ติดตามสถานะการณ์

น้ำมันลง,ทองคำดิ่ง$20 หุ้นสหรัฐฯปิดลบกังวลเศรษฐกิจอเมริกาส่งสัญญาณทรุดตัว
เผยแพร่: 22 ก.พ. 2562 05:29 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

มาร์เก็ตวอตช/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขยับลงในวันพฤหัสบดี(21ก.พ.) หลังรายงานชี้อุปทานภายในของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 5 สัปดาห์ติดและกำลังผลิตแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ ผิดหวังข้อมูลเศรษฐกิจอเมริา ขณะที่ทองคำดิ่งแรงจากดอลลาร์แข็งค่า

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 20 เซ็นต์ ปิดที่ 56.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนทต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 67.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ(อีไอเอ)เผยแพร่รายงานในวันพฤหัสบดี ระบุว่าอุปทานภายในประเทศ เพิ่มขึ้น 5 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้เล็กน้อย

นอกจากนี้แล้วอีไอเอยังพบว่ากำลังผลิตของสหรัฐฯยังคงเดินหน้าทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล โดยในรายงานระบุว่ากำลังผลิตภายในประเทศเพิ่มขึ้นอีก 100,000 บาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว เป็น 12 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(21ก.พ.) ปิดลบ จากแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่ทรุดลง ซึ่งกลบข่าวดีเกี่ยวกับสัญญาณความคืบหน้าในการเจรจาทางการค้าระหว่างจีนกับอเมริกา

ดาวโจนส์ ลดลง 103.81 จุด (0.4 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,850.63 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 9.82 จุด (0.35 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,774.88 จุด แนสแดค ลดลง 29.36 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,459.71 จุด

กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯเปิดเผยในวันพฤหัสบดี(21ก.พ.) ว่ายอดคำสั่งซื้อสินค้าทุนหรือเครื่องจักรอุตสาหกรรม ซึ่งไม่รวมอาวุธและอากาศยาน ของสหรัฐฯ ลดลง 0.7% ในเดือนที่แล้ว และด้วยดัชนีนี้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ในฐานะตัวแทนแผนการใช้จ่ายภาคธุรกิจ มันจึงก่อความกังวลแก่นักลงทุนพอสมควร

ยิ่งไปกว่านั้นตลาดยังถูกซ้ำเติมโดยข้อมูลจากธนาคารกลางสหรัฐฯสาขาฟิลาเดลเฟีย ที่ออกมาระบุว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมเขตแอตแลนติกตอนกลาง ดิ่งลงสู่ในขอบเขตของการหดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2016

ข้อมูลดังกล่าวกัดเซาะความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ต่อมาสัญญาณความคืบหน้าในการเจรจาทางการค้าระหว่างวอชิงตันและปักกิ่ง

แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยว่าสองชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของโลกเริ่มต้นวางกรอบพันธสัญญาในเนื้อหาของประเด็นที่โต้เถียงกันหนักหน่วงที่สุดในข้อพิพาททางการค้าระหว่างพวกเขาแล้ว นับเป็นความก้าวหน้าที่สุดสำหรับมุ่งสู่การยุติสงครามการค้าที่ยืดเยื้อมานาน 7 เดือน

ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(21ก.พ.) ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน หลังดอลลาร์แข็งค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 20.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,327.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

https://mgronline.com/around/detail/9620000018498

 

John Traczyk

เราอาจเข้าใกล้ กว่าที่คุณคิด
จาก Gary ที่ Unsealed.org วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562

เกี่ยวกับช่วงเวลาแห่งความปีติและความคล้ายคลึง ของวิวรณ์ 12 SIgn และการจัดเรียง ใน 3974 ปีก่อนคริสตกาล

ฉันได้เขียน

"ลองดูการจัดแนวของวันที่ 28 กรกฎาคม 3974 ปีก่อนคริสตกาล ก่อนหน้านี้จะระเบิดความคิดของคุณ

ในการจัดเรียงตำแหน่ง 3974 ปีก่อนคริสตกาล นอกจากนี้ยังมีมงกุฎของดาวสิบสองดวงที่จัดเรียงกันอย่างสมมาตรของดาวสิบสอง ย้อนหลัง 9-10 เดือน ที่ดาวพฤหัสบดีอยู่ในครรภ์ของราศีกันย์

พิจารณาความเป็นไปได้สักครู่ว่านี่เป็นความจริงที่พระเจ้าประทานให้ เมื่อใกล้ถึงการล่มสลายของมนุษยชาติ เมื่อพระองค์ทรงให้คำพยากรณ์ ของพระธรรมปฐมกาล 3: 15-16 โดยบอกล่วงหน้าถึงการต่อสู้อันยาวนานระหว่างพระเมสสิยาห์กับผู้คน ผู้หญิง) และซาตาน และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา (เชื้อสายของงู) ภาพของผู้หญิงพญานาค และเด็กผู้ชาย จะเป็นพื้นฐานสำหรับการพยากรณ์ทั้งหมดในอนาคตกับการเผชิญหน้ารอบสุดท้าย ในวิวรณ์ 12

เนื่องจากว่าปีในพระคัมภีร์ไบเบิลนั้น มักทับซ้อนกันสองปีเกรกอเรียน และฤดูใบไม้ร่วงไม่ได้เกิดขึ้นทันทีที่สร้าง บางทีการทรงสร้าง อาจเกิดขึ้นในปี 3975 ตามด้วยเวลา 9-10 เดือน ที่ดาวพฤหัสบดีเข้าไปอยู่ในครรภ์ของราศีกันย์ ปิดท้ายด้วยการตกจากครรภ์, เครื่องหมายแห่งสวรรค์ และคำทำนายปฐมกาล (3 Genesis 3) ในปี 3974 ก่อนคริสต์ศักราช

หากเป็นเช่นนั้นปีที่ 6,000 จากการสร้างจะเป็นปี ค.ศ. 2026 (3,975 + 2,026 = 6,001 ปี จากนั้นคุณลบหนึ่งปีเนื่องจากไม่มี '0' ในปฏิทินเกรกอเรียน)

2019 คือ 7 ปีก่อนหน้านั้น

1. ดาวเสาร์ (ซาตาน) พยายามยกบัลลังก์เหนือดาวของพระเจ้า (ดู Isa 14: 12-15 เปรียบเทียบกับเอเสเคียล 28: 12-19)

2. มงกุฎ 12 ดาว

3. ราศีกันย์สวมใส่ในดวงอาทิตย์

4. ดาวอังคาร (เป็นศัตรู สงคราม การพิพากษา) ที่เกิดขึ้นกับมนุษยชาติ พิจารณาการพิพากษาของพระเจ้าเกี่ยวกับการใช้แรงงานที่เจ็บปวด! ดาวอังคารอาจเข้าสู่ครรภ์ของราศีกันย์ตามที่ได้รับการตัดสิน (ปฐก. 3:16)!

5. ดาวพฤหัสบดีในสถานที่ใกล้เคียงกับวันที่ 23 กันยายน 2017 หลังจากถอยหลังเข้าคลอง 9-10 เดือนภายในครรภ์ของราศีกันย์

6. ดวงจันทร์อยู่ใต้ฝ่าเท้าของราศีกันย์

บทความอื่น ๆ อีกมากมายเกี่ยวกับ 3 เดือนข้างหน้าอิสราเอล ข้อตกลงสันติภาพ ฯลฯ

เราอาจใกล้กว่าที่คุณคิด
แกรี่ วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ 2019

We Might Be Closer Than You Think
From Gary at Unsealed.org. February 21, 2019

Regarding a Rapture timing and the similarities of the Revelation 12 SIgn and an alignment in 3974 BC.

He writes,

"Let's take a look at the alignment of July 28, 3974 BC. This will blow your mind.

In the alignment of 3974 BC there was also a very symmetrically-arranged crown of twelve stars, a 9–10 month retrograde of Jupiter in Virgo's womb, and the sun and moon in their proper places.

Consider for a moment the possibility that this was in fact a sign given by God at or near the Fall of Mankind when He gave the prophecy of Genesis 3:15–16 foretelling the age-long battle between the Messiah with His people (seed of the woman) and satan and the unbelievers (seed of the serpent). The imagery of a woman, serpent, and male child would form the very basis for all future prophecy, culminating with the final showdown in Revelation 12.

Given that biblical years always overlap two Gregorian years and the Fall didn't occur immediately at creation. Perhaps creation was in 3975, followed by the 9–10 month retrograde of Jupiter culminating with the Fall, heavenly sign, and Genesis 3 prophecy in 3974 BC.

If that's the case, then the 6,000th year from creation would be 2026 AD (3,975 + 2,026 = 6,001 years; you then subtract one year since there is no year '0' on the Gregorian calendar).

2019 is 7 years before that.

1. Saturn (satan) attempting to raise his throne above the stars of God (see Isa. 14:12–15; cf. Ez. 28:12–19).

2. A crown of 12 stars.

3. Virgo clothed in the sun.

4. Mars (enmity, war, judgment) befalling mankind. Consider also God's judgment on Eve of painful labor! Mars may have entered Virgo's womb as the judgment was given (Gen. 3:16)!

5. Jupiter in a similar location to September 23, 2017 following a 9–10 month retrograde within Virgo's womb.

6. The moon is under Virgo's feet.

Much more in the Article regarding the next 3 months, Israel, Peace deal, etc.

We Might Be Closer Than You Think
Gary. Thursday, February 21, 2019

https://www.unsealed.org/2019/02/we...IpW9t6ePzADkXyBAxWeKzS2Qj2mXyk8C717VGRo9rx-BM

 

Will Charbo

ฉันได้รับ -3914 bc + 2017 - 1 ปีศูนย์ = 5,930 ปีซึ่งเป็นปีที่ 70 จาก 6,000 ปี หมายเลข 70 เป็นสัญลักษณ์สำหรับคนรุ่นเต็ม (มนุษย์มีอายุ 70 ปี) ในพระคัมภีร์ ซึ่งอิสราเอลกำลังเฉลิมฉลอง อยู่ในขณะนี้
I got -3914 bc + 2017 - 1 year zero = 5,930 years which is shy 70 years from 6,000 years. The number 70 is symbolic for a full biblical generation which Israel is celebrating now.

 

กรมทรัพยากรธรณี


#ภัยแผ่นดินไหว ไม่สามารถคาดการ์ณได้ แต่เราสามารถเรียนรู้ถึงการเตรียมพร้อมเมื่อภัยมา เช้านี้มาร่วมเรียนรู้กับข้อปฏิบัติตนเมื่อเกิดภัยแผ่นดินไหวกันนะคร้าบบ

 

Apocalipsis Mundial

น้ำท่วมรุนแรงใน Franca, Sao Paulo, Brasil.

 

Smoke Watch



เอาไงกันดีค๊า... หรือจะเป็นเวลาวิกฤตที่เราต้องป่วยไปพร้อมๆกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่า "เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ไม่ใช่แวดล้อม แต่มันคือเรื่องใกล้ตัวเรา และต้องให้ความสำคัญ กันอย่างจริงจัง...จริงๆ"

 

WeatherNation

ส่วนที่น่ากลัวที่สุดของน้ำท่วมในเวสต์เทนเนสซี คือ รู้ว่าอีก 3-4 " กำลังเดินทางไปในช่วงสุดสัปดาห์ จำไว้ เปิดรอบ อย่าจมน้ำ!

The scariest part of the flooding in west Tennessee is knowing that another 3-4" is on the way by the weekend. Remember, TURN AROUND DON'T DROWN! (https://youtu.be/HvJ_WEKh6XQ)

 

มารา กล้วยตานี

นรกรอมึงอยู่ เพราะความเชื่อและศรัทราเขาจึงเอามาฝากเรียน นี้หรือสิ่งที่มึงยัดเยียดให้กับเด็กๆ
แฉพฤติกรรม อาจารย์โซะ ลวงละเมิดทางเพศขยี้กามเด็กที่ยะลา
"Ibrahim"
เรื่องอื้อฉาวชายแดนใต้จากซีรีย์ดราม่าอุสตาซกินนมเด็ก งาบเงินอุดหนุนการศึกษา ค่าอาหารกลางวัน บรรจุนักเรียนผี งุบงิบเงินเดือนครูและค่าเสี่ยงภัยมากกว่าปีละ 4,000 ล้านบาท ลามมาถึงภัยใกล้ตัวแอบอ้างศาสนาใช้เด็กบำเรอกาม กับพฤติกรรม อาจารย์โซะ อีกทั้งยังมีอุสตาซซาตานกินเด็กในปอเนาะหญิงอีกมาก ด้วยการบังคับเด็กอมนกเขา บำเรอกามสนองตัณหาในปอเนาะ ในหอพักนักเรียนหญิงอีกจำนวนมาก ที่เด็กไม่กล้าพูดถูกซุมเปาะฮ์ให้กลัวบาป
เมื่อวันที่ 20 ก.พ.62 สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา ได้ออกหมายจับที่ 63/2562 นายมะยูโซะ เซ็น หรือ อาจารย์โซะ อายุ 65 ปี เจ้าของสถานที่พักรับสอนพิเศษภาษาอังกฤษ และสอนศาสนา เป็นข้าราชการครูบำนาญ เป็นนักจัดรายการวิทยุชื่อดัง อยู่บ้านเลขที่ 4 ถนนสิโรรส ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา ผู้ต้องหากระทำความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจารและพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่ออนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม

พฤติกรรมของ อาจารย์โซะ จากการให้ปากคำของเด็กผู้เสียหาย นำเด็กจากโรงเรียนของตนเองออกมา อ้างว่าพามาออกรายการวิทยุที่ สวท.ยะลา แล้วให้เด็กโทรบอกผู้ปกครองเปิดวิทยุรอฟังเสร็จแล้วบอกเด็กว่าขอแวะไปบ้านซึ่งอยู่ในโครงการยะลาซิตี้ เพื่อจะไปให้อาหารแมว เมื่อมาถึงบ้านก็จะให้เด็กตอบคำถามภาษาอังกฤษ แล้วก็ลงโทษหากตอบผิด โดยให้มาตอบที่ข้างหู วิธีลงโทษคือหยิก บิด แถวหน้าอกหรือด้านล่างลงไปในครั้งแรกจะกระทำแบบนี้เพื่อดูท่าทีเด็กก่อน (เหยื่อทั้ง 5 คนให้การตรงกันในพฤติกรรม)
เหยื่อทั้ง 5 คน 1 คนโดน 5 ครั้ง 1 คนโดน 3 ครั้ง อีก 3 คนโดนครั้งแรก ล่าสุดก่อเหตุเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมากับเหยื่อคนที่โดนมา 5 ครั้ง ในจำนวนนี้ถูกข่มขืนกระทำชำเราจำนวน 2 ราย การเลือกเหยื่อของ อาจารย์โซะ จะเลือกเหยื่อที่มีนิสัยเรียบร้อยไม่พูดมาก คนที่โดนมากสุดคือล่วงละเมิด กระทำชำเราและข่มขืน เสร็จแล้วจะให้เงิน 200 บาทแล้วบังคับให้เด็กซุมเปาะฮ์ (สาบาน) ว่าจะไม่นำเรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าวไปบอกใคร!!!!
ความรุนแรงในพื้นที่ที่ว่าเลวร้ายแล้ว ยังไม่ได้มากไปกว่าคนแบบนี้เท่าใดนัก เป็นภัยใกล้ตัวกับบุตรหลานของเรา พฤติกรรมของ อาจารย์โซะ ไม่ได้เพิ่งเกิดกับผู้เสียหายแค่ 5 รายนี้เท่านั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกิดมานานแล้วเคยกระทำกับเหยื่อ 12 ปี คาดว่ามีกว่าครึ่ง 10 ที่โดนข่มขืน และเรื่องนี้เป็นที่รู้กันแต่ไม่สามารถเอาผิดได้เนื่องจากผู้ปกครองไม่กล้าออกมาแจ้งความ
พฤติกรรมของ อาจารย์โซะ ยังเคยขนเด็ก 100 กว่าคน จากโรงเรียนดรุณฯ อ.มายอ จ.ปัตตานี แล้วมาข่มขู่ ผอ.สช.และเจ้าหน้าที่ สช.อำเภอมายอเพื่อขอเบิกเงินอุดหนุนจากรัฐ อีกทั้ง อาจารย์โซะ เคยนำนักเรียน 150 คน มาเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่บ้านน้ำใส เจ้าหน้าที่เคยเชิญตัวมาซักถาม กรณีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตงบประมาณรัฐบรรจุนักเรียนผีโรงเรียนปอเนาะของ นายเซ็ง มะลี
ที่กล่าวมาคือพฤติกรรมของนายมะยูโซะ เซ็น หรือ อาจารย์โซะ ที่เปิดสถานที่พักรับสอนพิเศษภาษาอังกฤษ และสอนศาสนาบังหน้า เราต้องขอคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชนที่ถูกมารศาสนาเหล่านี้แอบอ้างศาสนาเอาเด็กบำเรอกาม กระทำอนาจารชำเราเด็กแล้วจับซุมเปาะฮ์ให้กลัวบาป ทำมิดีมิร้ายกับเด็กอย่างไรก็ได้กลับอ้างว่าได้บุญ ขณะเดียวกันหากร้องเรียนโวยวายจะเป็นบาป นอกจากนี้ยังมีอุสตาซจำนวนมากแสวงประโยชน์หากินอันมิชอบ ทั้งเงินอุดหนุนการศึกษา ค่าอาหารกลางวัน นมโรงเรียน ปีละมากกว่า 4,000 ล้านบาท วอนไปยังองค์กรภาคประชาสังคม NGOs ควรตรวจสอบโรงเรียนสอนศาสนาเอกชนเหล่านี้อย่างจริงจังด้วย อย่าสนใจแต่เรื่อง รายงานการซ้อมทรมานเท็จ ที่คอยจ้องจับผิดเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งๆ ที่รัฐให้การดูแลประชาชนทุกเชื้อชาติทุกศาสนาอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน

 

ผศ.ยูชิดะ อธิบายแนวคิดของเขาว่า การเคลื่อนตัวของชั้นเปลือกโลกแบบเชื่องช้า (Slow slip) จะทำให้แผ่นหินในชั้นเปลือกโลกเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้าตามไปด้วย ด้วยอัตราความเร็วที่ต่ำกว่าการเคลื่อนตัวตามปกติในขณะที่เกิดแผ่นดินไหวเป็นอย่างมาก การเคลื่อนตัวแบบนี้จะเพิ่มความเครียดให้กับบริเวณใกล้เคียงให้สะสมตัวสูงขึ้นถึงจุดหนึ่งโดยไม่มีการผ่อนความเครียดลงเนื่องจากมัน “ช้าและเบา” ในที่สุดก็จะมาถึงจุดที่เปลือกโลกบริเวณนั้นรับความเครียดต่อไปไม่ได้ ความเร็วของการเคลื่อนตัวนี้ก็จะเริ่มเพิ่มขึ้นราวสองสามวันก่อนหน้าและจากนั้นการสั่นไหวครั้งใหญ่ก็จะเกิดตามมา

แนวคิดของ ผศ.ยูชิดะ ได้รับการคัดค้านจากนักวิชาการหลายท่าน เช่นศาสตราจารย์เดวิด เเจ็คสัน จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียแอลเอ พูดถึงเรื่องนี้ว่า อย่างดีที่สุด ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการเคลื่อนตัวของชั้นเปลือกโลกแบบเชื่องช้าของยูชิดะ ก็น่าจะนำไปใช้แสดงความเป็นไปได้ในระดับต่ำๆ เท่านั้น ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ไม่สามารถนำไปใช้พยากรณ์ได้จริงทุกครั้งไป หรือศาสตราจารย์ฟิลลิป สตาร์ค จากด้านสถิติแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเบิร์คลี่ย์กล่าวว่า หากนักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถทดสอบการพยากรณ์ต่างๆ ที่ใช้ข้อมูลใหม่นี้ร่วมด้วย ก็ยังถือว่าเป็นการค้นพบหลักฐานสนับสนุนที่น่าสนใจแต่ไม่ใช่การค้นพบข้อมูลใหม่ที่สำคัญ คุณสตาร์ควิจารณ์ว่าการศึกษาวิจัยนี้ขาดข้อมูลทางสถิติ

หรือนักวิจารณ์ทฏษฎีการพยากรณ์แผ่นดินไหวคนสำคัญอีกคนหนึ่งกล่าวว่า หลังเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ก็มักเป็นเรื่องง่ายที่จะถือเอาว่าการเคลื่อนไหวใดๆ ใต้เปลือกโลกเป็นสัญญาณเตือนก่อนหน้าเหตุแผ่นดินไหว (คล้ายพวกเก่งหลังหวยออก)

นักแผ่นดินไหวญี่ปุ่น พัฒนาหนทางพยากรณ์แผ่นดินไหว

23/3/2016 โดย Vop 0 Comments

แผ่นดินไหวยังคงเป็นภัยพิบัติที่ไม่อาจทำนายการเกิดล่วงหน้าได้ แต่ก็มีคนพยายามจะทำให้ได้ตลอดมา เพื่อหวังความสำเร็จในวันหนึ่ง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นาโอกิ ยูชิดะ นักแผ่นดินไหว*จากศูนย์วิจัยด้านการพยากรณ์แผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด มหาวิทยาลัยโตโฮกุ พร้อมด้วยทีมงาน ได้ใช้สัญญานคลื่นแผ่นดินไหวขนาดจิ๋วที่มีความสั่นสะเทือนต่ำจนมนุษย์ไม่สามารถรู้สึกได้ ในการสังเกตโอกาสความเป็นไปได้ที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดยักษ์

ผศ.ยูชิดะ สนใจกลุ่มของคลื่นแผ่นดินไหวขนาดจิ๋วจนถึงขนาดเล็ก กล่าวคือตั้งแต่แมกนิจูด 2.5 ขึ้นไป จำนวน 6,126 ครั้งที่เกิดตั้งแต่ช่วงปี 1984 จนถึง 2011 ซึ่งเป็นการขยับตัวของเปลือกโลกแบบเชื่องช้า (Slow slip) เพื่อนำมาเชื่อมโยงกับการเกิดแผ่นดินไหวขนาดยักษ์ แมกนิจูด 9.0 Mw* ที่เกิดเมื่อ 11 มีนาคม 2011 ทางตะวันออกของญี่ปุ่น จนก่อให้เกิดคลื่นสึนามิและมีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ผศ.ยูชิดะ อธิบายแนวคิดของเขาว่า การเคลื่อนตัวของชั้นเปลือกโลกแบบเชื่องช้า (Slow slip) จะทำให้แผ่นหินในชั้นเปลือกโลกเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้าตามไปด้วย ด้วยอัตราความเร็วที่ต่ำกว่าการเคลื่อนตัวตามปกติในขณะที่เกิดแผ่นดินไหวเป็นอย่างมาก การเคลื่อนตัวแบบนี้จะเพิ่มความเครียดให้กับบริเวณใกล้เคียงให้สะสมตัวสูงขึ้นถึงจุดหนึ่งโดยไม่มีการผ่อนความเครียดลงเนื่องจากมัน “ช้าและเบา” ในที่สุดก็จะมาถึงจุดที่เปลือกโลกบริเวณนั้นรับความเครียดต่อไปไม่ได้ ความเร็วของการเคลื่อนตัวนี้ก็จะเริ่มเพิ่มขึ้นราวสองสามวันก่อนหน้าและจากนั้นการสั่นไหวครั้งใหญ่ก็จะเกิดตามมา

แนวคิดของ ผศ.ยูชิดะ ได้รับการคัดค้านจากนักวิชาการหลายท่าน เช่นศาสตราจารย์เดวิด เเจ็คสัน จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียแอลเอ พูดถึงเรื่องนี้ว่า อย่างดีที่สุด ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการเคลื่อนตัวของชั้นเปลือกโลกแบบเชื่องช้าของยูชิดะ ก็น่าจะนำไปใช้แสดงความเป็นไปได้ในระดับต่ำๆ เท่านั้น ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ไม่สามารถนำไปใช้พยากรณ์ได้จริงทุกครั้งไป หรือศาสตราจารย์ฟิลลิป สตาร์ค จากด้านสถิติแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเบิร์คลี่ย์กล่าวว่า หากนักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถทดสอบการพยากรณ์ต่างๆ ที่ใช้ข้อมูลใหม่นี้ร่วมด้วย ก็ยังถือว่าเป็นการค้นพบหลักฐานสนับสนุนที่น่าสนใจแต่ไม่ใช่การค้นพบข้อมูลใหม่ที่สำคัญ คุณสตาร์ควิจารณ์ว่าการศึกษาวิจัยนี้ขาดข้อมูลทางสถิติ

หรือนักวิจารณ์ทฏษฎีการพยากรณ์แผ่นดินไหวคนสำคัญอีกคนหนึ่งกล่าวว่า หลังเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ก็มักเป็นเรื่องง่ายที่จะถือเอาว่าการเคลื่อนไหวใดๆ ใต้เปลือกโลกเป็นสัญญาณเตือนก่อนหน้าเหตุแผ่นดินไหว (คล้ายพวกเก่งหลังหวยออก)

อีกท่านหนึ่งคือศาสตราจารย์โรเบิร์ต เกลเล่อร์ จากภาคภูมิศาสตร์ฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยโตเกียว กล่าวว่า แม้ว่าจะมีการพยากรณ์ด้านนี้มานาน 100 ปีแล้ว ยังไม่มีใครสามารถค้นพบวิธีที่ดีกว่าในการแยกแยะการสั่นสะเทือนก่อนหน้าเหตุแผ่นดินไหว จากเหตุแผ่นดินไหวเเบบอ่อนๆ ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวได้

เรียกว่าแนวคิดของ ผศ.ยูชิดะ โดนสับเละ แต่ก็เป็นสัญญาณให้เรารู้ว่า มนุษย์ยังคงหาทางพยากรณ์การเกิดแผ่นดินไหวกันอยู่ต่อไปไม่ยอมแพ้ คนแรกที่ทำได้ก็คงหนีรางวัลโนเบลไม่พ้น

ที่มา http://www.nature.com/news/in-japan-small-shakes-presage-big-quakes-1.19252
เพจของ ศ.ยูชิดะ http://www.aob.gp.tohoku.ac.jp/~uchida/indexe.html

เรียบเรียงโดย @MrVop
*ปล.นักแผ่นดินไหว หรือ Seismologist เป็นอาชีพที่คนไทยแทบไม่เคยได้ยิน รู้จักแต่นักธรณีวิทยา หรือ Geologist ซึ่งโดยความเป็นจริงแล้วทั้ง 2 ฝ่ายมีความเชี่ยวชาญแตกต่างกัน ยกตัวอย่าง นักแผ่นดินไหวจะรู้จุดเหนือจุดศุนย์กลางแผ่นดินไหวและความลึกของจุดโฟกัสโดยไม่ต้องก้าวขาออกจากห้องที่ติดตั้งเครื่องมือไว้เลย เป็นต้น พูดง่ายๆคือตัวขาวไม่โดนแดด ขณะที่นักธรณีวิทยาต้องลงพื้นที่ ตากแดดตัวดำไปสำรวจจุดความเสียหายด้วยตัวเองจึงจะทราบตำแหน่งที่แน่นอน เป็นต้น

*Mw ย่อมาจาก มาตราโมเมนต์

http://jimmysoftwareblog.com/node/3994

 

ช่างศุภวิชญ์ จูเปรมปรี

แผ่นดินไหวลำปาง. อาฟเตอร์ช็อค31ครั้งนักวิชาการเตือนอาจเกิดแผ่นดินไหวใหญ่

 

มูฮัมหมัดคาร ฮารุดีน

โฆษกกองกำลัง Kata'ib Hezbollah (ฮิซบุลลอฮ์แห่งอิรัก) กล่าวว่า สหรัฐฯมีฐานทัพ 31 แห่ง ทหารอีก 34,000 นายในอิรัก

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-

โฆษกของกองกำลัง Kata'ib Hezbollah เปิดเผยว่าสหรัฐฯกำลังวางแผนที่จะเพิ่มกำลังทหารในอิรักโดยการเพิ่มจำนวนทหารและฐานในประเทศอิรัก

“ สหรัฐฯมีฐานทัพ 31 แห่ง รวมถึงฐานพิเศษเจ็ดแห่งสำหรับเครื่องบินขับไล่ไอพ่นและอีกหกฐานสำหรับภารกิจด้านข่าวกรอง และมีทหาร 34,000 นาย บริษัทศูนย์การขนส่งห้าแห่ง บริษัทร่วมอีก 24 แห่งในอิรัก

กองกำลัง Kata'ib Hezbollah คอยเฝ้าสังเกตการเคลื่อนไหวของกองกำลังทหารของกองทัพสหรัฐฯตามแนวชายแดนอิรัก หน่วยข่าวกรองของ Kata'ib Hezbollah ได้รายงานว่า การตั้งกองทหารของสหรัฐฯในอิรักที่ได้เกิดขึ้น เพื่อมุ่งหวังในการช่วยเหลือกลุ่มก่อการร้ายต่างๆตามแนวชายแดนอิรัก - ซีเรีย

Kazzem al-Sayyadi ผู้บัญญัติกฎหมายอิสระของรัฐสภาอิรักบอกเว็บไซต์ข่าวภาษาอาหรับ al-Ma'aloumeh ว่ามีผู้ก่อการร้าย ISIL กว่า 1,000 คนเข้าฝึกในฐานทัพสหรัฐในอิรัก

“ กองกำลังสหรัฐเข้าสู่ดินแดนของอิรักโดยการตัดสินใจตามอำเภอใจ และจำนวนของพวกเขาในขณะนี้มีจำนวนกว่า 30,000 คน พวกเขาพร้อมสนับสนุน ISIL ในขณะนี้มีสมาชิก ISIL กว่า 1,000 คนอยู่ฝึกที่ฐานทัพสหรัฐฯ”

BY>>>>>Giant Khan<<<<<

http://en.farsnews.com/newstext.aspx?nn=13971202000234

 

NHK WORLD-JAPAN

เจ้าหน้าที่สนามบินกล่าวว่าไม่มีเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบ แต่ประชาชน ประมาณ 120 คนไม่สามารถออกเดินทางได้ เนื่องจากการหยุดให้บริการรถไฟ ผู้ปฏิบัติงานของสนามบินชิโตเสะแห่งใหม่ ได้แยกส่วนหนึ่งของอาคารผู้โดยสารเพื่อเป็นที่พักพิง

Airport authorities say no flights have been affected, but about 120 people weren't able to leave due to the suspension of train services. The operator of New Chitose Airport set aside part of a terminal building as a shelter for them.

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Feb 22) สงครามการค้าสหรัฐVSจีน ปลุกนิคมอุตสาหกรรมไทย : ภาพรวมอุตสาหกรรมโดยรวมของประเทศไทยยังมีเสถียรภาพ เนื่องจากความต้องการในการขยายโรงงานใหม่จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า การลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 เพิ่มขึ้น 258% เมื่อเทียบกับปีก่อนมีมูลค่า 3,380 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นอย่างมากของ FDI ในภาคการผลิตยังคงไม่ได้แปลว่ายอดขายที่ดินเพื่ออุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น โดยผู้ผลิตอาจอัพเกรดเครื่องจักรในโรงงานที่มีอยู่แทนที่จะขยายไปยังโรงงานใหม่

ปัจจุบันประเทศไทยเป็นผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอยู่ในอันดับ 12 ของโลก อุตสาหกรรมรถยนต์ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนความต้องการที่ดินเพื่ออุตสาหกรรมและโรงงานสำเร็จรูป เห็นได้จากการผลิตรถยนต์ในไตรมาส 3 ปี 2561 มีจำนวน 5.47 แสนคัน เพิ่มขึ้น 3.9% จากปีก่อน แม้ว่าปริมาณการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในไตรมาส 3 ปี 2561 จะสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2556 แต่ยอดส่งออกรถยนต์ในไตรมาส 3 ปี 2561 ลดลง 5.3% จากปีก่อน อยู่ที่ 2.96 แสนคัน

สำหรับความต้องการที่ดินเพื่ออุตสาหกรรมยังคงที่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 ซึ่งราคาส่วนใหญ่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากการสำรวจของบริษัท ซีบีอาร์อี ประเทศไทย พบว่า ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 มีจำนวน 306 ไร่ ลดลง 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่มีจำนวน 758 ไร่ สาเหตุหลักมาจากการขายที่ดินเพื่ออุตสาหกรรมที่สูงในไตรมาสแรกปี 2560 จากนิคมอุตสาหกรรม WHA Eastern Seaboard 4 (WHA ESIE4) จำนวน 473 ไร่ ให้แก่บริษัท คอนติเนนทอล ผู้ผลิตยางรถยนต์สัญชาติเยอรมนี

ณ ไตรมาส 2 ปี 2561 อัตราพื้นที่ว่างของโรงงานสำเร็จรูปอยู่ที่ 27.3% จาก 29.1% ในไตรมาสก่อนหน้า อัตราพื้นที่ว่างได้ลดลงอย่างช้าๆ เนื่องจากโรงงานที่มีอยู่ถูกปล่อยให้เช่าพื้นที่ออกไป

ทั้งนี้ ความต้องการอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ในประเทศไทย ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของอี-คอมเมิร์ซ และบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภค ณ ไตรมาส 2 ปี 2561 ปริมาณการขายรวมของพื้นที่คลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้ารุ่นใหม่ยังคงอยู่ที่ 3.4 ล้านตารางเมตร และอัตราการใช้พื้นที่ลดลงเล็กน้อยจาก 80.4% เป็น 79.6% ซึ่งซีบีอาร์อีคาดว่าอัตราการใช้พื้นที่ที่ลดลงนั้นเป็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพราะความต้องการใช้พื้นที่ยังคงเติบโตรับกับทิศทางธุรกิจอี-คอมเมิร์ซและสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงขาขึ้น

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในปีนี้สงครามการค้าที่อาจจะทวีความรุนแรงมากขึ้นอาจส่งผลดีต่อตลาดอุตสาหกรรมของไทยนับตั้งแต่เริ่มสงครามการค้าในปี 2561 ผู้พัฒนารายใหญ่ของนิคมอุตสาหกรรมบางรายอ้างว่าพวกเขาอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ผลิตชาวจีนจำนวนมากที่ต้องการย้ายฐานการผลิต หรือโรงงานมายังประเทศไทย โดยเฉพาะใน จ.ระยอง และชลบุรี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งดึงดูดผู้ผลิตของการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ซึ่งมีแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและแรงจูงใจในการลงทุนและได้รับความสนใจจากต่างประเทศ

นอกเหนือจากแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแล้วเขตปลอดอากรในนิคมอุตสาหกรรมยังคงดึงดูดผู้ผลิตชาวจีนในการขยายฐานผลิตมาเขตปลอดอากร เป็นเขตพิเศษที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งให้ข้อได้เปรียบทางการเงินโดยเฉพาะในเรื่องการยกเว้นภาษี ในปีนี้เขตปลอดอากรจะมีบทบาทที่สำคัญยิ่งขึ้นในการเชิญชวนและสนับสนุนให้ ผู้ผลิตจีนขยายฐานการผลิตมาอยู่ในไทย หากสงครามการค้ายังรุนแรงขึ้น

สำหรับตลาดโรงงานสำเร็จรูป คาดว่า ปีนี้อุปทานทั้งหมดจะมีเสถียรภาพ โดยอัตราพื้นที่ว่างลดลง เนื่องจากโรงงานที่มีอยู่ยังคงมีการปล่อยเช่าหรือขายให้กับผู้ผลิต ความต้องการโรงงานสำเร็จรูปจะได้รับแรงหนุนจากผลกระทบของสงครามการค้า ผู้พัฒนาโรงงานจำนวนมากกำลังมุ่งหน้าไปยังกลยุทธ์ Built-to-Suit ซึ่งเป็นการออกแบบสำหรับความต้องการเฉพาะของลูกค้า โดยมีระยะเวลาการเช่านานขึ้นอยู่ที่ 10-15 ปี

ปัจจุบันพื้นที่คลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้ารุ่นใหม่นั้นมีซัพพลายที่จำกัดในพื้นที่บางนาตราดระหว่าง กม.18 และ กม.23 ซึ่งเป็นทำเลที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดสำหรับบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคและอี-คอมเมิร์ซ ที่ผ่านมา มีที่ดินเหลือจำกัดในเขตพื้นที่สีม่วง หรือเขตอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถสร้างคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ ที่จะทำให้ค่าเช่าคลังสินค้าในทำเลที่ดีนั้นเพิ่มขึ้น

ศูนย์โลจิสติกส์ไช่เหนียว (Cainiao) ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง Alibaba และ WHA Group ตั้งอยู่บนถนนบางนาตราด กม.35 อยู่ระหว่างพัฒนาบนพื้นที่ราว 300 ไร่ การทำงานร่วมกันระหว่าง ผู้พัฒนาคลังสินค้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและยักษ์ใหญ่ระดับโลกด้านอี-คอมเมิร์ซ บ่งบอกถึงสัญญาณการเติบโตที่ดีในธุรกิจอี-คอมเมิร์ซของตลาดค้าปลีก

โดย โชคชัย สีนิลแท้

Source: Posttoday

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Feb 22) รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางยุโรป (ECB) ล่าสุดสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของคณะกรรมการที่เพิ่มขึ้นต่อเศรษฐกิจยูโรโซน : รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2019 สะท้อนให้เห็นว่า คณะกรรมการฯ ECB มีความกังวลต่อเศรษฐกิจยูโรโซนมากขึ้นหลังเศรษฐกิจยูโรโซนอ่อนแอลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้เป็นระยะเวลาสามไตรมาสติดต่อกัน รวมถึงแสดงความกังวลต่อความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอกที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจยูโรโซนโดยรวม พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการพิจารณาเตรียมความพร้อมสำหรับมาตรการปล่อยสินเชื่อระยะยาวเพิ่มเติมให้กับภาคธนาคาร

ECB เริ่มมีการพิจารณาถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับมาตรการปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำให้กับภาคธนาคารโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สภาพคล่องในระบบยังคงอยู่ในระดับที่มากเพียงพอต่อไปแม้จะเกิดสถานการณ์ที่เศรษฐกิจยูโรโซนชะลอตัวลง โดยมาตรการดังกล่าวจะเข้ามาช่วยสนับสนุนผู้ปล่อยสินเชื่อในยูโรโซน ทดแทนมาตรการ Targeted Long-Term Refinancing Operation (TLTRO) ชุดปัจจุบันที่จะเริ่มทยอยครบกำหนดในช่วงกลางปีหน้า

ECB ระบุว่า ยังไม่เร่งรีบที่จะออกมาตรการ TLTRO ชุดใหม่ แต่ต้องการให้มีวิเคราะห์และเตรียมความพร้อมทางเลือกสำหรับมาตรการต่างๆ หากมีความจำเป็นต้องมีการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบในอนาคต ทั้งนี้ สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ECB กำลังพิจารณาปล่อยสินเชื่อในหลายรูปแบบซึ่งจะอ้างอิงกับ main refinancing rate และอาจมีระยะเวลาที่สั้นกว่ามาตรการชุดเก่าที่มีระยะเวลา 4 ปี โดยคาดว่าคณะกรรมการฯ ECB จะมีการหารือกันในประเด็นดังกล่าวในการประชุมเดือน มี.ค. ที่จะถึงนี้

Source: BoTSS
- https://www.thetimes.co.uk/article/...8wuzWkw-vDUfcSgVdd10KfxPJVQhgRctxIXdEK_kCY8cY

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Feb 22) จีนเสนอนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐ: สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ทางการจีนเสนอนำเข้าสินค้าการเกษตร อาทิ ถั่วเหลือง ข้าวโพด และข้าวสาลี จากสหรัฐฯ เพิ่มเติมด้วยมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ สรอ. โดยคาดว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในบันทึกข้อตกลงความเข้าใจที่ทั้งสองฝ่ายกำลังดำเนินการจัดทำ

นอกจากนี้ แหล่งข่าวระบุว่า ทางด้านเจ้าหน้าที่เจรจามีแผนที่จะหารือเรื่องการยกเลิกภาษีการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน สำหรับผลิตภัณฑ์ส่วนที่เหลือจากการผลิตเอทานอลจากข้าวโพด (distillers dried gains) ขณะเดียวกัน นาย Sonny Perdue, U.S. Agriculture Secretary กล่าวว่า ยังเป็นการเร็วเกินไปที่จะแสดงความคิดเห็นเรื่องมูลค่าที่ทางการจีนจะเพิ่มการนำเข้าสินค้าในข้อตกลง โดยตนยังไม่อยากที่จะเพิ่มความคาดหวังในเรื่องดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังได้กล่าวเสริมว่า หากรัฐบาลสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงในเรื่องการปฏิรูปเชิงโครงสร้างกับทางการจีน ทางสหรัฐฯ ก็จะสามารถฟื้นฟูตลาดได้อย่างรวดเร็ว อนึ่ง ในปี 2017 ประเทศจีนนำเข้าสินค้าการเกษตรจากสหรัฐฯ รวมมูลค่ากว่า 24.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ. อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่ทางการจีนดำเนินการตอบโต้ทางการค้าต่อสหรัฐฯ ส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าลดลงเหลือเพียง 16 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ในปี 2018

Source: BoTSS

- China to Propose $30 Billion More U.S. Agriculture Purchases
https://www.bloomberg.com/news/arti...zqZ8w723JB19oWr9_FuAVBow4XBwy4iXjQ1w-hzsx1LXc

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Feb 21) ปอมเปโอ เตือนนานาชาติกรณีใช้อุปกรณ์ หัวเว่ย ขู่สหรัฐไม่เป็นพันธมิตรด้วย: นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ได้เตือนชาติพันธมิตรกรณีใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน โดยได้ขู่ว่า ถ้าชาติเหล่านี้เลือกใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยแล้ว สหรัฐจะไม่เป็นพันธมิตรหรือแบ่งปันข้อมูลกับประเทศเหล่านี้ เนื่องด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง

นายปอมเปโอ ให้สัมภาษณ์กับสถานีข่าวฟ็อกซ์ว่า ประเทศต่าง ๆ ควรเข้าใจความเสี่ยงในการใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย และหากท้ายที่สุดประเทศเหล่านี้ตัดสินใจใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยแล้ว สหรัฐจะไม่สามารถร่วมงานกับประเทศเหล่านี้ได้

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความพยายามของสหรัฐในการผลักดันประเทศพันธมิตรในยุโรปและทั่วโลก ให้หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์จากหัวเว่ยหรือบริษัทจีนรายอื่น ๆ ในระบบพาณิชย์ ในขณะที่ประเทศเหล่านั้นกำลังเตรียมความพร้อมยกระดับเทคโนโลยีเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สายคลื่นความถี่ 5G

ล่าสุดไม่นานมานี้ กระทรวงการต่างประเทศของจีนออกแถลงการณ์ระบุว่า สหรัฐและประเทศอื่น ๆ ยังไม่ได้แสดงหลักฐานที่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะเชื่อได้ว่าบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ และประเทศเหล่านี้กระพือกระแสความกลัวหัวเว่ยเนื่องจากต้องการปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง

"ผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์หัวเว่ยกำลังกุเรื่องภัยคุกคาม และใช้อำนาจรัฐในการกดขี่สิทธิในการพัฒนาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และผลประโยชน์ของบริษัทจีน รวมทั้งใช้การเมืองเพื่อแทรกแซงเศรษฐกิจ" นางหัว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าว

"ทุกประเทศควรดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเป็นธรรม และมีเหตุผล มากกว่าที่จะสร้างเรื่องกล่าวหาเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ซึ่งเป็นการกระทำที่เสแสร้ง และไม่ยุติธรรม" นางหัวกล่าว

แถลงการณ์ของจีนในครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุด นับตั้งแต่ที่สหรัฐและอีกหลายประเทศได้สั่งห้ามหัวเว่ยเข้าร่วมโครงการ 5G เนื่องจากวิตกว่าบริษัทอาจทำการจารกรรมข้อมูลให้แก่รัฐบาลจีน

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียง

-
https://www.channelnewsasia.com/new...zy7Df1OL7ck0OduLdFXrD5VHBS1OT1zLo1Gmis7pXXiT8

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Feb 21) สหรัฐหนี้ท่วม อ่วมครัวเรือน-ภาครัฐ : เศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้อาจจะยังดูแข็งแกร่งดีอยู่เมื่อเทียบกับฝั่งยุโรปและจีนที่กำลังง่อนแง่น แต่ภายใต้จีดีพีที่ยังขยายตัวได้ดีก็เริ่มมีตัวเลขข้างในที่ส่งสัญญาณน่ากังวลให้เห็นออกมา บ้างแล้ว

ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า "ระดับหนี้"ของสหรัฐกำลังทะยานขึ้นสูงสุดทุบสถิติครั้งใหม่ ไม่ว่าจะเป็น "หนี้ของรัฐบาล" (National Debt) หรือ "หนี้ภาคครัวเรือน" (Household Debt) ซึ่งรายหลังนี้ยังพบความน่าห่วงเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ ที่เริ่มมีปัญหาด้วย

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ระดับหนี้ครัวเรือนของสหรัฐใน ไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา ขยายตัวเพิ่มอีก 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1 ล้านล้านบาท)

แต่หากสิริรวมตลอดทั้งปี 2018 จะพบว่ามีหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นถึง 4 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 12.47 ล้านล้านบาท) รวมทั้งหมดไปแตะระดับใหม่ที่ 13.5 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 422 ล้านล้านบาท) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดทุบสถิติใหม่ของชาวอเมริกัน และยังเป็นการขยายตัวขึ้น 18 ไตรมาสติดต่อกัน

ข่าวดีก็คือ หนี้ที่พุ่งขึ้นครั้งนี้ไม่ได้มาจากกลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Mortgage) ซึ่งเคยเกิดขึ้นเมื่อราว 10 ปีที่แล้ว ก่อนจะกลายเป็นวิกฤตซับไพรม์และขยายวงลุกลามไปทั่วโลก การที่สินเชื่อกลุ่มนี้ไม่ได้ขยายตัวแบบเร็วเกินไปยังช่วยลดความกังวลต่อความเสี่ยงฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ลงด้วย แต่ข่าวร้ายก็คือ หนี้ครัวเรือนในกลุ่ม "สินเชื่อรถยนต์" และ "สินเชื่อเพื่อการศึกษา" กำลังเริ่มมีปัญหาการค้างชำระอย่างรุนแรงมากขึ้น สินเชื่อรถยนต์ตลอดทั้งปี 2018 ขยายตัวขึ้นสูงสุดอย่างที่ไม่เคยเป็น มาก่อน โดยเพิ่มขึ้น 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 1.65 ล้านล้านบาท) รวมทั้งหมดไปแตะที่ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 40.6 ล้านล้านบาท) ซึ่งยังเป็นสถิติสูงสุดของสินเชื่อกลุ่มนี้ที่เคยเก็บสถิติมา 19 ปีด้วย

จุดที่น่าเป็นห่วงก็คือ มีอัตราการค้างชำระเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยแรงฉุดหลักมาจาก 2 กลุ่มหลักคือ ลูกหนี้ในกลุ่มซับไพรม์ หรือกลุ่มเสี่ยงที่สุดที่มีความสามารถในการชำระหนี้คืนต่ำกว่ากลุ่มอื่นๆ และมักจะมีดอกเบี้ยที่แพงกว่าคนอื่นๆ ส่วนอีกกลุ่มคือ คนรุ่นใหม่ที่มักพบปัญหาเงินขาดมือ และต้องดิ้นรนหาเงินมาจ่ายในแต่ละงวด

ในมุมมองของกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์แล้ว ประเด็นที่น่าห่วงที่สุดอาจไม่ใช่ตัวเลขมูลหนี้ทั้งหมดที่พุ่งแตะหลักล้านล้านดอลลาร์ แต่เป็นจำนวนชาวอเมริกันที่มียอดหนี้คงค้างสินเชื่อรถยนต์นานเกิน 3 เดือนขึ้นไป (Serious Delinquency) ซึ่งมีจำนวนสูงสุดทุบสถิติใหม่ โดย ณ สิ้นปี 2018 ตัวเลขนี้ขยายตัวขึ้น 2.4% ไปอยู่ที่กว่า 7 ล้านคน โดยตัวเลขนี้บ่งชี้ว่า แม้จีดีพีจะโตดีและอัตราการว่างงานต่ำ แต่ก็ยังมีชาวอเมริกันอีกจำนวนมากต้องดิ้นรนกับภาระหนี้

นอกจากกลุ่มรถยนต์แล้ว สินเชื่อกู้ยืมเพื่อการศึกษา หรืออาจเรียกได้ว่า กยศ.แบบอเมริกา ก็กำลังอยู่ในจุดที่น่ากังวลเช่นกัน โดยตลอดทั้งปี 2018 สัดส่วนหนี้ กยศ. พุ่งขึ้นถึง 7.9 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 2.47 ล้านล้านบาท) เมื่อเทียบปีก่อนหน้า ไปแตะระดับ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 47 ล้านล้านบาท)

นักเศรษฐศาสตร์หลายฝ่าย ต่างกังวลว่า ภาระหนี้ กยศ.ที่ ทะยานขึ้นเช่นนี้จะเป็นปัจจัยลบ กดดันเศรษฐกิจสหรัฐอีกทางหนึ่ง เพราะแม้เหล่านักศึกษาจะจบไป ทำงานแล้วในยุคที่อัตราว่างงานต่ำแบบนี้ แต่ก็คงไม่สามารถซื้อบ้านไปได้อีกนาน เพราะต้องแบกรับภาระหนี้ กยศ.อยู่

ส่วน "หนี้บัตรเครดิต" นั้น เพิ่มขึ้น 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 1.12 ล้านล้านบาท) ในปีที่แล้ว ไปอยู่ที่ 8.7 แสนล้านดอลลาร์ (เกือบ 27.2 ล้านล้านบาท) ซึ่งแม้ว่าตัวเลขจะยังไม่ทะลุดวงดาวไปแตะหลักล้านๆ แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่หนี้บัตรเครดิตทะยานแซงหน้าสถิติเดิมของปี 2008 ไปแล้ว

หากดูคุณภาพสินเชื่อจากตัวเลขยอดหนี้คงค้างนานเกิน 90 วัน จะพบว่า ส่วนของหนี้บัตรเครดิตและรถยนต์นั้นแย่ลง ในขณะที่สินเชื่อบ้านกับ กยศ.ยังทรงตัว

จอร์จ ไรท์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากไอซีไอเอ็มเอส ให้มุมมองกับบิซิเนสอินไซเดอร์ว่า แม้ตัวเลขหนี้ภาคครัวเรือนของสหรัฐในขณะนี้ยังไม่ถือว่าอยู่ในขั้นอันตรายเสียทีเดียว แต่ก็กำลังมุ่งไปสู่ทิศทางที่น่ากลัว และเป็นเรื่องที่ต้องจับตามองกันต่อไป เพราะมีความเสี่ยงชัดเจนในกลไก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในกลุ่มผู้บริโภคชาวอเมริกัน

ที่จริงแล้ว ตัวเลขหนี้ของสหรัฐที่ทะยานแตะระดับใหม่นี้ยังไม่ได้จำกัดอยู่แค่หนี้ภาคครัวเรือนเท่านั้น เพราะในช่วงก่อนหน้านี้ไม่นาน กระทรวงการคลังสหรัฐได้เปิดเผยข้อมูลใหม่ว่า ระดับ "หนี้ภาครัฐ" ของรัฐบาลวอชิงตันได้พุ่งขึ้นไปทุบสถิติใหม่แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ที่ 22 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 686 ล้านล้านบาท)

ตัวเลขนี้เป็นการงอกขึ้นมาใหม่สดๆ ร้อนๆ มากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 62.4 ล้านล้านบาท) นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบริหารเมื่อ ต้นปี 2017

จากข้อมูลสำนักงบประมาณของรัฐสภาสหรัฐ (CBO) พบว่า สหรัฐเผชิญหนี้สาธารณะและการขาดดุลงบประมาณในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 40 โดยคาดว่าภายในอีก 10 ปีข้างหน้า การขาดดุลงบประมาณของสหรัฐจะทะยานไปอยู่ที่ 4.4% ของจีดีพี หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์/ปี (ราว 37.3 ล้านล้านบาท) ซึ่งสูงขึ้นมากจากระดับเฉลี่ยในรอบ 50 ปีก่อนที่ 2.9% ของ จีดีพี

จากเดิมที่หนี้ภาครัฐ/จีดีพี อยู่ที่ระดับ 78% เมื่อปี 2018 สำนักงบฯ คาดว่าตัวเลขนี้จะพุ่งขึ้นไปแตะ 93% ต่อจีดีพี ณ สิ้นปี 2029 อยู่ที่ประมาณ 28.7 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 892 ล้านล้านบาท) ซึ่งจะเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือหากเทียบประชากร 329 ล้านคนของสหรัฐในวันนี้ อีก 10 ปีข้างหน้า ชาวอเมริกันทุกคนจะมีหนี้ต่อหัวเฉลี่ยคนละ 2.7 ล้านบาท

หากเป็นเช่นนี้ แม้เศรษฐกิจ สหรัฐจะขยายตัวติดต่อกันได้นาน ที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่จบสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ก็อาจหนีไม่พ้นวิกฤตหนี้ที่กำลังก่อตัวกลายเป็น ปัญหาใหญ่รออยู่ในวันข้างหน้า อีกไม่นานนี้แล้ว

โดย นันทิยา วรเพชรายุทธ

Source: Posttoday

 

Schumann Resonance วันนี้ 2/21/2019 เราจะพยายามแจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ Resonance ด้วยหน้านี้ ความหลากหลายที่ยิ่งใหญ่ ที่ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ แต่นั่นเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าดาวเคราะห์กำลังเปลี่ยนแปลง โลกสั่นสะเทือนมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนเรา! ความถี่ฐานอาร์เอส 7.83 Hz (Schumann Resonance หรือที่รู้จักกันในนามของ ชีพจรของโลก (Earth’s heartbeat) ซึ่งชีพจรโลกนี้ หรือจะเรียกว่าค่าความถี่ของสนามแม่เหล็กโลกก็ได้ ปรกติอยู่ที่ 7.83 HZ)

Schumann Resonance วันนี้ยอด:



2/21 - วันนี้เรามี การเพิ่มขึ้นของ Schumann Resonance รายวันของเราไม่มีพลังเทียบเท่า เมื่อวานนี้ มันมีค่าใกล้กับ 40 Hz กิจกรรมเริ่มต้นที่ 22 น. เวลาประเทศไทย (15 UTC) และดูเหมือนจะดำเนินต่อไป ในกรณีที่มี การเปลี่ยนค่าขนาดใหญ่ เราจะทำการปรับปรุงข้อมูลเป็นกรณีพิเศษ

2/20 - ธีมของวันนี้คือ Schumann Resonance 40-40-40! มันสอดคล้องกับค่าที่เพิ่มขึ้น 3 ครั้ง ถึง 40 Hz ของวันนี้เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันเช่นเมื่อวานนี้, ช่องว่าง 24 ชั่วโมง การกำหนดเวลาสำหรับ 3 จุดสูงสุด อยู่ที่ประมาณ 14 น. 16 น. 19 น. เวลาประเทศไทย (7 9 12 UTC)

2/19 - เพื่อสรุปแผนภูมิของวันนี้ มี 2 จุดจุดหนึ่งที่ 67 Hz และจุดที่สองที่ 60 Hz ตามลำดับเวลา 14:30 น. และ 17:00 น. เวลาประเทศไทย (7:30 และ 10:00 UTC ) หลังจากนี้ Schumann Resonance ก็สงบลงแล้ว


Schumann Resonance Today Peaks:

2/21 – Today again we had our daily spikes, there we not that powerful as yesterday but went very close to 40 Hz. The activity started at 15 UTC and seems to be ongoing. In case of major spikes we will do a special update.

2/20 – The theme of today is 40-40-40! Its corresponds to the three spikes to 40 Hz. of today happened almost at the same time as yesterday, a gap of 24 hrs. Timings for the 3 peaks were approximately at 7 9 12 UTC.

2/19 – To recap the today’s chart there have been 2 peaks, one at 67 and the second at 60 Hz. respectively at 7:30 and 10:00 UTC. After these there has been calm.

https://www.disclosurenews.it/en/schumann-resonance-today-update/

 

Redfish

ชาวเวเนซุเอลาหลายหมื่นคน เดินขบวนในรัฐที่ชายแดนที่ติดกับบราซิล พวกเขารวมตัวกันที่นั่น เพื่อปกป้องความสงบ และปฏิเสธการแทรกแซงของต่างชาติ โดยสหรัฐอเมริกาและพันธมิตร เช่น บราซิล

หลังจาก รัฐบาลของบราซิล บอกว่าพยายามจะพยายามส่ง "ความช่วยเหลือ ด้าน มนุษยธรรม" ไปที่ชายแดนของประเทศ (ทุกวันนี้ชาวบราซิลยังลำบากกันอยู่เลย) ที่ติดกับเวเนซูเอ เพื่อสนับสนุนฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา เพื่อทำลายรัฐบาลเวเนซุเอลา

แต่ venezuelans ที่ชายแดนกับบราซิลเห็นได้ชัดว่าไม่..ให้มีการแทรกแซงจากต่างประเทศ อื่นๆ

Tens of thousands of Venezuelans marched in the state that borders with Brazil. They gathered there to defend peace and reject foreign intervention by the United States and its allies, like Brazil.

After the US, Brazil's government said it will also try to send "humanitarian aid" to its borders with Venezuela to support the Venezuelan right-wing opposition to undermine the Venezuelan government.

But Venezuelans at the border with Brazil are apparently not having it nor any other foreign meddling.

 

صفحة الاحداث واحوال الطقس في العالم 2019



น้ำท่วมใหญ่กวาดเมืองของให้ในบราซิล, 19 _ 2 (ประเทศจะล่มจม อยู่แล้วยังจะส่งความช่วยเหลือให้เวเนซุเอล่าอีก)