ติดตามสถานะการณ์

Manuel Barrera‎ ถึง Catástrofes Mundiales - Grupo de Facebook - Oficial - Únanse



ไฟไหม้ป่าใหม่ใกล้ทางหลวง 118 ใน #simivalley, #แคลิฟอร์เนีย (12 พ. ย. 2018)

 

Manuel Barrera‎ ถึง Catástrofes Mundiales - Grupo de Facebook - Oficial - Únanse



ทะเลทรายของ #saudiarabia ปกคลุมไปใน #ลูกเห็บ (12 พ. ย. 2018)

 

ซาอุดีฯต้องการให้ลดการผลิตน้ำมันลง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เผยแพร่: 13 พ.ย. 2561 01:59 โดย: แอลิสัน ทาห์มิเซียน เมอุส


รัฐมนตรีพลังงานของยูเออี ซูฮาอิล โมฮัมเหม็ด ฟารัจ อัล-มัซรูอี (ซ้าย), รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย คอลิด อัล-ฟาลีห์ (กลาง), และเลขาธิการองค์การโอเปก โมฮัมเหม็ด บาร์คินโด (ขวา) ขณะเข้าร่วมงานการประชุมและนิทรรศการน้ำมันปิโตรเลียมระหว่างประเทศอาบูดาบี (ADIPEC) เมื่อวันจันทร์ (12 พ.ย.) ที่เมืองหลวงของยูเออี

(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

Saudi Arabia seeks 1 million bpd cut in oil production
By Alison Tahmizian Meuse
12/11/2018

คอลิด อัล-ฟาลีห์ รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบีย บอกว่าประเทศของเขาจะเป็นผู้นำเพื่อให้ชาติผู้ผลิตน้ำมันทั่วโลก ลดการผลิตลง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เขาออกมาเรียกร้องเช่นนี้หลังจากสหรัฐฯทำให้พวกพันธมิตรเซอร์ไพรซ์ ด้วยการยินยอมผ่อนปรนหลายชาตินำเข้าน้ำมันอิหร่านได้ต่อไป

รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย คอลิด อัล-ฟาลีห์ (Khalid al-Falih) กล่าวในวันจันทร์ (11 พ.ย.) ว่า เหล่าผู้ผลิตน้ำมันทั่วโลกอาจจะต้องลดการผลิตลงมา 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และประเทศของเขาเองจะเป็นผู้นำในเรื่องนี้

ขณะที่พูดในการประชุมด้านพลังงาน ซึ่งจัดขึ้นในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ฟาลีห์ ที่เวลานี้ถึงรอบหมุนเวียนขึ้นนั่งเป็นประธานขององค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) บอกว่า ซาอุดี อารามโค (Saudi Aramco) รัฐวิสาหกิจด้านน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย ให้คำมั่นสัญญาจะตัดลดการผลิตลง 500,000 บาร์เรลต่อวัน เริ่มตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป

ทางด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า คอลิด อัล-ฟาลีห์ ได้บอกกับที่ประชุมของคณะกรรมการระดับรัฐมนตรีชุดหนึ่งของรัฐโอเปกและรัฐผลิตน้ำมันที่อยู่นอกโอเปก ณ กรุงอาบูดาบี เมืองหลวงของยูเออี ว่า “เราจำเป็นต้องลดลงมาให้ได้ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อทำให้ตลาดเกิดความสมดุล”

คณะบริหารทรัมป์นั้นประกาศในสัปดาห์ที่แล้วว่า จะยินยอมผ่อนปรนให้ 8 ประเทศและดินแดน ยังคงสามารถนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านต่อไปได้ โดยที่ในนี้มีทั้งชาติซึ่งซื้อน้ำมันอิหร่านเป็นปริมาณมากๆ อย่าง จีน, อินเดีย, และตุรกี

ซาอุดีอาระเบีย ผู้เป็นพันธมิตรสำคัญรายหนึ่งของสหรัฐฯ ได้เคยให้สัญญาก่อนหน้านี้ว่าจะผลิตน้ำมันดิบเพิ่มมากขึ้น เพื่อทดแทนชดเชยส่วนที่จะขาดหายไปจากการที่อิหร่านถูกวอชิงตันขึ้นบัญชีดำไม่ให้ส่งออก รวมทั้งไม่ให้ประเทศหรือดินแดนอื่นๆ ซื้อหาด้วย

“การที่อเมริกาขอร้องซาอุดีอาระเบียและประเทศโอเปกอื่นๆ ก็เพื่อให้แน่ใจว่าหากมีซัปพลายใดๆ หดหายไปจากอิหร่านแล้ว เราก็จะเป็นผู้ซัปพลายส่วนนั้น และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น” เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (Mohammed bin Salman) มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย ตรัสกับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bloomberg.com/news/arti...e-to-trump-we-ve-replaced-all-iran-s-lost-oil)

ราชอาณาจักรแห่งนี้ไม่ได้ทราบเรื่องที่จะมีการผ่อนปรนนี้มาก่อนเลย สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวหลายรายทั้งในวงการอุตสาหกรรมน้ำมันและในประเทศโอเปก (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.cnbc.com/2018/11/11/sau...t-oil-output-after-us-waivers-hit-prices.html) ในเวลาเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบก็ได้หล่นลงมาประมาณหนึ่งในห้าแล้วนับตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม

ฟาลีห์บอกว่า การตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับการลดผลิตน้ำมันนี้ จะมีการโหวตกันในระหว่างการประชุมระดับรัฐมนตรีของโอเปกครั้งต่อไป ซึ่งกำหนดจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของทางองค์การ ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย วันที่ 6 ธันวาคมนี้

“สำหรับตอนนี้เรายังไม่ควรตัดสินใจอย่างรีบร้อนใดๆ” รัฐมนตรีพลังงานรัสเซีย อเล็กซานเดอร์ โนวัค (Alexander Novak) บอกกับซีเอ็นบีซี (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.cnbc.com/2018/11/11/rus...-market-volatility-could-be-here-to-stay.html)

มอสโกนั้นเป็นผู้นำของกลุ่มรัฐผลิตน้ำมันนอกโอเปก ซึ่งกำลังร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับทางองค์การ นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2016 แล้ว ในลักษณะของการเป็นหุ้นส่วนกันซึ่งมีจุดมุ่งหมายแต่เริ่มแรกในการลดทอนภาวะซัปพลายล้นเกิน จนทำให้น้ำมันราคาตก

การประชุมระดับรัฐมนตรีของโอเปกและผู้ผลิตนอกโอเปกครั้งต่อไป จะมีขึ้นในเวียนนาวันที่ 4 ธันวาคม หรือ 1 วันก่อนการหารือของโอเปกเอง

“เราจำเป็นต้องจับตาดูสถานการณ์ด้วยความระมัดระวังมาก เพื่อมองให้ออกว่ามันจะพัฒนาไปอย่างไร เราจะได้ไม่ต้องจบลงด้วยการเปลี่ยนแปลงเส้นทางของพวกเราแบบ 180 องศากันทุกๆ เดือน” โนวัค กล่าว

https://mgronline.com/around/detail/9610000113025

 

น้ำมันลงแม้ซาอุฯหวังโลกลดกำลังผลิต,ทองทรุด ดาวโจนส์ดิ่ง600จุดตามแรงฉุดแอปเปิล
เผยแพร่: 13 พ.ย. 2561 05:29 ปรับปรุง: 13 พ.ย. 2561 05:31 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี/รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์ - ราคาน้ำมันแกว่งตัวสู่แดนลบในวันจันทร์(12พ.ย.) หลังซาอุดีอาระเบียเผยต้องการให้โลกลดกำลังผลิตลง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนวอลล์สตรีทดิ่งหนักจากแรงฉุดของแอปเปิล ขณะที่ทองคำก็ปรับลดเช่นกัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 26 เซ็นต์ ปิดที่ 59.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 6 เซ็นต์ ปิดที่ 70.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันมีขึ้นหลังจากโอเปกและพันธมิตรส่งสัญญาณแบบไม่เต็มใจนักว่ามีความตั้งใจจะลดกำลังผลิตลงท่ามกลางอุปทานโลกที่สูงลิ่ว

ผู้แทนของซาอุดีอาระเบียระบุเมื่อวันอาทิตย์(11พ.ย.) ว่าประเทศของพวกเขาจะลดกำลังส่งออกฝ่ายเดียวในเดือนหน้า ในขณะที่พันธมิตรโอเปกเกิดการโต้เถียงอย่างกว้างขวางและไม่เห็นด้วยต่อการลดกำลังผลิตร่วม

คอลิด อัล-ฟาลีห์ รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบีย ได้บอกกับที่ประชุมของคณะกรรมการระดับรัฐมนตรีชุดหนึ่งของรัฐโอเปกและรัฐผลิตน้ำมันที่อยู่นอกโอเปก ณ กรุงอาบูดาบี เมืองหลวงของยูเออี ว่า "เราจำเป็นต้องลดลงมาให้ได้ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อทำให้ตลาดเกิดความสมดุล"

ฟาลีห์ บอกต่อว่า "หากอุปทานและอุปสงค์อยู่ในระดับปัจจุบันไม่เปลี่ยนแปลง โอเปกและพันธมิตรผลิตอื่นๆที่นำโดยรัสเซีย จำเป็นต้องลดกำลังผลิตลงราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ซาอุดีอาระเบีย ผู้เป็นพันธมิตรสำคัญรายหนึ่งของสหรัฐฯ เคยให้สัญญาก่อนหน้านี้ว่าจะผลิตน้ำมันดิบเพิ่มมากขึ้น เพื่อทดแทนชดเชยส่วนที่จะขาดหายไปจากการที่อิหร่านถูกวอชิงตันขึ้นบัญชีดำไม่ให้ส่งออก รวมทั้งไม่ให้ประเทศหรือดินแดนอื่นๆ ซื้อหาด้วย

อย่างไรก็ตามความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นหลังจากคณะบริหารของประธานาธิบดี ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯนั้นประกาศในสัปดาห์ที่แล้วว่า จะยินยอมผ่อนปรนให้ 8 ประเทศและดินแดน ยังคงสามารถนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านต่อไปได้ โดยที่ในนี้มีทั้งชาติซึ่งซื้อน้ำมันอิหร่านเป็นปริมาณมากๆ อย่าง จีน, อินเดีย, และตุรกี

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบหนักในวันจันทร์(12พ.ย.) โดยดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 600 จุด ขณะที่เอสแอนด์พี 500 ถูกฉุดโดยกลุ่มเทคโนโลยีและสถาบันการเงิน ท่ามกลางแรงกดดันที่มีต่อหุ้นของแอปเปิลและโกลด์แมน แซคส์

ดาวโจนส์ ลดลง 602.12 จุด (2.32 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,387.18 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 54.79 จุด (1.97 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,726.22 จุด แนสแดค ลดลง 206.03 จุด (2.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,200.87 จุด

หุ้นของแอปเปิลร่วงลง 4.7% หลังจากเหล่าซัพพลายเออร์ของบริษัท ในนั้นรวมถึงลูเมนทัม โฮลดิง อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเลเซอร์ที่สามารถจับภาพ 3 มิติในฟีเจอร์ faceID ที่ใช้ในการผลิต iPhone ประกาศปรับลดแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2 ของปีหน้า โดยระบุว่า หนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของบริษัทได้ประกาศลดคำสั่งซื้ออุปกรณ์ดังกล่าว

รายงานนี้ได้สร้างความกังวลเกี่ยวกับยอดขายของ iPhone รุ่นล่าสุดของแอปเปิลในช่วงที่ช่วงเทศกาลวันหยุดใกล้มาถึง ขณะที่สำนักข่าวนิกเกอิรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การผลิต iPhone ได้ชะลอตัวลง

อีกด้านหนึ่ง หุ้นของโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 7.2% หลังบลูมเบิร์กรายงานว่า ลิม กวนเอ็ง รัฐมนตรีคลังมาเลเซียบอกว่าประเทศของเขากำลังหาทางเรียกคืนเงินค่าธรรมเนียม 600 ล้านดอลลาร์ ที่รัฐบาลมาเลเซียจ่ายให้แก่สถาบันการเงินแห่งนี้ในการจัดตั้งกองทุน 1MDB ซึ่งพัวพันกับข่าวอื้อฉาวของการทุจริต และการติดสินบน ทั้งนี้ข่าวคราวดังกล่าวเป็นตัวเหนี่ยวรั้งสำคัญของดัชนีดาวโจนส์

โกลด์แมน แซคส์เป็นผู้ดำเนินการในการทำข้อตกลง 3 ฉบับในการออกพันธบัตรในปี 2012 และ 2013 เพื่อจัดตั้งกองทุน 1MDB โดยสามารถระดมเงินทุน 6,500 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กองทุนดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ

อย่างไรก็ดี ทางการสหรัฐฯได้กล่าวหานายทุนชาวมาเลเซียคนหนึ่งว่าได้ยักยอกเงินจากกองทุนดังกล่าว และใช้เงินบางส่วนในการจ่ายสินบนหลายร้อยล้านดอลลาร์

ถึงแม้นายทิม เลสเนอร์ ซึ่งเป็นวาณิชธนกรของโกลด์แมน แซคส์ ได้ยอมรับผิดต่อการสมรู้ร่วมคิดในการยักยอกเงินกองทุนดังกล่าว แต่โกลด์แมน แซคส์ก็ระบุว่า นายเลสเนอร์ได้ทำการหลอกลวงธนาคาร และหลบเลี่ยงการตรวจสอบของธนาคาร

ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์(12พ.ย.) ปิดลบเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแระระดับสูงสุดในรอบกว่า 17 เดือน โดยทองคำลดลง 5.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,203.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

https://mgronline.com/around/detail/9610000113035

 

Thanong Fanclub

1. จักรวรรดิถูกโดดเดี่ยว

เมื่อจักรวรรดิมาถึงยุคเสื่อม การถูกพันธมิตร หรือบริวารประเทศตีจากเป็นเรื่องธรรมดา

จำคำพูดของนักการเมืองจากภาคอีสานได้หรือไม่ ที่พูดกับนายใหญ่ที่กำลังหมดอำนาจวาสนาลงว่า "เจ้านาย มันจบแล้วครับ" ก่อนที่เขาจะลงเรือเล็กพายหนีตีจากไปเพื่อเอาตัวรอด

การเดินทางไปเยือนปารีสของประธานาธิบดีทรัมป์ในช่วงวันที่10-11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อเข้าร่วมพิธีรำลึกการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่1เมื่อ100ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นความเสื่อมของจักรวรรดิอเมริกาอย่างชัดเจน

ทรัมป์ไม่ได้มีมาดผู้นำโลกที่ ผู้นำโลกคนอื่นๆรู้สึกเกรงใจหรือเกรงขาม เหมือนที่ผ่านมา ที่ผู้นำของจักรวรรดิต้องได้รับการยกย่องเหนือผู้ใด

ทุกอย่างติดขัดไปหมดสำหรับทรัมป์ ฝนตกหนักทำให้เขามีข้ออ้างไม่ไปสุสานฝังศพทหารอเมริกันที่เสียชีวิตในสงครามโลกคร้ังที่1 เจ้าภาพเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีของฝรั่งเศสสกัดไม่ให้ทรัมป์และประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียประชุมซัมมิทที่ปารีส เพราะว่าจะเป็นการขโมยซีนของเขาไป ในขณะที่มาครงต้องการสร้างภาพว่าเขากำลังผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำของยุโรปที่ต้องการเกิดใหม่ หรือรีเฟรชตัวเอง ทรัมป์จึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับปูตินในได้แต่จับมือกันอย่างพอเป็นพิธีในงานพิธีรำลึก ที่สำคัญ มาครงตอกย้ำความริเริ่มของเขาว่า ได้เวลาแล้วที่ยุโรปจะต้องมีกองทัพเป็นของตัวเอง เพื่อที่จะปกป้องยุโรปจากภัยทางทหาร หรือความมั่นคงจากรัสเซีย จีน หรือแม้กระทั่งสหรัฐอเมริกา

ท่าทีของมาครงเหมือนกับนักการเมืองภาคอีสานบ้านเรา ที่ส่งสัญญานไปยังทรัมป์ว่า "นายจ๋า มันหมดเวลาแล้วครับ"

ยุโรปต้องการเป็นตัวของตัวเองในด้านการทหาร และความมั่นคงจะได้มีอิสระภาพ หรืออำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริงในการกำหนดนโยบายของตัวเอง ไม่ใช่ว่าจะต้องมาฟังคำสั่งของจักรวรรดิที่อยู่อีกฟากของมหาสมุทรแอตแลนติคอีกต่อหนึ่ง

ถือว่ามาครงกำลังตบหน้าจักรวรรดิ เพราะว่าเขากำลังส่งสัญญานว่า ยุโรปไม่ต้องการอยู่ร่วมกับสหรัฐอีกต่อไปภายใต้กรอบของสนธิสัญญานาโต้

ที่ผ่านมาทรัมป์เล่นลูกบลัฟฟ์มาตลอด เพราะรู้ดีว่าจักรวรรดิเข้าสู่ยุคเสื่อม อำนาจการต่อรองเริ่มง่อนแง่น เวลาใครบลัฟฟ์มากๆ คนอื่นจะดูออก ว่ามันแสดงออกถึงความอ่อนแอ กฎของการบลัฟฟ์คือทำได้เพียงครั้ง หรือ2ครั้งเท่านั้น ถ้าทำมากไปกว่านั้น คู่ต่อสู้ หรือคนอื่นจะจับไต๋ได้ เพราะว่าเป็นการเผยธาตุแท้ หรือความอ่อนแอของตัวเองออกมา

ทรัมป์บอกว่า การที่มาครงต้องการให้ยุโรปสร้างกองทัพเป็นของตัวเองเป็นท่าทีที่เหยียดหยามกันเกินไป ก่อนที่จะบลัฟฟ์มาครงว่า ก่อนอื่นขอให้ประเทศในยุโรปที่เป็นสมาชิกของนาโต้ลงขันงบประมาณด้านการทหารเทียบเท่า2%ของจีดีพีให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาว่ากัน อย่าได้ซ่าส์มากนัก เพราะว่าอเมริกาเป็นเจ้ามือจ่ายงบประมาณทางทหารเพื่อดูแลความมั่นคงให้ยุโรป

ในปี2017 จักรวรรดิใช้งบทางทหารเกือบ$700,000ล้าน หรือมากกว่าประเทศสมาชิกนาโต้ที่เหลือ27ประเทศรวมกัน ที่ผ่านมามีเพียง5ประเทศในนาโต้ที่ใช้จ่ายงบประมาณด้านการทหารเกิน2%ต่อจีดีพีคือ สหรัฐ อังกฤษ โปแลนด์ เอสโตเนีย กรีซ ส่วนฝรั่งเศสใช้จ่ายเพียง1.78%ต่อจีดีพี และเยอรมันนีเพียง1.19%

สหรัฐสร้างนาโต้เพื่อที่จะสกัดอิทธิพลของโซเวียต หรือพูดในอีกด้านหนึ่งเพื่อที่จะปิดล้อมโซเวียต และเพื่อทำลายโซเวียตในที่สุด เพราะว่าจักรวรรดิโซเวียตเข้มแข็งมากที่สุด อยู่ในฐานะที่จะเป็นใหญ่ในยูเรเซียในอนาคต จ้าวโลกต่อไปในศตวรรษที่21ต้องเป็นผู้ที่มีอำนาจเหนือยูเรเซียที่เป็นผืนแผ่นดินใหญ่ของโลกใบนี้

นาโต้มีสมาชิก28ประเทศ โดยที่สหรัฐเป็นประเทศเดียวที่อยู่นอกทวีปยุโรป ที่เหลือเป็นประเทศในยุโรปทั้งหมด ยุโรปเป็นสมรภูมิของสงครามโลกครั้งที่1และ 2มาแล้ว และคงจะไม่โง่ที่จะให้กลายเป็นสมรภูมิของสงครามอีกครั้งในการเผชิญหน้ากับรัสเซียตามที่จักรวรรดิต้องการ

ด้วยเหตุนี้ มาครงจึงเสนอให้ยุโรปดีดตัวเองจากอิทธิพลทางทหารและความมั่นคงของสหรัฐเพื่อสร้างกองทัพเป็นของตัวเอง เมื่อมีกองทัพยุโรปแล้ว นาโต้คงอาจจะต้องเป็นหมันไป เพราะว่าโครงสร้างจะทับซ้อนกัน จักรวรรดิจะถูกโดดเดี่ยวให้อยู่ภายนอกภายใต้กรอบของโครงสร้างความมั่นคงใหม่ของยุโรป เมื่อคุมยุโรปไม่ได้ จักรวรรดิจะยืนอยู่ได้อย่างอย่างไร อาการฟาดงวงฟาดงาของทรัมป์จึงมีสาเหตุด้วยประการฉะนี้

thanong
13/11/2018

 

MOREMOVE

#มอร์มูฟเป็นข่าว มาแรงจริงๆ!!! เป็นที่ถกเถียงกันในสังคมไทยรัวๆ ต่อกรณีกรรมการสภามหาวิทยาลัยต่างๆ เตรียมยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง #เหตุไม่พอใจ ประกาศ ปปช.ที่ให้ยื่นบัญชีทรัพย์สิน โดยล่าสุด 'องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ' ชี้ชัด #สาเหตุที่ระดับคุณภาพการศึกษาของไทยต่ำที่สุดในอาเซียนเพราะการคอร์รัปชั่น

รายงานของ สกอ.ระบุว่า #ปัญหาคอร์รัปชันมีผลกระทบต่อคุณภาพการศึกษาของไทย เริ่มตั้งแต่การซื้อขายตำแหน่ง ข้าราชการ-อาจารย์ที่อยากได้ตำแหน่งทางวิชาการต้องวิ่งเต้นเส้นสาย ผู้บริหารมหาวิทยาลัยอยากได้โครงการทางสภามหาวิทยาลัยก็อนุมัติ พอสภามหาวิทยาลัยอยากได้งบประมาณหรือไปดูงานต่างประเทศทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยก็อนุมัติให้เช่นกัน เรียกได้ว่า #ผลัดกันเกาหลัง ประกาศของ ปปช.ชุดนี้จึงเป็นสิ่งที่ ปปช.ต้องทำ #และได้ทำอย่างถูกต้องเหมาะสมตามกฎหมายแล้ว ดังนั้น #คงต้องมาพิจารณาถึงข้อกังวลของแต่ละคนว่าคืออะไร ที่ทำให้ไม่สามารถเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินได้!!??

Source : https://prachatai.com/journal/2018/11/79559

โดยเรื่องนี้ ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวเพิ่มเติมว่า ยอมรับกรรมการสภามหาวิทยาลัยล้วนเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จ เก่ง และเป็นคนดี แต่อย่างไรก็ตาม จากที่ปรากฏในข่าวบ่อยครั้งว่า#บางมหาวิทยาลัยมีการทุจริต เกื้อหนุนเกื้อกูลระหว่างผู้บริหารในมหาวิทยาลัยร่วมกับกรรมการสภามหาวิทยาลัย โดยเฉพาะตัวนายกสภามหาวิทยาลัย#สร้างปัญหาให้ระบบการศึกษาและงบประมาณของประเทศ ตรงนี้เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นว่าการคอร์รัปชันเป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างภาระให้กับคนไทยทุกคน #ทำให้รัฐบาลนี้ต้องออกกฎหมายสร้างมาตรการมากมายมาควบคุม ส่งผลให้คนดีได้รับความเดือดร้อนไปด้วย

อนึ่ง เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยเป็นสมาชิกอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นหลักการสากลที่ทุกประเทศสมาชิกพึงกระทำ #ในเรื่องจริยธรรมของข้าราชการที่ต้องมีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินเพื่อให้มีการตรวจสอบได้ ซึ่งในรัฐธรรมนูญและแผนการปฏิรูปประเทศด้านการต่อต้านคอร์รัปชันก็ระบุไว้ด้วย เพราะฉะนั้นใน พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้และไม่อยากให้ยกเลิกหรือแก้ไขกฎหมายดังกล่าว#เพราะจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการแก้ปัญหาคอร์รัปชันของประเทศ

“ความพยายามในการต่อต้านคอร์รัปชันที่กำหนดมาตรการ เรียกร้องความร่วมมือจากประชาชน-ข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ทำกันมาตลอดในช่วงหลายปีก็จะสูญเปล่า ประชาชนจะเริ่มคิดว่า ชนชั้นสูง-คนมีอำนาจ-คนร่ำรวยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเมื่อออกกติกาแล้วก็ได้ #เพราะพอถึงเวลาถ้าไม่ชอบก็จะไม่ยอมทำ #แล้วอย่างนี้ประชาชนจะไปให้ความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชันได้ยังไง อันนี้เป็นสิ่งที่เรากลัว และสิ่งที่จะตามมาก็คือ คนรุ่นใหม่ที่เป็นอนาคตของชาติก็จะเลือกทำในสิ่งที่เขาคิด เลือกทำในสิ่งที่มีโอกาส ตรงนั้นเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก” เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ย้ำ.

 

ข่าวฮ่องกง

โรคมือเท้าปากระบาด ฮ่องกงประกาศปิดโรงเรียนประถมบางแห่ง

เมื่อวันพุธที่ผ่านมาได้มีการประกาศปิดโรงเรียนประถม Po Leung Kuk Fong Wong Kam Chuen Primary ใน Tuen Mun ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 6 เป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังพบว่ามีการระบาดของโรคมือปากเท้าในโรงเรียน จนทำให้มีเด็กนักเรียนชาย 9 คนเจ็บป่วย และหนึ่งในนั้นอยู่ในขั้นวิกฤติ

ฝ่ายสาธารณะสุข เมื่อกลางดึกวันพุธที่ผ่านมาเด็กชายวัย 11 ปีที่มีประวิติสุขภาพดี มีไข้ ไอ และน้ำมูกไหลตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม และเขาได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล Tuen Mun เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน

ในเวลาต่อมาพบว่าเด็กชายป่วยจากการติดเชื้อ EV71 ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมือปากเท้า และทำให้เกิดการระบาดไปที่เด็กชายอีก 8 คน อายุ 11-12 ปี ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม ทั้งนี้อาการพวกเขาไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงและไม่จำเป็นต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล

Source : https://www.facebook.com/355665009819/posts/10156755008324820/

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

IEA ชี้ ‘ก๊าซธรรมชาติ’ จะกลายเป็นแหล่งพลังงานอันดับ 2 ของโลกรองจากน้ำมันภายในปี 2030 เผยแพร่: 13 พ.ย. 2561 10:09 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ - องค์การพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency - IEA) ระบุวันนี้ (12 พ.ย.) ว่าก๊าซธรรมชาติจะแซงหน้าถ่านหินกลายเป็นแหล่งพลังงานอันดับ 2 ของโลกรองจากน้ำมันภายในปี 2030 เนื่องจากกระแสการรณรงค์ลดมลพิษในอากาศ รวมถึงความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่เพิ่มสูงขึ้น

ไออีเอซึ่งมีฐานที่กรุงปารีสได้เผยแพร่รายงานแนวโน้มพลังงานโลก (World Energy Outlook 2018) ซึ่งระบุว่า อุปสงค์พลังงานจะเพิ่มขึ้นเกิน 1 ใน 4 ระหว่างปี 2017 จนถึง 2040 โดยตัวเลขนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าทั่วโลกใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่หากไม่มีพัฒนาการดังกล่าว อุปสงค์พลังงานจะเพิ่มเป็น 2 เท่าของที่คาดการณ์

ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติจะเพิ่มขึ้นราวๆ 1.6% ต่อปีจนกระทั่งถึงปี 2040 ซึ่งจะมากกว่าระดับปัจจุบัน 45%

ไออีเอได้นำเสนอ ‘New Policies Scenario’ ซึ่งได้จากการพิจารณากฎหมายและนโยบายในการลดก๊าซเรือนกระจกและต่อสู้ความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และตั้งสมมติฐานว่าทั่วโลกใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นทั้งในด้านเชื้อเพลิง การก่อสร้าง และอื่นๆ

“ก๊าซธรรมชาติคือเชื้อเพลิงฟอสซิลที่เติบโตเร็วที่สุดใน New Policies Scenario โดยจะขยับแซงหน้าถ่านหินกลายเป็นแหล่งพลังงานอันดับ 2 รองจากน้ำมันภายในปี 2030” รายงานระบุ

จีนซึ่งเป็นชาติที่นำเข้าน้ำมันและถ่านหินมากที่สุดในปัจจุบันจะกลายเป็นผู้นำเข้าก๊าซธรรมชาติเบอร์ 1 โดยจะมีปริมาณการนำเข้าสุทธิเทียบเท่าสหภาพยุโรป (อียู) ภายในปี 2040 ตามคาดการณ์ของไออีเอ

จากการคำนวณของรอยเตอร์ซึ่งอาศัยข้อมูลของสำนักงานศุลกากรจีนพบว่า เวลานี้จีนได้กลายเป็นประเทศที่นำเข้าก๊าซธรรมชาติมากที่สุดในโลก แซงหน้าญี่ปุ่นไปเรียบร้อยแล้ว

แม้จีนจะใช้ก๊าซธรรมชาติมากเป็นอันดับ 3 รองจากสหรัฐฯ และรัสเซีย แต่กลับต้องนำเข้าก๊าซถึง 40% ของความต้องการทั้งหมด เนื่องจากกำลังผลิตในประเทศยังไม่เพียงพอ

กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียจะมีส่วนกระตุ้นการเติบโตของอุปสงค์ก๊าซธรรมชาติราวๆ ครึ่งหนึ่ง และปริมาณการนำเข้า LNG จะเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 60% ภายในปี 2040

กำลังผลิตก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นจะมาจากสหรัฐฯ 40% ภายในปี 2025 และจะเริ่มถูกแทนที่จากแหล่งอื่นๆ เนื่องจากกำลังผลิตก๊าซธรรมชาติจากหินดินดาน (shale gas) ลดลง ขณะที่ประเทศอื่นๆ เริ่มหันไปใช้วิธีการผลิตก๊าซนอกแบบ เช่น hydraulic fracturing หรือ ‘แฟรกกิ้ง’ กันมากขึ้น

ไออีเอยังคาดว่าความต้องการพลังงานไฟฟ้าทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 2.1% ต่อปี โดยมีปัจจัยสำคัญจากการใช้ไฟฟ้าในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่

การใช้ถ่านหินจะลดลงจาก 40% ในปัจจุบันเหลือเพียง 25% ภายในปี 2040 ขณะที่การใช้ประโยชน์จากแหล่งพลังงานซึ่งนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (renewable) จะเพิ่มจาก 25% ในขณะนี้กลายเป็นกว่า 40% ในช่วงเวลาเดียวกัน

สำหรับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้นราว 10% จากระดับเมื่อปี 2017 เป็น 36 กิกะตันในปี 2040 ซึ่งเกิดจากอุปสงค์น้ำมันและก๊าซที่เพิ่มขึ้น

https://mgronline.com/around/detail/9610000113081

 

In Pics: ไฟป่าแคลิฟอร์เนีย ยอดดับพุ่ง 42 ราย ร่วม 200 สูญหาย อพยพอีกหลายแสน “เมืองพาราไดซ์” ย่อยยับในกองเพลิง
เผยแพร่: 13 พ.ย. 2561 12:56 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเจนซีส์ – ยอดเสียชีวิตรวมจากเหตุการณ์ไฟป่ารัฐแคลิฟอร์เนียล่าสุด 42 ราย และยังมีคนสูญหายอีก 228 คน หลังจากที่ไฟป่า 3 ลูกใหญ่ทั่วทั้งรัฐยังคงลุกโหมอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าอาจมีคนจำนวนมากถึง 250,000 คนต้องถูกสั่งอพยพ ส่วนเมืองพาราไดซ์(Paradise) ทางเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียพังย่อยยับ 90% ของประชากรที่อาศัยทั้งหมดร่วม 26,000 คนเสียบ้านไปกับกองเพลิง

RT รายงานวันนี้(13 พ.ย)ว่า มีการค้นพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 13 รายล่าสุดจากไฟป่าแคมป์(Camp Fire) ในเมืองพาราไดซ์ (Paradise) ในวันจันทร์(12) ส่งผลทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 42 ราย และส่งผลทำให้กลายเป็นไฟป่าที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์

สื่อNBC NEWS ชี้ว่า ในเวลานี้ไฟป่าแคมป์เผาผลาญไปแล้วร่วม 113,000 เอเคอร์ แต่ทว่าทางเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมได้แค่ 25% เท่านั้น

เมืองพาราไดซ์ที่มีประชากรอาศัย 26,000 คนตั้งอยู่ห่างทางเหนือของซาคราเมนโต(Sacramento) ไปราว 145 ก.ม ต้องพังพินาจย่อยยับทั้งเมืองในกองเพลิง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชี้ว่า ***ประชากร 90% ของเมืองได้เสียบ้านไปกับกองเพลิง***และตัวเลขผู้เสียชีวิตคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น

NBC NEWS รายงานว่า หลังจากไฟป่าเกิดขึ้นที่บัตต์ เคาน์ตี(Butte County) ทางเหนือของซาคราเมนโต ในวันอาทิตย์(11) พบว่ามีตัวเลขผู้สูญหายอยู่ที่ 228 ราย

สื่อรัสเซียชี้ว่า มีการคาดว่าคนจำนวน 250,000ล้านคนต้องหนีออกจากบ้านของตนเองเนื่องมาจากไฟป่าที่เกิดขึ้นทั่วทั้งรัฐ

ซึ่งลมแรงหมายความว่าจะส่งทำให้เปลวไฟป่ามีความรุนแรงขยายพื้นที่มากขึ้นภายในวันอังคาร(13) ซึ่งมาถึงเวลานี้พบว่าไฟป่าแคลิฟอร์เนียได้เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วโดยรวมราว 1,040 ตารางกิโลเมตร และเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าจำนวน 8,000 นายยังไม่สามารถควบคุมไว้ได้

ซึ่งผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เจอร์รี บราวน์ (Jerry Brown) ต้องการให้ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งประกาศภาวะฉุกเฉินในรัฐแคลิฟอร์เนียเพื่อที่จะเป็นการปลดล็อกเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ

แต่ทว่าในวันเสาร์(10) ทรัมป์ได้ใช้ทวิตเตอร์แถลงตำหนิรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยอ้างว่าปัญหาไฟป่าที่ลุกลามเนื่องมาจาก “ปัญหาการจัดการป่าไหม้ที่ย่ำแย่ของทางรัฐ” พร้อมยังข่มขู่ว่า หากทางรัฐแคลิฟอร์เนียไม่แก้ไข ทางรัฐบาลกลางจะไม่ให้การช่วยเหลือ ส่งผลทำให้ฮาโรลด์ เชตเบอร์เกอร์(Harold Schaitberger)ประธานสมาพันธ์นักดับเพลิงนานาชาติ IAFFออกมาตำหนิการแสดงความเห็นของผู้นำสหรัฐฯว่า “ไร้ความรับผิดชอบ และดูหมิ่น”

ในขณะที่ทางใต้ ไฟป่าวูลซีย์ (Woolsey Fire) ในมาลิบูหาดเรื่องชื่อทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย คร่าชีวิตไปแล้ว 2 ศพ ในขณะที่ไฟป่าเผาผลาญรีสอร์ทหรูและบ้านเรือนบนชายหาดมาลิบูที่มีชื่อเสียง ทางตะวันตกของลอสแอนเจลิส

มีการประมาณว่าสิ่งปลูกสร้างร่วม 370 แห่งถูกทำลาย ส่วนอีก 57,000 แห่งตกอยู่ในความเสี่ยง

เจ้าหน้าที่ได้เปิดเผยกับ NBC NEWS ว่าไฟป่าวูลซีย์อาจสามารถสร้างความเสียหายต่อไปได้อีกร่วมสัปดาห์นับจากนี้จนกว่าจะสงบ ซึ่งพบว่าได้ทำลายพื้นที่ไปแล้ว 91,572 เอเคอร์นับตั้งแตเริ่มมาในวันพฤหัสบดี(8)

ซึ่งภายในเที่ยงคืนวันจันทร์(12) พบว่าไฟป่าวูลซีย์ถูกควบคุมได้ไปแล้วราว 20%

https://mgronline.com/around/detail/9610000113165

 

“จัสติน ทรูโด” ยอมรับ หารือรัฐบาลปากีสถานช่วย “อาเซีย บิบี” หญิงคริสเตียนให้ที่ลี้ภัยในแคนาดา เผยแพร่: 13 พ.ย. 2561 15:11 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – นายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด เปิดเผยล่าสุด กำลังอยู่ในระหว่างการหารือกับรัฐบาลอิสลามาบัดในการช่วยเหลือให้ได้ลี้ภัยแก่หญิงคริสเตียน อาเซีย บิบี ซึ่งถูกศาลสูงปากีสถานสั่งปล่อยตัวโทษประหารชีวิตคดีหมิ่นศาสนา ส่งผลทำให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ไปทั่วประเทศ

บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(12 พ.ย)ว่า นายกรัฐมนตรีแคนาดายืนยันกับเอเอฟพีว่า เขากำลังหาทางช่วยเหลือนำตัวอาเซีย บิบีหญิงปากีสถานชาวคริสเตียนที่ในเวลานี้อยู่ในการคุ้มครองของอิสลามาบัดมายังแคนาดาเพื่อความปลอดภัย

“เป็นปัญหาภายในทีสลับซับซ้อนที่ทางเราให้ความเคารพ และเหตุนี้จึงทำให้ผมไม่ต้องการกล่าวมากไปกว่านี้ แต่ผมขอกล่าวกับผู้คนว่า ประเทศแคนาดาเป็นประเทศที่เปิดกว้างต้อนรับผู้คน” ทรูโดกล่าวให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีระหว่างอยู่ในกรุงปารีสสำหรับการประชุมในวันอังคาร(12)

ทั้งนี้สามีของบิบีได้เคยออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะก่อนหน้าว่า ครอบครัวของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย และได้ร้องขอที่ลี้ภัยจากผู้นำอังกฤษ สหรัฐฯ และแคนาดา ส่วนทนายความของบิบี ซาอิฟ-อัล-มูลุค (Saif-ul-Mulook) ที่ช่วยให้เธอสามารถได้รับตัดสินกลับคำพิพากษาในชั้นศาลสูงได้สำเร็จและได้รับการปล่อยตัวต้องหนีออกนอกประเทศเนื่องจากถูกขู่ถึงขั้นเอาชีวิต และได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยในเนเธอร์แลนด์ชั่วคราวในเวลานี้

สื่ออังกฤษชี้ว่า ที่ผ่านมาเพื่อให้การประท้วงครั้งใหญ่ยุติ อิสลามาบัดยอมตกลงกับกลุ่มผู้ประท้วงที่จะไม่อนุญาตให้บิบีเดินทางออกนอกประเทศ และเป็นที่เขาใจว่ามี ประเทศจำนวนไม่มากนักได้เสนอให้ที่ลี้ภัยแก่เธอ

ทั้งนี้รัฐบาลแคนาดาของทรูโดได้สนับสนุนพรรคการเมืองคอนเซอร์เวตีฟซึ่งเป็นฝ่ายค้านในคดีของอาเซีย บิบี และทางพรรคได้เรียกร้องให้ทรูโดใช้ “เครื่องมือทุกอย่างที่มี” เพื่อเสนอการให้ที่ลี้ภัยแก่ครอบครัวของเธอ

บีบีซีรายงานว่า ในปี 2011 ผู้ว่าราชการจังหวัดปัญจาบ ซาลมาน ทาเซียร์ ( Salman Taseer ) ถูกลอบสังหารภายในกรุงอิสลามาบัด มีรายงานว่า ส่วนหนึ่งมาจากการที่ "เขาออกมาปกป้องบิบี" และพบว่าไม่นานหลังจากนั้น รัฐมนตรีปากีสถานเพื่อกิจการชนกลุ่มน้อย ชาบาซ บาตติ(Shahbaz Bhatti) ถูกยิงเสียชีวิต จากการแสดงความเห็นปกป้องบิบีเช่นกัน

ซึ่งศาลสูงปากีสถานมีมติสั่งให้ปล่อยตัวอาเซีย บิบีโดยชี้ว่า หลักฐานที่ปรากฎไม่เพียงพอที่จะชี้ได้ว่าเธอกระทำผิดจริง




https://mgronline.com/around/detail/9610000113267

 

ทีมสอบสวนอิเหนาชี้ ‘ไลอ้อนแอร์’ เจอปัญหาร้ายแรงที่ไม่มีใน ‘คู่มือการบิน’ ก่อนดิ่งทะเล เผยแพร่: 13 พ.ย. 2561 14:36 ปรับปรุง: 13 พ.ย. 2561 15:01 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ - ทีมสอบสวนอุบัติเหตุของอินโดนีเซียเรียกร้องให้มีการฝึกอบรมเพิ่มเติมแก่นักบินโบอิ้ง 737 MAX หลังตรวจสอบพบว่า เที่ยวบิน JT610 ของสายการบินไลอ้อนแอร์ที่ประสบอุบัติเหตุดิ่งทะเลเมื่อวันที่ 29 ต.ค. อาจเผชิญปัญหาร้ายแรงที่คู่มือการบินไม่ได้ระบุวิธีแก้ไขไว้

สหภาพนักบินในสหรัฐฯ 2 แห่งยืนยันกับรอยเตอร์ว่า แม้แต่นักบินในสหรัฐฯ เองก็ไม่ทราบถึงความเสี่ยงเช่นนี้มาก่อน

ทีมสอบสวนอิเหนาเตรียมที่จะแถลงรายงานเบื้องต้นในวันที่ 28 หรือ 29 พ.ย. หรือ 1 เดือนหลังจากที่โบอิ้ง 737 MAX ลำใหม่เอี่ยมของไลอ้อนแอร์ตกกลางทะเลชวา คร่าชีวิตผู้คนบนเครื่องทั้งหมด 189 ศพ

หลายฝ่ายตั้งข้อสันนิษฐานว่า ต้นเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้น่าจะเกิดจากความบกพร่องในการซ่อมบำรุง โดยเฉพาะปัญหาในอุปกรณ์เซ็นเซอร์ตรวจจับมุมปะทะ (angle of attack) ซึ่งช่วยให้อากาศยานบินในมุมปะทะที่เหมาะสมกับทิศทางลม และช่วยป้องกันการสูญเสียแรงยก

อย่างไรก็ตาม เวลานี้กระบวนการสอบสวนได้ขยายผลไปถึงคู่มือการบินโบอิ้ง 737 MAX ว่าได้ระบุขั้นตอนการแก้ปัญหาไว้อย่างชัดเจนเพื่อช่วยให้นักบินสามารถควบคุมเครื่องไม่ให้ตอบสนองต่อการสูญเสียข้อมูลเกินกว่าเหตุหรือไม่ รวมถึงวิธีการฝึกอบรมนักบินด้วย

เดนนิส เทเจอร์ นักบิน 737 และโฆษกสมาคมพันธมิตรนักบิน (Allied Pilots Association - APA) ซึ่งเป็นตัวแทนนักบินของอเมริกันแอร์ไลน์ส กรุ๊ปอิงก์ ระบุว่า ทางสมาคมเพิ่งได้รับแจ้งหลังเกิดอุบัติเหตุกับไลอ้อนแอร์ว่า โบอิ้งได้ติดตั้งระบบใหม่ลงใน 737 MAX ซึ่งในบางสถานการณ์ระบบนี้จะบังคับให้ส่วนหัวของเครื่องบินกดต่ำลงเพื่อป้องกันการสูญเสียแรงยก

“นี่คือข้อมูลใหม่ที่เราไม่เคยทราบระหว่างการฝึก และไม่มีอยู่ในคู่มือหรือเอกสารใดๆ เลย” โฆษกเอพีเอแถลง

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า โบอิ้งเตรียมที่จะประกาศอัปเดตซอฟต์แวร์เพื่อลดความเสี่ยงจากระบบป้องกันการสูญเสียแรงยกในเครื่องรุ่น 737 MAX แต่ยังไม่ทราบวันเวลาที่แน่นอน

โบอิ้งปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์เรื่องแผนอัปเดตซอฟต์แวร์ แต่ยืนยันว่าบริษัท “ใช้ทุกมาตรการที่จำเป็น” เพื่อทำความเข้าใจทุกๆ แง่มุมของอุบัติเหตุครั้งนี้ และจะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทีมสอบสวนและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของอินโดนีเซีย

สุรจันโต จาห์โจโน ประธานคณะกรรมการความปลอดภัยคมนาคมแห่งชาติอินโดนีเซีย (KNKT) ยืนยันวานนี้ (12 พ.ย.) ว่า ผลการสอบสวนที่ออกมาจะทำให้ผู้ตรวจสอบต้องกำหนดเงื่อนไขในการฝึกอบรมนักบินให้เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะคอร์สการบินสำหรับนักบินที่จะเปลี่ยนแบบเครื่องจากโบอิ้ง 737NG มาเป็นรุ่น MAX

การตกของไลอ้อนแอร์เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ถือเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับโบอิ้ง 737 MAX ซึ่งเป็นเวอร์ชันอัปเกรดที่เพิ่งจะเริ่มนำมาให้บริการเมื่อปีที่แล้ว



https://mgronline.com/around/detail/9610000113231

 

รอง ปธน.เพนซ์ ระบุสหรัฐฯ จะทำ “ข้อตกลงการค้าต้นแบบ” กับญี่ปุ่น
เผยแพร่: 13 พ.ย. 2561 14:03 ปรับปรุง: 13 พ.ย. 2561 15:02 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี - ญี่ปุ่นและสหรัฐจะเจรจาข้อตกลงการค้าสองฝ่ายที่จะเป็นต้นแบบให้กับประเทศอื่นๆ รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ของสหรัฐฯ กล่าวในวันนี้ (13 พ.ย.) ที่กรุงโตเกียว

ในการกล่าวหลังคุยกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น เขาเน้นย้ำจุดยืนของวอชิงตันที่ว่า หลายธุรกิจของสหรัฐฯเผชิญกับอุปสรรคที่ไม่เป็นธรรมในแดนอาทิตย์อุทัย

“สหรัฐฯ มีความเสียเปรียบดุลการค้ากับญี่ปุ่นมานานเกินไปแล้ว สินค้าและบริการของอเมริกาเผชิญกับขวากหนามสู่การประสบความสำเร็จอย่างเท่าเทียมในตลาดญี่ปุ่นมากเกินไป” เขากล่าว โดยยืนอยู่ข้างๆ อาเบะ

“โอกาสที่ดีที่สุดสำหนับการค้าที่เสรี เท่าเทียม และต่างตอบแทนกันจะเกิดขึ้นในข้อตกลงการค้าสองฝ่าย”

เมื่อเดือนกันยายน อาเบะและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯเห็นพ้องที่จะเจรจาข้อตกลงการค้า ผ่อนคลายความกังวลที่ว่า ญี่ปุ่นอาจเป็นเป้าหมายต่อไปในการโจมตีทางภาษีของทำเนียบขาว

“เมื่อเสร็จสมบูรณ์ เรามั่นใจว่าข้อตกลงนี้จะสร้างเงื่อนไขเกี่ยวกับสินค้าและบริการต่างๆ ข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นที่กำลังจะเกิดขึ้นจะเป็นต้นแบบสำหรับภูมิภาคอินเดียแปซิฟิก” เพนซ์ กล่าว

สหรัฐฯและญี่ปุ่น ประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับหนึ่งและสามของโลก มีสัดส่วนคิดเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมทั่วโลก และมีความสัมพันธ์ทางการค้าอันยาวนานที่ทั้งมีปัญหาและเชื่อมโยงถึงกัน




ภายใต้อดีตประธานาธิบดีคนก่อนหน้าทรัมป์ ทั้งสองประเทศเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงขนาดใหญ่ฉบับหนึ่งที่มีชื่อว่า ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership หรือทีพีพี) ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อต้านทานอิทธิพลของจีนที่มากขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ถอนตัวออกจากข้อตกลงการค้าพหุภาคีไม่นานหลังเข้ารับตำแหน่ง และกล่าวว่าต้องการข้อตกลงสองฝ่ายที่เจรจากันบนเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์กับวอชิงตันมากกว่านี้

อาเบะหวังว่าจะได้เห็นวอชิงตันกลับสู่ทีพีพี แต่เห็นพ้องกับการเจรจานี้ที่คาดว่าจะเริ่มขึ้นในเดือนมกราคม ในขณะที่ทรัมป์กำลังไล่กดดันหุ้นส่วนทางการค้ารายอื่นๆ

เพนซ์เดินทางแวะโตเกียวก่อนเข้าร่วมการประชุมซัมมิทระดับภูมิภาคต่างๆ รวมถึงการประชุมอาเซียนในสิงคโปร์และการประชุมเอเปกในปาปัวนิวกินี

การตัดสินใจงดเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวของทรัมป์ทำให้หลายประเทศเกิดความแปลกใจ และก่อให้เกิดข้อกังขาในพันธะที่วอชิงตันมีต่อภูมิภาคนี้ ซึ่งจีนกำลังมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ

https://mgronline.com/around/detail/9610000113205

 

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)


สุดระทึก!! นักบินบริติช แอร์เวย์ส และเวอร์จิน แอร์ไลน์ส แจ้งหอควบคุมการบินไอร์แลนด์เหมือนกัน เห็น UFO

 

อาวุธยุทโธปกรณ์ และ เทคโนโลยี


เดือด!!


ระบบสกัดกั้น Iron Dome ของอิสราเอลถูกยิงออกไปสกัดกั้น ลูกระสุนปืนครกและจรวดเข้าใส่อิสราเอล


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากการปะทะกันระหว่างIDF และกลุ่มฮามาส จนทำให้กลุ่มฮามาสเสียชีวิต8ราย และทหารอิสราเอลเสียชีวิต1นาย เมื่อวันที่อาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการแก้แค้นอิสราเอล


มีรายงานว่า มีการยิงจรวดและลูกปืนครกเข้ามาในอิสราเอลมากกว่า80ลูก ทางกลุ่มฮามาสมีการอ้างว่ายิงมา100ลูก ในเวลาไม่ถึง40นาที ซึ่งอิสราเอลมีการใช้ระบบIron Done ในการสกัดกั้น จำนวนหนึ่ง บางส่วนก็สามารถความเสียหายให้อิสราเอล เช่นการตกใส่รถบัสโดยสาร ซึ่งยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากอิสราเอล


คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา อิสราเอลเปิดการโจมตีใส่ฐานยิงจรวดและสถานที่ที่คาดว่าเป็นของกลุ่มฮามาส ทำให้มีพลเรือนปาเลสไตน์เสียชีวิตไป2ราย และบาดเจ็บอีก3ราย แต่มีการแถลงว่า เป็นนักรบของกลุ่มฮามาส


นับเป็นเหตุการณ์ที่ดุดเดือดนับตั้งแต่การทำสงครามในปี2008 ซึ่งมีแนวโน้มว่าการปะทะกันครั้งนี้อาจจะนำไปสู่สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสอีกครั้ง


https://www.timesofisrael.com/idf-s...ies-reinforcements-to-south-after-gaza-clash/

https://www.rt.com/news/443764-israeli-fighter-jets-strike-gaza/

 

ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน


เอี่ยวโกงเงินคนไร้ที่พึ่ง จ่อเลื่อนเป็น ผอ.ระดับสูง


มหากาพย์ทุจริตเงินอุดหนุนสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งยังไม่จบ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2561 กระทรวง พม. ได้ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการประเมินคัดเลือกเพื่อเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูง ลงนามโดยนายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวง พม.


ซึ่งก็พบว่ามี 4 รายชื่อ ตำแหน่งเป็นผู้ปกครองนิคม และพัวพันกับการทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง จนถูกย้ายไปแขวนที่ส่วนกลาง ก่อนที่จะมีการคืนตำแหน่งให้กลับไปเป็นผู้ปกครองนิคมเหมือนเดิม แต่ขณะนี้กลับมีสิทธิ์ได้เลื่อนระดับที่สูงขึ้น


#โกงเงินคนไร้ที่พึ่ง #พม #กัดไม่ปล่อย #ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน 61-11-009


-------------------------------------------------


ติดตาม Line@ และ IG หมาเฝ้าบ้าน: @Watchdog.ACT

 

MGROnline Live


นิรโทษกรรมสากลริบรางวัล'ทูตแห่งความดี'คืนจาก'อองซานซูจี'

คลิก>>https://mgronline.com/around/detail/9610000113027

#MGRonline #อองซานซูจี #ทูตแห่งความดี #นิรโทษกรรม

 

MGROnline Live


"บิ๊กป้อม" สั่ง "ตร.น้ำ-ทร." คุมเข้มน้ำมันปาล์ม หลังลอบขายร้านธงฟ้า


รองนายกรัฐมนตรี สั่ง ตำรวจน้ำ-ทหารเรือ คุมเข้มลักลอบน้ำมันปาล์มนำเข้า หลังชาวบ้านปูดลอบขายร้านธงฟ้า ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้


คลิก>> https://mgronline.com/politics/detail/9610000113248


#MGRonline #ประวิตร #คุมเข้มน้ำมันปาล์ม #ลอบขายร้านธงฟ้า #ชายแดนใต้

 

MGROnline Live


เชื่อใคร? ลูกสาว หรือโรงพยาบาล


ข่าวนี้อ่านแล้วบีบหัวใจ! ลูกสาววัย 12 ปี พาแม่ถูกพ่อเลี้ยงสาดน้ำกรดไปรักษา แต่เจ้าหน้าที่รพ.พระราม 2 บอกลูกสาว "สิทธิบัตรทองแม่อยู่รพ.บางมด ให้พาไปได้ไหม" พร้อมให้เงินค่าแท็กซี่ 40 บาท สุดท้ายแม่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว มาสิ้นใจที่รพ.บางมด


"พี่เขาก็อุ้มแม่ขึ้นเตียง แล้วก็เรียกแท็กซี่ให้ เขาถามแม่ว่าเดินไหวมั้ย แม่ก็ส่ายหัวบอกว่าไม่ไหว เหมือนพี่เขาจะอุ้มแม่ขึ้นรถ แต่แม่เข่าทรุดลงเพราะเดินไม่ไหวแล้ว และพี่เขาก็ขึ้นรถมากับหนู 2 คน แต่มาถึงอีกโรงพยาบาลแม่ก็ไม่ตอบสนองแล้ว"


ด้านรพ.พระราม 2 แถลงช่วยถึงที่สุดแล้ว คนไข้ขอไปรักษารพ.ตามสิทธิ (รพ.บางมด) เอง จุดประเด็นวิพากษ์ในสังคม บ้างก็บอกว่า มีรพ.ไว้ทำไม, ปล่อยไปได้อย่างไรทั้งๆ ที่ดูจากอาการแล้วไม่น่าไหว, รถพยาบาลอยู่ที่ไหน..


#mgronline #เหยื่อน้ำกรด #น้ำกรด

 

MGROnline Live


ศพ“ช่อลัดดา”เหยื่อน้ำกรดถึงบ้านเกิดแล้ว ญาติให้ทนาย“อัจฉริยะ”ฟ้องเต็มที่


ศพ “นางช่อลัดดา”เหยื่อสามีสาดน้ำกรดและถูกปฏิเสธการรักษาจากโรงพยาบาลเอกชน ตั้งบำเพ็ญกุศลที่ อ.แวงใหญ่ขอนแก่นแล้ว และเผาบ่ายพรุ่งนี้ ด้านญาติเผยมอบหมายให้ทนาย “อัจฉริยะ” ฟ้องเอาผิดทางคดีกับ ร.พ.พระราม 2 ให้ถึงที่สุด


คลิก>>https://mgronline.com/local/detail/9610000113130


#MGROnline #ช่อลัดดา #เหยื่อน้ำกรด #บ้านเกิด #ขอนแก่น

 

เมือง ทุ่งสง


สุดงงทั้งจังหวัด โรงเรียน จ.น่าน ประกาศห้ามนักเรียนใส่เสื้อกันหนาวที่ไม่ใช่ของรร. ฝ่าฝืนมีความผิด