ติดตามสถานะการณ์

ฝ่ายหญิงเห็นผู้ชายไม่ถึงจุดสุดยอด เลยสงสัยว่าเหนื่อยเพราะมีสาวอื่น จึงหยิบมีดมาแทงจนตาย

 

John Traczyk


21 มีนาคม 2019 สัญญาณอื่น จาก Worm Moon (พระจันทร์เต็มดวงเดือนมีนาคม) ถึง ผีเสื้อ


ผีเสื้อเลดี้ทาสีหลายพันล้านตัว จะผ่านอิสราเอล ในช่วงเทศกาล Purim นี้ เพื่ออพยพไปยังไซปรัส


March 21, 2019. Another Sign. From Worm Moon to Butterflies.

Billions of painted lady butterflies visit Israel this Purim on their migration to Cyprus.

 

La nueva era de la tierra - respaldo



โดรนจับภาพหลุมที่มีชื่อเสียง ที่เรียกกันว่าประตูแห่งนรก


หลุมนี้มีอายุมากกว่า 50 ปี

 

La nueva era de la tierra - respaldo



อย่างน้อย 71 คนตายรวมถึงเด็ก 12 คนเมื่อเรือข้ามฟากจมลงในแม่น้ำไทกริสในอิรัก


เรือที่บรรทุกเกินพิกัดได้ถูกทำให้อับปาง ใกล้เมืองโมซูล

 

La nueva era de la tierra - respaldo

ถนนที่เต็มไปด้วยลูกเห็บในมณฑลยูนนาน ของจีน นี่เป็นลูกเห็บที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีรายงานพบสัตว์ที่ถูกพายุลูกเห็บ

 

#เอาบุญมาฝาก ‍♂️‍♀️
#ช่วยกันหน่อยนะคะ
โกดังเก็บอาหาร ในวัดเวฬุวนาราม อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ขณะนี้เหลือแต่เพียงโกดังว่างเปล่า เหลือเพียง 3 กระสอบเท่านั้น ซึ่งหมายถึงว่าเหลือเวลาอีก 1 วัน เท่านั้น อาหารเม็ดที่เหลือไม่มากพอที่จะเลี้ยงชีวิตหมาจรจัดที่มีมากกว่า 400 ตัว ภายในวัดเวฬุวนาราม อำเภอ แม่ทะ จังหวัดลำปาง

โดยขณะนี้พระครูมหาวิชัย อัคคะเตโช เจ้าอาวาสวัดเวฬุวนาราม เปิดเผยว่าเนื่องจากที่ผ่านมามีคนนำสุนัขจรจัดมาปล่อยทิ้งให้เป็นภาระของวัดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ ได้มีการจับสุนัขจรจัด จากบริเวณวัดม่อนพระยาแช่ อ.เมือง จ.ลำปาง มาให้ทางวัดเลี้ยงดู ซึ่งขณะนี้ทางวัดต้องมีการรับภาระซื้ออาหารเลี้ยงสุนัขจรจัด เดือนหนึ่งมีรายจ่ายมากกว่า 50,000 บาทต่อเดือน ซึ่งขณะนี้มีสุนัขมากกว่า 400 ตัว ทำให้ทางวัดนั้นได้รับความเดือดร้อนและไม่มีเงินที่จะซื้อข้าวหรือซื้ออาหารมาเลี้ยงสุนัขแล้ว โดยทางวัดอาจจะต้องยุติและปิดตัวลง เพราะไม่มีปัญญาจริงๆ ที่จะหาอาหารเม็ดหรือยารักษาโรคและค่าใช้จ่ายต่างๆ มาเลี้ยงดูสุนัขจรจัดในขณะนี้

ถึงอย่างไรก็ตามขณะนี้ทางวัด อยากจะวอนผู้ใจบุญ ช่วยติดต่อบริจาคอาหารเม็ดอย่างเร่งด่วน เพื่อซื้อให้กับสุนัขจรจัดเหล่านี้เพื่อได้มีชีวิตดำรงต่อไป สำหรับที่อยู่วัดเวฬุวนารามลำปาง อยู่ที่ ถนนสายลำปาง-เด่นชัย เลขที่ 389 ม.8 ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง โทรศัพท์ 081-998 4518 หรือประชาชนท่านใดสะดวกจะโอนเงินเพื่อช่วยซื้ออาหารสุนัขอย่างเร่งด่วน สามารถโอนไปยังบัญชี ได้ที่ พระมหาวิชัย อัคคเตโช บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาลำปาง เลขที่บัญชี 502-263439-8

 

Tbrat Brat


# 2 .. ฉันชี้ให้เห็นวัตถุต่างๆ ด้วยวงกลมสีเหลือง และใช้ลูกศรเพื่อแสดงการก่อตัวของคลื่นที่มาจากแหล่งอื่น ..



#2.. I point out objects with yellow circles. And use the arrows to show the wave formation coming from another source..

 

WHO คาดการณ์ปี 62 ไข้หวัดใหญ่น่าจะระบาดรุนแรง แค่หอมแก้มก็ติดต่อได้ แค่ 3 เดือนไทบพบผู้ป่วยเฉียดแสน

#ไข้หวัดใหญ่ #ไบรท์ทีวี20 #BrightTV20

 

CCDC: Climate Change Data Center


"คุณภาพอากาศกลับมาแย่ลงมากในเช้านี้"

.

ค่า PM2.5 ได้เพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ (DustBoy) คาดว่าช่วงวันสองวันที่ผ่านมา มีการลักลอบเผาป่าในหลายจุดในภาคเหนือ รวมทั้งพบ Hotspot จำนวนสูงมากในประเทศพม่า (ดาวเทียม NOAA 21 มีค.) และทิศทางกระแสลมจากทิศตะวันตก ทำให้ภาคเหนือกลับเข้ามาสู่วิกฤตหมอกควันอีกครั้งหนึ่ง

.

ประชาชนให้ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศ สวมหน้ากากที่ป้องกัน PM2.5 และหลีกเลี่ยงการออกมาทำกิจกรรมภายนอกอาคาร โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยงจากหมอกควันนะครับ

.

#CCDC #ASMC

 

คุมเข้ม “โรคไข้หวัดใหญ่” หลัง WHO ออกประกาศคาดปีนี้พบป่วยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสายพันธุ์บี ด้าน สธ.แฉสังเวยชีวิตแล้ว 6 ราย แนะกลุ่มเสี่ยง 7 โรค เร่งฉีดวัคซีนป้องกันฟรี

 

ตอนเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเศรษฐกิจก็ไม่ได้ดีอะไรเลย นโยบายค่าแรง 300 บาท เจ๊งเป็นแถว แถมจบ ป. ตรี 15,000 บาท ได้เด็กรุ่นใหม่ในเวลาไม่นานก็เงินเดืินเท่านุ่นพี่ที่ทำงานหลายปีแล้ว ทำให้ไม่เคารรพในรุ่นพี่อะไรเลย จำนำข้าวก็มีแต่โกง

 

SHIRU : Smoke Haze Integrated Research Unit

เมื่อคืนเผาป่าบริเวณ ถนนเชียงใหม่พร้าว อำเภอ แม่แตง โดนเต็มๆ ...ผนวกกับการพยากรณ์ของข้อมูล นาซ่า พสกเราจะต้องเจอกับหมอกควันอีกครั้งเตรียมรับมือไว้นะครับ...หน้ากากเรามีพอแจกขอคุณผู้สนับสนุนนะครับ...ดูแลสุขภาพด้วยนะครับทุกคน

 

มูฮัมหมัดคาร ฮารุดีน

โจรต้องช่วยโจร เพราะมันคือสัจจะธรรมของโจร

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=--=-=-

หลังจากอกสั่นขวัญผวาของอิสราเอลในสิทธิการครอบครองที่ราบสูงโกลันที่ปล้นมาจากซีเรีย อเมริกาก็ออกมารับรองที่ราบสูงโกลันแล้วว่าเป็นของอิสราเอล

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ทรัมป์ได้กล่าวว่าถึงเวลาแล้วที่สหรัฐฯจะ "รับรองอย่างเต็มที่"ในอำนาจอธิปไตยของอิสราเอลเหนือความขัดแย้งของโกลานไฮทส์ที่ซึ่งปล้นแล้วยึดครองมาจากซีเรียในช่วงสงครามหกวันในปี 1967
นี้คือยุทธศาสตร์ที่สำคัญเพื่อรับรองความปลอดภัยที่สำคัญต่อรัฐอิสราเอล หลังจากมีข่าวออกมาว่า ซีเรีย รัสเซีย อิหร่าน จะเข้ายึดที่ราบสูงโกลันกลับคืนมาให้ซีเรีย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้ยกเลิกคำว่า "ถูกครอบครอง" ซึ่งเกี่ยวข้องกับ Golan Heights ในรายงานสิทธิมนุษยชนประจำปีของปี 2018 ซึ่งตีพิมพ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนทันยาฮูออกมาขอบคุณทรัมป์ ทันควันสำหรับการรับรองอำนาจอธิปไตยของอิสราเอลเหนือดินแดนที่ราบสูงโกลันที่อุตสาปล้นมา และเขาคาดว่าจะพบกับทรัมป์ที่ทำเนียบขาวในไม่กี่วันข้างหน้า

รัสเซียไม่เห็นด้วย ยังวิพากษ์วิจารณ์ นโยบายนี้ของทรัมป์โดยกล่าวว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อหว่านความไม่สงบ ไม่ลงรอยกันภายในโลกอาหรับ

ที่ราบสูงโกลาน(Golan Heights)ถูกปล้นมาแล้วยึดครองในปี 1967 และผนวกดินแดนอย่างเป็นทางการในกฎหมาย 1981 ในช่วงที่โลกอาหรับกำลังอ่อนแอสุดๆ และซีเรียได้พยายามที่จะทวงคืนอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนที่ราบสูงโกลันนี้ มาตลอด

ดินแดนที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์นี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของซีเรีย โดยองค์การสหประชาชาติและมติของสหประชาชาติได้เรียกร้องให้อิสราเอลถอนตัวออกจากพื้นที่นี้ เช่นเดียวกับดินแดนอื่นๆ ที่อิสราเอลปล้นมาแล้วครอบครองรวมถึงกาซาและฝั่งตะวันตก

สารจากโบลตันถึงเนทันยาฮู กล่าวว่า เรามีความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องระหว่างสหรัฐฯกับอิสราเอลตามประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา และเป็นช่วงดีที่สุดในช่วงนี้ที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ทรัมป์ได้ให้การสนับสนุนอิสราเอลอย่างต่อเนื่องเมื่อมีข้อพิพาทในระดับภูมิภาค และเมื่อปีที่แล้วจุดประกายความขัดแย้งที่ความชั่วร้ายในหมู่ชาวปาเลสไตน์และในตะวันออกกลางที่อื่นๆ เมื่อเขาย้ายสถานทูตสหรัฐฯในอิสราเอลจากเทลอาวีฟไปยังกรุงเยรูซาเล็ม

BY>>>>>Giant Khan<<<<<

https://www.rt.com/news/454428-us-israel-golan-recognize/

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Mar 22) ทรัมป์ประกาศรับรองอำนาจอธิปไตยของอิสราเอลต่อพื้นที่ the Golan Heights: สำนักพิมพ์ The Wall Street Journal รายงานว่าประธานาธิบดี Trump ประกาศรับรองอำนาจอธิปไตยของอิสราเอลต่อพื้นที่ the Golan Heights ซึ่งได้ยึดครองมาจากประเทศซีเรียในสงคราม the Six Day War ปี 1967

ทั้งนี้ ประธานาธิบดี Trump ทวีตข้อความระบุว่า ถึงเวลาที่ทางสหรัฐฯ จะประกาศยอมรับเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ ซึ่งพื้นที่ Golan Heights มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์และด้านความมั่นคงต่ออิสราเอลและเสถียรภาพในภูมิภาค

ทางด้านนาย Benjamin Netanyahu, นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล กล่าวว่า ตนคิดว่าถึงเวลาที่นานาชาติจะต้องยอมรับการยึดครองที่ราบสูง Golan ของอิสราเอล จากความจริงที่ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอลเสมอไป อนึ่ง การประกาศของประธานาธิบดี Trump เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในอิสราเอล ที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 เม.ย. นี้ โดยเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า แผนสันติภาพในตะวันออกกลางของสหรัฐฯ จะไม่ถูกเผยแพร่จนกว่าจะผ่านพ้นการเลือกตั้งในอิสราเอล

Source: BoTSS
Trump Supports Israel Sovereignty Over Golan, Aiding Netanyahu
https://www.bloomberg.com/news/arti...-to-recognize-golan-heights-as-part-of-israel

 

Bank of Thailand Scholarship Students

((Mar 22) EU ไฟเขียวขยายเวลา Brexit ตามคำขอของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ : นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป เปิดเผยว่า 27 ชาติสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้เลื่อนเวลาที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ตามคำร้องขอของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายทัสก์เปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ว่า EU ได้ตกลงที่จะขยายเวลาการบังคับใช้มาตรา 50 ไปจนถึงวันที่ 22 พ.ค. หากรัฐสภาอังกฤษลงมติอนุมัติข้อตกลง Brexit ในสัปดาห์หน้า
นายทัสก์กล่าวว่า หากข้อตกลง Brexit ไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาอังกฤษในสัปดาห์หน้า ทาง EU ก็จะขยายเวลาการบังคับใช้มาตรา 50 ออกไปเป็นวันที่ 12 เม.ย.
นายทัสก์ได้กล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า EU พร้อมที่จะขยายกำหนดเวลาการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป ออกไปอีก 3 เดือนตามที่อังกฤษร้องขอ แต่มีเงื่อนไขว่า รัฐสภาอังกฤษจะต้องให้การอนุมัติข้อตกลง Brexit ที่นางเทเรซา เมย์ ทำไว้กับผู้นำ EU ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ มาตรา 50 เป็นบทบัญญัติควบคุมกระบวนการเปลี่ยนผ่านเป็นเวลา 2 ปี ก่อนที่อังกฤษจะแยกตัวออกจาก EU อย่างสิ้นเชิง
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช
- After EU agrees to push back Brexit date, May says she's still confident UK will eventually leave : https://www.cnbc.com/2019/03/21/eu-will-offer-brexit-delay-but-length-depends-on-uk-parliament.html

 

Bank of Thailand Scholarship Students



(Mar 22) BoE มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 0.75 : คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 0.75 และคงปริมาณการถือครองสินทรัพย์ตามมาตรการ Quantitative Easing โดยระบุว่าความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ Brexit เป็นปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ:
คณะกรรมการนโยบายการเงิน BoE มีมติเป็นเอกฉันท์ให้
1) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 0.75
2) คงปริมาณการถือครอง sterling non-financial investment-grade corporate bond ที่ระดับ 10 พันล้านปอนด์
3) คงปริมาณการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหราชอาณาจักรที่ระดับ 435 พันล้านปอนด์
คณะกรรมการฯ มีความเห็นต่อพัฒนาการทางเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ ดังนี้
1. เศรษฐกิจภายนอกประเทศ
o เศรษฐกิจโลก ขยายตัวชะลอลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สถานการณ์การค้าโลกยังคงอ่อนแอ ซึ่งมีสาเหตุมาจากปัญหาความขัดแย้งทางการค้าที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ แม้ว่าประเด็นสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะคลี่คลายลงหลังจากกำหนดการบังคับใช้มาตรการกำแพงภาษีได้ถูกเลื่อนออกไป
o เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 1 ปี 2019 จากประเด็นปัญหา Government shutdown ระหว่างเดือน ธ.ค. 2018 ถึง ม.ค. 2019 ที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจในภาคการผลิตเดือน ก.พ. 2019 เริ่มส่งสัญญาณของการฟื้นตัว หลังจากตัวเลขเดือน ม.ค. ประกาศออกมาอ่อนแออย่างมาก ขณะที่ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง และอัตราการขยายตัวของค่าจ้างแรงงานยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี
o เศรษฐกิจยุโรป ตัวเลขดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจในระยะหลังเริ่มส่งสัญญาณของการฟื้นตัว โดยเฉพาะตัวเลขในภาคการผลิตเดือน ม.ค. 2019 ที่ประกาศออกมาค่อนข้างแข็งแกร่งในทุกภูมิภาค ยกเว้นภาคการผลิตของเยอรมนีที่ยังคงอ่อนแอ
o เศรษฐกิจจีน นับตั้งแต่ต้นปี 2019 เป็นต้นมายังคงอ่อนแอ แต่ธนาคารกลางอังกฤษคาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนจะเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศในระยะต่อไป
2. เศรษฐกิจภายในประเทศ
o ตลาดแรงงานสหราชอาณาจักรโดยรวมยังคงตึงตัว โดยการจ้างงานยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 1.9 ในเดือน ก.พ. 2019 ซึ่งธนาคารกลางอังกฤษคาดว่าอัตราเงินเฟ้อสหราชอาณาจักรจะยังคงอยู่ ณ ระดับใกล้เคียงกับระดับเป้าหมายที่ร้อยละ 2 ต่อไปในระยะข้างหน้า
o ธนาคารกลางอังกฤษประเมินว่า เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรจะขยายตัวร้อยละ 0.3 ในไตรมาสที่ 1 ปี 2019 โดยความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ Brexit ยังคงเป็นปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสินใจลงทุนของภาคธุรกิจ ซึ่งจากผลสำรวจของธนาคารกลางอังกฤษล่าสุดเมื่อเดือน ก.พ. 2019 พบว่า กลุ่มบริษัทผู้ตอบแบบสอบถามกว่าร้อยละ 60 มองว่าความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ Brexit ถือเป็นความเสี่ยง 1 ใน 3 อันดับแรก ที่จำเป็นต้องคำนึงถึง โดยร้อยละ 40 คาดว่าปัญหาดังกล่าวจะได้รับการแก้ไขภายในสิ้นปี 2019 ร้อยละ 30 คาดว่าจะได้รับการแก้ไขภายในปี 2020 และร้อยละ 20 คาดว่า สถานการณ์ความไม่แน่นอนของ Brexit จะคงอยู่ต่อไปจนถึงปี2021 หรือยาวนานกว่านั้น
o รายงานพิเศษ Agents’ survey on preparations for EU withdrawalฉบับเดือน มี.ค. 2019 ของธนาคารกลางอังกฤษระบุว่า ร้อยละ 80 ของภาคธุรกิจในสหราชอาณาจักร มองว่าตนเองได้เตรียมความพร้อมอย่างเพียงพอเพื่อรองต่อสถานการณ์ no-deal Brexit ซึ่งตัวเลขดังกล่าวปรับสูงขึ้นจากระดับร้อยละ 50 ในการสำรวจเมื่อเดือน ม.ค. 2019 (ดังแสดงในภาพด้านล่าง)
ความเห็นของคณะกรรมการฯ ต่อทิศทางนโยบายการเงิน
- จากแนวโน้มทิศทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อล่าสุด คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางอังกฤษมีความเห็นว่า พัฒนาการต่างๆ ยังคงเป็นไปตามที่คณะกรรมการฯ ได้ประเมินไว้ ดังนั้นการปรับนโยบายการเงินให้มีความตึงตัวอย่างจำกัดและค่อยเป็นค่อยไปดังเช่นในปัจจุบัน ยังคงมีความเหมาะสมเพื่อให้อัตราเงินเฟ้อปรับเข้าสู่ระดับเป้าหมายที่ร้อยละ 2 ในอนาคต อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ Brexit เป็นปัจจัยที่มีผลอย่างมากต่อการประมาณการทางเศรษฐกิจ โดยนโยบายทางการเงินพร้อมที่จะรับมือกับผลของ Brexit ไม่ว่าสถานการณ์จะออกมาในรูปแบบใดก็ตาม
Source: BOTSS
- อ่าน Press release https://www.bankofengland.co.uk/monetary-policy-summary-and-minutes/2019/march-2019

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Mar 21) สหภาพยุโรปส่งสัญญาณว่าอาจจะยอมให้มีการเลื่อนกำหนดการ Brexit ออกไป หากสภาของสหราชอาณาจักรมีการลงมติรับรองข้อตกลง Brexit: นาย Donald Tusk ประธานคณะมนตรียุโรป (European Council) ระบุว่า การเลื่อนกำหนดการ Brexit ออกไปแบบ Short extension นั้น มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่มีเงื่อนไขว่า จะต้องมี “positive vote” ในสภาของสหราชอาณาจักรเกิดขึ้นก่อน อย่างไรก็ตามยังมีประเด็นทางการเมืองและกฎหมายที่ต้องทำการพิจารณา หากมีการเลื่อนกำหนดการ Brexit ออกไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2019 ตามที่ นาง Therasa May นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรเสนอ เนื่องจากระยะเวลาดังกล่าวยาวนานเกินกว่าช่วงของการเลือกตั้งสภายุโรปซึ่งจะเกิดขึ้นเดือนใน พ.ค. 2019

หากข้อตกลง Brexit ของรัฐบาลสหราชอาณาจักรได้รับการรับรองจากสภา สหภาพยุโรปจะดำเนินการอนุมัติการขยายกำหนดการ Brexit โดยใช้การเวียนลงนาม แต่หากมีความจำเป็นอาจจะมีการเรียกประชุม European council นัดพิเศษในสัปดาห์หน้า ขณะที่นาย Jean-Yves Le Drian รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า จะไม่ยอมให้มีการเลื่อนกำหนด Brexit ออกไปเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่ นาง May ต้องการ หากไม่มี “sufficient guarantees” ว่า แผนการของ นาง May จะประสบความสำเร็จ และอาจจะเกิดกรณี no-deal Brexit

Source: BoTSS
- https://www.ft.com/video/97215a22-3fe8-432b-9cfc-5ef69d0fc434

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Mar 21) พาณิชย์ เผย ส่งออกสินค้าเดือน กพ. โต 5.91% ครั้งแรกจากเดือนที่ผ่านมา ผลมาจากสงครามการค้าดีขึ้น : พาณิชย์ เผย ส่งออกสินค้าเดือน กพ. โต 5.91% ครั้งแรกจากเดือนที่ผ่านมา ผลมาจากสงครามการค้าดีขึ้นไทยรับอานิสงค์ส่งออกสหรัฐเพิ่ม รวมไปถึงค่าเงินบาทอ่อนค่าลง หลังจากนี้พร้อมอัดกิจกรรมเร่งส่งออกเต็มที่

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมการส่งออกของไทย เดือนกุมภาพันธ์ 2562 มีมูลค่า 21,553 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 5.91% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้ามีมูลค่า 18,993 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 5.65 โดยเป็นการขยายตัวครั้งแรก ในขณะที่ การนำเข้า มีมูลค่า 17,519 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 10.03% ส่งผลให้การค้า เกินดุล 4,034 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เมื่อดูการส่งออก 2 เดือนแรก (มกราคม – กุมภาพันธ์) มีมูลค่า 40,547 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 0.16% ส่วนการนำเข้า 2 เดือนแรก (มกราคม – กุมภาพันธ์) 40,545 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดยปัจจัยที่ทำให้การส่งออกเดือนนี้ขยายตัว เช่น ราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้น บรรยากาศสงครามการค้าเริ่มลดความตึงเครียดลง ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนลง มาตรการแก้ไขปัญหาแรงงานของไทยที่ทำให้ไทยหลุดจากใบเหลือง IUU และ TIP ที่ทำให้การส่งออกสินค้าไทยไปประเทศพัฒนาแล้วปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีสินค้า เช่น ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งแปรรูป เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ที่ช่วยผลักดันการส่งออกในเอเชีย แม้การส่งออกไปจีนเริ่มชะลอตัวลดลง ในขณะที่การส่งออกไปสหรัฐฯ กลับดีขึ้น สำหรับปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวัง ยังคงเป็นผลจากอัตราแลกเปลี่ยน และการมีผลใช้บังคับของ FTA ในประเทศต่าง ๆ ที่อาจกระทบต่อความสามารถในการส่งออกของไทย

สำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัว 0.9% หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 โดยสินค้าเกษตรสำคัญที่หดตัว ได้แก่ ข้าว ยางพารา หดตัวต่อเนื่องทั้งด้านปริมาณและราคา ผลิตภัณฑ์ มันสำปะหลัง กุ้งสดแช่แข็งและกุ้งแปรรูป อย่างไรก็ตาม สินค้าเกษตรสำคัญหลายรายการยังขยายตัวได้ดี ได้แก่ ผัก ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป ไก่สด แช่แข็ง และแปรรูป เป็นต้น ส่วนการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัว 7.5% มาจากอาวุธและยุทโธปกรณ์ ซึ่งเป็นปัจจัยชั่วคราว โดยสินค้าสำคัญอื่นๆ ที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ ทองคำ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว สินค้าอุตสาหกรรมสำคัญที่หดตัว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี การส่งออกไทยยังได้รับผลกระทบน้อยกว่าหลายประเทศ และเมื่อพิจารณาถึงส่วนแบ่งของไทย และยังพบว่าไทยยังรักษาส่วนแบ่งในตลาดสำคัญไว้ได้ อาทิ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป เกาหลีใต้ ไต้หวัน และมีส่วนแบ่งตลาดสูงขึ้นในญี่ปุ่น อินเดีย และรัสเซีย แสดงให้เห็นว่าการส่งออกไทยยังมีทิศทางที่ดี นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ ยังมีแผนกิจกรรมส่งเสริมการค้า โดยเฉพาะ Sourcing Forum เพื่อจับคู่ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค และผลไม้พรีเมียมระหว่างผู้นำเข้าและผู้ส่งออกไทยจำนวนเกือบ 200 บริษัท ที่จัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีมูลค่าการสั่งซื้อทั้งหมดกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อีกทั้ง ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – กรกฏาคม 2562 กระทรวงฯ ยังเร่งจัดกิจกรรมกระตุ้นการส่งออกกว่า 100 โครงการ และคาดว่าจะสร้างรายได้การส่งออกกว่า 65,000 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการขายในรูปแบบออนไลน์บนเว็บไซต์ Thaitrade.com และการเชื่อมต่อ e-Marketplace ทั่วโลก เพื่อส่งเสริมการค้าจากท้องถิ่นสู่สากล (Local to Global) แผนกิจกรรมเจาะตลาดศักยภาพเป็นรายมณฑล รัฐ และกระทรวงพาณิชย์พร้อมเดินหน้าขยายโอกาสการค้าการลงทุนผ่านการสร้างหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์กับคู่ค้าศักยภาพ (Strategic Partnership) และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ (International Business Network) เพื่อกระจายความเสี่ยงลดการพึ่งพาตลาดหรือห่วงโซ่อุปทานใดเป็นหลักเพียงแห่งเดียว และสนับสนุนให้การส่งออกไทยเติบโตอย่างมีเสถียรภาพต่อไป

Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

เพิ่มเติม
1. Presentation การแถลงข่าว http://tpso.moc.go.th/sites/default/files/ppt_export_kumphaaphanth_62_final_nonbu.pdf
2. เอกสารการแถลงข่าว http://tpso.moc.go.th/sites/default/files/press_release_aethlngsngk_kumphaaphanth_62_final_12.00.pdf

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Mar 21) อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตือนว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะหวังให้เศรษฐกิจแข็งแกร่งโดยที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำไม่ได้ : นายโรเบิร์ต เฮลเลอร์ สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟดปี 2529-2532 ให้สัมภาษณ์รายการ Capital Connection ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีของสหรัฐวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐว่า ช่วงนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้แสดงความเห็นเรื่องเฟดมากนัก และคงพอใจจุดยืนของเฟดที่คาดว่าจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ จากที่คาดการณ์เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อนว่าจะขึ้นสองครั้งในปีนี้ หลังจากขึ้นไปสี่ครั้งเมื่อปีก่อน และถูกทรัมป์วิจารณ์หลายครั้งว่าการขึ้นดอกเบี้ยเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจประเทศ อย่างไรก็ตาม หากประธานาธิบดีต้องการให้เศรษฐกิจแข็งแกร่ง ก็ต้องให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เศรษฐกิจจะเติบโตทั้งที่ดอกเบี้ยต่ำ

ซีเอ็นบีซีอธิบายว่า เศรษฐกิจขยายตัวมักตามมาด้วยภาวะเงินเฟ้อ แต่หากราคาสินค้าและบริการปรับขึ้นมากเกินไปจะทำให้อำนาจในการซื้อลดลงและทำลายความเชื่อมั่น ซึ่งจะกระทบการเติบโตทางเศรษฐกิจ ธนาคารกลางจึงต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อให้การกู้ยืมมีต้นทุนสูงขึ้น ควบคุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจไม่ให้ร้อนแรงเกินไปและภาวะเงินเฟ้อไม่ให้สูงจัด นายเฮลเลอร์ที่มักเรียกร้องให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่านี้หวังว่า เฟดจะกลับมาใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดอีกครั้งในกลางปีนี้ เพื่อให้สามารถลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เมื่อเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในครั้งหน้า

ด้านนายพอล คิตนีย์ นักกลยุทธ์ตราสารทุนในเอเชียแปซิฟิกของไดวาแคปิตัลมาร์เก็ตส์ให้สัมภาษณ์รายการ Squawk Box ของซีเอ็นบีซีในวันเดียวกันว่า คาดว่าสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือใกล้เข้าสู่ภาวะนี้ภายในกลางปีหน้า เฟดได้ปรับลดประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้เหลือร้อยละ 2.1 จากที่ประมาณการก่อนหน้านี้ที่ร้อยละ 2.3 และลดลงจากปีก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 2.9 ขัดกับที่รัฐบาลทรัมป์คาดการณ์ในงบประมาณปี 2563 ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวร้อยละ 3.2 ในปีนี้

Source: สำนักข่าวไทย

Trump can't have a strong US economy and low interest rates at the same time, says ex-Fed governor : https://www.cnbc.com/2019/03/21/tru...economy-low-interest-rates-robert-heller.html

 

Bank of Thailand Scholarship Students



(Mar 21) มาเลเซียแอร์ไลน์ส รอใบสั่ง 'รีแบรนด์' รอบใหม่ ? "อุตสาหกรรมการบิน"นับวันยิ่งแข่งขันดุเดือด โดยเฉพาะสายการบินในเอเชียที่ต้องเผชิญชะตากรรมหลายด้าน รวมถึงผลกระทบ จากต้นทุน "เชื้อเพลิง" จนทำให้หลายรายตกที่นั่งลำบาก

"มาเลเซียแอร์ไลน์ส" สายการบินแห่งชาติที่เผชิญปัญหาหนี้สินสะสม มานาน และความเชื่อมั่นผู้โดยสารก็อยู่ ระดับต่ำ จากโศกนาฏกรรม MH370 และ MH17 ในปี 2014 ทำให้ชะตากรรม ของสายการบินรายนี้ลุ่ม ๆ ดอน ๆ

สายการบินอายุเก่าแก่ถึง 71 ปีแห่งนี้กำลังมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ หลังจากที่ "ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด"นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประกาศเมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาว่า กำลังพิจารณาว่าจะปิดสายการบินแห่งชาติหรือไม่ หลังสูญเงินมหาศาลกับการพยุงกิจการมานาน มหาเธร์กล่าวความเป็นไปได้ 3 ทาง คือ การปิดกิจการ, ขายบริษัททิ้ง และอนุมัติให้ปรับโครงสร้างหนี้ หรือการรีไฟแนนซ์อีกครั้ง เพราะธุรกิจของบริษัทขาดทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นที่คาดหมายกันว่า ภายในเดือน มี.ค.น่าจะมีความคืบหน้า สำหรับการตัดสินใจของรัฐบาลกัวลาลัมเปอร์

"บลูมเบิร์ก" รายงานว่า การพิจารณา ของรัฐบาลครั้งนี้น่าสนใจ เพราะ สายการบินรายนี้เคยผ่านการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่มาแล้ว หลังจากขาดทุนในปี 2014 จากเหตุการณ์ เครื่องบินไฟลต์ MH370 ที่หายไปจากจอเรดาร์ควบคุมการบิน และไฟลต์บินเที่ยว MH17 ก็โดนยิงตกในเขตสู้รบทางตะวันออกของยูเครน

"คริสตอฟ มึลเลอร์" อดีตผู้บริหาร สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส เคยกล่าวไว้ว่า ที่จริงสถานการณ์ของบริษัทมีปัญหาทางการเงินและเกือบจะ ล้มละลายมาตั้งแต่ก่อนปี 2014 โดย ผลประกอบการขาดทุนทุกปีตั้งแต่ปี 2011 กระทั่งในปี 2014 มาเลเซียแอร์ไลน์สประสบปัญหาขาดทุนอย่างรุนแรงมากถึง 1,300 ล้านริงกิต

กระทั่งต้องให้ "กองทุนความ มั่งคั่งคาห์ซานาห์" ของรัฐบาลมาเลเซีย เข้ามาถือหุ้นและได้ทุ่มเงินไปแล้วกว่า 6,000 ล้านริงกิต เพื่อพยุงกิจการตามแผนฟื้นฟูระยะ 5 ปี (ปี 2014-2018) โดยได้ปรับเปลี่ยนหลายอย่าง ตั้งแต่การนำมาเลเซียแอร์ไลน์ส ออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งมาเลเซีย, ปรับลดพนักงาน 6,000 ตำแหน่ง จากทั้งหมด 20,000 คน, ขายเครื่องบินแอร์บัส A380 ทั้งหมด รวมถึงยุติรูตบินระหว่างประเทศที่ไม่ทำกำไร ซึ่งเป็นความพยายามที่จะลดต้นทุนทั้งหมดให้ได้อย่างน้อย 20% เพื่อหวังจะฟื้นรายได้กลับมาและสามารถชดเชยหนี้สินได้

อย่างไรก็ตาม มาเลเซียแอร์ไลน์ส ยังไม่สามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่นของผู้โดยสารได้ตามที่คาดหวัง แม้ว่าที่ผ่านมาจะออกโปรโมชั่นลดราคาตั๋ว ในหลาย ๆ เส้นทางบิน เช่น ตั๋วไปกลับ กัวลาลัมเปอร์-ปักกิ่ง ตัดราคา เหลือเพียง 238 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ สายการบินอื่นราคาเฉลี่ยสูงกว่า 500 ดอลลาร์สหรัฐ

โดยผลประกอบการปี 2018 ที่ผ่านมา ยังขาดทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่ 6,300 ล้านริงกิต จากปี 2014 ขาดทุน 1,300 ล้านริงกิต สะท้อนว่าแผนปรับโครงสร้างของบริษัทชุดใหญ่ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อาจไม่มีประสิทธิภาพมากนัก

ด้านนายโมห์ชิน เอซิซ นักวิเคราะห์ อุตสาหกรรมการบินของ "เมย์แบงก์"กลุ่มธุรกิจการเงินรายใหญ่ของมาเลเซียมองว่า ปัจจุบันการแข่งขันธุรกิจการบินในมาเลเซียรุนแรงมาก มีสายการบินมาตั้งฐานการบินใน กรุงกัวลาลัมเปอร์จำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะ "แอร์เอเชีย" โลว์คอสต์แอร์ไลน์ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเวลานี้ นอกจากนี้ยังมีสิงคโปร์แอร์ไลน์ส และกัลฟ์แอร์สของบาห์เรน ที่มุ่งเน้น กลุ่มลูกค้าในระดับพรีเมี่ยมในตลาดมาเลเซีย และในภูมิภาคเอเชีย ด้วย

นอกจากนี้ มาเลเซียยังประสบปัญหาจากที่เงินริงกิตอ่อนค่าต่อเนื่อง และต้นทุนเชื้อเพลิงก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหนึ่งในปัญหาใหญ่ของจำนวนหนี้สินของมาเลเซียแอร์ไลน์ส มาจากการที่ต้องแบกรับต้นทุนราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ยิ่งอาจทำให้โอกาสที่รัฐบาลมาเลเซียจะอัดฉีดงบฯเพื่อฟื้นชีพ ให้กับมาเลเซียแอร์ไลน์สริบหรี่มากขึ้น ซึ่งขณะนี้กำลังรอสายการบินยื่นแผน ยุทธศาสตร์ฉบับใหม่เพื่อให้รัฐบาลพิจารณาอีกครั้ง

Source: ประชาชาติธุรกิจ