ติดตามสถานะการณ์

La nueva era de la tierra - respaldo





ช่วงเวลาที่แน่นอนที่ผู้อพยพในซีดี Hidalgo Chiapas กักในรั้วของ Federal Police ผู้อพยพได้ขว้างก้อนหินและทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเป็นอยู่ ...

 

La nueva era de la tierra - respaldo


ความตึงเครียดในการสืบสวนสอบสวน

กล้องซีเอ็นเอ็นอยู่ในเมือง Tecun Uman ประเทศกัวเตมาลาติดชายแดนเม็กซิโกซึ่งมีหลายพันคนพยายามข้ามไปเป็นส่วนหนึ่งของกองคาราวานของแรงงานข้ามชาติที่กำลังเดินทางมายังสหรัฐฯ มีฉากที่เกิดความตึงเครียดในสะพานชายแดนและมีแม้กระทั่งผู้ที่ได้โยนตัวเองลงในแม่น้ำ Suchiate ติดตามสถานการณ์ทีละนาที

 

La nueva era de la tierra - respaldo


พวกเขารายงานการมองเห็น อุกกาบาต ใน Cordoba argentina เมื่อ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

19.10.2018

 

ReReef

น่าสนใจที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างฟิลิปปินส์เริ่มปรับตัว เลิกแจกถุงพลาสติก และเปลี่ยนเป็นถุงกระดาษชนิดบางแทนแล้ว

ด้านหนึ่งคิดว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะอย่างน้อยกระดาษก็เป็นทรัพยากรหมุนเวียน สามารถย่อยสลายได้ รีไซเคิลก็ได้ และสร้างปัญหาน้อยกว่าถุงพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งมากเมื่อหลุดรอดออกไปในสภาพแวดล้อม

แต่คิดว่ามาตรการสำคัญที่ต้องเกิดขึ้นควบคู่ไปคือการเก็บเงินค่าถุงกระดาษด้วย เพราะถุงกระดาษเองก็ไม่ใช่พระเอกที่สมบูรณ์แบบ หรือเป็นทางออกที่ดีที่สุดหากใช้ในสเกลใหญ่มากๆ

เนื่องจากการผลิตถุงกระดาษใช้พลังงานในการผลิตและขนส่งมากกว่าพลาสติกมาก รวมไปถึงศักยภาพในการนำมาใช้ซ้ำหลายๆครั้งก็น้อยกว่า และจัดการไม่ดี ถูกไปทิ้งรวมในหลุมฝังกลบก็อาจทำให้เกิดก๊าซมีเธนได้ด้วย

ทางออกที่ดีที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคด้วยการเก็บเงินค่าถุงทุกประเภท เพื่อให้คนส่วนใหญ่หันมาพกพาถุงส่วนตัวที่ใช้ซ้ำได้นานๆ และส่งเสริมการรีไซเคิลหลังหมดอายุการใช้งานแล้ว

ยังไงก็ต้องชม 7-11 ฟิลิปปินส์ รู้จักปรับปรุงตัว ไม่เอาแต่แจกถุงพลาสติกไปวันๆ เหมือน 7-11 ในบางประเทศ

ภาพจาก Foursquare Philippines
#rereef #greentip #plasticorpaper

 

INSTITUTE OF ISLAMIC STUDIES THAILAND


คำปราศรัยของซัยยิดฮะซัน นัศรุลลอฮ์ เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์ เนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปีของการก่อตั้งศูนย์การศึกษาอิสลาม ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา เรามีความหวังต่ออนาคตที่ดีกว่า สำหรับองค์กรนี้และความก้าวหน้าทั้งด้านปริมาณและในเชิงคุณภาพ......

 

Thanong Fanclub


ทรัมป์พลิกลินกลับไปกลับมาเรื่อยๆ ล่าสุดบอกขอรอข้อมูลเพิ่มอีกหน่อย ก่อนที่จะอาจแซงชั่นซาอุ กรณีการเสียชีวิตของคาซอคกี้

 

**ปล.** อ่านแล้่วฝากแชร์คนละแชร์นะครับ คิดว่าช่วยผมทำมาหากินเลี้ยงน้องแมวจรในอุปการะยี่สิบกว่าตัวละกันครับ


ดาวพฤหัสยกเข้าพิจิกแล้วน๊า

5 ชั่วโมงที่แล้ว · สาธารณะ


ดาวพฤหัสยกเข้าราศีพิจิกแล้วครับ

ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนนะครับว่า คำพยากรณ์ในคราวนี้อาจจะรวบรัดอยู่สักหน่อยทั้งๆที่น่าจะเขียนละเอียดๆเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้เกิดจากโปรแกรมพยากรณ์ที่ผมใช้เกิดอาการรวนหลังจากที่เขียนคำพยากรณ์ไปได้เยอะพอสมควร แต่เจออาการรวนของโปรแกรมทำให้เนื้อหาคำพยากรณ์ที่เขียนไว้เดิมหายไปหมด


******สำหรับดาวพฤหัสที่ยกเข้าราศีพิจิกตามปฏิทินฟาเก็นที่ผมใช้อาจจะย้ายราศีช้ากว่าปฏิทินอื่นอยู่สักนิด โดยดาวพฤหัสได้ยกเข้าสู่ราศีพิจิกเมื่อเวลา06.14น.ของวันที่ 16 ตุลาคม 2561 เป็นต้นมาและจะสถิตอยู่ในราศีพิจิกนี้ไปจนถึงวันที่ 9พฤศจิกายน 2562 และในระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวดาวพฤหัสจะมีการโคจรพักรถอยหลังระหว่างวันที่10/4/2562 ถึง20/8/2562 โดยถอยจากตำแหน่ง29องศา20ลิบดา43ฟิลิบดากลับมาที่ตำแหน่ง19องศา35ลิบดา48ฟิลิบดาก่อนจะกลับไปเดินหน้าต่ออีกครั้งจนสุดราศี

******สำหรับคำพยากรณ์เรื่องดาวพฤหัสยกเข้าราศีพิจิกครั้งนี้จะเขียนเฉพาะช่วงที่ดาวพฤหัสยังเดินหน้าเป็นปกติไปจนถึงวันที่ 10/4/62 ซึ่งเป็นวันที่ดาวพฤหัสเริ่มเดินถอยหลังเท่านั้น ที่เหลือเอาไว้มาว่ากันต่ออีกที

******สำหรับอิทธิพลของดาวพฤหัส เราถือว่าดาวพฤหัสจัดเป็นดาวฝ่ายศุภเคราห์ใหญ่ที่ให้คุณ หากจรไปสถิตในราศีไหนภพไหนก็จะให้คุณกับราศีนั้นหรือภพนั้นๆ หากปีใดดาวพฤหัสจรไปสถิตในภพเรือนที่เสียอย่างเช่นภพอริ มรณะ หรือวินาศ แก่ลัคนาก็จัดได้ว่าปีนั้นเจ้าชาตาคนนั้นค่อนข้างอาภัพคนอุปถัมภ์ ทำอะไรต้องพึ่งพาตัวเองสูง และหากท่านคิดจะทำการใดๆที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางกฎหมาย การทำนิติกรรมสัญญา การมีคดีความ การเรียนการศึกษา การแพทย์ การบัญชี การศาสนา ปรัชญาและเรื่องเกี่ยวกับงานด้านวิชาการต่างๆ ควรทำในช่วงปีที่ดาวพฤหัสสถิตอยู่ในภพเรือนที่ดีและได้ตำแหน่งดีๆจึงจะให้คุณในเรื่องดังกล่าวได้ ทั้งนี้ต้องดูด้วยว่าพื้นดวงเดิมของท่านมีดาวพฤหัสสถิตอยู่ในภพเรือนราศีและตำแหน่งที่ให้คุณด้วยหรือไม่

สำหรับเรื่องของดาวพฤหัสนี้มีความเชื่อเดิมๆกันมาว่าถ้าใครที่มีดาวพฤหัสเดิมในพื้นดวงสถิตอยู่ในภพเรือน หรือราศีที่เสีย หากปีใดหรือช่วงใดที่ดาวพฤหัสจรไปสถิตอยู่ในภพเรือนหรือราศีที่เป็นโทษแก่ลัคนาอย่างภพเรือนอริ มรณะ และวินาศ จะถือว่าปีนั้นดาวพฤหัสจะฟื้นกลับมาให้คุณ และปีใดที่ใครที่มีดาวพฤหัสซึ่งเสียอยู่ในพื้นดวงเดิม เมื่อดาวพฤหัสจรเข้าภพเรือนราศีที่ดีจะกลับเป็นช่วงเวลาที่ให้โทษแก่ลัคนา ทฤษฎีและความเชื่อเหล่านี้ผมทดสอบมาด้วยตัวเองแล้วกับดาวพฤหัสในพื้นดวงผมเองที่ว่าให้โทษในพื้นดวงอยู่ภพอริแถมยังได้ตำแหน่งเกษตร กลับพบว่าความเชื่อดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะปีใดที่ดาวพฤหัสจรเข้าภพเรือนที่เสียไม่ว่าจะเป็นภพเรือนอริ มรณะ หรือวินาศก็ตาม ปีนั้นดาวพฤหัสจะให้โทษแก่ตัวผมทุกครั้งไป โดยมักจะงัดข้อกับเจ้านาย หรือผู้หลักผู้ใหญ่ชนิดไม่เผาผีกันเลยทีเดียว และด้วยความเคารพต่อครูบาอาจารย์ ผมต้องกราบขออภัยหากความเห็นนี้ไปขัดแย้งกับทฤษฎีของครูบาอาจารย์บางท่านที่แม้ตัวผมเองก็ถือตำราท่านเป็นแนวทางการศึกษาโหราศาสตร์มาก่อน ขอโปรดถือว่าเป็นความคิดเห็นเชิงวิชาการนะครับ ผมมันพวกดาวพฤหัสเป็นอริก็อย่างนี้แหละครับ สมัยเรียนและสมัยทำงานก็งัดข้อกับพฤหัสเกษตรเขาอยู่เรื่อยๆเป็นปกติ

******สำหรับคุณสมบัติของดาวพฤหัสที่สถิตในราศีพิจิกนี้ในตำราบอกว่าใครที่มีดาวพฤหัสสถิตในราศีนี้จะออกแนวเป็นคนที่ค่อนข้างจะตรงแบบดาวพฤหัสและแรงแบบดาวอังคาร เชื่อมั่นในตนเองและความถูกต้องค่อนข้างสูงรวมทั้งมีความโหดแบบแมงป่องในราศีพิจิก ดาวพฤหัสในราศีนี้จึงไม่ค่อยจะประนีประนอมและทำให้เป็นคนมีศัตรูเยอะ ถ้าดาวพฤหัสดาวแห่งคุณธรรมและความรู้ทางปัญญาทำมุมสัมพันธ์ดีกับดาวมฤตยู เนปจูน หรือพลูโต ซึ่งเป็นดาวที่ส่งผลด้านสิ่งลึกลับและพลังจิต ก็จะมีแนวโน้มเป็นคนที่มีพรสวรรค์ทางด้านพลังจิตและเกี่ยวข้องกับศาสตร์ด้านจิตวิญญาณและความตายเพราะราศีพิจิกคือภพมรณะของดวงโลก แต่ถ้าทำมุมสัมพันธ์ร้ายกับดาวกลุ่มดังกล่าวเพียงดวงใดดวงหนึ่งก็อาจกลายเป็นพวกใช้ศักยภาพดังกล่าวไปในทางผิดกฎหมายหรือหาผลประโยชนเข้าตัว

******สำหรับช่วงที่ดาวพฤหัสโคจรยกเข้าราศีพิจิกมาใหม่ๆจะเกิดการโคจรแบบเกษตรถ่ายเรือนกันระหว่างดาวพฤหัส,ดาวอังคารและดาวเสาร์ โดยมีดาวพฤหัสโคจรไปสถิตในราศีพิจิกเรือนของดาวอังคาร และมีดาวอังคารไปสถิตในราศีมังกรเรือนของดาวเสาร์ ส่วนดาวเสาร์ก็ไปสถิตในราศีธนูเรือนของดาวพฤหัส ที่ทางโหราศาสตร์เรียกดาวเคราะห์ที่ถ่ายเรือนกันลักษณะนี้ว่าปริวรรตเกษตร

ซึ่งลักษณะของดาวที่เป็นปริวรรตเกษ ตรในครั้งนี้ส่งผลให้ดาวทั้งสามดวงทำงานประสานกันเป็นทีมมีคุณสมบัติเสมือนเป็นดาวเกษตร ส่วนจะดีหรือร้ายก็สุดแท้แต่ว่าดาวทั้งสามทำหน้าที่เป็นเจ้าเรือนดีร้ายอย่างไรในแต่ละลัคนา

ลักษณะการทำงานแบบเกษตรถ่ายเรือนในครั้งนี้จะส่งผลไปถึงวันที่ 7/11/61 นี้เท่านั้น เพราะพอถึงวันที่7/11/61 ดังกล่าวดาวอังคารก็จะยกเข้าสู่ราศีกุมภ์ต่อไปทำให้วงจรของดาวปริวรรตเกษตร หรือเกษตรถ่ายเรือนนี้วงจรขาดจากกัน

ช่วงเวลาดังกล่าวที่ดาวเกิดการแลกเรือนเกษตรกันเป็นปริวรรตเกษตรนี้หากดาวทั้งสามดวงไม่เข้าไปเกี่ยวเนื่องหรือมีความสัมพันธ์กับภพเรือนที่เสียๆอย่างภพอริ มรณะ หรือวินาศ แล้วจัดได้ว่าค่อนข้างจะส่งผลดีกับกิจกรรมในลักษณะที่มีการโยกย้ายถ่ายโอน หรือแลกเปลี่ยนเป็นอย่างมาก แต่หากดาวใดดาวหนึ่งเข้าไปสัมพันธ์หรือมาจากภพอริ มรณะ หรือวินาศ ต่อลัคนา แม้จะได้รับผลดีก็จะส่งผลเสียตามคุณสมบัติของภพเรือนที่เสียแทรกไปด้วยในตัว

******มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละลัคนาจะได้รับผลดีร้ายประการใดบ้างจากการที่ดาวพฤหัสยกเข้าสถิตในราศีพิจิกครั้งนี้

******ท่านที่เพิ่งจะเริ่มอ่านคำพยากรณ์ของผมเป็นครั้งแรก แนะนำให้คุณส่งวันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟากพร้อมจังหวัดที่เกิด ส่งมาให้ผมทางอินบ๊อกซ์ ผมจะคำนวนหาลัคนาของคุณให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ หากสนใจดูดวงเป็นการส่วนตัวติดต่อผมได้ที่ 0866666186 หรือ 0818242264 นพเก้า สนธิสุวรรณ ค่าบริการดวงละ500บาท จะมาดูที่บ้านหรือทางโทรศัพท์แล้วแต่สะดวก แต่ก่อนจะโอนค่าดูเพื่อนัดหมายเวลา ผมต้องขอตรวจสอบลัคนาของคุณให้ถูกต้องก่อนนัดหมายเพราะบางดวงที่ไม่มีเวลาเกิดที่แน่นอนอาจหาลัคนาที่ถูกต้องไม่ได้ ทายไปก็เสียเปล่า ไม่มีบริการจัดพิมพ์คำพยากรณ์ใดๆทางอินบ๊อกซ์หรืออิเมลล์นะครับ การให้บริการจบครั้งต่อครั้ง ถามตามหลังมาผมก็ตอบอะไรไม่ได้เพราะ ไม่เก็บดวงใครไว้ ตอนนี้คอมพ์พังข้อมูลเก่าๆหายเรียบ

**ปล.** อ่านแล้่วฝากแชร์คนละแชร์นะครับ คิดว่าช่วยผมทำมาหากินเลี้ยงน้องแมวจรในอุปการะยี่สิบกว่าตัวละกันครับ

************************************************************

******ท่านที่เป็นชาวราศีเมษ หรือมีลัคนาสถิตราศีเมษ ดาวพฤหัสเจ้าเรือนภพศุภะยกเข้าราศ๊พิจิกเรือนมรณะของคุณคราวนี้ถือว่าไม่ค่อยดีนักสำหรับชาวราศีนี้ กิจกรรมใดๆเกี่ยวกับด้านวิชาการ การศึกษา ศาสนา ปรัชญา กฎหมาย การบัญชี การแพทย์ อาจไม่ค่อยรุ่งนัก ถ้าเป็นไปได้รอให้ดาวพฤหัสยกเข้าราศีธนูอีกครั้งน่าจะดีกว่าค่อยดำเนินการในเรื่องเหล่านี้ ท่านที่กำลังเรียนต่อการเรียนการศึกษาจะไม่ค่อยคืบหน้า หรือเกรดเฉลี่ยตกต่ำ ผู้ที่คิดจะเรียนต่อต่างประเทศระงับไว้ก่อนก็ดี รอให้ดาวพฤหัสยกเข้าธนูก่อนจะดีกว่าแต่หากตัดสินใจทำไปแล้วก็คงต้องรอเวลาจนกว่าดาวพฤหัสจะย้ายอีกทีครับ สำหรับท่านที่เจ็บป่วย กระบวนการรักษาทางการแพทย์อาจผิดพลาดหรือหลงทางผลการรักษาไม่น่าประทับใจ ท่านที่มีคดีความไม่ว่าจะเป็นโจทก์หรือจำเลย รูปคดีจะไม่เป็นคุณสำหรับคุณ ท่านที่มีรายได้สูงระวังจะโดนเล่นงานด้านภาษีหรือถูกตรวจสอบ สุขภาพด้านสมองอาจได้รับผลกระทบทางลบหัวสมองไม่แล่นเหมือนก่อน ด้านผู้หลักผู้ใหญ่ก็ไม่ค่อยปลื้มคุณเหมือนก่อน แรงสนับสนุนลดลง ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถืออาจเจ็บป่วย ท่านอาจมีลาภจากการเจ็บป่วย การตาย หรือการเคลมประกัน ได้รับมรดกตามพินัยกรรม หรือโดยผลของกฎหมาย ท่านที่เจ็บป่วยแบบไปไม่รอดสำหรับดาวพฤหัสในภพมรณะแก่ลัคนาจะดีอยู่ตรงที่ตายสบาย ความตายและการสูญเสียจะทำให้ท่านเกิดปัญญา

******ท่านที่เป็นชาวราศีพฤษภ หรือมีลัคนาสถิตราศีพฤษภ ดาวพฤหัสเป็นทั้งเจ้าเรือนเจ้าเรือนมรณะและลาภะ มีแววว่าท่านจะได้ลาภจากการเจ็บหรือตาย เช่นการเคลมประกัน เบิกค่ารักษาพยาบาล ได้รับมรดกตกทอด หรือได้ทรัพย์สินมีตำหนิ ท่านที่การเรียนเคยมีปัญหาจะเริ่มดีขึ้น ผู้ที่เรียนโทแล้วเคยขัดคอกับอาจารย์ที่ปรึกษาในช่วงที่ผ่านมา ถึงตอนนี้พอจะมองหน้ากันได้ดีขึ้นไม่โดนอาจารย์ท่านหมั่นไส้ ท่านทีมีคดีความในช่วงที่ผ่านมา ถึงตอนนี้รูปคดีเป็นคุณกับคุณมากขึ้นผลของการอุทธรณ์ หรือฎีกามีโอกาสชนะ ท่านที่เคยเจ็บป่วยรักษามานานไม่ดีขึ้น ต่อนี้ไปกระบวนการรักษาเริ่มมาถูกทางหรือได้หมอที่รักษาถูกยาถูกโรคมากขึ้น มีเกณฑ์ได้โชคลาภแบบทุกข์ๆจากหุ้นส่วนและคู่ครอง ระวังการเจ็บป่วยของคนรัก คนโสดจะมีคนดีๆผ่านเข้ามาในชีวิตให้คุณเกิดความหวั่นไหว มีโอกาสเสียตัวกับคนดีๆ โดยเฉพาะคนที่มีลัคนาพฤษภแต่เกิดราศีพิจิก อย่าลืมดูพื้นดวงเรื่องคู่ด้วยล่ะ พื้นดวงด้านนี้ต้องดีด้วยนะครับ ถ้าพื้นดวงเสียมันก็ดีแค่โปรโมชั่นเท่านั้น

******ท่านที่เป็นชาวราศีมิถุน ดาวพฤหัสเจ้าเรือนการงานและเจ้าเรือนคู่ครองของคุณจรเข้าราศีพิจิกซึ่งเป็นภพอริแก่ลัคนา หน้าที่การงานของคุณจะไม่ค่อยดีนัก อาจประสบปัญหาเพราะผู้หลักผู้ใหญ่หรือเจ้านายไม่ชอบหน้า คนรักคู่ครองและหุ้นส่วนหรือผู้ร่วมงานจะทำตัวเป็นศัตรู คุณอาจมีคดีความทางกฎหมายอันเกิดจากหน้าที่การงาน หรือโดนหุ้นส่วนด้วยกันเองฟ้องร้อง คนรักคู่ครองยังสร้างแรงกดดันให้คุณเหมือนเดิมแถมยังดูจะหนักข้อมากขึ้น ช่วงแรกที่ดาวมีการแลกเรือนกันสามราศีดังกล่าวข้างต้นอาจหมายถึงการโยกย้ายเปลี่ยนแปลงเรื่องหน้าที่การงาน หรือต้องรับภาระหลายบทบาทหลายหน้าที่ซึ่งล้วนแต่มีปัญหา ท่านที่มีคดีความช่วงที่ดาวพฤหัสอยู่ภพอริแก่ลัคนาในตอนนี้การประนีประนอมดีกว่าการสู้ แต่ถ้าคิดจะสู้จำเป็นที่ท่านจะต้องลากยาวให้ถึง 9 พฤศจิกายนปีหน้า2562เพื่อให้ดาวพฤหัสยกขึ้นมาเป็นเกษตรเล็งลัคนา รูปคดีจึงจะเป็นคุณกับท่าน

******ท่านที่เป็นชาวราศีกรกฎ หรือมีลัคนาสถิตราศีกรกฎ ท่านที่กำลังอยู่ในวัยเรียนการเรียนการศึกษาจะดีขึ้น ความตั้งอกตั้งใจและความขยันจะสูงขึ้น ความอยากรู้อยากเรียนในศาสตร์ต่างๆมีมากขึ้น แต่อาจมีการโยกย้ายสับเปลี่ยนสายวิชา หรือย้ายสถาบัน ส่วนท่านที่เป็นครูบาอาจารย์หรือสายงานที่ต้องมีการสอนการเทรนความรู้ให้แก่เด็กๆ บริวาร หรือลูกน้อง ช่วงที่ดาวพฤหัสสถิตในราศีพิจิกภพปุตตะจัดเป็นช่วงเวลาดีๆสำหรับคนราศีนี้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นช่วงเวลาที่คุณจะก้าวหน้าในสายดังกล่าว ท่านที่เป็นชาวราศีพิจิกและมีลัคนากรกฎอาจเป็นช่วงเวลาดีๆที่จะได้ภพคนรักหรือมีกิ๊กแถมเป็นคนดีซะด้วย แต่ถ้าท่านมีคู่ตัวจริงอยู่แล้วเรื่องนี้จะเป็นปัญหาใหญ่ที่คุณต้องจัดหลีกเอาตัวให้รอดเอาเองละกัน เพราะอย่าลืมว่าดาวเสาร์ดาวแห่งความเครียดซึ่งเป็นดาวเจ้าเรือนปัตนิหรือดาวคู่ครองตัวจริงกำลังสถิตอยู่ในราศีธนูภพมรณะ อีกทั้งอย่าลืมว่าแรงกดดันของดาวเสาร์เองที่สถิตในราศีธนูเรือนเกษตรของดาวพฤหัสก็ส่งกำลังฝากแรงกดดันมากับดาวพฤหัสในราศีพิจิกด้วยเช่นกัน

******ท่านที่เป็นชาวราศีสิงห์ หรือมีลัคนาสถิตราศีสิงห์ เป็นปีที่ดีสำหรับท่านที่กำลังจะทำกิจกรรมทางกฎหมาย หรือมีการทำนิติกรรมเกี่ยวกับบ้าน รถยนต์ และที่ดินแต่ในขณะเดียวกันการสูญเสียก็มีแฝงมาพร้อมๆกันด้วยในโอกาสเดียวกัน สำหรับบางท่านอาจมีพิธีกรรมทางศาสนาเกิดขึ้นในบ้านเช่น ตั้งศาลพระภูมิ ทำบุญเลี้ยงพระในบ้าน หรือทำบุญขึ้นบ้านใหม่เป็นต้น อาจมีการโยกย้ายถ่ายโอนบ้าน รถยนต์ ที่ดิน หรือย้ายที่พักอาศัยแบบไปๆมาๆหลายสถานที่

******ท่านที่เป็นชาวราศีกันย์ หรือมีลัคนาสถิตราศีกันย์ ช่วงที่ดาวพฤหัสเข้าสถิตราศีพิจิกเรือนมิตรสหายและการติดต่อเจรจา คุณกำลังจะมีโชคจากการติดต่อเจรจา โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับบ้าน รถยนต์ ที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์ ท่านที่ได้รับมรดกร่วมกับญาติพี่น้องแบบมีกรรมสิทธิ์ร่วมอาจมีการแลกเปลี่ยนทรัพย์สินที่มีอยู่เดิมกับทรัพย์มรดก ด้านสังคมแวดล้อมของคุณจะเป็นช่วงปีที่เจอแต่คนดีมีความรู้ หรือมีภูมิธรรมสูง ท่านอาจได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆหรือพบทางสว่างจากบุคคลใกล้ตัว ท่านที่ทำงานด้านติดต่อเจรจาโดยเฉพาะเรื่องบ้าน รถยนต์ ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์จะพบความสำเร็จโดยง่าย ด้านการเรียนการศึกษาก็เป็นโอกาสดีๆที่จะมีการเทคคอร์สสั้นๆเพื่อเพิ่มเติมความรู้

******ท่านที่เป็นชาวราศีตุลย์ หรือมีลัคนาสถิตราศีตุลย์ ญาติสนิทมิตรสหาย หรือแม้แต่ศัตรูจะทำให้คุณมีโชคด้านเงินทองทรัพย์สิน เพียงแต่คุณอาจจะต้องยอมเหนื่อยหรืออึดอัดอยู่บ้างเพราะดาวเสาร์ที่อยู่ในภพสหัชชะราศีธนูซึ่งเป็นเรือนของการเจรจา อีกด้านหนึ่งอาจหมายถึงการโยกย้ายถ่ายโอนหรือแลกเปลี่ยนทรัพย์สินเรื่องบ้าน รถยนต์ ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์กับเพื่อนฝูงและญาติพี่น้อง เรื่องเงินทองไม่ใช่ปัญหาหนักใจเหมือนช่วงสามปีที่ผ่านมา คุณปลดกรรมใหญ่ๆออกไปแล้ว โอกาสดีๆกำลังจะมา จำไว้ว่า ถ้าคุณยังไม่ปล่อยมือจากสิ่งที่ยึดจับไว้เดิม คุณก็จะไม่สามารถยึดจับสิ่งใหม่ได้ ใจถึงๆหน่อยละกัน

******ท่านที่เป็นชาวราศีพิจิก หรือมีลัคนาสถิตราศีพิจิก ดาวพฤหัสซึ่งเป็นดาวเจ้าเรือนภพปุตตะอันหมายถึงบุตรบริวาร และยังเป็นดาวเจ้าเรือนด้านทรัพย์สินและการเงินยกมาทับลัคนาทั้งที ถ้าดวงไม่ดีขึ้นในเรื่องเหล่านี้เห็นทีจะต้องกลับไปเช็คเวลาเกิดใหม่แล้วละครับ อนึ่งการที่ดาวเกิดการแลกเรือนเกษตรถึงสามดวงอาจหมายถึงมีการแลกเปลี่ยน หรือมีการโยกย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินกันระหว่างคุณกับพี่น้องและมิตรสหาย ด้านบุตรบริวารก็จะทำให้คุณเกิดโชคลาภความสำเร็จ สำหรับด้านเงินทองทรัพย์สินอย่างไรเสียแม้สภาพคล่องจะดีขึ้นแต่การที่ดาวเสาร์ยังสถิตอยู่ในราศีธนูเรือนการเงินของคุณ นั่นหมายถึงว่าแม้จะดวงดีแต่ก็ยังต้องออกแรงอยู่นะครับ เพราะดาวเสาร์ไม่เคยให้อะไรใครแบบง่ายๆและสบายๆกับเขาหรอก ต้องเอาเหงื่อหรือความเครียดไปแลกมา

******ท่านที่เป็นชาวราศีธนู หรือมีลัคนาสถิตราศีธนู ดาวพฤหัสซึ่งเป็นดาวประจำตัวของคุณยกเข้าสู่ราศีพิจิกเรือนวินาศ อันเป็นเรือนของการเก็บเนื้อเก็บตัว หรือซ่อนเร้นตัวเอง ประกอบกับดาวที่รักความสันโดดและสมถะแบบดาวเสาร์ก็กำลังกุมลัคนาอยู่ด้วยเช่นกัน ดาวสองดวงนี้จะทำให้คุณเกิดอาการอยากเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่อยากยุ่งกับผู้คน มีอาการโลกส่วนตัวสูง แต่ก็ให้ระวังโรคฮิตคือโรคซึมเศร้าจะแฝงตัวมาเงียบๆหรือเริ่มก่อตัวแบบซึมลึก ยิ่งดาวพฤหัสคือดาวสติที่เป็นภูมิต้านทานทางจิตไปอยู่ในที่เสีย และดาวเสาร์จอมวิตกกังวลยังทับลัคน์อีกนานจนถึง1/2/63แบบนี้ด้วยแล้ว จึงควรระวังการป่วยทางจิตเพราะความคิดมาก พยายามฝึกมองโลกในแง่ดีไว้นะครับช่วงสองปีนี้ จะได้ไม่ต้องไปพบจิตแพทย์ ระวังช่วงที่ดาวเกตุจรมาทับลัคน์ร่วมกับดาวเสาร์ด้วยอีกดวงช่วง15/1/62-13/3/62ไว้หน่อยนะครับ เพราะพระเกตุจะทำให้คุณมีปฏิกิริยาอ่อนไหวง่ายต่อสิ่งเร้า อย่าอยู่คนเดียวมากนักจะฟุ้งซ่าน

******ท่านที่เป็นชาวราศีมังกร หรือมีลัคนาสถิตราศีมังกร ดาวพฤหัสซึ่งเป็นเจ้าเรือนภพวินาศอันหมายถึงสิ่งลึกลับปิดบังและซ่อนเร้น รวมทั้งเป็นเจ้าเรือนของมิตรสหายและพี่น้อง จรเข้าราศีพิจิกภพลาภะ ลักษณาการแบบนี้ท่านว่าคุณจะมีโชคอย่างลับๆจากพี่น้อง หรือมีการติดต่อเจรจาอย่างลับๆที่จะทำให้เกิดโชค โดยเฉพาะช่วงที่ดาวเกษตรสามดวงระหว่างดาวเสาร์ ดาวพฤหัส และดาวอังคารกำลังแลกเรือนกันอยู่แบบนี้ คุณกำลังจะมีโชคจากการแลกเปลี่ยนหรือโยกย้ายถ่ายโอน รีบๆดำเนิการนะครับ อนึ่ง ถึงแม้ช่วงที่ดาวอังคารยกเข้าราศีกุมภ์หลัง7/11/61ไปแล้วก็ตาม แต่เมื่อใดที่ดาวอังคารเจ้าเรือนลาภะยกเข้าราศีกุมภ์เจ้าเรือนการเงิน แม้วงจรเกษตรแบบแลกเรือนจะหมดไปแต่ดาวอังคารก็ยังให้คุณต่อในราศีกุมภ์เรือนการเงินอยู่นะครับทำให้โอกาสดีๆทางการเงินที่จะมาจากหุ้นส่วนและคู่ครองยังมีอยู่ แต่ที่สำคัญดูแลสุขภาพด้านกระดูกและเส้นเอ็นรวมทั้งลำไส้ของคุณไว้หน่อยนะครับ โรคพวกนี้กำลังรอคุณอยู่ช่วงดาวพฤหัสอยู่ราศีพิจิกยังไม่น่าห่วงเท่าไร แต่ถ้าดาวพฤหัสยกเข้าราศีธนู ถึงตอนนั้นหมออาจช่วยอะไรคุณไม่ได้มากนัก

******ท่านที่เป็นชาวราศีกุมภ์ หรือมีลัคนาสถิตราศีกุมภ์ ดาวพฤหัสเจ้าเรือนลาภะและเจ้าเรือนการเงินจรเข้าเรือนงานของคุณ หนึ่งปีต่อนี้ไปที่ดาวพฤหัสสถิตในภพงานและอาชีพของคุณจะทำให้คุณประสบความสำเร็จในด้านหน้าที่การงานและอาชีพที่ทำอยู่เป็นอย่างดี ผู้หลักผู้ใหญ่จะให้คุณ ผลงานจะเข้าตากรรมการ ท่านที่ทำงานด้านกฎหมาย การแพทย์ และการบัญชี รวมทั้งงานด้านศาสนาและวิชาการจะไปได้ดีเป็นพิเศษ ท่านอาจเรียนไปด้วยและทำงานไปด้วยได้พร้อมๆกัน หรืออย่างน้อยอาจเป็นช่วงปีที่คุณมีโอกาสถูกส่งตัวไปอบรมหรือดูงานเพื่้อเพิ่มพูนความรู้ในสายงานที่ทำอยู่ รายได้จากหน้าที่การงานของคุณก็กำลังจะไปได้สวยทีเดียว

******ท่านที่เป็นชาวราศีมีน หรือมีลัคนาสถิตราศีมีน ดาวพฤหัสซึ่งเป็นดาวประจำตัวของคนราศีนี้ และเป็นเจ้าเรือนภพกัมมะอันหมายถึงหน้าที่การงาน ยกเข้าราศีพิจิกภพศุภะคราวนี้ หนึ่งปีแต่นี้ไปจึงเป็นช่วงเวลาดีๆสำหรับคุณอีกครั้งในเรื่องเกี่ยวกับการเรียนการศึกษาระดับสูง รวมทั้งการได้ทุนไปศึกษาต่อ หรือถูกส่งไปดูงานเพื่อเพิ่มพูนความรู้ตามสายงานของคุณเอง ท่านที่กำลังแสวงหาคุรุ หรือกูรูผู้รู้ในศาสตร์ใดวิชาใดอยู่ก็มีโอกาสได้เจอและได้ศึกษาร่ำเรียนกับครูผู้รู้จริงเก่งจริง คนตกงานมีโอกาสได้งาน แต่ด้านหน้าที่การงานยังคงต้องเหนื่อยอยู่เหมือนเดิมนะครับแม้ดาวพฤหัสซึ่งเป็นดาวอุปถัมภ์จากผู้หลักผู้ใหญ่จะเริ่มฟื้นตัวแล้วก็ตาม ทั้งนี้เพราะดาวเสาร์ยังสถิตอยู่ในราศีธนูเรือนพฤหัสอยู่นะครับ อย่างไรเสียก็ต้องเอาเหงื่อไปแลกมาครับ

 

MOREMOVE


#มอร์มูฟเป็นข่าว ก็แปลก ... เพราะนี่ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ แต่หลายคนไม่ให้ความสนใจ เป็นผลกระทบอย่างยิ่งต่อตัวเรา ณ ปัจจุบันตลอดถึงลูกหลานเหลนโหลนอีกหลายชั่วอายุคนจนกว่าโลกจะถึงกาลอวสาน สำหรับ #ภัยพิบัติโลกร้อน


โดยล่าสุด #รายงานจากสหประชาชาติเตือนเรื่องภัยพิบัติจากโลกร้อนในอีก12ปี ชี้ชัดในปี พ.ศ.2573 อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกอาจสูงขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส #เหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม และจะทำให้เกิดความเสี่ยงเรื่องหายนะจากธรรมชาติ เช่น ภาวะแล้งจัดไฟป่า น้ำท่วมใหญ่ รวมทั้งการขาดแคลนอาหารสำหรับผู้คนนับล้านๆ คนทั่วโลกได้ #การจำกัดปัญหาสามารถทำได้ในทางวิทยาศาสตร์แต่ที่สำคัญกว่าคือความตั้งใจทางการเมือง


Source : https://www.voathai.com/a/ipcc-report-global-warming-ct/4605410.html


โดยเรื่องนี้ รายงานจากคณะกรรมการของสหประชาชาติด้านความร่วมมือระหว่างรัฐบาล เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก (IPCC) #คาดการณ์จากระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่บรรยากาศของโลกที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ระบุ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ตามเป้าจะต้องอาศัยความเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวางทั้งในรูปแบบการใช้พลังงาน การคมนาคมขนส่ง อุตสาหกรรม และการอยู่อาศัยในเขตเมือง


"เห็นได้ชัดว่าปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ Climate Change นั้นกำลังเกิดขึ้นให้เห็นกับตา #หากไม่มีมาตรการแก้ไขและรับมืออย่างเร่งด่วนจะยิ่งส่งผลเสียหนักมากยิ่งขึ้น ดังตัวอย่างที่เห็นได้จากภาวะแล้งจัดที่ทำให้ขาดน้ำในเมืองเคปทาวน์ของแอฟริกาใต้ คลื่นความร้อนจัดในทวีปยุโรป และฝนที่ตกอย่างหนักจากพายุเฮอร์ริเคน Harvey กับพายุเฮอร์ริเคน Florence ในสหรัฐฯ เป็นต้น" รายงานของ IPCC ระบุ


ภัยพิบัติโลกร้อนส่งผล (แล้ว) ต่อแนวปะการังรวมทั้งแนวปะการังยักษ์ Great Barrier Reef ของออสเตรเลีย โดยคาดว่าปะการังของโลกจะตายลง 70% ถึง 90% จากภาวะโลกร้อนหากไม่มีการเร่งแก้ไข.

 

Jeerachart Jongsomchai


... "เรย์ ดาลิโอ เตือน : เราอยู่ในช่วงปลายวิกฤติหนี้ก้อนใหญ่ของโลก"


... "เรย์ ดาลิโอ" ผุ้ก่อตั้ง Bridgewater และเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลทางการเงินด้านเฮดจ์ฟันด์เตือนว่า อเมริกา และ โลกเรากำลังอยู่ในช่วงปลายของ วงจรชีวิตของ "วิกฤติเศรษฐกิจ"


... เขาบอกว่าวงจร "วิกฤติทางการเงิน" นั้นมักจะมีรูปแบบและวงวิบากซ้ำรอยเดิมๆเสมอ โดยเขาบอกว่ามี 6 ขั้น


... 1 เริ่มมีการกู้เงินสร้างหนี้มาสร้างก่อตั้งการสร้าง ซื้อหุ้น ใหม่หอมคนซื้อ


... 2 หุ้นเริ่มไต่ขึ้นสูง ราคาดี คนมาซื้อมากขึ้น กราฟไต่เอียงชันขึ้น


... 3 ระดับสูงสุดของการลงทุน ราคาหุ้นถึงจุดยอดจะไม่สูงกว่านี้ และรักษาระดับนี้ไม่ขึ้นอีก รอวันไต่ลง เหมือนเตรียมลงเขา เหมือนตอนปี 2007 - 2008


... 4 ตอนที่การเงินขาลง หลังฟองสบู่แตก นักลงทุนแห่ถอนเงินออกจากตลาด แต่รัฐบาลอเมริกากลับไม่ยอมให้ตาย กดดอกเบี้ยให้ต่ำใกล้ศูนย์ พิมพ์เงินออกมาอัดใส่นาตลาดหุ้น QE ล่อคนมากู้ เพื่อพยุงคนป่วยโคม่าให้มีล้มหายใจต่อไป จาก 2008 - 2015 ( แต่เงินที่รัฐบาลพิมพ์เงินออกมาซื้อทรัพย์สินหนี้เน่านั้นไม่ได้ เข้าถึงเศรษฐกิจภาคการผลิตจริง มีแต่จะทำให้ มูลค่าราคาหุ้นสูงเกินจริง เพราะกำไรปันผลจากการประกอบการไม่ดี เพิ่มขึ้นน้อยมาก ที่วอร์เรน บัฟเฟตบอกว่าเป็นลางร้ายของวิกฤติเศรษฐกิจ เงินคิวอี ไหลลงไปไม่ถึงทุ่งนาเศรษฐกิจผลิตจริง )


... เขาบอกว่าเหมือนสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในแอดีตช่วง 1930s หลังวิกฤติปี 1929 ที่ตอนนั้น "อเมริกา" มีปัญหาหนี้สินหนัก และกดดอกเบี้ยให้ใกล้ศูนย์ ที่เฟดเองก็ทำเหมือนกันคือพิมพ์เงินออกมาไหลสู่เศรษฐกิจ เพื่อจะซื้อหนี้เน่าของนักลงทุนที่มีปัญหาในตลาด ( แต่ในไทย ปี 1997 เขาบอกว่าปล่อยให้ล้ม ) เพื่อให้นักลงทุนยักษ์เหล่านั้นมีลมหายใจต่อไปเพราะ “ใหญ่เกินกว่าจะปล่อยให้ล้ม” ซึ่งเงินของ คิวอี เหล่านี้คือหนี้ก้อนใหญ่มากของอเมริกา ที่จะเป็นการซ้ำเติมเป็น “วิกฤติหนี้ที่สาหัส” ของประเทศ ที่รอวันล่มสลาย แต่ขั้นตอนนี้จะสร้างความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจนห่างมากขึ้นอีก ( คนรวยเองเงินคิวอีไปปั่นสร้างเงินได้อีก แต่คนจนไม่มีจะกิน เศรษฐกิจข้างนอกฝืดเคือง )


... 5 เฟดหยุดการปล่อย คิวอี ( และจะ Unwind หรือขายหนี้สินที่ซื้อมาออก ) ทรัพย์สินที่ซื้อมาจากนักลงทุนรายใหญ่เหล่านั้น แต่ปรากฏว่าไม่มีใครจะซื้อต้องปล่อยให้พันธบัตร หุ้นกู้เหล่านั้น ครบกำหนดแล้วเฟดต้องเอาเงินมาจ่ายเงินเองเป็นภาระรายจ่ายประเทศอีก ... ขาลง นักลงทุนจะเริ่มค่อยๆถอนเงินออกจากตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร


... ที่ "เรย์ ดาลิโอ" บอกว่า ขั้นตอนนี้เหมือนช่วงปี 1937 ที่เงินคิวอีใช้พลังภายในหมดจนอ่อนแรงแล้ว จะเริ่มเห็นการขัดแย้งระหว่างคนรวยและคนจนชัดเจนขึ้น ที่ขั้นตอนนี้สถานการณ์จะสร้างผู้นำ วีรบุรุษ ที่ออกแนวคิดชาตินิยมมาเสนอตัวแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ( ในกรณีอเมริกา เหมือน ทรัมป์ ที่บอกว่าจะอาสาดึงงานกลับมาอเมริกา สร้างงาน สร้างกำแพงไม่รับผู้อพยพเข้าประเทศ พร้อมกับกระแส “ฝ่ายขวาจัด” สร้างกระแสปกป้องทางการค้าของประเทศ ) ที่ในตอนนั้น หลังวิกฤติ 1937 ได้นำไปสู่การเข้าร่วม “สงครามโลกครั้งที่ 2”


... เมื่อเศรษฐกิจขาลง รวมทั้งช่องว่างระหว่างคนรวย คนจน มีห่างขึ้นเรื่อยๆ วีรบุรุษที่อาสามาแก้ปัญหาชาติ อาจจะนำประเทศเข้าสู่สงคราม


... 6 ระดับที่เกิดวิกฤติ เป็นจุดที่ตกต่ำสุด ที่ "เรย์ ดาลิโอ"ว่า เรากำลังอยู่ในตอนนี้ แต่คาดว่าวิกฤติอาจจะเกิดภายใน 2 ปี แต่บอกไม่ได้ชัดเจน เพราะว่าดอกเบี้ยเริ่มสูงขึ้นแบบเร็วมาก ไม่มีใครจะกู้เอาเงินไปลงทุนในตลาดหุ้น พันธบัตรหรือลงทุนในการผลิตตรงอีกต่อไป ( ตอนนี้สิ่งที่ต่อลมหายใจของตลาดหุ้นของอเมริกานั้น ก็เพราะ "เงินของทรัมป์ ที่ลดภาษีสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ ทำให้เสมือนได้กำไรมากขึ้น มีเงินเอาไปลงทุนสร้างกิจการจริงได้มากขึ้นบ้าง เลยทำให้หุ้นไต่ระดับสูงขึ้นนิดหน่อยช่วงั้นๆ ... แต่ปรากฏว่าเฟดขึ้นดอกเบี้ยสูง ยิ่งไปขัดขาทรัมป์ นักลงทุนรายใหญ่ ย่อย ทั้งนักลงทุนในตลาดทุนและในภาคการผลิตจริงไม่กล้ากู้เงินไปลงทุน ทำให้เงินไปกองที่ตลาดเริ่มทรงเดิมและเริ่มหายไป จนตกลงอย่างหนักเมื่อไม่นานนี้ ฟองสบู่อาจจะเกิดอีกเร็วขึ้น ) เงินไม่ไหลไปภาคการผลิตจริง


... เมื่อคนเล่นน้อยลง ราคาหุ้นตก คนขายทิ้งมาก ตลาดหุ้นตกลงอีก


... นอกจากนั้นสถานการณ์ในระดับโลกก็คล้ายกับในปี 1930 เพราะว่าตอนนั้น “อเมริกา” กำลังต้องการมาแข่งกับอำนาจมหาอำนาจเดิม ( New World Order ที่ต้องการล้มอำนาจโลกเก่า อย่าง อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ) ที่ตอนนี้ “จีน” พยายามจะท้าทายอำนาจของ “อเมริกา” อย่างชัดเจน ตัวแปลนี้จะเร่งให้เกิดวิกฤติการเงิน วิกฤติหนี้ ของอเมริกา ของโลกด้วยเช่นกัน และอเมริกาต้องระวังให้มากกับเรื่องภูมิศาสต์การเมือง รวมทั้งช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวย ที่เขาบอกว่าในบางรัฐสภาวะของนักเรียนยังขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนและรู้สึกว่าไม่ได้รับการเอื้อหนุนสัมพันธ์กับสังคมมากพอ


... และนโยบายทางการเงินในครั้งนี้ อาจจะไม่ได้ผลดีเหมือนเมื่อครั้งเกือบ 90 ปีก่อนก็ได้ และเขาอยากให้ระวังการกระทำที่อาจจะผิดพลาดจากการทำตามใจตัวเองมากเกินไป และอยากให้เรื่อง “หนี้สินก้อนใหญ่” นี้เป็นวาระแห่งชาติของอเมริกา


... ซึ่งช่วงแรกจะเป็นแค่ “สงครามการค้า” แต่ต่อไปจะค่อยๆพัฒนาเป็นสงครามการเมือง การทหารต่อไป


... "เรย์ ดาลิโอ" บอกว่าให้ดูปัจจัยอื่นประกอบเช่น อัตราการว่างงาน การจ้างงาน มากหรือน้อย หรือ ผลตอบแทน หรือ ยีล ของพันธบัตรว่าเป็นอย่างไร รวมทั้งสัดส่วนของปัจจัยเหล่านั้น


... เขาบอกว่า “อเมริกา” นั้นได้เปรียบหลายประเทศเพราะมีทั่วโลกสะสมเงินดอลล่าร์ในทุนสำรองของธนาคารกลาง แต่ก็มีข้อเสียเพราะต้องเรียนรู้การจัดการหนี้ที่มีมากทั่วโลกให้ดีเช่นกัน ไม่งั้น “หนี้ก้อนโตจะเป็นปัญหา” ของประเทศ อีกปัญหาเขาบอกว่าคือทุนนิยมที่เป็นอยู่นี้ ยังไม่สามารถกระจายผลประโยชน์ให้คนในสังคมอย่างทั่วถึงเท่าที่ควร และนี่คือส่วนที่สำคัญของปัญหาและวิกฤติของโลกด้วย และสิ่งที่สำคัญในตอนนี้ก็คือการสร้างหนี้ที่ท่วมประเทศ ที่จะกลายเป็นวิกฤติใหญ่ของประเทศและของโลกต่อไป


.


.

https://www.barrons.com/articles/ray-dalio-financial-crisis-1536765634

 

MGR Online Politics


ปัตตานี - ไขความจริงเรื่องราวผ่านโซเชียล กรณี “ทหารชายแดนใต้” ละเมิดอนาจาร “เด็กนักเรียน ป.6” เผยมีการไกล่เกลี่ยจ่ายค่าเสียหายเป็นเงิน 1 แสน ด้านโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 แถลงรับแล้วเป็นเรื่องจริง เตรียมดำเนินการเอาผิดทางวินัยขั้นร้ายแรงสูงสุด

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Oct 20) ปม'คาช็อกกี' ส่อหนุนประโยชน์อิหร่าน : การที่ซาอุดีอาระเบียมีส่วนพัวพันกับการหายตัวไปของ "จามาล คาช็อกกี" นักข่าวชาวซาอุดีอาระเบีย ของหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ของสหรัฐ อาจทำให้คู่ปรับเก่าแก่ของรัฐบาลริยาดอย่าง "อิหร่าน" ได้ประโยชน์



แกนหลักของนโยบายต่างประเทศในตะวันออกกลางของสหรัฐ ซาอุดีอาระเบียถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของแผนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการโดดเดี่ยว อิหร่าน ทำเนียบขาวต้องการให้รัฐบาลริยาดสร้างเสถียรภาพในตลาดพลังงาน เมื่อมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐบังคับใช้กับการผลิตน้ำมันของอิหร่านมีผลในเดือนพ.ย. นี้



อย่างไรก็ตาม หากความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับซาอุดีอาระเบียขุ่นเคืองกันจากข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลริยาดสังหารคาช็อกกี ยุทธศาสตร์ของทรัมป์ก็อาจไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ และอาจเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและการเมืองสำหรับรัฐบาลเตหะรานแทน



"ควันหลงจากการหายตัวไปของ คาช็อกกี ถือเป็นการเดินหมากทางการเมืองผิดพลาดครั้งล่าสุดสำหรับซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในเชิงภูมิศาสตร์การเมืองต่ออิหร่าน" ซานาม วาคิล นักวิจัยที่ปรึกษาอาวุโสจากชัทแธม เฮาส์ กลุ่มคลังสมองในอังกฤษ ระบุในรายงานสัปดาห์นี้



เธอเสริมว่า ซาอุดีอาระเบียได้ออกมาขู่ว่าจะตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐด้วยทุกสิ่งที่มี และส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไม่นานหลังจากนั้น จึงทำให้อิหร่าน ได้ประโยชน์จากยอดขายน้ำมันในช่วง ไม่กี่สัปดาห์ก่อนมาตรการคว่ำบาตร มีผลบังคับใช้



คาช็อกกี คอลัมนิสต์ของวอชิงตัน โพสต์มักเขียนวิพากษ์วิจารณ์สมาชิกในราชวงศ์ของซาอุดีอาระเบีย โดยเฉพาะมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มีคนเห็นเขาครั้งสุดท้ายที่สถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในนครอิสตันบูลของตุรกี เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา



ทางการตุรกีกล่าวหาว่า ทีมสายลับของซาอุดีอาระเบียเป็นผู้สังหารคาช็อกกี แต่รัฐบาลริยาดปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว



มีกระแสเรียกร้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ให้สหรัฐลงโทษรัฐบาลริยาด หากข้อกล่าวหานี้เป็นความจริง



"สิ่งที่ดิฉันจะทำแน่ ๆ คือ ดิฉันจะคว่ำบาตร ซาอุดีอาระเบียขั้นเด็ดขาด" ลินด์ซีย์ เกรแฮม ส.ว.พรรครีพับลิกันจากรัฐเซาท์แคโรไลนา กล่าวเมื่อวันอังคาร (16 ต.ค.)



ทรัมป์ ซึ่งกำลังถูกจับตาเพราะมี สายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับรัฐบาลริยาด อาจถูกบีบให้ต้องแสดงท่าทีอย่างเป็น รูปธรรม ท่ามกลางแรงกดดันจากทั้งใน ต่างประเทศและภายในประเทศ



เมื่อต้นปีนี้ ซาอุดีอาระเบีย ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก ให้คำมั่นกับทรัมป์ว่า จะเพิ่มการผลิตน้ำมันเพื่อช่วยชดเชยส่วนที่หายไปจากอิหร่านและราคาที่ร่วงลง แต่หากสหรัฐลงโทษรัฐบาลริยาด ก็อาจทำให้ซาอุดีอาระเบียระงับการเพิ่มการผลิตน้ำมันและทำให้ราคายิ่งสูงขึ้นอีก ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจเพิ่มรายได้ให้กับอิหร่าน



อีชัก จาฮากิรี รองประธานาธิบดีอิหร่าน เผยกับสื่อท้องถิ่นในสัปดาห์นี้ว่า น้ำมันดิบอิหร่านจำหน่ายในราคากว่า 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งหมายความว่า ถึงแม้การส่งออกน้ำมันดิบจะลดลงครึ่งหนึ่ง ประเทศก็จะยังมีรายได้เท่ากับก่อนหน้านี้



กระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย แถลงเมื่อวันอาทิตย์ (14 ต.ค.) ที่ผ่านมาว่า หากมีการดำเนินมาตรการใด ๆ กับประเทศ รัฐบาลจะตอบโต้ด้วยมาตรการที่หนักกว่า พร้อมกับเตือนว่า เศรษฐกิจของประเทศมีอิทธิพลและมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งบรรดานักสังเกตการณ์บางส่วนมองว่าเป็นการขู่ทางอ้อม



ในวันถัดมา สถานทูตซาอุดีอาระเบียประจำกรุงวอชิงตัน เรียกร้องให้ประชาคมโลก หลีกเลี่ยงที่จะด่วนตัดสินฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง



"แถลงการณ์ดังกล่าวเลี่ยงที่จะเอ่ยถึงการใช้น้ำมันเป็นอาวุธ แต่ชัดเจนว่า มีความหมายนัยแฝง"โมฮัมหมัด อายูบ นักวิชาการอาวุโสของศูนย์เพื่อนโยบายโลกและศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยมิชิแกนในสหรัฐ ระบุในรายงานที่ตีพิมพ์บนเว็บไซต์สถาบันนโยบายเชิงยุทธศาสตร์ออสเตรเลียเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา



ก่อนหน้านี้ ซาอุดีอาระเบียเคยใช้พลังงานเป็นเครื่องมือทางการเมืองในช่วงที่กลุ่มผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ห้ามค้าขายน้ำมันระหว่างปี 2516-2517 มาแล้ว "การตัดสินใจของซาอุดีอาระเบียที่จะลดการผลิตน้ำมันแม้เพียง 10% อาจส่งผลให้ตลาดพลังงานระหว่างประเทศปั่นป่วนได้ เนื่องจากราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นแตะเหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในทันที" อายูบเตือน และบอกว่า สถานการณ์นี้มีแนวโน้มจะทำให้อิหร่านเป็น "ผู้ได้รับประโยชน์รายหลักจากปมคาช็อกกี"



นอกเหนือจากเรื่องน้ำมันแล้ว รัฐบาลเตหะรานอาจเป็นผู้ชนะทางการเมือง หากความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับซาอุดีอาระเบียย่ำแย่ลง



วาคิล กล่าวว่า ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานีของอิหร่าน สามารถใช้สถานการณ์นี้ในการเบนความสนใจจากการถกเถียงเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์ การแทรกแซงทั่วภูมิภาคและโครงการขีปนาวุธของอิหร่าน



"ความบาดหมางกันระหว่างสหรัฐกับซาอุดีอาระเบียอาจสร้างความแตกแยกให้กับความพยายามร่วมมือกันในภูมิภาคเพื่อควบคุมอิหร่าน ขณะเดียวกันยังทำให้รัฐบาลเตหะรานได้รับประโยชน์จากกระแสวิจารณ์ระหว่างประเทศเกี่ยวกับความเป็นปรปักษ์อันยาวนานของรัฐบาลริยาด" แม้หลายฝ่ายตั้งคำถามเกี่ยวกับความเป็นพันธมิตรกับซาอุดีอาระเบียของทรัมป์มานาน ทั้งที่รัฐบาลริยาดมีประวัติด้านสิทธิมนุษยชนด่างพร้อย แต่กรณีของคาช็อกกีในขณะนี้ทำให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการประพฤติผิดศีลธรรมของพันธมิตรรายสำคัญของสหรัฐในตะวันออกกลาง



ในขณะที่ทั่วโลกรับรู้การหายตัวไปของคาช็อกกี แต่ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ได้วิจารณ์อิหร่านว่ามีพฤติกรรมโหดร้ายในนิตยสารฟอเรนจ์ แอฟแฟร์สโดยกล่าวหาว่าเป็นสาธารณรัฐแห่งการก่อการร้ายและถือเป็น 1 ใน 2 ภัยคุกคามใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ร่วมกับเกาหลีเหนือ



อย่างไรก็ตาม โรเบิร์ต อี. ฮันเตอร์ อดีตทูตสหรัฐประจำองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ตั้งข้อสังเกตในบทวิเคราะห์บนเว็บไซต์ "โลบ ล็อก" (Lobe Log) ว่าบทความของปอมเปโอมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่พันธมิตรของสหรัฐในภูมิภาคกำลังถูกเปิดโปงเกี่ยวกับการสังหารคาช็อกกี ซึ่งควรเรียกว่าพฤติกรรมโหดร้ายและ ก่อการร้ายด้วยหรือไม่


Source: กรุงเทพธุรกิจ


- Khashoggi-Gate And U.S. Persian Gulf Strategy: https://lobelog.com/khashoggi-gate-and-u-s-persian-gulf-strategy/


- How Turkey gains from the grisly drama over the killing of journalist Jamal Khashoggi:


- กษัตริย์ซาอุดีอาระเบียสั่งปฏิรูปสำนักข่าวกรอง: https://www.ryt9.com/s/iq37/2903037

 

The MATTER


BRIEF: นักวิจัย AI กำลังพัฒนาเทคโนโลยี ‘Augmented Eternity’ หวังช่วยให้เราได้คุยกับคนตาย ที่มีตัวตนอยู่ในโลกดิจิทัล

.

จะเป็นอย่างไร ถ้าเราสามารถคุยกับคนที่เสียชีวิตไปแล้ว? เจ้านายที่จากโลกนี้ไปแล้ว ที่ยังให้คำแนะนำต่างๆ เกี่ยวกับการทำงาน หรือคนใกล้ชิดที่ไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกต่อไป แต่ยังสามารถแสดงความเห็น ให้คำปรึกษาเรื่องราวต่างๆ ได้เหมือนเดิม

.

เรื่องทำนองนี้เราอาจเคยได้เห็นผ่านหนังแนว sci-fi (ซึ่งส่วนใหญ่จะดาร์กหน่อยๆ) หากแต่ในโลกความเป็นจริงแล้ว มีนักวิจัยและบริษัทด้านเทคโนโลยีกำลังเดินหน้าพัฒนาการสร้าง ‘ตัวตนดิจิทัล’ ของคนที่เสียชีวิตไปแล้วอย่างจริงจัง

.

ในบทความของ MIT Techonlogy Review ที่เพิ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อไม่นานมานี้ ระบุถึงความพยายามของนักวิจัย Hossein Rahnama ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จาก MIT Media Lab และ Ryerson University ที่กำลังพัฒนาโครงการชื่อว่า ‘Augmented Eternity’ ขึ้นมา

.

โครงการนี้มีคอนเซ็ปต์หลักๆ คือ นำข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับบุคคลทั้งบุคลคิก ลักษณะนิสัย วิธีการใช้คำพูด ถ้อยคำ การใช้ภาษา รวมถึงจุดยืนในแต่เรื่องของชีวิตมารวมกันเป็น database แล้วให้ AI และ Machine learning วิเคราะห์ออกมาเพื่อสร้างบุคคลนั้นเป็นตัวตนดิจิทัล ซึ่งสามารถสื่อสารกับผู้คนได้อย่างใกล้เคียงกับตอนที่ยังมีชีวิต

.

ในเบื้องต้น Rahnama คาดหวังว่า ตัวตนดิจิทัลที่ว่านี้ สามารถถูกสร้างออกไปได้หลายรูปแบบ เช่น เป็นแค่เสียง (คล้ายๆ กับ Siri) เป็น chatbot ที่ตอบโต้บทสนทนาได้ รวมถึงสร้างเป็นคาแรคเตอร์ 3D หรือไกลสุดคือนำตัวตนนี้ไปใส่ในหุ่นยนต์ที่เป็นรูปร่างคนจริงๆ

.

อย่างไรก็ดี แม้โครงการจะถูกกดปุ่มเริ่มต้นการพัฒนาไปแล้ว แต่มันก็ยังจำเป็นต้องได้รับการศึกษาและทำอะไรอีกหลายอย่างมากๆ ถึงจะทำได้จริงๆ ทั้งนี้ ความยากที่สุดของการสร้างตัวตนดิจิทัลแบบนี้ขึ้นมา คือการทำให้มันได้รู้จัก ‘บริบท’ (context) ของการพูดคุย

.

พูดให้ชัดขึ้นก็คือ สิ่งที่ AI กับมนุษย์เราในวันนี้ ยังค่อนข้างต่างกันมากๆ คือการเข้าใจถึงบริบทของการสนทนา เพราะมนุษย์เราจะรู้ว่า คนที่กำลังคุยอยู่ด้วยนั้นมาด้วยอารมณ์แบบไหน ท่าทางแบบไหน น้ำเสียงแบบไหน แล้วเราก็จะมีวิธีการตอบสนองที่แตกต่างไปตามบริบทนั้นๆ ออกไป ซึ่งนี้คือสิ่งที่ AI ยังไปได้ไม่ถึง

.

ความท้าทายของโครงการสร้างตัวตนของคนที่เสียชีวิตไปแล้ว ยังรวมไปถึงประเด็นเรื่อง ‘ความเป็นส่วนตัว’ อีกด้วย กล่าวคือคำถามจะเกิดขึ้นว่า เราควรเข้าถึง ‘ความทรงจำ’ ของคนที่เสียชีวิตไปแล้วแค่ไหน อะไรคือเส้นแบ่งที่เทคโนโลยีควรตระหนักถึง

.

ก่อนหน้านี้เคยมีเปเปอร์ที่เผยแพร่ใน Nature Human Behavior ที่ชี้ชวนให้เราร่วมกันตั้งคำถามถึงโลกในอนาคต รวมถึงการร่วมกันสร้างกฎอะไรบางอย่างขึ้นมาเพื่อกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรม เพื่อรองรับการพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับโลกดิจิทัลหลังความตาย

.

.

อ้างอิงจาก


https://www.technologyreview.com/s/...DqoRzLzA_v06BU_zhVMdLnvorrPSQ8n7aoATjOWq71f7s


https://www.media.mit.edu/projects/augmented-eternity/overview/


https://www.theatlantic.com/science/archive/2016/07/what-a-digital-afterlife-would-be-like/491105/


https://qz.com/896207/death-technol...ack-their-loved-ones-from-the-dead-digitally/


https://www.fastcompany.com/3059994...gh-data-to-create-digital-copies-of-ourselves


#Brief #TheMATTER

 

MGROnline Live


"เมด อิน ไชน่า" ควันโขมงท่าขี้เหล็ก รถหุ้มเกราะพม่าจอดติดเครื่องไว้ไฟลุกพรึบ

.

WZ551A หรือ Type 92 รุ่นปรับปรุงใหม่คันที่เกิดไฟไหม้ ในเมืองท่าขี้เหล็กไม่กี่วันมานี้ เป็นเพียงเหตุการณ์เล็กๆ และ ชาวบ้านร้านตลาดคงไม่คิดอะไรมาก หากไม่เป็นเพราะว่าก่อนนั้่นเพียง 1 วัน มีเครื่องบินขับไล่โจมตี F-7 เมด อิน ไชน่า ตกถึง 2 ลำ นักบินเสียชีวิตทุกคนแถมยังมีเด็กนักเรียนวัย 10 ปีบนพื้นโดนลูกหลงตายไปอีกคนหนึ่งด้วย.


https://mgronline.com/indochina/detail/9610000105012


#MGROnline #พม่า

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Oct 20) เปิดปูมประวัติไม่ธรรมดา“จามาล คาช็อกกี”: จามาล คาช็อกกี วัย 60 ปี เกิดเมื่อปี 2501 ที่เมืองมาดีนา ประเทศซาอุดีอาระเบีย ตระกูลของคาช็อกกีรับใช้ราชวงศ์ซาอุฯมายาวนาน โดยคุณปู่ของเขา มูฮัมหมัด คาช็อกกี ถวายการรับใช้กษัตริย์อับดุลลาซิส อัล-ซาอุด ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย


นอกจากนี้ จามาล คาช็อกกี ยังมีญาติสนิทเป็นคนดังระดับโลก โดยเขาเป็นหลานแท้ๆของ อัดนัน คาช็อกกี นักค้าอาวุธชื่อดังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีอื้อฉาว “อิหร่าน-คอนทรา” และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ โดดี อัล-ฟาเอ็ด คนรักของเจ้าหญิงไดอาน่าผู้ล่วงลับ


คาช็อกกี เดินทางไปศึกษาด้านบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยอินเดียนาในสหรัฐ ก่อนที่จะเดินทางกลับมาซาอุดีอาระเบีย และเริ่มทำงานเป็นผู้สื่อข่าวกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นซาอุดิ กาเซ็ตต์ อีกทั้งร่วมงานกับสื่อหลายสำนักของอาหรับ ซึ่งรวมถึง Al Sharq Al Awsat, Al Majalla และ Al Muslimoon ในจุดนี้เอง ทำให้เขามีโอกาสรายงานข่าวการรุกรานอัฟกานิสถานของสหภาพโซเวียต และเริ่มติดตามความเคลื่อนไหวของนายโอซามา บิน ลาเดน ผู้นำเครือข่ายก่อการร้ายอัล-กออิดะห์ ซึ่งความกล้าบ้าบิ่นของคาช็อกกี ทำให้เขาสามารถเข้าไปนั่งสัมภาษณ์พูดคุยกับนายบิน ลาเดน แบบตัวต่อตัวมาแล้วหลายครั้ง


นอกจากนี้ คาช็อกกียังเคยรายงานข่าวใหญ่ๆในภูมิภาคอีกมากมาย รวมถึงข่าวสงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งที่ 1 ที่ประเทศคูเวต และในช่วงปี 2533 - 2542 คาช็อกกี นั่งตำแหน่งรองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์อาหรับ นิวส์ ฉบับภาษาอังกฤษ ก่อนที่จะเข้าไปเป็นบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์อัล-วาตัน ซึ่งเป็นสื่อยักษ์ใหญ่ของซาอุดีอาระเบียในปี 2546


ในปี 2554 เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในโลกอาหรับ หรือ “อาหรับสปริง” ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้คาช็อกกีแตกหักกับรัฐบาลซาอุฯ ปรากฏการณ์อาหรับสปริงได้สั่นสะเทือนขั้วอำนาจเก่า และทำให้เกิดการลุกฮือเคลื่อนไหวของกลุ่มมุสลิม ตามด้วยการปราบปรามผู้ที่เรียกร้องการเปลี่ยนแปลงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในหลายประเทศอาหรับ ในช่วงเวลานั้นเอง คาช็อกกี เลือกที่จะยืนข้างกลุ่มมุสลิมฝ่ายต่อต้านในอียิปต์และซีเรีย และเขาเริ่มวิพากษ์วิจารณ์จุดยืนของรัฐบาลซาอุฯ อีกทั้งปกป้องกลุ่มมุสลิมสายกลางที่รัฐบาลซาอุฯมองว่าเป็นภัย


ความขัดแย้งในครั้งนั้น ทำให้คาช็อกกีเริ่มกังวลในชะตากรรมของตัวเอง จึงตัดสินใจหลบไปอาศัยอยู่ในสหรัฐในช่วงฤดูร้อนของปี 2560 และร่วมงานกับหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ซึ่งการอยู่ภายใต้สื่อทรงอิทธิพลของสหรัฐเช่นนี้ ทำให้คาช็อกกี มีความกล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลซาอุฯอีกครั้ง โดยคำวิจารณ์มักพุ่งเป้าไปยังเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาล มกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯ ผู้เคยสร้างผลงานบรรลือโลกด้วยการกวาดล้างบุคคลสำคัญทั้งในราชวงศ์และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสั่งออกหมายจับเจ้าชายอัลวาลีด บิน ทาลาล หนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในซาอุฯ และเป็นผู้ถือหุ้นรายสำคัญในบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแอ๊ปเปิ้ล ทวิตเตอร์ ไทม์วอร์เนอร์ และ ทเวนตี้ เฟิร์สท์ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์

ทั้งยังสั่งจับกุมเจ้าชายมีเต็บ บิน อับดุลลาห์ ผู้ซึ่งเคยได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้สืบราชวงศ์อีกพระองค์หนึ่ง เนื่องจากเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลาห์ กษัตริย์องค์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นพระเชษฐาของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน


แม้ทางการซาอุฯส่งสัญญาณถึงความไม่พอใจในปลายปากกาคาช็อกกีหลายต่อหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่หยุดยั้งที่จะขุดคุ้ยและวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของประเทศบ้านเกิด แม้แต่ช่วงไม่กี่วันก่อนที่เขาจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในสถานกงสุลซาอุฯประเทศตุรกี


Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/816259

 

Candy Bella


//ตำนานรัก "โลงคู่" วัดหัวลำโพง//


... ย้อนไปเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2510 หนังสือพิมพ์สื่อใหญ่ได้พาดหัวข่าว โศกนาฏกรรมรักของคู่รักคู่หนึ่ง ที่โชคชะตากำหนดให้เกิดมาอยู่ในเพศเดียวกัน เพียงชั่วข้ามคืนเหตุการณ์นี้ได้เลือนหายไปความทรงจำของคนไทย ก่อนที่ถูกนำกลับมาย้ำเตือนอีกครั้งในอีก 22 ปีต่อมา ในรูปแบบของบทเพลง


ในบทเพลง "สีดา" ได้กล่าวถึงความรักที่มีต่อกันอย่างลึกซึ้งระหว่างชาย 2 คน แต่สุดท้ายกลับต้องจบลงด้วยการกระทำอัตวินิตบาตกรรมของคนทั้งคู่ เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความซาบซึ้ง และทำให้ "แจ้ - ดนุพล แก้วกาญจน์" ตัดสินใจหยิบยกเรื่องราวนี้มอบให้ ครูน้อย สุรพล โทณะวณิก ช่วยถ่ายทอดเป็นบทเพลงในปี 2532


“สีดา” เป็นเรื่องราวจากชีวิตจริงเมื่อ ปี 2510 ของสาวประเภทสองที่ชื่อ ประโนตย์ วิเศษแพทย์ แต่บางส่วนของเรื่องราวที่ผู้แต่งจำเป็นต้องดัดแปลงไป ทำให้มีบางเสี้ยวของเหตุการณ์ต่างไปจากความเป็นจริง “สีดา” ในบทเพลง หมายถึง นางเอกนาฏศิลป์โขนของกรมศิลปากรเมื่อเกือบ 40 ปีก่อน หากแต่ชีวิตจริงเขาชื่อ "ประโนตย์ วิเศษแพทย์" สิ่งที่ทำให้ประโนตย์โดดเด่นมากที่สุดในยุคนั้นก็คือความสวย ซึ่ง สุทิน ทับทิมทอง รุ่นพี่ที่สนิทสนมกับประโนตย์ เล่าว่า ปัจจุบันความสวยของสาวประเภทสองเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป แต่สำหรับเมื่อก่อน ประโนตย์สวยเกินกว่าผู้หญิงบางคน และไม่มีสาวประเภท 2 คนใดเทียบได้


ปัจจุบันมีหลักฐานและภาพถ่ายของประโนตย์เหลืออยู่ไม่มากนัก ประโนตย์ เธอเกิดเมื่อปี 2481 เป็นบุตรของนายยงค์ และหม่อมหลวงหญิง บุญนาค วิเศษแพทย์ ซึ่งเป็นครอบครัวมีฐานะดี ประโนตย์มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน และด้วยความที่เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของบ้าน จึงเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ ประโนตย์เติบโตขึ้นท่ามกลางการถูกรุมล้อมด้วยพี่น้องที่เป็นผู้หญิงทั้งสี่ และค่อย ๆ ซึบซับความอ่อนหวานเรียบร้อยแบบผู้หญิงของคนรอบข้างไว้อย่างไม่รู้ตัว


หลังเรียนจบระดับประถมที่โรงเรียนใกล้บ้าน ย่านซอยสวนพลู ประมาณปี 2492 ด้วยความสนใจในการแสดงตั้งแต่เยาว์วัย และการสนับสนุนของผู้เป็นแม่ ประโนตย์จึงตัดสินใจสอบเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนนาฏศิลป์ โรงเรียนนาฏศิลป กรมศิลปากร หรือ วิทยาลัยนาฏศิลปในปัจจุบัน นอกจากจะเป็นจุดเริ่มต้นซึ่งต่อมาทำให้ประโนตย์เป็นที่รู้จักในชื่อของ “สีดา” แล้ว ที่นี่ยังเปิดโอกาสให้เขาสามารถแสดงบุคลิกที่เบี่ยงเบนไปจากเพศที่แท้จริงของตนเองได้อย่างอิสระเสรี


การสวมบทบาทสตรีเพศ และ ความอ่อนหวานงดงามของศิลปะ เป็นส่วนส่งเสริมให้ร่างกายและจิตใจของประโนตย์ เปลี่ยนแปลงมาเป็นผู้หญิงอย่างเต็มตัว สามารถแต่งตัวเป็นผู้หญิงได้ตามอย่างที่ใจปรารถนา เพราะขณะนั้นสภาพสังคมไทยยังไม่ยอมรับพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ ประโนตย์ในวัย 14 ปี จึงมักลักลอบหนีออกไปแสดงโขนกับบุคคลภายนอก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางโรงเรียนนาฏศิลป์ขณะนั้นไม่อนุญาตอย่างเด็ดขาด รวมทั้งเริ่มคบหากับเพื่อนต่างโรงเรียนที่มีลักษณะเดียวกัน และทำให้ชีวิตในโรงเรียนนาฏศิลป์ของประโนตย์สิ้นสุดลงในเวลาเพียง 3 ปี


ประโนตย์มีอิสระเสรีมากขึ้นและยังคงใช้ชีวิตวนเวียนอยู่ในแวดวงของนาฏศิลป์โขน โดยร่วมกับเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน ใช้วิชานาฏศิลป์ที่ติดตัวมารับแสดงโขนตามงานการกุศลต่าง ๆ ซึ่งต่อมาได้สร้างชื่อเสียงให้เธอเป็นที่รู้จักในนามของ “สีดา” สีดาคือนางในวรรณคดีไทยเรื่องรามเกียรติ ที่มีความงดงามอย่างมาก ช่วงเวลานี้เองที่ครูน้อย หรือ สุรพล โทณวณิก ได้มีโอกาสชมการแสดงของประโนตย์ และความสวยของเธอที่ยังคงประทับอยู่ในความทรงจำ จึงกลายเป็นต้นกำเนิดของบทเพลง “สีดา” ในอีก 22 ปีต่อมา


ความงามของ ประโนตย์ วิเศษแพทย์ นี้เป็นที่โด่งดังมากในหมู่กะเทยในยุคนั้น หลังออกจากการเป็นนักเรียนของวิทยาลัยนาฏศิลป์ เธอเริ่มเดินสายประกวดนับครั้งไม่ถ้วน ลงเวทีไหนเป็นต้องชนะเวทีนั้น เรียกว่าสวยไร้คู่แข่ง จนบรรดากะเทยร่วมรุ่นถึงกับข่มขู่เวทีประกวดสาวงามประเภทสอง ในยุคนั้นว่า “ถ้าเวทีไหนมีปราโนตย์ นางโนตย์ อีโนตย์ (แล้วแต่จะเรียก) เข้าประกวด คนอื่นจะไม่ยอมลงประกวดด้วย” ในแวดวงสาวงามประเภทสอง มีการตั้งฉายาให้ ปราโนตย์ วิเศษแพทย์ ว่า “นางงาม 50 มงกุฎ” การสวยแบบไร้คู่แข่ง


ประโนตย์ได้พบรักกับชายหนุ่มชื่อ สมบูรณ์ ทั้งคู่คบหาและอยู่กินกันนานถึง 8 ปีเต็ม สุดท้ายก็เลิกรากันไปและนายสมบูรณ์ก็หันไปคบกับผู้หญิงอื่น จนผ่านไปสองสามปี ปราโนตก็ได้มาเจอกับ สมชาย แก้วจินดา หรือ ชีพ มีอาชีพขับรถรับจ้าง รูปหล่อ สุภาพ เรียบร้อย พูดจาดี ทั้งคู่ตกลงปลงใจและย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้านพักย่านซอยสวนพลู แต่แล้วปัญหาเดิมก็กลับมาทำร้ายคนทั้งคู่ นั่นคือความหวาดระแวง หึงหวง ครั้งหนึ่งทั้งคู่ได้ไปสาบานต่อกันที่วัดพระแก้วและศาลหลักเมืองว่า “ถ้าเราไม่ซื่อสัตย์ต่อกันก็ขอให้ตายด้วยกัน ถ้าสีดาตายก่อน ชีพจะต้องตายตามไป แต่ถ้าชีพตายก่อน สีดาก็จะต้องตายตามไป”


หลังจากนั้นทั้งคู่ได้ทะเลาะกันอีกหลายครั้ง สุดท้ายจึงตัดสินใจแยกกันอยู่ ปราโนตคิดตลอดเวลาว่า เธอไม่ใช่หญิงแท้ เธอจึงระแคะระคายว่าชีพจะมีผู้หญิงอื่นมาติดพัน จนเป็นสาเหตุให้ทั้งคู่กลับมาทะเลาะกันอีกครั้ง เรื่องนี้เป็นสาเหตุที่ตอกย้ำความเชื่อของเธอจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป ปราโนตได้ตัดสินใจดื่มยาพิษฆ่าตัวตายอยู่หลายครั้ง แต่ก็มีคนช่วยชีวิตไว้ได้ทัน และในการดื่มยาพิษครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2510 ลมหายใจสุดท้ายของปราโนตก็หมดสิ้นลงอย่างโดดเดี่ยวในบ้านพักของเธอ เมื่อ ชีพ ทราบข่าวก็ได้แต่พร่ำพูดแต่ประโยคที่ว่า “ผมจะตามพี่ไป พี่รอผมด้วย” พลางร้องไห้กอดศพของประโนตย์แน่น เย็นวันเดียวกันนั้นเอง ชีพได้บวชอุทิศส่วนกุศลให้กับประโนตย์


หลังจากสวดศพครบ 3 คืน เณรชีพตัดสินใจสึก จากนั้นได้นำสมบัติที่ซื้อร่วมกันไปจำนำ และนำเงินที่ได้ไปให้แก่คนในบ้าน และได้เขียนจดหมายสั่งเสียว่า “ขอให้นำเงินจำนวนดังกล่าวนี้เพื่อทำศพของเขา ขอให้พี่ๆ ช่วยเป็นภาระในการเลี้ยงดูแม่ ส่วนศพของเขาให้เอาไว้ที่วัดหัวลำโพงคู่กับศพของโนต” ต่อมา ชีพ ก็กินยาฆ่าแมลงและเสียชีวิตเมื่อตอนเที่ยงวันที่ 15 พฤษภาคม 2510 (เดือน – ปีเดียวกัน)


วัดหัวลำโพง คือสถานที่บำเพ็ญกุศลให้กับดวงวิญญาญที่จากไปของประโนตย์ แต่หลังจากที่งานศพเสร็จสิ้นลงเพียงไม่กี่วัน อีกหนึ่งชีวิตที่ผูกพันธ์ก็ติดตามไป เหมือนดั่งคำสาบานที่ได้ให้ไว้ต่อกัน ภาพของร่างไร้วิญญาณในโลงศพที่ตั้งเคียงคู่กัน ณ วัดหัวลำโพง เพื่อรอการฌาปนกิจ ได้สร้างความโศกสลดให้กับคนทั่วไป และยุติความแคลงใจของคนรอบข้างที่มีต่อความรักของทั้งสองได้อย่างสิ้นเชิง


หากยังมีขีวิตอยู่ในปัจจุบันนี้ปี 2561 ประโนตย์จะมีอายุ 80 ปี ความงดงามของนางสีดาที่สามารถครอบครองหัวใจใครต่อใครในโลกละคร แต่ความสวยของประโนตย์ กลับไม่สามารถฉุดรั้งคนที่เธอรักมากที่สุดไว้ได้


ที่มา :https://www.sanook.com/horoscope/107509/

 

โพสต์ทูเดย์


เม็กซิโกส่งตำรวจปิดพรมแดนกัวเตมาลา ป้องกันคลื่นผู้อพยพจากอเมริกากลางทะลักเข้าประเทศ หวังลี้ภัยในสหรัฐฯ

 

ดิน น้ำ ลม ฟ้า พยากรณ์


เตือนฝนตกหนัก ⛈

อัพเดท พื้นที่เสี่ยง สีเเดง ฝนตกหนักมาก ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ตอนบน ณ 11.00 นวันนี้ ถึง พรุ่งนี้ (21ตุลาคม)

 

Candy Bella


“คนัง” เงาะป่าผู้ทะยานด้วยวาสนา มาเป็นมหาดเล็กพิเศษ “คุณพ่อหลวง” ร.๕...


... ในอดีต เงาะป่าซาไกคนหนึ่งมีวาสนาสูงส่ง แม้จะเกิดในดงดอน แต่แรงวาสนาทำให้เขาทะยานมาเป็นคนดังในราชสำนัก ร.๕ ในฐานะมหาดเล็กพิเศษที่โปรดปรานของพระพุทธเจ้าหลวง เฝ้ารับใช้ใกล้ชิดถึงกับเรียกพระองค์ว่า “คุณพ่อ”



ทั้งนี้จากการเสด็จประพาสจังหวัดพัทลุงในปี พ.ศ. ๒๔๔๗ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์จะได้ลูกเงาะมาชุบเลี้ยงไว้สักคนหนึ่ง โดยไม่ให้มีการบังคับจับกุม หลวงทิพกำแหง ผู้รั้งราชการเมืองพัทลุง จึงรับหน้าที่สนองพระราชประสงค์ และบอกต่อไปยัง นายสินนุ้ย ผู้ใหญ่บ้านที่คุ้นเคยกับพวกเงาะดี ในที่สุดก็เห็นว่ามีเงาะกลุ่มหนึ่งกำลังจะโยกย้ายที่อยู่ ในกลุ่มนี้มีเด็กผู้ชายอายุ ๑๐ ขวบอยู่คนหนึ่งชื่อ “คนัง” กำพร้าพ่อแม่ และจะต้องได้รับความลำบากในการเคลื่อนย้าย เพราะไม่มีใครดูแลอุปการะ แต่การเกลี้ยกล่อมให้สมัครใจคงไม่สำเร็จแน่ จะต้องใช้วิธีหลอกล่อจับตัว จึงมอบหมายให้นายยาง หรือยัง เงาะด้วยกันเป็นผู้รับหน้าที่นี้



วันหนึ่งขณะคนังไปเที่ยวป่ากับ “ไม้ไผ่” เพื่อนเกลอ นายยังได้ล่อหลอกให้มาดูมโนราห์ของโปรดของเงาะที่บ้าน และปรนเปรออาหารเสียอิ่มแปล้ คนังง่วงนอนหลับไป นายยังจึงได้โอกาสอุ้มไปให้ผู้ใหญ่สินนุ้ยนำตัวไปถวาย



คนังตื่นขึ้นมาก็พบว่ากำลังอยู่ในเต็นท์ที่หลวงทิพกำแหงไปนอนรอรับ ไม่ใช่ทับที่พำนักของตัว ก็ร้องไห้แผลงฤทธิ์ดิ้นหนี หลังจากปลอบประโลมจนคนังคลายความตื่นตระหนกเลิกร้องไห้แล้ว แต่ก็ยังดิ้นรนที่จะกลับไปสู่ถิ่นให้ได้ หลวงทิพกำแหงพยายามปลอบขวัญตลอดเวลาที่นั่งหลังช้างมาด้วยกัน คนังก็ยังตื่นกลัวไม่รู้ว่ากำลังถูกพาตัวไปไหน แม้จุดหมายปลายทางจะเป็นสถานที่ที่ทำให้ชีวิตของเขาได้พบกับความเริดหรูเฟื่องฟูยิ่งกว่าเงาะคนใดจะได้รับ



เมื่อมาถึงวังหลวง มีพิธีทำขวัญคนังกันอย่างเอิกเกริก มีพราหมณ์มาอ่านคาถาทำขวัญ ลั่นฆ้องสนั่นสามรา คนังได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีและเข้มงวดกวดขันในด้านสุขภาพ เพราะเกรงกันว่าจะเจ็บป่วยจากการผิดน้ำผิดอากาศที่เปลี่ยนจากป่ามาสู่เมือง มีพี่เลี้ยงถึง ๒ คนช่วยอาบน้ำแต่งตัว หัดให้ใช้ช้อนส้อมกินข้าวและภาษาพูด แต่คนังก็ไม่ได้เจ็บป่วยแต่อย่างใด



พระองค์เจ้าสายสวรีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฎ พระอรรคชายา ทรงเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูคนังด้วยความรัก ฝึกสอนให้รู้จักระเบียบต่างๆของราชสำนัก เพราะคนังจะต้องอยู่ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทพระพุทธเจ้าหลวงในฐานะมหาดเล็กพิเศษ ซึ่งพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชหัตถเลขาไปถึงเจ้าพระยายมราช สมุหเทศาภิบาลมณฑลนครศรีธรรมราช เกี่ยวกับพระเมตตาของพระอรรคชายาที่มีต่อคนังว่า



“...อ้ายคนังตั้งแต่มายังไม่เจ็บเลย เจ้าสาย (กรมพระสุทธาสินีนาฎ) นั้นหลงรักเหลือเกินทีเดียว เพราะมันไม่ได้ไปเที่ยวข้างไหนเลย อยู่แต่บนเรือน ช่างประจบด้วยความรู้ความประมาณตัวเองในสันดาน ทั้งถือตัวว่าเป็นลูก ก็พูดอยู่เสมอว่าลูกข้า ไม่ได้ไว้ตัวเทียบเจ้านายลูกเธอ รักแลนับถือไม่เลือกว่าใคร ไว้ตัวเองเสมอหม่อมเจ้า ไม่มีใครสั่งสอนเลย”



เมื่อได้รับการดูแลและพระเมตตาจากพระอรรคชายาเช่นนี้ คนังจึงเรียกท่านว่า “คุณแม่” เรียกพระเจ้าอยู่หัวว่า “คุณพ่อหลวง” และเรียกสมเด็จหญิงเล็ก หรือสมเด็จเจ้าฟ้านิภานภดลว่า “คุณพี่”



ชีวิตในรั้ววังชั้นในของคนังแตกต่างจากชีวิตในป่าเมืองพัทลุงอย่างสิ้นเชิง แต่คนังก็ปรับตัวรับสภาพใหม่ได้อย่างมีความสุข ทำตัวให้เป็นที่รักใคร่เอ็นดูของคนทั่วไป

พระราชหัตถเลขาถึงเจ้าพระยายมราชได้กล่าวตอนหนึ่งอีกว่า



“...การที่แสดงกิริยาเศร้าโศกเวลาพูดถึงบ้านอย่างแต่ก่อนไม่มี ด้วยว่ารู้จักคนกว้างขวาง ตั้งแต่เจ้านาย ข้าราชการผู้ใหญ่ลงไปจนถึงผู้น้อย ทั้งข้างหน้าข้างใน เขาแสดงความเมตตาเล่นหัวได้ทั่วไป อยู่ข้างจะเพลิดเพลินมาก อดนอนก็ทน แลคุณสมบัติในส่วนตัวซึ่งได้สังเกตแต่แรกไม่มีเสื่อมทรามลงไปคือ ตาไว ความคิดเร็ว จงรักภักดีมาก กตัญญูมาก นับว่าเป็นเฟเวอริตของราชสำนักนี้ได้...”



เครื่องแต่งตัวชุดมหาดเล็กพิเศษของคนังออกแบบใหม่โดยเฉพาะ เป็นสีแดงสด อันเป็นสีโปรดของเงาะทั่วไป ตามเสด็จฯไปทุกหนทุกแห่งเป็นที่สะดุดตา เพราะชุดสีแดงคนแต่งตัวดำ ยิ้มเห็นฟันขาว



พระพุทธเจ้าหลวงได้ทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่อง “เงาะป่า” ขึ้นในปี พ.ศ.๒๔๔๘ ซึ่งในคำนำของบทละครเรื่องนี้ทรงอธิบายไว้ว่า



“...ส่วนศัพท์ภาษาก็อยู่ไล่เลียงจากอ้ายคนังทั้งนั้น แต่ไม่ใช่เลียงขึ้นสำหรับหนังสือเล่มนี้ ได้ชำระกันแต่แรกมาเพื่อจะอยากรู้รูปภาษาว่ามันเป็นอย่างไร แต่คำให้การนั้นได้มากแต่เรื่องนก หนู ต้นไม้ รากไม้ เพราะมันยังเป็นเด็ก...”



ทรงให้ โรเบิร์ต เลนซ์ ช่างภาพฝรั่ง ถ่ายรูปคนังในเครื่องแต่งกายชุดต่างๆ ซึ่งคนังก็ชอบใจมากที่เห็นรูปของตัวเองและคิดถึงญาติพี่น้องในป่าที่จากมา ไม่รู้ว่าย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่ไหนกันบ้าง อยากจะส่งรูปเหล่านี้ไปให้ดู เพื่อจะอวดว่าเดี๋ยวนี้เขาโตขึ้นและโก้ขึ้นมาก ทั้งไม่เจ็บไข้ได้ป่วยเลย



พระพุทธเจ้าหลวงก็ทรงรับเป็นพระธุระจัดการให้มหาดเล็กคนโปรด โดยมีพระราชหัตถเลขาไปถึงเจ้าพระยายมราชพร้อมด้วยรูปของคนัง



“...ด้วยอ้ายคนังฝากรูปไปให้พี่น้อง ได้ส่งออกมาด้วยแล้ว ถ้ามีช่องทางที่ใครไปตรวจราชการที่นั้น ขอให้นำส่งให้มันด้วย...”



จะมีใครในแผ่นดินที่ทำได้เช่นนี้ นี่คือวาสนาของเงาะป่าที่ชื่อ คนัง แห่งเมืองพัทลุง



รูปของคนังไม่ว่าในชุดเงาะของบทละคร ที่ไม่ต้องใส่หัวเงาะเหมือนคนอื่น หรือในท่าอื่นๆ ได้รับความสนใจจากคนทั่วไปมาก พระพุทธเจ้าหลวงจึงให้นำออกจำหน่ายเป็นการกุศลในงานประจำปีของวัดเบญจมบพิตร ซึ่งเป็นงานใหญ่ในยุคนั้น ทรงมีพระราชหัตถเลขาถึงเจ้าพระยายมราชในเรื่องนี้ว่า



“...บัดนี้ได้ส่งรูปอ้ายคนังที่ขายเมื่องานวัด (เบญจมบพิตร) มีคนชอบมาก เดิมพิมพ์ขึ้นไว้แค่ ๒๓๐ เร่งกันให้พิมพ์ในเวลางาน กระดาษเหลือเท่าใดก็ได้พิมพ์อีกสัก ๓๐-๔๐ รูปขายไม่ทัน ยังหาซื้อกันเรื่อยอยู่จนเดี๋ยวนี้ อีกรูปหนึ่งนั้นได้ถ่ายในวันก่อนเริ่มงาน ด้วยนึกว่าฝรั่งจะไม่เข้าใจเรื่องเงาะ จึงได้ถ่ายรูปแต่งธรรมดาก็ถูกต้อง ฝรั่งชอบรูปนั้นมากกว่ารูปที่แต่งเป็นเงาะ ขายในเวลางานแผ่นละ ๓ บาท ได้เงิน ๑,๐๐๐ บาทเศษ แบ่งออกเป็นสามส่วน ให้วัดส่วนหนึ่ง เป็นค่ากระดาษค่าน้ำยาส่วนหนึ่ง เป็นของอ้ายคนังส่วนหนึ่ง ได้เงินส่วนอ้ายคนังเกือบ ๔๐๐ บาท เดี๋ยวนี้สมบัติอ้ายคนังมีกว่า ๔๐๐ บาทขึ้นไปแล้ว ถ้าอยู่ไปจนแก่เห็นจะมีเงิน เพราะมันไม่ได้ใช้เลย.....”



ในพระราชหัตถเลขา อีกตอนได้กล่าวไว้ว่า

“...เสียแต่อย่างไรๆ ก็ยังนับเงินไม่ถูกอยู่เช่นนั้นเอง หนังสือเห็นจะพอสอนง่ายกว่าเลข เลขนั้นดูเหมือนไม่มีกิฟสำหรับชาติมันทีเดียว ได้ลองให้ขายของ ซ้อมกันอยู่หลายวัน ก็ยังรางๆอยู่เช่นนั้น สาเหตุนั้นด้วยมันไม่รู้จักรักเงิน ยังไม่รู้เลยว่าเงินมีราคาอย่างไรจนเดี๋ยวนี้...”



ต่อมายังทรงให้คนังถ่ายรูปในชุดตามเสด็จเต็มยศ อัดจำหน่ายในราคารูปละ ๑๐ บาท ซึ่งพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชบริพารซื้อกันมาก เงินที่ได้โปรดฯให้นำไปบำรุงการกุศลวัดวาอารามต่างๆ



การมีส่วนร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลหาเงินเจ้าวัดด้วยการขายรูปตัวเองนี้ เป็นกุศลส่งให้คนังเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าอยู่หัว ได้รับความรักใคร่เอ็นดูจากเจ้านายและข้าราชบริพารทั่วไป เป็นมหาดเล็กที่เด่นที่สุดของราชสำนัก ชีวิตของคนังได้รับความสุขความอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยมีชาวป่าชาวดอยคนใดจะได้รับ



แม้พระพุทธเจ้าหลวงจะทรงโปรดคนังเพียงไร แต่เมื่อคนังอายุเข้า ๑๔ ปีก็ไม่สามารถจะอยู่ในพระราชวังต่อไปได้ ต้องออกไปอยู่ข้างนอกเหมือนผู้ชายคนอื่นๆ พระเจ้าอยู่หัวทรงฝากคนังไว้กับพระยาบุรุษรัตนราชพัลลภให้เป็นผู้เลี้ยงดูต่อ โดยคนังจะต้องมาเข้าเวรมหาดเล็กเช่นเคย



โลกอิสระภายนอกวังทำให้ชีวิตคนังเปลี่ยนไปอีกแบบ ประกอบกับเริ่มเป็นหนุ่ม ทั้งยังมีฐานะการเงินระดับขุนนางทีเดียว ที่ “คุณพ่อหลวง”ว่าคนังยังไม่รู้เลยว่าเงินมีราคาอย่างไร ก็เริ่มรู้ คนังจึงท่องราตรีไปตามสถานเริงรมย์ต่างๆ ที่มีอยู่ในสมัยนั้น คบเพื่อนประเภทเสเพล ที่สำคัญคือ เริ่มรักผู้หญิง



ชีวิตสนุกสนานนอกวังยามราตรี ทำให้คนังเพลิดเพลินลุ่มหลงจนถึงขั้นทิ้งการเข้าเวร พระเจ้าอยู่หัวทรงกริ้วในความเหลวไหลของคนัง แม้จะทรงเมตตาอย่างไรคนังก็ต้องได้รับโทษตามกฎระเบียบ คนังจึงถูกลงพระอาญา รับสั่งให้เฆี่ยนต่อหน้าข้าราชบริพาร เพื่อมิให้กระทำความผิดเช่นนี้อีก


ชีวิตของคนังเริ่มเฉาและตกต่ำลงเมื่อพระพุทธเจ้าหลวงสวรรคต คนังท่องเที่ยวตามอำเภอใจ แม้พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชบริพารทั้งหลายยังคงให้ความเมตตาแก่คนังเช่นเดิม แต่คนังใจแตกเสียแล้ว เที่ยวเตร่และคบเพื่อนเสเพลมากขึ้น มีเรื่องผู้หญิงมาเกี่ยวพันมากขึ้น จนกระทั่งต้องจบชีวิตลงในวัยหนุ่มกำดัดนั้นเอง



สาเหตุการตายของคนังไม่ปรากฏชัด บ้างก็ว่าเขาเสียชีวิตเพระโรคร้ายที่ติดมาจากผู้หญิงเสเพล


บ้างก็ว่า แม้คนังจะแสดงเป็นเงาะในบทพระราชนิพนธ์เรื่อง “เงาะป่า” โดยไม่ต้องใส่หัวเงาะเช่นคนอื่น แต่เขาก็ไม่อาจถอดรูปเงาะเป็นพระสังข์ได้ ฉะนั้นยากที่จะหารจนามาเสี่ยงพวกมาลัยให้ คนังจึงต้องปีนบ้านขึ้นไปหารจนาในยามวิกาล แต่นางก็ไม่เล่นด้วยและร้องโวยวายขึ้น คนังจึงโดนทั้งไม้พลองกระบองสั้นจนซมซานไปด้วยความบอบช้ำ



ไหนจะช้ำทั้งกายช้ำทั้งใจ ในที่สุด คนัง เงาะที่ทะยานจากป่ามาสู่ราชสำนักด้วยแรงวาสนา ก็สิ้นวาสนาไปก่อนวัยอันควร เหลือไว้เพียงตำนานให้เล่าขานกันถึง ซึ่งเป็นหนึ่งเดียวของคนป่าเผ่าซาไก ที่ได้มาเป็นมหาดเล็กพิเศษคนโปรดของสมเด็จพระปิยะมหาราช


ที่มา :http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9580000114192

 

พุทธศาสนาแพร่กระจายในฝรั่งเศส

 

News1


นับตั้งแต่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามายึดอำนาจ เมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 “แกนนำคนเสื้อแดง” หลายชีวิตเลือกที่จะระเหเร่ร่อนไปใช้ชีวิตในต่างแดน มากกว่าการอยู่ในบ้านเกิดเมืองนอน บ้างก็อ้างอุดมการณ์ “ต่อต้านเผด็จการ” บ้างก็มีชนักปักหลังเป็น “คดีร้ายแรง” จึงอาศัยจังหวะชุลมุนเตลิดไปไขว่คว้าสถานะ “ผู้ลี้ภัย” หวังเสพสุขที่เมืองนอก แทนการติดคุกตารางในเมืองไทย หรือบางส่วนไม่ได้ถูกเพ่งเล็งอะไรมากมาย แต่ก็เฮโลไปกับเขาด้วย หวังใช้สถานการณ์ “สร้างโปรไฟล์” ความเป็นฝ่ายประชาธิปไตยให้เด่นชัดมากขึ้น

http://news1live.com/detail.aspx?NewsID=9610000104442


● อีกช่องทางติดตาม NEWS1

Line : https://line.me/R/ti/p/@news1

Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO