้นออกทางระบายน้ำล้นสูง 45 เซนติเมตร ทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงด้านท้ายเขื่อนแก่งกระจานรวมประมาณ 15.30 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณน้ำดังกล่าวจะไหลผ่าน อ.แก่งกระจาน และ อ.ท่ายาง จนถึงเขื่อนเพชร ซึ่งยังมีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งเฉลี่ย 1– 2 เมตร

    "คาดการณ์ว่าในวันที่ 10 ส.ค.61 ระดับน้ำที่ล้นทางระบายน้ำล้น จะสูงสุดประมาณ 65 เซนติเมตร อัตราการไหลประมาณ 106 ลบ.ม./วินาที เมื่อรวมกับปริมาณน้ำที่ระบายผ่านอาคารชลประทาน จะทำให้มีน้ำไหลผ่านท้ายเขื่อนแก่งกระจานรวม 224 ลบ.ม./วินาที ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าว ยังไม่เกินความจุของแม่น้ำเพชรบุรีจะรับได้ แต่อาจจะมีผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งบางแห่ง ที่จะมีระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 10 – 20 เซนติเมตร และคาดว่าในวันที่ 11 ส.ค. 61 จะมีปริมาณน้ำสูงสุดที่ไหลมารวมกันบริเวณหน้าเขื่อนเพชรในเกณฑ์ 230 – 250 ลบ.ม./วินาที "

    กรมชลประทานจะทำการบริหารจัดการน้ำโดยการหน่วงน้ำหน้าเขื่อน และตัดน้ำเข้าระบบชลประทานฝั่งซ้าย – ขวา รวม 55 ลบ.ม./วินาที และผันเข้าคลองระบาย D9 ในอัตรา 35 ลบ.ม./วินาที รวมปริมาณน้ำที่ตัดเข้าระบบทั้งสิ้น 90 ลบ.ม./วินาที พร้อมกับควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านท้ายเขื่อนเพชรในอัตรา 140 – 160 ลบ.ม./วินาที ซึ่งปริมาณน้ำนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน ในเขตอำเภอท่ายางและอำเภอบ้านลาด ก่อนปริมาณน้ำดังกล่าวจะไหลผ่านลงสู่เขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี ในวันที่ 12 ส.ค. 61 อาจส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งและพื้นที่ชุมชนบางแห่ง ระดับน้ำสูงเฉลี่ยประมาณ 30 – 50 เซนติเมตร

    ทั้งนี้ได้วางมาตรการในการช่วยเหลือและเร่งระบายน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี โดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดเสี่ยงที่อาจจะมีน้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่และชุมชน จำนวน 31 เครื่อง (สำรอง 5 เครื่อง) และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี เพื่อเร่งระบายน้ำในจุดที่มีการระบายน้ำได้ช้า จำนวน 38 เครื่อง (สำรอง 8 เครื่อง) นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนเรือผลักดันน้ำ จำนวน 20 ลำ ติดตั้งในแม่น้ำเพชรบุรี บริเวณวัดคุ้งตำหนัก อ.บ้านแหลม ช่วยระบายน้ำลงสู่ทะเลได้เร็วขึ้น พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมยานพาหนะและเครื่องจักรกลต่างๆ เช่น รถบรรทุก รถขุดตัก จำนวน 20 คัน ประจำในพื้นที่เพื่อขุดเปิดทางน้ำอีกด้วย

    ส่วนมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่างระยะยาว นั้น กรมชลประทาน ได้ดำเนินการขุดลอกคลอง เพื่อระบายน้ำจากแม่น้ำเพชรบุรีออกสู่ทะเลอ่าวไทย โดยทำการปรับปรุงคลอง RMC3 เชื่อมคลองระบาย D9 ความยาว 27 กม. ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างไปแล้วร้อยละ 30 และกำลังอยู่ระหว่างการสำรวจออกแบบโครงการขุดลอกคลองอีก 2 เส้นทาง คือคลอง D1 ความยาว 23 กม. และ คลอง D18 ความยาว 28 กม. ซึ่งทั้งหมดนี้กรมชลประทานจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2562


     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ผลวิจัยชี้การลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามเป้าหมายลดโลกร้อน อาจไม่เพียงพอต่อการหยุดยั้งไม่ให้โลกใบนี้กลายเป็นเตาอบ

    #โลกร้อน


    ด้วยเหตุนี้ ข้อตกลงของนานาชาติที่จะร่วมมือกันควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียส และจำกัดเป้าหมายการเพิ่มไว้ที่ 1.5 องศาเซลเซียส อาจจะยังไม่เพียงพอที่จะหยุดหายนะที่กำลังคืบคลานเข้ามา.... อ่านต่อได้ที่ :https://www.posttoday.com/world/560241


     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เดี๋ยวรอกูอีกสักหน่อย เดี๋ยวจะมาทำความรู้จักทั้งแม่เด็ก ตาของเด็ก ลุงๆของเด็ก และสายตรวจ กับตร.ที่นำกำลังเข้าจับกุม ...

    #กู RIP ล่วงหน้าเลย #พร้อมกับทางศูนย์ดำรงค์ธรรม ส่วนทหารกูขอเชคก่อนเหมือนเค้ามาเคลียร์พื้นที่เพราะหวั่นเกิดความรุนแรง

    #แม่เด็กและครอบครัวแจ้งเรื่องไปศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัด แจ้งว่าพ่อเด็กค้ายาเสพติด และพกอาวุธปืนติดตัวตลอดพร้อมต่อสู้ขัดขืน

    #ทางศูนย์ฯแจ้งมายังหน่วยทหารและทาง สภ.บางละมุงขอความร่วมมือเข้าจับกุม

    #ทั้งทาง ตร. และทาง ทหาร จะอ้างว่ารับจากศูนย์ไม่ได้เพราะการจับกุมต้องมีขั้นตอน และมีหลักปฏิบัติ

    #การจับกุมครั้งนี้ฉีกทุกกฎเกณฑ์จริงๆ


     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ด่วนที่สุด แก่งกระจานอ่วมหนัก "น้ำท่วมมิดหลังคา"แล้ว(รายละเอียด)


     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ● Credit : thairath.


    แคลิฟอร์เนียอ่วม! ไฟป่าแรงสุดในประวัติศาสตร์ ผลาญพื้นที่กว้างเท่าแอลเอ


    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 8 ส.ค. 2561 01:20


    แคลิฟอร์เนียกำลังเผชิญกับเหตุไฟป่าขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่นับหมื่นนายกำลังพยายามควบคุมเพลิง แต่คาดว่าต้องใช้เวลาอีกนับสัปดาห์...


    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เหตุไฟป่าขนาดใหญ่ใกล้กัน 2 จุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย หรือที่เรียกว่า ไฟป่าซ้อน ‘เมนโดซิโน’ (Mendocino Complex Fire) กลายเป็นเหตุไฟป่าที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐแคลิฟอร์เนียไปแล้ว หลังมันลุกลามอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และเผาฟลาญพื้นที่ป่าไปแล้วกว่า 283,800 เอเคอร์ หรือเกือบเท่าขนาดของนครลอสแอนเจลิส


    เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามควบคุมไฟป่า

    เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 14,000 นาย และทหารจากกองทัพสหรัฐฯ อีกหลายร้อยคนกำลังพยายามควบคุมไฟป่าขนาดใหญ่ 16 จุดทั่วรัฐแคลิฟอร์เนีย ท่ามกลางสภาพอากาศร้อน, ความชื้นต่ำ และมีลมแรง โดยนาย ไบรอัน เฮอร์ลีย์ นักอุตุนิยมวิทยาแห่งสำนักงานสหภาพอากาสแห่งชาติสหรัฐฯ เตือนว่า สถานการณ์จะยังไม่ดีขึ้นในเร็วๆ นี้ และหลายจุดของรัฐอาจมีอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 43 องศาเซลเซียส


    เครื่องบินโปรยสารเคมีเพื่อดับไฟป่า

    จนถึงตอนนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟป่าซ้อนเมนโดซิโนได้เพียง 30% ของพื้นที่ทั้งหมดเท่านั้น และคาดว่าอาจต้องใช้เวลาอีก 1 สัปดาห์กว่าจะควบคุมเพลิงได้ทั้งหมด ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 7 รายในเหตุไฟป่าใกล้เมืองเรดดิงทางเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียที่ถูกเรียกว่า ไฟป่า ‘คาร์’


    https://www.thairath.co.th/content/1350361


    ●ขนุนหนัง●


     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    一门三进士 เจ็ก เมิ้ง ซา จิ้ง สือ(ตอนแรก)

    งิ้วต้อนรับวันแม่ ขอให้ทุกคนเป็นลูกที่ดีครับ




    ในเรื่องนี้ แปลว่า หนึ่งตระกูลมีถึง 3 รองจอหงวน ลองมาดูเรื่องย่อกัน ....


    เตียบุ้นเอี๊ยงเป็นบัณฑิต แต่งงานกับ ซึงซกลิ้ม มีลูกชายสองคน คนโต 2 ขวบชื่อ จี้เกา คนเล็กเพิ่งจะ 1 ขวบ ชื่อ จี้เพ้ง ที่บ้านฐานะไม่ค่อยดี


    พอถึงฤดูการสอบจอหงวน เตียบุ้นเอี๊ยง อยากเดินทางไปเมืองหลวง แต่ที่บ้านไม่มีเงิน เลยไปขอยืมเงินกับเจ้าสัวสองคน เจ้าสัวเซี้ย กับเจ้าสัวจิว


    สองสามีร่ำลากัน แล้วเขาก้อเดินทางไปเมืองหลวง ทิ้งเมียและลูกสองคนที่บ้าน


    เขาโชคร้ายสอบไม่ติดจอหงวน แล้วยังไม่ยอมเดินทางกลับบ้าน


    ครบกำหนด 3 เดือน เจ้าสัวทั้งสองมาทวงเงินที่บ้าน เจอเมียของเขา ซึงซกลิ้มขอผลัดผ่อนหนี้ แต่เจ้าสัวไม่ยอม ถึงกับจะลงไม้ลงมือตีเธอ ทันใดนั้นก้อได้ยินเสียงเด็กร้อง พอไปอุ้มมาดูเห็นเป็นเด็กน่ารักน่าเอ็นดู ซึงซกลิ้มบอกว่า ลูกคนโตที่เจ้าสัวเซี้ยอุ้มอยู่ชื่อจี้เกา ส่วนคนเล็กที่เจ้าสัวจิวอุ้มอยู่ชื่อ จี้เพ้ง


    ปรากฏว่าเจ้าสัวทั้งสองคนพลันคิดขึ้นมาได้ว่า ทั้งสองไม่มีลูก เลยจะเอาลูกเขามาเลี้ยงเพื่อขัดหนี้ นางเสียใจอ้อนวอนยังไง เจ้าสัวก้อไม่ยอม แย่งเด็กแล้วออกจากบ้านไป


    ซึงซกลิ้ม ไม่รู้จะทำยังไง สามีไม่กลับ ลูกถูกพรากไป เธอร้องไห้ใจสลาย สุดท้ายเธอตัดสินใจ ทิ้งบ้านเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อตามหาสามี


    ส่วนเตียบุ้งเอี๊ยง สิบไม่ติดจอหงวน ร่อนเร่อยู่ในเมืองหลวง สามปีต่อมา เขาเปลี่ยนชื่อเพื่อเข้าสอบใหม่ และสอบติด ได้มีตำแหน่งรับราชการ เขาพยายามติดตามลูกเมียที่บ้านเกิด แต่ก้อไม่เจอ


    ซึงซกลิ้ม เดินทางมาเมืองหลวง ตามไม่พบสามี ร่อนเร่ในเมืองหลวงหลายปี


    เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก เจ้าสัวเซี้ยเลี้ยงจี้เกา ส่วนเจ้าสัวจิวเลี้ยงจี้เพ้ง เป็นลูก ทะนุถนอม จนเติบใหญ่ ทั้งสองมีชื่อ มีแซ่ใหม่


    ต่อมาได้เวลาไปสอบจอหงวนที่เมืองหลวง ทั้งสองเดินทางเข้าเมืองหลวง พร้อมกับพ่อบ้านคนใช้ของเจ้าสัว ตอนที่ไปทวงหนี้แล้วแย่งเด็กมาจากแม่


    เข้าใจว่า ทั้งจี้เกา และจี้เพ้ง ได้รู้เรื่องจากพ่อบ้านว่า พวกเขาไม่ใช่ลูกแท้ๆของเจ้าสัว พ่อแม่จริง คือ เตียบุ้งเอี๊ยง กับ ซึงซกลิ้ม


    จี้เกา และจี้เพ้ง สอบติดจอหงวน จี้เกาน่าจะได้ที่หนึ่ง จึงได้แต่งงานกับลูกสาวเสนาบดี และได้เป็นนายอำเภอเมืองนึง ส่วนจี้เพ้ง ได้ลำดับที่30 กว่า เขาได้แต่งงานกับมุ้ยเอ็ง เขาได้เป็นข้าราชการท้องที่


    ซึงซกลิ้ม มาร่อนเร่อยู่ที่เมืองหลวง 10 กว่าปี จนมาป่วยอยู่ที่โรงเตี้ยม เจ้าของโรงเตี้ยมเป็นคนบ้านเดียวกัน แต่จะมาอยู่นานขนาดนี้ก้อไม่ไหว พอดีเขาได้ข่าวว่าบ้านนายอำเภอ ฮูหญิง กำลังหาสาวใช้มาทำอาหารว่างพื้นเมือง เจ้าของโรงเตี้ยมจึงบอกให้ซึงซกลิ้ม ขายตัวเป็นสาวใช้ในบ้านนายอำเภอ เพื่อที่จะได้นำเงินมาจ่ายค่าโรงเตี้ยม


    ภรรยาของนายอำเภอจี้เกา เป็นลูกเสนาบดีสูงศักดิ์ เอาแต่ใจ อารณ์ร้าย แบ่งชั้นวรรณะ เจ้าคนในบ้านทุกคนกลัว แม้แต่จี้เกาก้อยังกลัวเกรง ซึงซกลิ้ม เข้ามาเป็นสาวใช้ทำขนมให้ฮูหยิน โดนฮูหยินดุ่ด่า ว่าสารพัด ดูถูกว่าเป็นตัวสกปรกเหมือนขอทาน เวลายกของให้ฮูหยิน ต้องคุกเข่า


    วันนึงจี้เพ้ง ต้องมาคารวะเยื่ยมจี้เกาที่บ้าน ตอนฉลองตำแหน่งใหม่ พ่อบ้านคนใช้ทั้งสองน่าจะจำกันได้ พ่อบ้านของจี้เกาเลยกระซิบบอกว่า นี่แหละพี่ชายของจี้เกา


    จี้เพ้งหาโอกาสถามประวัติของจี้เกา จนแน่ใจ เลยเปิดเผยตัวว่าเป็นน้องชาย สองพี่น้องยอมรับซึ่งกันและกัน แต่ฮูหยินของจี้เกาแสดงอาการไม่พอใจ ที่ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน


    จี้เกาตัดบท ชวนให้จี้เพ้งมางานวันเกิดของฮูหยินของเขาในอาทิตย์หน้า


    เตียบุ้นเอี๊ยงผู้เป็นพ่อ ตอนนี้เป็นข้าราชการใหญ่ ได้เป็นถึงผู้ตรวจการ เขาได้เจอกับลูกทั้งสองหลายครั้ง แต่พวกเขาไม่รู้จักกัน


    ในงานวันเกิดของฮูหยิน เธอสั่งพวกคนใช้ให้กลั่นกรองของขวัญที่เหล่าข้าราชการมากำนัลมอบให้เธอ ของไม่มีค่า ไม่ให้รับ


    จี้เพ้ง ให้พ่อบ้านคนใช้ นำของมาอวยพรวันเกิดพี่สะไภ้ เป็นพวกของกินมงคล เช่น เส้นหมี่ ไข่ไก่ มาให้บ้านจี้เกาแต่เช้า พ่อบ้านมาเจอซึงซกลิ้ม เธอไม่กล้ารับของ แต่พ่อบ้านคะยั้นคะยอ ให้นางรับ บอกว่าพวกเขาเป็นพี่น้องสนิทกัน สุดท้ายเธอรับแล้วเอาไปให้ฮูหยิน ฮูหยินโมโหมากที่เธอขัดคำสั่ง ตบหน้าเธอ แล้วสั่งให้เธอเอาของไปคืนที่บ้านจี้เพ้ง


    งิ้วที่ตัดตอนมาให้ดู ตอนแม่ลูกแรกพบ


    ซึงซกลิ้ม เอาของมาคืนที่บ้านจี้เพ้ง ได้เจอกับภรรยาของจี้เพ้ง ขื่อมุ้ยเอ็ง เป็นคนใจดี นอบน้อมถ่อมตน มุ้ยเอ็งเขิญให้ซกลิ้มนั่ง ซกลิ้มตกใจ บอกว่าเธอเป็นแค่คนใช้ จะให้เธอนั่งได้อย่างใด มุ้ยเอ็งบอกว่า มาบ้านคนอื่น ก้อถือว่าเป็นแขก ไม่ต้องเกรงใจ


    ทั้งสองนั่งคุยกันเรื่องนำของขวัญมาคืน มุ้ยเองฟังสำเนียงแล้วเหมือนคนบ้านเกิดเดียวกันกับจี้เพ้ง เลยซอกแทรกถามประวัติของซกลิ้ม จนได้ความ และมั่นใจว่าน่าจะเป็นแม่สามีของเธอ พอดีกับจี้เพ้งกลับมาจากงานราชการ และเตรียมตัวจะไปงานวันเกิดของพี่สะไภ้ มุ้ยเอ็งเลยเล่าเรื่องให้จี้เพ้งฟัง เขารีบเรียกซกลิ้มมาไต่ถามเพิ่ม เขาถามชื่อสามีของซกลิ้มว่าชื่อแซ่อะไร? แต่เธอกลัวว่าจะทำให้สามีเสียชื่อ เลยไม่ยอมตอบ แล้วรีบขอตัวกลับบ้าน


    งิ้วที่ตัดตอนมาให้ดู ตอนพี่น้องจิตใจต่างกัน


    จี้เพ้งตามมาถึงบ้านจี้เกา พยายามจะพบกับซกลิ้ม เขาเล่าเรื่องให้จี้เกาฟัง แต่จี้เกาไม่เชื่อ บอกว่าหงส์จะเป็นลูกอีกาได้ยังไง? ซกลิ้มเป็นแค่ขอทานที่เขาซื้อมาเป็นคนใช้ จะเป็นแม่ของเขาสองคนได้ยังไง? เขาถามจี้เพ้งไม่ห่วงลาภยศหรอ? เจ้าจะใช้แซ่เตียหรือแซ่จิว ?


    สุดท้ายทั้งสองทะเลาะกัน ท้าทายกันไปฟ้องร้องที่จวนผู้ตรวจการ ขื่อพ่อของเขา เตียบุ้นเอี๊ยง แต่เปลี่ยนชื่อใหม่ จนจำกันไม่ได้


    ฟ้องร้องกล่าวโทษกันไปกล่าวโทษกันมา จนสุดท้าย เตียบุ้นเอี๊ยงให้คนไปเชิญตัวซึงซกลิ้มมาที่ศาล


    งิ้วที่ตัดตอนมาให้ดู ตอน ครอบครัวพร้อมหน้า


    ความจริงปรากฏ สามีภรรยาพบหน้า ซึงซกลิ้ม ตกใจจนเป็นลม เป็นฉากที่เศร้าสุดซึ่ง ใครฟังออก เชื่อว่าน้ำตาซึม สามีภรรยาพลัดพรากกัน 18 ปี ที่แท้เธออยู่บ้านลูกชาย ถูกลูกสะไภ้ด่าว่าตบตี ร้องไห้กันระงมศาล


    ตอนจบเป็นช่วงไฮ ของเรื่อง หลังจากขึ้นศาล เชิญซกลิ้มมาแล้ว พ่อลูกแสดงตนให้นางรู้ว่าเป็นใครกันบ้าง นางตกใจจนเป็นลมนึกว่าฝันไป นางตัดพ้อต่อว่าด้วยความเสียใจ สาธยายความลำบากทุกข์เข็ญ คพ่อลูกได้แต่คุกเข่าสำนึกผิด


    นางต่อว่าสามี ได้เป็นข้าราชการใหญ่ สวมชุดผู้ตรวจการ หมวด เข็มขัดประจำตำแหน่ง แล้วลืมภรรยา คงแต่งงานใหม่ แต่ว่าบุ้นเอี๊ยงส่ายหัวว่าไม่มี


    ลูกคนรอง จี้เพ้ง คุกเข่าขออภัย ที่ไม่ดูแลแม่ โทษผิดใหญ่หลวง จะสับหัวลงทัณฑ์กี่พันครั้ง ลูกก้อยอมรับได้ แต่แม่.กลิ้ม บอกว่า แม่ไม่โทษเจ้า จึ้นมา ขึ้นมา


    พอมาถึงลูกคนโต จี้เกา คุกเข่าเรียกแม่ ซกลิ้มอัดอั้น ไม่ยอมรับ ต่อว่าคัดพ้อ มีสามีก้อทอดทิ้งนาง มีลูกก็อกตัญญู เจ้ายุให้เมียรังแก ข่มเหงแม่ เจ้าลูกอกตัญญู... จี้เกากราบขอโทษ


    พอพ่อได้ยิน ก้อโมโห ตบตีลูกจี้เกา ด่าว่าเจ้าหลงลาภยศ ไม่มีคุณธรรม เรื่องวันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะน้องชายเจ้า ไม่มาร้องถึงศาล วันนี้เจ้าก้อไม่ยอมรับแม่ ที่เจ้ายอมคุกเข่าเรียกแม่ เพราะตอนนี้มีพ่อเป็นผู้ตรวจการแล้วซิ ลูกชั่วๆๆๆ


    แต่ตอนท้าย หัวอกแม่ ก้อยังเป็นแม่อยู่ดี ซกลิ้ม ขอให้สามีให้อภัยลูก ประโยคเด็ดอีกอันนึง เหมือนว่า.... หอยธาต สละตัวก้อเพื่อลูก แล้วคนจะใจดำไปทำไม !!


    ตอนหลังได้เชิญ ภรรยาของลูกทั้งสองมา มีต่อว่าเมียของจี้เกา หน่อยนึง แต่เธอกราบขออภัย และรับปากว่าจะกลับตัวเป็นคนดี


    สุดท้ายก้อHAPPY ENDING
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    กระบี่อ่วม! คลองท่อม-ลำทับวิกฤตน้ำป่าเทือกเขาพนมเบญจาหลากท่วม


    ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “จรรยา เพ็ชรรักษ์” ชาวบ้าน ตำบลทับปริก อำเภอเมืองกระบี่ ได้บันทึกภาพขณะเกิดน้ำป่าจากเทือกเขาพนมเบญจาไหลหลากลงสู่ คลองทับปริก ตำบลทับปริก กระแสน้ำไหลแรง มีสีขุ่นดินโคลน ต้นไม้ไหลมากับน้ำเป็นจำนวนมาก


    https://www.facebook.com/groups/paipibat.vcharkarn/permalink/2138926773022643/
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ถือว่าเป็นการซักซ้อมเรื่องไฟผลิตไม่พอใช้ของคนใต้ไปในตัว


     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อสส.ทักเล่มละ400บ.แต่ทำสัญญา790 บ.! เบื้องหลังกต.ซื้อพาสปอร์ตช่วงเปลี่ยนผ่าน 2.7 พันล.
    เขียนวันที่ วันพุธ ที่ 08 สิงหาคม 2561 เวลา 20:00 น.
    เขียนโดย isranews

    "...ในการเจรจาต่อรองค่าจ้างในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ควรคำนึงถึงสิทธิที่จะให้ผู้รับจ้างผลิตหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ในราคาเล่มละ 400 บาท ได้เป็นเวลา 180 วัน ตลอดจนข้อเท็จจริงที่ว่าผู้รับจ้างนี้เป็นผู้รับจ้างรายเดิมสามารถดำเนินการผลิตได้โดยไม่ต้องจัดหาเครื่องมือหรืออุปกรณ์ใหม่ และไม่ต้องจัดฝึกอบรมพนักงานเพิ่มเติม อันส่งผลให้ต้นทุนของผู้รับจ้างลดลง และนำมาต่อรองกับผู้รับจ้างเพื่อให้ได้อัตราค่าจ้างที่เหมาะสมด้วย...."

    piccddsdsddddddd8-8-18.jpg

    “การประกวดราคาเสร็จสิ้นไปแล้วในเฟส 1 และ เฟส 2 และกำลังจะเข้าสู่การจัดซื้อจัดจ้างในเฟส 3 ซึ่งบริษัท จันวาณิชย์ ก็ทำตามเงื่อนไขที่ทำไว้กับกระทรวง คือ เมื่อเสร็จสิ้นจากเฟส 1 และ เฟส 2 และเข้าสู่ช่วงรอยต่อของเฟส 3 บริษัทจะต้องติดต่อเข้ามา รวมถึงแจ้งความประสงค์ว่าจะเข้าร่วมในการประกวดราคาการจัดทำหนังสือเดินทางกับทางกระทรวงฯ ซึ่งตรงนี้ขอย้ำว่าทุกอย่างนั้นเป็นไปอย่างถูกต้องสามารถตรวจสอบได้”

    คือ คำยืนยันของ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ให้ต่อสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงการประกวดราคาจ้างผลิตและให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 3 ของ กรมการกงศุล กระทรวงการต่างประเทศ จำนวน 15,000,000 เล่ม (สิบห้าล้านเล่ม) วงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ภายหลังสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2561 เว็บไซต์จัดซื้อจัดจ้างของกรมบัญชีกลางได้เปิดเผยข้อมูลการเสนอราคาเบื้องต้นการประกวดราคาจ้างผลิตและให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 3 ดังกล่าวว่า มีผู้ขอรับ/ซื้อเอกสาร 16 ราย เสนอราคา 4 ราย แต่ไม่ได้เปิดเผยรายชื่อผู้เสนอราคาทั้ง 4 ราย

    ท่ามกลางข้อสังเกตว่า บริษัท จันวาณิชย์ ที่ปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญารับจ้างผลิตหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้กับกรมการกงศุล กระทรวงการต่างประเทศ มาตลอด อาจจะปรากฎชื่อเป็น 1 ใน 4 ผู้เสนอราคา ที่เข้าร่วมการประกวดราคาโครงการนี้ด้วย (อ่านประกอบ : เผย 4 รายประกวดทำพาสปอร์ต 15 ล้านเล่ม 1.2 หมื่นล.-กรมบัญชีกลางปิดชื่อเอกชน, ยุคทักษิณ-บิ๊กตู่ ใครคือรายใหญ่ กวาด PASSPORT- Visa Sticker 1.6 หมื่นล.?, ชื่อบ.จันวาณิชย์เข้าร่วมด้วย! 'ดอน' ยันจัดซื้อพาสปอร์ต 15 ล้านเล่ม 1.2 หมื่นล.โปร่งใส)

    ไม่ว่าผลการประกวดราคาจ้างผลิตและให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 3 จะออกมาเป็นอย่างไร เอกชนรายใดจะปรากฎชื่อเป็นผู้ชนะ

    แต่มีข้อเท็จจริงชุดหนึ่งที่น่าสนใจ ต่อการจ้างผลิตและให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ของกระทรวงต่างประเทศ ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากระยะที่ 2 ไปสู่ระยะที่ 3 ที่สาธารณชนอาจจะยังไม่เคยรับทราบมาก่อน

    กล่าวคือ สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2560 ที่ผ่านมา สำนักงานอัยการสูงสุด เคยทำหนังสือแจ้งตอบกลับกระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับเรื่อง ร่างสัญญาจ้างผลิตและให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ระหว่างสิ้นสุดสัญญาระยะที่ 2 กับช่วงเริ่มต้นสัญญาระยะที่ 3 ที่กระทรวงการต่างประเทศ ส่งร่างให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบ

    โดยสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ตามสัญญาจ้างผลิตและให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 26 กระทรวงต่างประเทศมีสิทธิให้ผู้รับจ้างผลิตหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้อีก 180 วันหลังจากสิ้นสุดสัญญาในราคาค่าจ้างเล่มละ 400 บาท

    ดังนั้น หากสามารถจัดซื้อจัดจ้างผู้รับจ้างรายใหม่และจัดการให้ผู้รับจ้างรายใหม่เริ่มงานผลิตได้ภายในเวลาดังกล่าว กระทรวงการต่างประเทศ ก็ควรใช้สิทธิตามข้อ 26 โดยไม่ควรทำสัญญาจ้างใหม่ ตามร่างสัญญาที่ส่งมาให้ตรวจนี้

    แต่ถ้าไม่สามารถดำเนินการจัดจ้างผู้รับจ้างรายใหม่ และจัดการให้ผู้รับจ้างรายใหม่เริ่มผลิตหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้ภายใน 180 วัน ก็สามารถทำสัญญาใหม่ในลักษณะ Repeat Order ตามร่างสัญญาที่ส่งมาได้

    แต่ในการเจรจาต่อรองค่าจ้างในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ควรคำนึงถึงสิทธิที่จะให้ผู้รับจ้างผลิตหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ในราคาเล่มละ 400 บาท ได้เป็นเวลา 180 วัน ตลอดจนข้อเท็จจริงที่ว่าผู้รับจ้างนี้เป็นผู้รับจ้างรายเดิมสามารถดำเนินการผลิตได้โดยไม่ต้องจัดหาเครื่องมือหรืออุปกรณ์ใหม่ และไม่ต้องจัดฝึกอบรมพนักงานเพิ่มเติม อันส่งผลให้ต้นทุนของผู้รับจ้างลดลง และนำมาต่อรองกับผู้รับจ้างเพื่อให้ได้อัตราค่าจ้างที่เหมาะสมด้วย (ดูหนังสือประกอบ)

    picpassssssss008-8-18.jpg

    picpassssssss028-8-18.jpg

    ขณะที่ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2560 กระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำสัญญาว่าจ้างให้บริษัท จันวาณิชย์ เป็นผู้รับจ้างดำเนินการผลิตเล่มหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ในช่วงเปลี่ยนผ่าน วงเงิน 2,767,555,000 บาท ตามสัญญาเลขที่ 655/2560

    โดยก่อนหน้านั้น กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้เผยแพร่ราคากลางโครงการจัดจ้างผลิตหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่ม Repeat Order ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากโครงการจ้างผลิตและให้บริหารจัดทำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 2 ไปสู่ระยะที่ 3 เป็นจำนวน 3,500,000 เล่ม หรือภายในระยะเวลา 18 เดือน

    กำหนดวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร 2,902,375,000 บาท กำหนดราคากลางเท่าอยู่ที่ 2,902,375,000 บาท หรือ 829.25 บาท ต่อเล่มหนังสือเดินทาง

    อ้างอิงแหล่งที่มาจากการจัดซื้อตามสัญญาเลขที่ 176/2556 ลงวันที่ 10 ต.ค.2555 (เป็นการจัดซื้อในระยะที่ 2 จำนวน 7,000,000 เล่ม โดย กิจการร่วมค้า บริษัท จันวาณิชย์ บริษัท จันวาณิชย์ซีเคียวริตี้พริ้นติ้ง เป็นคู่สัญญา วงเงิน 5,804,750,000 บาท ราคาเล่มละ 829.25 บาท) (ดูเอกสารประกอบ)

    picpassssssss8-8-18.jpg

    ทั้งนี้ หากคำนวนราคาการจัดซื้อหนังสือเดินทางในช่วงเปลี่ยนผ่าน ล่าสุดวงเงิน 2,767,555,000 บาท ตามสัญญาเลขที่ 655/2560 จะตกอยู่ที่ราคาเล่มละ 790.73 บาท

    สูงกว่าราคาเล่มละ 400 บาท เป็นจำนวนเงิน 390.73 บาท

    ขณะที่สำนักงานอัยการสูงสุด เคยแสดงความเห็นทักท้วงแล้ว ว่า กระทรวงการต่างประเทศ ควรคำนึงถึงสิทธิที่จะให้ผู้รับจ้างผลิตหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ในราคาเล่มละ 400 บาท ได้เป็นเวลา 180 วัน ตลอดจนข้อเท็จจริงที่ว่าผู้รับจ้างนี้เป็นผู้รับจ้างรายเดิมสามารถดำเนินการผลิตได้โดยไม่ต้องจัดหาเครื่องมือหรืออุปกรณ์ใหม่ และไม่ต้องจัดฝึกอบรมพนักงานเพิ่มเติม อันส่งผลให้ต้นทุนของผู้รับจ้างลดลง และนำมาต่อรองกับผู้รับจ้างเพื่อให้ได้อัตราค่าจ้างที่เหมาะสมด้วย?

    https://www.isranews.org/isranews/68444-inves01-68444.html
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พนิดา แม่สาย

    เมื่อคืนที่ผ่าน กองทัพเรือ ได้นำเรือหลวงนราธิวาส
    ไปรับนักท่องเที่ยว 177คน ซึ่งคลื่นลมแรง
    ไม่สามารถเข้าฝั่งได้ ที่เกาะราชา ภูเก็ต
    ซึ่งช่วงนี้ ห้ามเรือเล็กออกจากฝั่ง
    คลื่นสูงสองถึงสามเมตร
    Cr ภาพข่าว

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พนิดา แม่สาย

    ถนนสายลำปาง เกิดหมอกลง
    ซึ่งคนขับรถ พากันแปลกใจ
    อากาศเช้านี้ก็รู้สึกเย็นๆโลกมันเพี้ยนจริงๆ
    Cr ภาพข่าว

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    คณะกรรมการของธนาคารต่างๆ ของเลบานอนได้ประกาศว่า ได้ส่งมอบทรัพย์สินของ "ซัดดัม ฮุสเซ็น" อดีตประธานาธิบดีอิรักซึ่งอยู่ในธนาคารต่างๆ ของเลบานอนให้กับรัฐบาลอิรักแล้ว

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    22:00 #พายุดีเปรสชัน 18W ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน ได้เชื่อเรียกว่า “ยางิ” Yagi ตั้งโดยประเทศญี่ปุ่น หมายถึงราศีมังกร หรือแพะ เส้นทางพายุมุ่งไปทางมณฑลเจียงซูของจีน

    21:00 #พายุไต้ฝุ่น “ชานชาน” เคลื่อนตัวเข้าใกล้ภูมิภาคคันโต เส้นทางมุ่งเลียดฝุ่งมุ่งไปทางภูมิภาคโตโฮกุ

    96W INVEST
    As of 18:00 UTC Aug 08, 2018:

    Location: 16.7°N 113.5°E
    Maximum Winds: 20 kt
    Minimum Central Pressure: 1000 mb

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ศูนย์นิรภัย
    FB_IMG_1533784769280.jpg
    สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำ
    9 ส.ค. 61

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #แจ้งเตือน
    สะพานลอยใกล้ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
    #ใช้สะพานลอย #ด้วยความระมัดระวังครับ
    #อาจจะเกิดอันตรายได้ หากมีใครพบเห็นสะพานนี้
    และทราบว่าอยู่ที่ไหนโปรดแจ้งกลับมาด้วยครับ

    #เพิ่มเติม 17:30
    8 ส.ค.61 เมื่อวานนี้(7 ส.ค.) สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมชื่อ "OnErrorResumeNext" ได้โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับลูกชายตัวเล็กอายุ 5 ขวบที่อยากข้ามสะพานลอย เนื่องจากคุณครูบอกว่า การข้ามสะพานลอยจะปลอดภัยที่สุด แต่พอไปถึงสะพานลอยใกล้ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร กลับไม่เป็นอย่างที่ติด เมื่อสะพานลอยดังกล่าวมีสายสัญญาณโทรศัพท์ตัดระหว่างกลางสะพานลอย ทำให้เดินลำบาก ต้องก้าวข้ามสาย หรือมุดลอดสาย

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149


    ทางรอดเมืองเพชร...ต้องบายพาสน้ำออกทะเล
    เร่งขุดขยายคลองตัดน้ำก่อนเข้าท่ายาง บ้านลาด และ อ.เมืองเพชรบุรี ( อัพเดท ใหม่ )

    เครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดเพชรบุรี
    โดย...ยุทธพล อังกินันทน์ เชิญชวนผู้ที่มีรถแบ๊คโฮ บูมยาว นำรถมาช่วยขุดขยายคลอง

    ติดต่อ...คุณยุทธพลฯ ร่วมด้วยช่วยกันได้โดยตรงเพื่อประสานผอ.ชลประทานเพชรบุรี วางแผนช่วยระดมขุดให้ทันมวลน้ำที่ยังทยอยเข้าตัวเขื่อนแก่งกระจาน มีค่าคนขับ กับเติมน้ำมันให้..

    ข้อมูล : อาจารย์สุรพล นาคนคร
    ผอ.สันต์ จรเจริญ ผอ.ชลประทานเพชรบุรี
    รสชสีห์ พช. รส.
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
    #ระดับน้ำลดลง #บ้านโป่งลึกบางกลอย

    รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่กจ 10 ห้วยแม่สะเลียง ว่า #วันนี้ระดับน้ำลดลง รถยกสูง รถหกล้อ สามารถข้ามได้

    #ท่านที่มีความประสงค์จะส่งสิ่งของช่วยเหลือ ไปบ้านโป่งลึกบางกลอยหมู่ 1 หมู่ 2 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน

    #ประสานแจ้งความประสงค์ไปที่ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน หรือ อบต.ห้วยแม่เพรียง เพื่อทาง อุทยานฯแก่งกระจาน จะจัดเตรียมรถยนต์ 6 ล้อ เพื่อสนับสนุนนำสิ่งของเข้าส่งในพื้นที่

    มานะ เพิ่มพูล
    ราชสีห์ พช. รส.

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149

แชร์หน้านี้

Loading...