ติดตามสถานะการณ์

Thairath


#ข่าวหน้า1 สธ.สั่งคุมเข้ม "โรคซิฟิลิส" หลังพบกลุ่มวัยโจ๋ติดเชื้ออื้อ เร่งประสานสถานศึกษาลงพื้นที่ให้ความรู้กลุ่มนักเรียนและการป้องกันโรค รวมถึงพบทารกแรกเกิดติดเชื้อจากแม่พุ่ง

 

นี่เป็นหลุมยุบล่าสุด

พบในรัสเซีย

 

Kike Santillana

ทันใดนั้นแผ่นดินก็เปิดในแอลจีเรีย
19/05/2019



หลายวันก่อนมีเมฆแปลก ๆ ปรากฎในรูปของอุกกาบาต

 

อิสราเอลถล่มทางอากาศต่อซีเรียสองคืนติดต่อกัน แต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียได้สกัดขีปนาวุธหลายลูกได้ ที่ยิงมาจากดินแดนที่ราบสูงโกลันที่ควบคุมโดยอิสราเอล/////ยิวยังห้าวได้อยู่เรื่อยๆ

 

Kike Santillana

เรือพิฆาตของสหรัฐอเมริกาได้ทำการฝึกทางทหารในทะเลจีนใต้

สหรัฐฯต้องยั่วให้เกิดสงคราม

 

Clima Extremo 24

เยเมน
น้ำท่วมหนักใน Seúl,วันที่ 19 พฤษภาคม

 

Clima Extremo 24

MIDDLE EAST

ฟ้าผ่าฆ่าแกะและลา 23 ตัวในเมืองบิช (Bich) เมื่อวานนี้ในอิหร่านวันที่ 18 พฤษภาคม

 

Clima Extremo 24

ตะวันออกกลาง
พายุฝุ่นในรัฐ mussanah, โอมาน, วันที่ 19 พฤษภาคม

 

Clima Extremo 24

MIDDLE EAST

บ้านที่จมอยู่ใต้น้ำเนื่องจากน้ำท่วมที่วาดีอัลเบิร์ค (Wadi al-Burk) ประเทศโอมาน, กำลังเผชิญ วันที่ 19 พฤษภาคม

 

Clima Extremo 24

MIDDLE EAST
ฝนตกหนักพร้อมลมใน fujairah - สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์วันที่ 19 พฤษภาคม

 

Clima Extremo 24

ตะวันออกกลาง

สถานการณ์ที่กำลังเผชิญกับฝนที่เข้มข้นลมและลูกเห็บที่กำลังกระทบ โอมาน ในวันที่ 19 พฤษภาคม

 

Clima Extremo 24

ตะวันออกกลาง
การไหลเวียนของแม่น้ำ wadi bisha ในซาอุดิอาระเบีย สำหรับฝนและน้ำท่วม

 

Clima Extremo 24

MIDDLE EAST
ถนนและถนนที่ถูกทำลายเนื่องจากฝนและน้ำท่วมที่พัดเข้ามา วาดี บานี, โอมาน, วันที่ 19 พฤษภาคม

 

Clima Extremo 24

MIDDLE EAST
ฝนตกหนักทำให้น้ำไหลผ่านหลังคา สนามบิน Muscat ในโอมาน, วันที่ 19 พฤษภาคม

 

Clima Extremo 24

ตะวันออกกลาง

ฝนตกหนักที่สนามบินนานาชาติ muscat ในโอมาน ในวันที่ 19 พฤษภาคม

 

Clima Extremo 24

MEXICO

ไฟป่าคืนนี้ โดยคลื่นความร้อนที่รุนแรงเริ่มเมื่อบ่ายวานนี้ ซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ในเนินเขา Jicalan ใน Uruapan, Michoacán, เม็กซิโก

 

Clima Extremo 24

MEXICO

เมื่อคืนที่ผ่านมาไฟป่าขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เริ่มขึ้นเมื่อบ่ายวานนี้ที่เมือง Uruapan รัฐ Michoacán, ซึ่งเกิดจากคลื่นความร้อน

 

Clima Extremo 24

อิตาลี

เมฆที่น่าทึ่ง (โรลคลาวด์) ในท้องฟ้าของ ostuni, วันที่ 19 พฤษภาคม

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(May 20) #Huawei ขึ้นเบอร์ 1 ทวิตฮิตในไทย-ชาวเน็ตตื่นตัวผลกระทบ “หัวเว่ย” โดนแบน : บรรดาผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งในไทยและทั่วโลก ต่างวิตกกังวล หลังสำนักข่าว “รอยเตอร์” รายงานข่าวว่า สมาร์ทโฟนของหัวเว่ย อาจจะได้รับผลกระทบจากการถูกสหรัฐอเมริกาขึ้นบัญชีดำ โดยเฉพาะ “Google” ที่อาจจะต้องระงับการช่วยเหลือทางเทคนิคและอัพเดทระบบปฏิบัติการ Andriod บนสมาร์ทโฟนของ “หัวเว่ย” ทำให้ #Huawei ติดอันดับเทรนด์ทวิตเตอร์ซึ่งเป็นช่องทางสื่อสารของคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของสมาร์ทโฟน “หัวเว่ย” โดยเฉพาะในไทย#Huawei ไต่อันดับขึ้นมาอยู่ในเบอร์ 1 ของเทรนด์ทวิตตั้งแต่เวลา 11.30 วันที่ 20 พ.ค. 2562 ขณะที่ทั่วโลกอยู่ในอันดับ 15 ด้วยยอดกว่า 3 แสนทวิต

รวมถึงบรรดาเว็บบอร์ดสาธารณะก็มีผู้ตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสมาร์ทโฟน “หัวเว่ย” อาทิ ห้องมาบุญครองในเว็บไซต์ pantip.com

แม้ล่าสุดในบัญชีทวิตเตอร์ทางการของ Android (@Android) จะออกแถลงการณ์สั้นๆ หลังจากมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนหัวเว่ยสอบถามเข้ามาจำนวนมาก โดยยืนยันว่า จะยังคงให้บริการ Google Play และอัพเดตความปลอดภัยจาก Google Play Protect ให้กับอุปกรณ์ Huawei รุ่นปัจจุบัน

โดยระบุว่า “For Huawei users’ questions regarding our steps to comply w/ the recent US government actions: We assure you while we are complying with all US gov’t requirements, services like Google Play & security from Google Play Protect will keep functioning on your existing Huawei device.”

แต่ก็มีข้อสงสัยว่า แล้วสำหรับ สมาร์ทโฟนของ “หัวเว่ย” ที่จะออกวางจำหน่ายต่อไป จะมีอนาคตเช่นไรกับระบบปฏิบัติการ Android

ขณะที่เมื่อเร็วๆ นี้ “หัวเว่ย” ได้เปิดเผยว่า ยอดขาย สมาร์ทโฟน “หัวเว่ย” ทั่วโลก อยู่ที่กว่า 200 ล้านเครื่อง ทำรายได้ 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 40% ขณะที่ในประเทศไทยหัวเว่ยมีรายได้เติบโต 60% พร้อมกับตั้งเป้าเติบโตในไทย 50% ในปีนี้ และที่ผ่านมาหัวเว่ยได้เปิดตัวสินค้าเรือธง “Huawei P30 Series” ที่มีจุดเด่นกล้องซูม 50 เท่า

ด้านผลสำรวจของบริษัทวิจัย IDC ระบุในผลวิเคราะห์ตลาดสมาร์ทโฟนไตรมาส 1 ปี 2562 ว่า “หัวเว่ย” ได้ก้าวขึ้นสู่เบอร์ 2 ในฐานะผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเพียงรายเดียวที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ของตลาดที่เห็นปริมาณการเติบโตในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ ขณะที่ตลาดรวมสมาร์ทโฟนมีปริมาณการจัดส่งสินค้าลดลง 6.6% โดยมีการเติบโตปีต่อปีที่ 50.3% มียอดจัดส่ง 59.1 ล้านเครื่อง และมีส่วนแบ่งการตลาด 19.0% ทั้งยังมีความโดดเด่นอย่างต่อเนื่องจากการที่มีสินค้าครอบคลุมตลาดตั้งแต่ราคาถูกจนถึงไฮเอนด์

ขณะที่ก่อนหน้านี้ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ จำกัด ได้ออกแลงการณ์ถึงกรณีที่มีชื่อใน Entity List ว่า “หัวเว่ยไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของสำนักงานด้านอุตสาหกรรมและความปลอดภัย (BIS) กระทรวงพาณิชย์ สหรัฐอเมริกาการตัดสินใจนี้ไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายใดทั้งสิ้น และยังจะสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อบริษัทอเมริกาซึ่งหัวเว่ยทำธุรกิจด้วย รวมถึงตำแหน่งงานอีกหลายหมื่นตำแหน่ง ทั้งยังขัดขวางความร่วมมือที่ดำเนินอยู่และความไว้วางใจซึ่งกันและกันในระบบซัพพลายทั่วโลกอีกด้วย ทั้งนี้ หัวเว่ยจะหามาตรการเยียวยาโดยทันที รวมถึงทางออกในเรื่องนี้ โดยเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อลดผลกระทบจากเหตุการณ์นี้”

Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
https://www.prachachat.net/ict/news-328711

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(May 20) ‘ทรัมป์’ เผยบริษัทแห่ย้ายฐานการผลิตออกจาก ‘จีน’ หวั่นโดนมะกันรีดภาษี: ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เผยมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนทำให้หลายบริษัทตัดสินใจย้ายฐานการผลิตออกจากแดนมังกรไปยังเวียดนามและประเทศอื่นๆ ในเอเชีย พร้อมย้ำว่าข้อตกลงการค้ากับปักกิ่งจะต้องไม่ใช่การแบ่งปันผลประโยชน์กันแบบ “50-50”
ในบทสัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ที่ออกอากาศเมื่อค่ำวานนี้ (19 พ.ค.) ทรัมป์ ระบุว่า สหรัฐฯ และจีน “เคยมีข้อตกลงที่แข็งแกร่ง เรามีข้อตกลงที่ดี แต่พวกเขาเปลี่ยนแปลงมัน ผมก็เลยบอกว่าโอเค... งั้นเราจะรีดภาษีสินค้าของพวกเขา”
คณะผู้เจรจาการค้าของจีนและสหรัฐฯ ยังไม่ได้นัดหมายเจรจากันเพิ่มเติม หลังการพูดคุยครั้งล่าสุดยุติลงเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรสินค้าจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์จากพิกัดอัตรา 10% เป็น 25%
บทลงโทษของ ทรัมป์ มีขึ้นหลังจากที่ฝ่ายจีนพยายามขอแก้ข้อตกลงซึ่งได้เห็นพ้องต้องกันกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ไปแล้วก่อนหน้า
จีนออกมาแถลงตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยถ้อยคำที่แข็งกร้าว โดยระบุว่าการรื้อฟื้นเจรจาเพื่อยุติสงครามการค้าซึ่งยืดเยื้อมานาน 10 เดือนคงจะเกิดขึ้นไม่ได้ในเร็วๆ นี้
ทรัมป์ ได้พูดคุยกับ สตีฟ ฮิลตัน ผู้สื่อข่าวฟ็อกซ์นิวส์ เพียง 2 วันหลังจากที่เขาสั่งลงดาบรีดภาษีสินค้าจีนล็อตใหม่ โดยผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่ายินดีจะคงมาตรการทางภาษีเอาไว้ต่อไป เพราะจะช่วยให้อเมริกาเก็บภาษีศุลกากรได้เพิ่มขึ้นถึง 100,000 ล้านดอลลาร์ หรืออาจจะมากกว่านั้น
อย่างไรก็ดี ทรัมป์ เชื่อว่าสุดท้ายแล้วปักกิ่งจะต้องยอมประนีประนอมทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ “เพราะมาตรการขึ้นภาษีกำลังฆ่าพวกเขา จีนกำลังจะถูกฆ่า”
ทรัมป์ ระบุด้วยว่า ตนเคยบอกกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ไว้แล้วว่าข้อตกลงการค้าจะต้องไม่ใช่การแบ่งปันผลประโยชน์แบบ 50-50 ทว่าอเมริกาจะต้องเป็นฝ่ายได้เปรียบ เพื่อชดเชยความสูญเสียอันเนื่องมาจากพฤติกรรมการค้าของจีนในอดีต
ทรัมป์ ยังกล่าวพาดพิงถึง โจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้สมัครชิงประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต โดยเรียกร้องให้มีการสอบสวนเรื่องที่ ฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของโจ ถูกครหาว่าใช้ตำแหน่งหน้าที่ของบิดาทำข้อตกลงธุรกิจกับธนาคารแบงค์ออฟไชน่า โดยประเด็นนี้ถูกกล่าวเอาไว้ในหนังสือ ‘Secret Empires’ ของ ปีเตอร์ ชไวเซอร์ ที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2018
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าควรจะมีการตรวจสอบหรือไม่ ทรัมป์ ก็ตอบว่า “แน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ มันเป็นเรื่องที่น่าอาย และ (โจ ไบเดน) ก็เคยพูดด้วยว่าจีนไม่ใช่คู่แข่งของเรา... จีนนั่นแหละคือคู่แข่งตัวฉกาจของสหรัฐฯ พวกเขาต้องการยึดครองโลก”
Source: ผู้จัดการออนไลน์
https://mgronline.com/around/detail/9620000047953
- Trump says tariffs are causing companies to move out of China: https://www.cnbc.com/2019/05/20/trump-says-tariffs-causing-companies-to-move-out-of-china.html