ติดตามสถานะการณ์

La nueva era de la tierra - respaldo

ไฟไหม้ป่าหลายแห่งใน south wales ในออสเตรเลีย บางคนกำลังออกจากการควบคุม

นี่คือที่ที่แล้งสุดขั้วคือ...

 

เตรียมอพยพภายในรัศมี 3 ไมล์ จากภูเขาไฟในเกาะรีวี่ (#okinawa) ญี่ปุ่น ระดับการแจ้งเตือนเพิ่ม ขึ้นจาก 2 เป็น 4 ใน 5 ระดับ
การติดตามอย่างเข้มข้น
การแจ้งเตือนสีแดง (ระดับ 4) เนื่องจากการเพิ่มอย่างรวดเร็ว ใน seismicity ที่การประชุมซึ่งอาจนำไปสู่ช่วง eruptive ใหม่
ระเบิดสุดท้ายจำไว้ลงทะเบียนในเมย์ 2015. ที่นี่รูปของเวลานั้น

 

ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมในโอกลาโฮมาสหรัฐอเมริกาตอนนี้
14.08.2018

 

#URGENTE

Kerala อินเดียยังคงอยู่กับความเสียหายทั้งหมดโดยน้ำท่วมรุนแรง

 

Jeerachart Jongsomchai

... “ธนาคารจีนปล่อยเงินกู้ให้ตุรกีในธุรกิจด้านพลังงาน คมนาคมขนส่ง การคลังและการเงิน”

... เมื่อ 26 กรกฎาคม 2018 ธนาคาร The Industrial and Commercial Bank of China (ICBC) ของ “จีน” ได้ปล่อยเงิน $ 3,600 พันล้านดอลล่าร์ ให้กับ “ตุรกี” กู้ไปลงทุนด้านการพลังงาน คมนาคมขนส่ง การคลัง การเงิน จากการเปิดเผยของรัฐมนตรีการคลังและการเงินของตุรกีนาย Berat Albayrak ที่ก่อนหน้านั้นในเดือนพฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา ได้ไปเยือนจีน แล้วพบปะกับผู้นำของหลายสถาบันการเงินที่สำคัญของจีน ซึ่งรวมทั้งผู้นำของ ICBC ด้วย

... โดย ICBC เป็น “ธนาคารจีน” แห่งแรกที่เข้ามาดำเนินการธุรกิจใน “ตุรกี” โดยการซื้อหุ้นใหญ่ของธนาคารท้องถิ่น ในเดือนพฤษภาคม ปี 2015 หรือสามปีก่อน แสดงถึงการมีแผนในการเชื่อมต่อกันทางการเงินระหว่างทั้งสองชาติมานานแล้ว ยิ่งสถานการณ์ทางการเมืองที่ย่ำแย่ระหว่าง ตุรกีกับอเมริกาและนาโต้ อาจจะเป็นตัวผลักดันให้ ตุรกีหันหน้าไปหาฝ่าย รัสเซียและจีนมาเป็นพันธมิตรแทน

... “วิกฤติการเงินลีร่า” ของตุรกี ในตอน 2018 นี้ ที่เงินตกลงอย่างหนัก และทำให้ประเทศเป็นหนี้มากขึ้นเท่าตัว และต้องการรักษาค่าเงินอย่างหนัก ที่นอกจากจะขึ้นดอกเบี้ยเพื่อรั้งเงินนักลงทุนต่างชาติแล้ว การกู้เงินจากต่างประเทศก็อาจจะเป็นอีกทางเลือกเพื่อชดเชยเงินที่ไหลออกนอกนา ที่นอกจาก ไอเอ็มเอฟ แล้ว ตุรกี ก็อาจจะกู้เงินจาก จีน แทนก็ได้ คล้ายกับกรีซเมื่อสามปีก่อน ที่ตอนนี้ผู้นำกรีซก็เจรจากับรัสเซีย แต่สุดท้ายต้องกลับไปจ่ายหนี้เดิม และกู้เงินใหม่กับเยอรมันและฝรั่งเศสเหมือนเดิม

... ซึ่งถ้าปล่อยให้เงินลีร่าตกไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้สินค้าต่างประเทศที่นำเข้ามาขายในประเทศตุรกีแพงขึ้นเรื่อยๆ ที่จะกระทบกับความเป็นอยู่ของประชาชนชาวบ้านทั่วไป ที่จะวกกลับเป็นบูบเมอร์แรงมาเล่นงานรัฐบาลของลุงเออร์โดกันได้ในระยะอันใกล้ เพราะว่าแม้ในปี 2017 ตุรกีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเป็นมูลค่า 23,084 ล้านดอลล่าร์ ลดเหลือในเดือนมิถุนายน ของปี 2018 `ที่ 18,450 ล้านดอลล่าร์ ก็ตามแต่ก็ยังมาก ที่ต้องจะเป็นปัญหาที่ทำให้ต้องการเงินมากกว่าเดิมในการสั่งนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศที่แพงขึ้นมากในช่วงนี้ดังกล่าว

... นอกจากธนาคาร ICBC แล้ว ยังมีธนาคาร “จีน” อีกหลายแห่ง ที่พร้อมจะเสนอการให้กู้ยืมกับ “ตุรกี” เช่นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีข่าวว่า The Bank of China ที่เป็นหนึ่งในสี่ธนาคารพานิชย์ที่ใหญ่ที่สุดของจีน ใหญ่อันดับเจ็ดของโลก และมีรัฐบาลจีนเป็นเจ้าของและเป็นธนาคารจีนแห่งที่สองที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินงานในตุรกีได้ เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2017 เตรียมจะให้กู้แก่ตุรกีเช่นกัน ในการพัฒนาด้านสาธารณูปโภค คมนาคมขนส่ง การสื่อสาร พลังงาน ในตุรกี ที่จีนถือว่าตุรกีเป็นเส้นทางผ่านที่สำคัญของโครงการ “ทางสายไหมใหม่” สายใต้ที่จะเชื่อมจีนกับยุโรปได้

... และล่าสุด “ธนาคาร AIIB” ที่มีจีนเป็นหัวเรือใหญ่ในการออกมาเป็นอีกทางเลือกในการปล่อยให้กู้กับประเทศทั่วโลกแข่งกับไอเอ็มเอฟและธนาคารโลก ได้ออกมาให้เงินกู้กับ “ตุรกี” แล้ว เมื่อปลายเดือนมิถุนายน ปี 2018 ที่ผ่านมา ในโครงการโรงเก็บแก๊ส เป็นมูลค่า $600 ล้านดอลล่าร์ ในโครงการท่อแก๊สของตุรกี ที่มีเป้าหมายจะจ่ายน้ำมันได้ 4.2 พันล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี

... “จีน” อาจจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของ “ตุรกี” ในการแก้ปัญหาทางด้านวิกฤติการเงินลีร่า ที่กำลังโจมตีประเทศอย่างหนักก็ได้
.

... The Industrial and Commercial Bank of China (ICBC) has provided a $3.6 billion loanpackage to the Turkish energy and transportation sector, Treasury and Finance Minister Berat Albayrak said on July 26.

... “The $3.6 billion loan package from Chinese financial institutions for energy and transportation sector investments — private sector, public institutions and banks — has been completed,” Albayrak said in a tweet.
Albayrak also described his negotiations during a visit to China as “fruitful.”

... In May, Albayrak visited a number of institutions in China, including the ICBC.
ICBC Turkey is the first Chinese bank that started operations in Turkey by acquiring majority shares of a local bank in May 2015.

... The Bank of China, the largest Chinese financial provider of the Belt and Road initiative, aims to support Turkey's stronger integration in the project by financing mega infrastructure, energy and transportation projects in the country designed as the middle corridor for the 21st century Silk Road

.

http://www.hurriyetdailynews.com/chinese-bank-to-lend-3-6-billion-to-turkey-albayrak-135083
https://tradingeconomics.com/turkey/imports
http://www.chinadaily.com.cn/business/2017-12/03/content_35169979.htm
http://www.chinadaily.com.cn/a/201806/28/WS5b3479d7a3103349141df82a.html

 

Watchers

#มีเงื่อนงำ
// นายกฯ สวีเดนชี้เหตุวัยรุ่นตระเวนเผารถเป็นการนัดแนะกัน //

โกเธนเบิร์ก - นายกรัฐมนตรีสเตฟัน เลอเวนของสวีเดนตรวจเยี่ยมพื้นที่เกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นตระเวนเผายวดยานร่วมร้อยคันในเมืองโกเธนเบิร์กและเมืองใกล้เคียง โดยมองว่าเป็นการก่อเหตุที่มีการนัดแนะกัน

นายกรัฐมนตรีเลอเวนให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุสวีเดนขณะตรวจเยี่ยมพื้นที่เกิดเหตุว่า สังคมจะตอบโต้อย่างจริงจังกับเรื่องแบบนี้ ดูเหมือนเป็นการก่อเหตุที่มีการนัดแนะ ด้านตำรวจเผยว่า มียวดยานมากถึง 100 คันถูกเผาหรือทุบทำลายเสียหายเมื่อวันจันทร์ในเมืองโกเธนเบิร์ก เมืองใหญ่อันดับสองที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศ และอีกหลายเมืองใกล้เคียง เป็นย่านอุตสาหกรรมที่มีอัตราว่างงานสูง ตำรวจจับกุมวัยรุ่นชายสองคนวัย 16 ปีและ 21 ปี เมื่อวานนี้และจะขยายผลจับกุมเพิ่มเติม โดยเผยเพียงว่าเป็นเรื่องของแก๊งอันธพาลที่มีการนัดแนะและเตรียมการ นอกจากนี้ยังเกิดเหตุเผารถจำนวนหนึ่งในกรุงสตอกโฮล์มเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาด้วย เหตุจลาจลล่าสุดสะท้อนเหตุจลาจลที่เคยเกิดขึ้นในกรุงสตอกโฮล์มและย่านชานเมืองยากจนเมื่อปี 2556 ต้นตอมาจากเหตุตำรวจวิสามัญชายวัย 69 ปีที่ถือมีดดาบขนาดใหญ่ ตำรวจถูกตำหนิว่าทำเกินกว่าเหตุ

ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้กลุ่มวัยรุ่นตระเวนเผายวดยานเมื่อวันจันทร์ แต่ย่านที่มีอัตราว่างงานสูงมีเหตุรุนแรงและปัญหาสังคมมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่เป็นช่วงใกล้สิ้นสุดการปิดภาคเรียนฤดูร้อนมักเกิดเหตุรุนแรงขึ้นประปรายตามเมืองต่าง ๆ ปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิตกว่า 40 คนจากเหตุแก๊งอันธพาลปะทะกัน ปัญหาแก๊งอันธพาลและเหตุรุนแรงจึงเป็นประเด็นหลักในการหาเสียงเลือกตั้งทั่วไปสวีเดนที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 กันยายนนี้ นอกจากนี้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งยังกังวลเรื่องระบบสวัสดิการสังคมและผลกระทบจากการที่มีผู้เข้าเมืองมากขึ้น ปี 2558 ปีเดียวมีผู้ขอลี้ภัยเข้าสวีเดนมากถึง 160,000 คน ผลการหยั่งเสียงชี้ว่า พรรคสังคมประชาธิปไตยของนายกรัฐมนตรีเลอเวนซึ่งเป็นพรรคใหญ่ที่สุดในรัฐบาลผสมเสียงข้างน้อยชุดปัจจุบัน มีแนวโน้มจะเสียที่นั่งในสภามากที่สุดเท่าที่เคยมีมา.-
Cr:. Mcot

 

ระวัง!วิกฤติตุรกี เขย่าแบงก์ยุโรป

สิงหาคม 15, 2018THIDARAT HENPROMทันหุ้น Focus, สกู๊ปเด่นวิกฤติตุรกี

สะเทือนไปทั้งโลก เมื่อ ประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ของ ตุรกี สาดวาทะใส่กับ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และโดนสหรัฐแทรกแซงการค้า ด้วยการขึ้นภาษีเหล็ก และอลูมิเนียม ส่งผลให้ฐานะทางเศรษฐกิจของ ตุรกี ที่ย่อบแย่บอยู่แล้ว แทบจะ “พังพินาศ” ในทันที หัวข่าว นสพ.ต่างประเทศ ใช้คำว่า Collapse ถือว่าค่อนข้างแรง

ค่าเงินไลร่า ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง จากเดิมที่เคยอยู่แถวๆ 5 ไลร่า/ดอลลาร์ ตกลงไปต่ำสุดที่ระดับ 7.09 ไลร่า/ดอลลาร์ และนับไปนับมาตั้งแต่ต้นปี 2561 นี้ ค่าเงินตุรกี ลดลงมามากถึง 30%

จริงๆ ถึง สหรัฐ จะไม่ขึ้นภาษีสินค้าตุรกี ฐานะของตุรกี ก็ใกล้เข้า IMF เต็มทน เพราะการบริหารงานผิดพลาดของ ประธานาธิบดีแอร์โดอัน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อตุรกี พุ่งสูงถึง 15% และดอกเบี้ยสูงถึง 17.5% ใครเคยเห็นตัวเลขแบบนี้ในปี 2540 จะมองออกเลยว่า…ตุรกี รอดยาก%

ปี 2540 ไทยแม้เงินเฟ้อ จะไม่สูงมากยังปกติที่ระดับ 3 -4 % แต่ดอกเบี้ยที่สูงถึง 18% ก็เป็นตัวที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจไทย พังเร็วกว่าที่คิด และในยุคนั้นไทยเป็นหนี้ต่างประเทศเยอะมาก โดยที่ ภาคเอกชน กำลังเห่อธุรกรรมการเงินใหม่ที่เพิ่งเข้ามาคือ BIBF แห่กู้นอกกันสนุกสนาน พอค่าเงินบาท ไหลรูดจาก 25 เหรียญ/ดอลลาร์ ไปเป็น 56 เหรียญ/ดอลลาร์…แค่เวลาไม่ถึงครึ่งเดือน หนี้ท่วมไปอีก 100% เป็นใครก็ต้องหมุนเงินไม่ทัน!

ปัญหาขาดสภาพคล่องเกินขึ้นอย่างรุนแรงในตลาดเงินไทย และที่แสบไปกว่านั้นก็คือ มีการโจมตีค่าเงินบาท ทำให้ทุนสำรองของไทยที่มีอยู่ประมาณ 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์ แทบหมดเกลี้ยง เหลือเพียงแค่ 800 ล้านดอลลาร์ ทำให้ประเทศไทยไม่มีเงินดอลลาร์ไปซื้อสินค้านำเข้า โดยเฉพาะ “น้ำมัน”

ด้วยเหตุนี้ ไทยจึงต้องเข้าโครงการของ IMF ขอกู้เงินมา 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อนำมาหมุนใช้ สุดท้ายก็สามารถเอาตัวรอดกลับมาได้…

มองทิศทางของ ตุรกี ตอนนี้แทบไม่แตกต่างจากที่ไทยเคยโดน เพราะมีทั้งดอกเบี้ยสูง กู้เงินต่างประเทศมากถึง 40% ของ GDP และเงินกู้ส่วนใหญ่กู้จากแบงก์ในยุโรป

มองดีๆ ถ้า ตุรกี มีปัญหาไม่สามารถใช้หนี้ได้ตามกำหนด ไม่มีเงินไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบอายุ…ฐานะคงไม่แตกต่างจากที่ไทยโดนซักเท่าไหร่?

แต่ที่น่ากังวลก็คือ ถ้า ตุรกี ล้ม…แบงก์ยุโรป เจ้าหนี้หลายแห่ง จะมีปัญหาทันที ตรงนี้คือ “จุดเสี่ยง” ของระบบการเงินโลกอีกครั้ง

ถ้าหากเปรียบเทียบกับ กรณีที่ “กรีซ ถังแตก” เมื่อปี 2558 เพราะมีปัญหาการคลัง รัฐบาลใช้เงินผิดประเภท เอาไปทุ่มทำนโยบายประชานิยม จนหนี้สาธารณะเพิ่มสูงกว่า 100% ของ GDP โดย รัฐบาลกรีซ ในสมัยนั้น ประกาศว่า มีหนี้เป็นตัวเลขจริงๆ มากถึง 135% ของ GDP เรียกว่า “หนี้ท่วมหัว” จนทำให้ต้องเข้า IMF

แต่กรณีของ “กรีซ” ไม่ส่งผลกระทบต่อแบงก์ในยุโรป เพราะส่วนใหญ่เป็นหนี้ระยะยาว และพันธบัตร รวมถึง ธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB และ IMFจับเข้าโปรแกรมแก้ปัญหาได้ทันท่วงที เมื่อ “ขาใหญ่” โดดเข้าไปอุ้มปัญหาเลยยุติได้ง่าย…

ส่วนกรณีของ กรีซ เท่าที่ดูท่าทีของ ECB หรือแม้แต่ IMF เอง ยังแค่จับตามอง และยังไม่ได้เข้ามาแทรกแซง อาจจะเป็นเพราะว่า ตุรกี ณ ปัจจุบัน ไม่เพียง สหรัฐ เท่านั้นที่ไม่ชอบหน้า แม้แต่ เยอรมัน “พี่ใหญ่ยุโรป” ก็ไม่ชอบหน้าเหมือนกัน และเพิ่งประกาศเลิกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจตุรกี เมื่อกลางเดือนก.ค.ที่ผ่านมานี้เอง

สาเหตุที่ สหรัฐ และยุโรปตะวันตก ไม่ค่อยชอบ ตุรกี เป็นเพราะว่าระยะหลังๆ ตุรกี เอาใจออกห่าง และไปยืนอยู่ข้าง รัสเซีย เลยทำให้กลายเป็นประเทศยุโรป ที่ ยุโรป เองก็ไม่ชอบ

ดังนั้น จึงไม่แปลกที่การเข้าช่วยเหลือตุรกี ขององค์กรหลักๆ จะเข้าแก้ไขปัญหาช้า ปล่อยให้ลามมาตั้งแต่ต้นปี 2561 นี่กลางปีเข้าไปแล้ว ยังไม่เข้ามาดู มิหนำซ้ำ ยังถูก “ลุงทรัมป์” ถล่มดื้อๆ แบบเสยปลายคาง อาการที่ร่อแร่อยู่แล้ว เลยแกว่งและน่าจะล้มลงในที่สุด

เมื่อสัปดาห์ก่อน รัฐบาลตุรกี เพิ่งประกาศเสริมสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ แต่ดูเหมือนแทบไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ นักวิเคราะห์ กลับมองว่า เข้าแก้ปัญหาช้า และวงเงินที่ใส่ลงมาก็น้อยเกินไป

จากนี้ไป การลงทุนของ “นักลงทุน” ต้องระมัดระวังมากกว่าปกติ “ระเบิด” ตุรกี ถูกจุดชนวนแล้ว ไม่รู้จะตูมออกมาตอนไหน ใครที่เล่นหุ้น เล่นฟอร์เร็กซ์ เล่นทองคำ น้ำมัน หรือบิทคอย…อย่าทุ่มสุดตัว เล่นเอาแค่สนุกๆ ก็พอ!

ไม่อยากคิด ถ้าหากแบงก์ในยุโรปที่ปล่อยกู้ให้ ตุรกี เกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ การแก้ไขปัญหาจะยืดเยื้อยาวนานแน่นอน!

https://www.thunhoon.com/bank/

 

Watchers

#ภาวะโลกร้อน #WorldChange
// ดินอุ่นขึ้น มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ //
15/08/18

นักวิทยาศาสตร์จากห้องปฏิบัติการชีวภาพทางทะเลในรัฐแมสซาชูเสตต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รายงานเกี่ยวกับปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมที่มีส่วนทำให้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ

นักวิทยาศาสตร์จากห้องปฏิบัติการชีวภาพทางทะเลในรัฐแมสซาชูเสตต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รายงานเกี่ยวกับปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมที่มีส่วนทำให้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือ**การที่พืชจะจับก๊าซคาร์บอนจำนวนมหาศาลแล้วสูบมันลงไปในดิน **ซึ่งปกติแล้วก๊าซคาร์บอนจะอยู่ได้นานเป็นเวลาหลายร้อยหรือหลายพันปี

แต่จากการสังเกตการณ์ทั่วโลกที่ชี้ให้เห็นว่าเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น เชื้อแบคทีเรียและเชื้อราในดินจะเริ่มทำงานได้ดีขึ้น ปฏิกิริยาของจุลินทรีย์ที่มีต่อใบไม้และพืชที่ตายก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่อากาศมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์เรียกว่าวงจรของปัญหาแห่ง #ภาวะโลกร้อน #การเผาไหม้ของถ่านหิน #น้ำมัน และ #ก๊าซธรรมชาติ ทำให้อากาศและดินร้อนขึ้น ซึ่งพบว่าปริมาณก๊าซคาร์บอนเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990 ก๊าซคาร์บอนเหล่านี้ออกมาจากจุลินทรีย์เมื่อเทียบกับแหล่งที่มาอื่นๆของก๊าซคาร์บอน พวกเขาได้วิเคราะห์ข้อมูลจากเครื่องตรวจวัดดินและการเจริญเติบโตของพืช รวมถึงการสังเกตการณ์จากดาวเทียม
**สรุปว่าโดยรวมแล้วดินจะปลดปล่อยคาร์บอนมากกว่ามนุษย์กระทำถึง 9 เท่า

ในขณะที่โลกประสบกับภาวะโลกร้อน ดินก็จะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่ยังคงเหลืออยู่ออกมา หากไม่มีการควบคุมวงจรดังกล่าว ก็จะเพิ่มความเร็วและขยายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ย่ำแย่ มีข้อเสนอแนะจากนักวิทยาศาสตร์บางคนถึงหนทางแก้ปัญหาว่า ให้ใช้เทคนิคการอนุรักษ์ดิน เช่น หลีกเลี่ยงการไถ ปลูกพืชนอกฤดูกาลคลุมดิน และปล่อยเศษพืชไว้บนพื้นดินก็จะสามารถช่วยเก็บกักปริมาณก๊าซคาร์บอนไว้ในดินได้มากขึ้น.

นักวิทยาศาสตร์จากห้องปฏิบัติการชีวภาพทางทะเลในรัฐแมสซาชูเสตต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รายงานเกี่ยวกับปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมที่มีส่วนทำให้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ
Cr: ไทยรัฐ
#Watchers

 

สุดยอด

มองท้องฟ้าในแคนาดาหลังจากไฟไหม้ป่ารุนแรง
13.08.2018

 

ยังค้นหาเหยื่อติดใต้ซากสะพานมอเตอร์เวย์พังถล่มในอิตาลี คาดยอดตายอยู่ที่ 35 ศพ เผยแพร่: 15 ส.ค. 2561 02:30 ปรับปรุง: 15 ส.ค. 2561 10:52 โดย: MGR Online

รอยเตอร์ - ทีมดับเพลิงในวันอังคาร (14 ส.ค.) ยังค้นหาผู้รอดชีวิตและศพที่ติดอยู่ใต้ซากหักพังของสะพานมอเตอร์เวย์แห่งหนึ่งในเมืองเจนัว ทางภาคเหนือของอิตาลี ที่พังถล่มลงมาท่ามกลางฝนตกหนักในตอนเช้าวันเดียวกัน คร่าหลายสิบชีวิต

สำนักข่าวอันซาของอิตาลี อ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ดับเพลิงคาดหมายว่าน่าจะมีผู้เสียชีวิตราวๆ 35 ราย ในขณะที่ยอดนับศพอย่างเป็นทางการยังอยู่ที่ราวๆ 20 ศพ

บางส่วนของสะพานยาวประมาณ 80 เมตร ในนั้นรวมถึงส่วนที่เป็นตัวค้ำยันเสาขึงด้านบน พังถล่มลงมาในตอนที่มียานพาหนะราว 35 คันแล่นอยู่บนสะพานที่พาดผ่านหลังคาโกดังสินค้าและอาคารอื่นๆ ทำให้รถหลายคันร่วงลงสู่เบื้องล่างความสูงราวๆ 50 เมตร เช่นเดียวกับเศษซากคอนกรีตที่ตกลงไปในคูน้ำ

“เราพยายามสกัดซากคอนกรีตเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต” อเลสซานดรา บุชชี เจ้าหน้าที่ตำรวจเจนัวกล่าว “เราหวังพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติม”

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในตอนเช้า ในขณะที่รัฐบาลต่อต้านสถาบันที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งในเดือนมิถุนายน บอกว่าเหตุสะพานพังถล่มครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าอิตาลีมีความจำเป็นเร่งด่วนในการใช้จ่ายเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอันเสื่อมโทรม ซึ่งอาจต้องละเลยข้อจำกัดทางงบประมาณของอียูถ้าจำเป็น

“เราต้องถามตัวเองแล้วว่าการเคารพต่อข้อจำกัดทางงบประมาณนั้นมีความสำคัญมากกว่าความปลอดภัยของพลเมืองอิตาลีหรือไม่ แน่นอน สำหรับผมแล้ว มันไม่” มัตเตโอ ซัลวินี รองนายกรัฐมนตรีกล่าว พร้อมระบุว่าเขาต้องการชื่อและนามสกุลของพวกที่ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากโศกนาฏกรรมลักษณะนี้ในปี 2018 เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ “พวกเขาจะต้องชดใช้ และจะเป็นการชดใช้ที่แสนแพง”

ภาพถ่ายจากเฮลิคอปเตอร์ที่โพสต์ลงบนสื่อสังคมออนไลน์พบเห็นรถบรรทุกและรถยนต์หลายคันติดค้างอยู่บนทั้งสองฟากฝั่งของสะพานโมรันดิ ความยาว 50 เมตร ซึ่งสร้างบนถนนมอเตอร์เวย์สาย A10 ในช่วงทศวรษที่ 1960 โดยพบเห็นรถบรรทุกคันนิ่งจอดยิ่งอยู่ใกล้ๆ ริมจุดที่สะพานพังถล่มลงไป

อเลสซานโดน เมกนา ผู้ขับขี่รายหนึ่งเผยว่าสถานีวิทยุอาร์เอไอว่า รถของเขากำลังจอดแน่นิ่งท่ามกลางการจราจรที่ติดขัดอยู่ด้านล่างสะพานและเห็นตอนที่มันพังถล่มลงมาพอดี “สะพานพังถล่มลงมาอย่างกะทันหัน พร้อมกับทุกๆ อย่างที่อยู่บนนั้น มันเหมือนกับฉากวันสิ้นโลก ผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย”


ลุยจิ ดีอังเกโล เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันพลเรือน บอกว่ามรถยนต์ 30 คัน และรถบรรทุกราว 5 ถึง 10 คัน อยู่บนถนนตอนที่ช่วงกลางๆ ของสะพานพังถล่มลงมา และจนถึงตอนนี้มี 16 คนนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ในนั้น 10 รายอาการวิกฤต

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประมาณ 300 คนกำลังเร่งมือทำงานกันอย่างหนัก มีการใช้สุนัขดมกลิ่นค้นหาตำแหน่งของผู้รอดชีวิต โดย บุชชี บอกว่าทีมกู้ภัยจะเดินหน้าค้นหาต่อไปแม้เข้าสู่ยามค่ำคืนแล้วก็ตาม และเบื้องต้นสามารถช่วยเหลือผู้ประสบเหตุออกมาจากใต้ซากหักพังแบบยังมีชีวิตอยู่แล้ว 4 คน

ดานิโล โตนิเนลลี รัฐมนตรีคมนาคมให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐว่า โศกนาฏกรรมครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าโครงสร้างพื้นฐานของอิตาลีอยู่ในสถานะเสื่อมโทรมและขาดการบำรุงรักษา พร้อมระบุว่าพวกที่มีส่วนรับผิดชอบจะต้องชดใช้

รายานข่าวระบุว่า ออโตสตราเด บริษัทในเครือแอตแลนเตีย ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ดูแลกิจการโดยตระกูลเบเนตตัน คือผู้ดูแลรับผิดชอบไฮเวย์ในส่วนที่พังถล่มลงมา

ในเรื่องนี้ สเตฟาน มาริกเลียนี เจ้าหน้าที่ของออโตสตราเด ประจำพื้นที่เจนัว บอกกับรอยเตอร์ว่า “สะพานพังถล่มเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดหมายไว้และคาดการณ์ไม่ได้ เราสังเกตการณ์สะพานอยู่เป็นประจำและตรวจตรามันเป็นอย่างดีเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เสียอีก และไม่มีเหตุผลที่สะพานแห่งนี้จะถูกมองว่าอยู่ในสถานะที่เป็นอันตราย”

เคยมีการซ่อมแซมปรับปรุงสะพานความยาว 1.2 กิโลเมตรแห่งนี้ ที่เป็นเส้นทางหลักสู่อิตาเลียน ริเวราและชายฝั่งทางใต้ของฝรั่งเศส ในปี 2016 หลังจากมันสร้างเสร็จครั้งแรกในปี 1967 ขณะที่ออสโตสตราเด ระบุว่าตอนที่พังถล่มนั้น กำลังอยู่ระหว่างงานค้ำยันฐานสะพาน

รัฐบาลต่อต้านสถาบันของอิตาลี ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งในเดือนมิถุนายน เคยให้สัญญาว่าจะเพิ่มการลงทุนในภาครัฐและจะล็อบบี้คณะกรรมาธิการยุโรให้ใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือจากการคำนวณตัวเลขขาดดุลของอียู


“ข้อเท็จจริงจากโศกนาฏกรรมในเจนัว ย้อนเตือนว่าเรามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องลงทุนในภาคสาธารณะ” เคลาดิโอ บอร์ชี โฆษกฝ่ายเศรษฐกิจของพรรคลีก พรรคฝ่ายขวา หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลของพรรคไฟว์สตาร์

สำนักนายกรัฐมนตรีของจูเซพเพ คอนเต บอกว่านายกรัฐมนตรีกำลังเดินทางลงพื้นที่เจนัวในช่วงค่ำและจะยังอยู่ที่นั่นในวันพุธ (15 ส.ค.) ส่วนรัฐมนตรีกลาโหมเสริมว่าทหารพร้อมสนับสนุนด้านกำลังพลและยานพาหนะเข้าช่วยเหลือปฏิบัติการกู้ภัย

https://mgronline.com/around/detail/9610000081092

 

ผู้นำตองกาวอนจีน ‘ยกหนี้’ ให้หมู่เกาะแปซิฟิก-รับไม่มีปัญญาจ่ายคืน
เผยแพร่: 15 ส.ค. 2561 11:38 โดย: MGR Online


ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน และนายกรัฐมนตรี อากิลิซี โปฮิวา แห่งราชอาณาจักรตองกา
เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี อากิลิซี โปฮิวา แห่งราชอาณาจักรตองกาเรียกร้องให้จีน ‘ยกหนี้’ แก่ประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก โดยระบุว่าการชำระหนี้คืนจะเป็นภาระใหญ่หลวงสำหรับชาติที่ยังมีฐานะยากจนอยู่

วงเงินช่วยเหลือที่รัฐบาลจีนมอบให้แก่ประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกนั้นพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่ปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่อยู่ในรูปของเงินกู้จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (เอ็กซิมแบงก์) ของจีน

ตองกาเป็นหนึ่งในชาติลูกหนี้รายใหญ่ของจีน โดยสถาบันโลวีย์ (Lowy Institute) ในออสเตรเลียประเมินว่า รัฐบาลตองกาเป็นหนี้ปักกิ่งอยู่กว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

โปฮิวา ยอมรับว่าเป็นการยากลำบากที่จะใช้หนี้คืน และหลายประเทศในภูมิภาคโอเชียเนียก็เผชิญสถานการณ์ไม่ต่างกัน จึงคาดว่าจะมีการหยิบยกปัญหานี้ขึ้นมาหารือระหว่างการประชุมซัมมิตที่นาอูรูในเดือนหน้า

“เราจำเป็นต้องหารือเรื่องนี้” ผู้นำตองกาเผยกับหนังสือพิมพ์ซามัวออบเซอร์เวอร์ ซึ่งนำบทสัมภาษณ์มาตีพิมพ์เมื่อวันอังคาร (14)

“ทุกประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกต้องร่วมกันเข้าชื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจีนยกหนี้แก่พวกเรา... สำหรับผมแล้ว นี่คือหนทางเดียวที่เราจะก้าวต่อไปข้างหน้า หากเราไม่สามารถชดใช้หนี้ได้”

รัฐบาลตองกาเคยกู้เงินจีนมาฟื้นฟูบ้านเมืองที่ได้รับความเสียหายจากเหตุจลาจลนองเลือดภายในกรุงนูกูอาโลฟาเมื่อปี 2006

จีนปฏิเสธที่จะยกหนี้และเปลี่ยนวงเงินทั้งหมดเป็นเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่า แต่ก็มีระยะเวลาผ่อนผันให้ตองกาไม่ต้องชำระคืนทั้งต้นและดอก

อย่างไรก็ตาม เวลานี้จีนได้เรียกร้องให้ตองกากลับมาชดใช้หนี้อีกครั้ง

“ภายในเดือน ก.ย. ปี 2018 เราคาดว่าจะต้องชำระหนี้ให้จีน 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะส่งผลให้งบประมาณหดหายไปมาก” โปฮิวา ระบุ

พายุไซโคลนระดับ 5 ซึ่งซัดถล่มเมืองหลวงตองกาเมื่อเดือน ก.พ. ทำให้รัฐบาลต้องใช้เงินมหาศาลในการบูรณะซ่อมสร้าง และเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้การจ่ายหนี้จีนยิ่งยากลำบาก

“หากเราไม่จ่ายหนี้ รัฐบาลจีนอาจจะเข้ามายึดทรัพย์สินซึ่งก็คืออาคารต่างๆ ของเรา... ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีทางเลือกเดียวคือต้องเข้าชื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจีนประกาศยกหนี้” โปฮิวา กล่าว

ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เริ่มหยิบยื่นความช่วยเหลือให้แก่หมู่เกาะแปซิฟิกมากขึ้นเพื่อคานอำนาจจีน และเมื่อเร็วๆ นี้รัฐบาลแคนเบอร์ราก็ได้แสดงความเป็นห่วงว่า รัฐเล็กๆ ในแปซิฟิกอาจหลงติดกับดักหนี้สินที่ไม่สามารถบริหารจัดการอย่างยั่งยืน และเปิดทางให้จีนใช้อิทธิพลครอบงำเอาได้

รัฐบาลจิงโจ้ประกาศจะเริ่มเจรจาข้อตกลงด้านความมั่นคงกับวานูอาตู และจะสนับสนุนทั้งงบประมาณและการก่อสร้างระบบเคเบิลใต้น้ำไปยังหมู่เกาะโซโลมอนและปาปัวนิวกินี

ขณะเดียวกัน บริษัทหัวเว่ย (Huawei) ก็เพิ่งบรรลุข้อตกลงสร้างเครือข่ายเคเบิลใต้น้ำในปาปัวนิวกินี ด้วยเงินทุนสนับสนุนจากธนาคารเอ็กซิมแบงก์ของจีน

https://mgronline.com/around/detail/9610000081176

 

เวเนฯรวบทหารระดับนายพล ฐานต้องสงสัยเอี่ยวลอบสังหารปธน.มาดูโร
เผยแพร่: 15 ส.ค. 2561 01:00 โดย: MGR Online

(แฟ้มภาพ) ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร
รอยเตอร์ - ทาเรค ซาบ หัวหน้าอัยการเวเนซุเอลาเผยในวันอังคาร(14ส.ค.) ทหารระดับสูง 2 นายถูกจับกุมตามคำกล่าวหาว่าพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุใช้โดรนพยายามลอบสังหารประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีสวนสนามเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

รัฐบาลเวเนซุเอลากล่าวหาพวกนักการเมืองฝ่ายค้านและนักเคลื่อนไหวต่อต้านมาดูโรในต่างแดน วางแผนลอบสังหารผู้นำซ้ายจัดรายนี้ ด้วยโดรนซุกระเบิดระหว่างพิธีสวนสนามกลางแจ้งในกรุงการากัส

ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยแล้ว 14 คน ในนั้นรวมถึง ส.ส.คนหนึ่งและวัยรุ่นหลายคน ส่วนผู้ต้องสงสัยคนอื่นๆอีกราว 20 คนยังหลบหนี ในนั้นบางส่วนหลบหนีอยู่ในโคลอมเบีย ชาติเพื่อนบ้านและสหรัฐฯ

ซาบ เผยว่าพันเอกเปโดร ซัมบราโน และพลเอกอเลฮันโดร เปเรซ ถูกนำตัวขึ้นศาลในวันจันทร์(13ส.ค.) อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัวทั้งสอง

กระทรวงข่าวสาร ซึ่งรับมือกับคำสอบถามจากสื่อมวลชนในนามของรัฐบาล ยังไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ขณะที่รอยเตอร์ก็ไม่สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ทั้งสองที่ถูกกล่าวหาได้

ก่อนหน้านี้มีคำกล่าวหาว่าพวกเจ้าหน้าที่ทหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโดรนลอบสังหารนั้น หลายคนเป็นนายทหารที่มีชื่อเสียง ขณะที่ในประเทศแห่งนี้เป็นที่ทราบกันดีกว่ากองทัพอยู่ในฐานะผู้ไกล่เกลี่ยที่มีอิทธิพล

มีเสียงเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้ทหารเข้าแทรกแซงทางการเมือง หลังการประท้วงใหญ่ต่อต้านรัฐบาลเมื่อปีที่แล้ว ไม่อาจโค่นล้มมาดูโรได้ แถมเขายังได้รับเลือกตั้งให้กลับมานั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีอีกสมัยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงโวยวายว่ามันเป็นการเลือกตั้งที่อัปยศ

รัฐบาลระบุว่าเหตุโจมตีด้วยโดรนลงมือโดยนักฆ่ามืออาชีพ 11 คนที่ถูกเกณฑ์ะหว่างการชุมนุมต่อต้านมาดูโรและฝึกฝนอยู่ตามแนวชายแดนติดกับโคลอมเบีย พร้อมระบุว่าในส่วนของพวกผู้สนับสนุนทางการเงินนั้นอยู่ในโบโกตาและฟลอริดา ที่สัญญาจะมอบเงินกับทางกลุ่ม 50 ล้านดอลลาร์และให้ที่พำนักในสหรัฐฯ แลกกับการสังหารมาดูโร

อย่างไรก็ตามฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์มาดูโร บอกว่าเขาใช้เหตุการณ์นี้เป็นข้ออ้างในการปราบปรามฝ่ายเห็นต่างและกระชับอำนาจในประเทศ ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญภาวะเงินเฟ้อรุนแรง

กระนั้น มาดูโรบอกว่าเขาเป็นเหยื่อในสงครามเศรษฐกิจที่นำโดยพวกนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านที่ได้รับความช่วยเหลือจากวอชิงตัน และกล่าวหารัฐบาลสหรัฐฯพยายามบ่อนทำลายเขา อย่างที่เคยทำกับพวกผู้นำฝ่ายซ้ายคนอื่นๆในละตินอเมริกา

https://mgronline.com/around/detail/9610000081088

 

พนิดา แม่สาย

รถส่งของคันนี้เบรคทัน เลยรอด
จากการมอเตอร์เวย์หักพังลงมา ที่อิตาลี
สรุปคนเสียชีวิต35คน และสะพานนี้สร้างมานานแล้ว
Cr ภาพข่าว

 

Watchers

#อุบัติเหตุ #ติดใจจำนวนคนตาย
// มีผู้เสียชีวิต 24 คนจากอุบัติเหตุรถบัสในเอกวาดอร์ //

15 ส.ค. 61 | 09:43 น.
- รถโดยสารที่มีนักเดินทางจากโคลอมเบียและเวเนซุเอลาประสบเหตุชนในเอกวาดอร์เมื่อเช้าวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 24 คน บาดเจ็บอีก 22 คน

เจ้าหน้าที่ความมั่นคงเอกวาดอร์กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชาวเวเนซุเอลาและโคลอมเบียแต่ไม่ทราบจำนวนแน่ชัด โดยได้แจ้งเหตุไปยังสถานทูตของทั้งสองประเทศในกรุงกีโตให้รับทราบแล้ว และผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่เป็นชาวโคลอมเบีย รถบัสคันดังกล่าวติดป้ายทะเบียนต่างประเทศขณะแล่นอยู่บนทางหลวงห่างไป 30 กิโลเมตรทางตะวันออกของกรุงกีโต ประสบเหตุชนเข้ากับรถอีกคันและเสียหลักไถลไปชนบ้าน 3 หลังที่อยู่ริมถนน ชาวเอกวาดอร์ 3 คนบนรถคู่กรณีเสียชีวิตด้วย ขณะนี้เจ้าหน้าที่เอกวาดอร์กำลังเร่งพิสูจน์ศพชาวโคลอมเบียและเวเนซุเอลา .-
Cr:mcot news

 

Watchers

// ทีมกู้ภัยอิตาลีเดินหน้าค้นหาผู้รอดชีวิต จากเหตุสะพานถล่ม ตาย26 //

15 ส.ค. 61 | 10:24 น.
อิตาลี - ทีมกู้ภัยอิตาลีราว 300 คน ยังคงเดินหน้าค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุสะพานมอเตอร์เวย์ในเมืองเจนัว พังถล่มลงมาเป็นระยะทางถึง 200 เมตร นอกจากใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่แล้ว ยังใช้สุนัขดมกลิ่นช่วยค้นหา ส่วนยอดผู้เสียชีวิตที่ทางการยืนยันอยู่ที่ 26 คน บาดเจ็บสาหัส 15 คน สูญหายอีกหลายคน โดยขณะเกิดเหตุ มีรถยนต์อยู่บนสะพาน 30-35 คัน และมีรถบรรทุกขนาดใหญ่รวมอยู่ด้วย 3 คัน ทางการอิตาลีได้เริ่มการสืบสวนหาสาเหตุของสะพานถล่มแล้ว เบื้องต้นคาดว่า อาจเกิดจากโครงสร้างสะพานไม่แข็งแรง สำหรับสะพานแห่งนี้มีชื่อว่า โมรันดี อยู่บนทางหลวงพิเศษสาย A10 ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมกับเมืองท่าสำคัญทางตอนเหนือของอิตาลี และยังเชื่อมไปยังตอนใต้ของฝรั่งเศสด้วย .-
Cr:mcot

 

Watchers

#ข่าวภัยพิบัติ
// ฝนตกหนักทำน้ำท่วมฉับพลันในนิวยอร์ก ยังไม่มีรายงาน //
15 ส.ค. 61 | 10:16 น.

นิวยอร์ก- ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันทางตอนเหนือของรัฐนิวยอร์ก สร้างความเสียหายให้กับสะพาน รถยนต์ บ้านเรือน และถนนหลายสาย ผู้คนหลายสิบคนติดค้างอยู่ตามบ้านเรือน ล่าสุดยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ ทางการสหรัฐกำลังเร่งประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น นายแอนดริว คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในกว่า 10 เขตเทศมณฑล ขณะที่เครื่องจักรขนาดใหญ่ถูกส่งไปเคลื่อนย้ายเศษซากต่างๆที่ปิดกั้นเส้นทางสัญจร .-
Cr;mcot

 

บูรพาไม่แพ้

โครงการ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ #OneBeltOneRoad ที่ริเริ่มโดยประธานาธิบดี #สีจิ้นผิง ทำให้เงินลงทุนจาก #จีน หลั่งไหลสู่ประเทศต่าง ๆ พร้อมกับการขยายอิทธิพลของจีน

จีนตั้งเป้าจะลงทุนโครงการ One Belt One Road มูลค่ากว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์ในเอเชีย แอฟริกา และยุโรปด้วยลีลา “เจ้าบุญทุ่ม” ให้เงินกู้ก้อนโตกับประเทศยากจน โดยไม่กลัวทุนหายกำไรหด ประเทศต่าง ๆ จึงไม่ยอมพลาดโอกาสทอง อ้าแขนรับเงินทุนจากจีนอย่างเต็มกระเป๋า

แต่สิ่งที่บางประเทศอาจแกล้งลืมคือ เงินทุนจากจีนไม่ใช่ความช่วยเหลือแบบให้เปล่า แต่เป็นการให้ #เงินกู้ ก้อนใหญ่ หลายประเทศเมื่อไม่สามารถชำระเงินกู้คืนได้ ก็จำต้องยอมมอบสิทธิ์ครอบครองพื้นที่หรือสาธารณูปโภคให้กับจีนเพื่อเป็นหลักประกันหนี้สิน

ท่าเรือฮัมบันโททาใน #ศรีลังกา ก่อสร้างด้วยเงินทุนกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ โดย 85% มาจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของจีน รัฐบาลศรีลังกาตั้งเป้าหมายเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ แต่หลังเปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2010 ท่าเรือไม่สามารถทำรายได้ได้ตามเป้าหมาย รัฐบาลศรีลังกาจำต้องยอมให้บริษัทของจีนเช่าท่าเรือแห่งนี้เป็นเวลานานถึง 99 ปีเพื่อชดใช้หนี้ให้กับจีน ทุกวันนี้ท่าเรือแห่งนี้ดำเนินการโดยฝ่ายจีนเกือบทั้งหมด แม้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ใช้คนจีน

**** 8 ประเทศวิกฤต ติดหนี้แดนมังกรท่วมหัว ****

ผลการวิจัยของศูนย์ศึกษาการพัฒนาโลกระบุว่า มี 68 ประเทศรับเงินสนับสนุนตามโครงการ One Belt One Road ของจีน และ 23 ประเทศมีความเสี่ยงไม่สามารถชำระหนี้ได้ โดย 8 ประเทศอยู่ในขั้นวิกฤต ได้แก่

#จิบูตี ประเทศในแอฟริกา ซึ่งได้รับคำเตือนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัว ในระยะเวลาเพียง 2 ปี หนี้สาธารณะต่างประเทศของจิบูตีเพิ่มจากร้อยละ 50 ของ GDP เป็นร้อยละ 85 เกือบทั้งหมดเป็นหนี้ที่รัฐบาลค้ำประกันให้กับรัฐวิสาหกิจที่ลงทุนในโครงการที่ได้รับเงินกู้จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของประเทศจีน อดีตอาณานิคมฝรั่งเศสแห่งนี้มีหนี้สินจากโครงการ One Belt One Road สูงถึง 90.97%

#ทาจิกิสถาน หนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในเอเชีย ถึงแม้จะได้รับคำเตือนจากทั้ง IMF และธนาคารโลกเรื่องภาระหนี้สินจนไม่มีใครยอมให้เงินกู้ แต่ประเทศจีนได้สนับสนุนการลงทุนในระบบคมนาคมและพลังงาน จีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่เพียงรายเดียว มีมูลหนี้สูงถึง 79.14% ของ GDP

#คีร์กีชสถาน ลูกหนี้รายใหญ่ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของจีน ด้วยมูลหนี้สูงกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70.81% ของ GDP หนี้สินของจีนคิดเป็นสัดส่วนมากถึงร้อยละ 40 ของหนี้สินต่างประเทศทั้งหมดของประเทศนี้

#ลาว มีโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจาก One Belt One Road หลายโครงการ โครงการใหญ่ที่สุดคือ ทางรถไฟเชื่อมอาเซียนมูลค่า 6,700 ล้านดอลลาร์ หนี้สินคิดเป็นสัดส่วน 68.61% ของ GDP จนลาวต้องให้สิทธิ์ใช้ที่ดินรอบตลอดเส้นทางรถไฟกับจีนเพื่อแลกเปลี่ยนกับเงินกู้

#มัลดีฟส์ ประเทศแสนสวยงามกลางมหาสมุทร แต่เป็นหนี้แดนมังกรมหาศาลถึง 67.84% ของ GDP จีนลงทุนในโครงการสำคัญคือ การพัฒนาสนามบินนานาชาติมูลค่า 830 ล้านดอลลาร์, การสร้างที่พักอาศัยและสะพานใกล้สนามบินมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ และการย้ายท่าเรือหลักของประเทศ ซึ่งไม่ระบุมูลค่า นอกจากมูลหนี้ที่สูงลิ่วแล้ว มัลดีฟส์ยังเผชิญกับความวุ่นวายทางการเมือง ทำให้สถานการณ์ย่ำแย่มากขึ้น

#มองโกเลีย แผ่นดินอันไพศาลของเจงกิสข่าน ซึ่งเคยยกทัพเข้าปกครองแผ่นดินใหญ่ของจีนมาแล้ว แต่วันนี้มองโกเลียเป็นหนี้จีนสูงถึง 55.92% ของ GDP ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของจีนให้เงินกู้ 1,000 ล้านดอลลาร์กับมองโกเลียเพื่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำและทางหลวง นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า จีนอาจสนับสนุนเงินกู้อีก 30,000 ล้านดอลลาร์ในระยะ 5-10 ปีข้างหน้าตามโครงการ One Belt One Road ซึ่งหากมองโกเลียมีมูลหนี้มหาศาลเพียงนี้ โอกาสที่จะชำระหนี้ไม่ได้จะสูงอย่างยิ่ง

#ปากีสถาน จีนได้เสนอโครงการ “ระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน” ให้ความช่วยเหลือปากีสถานหลังจากพ้นสงครามกับกลุ่มติดอาวุธทาลิบัน และเพื่อคานอำนาจกับอินเดีย โครงการลงทุนมีมูลค่าสูงกว่า 62,000 ล้านดอลลาร์ โดยฝ่ายจีนสนับสนุนมากถึงร้อยละ 80 แต่คิดดอกเบี้ยค่อนข้างสูง ปากีสถานเป็นหนี้สินกับจีนสูงถึง 47.28% ของ GDP

#มอนเตเนโกร ธนาคารโลกประมาณการณ์ว่าหนี้สาธารณะของประเทศแห่งนี้สูงถึง 83% ของ GDP ในปี 2018 โดยเป็นหนี้ในโครงการ One Belt One Road สูง 44.03% โครงการลงทุนใหญ่คือการสร้างถนนและระบบคมนาคมเพื่อเชื่อมโยงกับประเทศอื่น ๆ ในแถบทะเลบอลติก ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของจีนได้เสนอเงินกู้ให้กับมอนเตเนโกรตั้งแต่ปี 2014 โดยสนับสนุนเงินทุนกว่า 850 ล้านดอลลาร์สำหรับการลงทุนในเฟสแรก แต่ผลการประเมินความเสี่ยงพบว่า โครงการต่าง ๆ อาจไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ หากมอนเตเนโกรไม่ได้รับเงินกู้ในเฟสที่สองและสามได้ด้วยเงื่อนไขสุดพิเศษ

เงินทุนจากจีนช่วยให้หลายประเทศพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ความช่วยเหลือจากจีนยังไม่ได้เป็นการบังคับขู่เข็ญเหมือนการล่าอาณานิคมของชาติตะวันตกในอดีต แต่โลกนี้ไม่มีของฟรี หากไม่ประมาณตน เมื่อหนี้สินล้นพ้นตัวก็อาจต้องเป็น “ทาสน้ำเงิน” และอาจต้องยกแผ่นดินใช้หนี้.

 

รอยหมึกดำ บนกระดาษ‎เกร็ดจีน - 華夏雜記

วิธีการตั้งแซ่

1. ตั้งแซ่ตามสัญลักษณ์ประจำเผ่าของตน
คนในสังคมยุคแรกๆนั้นมีความเชื่อว่าตัวเองมีสายเลือดที่สืบทอดจากสัตว์บางชนิดหรือธรรมชาติบางอย่าง ดังนั้นจึงนำสิ่งเหล่านั้นมาใช้เป็นสัญลักาณ์ประจำเผ่าพันธุ์ ซึ่งในสมัยนั้นการใช้สัญลักษณ์ประจำเผ่าก็มีจุดประสงค์ไม่ต่างจากการใช้แซ่ในปัจจุบัน ซึ่งในเวลาต่อมาสัญลักษณ์ประจำเผ่านั้นก็ถูกนำมาตั้งเป็นแซ่นั่นเอง

เมื่อเวลาผ่านไป สัตว์สัญลักาณ์ประจำเผ่าถูกนำมาตั้งเป็นแซ่ของคน อาทิเช่น หลง(龍 มังกร) เฟิ่ง(鳳 หงส์) สฺยง(熊 หมี) เหนี่ยว(鳥 นก) เป็นต้น

2. ตั้งแซ่ตามชื่อของประเทศ
เช่น ฉี（齊） หลู่（魯） ซ่ง（宋） เว่ย（衛） เป็นต้น เหล่านี้เป็นชื่อนครรัฐของจีนสมัยโบราณทั้งสิ้น

3. ตั้งแซ่ตามสถานที่ที่ได้รับพระราชทาน
เช่น ในสมัยราชวงศ์โจวตะวันตก มีขุนนางชื่อ เจ้าฟู่（造父） ได้รับพระราชทานที่ดินที่เมืองเจ้า（趙） ดังนั้นทายาทรุ่นหลังของเจ้าฟู่จึงใช้แซ่เจ้า（趙）

(เจ้าฟู่ ใช้แซ่อิ๋ง（嬴）)

4. ตั้งแซ่ตามตำแหน่งหน้าที่การงาน
เช่น ซือหม่า（司馬） ซือถู（司徒） ซือคง（司空） เหล่านี้เป็นชื่อตำแหน่งราชการสมัยโบราณทั้งสิ้น

(แฮหัว หรือ เซี่ยโหว（夏侯） ซ่างกวน（上官） ก็เป็นชื่อตำแหน่งราชการ)

5. ตั้งแซ่ตามอาชีพ
เช่น คนมีแซ่เถา（陶） บรรพบุรุษเขาอาจจะเป็นช่างด้านเครื่องปั้น ส่วนคนที่มีอาชีพเป็นพ่อมดหมอผีก็จะใช้แซ่อู（巫）

6. ตั้งแซ่ตามลักษณะเด่นของถิ่นที่อยู่อาศัย
คนที่มีแซ่ซีเหมิน（西門） หลิ่ว（柳） ฉือ（池） เนื่องจากพวกเขาพักอาศัยอยู่ในแถบนั้น เช่น อาศัยอยู่ทางทิศตะวันตกของประตูเมืองใช้แซ่ซีเหมิน อาศัยข้างสระหรือบ่อน้ำใช้แซ่ฉือ อาศัยข้างต้นหลิวใช้แซ่หลิ่ว

7. ตั้งแซ่ตามชื่อของบรรพบุรุษ
ในสมัยราชวงศ์โจว（周） ลูกชายของเจ้าผู้ครองนครรัฐเรียกว่ากงจื่อ（公子） หลานเรียกว่ากงซุน（公孫） หลังจากรุ่นเหลนเป็นต้นไปมักใช้ชื่อของปู่ตั้งเป็นแซ่ ซึ่งเป็นการรำลึกถึงบรรพบุรุษของพวกเขา

8. ตั้งแซ่ตามลำดับอาวุโส
ในสมัยโบราณมีการเรียงลำดับพี่น้องตามอาวุโสดังนี้ พี่ใหญ่สุดใช้คำว่า เมิ่ง（孟） หรือ ป๋อ（伯） พี่คนร้องใช้คำว่า จ้ง（仲） พี่คนที่สามใช้คำว่า ซู（叔） ลำดับที่สี่ใช้คำว่า จี้（季） ต่อมา เมิ่งหรือป๋อ จ้ง ซู จี้ ถูกนำมาใช้เป็นแซ่

จากหนังสือ ต้นกำเนิดชื่อแซ่จีน
แปลจากฉบับภาษาจีนเรื่อง 《中华姓名的故事》
แปลไทยโดย สิวิณี เตรียมชาญชูชัย

 

WisdomNews

#ลาว ฝนตกหนักในลาวทำให้เกิดน้ำท่วมและดินบนเขาสไลด์ลงมา เมื่อวันที่ 14/8/2018

ດິນພູເຈື່ອນທັບຖົມທາງໄປຫົວພູນາກາຍ ຫລັກ 20 ທ່ານໃດທີ່ຈະເດີນຜ່ານທາງນີ້ກວດສອບຂໍ້ມູນດີໆກ່ອນເດີ 14/8/2018

@ BBCLAOS รส.

 

บูรพาไม่แพ้
ถ
ความรักของแม่ ผู้ช่วยลูก “ย้ายป่านอร์เวย์กลับบ้านเกิด”

ตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา นางซูผิง วัย 64 ปี ทุ่มเทชีวิตให้กับการปลูกป่าที่เชิงเขาจิ่วเซียนอย่างไม่เคยย่อท้อ เพื่อทำให้ความฝันของลูกสาวผู้ล่วงลับ กลายเป็นจริง

เมื่อปี 2007 อี๋ว์จวนศึกษาวิชาเอกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงานชีวภาพในประเทศนอร์เวย์วันหนึ่งเธอโทรศัพท์ไปหานางซูผิงที่ประเทศจีน “แม่...แม่ หนูทำงานเก็บเงินได้มากพอแล้ว แม่มาเยี่ยมหนูนะ”

...ขณะที่สองแม่ลูกชาวจีนเดินเล่นไปตามถนนเลียบทะเลสาบท่ามกลางหมู่ต้นไม้เขียวขจีและสงบเงียบในนอร์เวย์ ลูกสาวถามขึ้นว่า “แม่รู้สึกได้ไหมว่าสิ่งดีที่สุดในนอร์เวย์คืออะไร” ผู้เป็นแม่คิดๆสักพักก็ตอบว่า “แม่ชอบป่านอร์เวย์” ลูกสาวตอบทันทีว่า “เราก็ยกป่านอร์เวย์กลับบ้านไปด้วยสิ...แม่”

เมื่อเรียนจบปริญญาเอก อี๋ว์จวนได้เดินทางกลับประเทศจีน มาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยฟู่ตั้น นครเซี่ยงไฮ้

ไม่กี่ปีต่อมาอี๋ว์จวนล้มป่วยหนักด้วยโรคมะเร็ง และลาโลกไปในปี 2011 ในวัยเพียง 32 ปี ทิ้งสามี และลูกชายวัยไม่ถึงสองขวบไว้ข้างหลัง

นางซูผิงโศกเศร้าจิตใจสลาย รวบรวมเงินจากกองทุนเลี้ยงชีพได้กว่า 300,000 หยวน เดินทางกลับบ้านเกิดที่เมืองจี้หนิง มณฑลซันตง และเดินหน้าสืบสานความฝันปลูกป่าเพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ของลูกสาว

เธอวางแผนปลูกป่าสาธารณะที่เชิงเขาจิ่วเซียน ซึ่งเป็นเขาหัวโล้น ในเมืองชีว์ฟู่ และได้ตั้งชื่อป่าผืนนี้ ว่า “นอร์เวย์ วู้ด”

ซูผิงเดินทางไปที่เมืองเป่าจี มณฑลส่านซี ซื้อต้นกล้าพิสทาชิโอ 400,000 ต้น จากนั้นเธอก็เริ่มเพาะปลูกต้นพิสทาชิโอ แม้ต้นกล้าที่เธอสู้อุตส่าห์ลงแรงปลูก...ล้มตายไปต้นแล้วต้นเล่า ภายในหนึ่งเดือน ต้นกล้าที่ปลูกมีชีวิตรอดเพียงแค่ 30% แต่เธอกลับยิ่งมุมานะทุ่มเทแรงกายแรงใจ...ปลูกต้นไม้ขึ้นมาใหม่

ต้นพิสทาชิโอเป็นไม้ที่ทนทาน เจริญเติบโตแพร่พันธุ์อย่างไม่สิ้นสุด เหมือนกับลูกสาวของเธอที่ยิ้มรับโชคชะตาระหว่างเผชิญกับโรคร้าย ลูกเป็นเด็กสาวที่มองโลกในแง่ดี และเข้มแข็งที่สุด

ความทรหดอดทนของนางซูผิง เป็นที่กล่าวขานของชาวบ้านในละแวก จึงพากันติดตามซูผิงขึ้นไปที่ภูเขา ไปช่วยเธอเพาะปลูกต้นไม้

ต่อมาพวกเขาก็ได้เข้าใจว่า สิ่งที่ซูผิงทำนั้นเพื่อประโยชน์สุขของลูกหลาน เธอแจกจ่ายต้นไม้ให้แก่ผู้คน และยืนกรานที่จะไม่ขายต้นไม้ ซูผิงกล่าวพลางยิ้มว่า “ต้นกล้าแต่ละต้นคือชีวิตของลูกสาว การได้ปลูกต้นเหมือนการได้ต่อชีวิตลูกสาวต่อไปเรื่อยๆ ทุกคนมาช่วยฉันเพาะเลี้ยงต้นกล้าจนกลายป่าผืนใหญ่ การแจกจ่ายต้นไม้ให้ไปเจริญเติบโตในที่อื่นๆ สร้างสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืน ไม่ดีกว่าหรือ?”

7 ปี มานี้ เรื่องราว “ป่านอร์เวย์” ถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ และดึงดูดอาสาสมัครนับแสนคนแวะเวียนมาช่วยซูผิงปลูกป่าผืนนี้ ขณะนี้ “ป่านอร์เวย์” ขยายพื้นที่ถึง กว่า 10,000 มู่ หรือราวกว่า 4,000 ไร่ (1 ไร่ไทย เท่ากับ 2.4 มู่)

“แม้ว่าอี๋ว์จวนได้จากไปแล้ว เธอก็ยังอยู่กับฉันชั่วนิรันดร์ ขณะที่ฉันปลูกต้นไม้ เหมือนดั่งลูกกำลังปลูกต้นไม้

“หากฉันตายไป ก็จะบริจาคป่านอร์เวย์แห่งนี้ มันเป็นความปรารถนาของลูกสาวฉันด้วยเช่นกัน”

“ลูก...แม่ได้ช่วยลูก ยกป่ากลับบ้านเราแล้ว”

...............................................................................
(แปล/เก็บความจาก กลุ่มสื่อจีน - ภาพประกอบnew.qq.com)
1. อี๋วจวน อาจารย์ มหาวิทยาลัยฟู่ตั้น เซี่ยงไฮ้ ผู้จากไปเมื่อปี 2011
2. นางซูผิง วัย 64 ปี ทุ่มเทชีวิตให้กับการปลูกป่าที่เชิงเขาจิ่วเซียนอย่างไม่เคยย่อท้อ เพื่อทำให้ความฝันของลูกสาวผู้ล่วงลับ กลายเป็นจริง