ติดตามสถานะการณ์

Clima Extremo 24


อิรัก



น้ำท่วมรุนแรงใน hawraman ในอิรักทางเหนือ วันนี้ 9 ธ. ค.

 

Clima Extremo 24


จีน



หิมะถูกสะสมหนาทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน

 

Clima Extremo 24


ปาเลสไตน์



น้ำท่วมรุนแรงในปาเลสไตน์

 

Clima Extremo 24


จีน



การชนกันของยานพาหนะหลายคัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บ 18 รายในภาคใต้ของจีน


เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าการชนกันของยานพาหนะ จำนวน 22 คันทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 รายและได้รับบาดเจ็บ 18 ราย บนทางหลวงที่วิ่งผ่านเมือง Yiyang ซึ่งสาเหตุที่เกิด อาจมาจากสภาพอากาศเลวร้ายและการก่อตัวของน้ำแข็งบนทางหลวง

 

Clima Extremo 24



พายุไฟฟ้าค่ะ

 

Clima Extremo 24





เมื่อคุณไม่ใส่ใจ

 

Clima Extremo 24


ซาอุดีอาระเบีย



ภัยพิบัติจากตั๊กแตนที่แผ่กระจายไปในซาอุดิอาระเบีย หลังจากที่ประเทศอาหรับได้รับผลกระทบ เนื่องจากฝนตกหนักและรุนแรง

 

Clima Extremo 24


อินโดนีเซีย



ลมตะวันออกพัดแรงในวันนี้ 10 ธ.ค. ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย

 

Clima Extremo 24


อินโดนีเซีย



ลมแรงที่กระทบบ่ายวันนี้ ทำให้เกิดการทำลาย และความเสียหาย ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย

 

Clima Extremo 24


อินโดนีเซีย



วิดีโออีกหนึ่ง สำหรับแผ่นดินถล่มใน Banjar Sasih Gianyar ประเทศอินโดนีเซีย ที่มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และอีก 1 ราย อยู่ในภาวะวิกฤติ

เมื่อวันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม นี้

 

ข่าวต่างประเทศ


วันจันทร์ที่ผ่านมา กลางดึกของเวลาเมืองไทย ศาลแห่งแวนคูเวอร์ขึ้นพิจารณาว่า นาง Meng Wanzhou ผู้บริหารระดับสูงของหัวเหว่ยจะได้รับการประกันตัวหรือไม่


โดยการพิจารณาเป็นการรับฟังข้อเสนอจากทางทนายของนาง Meng ว่าจะดำเนินการอย่างไรที่จะไม่ให้นาง Meng หนีคดีหลังการประกันตัว มีเนื้อหาถึง การใช้วงเงิน การกักตัวที่บ้าน มีอุปกรณ์ติดตามตัว และมีสามีเป็นคนการันตี


ศาลรับฟังข้อเสนอทั้งหมดแล้วยังไม่มั่นใจว่าจะไม่หนี จึงเลื่อนฟังการตัดสินเป็นวันอังคาร


Washington Post รายงาน

 

การประกอบเครื่องบิน

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec 11) “แอปเปิล” เปิดตัวบริการชำระเงินผ่านมือถือในเยอรมนีแล้ว! รอยเตอร์สรายงานว่า แอปเปิลได้เปิดตัวบริการชำระเงินผ่านมือถือในเยอรมัน 4 ปีหลังจากเริ่มดำเนินการในสหรัฐ เเละตามรอยกูเกิล ซึ่งได้เริ่มเปิดตัวเเอพพลิเคชั่นชำระเงินภายในประเทศในเดือนมิถุนายน


ลูกค้าของธนาคาร อาทิ Deutsche Bank , Commerzbank , Hypovereinsbank , Wirecard , Hanseatic Bank เเละผู้ให้บริการบัตรเครดิต มาสเตอร์การ์ด วีซ่า เเละอเมริกัน เอ็กซ์เพลส จะสามารถใช้แอป Boon ของแอปเปิลได้ ตั้งเเต่วันอังคารเป็นต้นไป


สำหรับร้านค้าปลีก ไม่ว่าจะเป็น discounters Aldi เเละ Lidl ซูเปอร์มาร์เก็ต Kaufland ร้านขายยา Rossmann และ DM ห้างสรรพสินค้า Kaufhof ร้านค้าปลีกเสื้อผ้า H&M , Esprit , C&A และ Zara รวมถึงกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภค MediaMarkt จะยินยอมบริการชำระเงินดังกล่าวที่จะช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินผ่านทางสมาร์ทโฟน โดยเเตะเข้ากับเครื่องชำระเงินหน้าเคาท์เตอร์


ขณะที่แอปเปิลได้เปิดให้บริการด้านการชำระเงินใน 20 ประเทศอื่น ๆ เช่นฝรั่งเศสโปแลนด์ และสวิสเซอร์แลนด์ โดยการต่อสู้กับค่าทำเนียมต่างๆ เริ่มขึ้นอย่างล่าช้าในเยอรมนี


Source: ประชาติธุรกิจออนไลน์


- Apple launches payments service in Germany following delay

https://www.reuters.com/article/us-...vice-in-germany-following-delay-idUSKBN1OA0JJ

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Dec 11) จับลูกสาวหัวเว่ย ชนวนสงครามเย็นระอุ : คงไม่มีการจับกุมคดี "ฉ้อโกง" (Fraud) คดีไหนที่จะเป็นข่าวใหญ่และสร้าง ผลกระทบแบบสั่นสะเทือนถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้เท่ากับกรณีของ เมิ่งหว่านโจว รองประธาน บริษัทและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ อีกแล้ว

ผู้บริหารหัวเว่ยอาจถูกจับจากข้อกล่าวหาฐานฉ้อโกง กรณีที่สหรัฐกล่าวหาว่า หัวเว่ย ลักลอบขายอุปกรณ์เทคโนโลยีของสหรัฐให้กับอิหร่าน ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายคว่ำบาตรของสหรัฐ แต่การจับกุมผู้บริหารของ หัวเว่ยก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเมิ่ง ซึ่งเธอยังมีอีก 2 สถานะสำคัญ คือ 1.เป็นลูกสาวคนโตของ เหรินเจิ้งเฟย ประธานและผู้ก่อตั้งหัวเว่ย ซึ่งมีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับพรรคคอมมิวนิสต์และกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน และ 2.เป็นว่าที่ผู้สืบทอดคนต่อไปของบริษัทเทคโนโลยีเบอร์ 1 ของจีน ที่เป็นเสมือนความภาคภูมิใจของประเทศ

การขอให้แคนาดาเข้าจับกุมแทน เพื่อขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนในภายหลัง ขณะที่เมิ่งกำลังจะเปลี่ยนเครื่องที่ เมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา ซึ่งยังมีขึ้นในวันเดียวกันกับที่ประธานาธิบดีจีน สีจิ้นผิง และประธานาธิบดีสหรัฐ

โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเจรจานอกรอบที่ประชุม จี20 เพื่อหย่าศึกการค้ากันอยู่ จึงถูกตีความว่าไม่ต่างอะไรกับการ "จับตัวประกัน" เพื่อ "ส่งสัญญาณเตือน" และสร้างความได้เปรียบให้ตนเองใน "สงครามเย็น" ที่ฉีกทุกกฎการเจรจาต่อรองแบบเดิมๆ ที่เคยผ่านมา

หากเข้าใจความสำคัญของหัวเว่ย และความบาดหมางที่แท้จริงระหว่างสหรัฐ-จีน เราจะเข้าใจได้ ไม่ยากว่าการจับกุมเมิ่งนั้นสำคัญเพียงใด และอาจสร้างผลกระทบตามมามากเพียงใด

แม้หัวเว่ยจะได้ชื่อว่าเป็นบริษัทไอทีใหญ่สุดของจีนในเวลานี้ และสามารถทำยอดขายสมาร์ทโฟนได้แซงหน้าแอปเปิ้ล อิงค์ ของสหรัฐไปแล้วตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา แต่จนถึงปัจจุบันหัวเว่ยก็ยังไม่สามารถสลัดความไม่ไว้วางใจเรื่อง "สปาย" ออกไปได้ ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องความไม่ไว้วางใจแบบเคสบายเคส แต่มาจากพื้นฐานของบริษัทในฐานะที่ผู้ก่อตั้งอย่าง เหรินเจิ้งเฟย คืออดีตวิศวกรของ กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน

การเป็นอดีตวิศวกรของกองทัพและการเป็นบริษัทเทคโนโลยีเบอร์ 1 ในจีน ย่อมหมายถึงการมีสายสัมพันธ์ ที่แน่นแฟ้นกับรัฐบาลจีนทั้งในแง่ของกองทัพและพรรคคอมมิวนิสต์

ยังไม่นับเรื่องส่วนตัวที่ภรรยาคนแรกของเหริน หรือแม่ของเมิ่ง คือลูกสาวของอดีตผู้บริหารระดับสูงในมณฑลเสฉวน ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ช่วยบริษัทในยุคแรกๆ ได้เป็นอย่างมาก

ความไม่ไว้วางใจยังมาจากการที่จีนผ่าน "กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ" เมื่อปี 2017 ซึ่งมีระบุไว้ข้อหนึ่งว่า องค์กรต่างๆ ในประเทศต้องให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือในการทำงานเพื่อความมั่นคงของชาติ โดย รัฐจะให้ความคุ้มครองบุคคลหรือ หน่วยงานนั้นๆ ที่ให้ความร่วมมือกับ รัฐ ดังนั้น หัวเว่ยและบริษัทอื่นๆ ในจีน จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงความไม่ไว้วางใจจากสหรัฐและพันธมิตรได้

นอกจากนี้ หัวเว่ยยังอยู่ในฐานะ ผู้ผลิตอุปกรณ์พื้นฐานการสื่อสารโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดเบอร์ 1 แซงหน้าอีริคสัน จากสวีเดน และโนเกีย จากฟินแลนด์ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 28% อีริคสัน 27% และโนเกีย 23% และในจังหวะที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังจะเริ่มประมูลคลื่น 5จี กันในปีหน้าเป็นต้นไป หัวเว่ยที่มีความพร้อมมากที่สุดในปัจจุบัน ก็คงจะขึ้นเป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาด 5จี รายใหญ่ที่สุดในโลกไปอย่างแน่นอน หากไม่มีปัญหากับสหรัฐเข้ามาขวางเหมือนในวันนี้

สงครามการค้า (Trade war) ระหว่างสหรัฐกับจีนที่มีการตั้งกำแพงภาษีระหว่างกันกับสินค้ามูลค่ามากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปแล้วนั้น เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความพยายามสกัดการแผ่ขยายของจีน ที่จะขึ้นมาเป็นมหาอำนาจโลกรายใหม่ (Hegemony) ที่ยังรวมไปถึงเรื่อง เทคโนโลยี ไซเบอร์ ความมั่นคง และอื่นๆ เพราะจีนในวันนี้ไม่ได้เป็นแค่โรงงานผลิตของราคาถูก เพื่อส่งขายทั่วโลกเหมือนเดิม แต่กำลังจะขึ้นมาท้าทายในฐานะมหาอำนาจใหม่ ที่กำลังแผ่อิทธิพลการค้าและการเมืองในหลายช่องทางตั้งแต่โครงการแถบและถนน (Belt and Road : BRI) น่านน้ำในทะเลจีนใต้ และอุตสาหกรรม 5จี ที่เป็นอนาคตของยุคเศรษฐกิจใหม่

ในฐานะที่เมิ่งเปรียบเสมือนทายาทของบริษัทเทคโนโลยีเบอร์ 1 ของประเทศ ที่เป็นทั้งความภูมิใจของจีน และเป็นหัวใจสำคัญในอนาคตใหม่ของจีนที่ต้องพึ่งเทคโนโลยี 5จี ภายใต้ยุทธศาสตร์ Made in China 2025 การจับกุมตัวเมิ่ง จึงไม่ต่างกับเรื่องเชิงสัญลักษณ์ ที่ต้องการปรามและส่งสัญญาณบอกว่าสหรัฐเป็นฝ่ายมีแต้มต่อเหนือกว่า ซึ่งอาจยิ่งทำให้ความเป็นศัตรูระหว่าง 2 ฝ่ายรุนแรงขึ้นอีก และทำให้สมมติฐานเรื่องสงครามเย็นยิ่งเป็นไปได้มากขึ้น

ทั้งนี้ ข้อกล่าวหาต่อเมิ่งนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับการฉ้อโกงที่ขัดต่อมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ และอาจมีโทษจำคุกสูงสุด 30 ปี โดยการสอบสวนของสหรัฐเชื่อว่า หัวเว่ยลักลอบขายอุปกรณ์ของฮิวเล็ตแพ็กการ์ด (HP) ผ่านทางบริษัท สกายคอม ในฮ่องกง ที่หัวเว่ยเคยถือหุ้นใหญ่ก่อนจะขายภายหลัง แต่ในทางพฤตินัยนั้นเชื่อว่ายังเป็นบริษัทของ หัวเว่ยอยู่ โดยใช้ธุรกรรมผ่านทางธนาคาร HSBC ในสหรัฐ ซึ่ง HSBC นั้นเคยถูกลงดาบลงโทษปรับมหาศาลเรื่องฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านไปแล้ว

นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า กรณีของหัวเว่ยนั้นอาจไม่ได้ร้ายแรงไปกว่าเคสของ ZTE ที่ถูกปรับไปนับพันล้านดอลลาร์และถูกลงโทษแบนห้ามซื้อขายอุปกรณ์กับบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐ เมื่อช่วงต้นปีนี้ โดยอาจไม่ได้มีโทษ จำคุกกับผู้บริหารของหัวเว่ยตามมา แต่เมิ่งอาจถูกใช้เป็นตัวประกันต่อรองในจังหวะที่สหรัฐกับจีนกำลังเจรจาการค้าในช่วงพักรบ 90 วัน

นอกจากนี้ ยังอาจถูกใช้เป็นข้ออ้างเพื่อกีดกันการเข้าร่วมของหัวเว่ยในศึกประมูล 5จี ทั่วโลกปีหน้า จากเดิมที่ถูกแบนไปแล้วใน 3 ประเทศคือ สหรัฐ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งยังเป็นกลุ่ม Fire Eyes ที่มีการแชร์ข่าวกรองร่วมกัน ขณะที่ใน "อังกฤษ" ก็เริ่มมีการกดดันจนบริษัทเอกชน บีทีต้องประกาศไม่ใช้อุปกรณ์หัวเว่ยแล้ว และ "แคนาดา" ก็เป็นประเทศล่าสุดที่ยอมอยู่ใต้แรงกดดันของสหรัฐผ่านการจับกุมตัวเมิ่ง

เป็นที่คาดว่าปฏิกิริยาตอบโต้ ของจีนไม่ว่าจะต่อแคนาดาหรือสหรัฐ อาจรุนแรงและน่ากังวลต่อตลาดการค้าและตลาดทุนตามมาหลังจากนี้ เพราะไม่ว่าที่สุดแล้วจีนจะยอมให้สหรัฐหรือไม่ แต่ในด้านหนึ่งจีนก็ต้องเล่นบทมหาอำนาจที่ไม่ยอมศิโรราบให้ชาติอันธพาลง่ายๆ ตามที่ปรากฏในข่าวของจีนหลายสำนักช่วงนี้ ซึ่งในกรณีที่เลวร้ายนั้นอาจส่งผลให้การเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐต้องล่มลง เพราะต้องไม่ลืมว่า นอกจากลัทธิชาตินิยม จะมาแรงเป็นพิเศษในยุคของทรัมป์ ที่เต็มไปด้วยสายเหยี่ยวรอบตัวแล้ว ฝ่ายจีนในยุคสีจิ้นผิงก็ยังโอนเอียงไปทางชาตินิยมมากกว่าช่วงผู้นำหลายคนที่ผ่านมาเช่นกัน

ไม่ว่าจีนจะยอมลงให้กับสหรัฐ หรือไม่ จะยอมจบศึกแรกเบื้องต้นแล้วค่อยไปฟาดฟันกันต่อในศึกระยะยาว หรือจะนำไปสู่ศึกพิพาทที่บาดหมางรุนแรงกันยิ่งกว่าสงครามการค้า 3 แสนล้านดอลลาร์ แต่ที่สุดแล้วก็คงไม่มีทางออกที่ง่าย และคงต้อง จับตาท่าทีมังกรฟาดหางอย่างใกล้ชิดหลังจากนี้ต่อไป

โดย นันทิยา วรเพชรายุทธ

Source: Posttoday

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec 11) หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาวลาออก ส่งผลให้อัตราการเปลี่ยนตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงในคณะรัฐบาลของประธานาธิบดี Trump สูงถึงร้อยละ 83 : ประธานาธิบดี Trump กล่าวว่า นาย John Kelly, White House chief of staff จะพ้นออกจากตำแหน่งภายในสิ้นปีนี้ ส่งผลให้อัตราการเปลี่ยนตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงในคณะรัฐบาลของประธานาธิบดี Trump สูงถึงร้อยละ 83 มากกว่าของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีทั้ง 5 ท่านก่อนหน้า


ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดี Trump กำลังพิจารณาผู้ที่มีคุณบัติเหมาะสมอยู่อย่างน้อย 4 ท่าน และจะไม่ตัดสินใจเลือกบุคคลใดเข้ามารับตำแหน่งแทนภายในปีนี้


นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ระบุว่า นาย Nick Ayers, chief of staff ของรองประธานาธิบดี Mike Pence จะไม่เข้ามารับตำแหน่งแทนตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ เนื่องจากนาย Ayers ไม่สามารถให้ commitment ในการดำรงตำแหน่งดังกล่าวถึงปี 2020 ได้


สำหรับ candidate อีก 2 ท่านได้แก่ นาย Mark Meadows, ส.ส. พรรค Republican จากรัฐ North Carolina และนาย Mick Mulvaney, director of the White House Office of Management and Budget


ขณะเดียวกัน ทางด้านนาย Andy Card, อดีต chief of staff ในสมัยประธานาธิบดี George W. Bush ให้ความเห็นว่า ประธานาธิบดี Trump กำลังมองหาผู้ที่มีทักษะแตกต่างออกไปจากเดิมเพื่อพุ่งเป้าไปยังการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2020


Source: BOTSS


- Who's next? Here are 9 potential replacements for John Kelly: https://www.businessinsider.com/nex...hief-of-staff-john-kelly-replacements-2018-12


- การเมืองมะกันระส่ำ “ตัวเก็ง” หัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาว โผล่ทวีต “ลาออก” ปลายปีนี้: https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_1936426

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec 11) ศาลพิจารณาบทลงโทษห้ามมิให้ Apple ทำการผลิตและจำหน่าย iPhone ในประเทศจีน: บริษัท Qualcomm Inc. ออกแถลงการณ์ในวันนี้ ระบุว่าบริษัทได้ชนะคดีในการยื่นฟ้องร้องศาลทรัพย์สินทางปัญญาในประเทศจีน กรณีบริษัท Apple Inc. ละเมิดสิทธิบัตรโดยการนำเทคโนโลยีหน่วยประมวลผล smart phone ของ Qualcomm ไปใช้โดยไม่จ่ายค่าสิทธิบัตร ซึ่ง Qualcomm เรียกร้องให้ศาลพิจารณาบทลงโทษห้ามมิให้ Apple ทำการผลิตและจำหน่าย iPhone ในประเทศจีน


ทั้งนี้ คำตัดสินดังกล่าวมาจาก Fuzhou Intermediate People’s Court ซึ่งพบว่า Apple ได้ทำการละเมิดสิทธิบัตรของ Qualcomm จำนวน 2 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องการการเปลี่ยนขนาดรูปภาพ และการจัดการ application ด้วยระบบสัมผัส


อย่างไรก็ดี บริษัท Apple ได้ออกมาระบุว่า จะยังคงมีการวางขาย iPhone ทุกร่นในประเทศจีนต่อไป ซึ่งสำนักข่าว Reuters ระบุว่าเนื่องจากเป็นสิทธิบัตรเกี่ยวกับ software ทาง Apple สามารถปรับเปลี่ยน software ของตนเพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดดังกล่าว และยังคงสามารถวางขาย iPhone ได้ต่อไป


นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายระบุว่าคำสั่งใดๆ จากศาล Fuzhou จะยังไม่มีผลบังคับใช้จนกว่าจะมีการยื่นอุธรณ์ต่อ higher court แต่คำสั่งดังกล่าวอาจทำให้เกิดแรงกดดันต่อ Apple ในการทำข้อตกลงประนีประนอมกับ Qualcomm ในตลาดต่างๆ ทั่วโลก


Source: BOTSS


- Apple files appeal to overturn iPhone sales ban in China: https://www.cnbc.com/2018/12/10/apple-files-appeal-to-overturn-iphone-sales-ban-in-china.html


- แอปเปิลงานเข้า!!ศาลพิพากษาห้ามขาย'ไอโฟน'ในประเทศจีน: https://mgronline.com/around/detail/9610000122701

 

แดง วงศ์ทวิชาติ


เกิดแผ่นดินไหววันที่ 11 ธันวาคม 2018 M 7.1 ในหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิชเกิดขึ้นเนื่องจากมีการถดถอยกลับเฉียงที่ระดับความลึกปานกลางในเขตการสลายตัวของ Scotia ทางออกของจุดโฟกัสแสดงให้เห็นว่าเกิดการลื่นเกิดขึ้นจากความผิดพลาดในการจุ่มน้ำตื้นที่เกิดขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงใต้หรือเกิดความผิดพลาดสูงชันขึ้นไปทางเหนือ ที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้แผ่นอเมริกาใต้จะเคลื่อนไปทางทิศตะวันตกโดยคำนึงถึงแผ่นแซนด์วิชใต้ในอัตรา 73 มิลลิเมตรต่อปีรองลงมาอยู่ใต้หมู่เกาะเซาท์แซนด์วิชที่ร่องลึกประมาณ 140 กม. ทางทิศตะวันออกของแผ่นดินไหวนี้ ความลึกและกลไกการแก้ปัญหาของเหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่ามันเกิดขึ้นอันเป็นผลมาจาก intraplate faulting ภายใน lithosphere ของแผ่นอเมริกาใต้ subducting แทนที่จะอยู่บนจานตื้นตึงแผ่น faulting ระหว่างทั้งสองแผ่น


Earthquakes such as this event, with focal depths between 70 and 300 km, are commonly termed "intermediate-depth" earthquakes. Intermediate-depth earthquakes represent deformation within subducted slabs rather than at the shallow plate interface between subducting and overriding tectonic plates. They typically cause less damage on the ground surface above their foci than is the case with similar magnitude shallow-focus earthquakes, but large intermediate-depth earthquakes may be felt at great distance from their epicenters. Earthquakes have been reliably located to depths close to 300 km in this region. Over the previous century, there have been 14 M6+ earthquakes within 250 km of today’s event, and only 1 other M7+ event – a M 7.3 earthquake in September 1961, 75 km to the south of the December 11, 2018 event. None of these earthquakes are known to have caused fatalities, likely because of their remote location far from population centers that might be vulnerable to earthquake shaking.


ร่วมให้ข้อมูล

ศูนย์เตือนภัยสึนามิแห่งชาติ

ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก

USGS ศูนย์ข้อมูลแผ่นดินไหวแห่งชาติ,

 

Amazing Universe


ฟองอากาศมีเทนที่แช่แข็งในทะเลสาบไบคาลทะเลสาบที่ลึกที่สุดในโลก ...

 

Watchers


#Earthquake

11/12/18

เวลา 09:26 น. ตามเวลาไทย

แผ่นดินไหวแมกนิจูด 7.1

ความลึก 164.7 กม.

พิกัด 26.32°W 58.22°S

หมู่เกาะเซาท์แซนวิช

(48km N of Bristol Island, South Sandwich Islands)

ไม่มีการแจ้งเตือนสึนามิ


https://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eventpage/us2000isc8/executive

#Watchers

 

Watchers


(10/12/18)

เมฆ Altocumulus ในบ่ายวานนนี้ ใน #Newcastle #UK

Credit pic @ 33MarkD