ติดตามสถานะการณ์

แบ่งปันจาก Richard Whitt

ผู้เสียชีวิต 'โรคไข้เลือดออกลาสซา' ที่ไนจีเรีย เพิ่มอีก 70 ราย
• ศูนย์ควบคุมโรคของประเทศไนจีเรียแถลงว่า วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 พบผู้ป่วยติดเชื้อ 'โรคไข้เลือดออกลาสซา' (Lassa Fever) สะสมเพิ่มอีกอย่างน้อย 472 คน ส่วนผู้ป่วยเข้าข่ายสอบสวนโรคอยู่ที่ 1,708 คน เฉพาะเดือน 'กุมภาพันธ์' ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 70 ราย
• รายงานระบุว่า 'โรคไข้ลาสซา' เป็นโรคประจำถิ่นของไนจีเรีย มีลักษณะใกล้เคียงกับโรคไข้เลือดออก 'อีโบลา' (Ebola Virus Disease) และเชื้อไวรัส 'มาร์บูร์ก' (Marburg Virus) แต่อัตราการตายน้อยกว่ามาก ไวรัสชนิดนี้แพร่เชื้อจากสัตว์ประเภท 'หนู' อาการเริ่มจาก..มีไข้ต่ำ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ บางครั้งอาจพบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง เช่น 'ไข้สูง อาเจียน เจ็บหน้าอก ปวดหัว ปวดท้อง หน้าและคอบวม ต่อมน้ำเหลืองรอบคอโต หายใจลำบาก'..มีเลือดออกผิดปกติ เช่น 'เลือดออกจากปาก จมูก และเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร อาจมีอาการทางระบบประสาท รวมถึงภาวะช็อคและเสียชีวิตได้ในที่สุด'

 

ทีมเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในจีน เสียสละ ทุ่มเท ทำงานหนักเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จนทำให้ติดเชื้อแล้วกว่า 1,700 คน ส่วนญี่ปุ่นกังวลเจอผู้ติดเชื้อเพิ่ม

 

วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563
Covid-19: วันที่ 46: 14 กุมภาพันธ์: ความน่ากลัวที่แท้จริง คือ รัฐบาลจีนโกหกเกี่ยวกับที่มาของเชื้อไวรัสและจำนวนผู้ป่วย วุฒิสมาชิกสหรัฐ: กรณีที่ได้รับการยืนยัน 63,109: ผู้เสียชีวิต 1,380 คน
จดหมายเครดิตออนไลน์ วันที่ 46
วันนี้ในประเทศจีน: คดีที่น่าสงสัย 10,109: คดีที่ได้รับการยืนยัน 63,109: เพิ่มขึ้นทุกวันที่ 6.8%: คนที่อยู่ในสภาพร้ายแรง 10,204: เสียชีวิต 1,380 คน
ในที่สุดผู้นำที่บอกว่ามันเป็น! Tom Cotton วุฒิสมาชิกอเมริกัน
เขาอ้างว่าไวรัสมาจากห้องปฏิบัติการความปลอดภัยทางชีวภาพแห่งชาติของจีนและไม่ใช่ตลาดสัตว์ในหวู่ฮั่น จีนหลอกลวงเกี่ยวกับต้นกำเนิดของ coronavirus
สหรัฐฯมีหลักฐานแน่ชัดว่าไวรัสไม่ได้เริ่มในตลาดสัตว์
เขาเตือนจีนให้เปิดกว้างในตอนนี้เพื่อนักวิทยาศาสตร์นานาชาติที่มีความสามารถ
เราจำเป็นต้องรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ superlab ในหวู่ฮั่น คำถามที่ยังไม่ได้ตอบมากเกินไป
ความกลัวที่แท้จริงนั้นมาจากรัฐบาลจีนที่โกหกเกี่ยวกับที่มาของเชื้อไวรัสและจำนวนคนที่ป่วย
เขาขอให้อธิษฐานเผื่อคนจีนที่ถูกทำร้ายโดยรัฐบาลจีน (วิดีโอด้านล่าง)
เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐอเมริกาอีกคนกล่าวหาว่าจีนขาดความโปร่งใส Larry Kudlow เจ้าหน้าที่ระดับสูงทำเนียบขาว กล่าวอย่างเป็นทางการ ถึงวิธีการของ Politburo (คณะกรรมการกำหนดนโยบายหลักของพรรคคอมมิวนิสต์) เนื่องจากจีนนำมาตรการ 'ที่ใช้ในช่วงสงคราม' ในเมืองอื่น ๆ
ประเทศจีนมีการหยุดชะงัก: ตัวบ่งชี้ "บนพื้นดิน" ยืนยันสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในกรณี Zero Hedge
Sen. Tom Cotton (R — Ark.) เข้าร่วม "Squawk Box" เพื่อหารือเกี่ยวกับสาเหตุที่เขาสนับสนุน "การห้ามเดินทางเป้าหมาย" เพื่อให้มีการแพร่กระจายของ coronavirus รวมถึงงบประมาณของประธานาธิบดีการแข่งขันประธานาธิบดีประชาธิปไตยและอื่น ๆ
Sen. Tom Cotton (R — Ark.) เข้าร่วม "Squawk Box" เพื่อหารือเกี่ยวกับสาเหตุที่เขาสนับสนุน "การห้ามเดินทางไปยังเป้าหมาย" เพื่อบรรลุการแพร่กระจายของ coronavirus รวมถึงงบประมาณของประธานาธิบดี, ....และอื่น ๆ

ภาพ เครดิต: คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีน
Friday, 14 February 2020
Covid-19: Day 46: Feb 14th: The real fear is the Chinese Government lying about the origin of the virus and the number of people who are sick, US senator: Confirmed cases 63,109: Deaths, 1,380.
Credit Mail Online
Day 46, February the 14th
Today in China: Suspected cases 10,109: Confirmed cases 63,109: A daily increase of 6.8%: People in serious condition 10,204: Deaths, 1,380.
Finally, a leader who tells it as it is! Tom Cotton American Senator.
He claims the virus comes from China's National Biosafety Lab in and not the animal market in Wuhan.
China has been deceitful about the origins of the coronavirus
The US has conclusive evidence the virus did not start in the animal market
He warns China to open-up now to competent international scientists
We need to know more about the superlab in Wuhan, too many unanswered questions.
The real fear is coming from the Chinese Government lying about the origin of the virus and the number of people who are sick.
He asks to pray for the Chinese people who are being harmed by the Chinese Government (video below)
Another senior US official accuses China of lack of transparency. Top White House official Larry Kudlow questions approach of Politburo as China brings in ‘wartime’ measures in more cities Guardian
China Has Ground To A Halt: "On The Ground" Indicators Confirm Worst-Case Scenario Zero Hedge
Sen. Tom Cotton (R—Ark.) joins "Squawk Box" to discuss why he favours a "targeted travel ban" to contain the spread of coronavirus as well as the president's budget, the Democratic presidential race and more.
Sen. Tom Cotton (R—Ark.) joins "Squawk Box" to discuss why he favours a "targeted travel ban" to contain the spread of coronavirus as well as the president's budget, the Democratic presidential race and more.
Credit: National Health Commission of the People's Republic of China

 

ไวรัส ‘โควิด-19’ คร่าชีวิตบุคลากรการแพทย์จีนไปแล้ว 6 คน
.
1.คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติของจีน เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19 / ไวรัสอู่ฮั่น) ภายในจีนแผ่นดินใหญ่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1,380 คน มีผู้ป่วยติดเชื้อมากกว่า 60,000 คน
.
2.จากตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อในข้อ 1. รวมบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเสียชีวิตแล้ว 6 คน ล้มป่วยเพราะติดเชื้อ 1,716 คน ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ในเมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย์ ศูนย์กลางการแพร่ระบาด
.
3.ตัวเลขนี้ยืนยันได้ว่า บุคลากรทางการแพทย์ อาทิ หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข มีความเสี่ยงสูง เพราะเป็นแนวหน้าในการรับมือ และอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย
.
4.แม้ว่าบุคลากรทางการแพทย์จะสวมใส่หน้ากากอนามัย พร้อมชุดป้องกัน ที่มีแว่นตาและถุงมือแล้วก็ตาม (อุปกรณ์ทั้งหมดใช้งานได้เพียงครั้งเดียว) ก็ยังเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ
.
● มีความเคลื่อนไหวอะไรอีกบ้างเกี่ยวกับ ‘โควิด-19’
.
1.โรงพยาบาลอู่ฮั่น จินหยินตัน ในเมืองอู่ฮั่น สถานพยาบาลที่รับรักษาผู้ป่วยจากโควิด-19 มากที่สุด แถลงขอรับบริจาคเกล็ดเลือด เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการดีขึ้น
.
2.ผู้ป่วยที่เคยติดเชื้อและหายดีแล้ว สามารถบริจาคเกล็ดเลือดได้
.
3.การที่ผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการดีขึ้นจากโควิด-19 และได้รับเกล็ดเลือด เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม
.
4.องค์การอนามัยโลกยืนยันว่า อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ประมาณ 2% กลุ่มเสี่ยงที่สุดคือ ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีโรคประจำตัว
.
5.องค์การอนามัยโลกระบุว่า เมื่อเทียบอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กับเชื้อไวรัสซาร์ส / โควิด-19 น้อยกว่า คือ โควิด-19 มีอัตรา 2% ซาร์ส มีอัตรา 10%
.
6.สมาคมเครือข่ายโทรศัพท์มือถือโลก (GSMA) ผู้จัดงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ที่ประเทศสเปน แถลงยกเลิกการจัดงานปีนี้ ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 ก.พ.
.
7.สาเหตุหลักคือ บริษัทต่างๆจากทั่วโลกที่จะเข้าร่วมงาน ขอถอนตัวกันอย่างต่อเนื่อง เพราะความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 / งานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส จัดขึ้นทุกปีที่สเปน มาตั้งแต่ปี 2530
.
ขอบคุณภาพจาก https://foreignpolicy.com/2020/01/2...cared-should-you-be-of-the-wuhan-coronavirus/
.

 

โลกร้อนทำพิษโลกวิกฤต กระแสน้ำมหาสมุทร ไหลเร็วขึ้นทั่วโลก! คาดเพราะภาวะโลกร้อน อาจส่งผลต่อสภาพอากาศ-ระบบนิเวศ
•
แย่แล้ว!! เมื่อผลจากการศึกษาพบว่ากระแสน้ำมหาสมุทรไหลเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดอาจเป็นสัญญาณและผลมากจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป
•
นักวิจัยเปิดเผยในงานวิจัยตีพิมพ์ใน Science Advances พบว่า 76% ของมหาสมุทรทั่วโลกไหลเร็วขึ้นตั้งแต่ปีทศวรรษ 1990 ซึ่งเกิดจากกระแสลมพัดเร็วมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการที่กระแสเร็วมากขึ้นไม่ได้เกิดจากกระแสลมที่แปรปรวนโดยธรรมชาติเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
•
"โลกคือคนไข้ของเรา และเรากำลังมองหาอาการป่วยจากผลกระทบของก๊าซเรือนกระจก และนี่ก็คืออีกหนึ่งอาการ" Michael McPhaden, study coauthor and National Oceanic and Atmospheric Administration researcher กล่าวกับ Washington Post
•
กระแสน้ำของแต่ละมหาสมุทรเคลื่อนน้ำเท่ากับแม่น้ำทั้งโลกรวมกัน Science Magazine อธิบาย นักวิจัยพบว่าระหว่าง 1990 - 2013 พลังงานของกระแสน้ำเพิ่มขึ้น 15% ต่อ 10 ปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่มหาศาลมาก
•
ในขณะเดียวกันการศึกษาพบว่า ความเร็วลม เพิ่มขึ้นราว 2% ต่อ 10 ปี ตั้งแต่ 1990 ซึ่งคือกระแสน้ำมหาสมุทรที่เพิ่มขึ้น 5% ต่อ 10 ปี
•
จนถึงขณะนี้นักวิทยาศาสตร์ยังไม่พบสาเหตุแน่ชัดว่าอะไรทำให้เกิดกระแสน้ำเร็วขึ้นนี้ และวิกฤติโลกร้อนส่งผลกระทบต่อกระแสน้ำอย่างไร แต่ผลจากการศึกษาพบว่ามันได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตที่ได้อาศัยอยู่ในมหาสมุทร
•
การศึกษาเน้นว่า ในสถานการณ์ที่โลกเผชิญสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง กระแสลมก็จะแรงขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงถูกคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในปลายศตวรรษนี้ ซึ่งในขณะนั้นโลกจะอ่อนไหวต่อภาวะโลกร้อนมากขึ้น
•
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยยอมรับว่าไม่สามารถระบุได้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ เกิดขึ้นโดยก๊าซเรือนกระจกเพียงอย่างเดียว มหาสมทุร อย่าง Pacific มีวัฏจักรธรรมชาติที่ขับเคลื่อนกระแสน้ำเช่นกัน อย่างไรก็ตามพวกเขาถกเถียงว่า กระแสน้ำที่เร็วขึ้นนี้ เปลี่ยนแปลงเกินกว่าที่จะมาจากปัจจัยจากธรรมชาติ
•
"มันอาจจะเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลอย่างมากใน 25 ปีที่ผ่านมาก็เป็นได้" McPhaden กล่าว
•
ทีมผู้วิจัยระบุว่า ความเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำในมหาสมุทรที่ไหลเวียนไปมา มีความสำคัญต่อการทำความเข้าใจปัญหาภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากกระแสน้ำเหล่านี้นำพาความร้อนเคลื่อนที่ไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบนิเวศใต้ทะเล รวมทั้งอุณหภูมิและลักษณะอากาศประจำถิ่นได้
•
การเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำในมหาสมุทรอย่างรวดเร็ว อาจมีนัยสัมพันธ์กับภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์เราควรตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวให้มากขึ้น เพราะกระแสน้ำนับเป็นตัวที่นำพาพลังงานความร้อน อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศชายฝั่ง และสภาพภูมิอากาศได้อีกด้วย
•
https://www.washingtonpost.com/clim...nother-mega-scale-consequence-climate-change/
https://weather.com/science/environment/video/ocean-currents-speeding-up-why-thats-worrying
https://www.sciencenews.org/article/climate-change-speeding-up-ocean-circulation
https://www.ecowatch.com/ocean-currents-speeding-up-2645050924.html
https://www.sciencemag.org/news/2020/02/global-warming-speeding-earth-s-massive-ocean-currents
https://www.bbc.com/thai/features-51414587
•
ร่มธรรม ขำนุรักษ์
เด็กหญิงแก้มยุ้ยเป็นมิตร
environman

 

ข่าวปลอม! กลั้นหายใจ เช็คอาการไอ-แน่นหน้าอก ตรวจการติดเชื้อ ‘ไวรัสโคโรนา’ ด้วยตัวเอง
ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมฯ เผย ข่าวกลั้นหายใจไว้ 10 วิ ดูว่ามีอาการไอ แน่นหน้าอกหรือไม่ หากไม่มีอาการแสดงว่าไม่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา กระทรวงสาธารณสุขยืนยัน ยังไม่มีผลวิจัยทางการแพทย์ยืนยันว่าการใช้วิธีดังกล่าวเช็คการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสามารถทำได้ด้วยตนเอง
#MGROnline #ข่าวปลอม #Fakenews

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Feb 14) สหรัฐฯ ตั้งข้อสงสัยถึงความแม่นยำของข้อมูลจีนหลังมีการใช้วิธีประเมินผู้ติดเชื้อใหม่ :หน่วยงานสาธารณสุขของ Hubei ประกาศตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อ ณ วันที่ 12 ก.พ. เพิ่มขึ้นจำนวน 14,840 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมในจีนเพิ่มขึ้นแตะระดับ 6 หมื่นคน หลังทางการจีนใช้วิธีการประเมินผู้ติดเชื้อ ซึ่งนับว่าเป็นการเพิ่มขึ้นในรอบ 1 วันที่สูงที่สุดตั้งแต่มีการประกาศตัวเลข คิดเป็นการเพิ่มสูงถึง 9 เท่าจากวันก่อนหน้า

สถานการณ์ดังกล่าวได้เพิ่มความกังวลให้กับประชาชนอีกครั้ง
นอกจากนี้ ทางการสหรัฐฯ ได้ออกมาตั้งข้อสงสัยถึงความแม่นยำของข้อมูลที่ออกมาจากจีน

อย่างไรก็ดี ทางองค์การอนามัยโลกออกมากล่าวว่า การรายงานตัวเลขดังกล่าวเป็น “an after-fact of reporting” และส่วนใหญ่เป็นการ classified จำนวนผู้ป่วยย้อนหลัง ไม่ได้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางของโรคอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ องค์กรอนามัยโลกกล่าวว่าการเปลี่ยนหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะทำให้การตรวจสอบติดตามผู้ป่วยทำได้ดีขึ้น และเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการจำกัดการระบาดของโรค

อนึ่ง มีข่าวการว่าพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนได้ประกาศเปลี่ยนตัวข้าราชการระดับสูงที่สุดประจำมณฑล Hubei และเมือง Wuhan โดยได้ส่งนาย Ying Yong อดีตนายกเทศมนตรีมณฑลเซี่ยงไฮ้มาทำหน้าที่นายกเทศมนตรีแทน

Source: BOTSS

เพิ่มเติม
- White House does not have ‘high confidence’ in China’s coronavirus information, official says : https://www.cnbc.com/2020/02/13/whi...as-coronavirus-information-official-says.html

- สหรัฐเผยผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวม 15 ราย ล่าสุดอพยพจากเมืองอู่ฮั่น: https://www.ryt9.com/s/iq38/3095023

- ดาวโจนส์ร่วงกว่า 100 จุด ผวาไวรัสโควิด-19 ลาม หลังจำนวนผู้ติดเชื้อในจีนพุ่ง : https://www.ryt9.com/s/iq18/3095016

- ยูโรดิ่งต่ำสุดรอบกว่า 2 ปีเทียบดอลลาร์ เก็งสหรัฐรับมือผลกระทบไวรัสดีกว่ายุโรป: https://www.ryt9.com/s/iq21/3095024

**************
- อนามัยโลกแจงอย่าด่วนตกใจตัวเลขผู้ติดเชื้อในจีนพุ่ง ชี้วงจรการแพร่ระบาดคงเดิม

องค์การอนามัยโลก(WHO) ระบุในวันพฤหัสบดี(13ก.พ.) การเพิ่มขึ้นอย่างมากในรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19ในจีน เป็นผลสืบเนื่องจากการปรับวิธีการนับใหม่ ไม่ได้เป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการแพร่ระบาด

ตัวเลขอย่างเป็นทางการของยอดผู้เสียชีวิตและจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจในวันพฤหัสบดี(13ก.พ.) หลังจากเจ้าหน้าที่ปรับเปลี่ยนแนวทางนับผู้ติดเชื้อ

ในเรื่องนี้ ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการสาธารณสุขฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่า "มันไม่ได้เป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงจรการแพร่ระบาด" เขากล่าว

"จากที่เราเข้าใจ เราไม่ได้กำลังรับมือกับเคสผู้ติดเชื้อทีพุ่งขึ้น 14,000 คนต่อวัน" เขากล่าว "ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างที่คุณเห็นในช่วง 24 ชั่วโมงหลังสุด ส่วนใหญ่แล้วสืบเนื่องจากมีการเปลี่ยนแนวปรับวิธีวินิจฉัยโรคใหม่"

ไรอัน ยังคาดหมายด้วยว่าคณะผู้ปฏิบัติภารกิจนานาชาติที่นำโดยองค์การอนามัยโลกจะเดินทางถึงจีนในช่วงสุดสัปดาห์นี้

คำชี้แจงขององค์การอนามัยโลกมีขึ้น หลังจากยอดผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อรายใหม่จากไวรัสโควิด-19 ในมณฑลหูเป่ยพุ่งทะยานทำลายสถิติประจำวัน แต่ทางการจีนออกมาอธิบายว่าเนื่องมาจากการปรับวิธีวินิจฉัยโรคใหม่ เพื่อให้สามารถกักกันและรักษาผู้ป่วยได้เร็วขึ้น รวมทั้งยังสอดคล้องกับวิธีจำแนกผู้ติดเชื้อของมณฑลอื่นๆ

จากการแถลงข่าวประจำวันเมื่อวันพฤหัสบดี (13 ก.พ.) ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 (ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่) ที่มณฑลหูเป่ย ในวันพุธ(12ก.พ.) สร้างสถิติใหม่โดยอยู่ที่ 242 คน ทำให้จำนวนรวมกลายเป็น 1,367 คน

ตัวเลขประจำวันนี้เป็นกว่า 2 เท่าตัวของสถิติผู้เสียชีวิตสูงสุดในรอบวันที่มณฑลนี้ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (10ก.พ.) โดยอยู่ที่ 103 คน ขณะที่จำนวนคนไข้ติดเชื้อรายใหม่ก็พุ่งพรวดขึ้นไปถึง 14,840 ราย -อันเป็นการสร้างสถิติใหม่เช่นกัน-- และทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 48,206 ราย

พวกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของมณฑลนี้อธิบายว่า ได้เริ่มวิธีการวินิจฉัยโรคใหม่ตั้งแต่วันพฤหัสฯ โดยหากยังใช้วิธีการเดิมแล้ว จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันพุธจะอยู่ที่เพียง 1,508 คน

ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการสาธารณสุขมณฑลหูเป่ยเผยว่า จะเริ่มใช้ผลการสแกนปอดด้วยเครื่องเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ (ซีที) ในการยืนยันการติดเชื้อเพื่อให้โรงพยาบาลแยกผู้ป่วยได้เร็วขึ้น รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับวิธีการจำแนกผู้ติดเชื้อในมณฑลอื่นๆ

รอบนอกหูเป่ย พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 12 คน แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเป็นวันที่ 9 ติดต่อกัน อยู่ที่ 312 คน

ผู้จัดการออนไลน์: https://mgronline.com/around/detail/9630000015003

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Feb 13) ภัยแล้งที่ไทยส่งผลทำให้อินโดนีเซียต้องนำเข้าน้ำตาลจากประเทศอื่นๆ ทดแทน หลังความต้องการเพิ่ม :ภัยแล้งที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยได้ส่งผลไปถึงอินโดนีเซีย เนื่องจากเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำตาลจากไทย และปริมาณที่ต้องนำเข้าในปีนี้สูงมาก ทำให้ต้องนำเข้าจากประเทศอื่นๆ ทดแทน

อินโดนีเซียอาจต้องนำเข้าน้ำตาลจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น ประมาณ 1.3 ถึง 1.4 ล้านตัน มากกว่าในปี 2019 ถึง 11 เท่า มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันคาดว่าปริมาณการบริโภคน้ำตาลในประเทศอินโดนีเซียก็ยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าในปีนี้จะมีปริมาณการบริโภคถึง 3.25 ล้านตัน หลังจากผลผลิตอ้อยสำหรับผลิตน้ำตาลลดลงถึง 10%

นับตั้งแต่ต้นปี 2020 ที่ผ่านมาราคาน้ำตาลที่ซื้อขายในตลาดโลกราคาได้พุ่งสูงไปแล้วกว่า 12% และเป็นราคาน้ำตาลสูงที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา สำหรับสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกและเป็นประเทศผู้ส่งออกไปอินโดนีเซียรายใหญ่อันดับ 1

บทวิเคราะห์จากธนาคารกรุงศรีอยุธยาล่าสุด กล่าวถึงเรื่องภัยแล้งของไทยในปีนี้จะย่ำแย่กว่า 4 ปีที่แล้ว เนื่องจากฝนทิ้งช่วงยาวนานเกินไป ทางด้านปริมาณน้ำฝนก็ถือว่าน้อยลงเฉลี่ยประมาณ 5-10% เท่ากับก่อนช่วงที่จะเกิดภัยแล้งในครั้งที่แล้ว และยังรวมไปถึงฝนที่ตกนอกพื้นที่เขื่อน ย่อมส่งผลต่อภาคการเกษตรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ขณะที่ประเทศบราซิลที่เป็นผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่เช่นกันกลับนำอ้อยไปผลิตเอธานอล ส่งผลทำให้ราคาน้ำตาลขึ้นสูงไปอีก ทำให้ประเทศส่งออกรายใหญ่อันดับถัดมาจากไทย เช่น อินเดีย ออสเตรเลีย ได้ประโยชน์จากราคาที่สูงขึ้น

ปัจจุบันโรงงานผลิตน้ำตาลในประเทศอินโดนีเซียกว่า 20 แห่งนั้นมีรัฐบาลเป็นเจ้าของ ที่เหลือ 11 แห่งเป็นของเอกชน นอกจากนี้ความต้องการน้ำตาลในการผลิตอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มสูงขึ้นเพื่อตอบสนองต่อประชากรที่เพิ่มขึ้นในอินโดนีเซีย

Yadi Yusriyadi ที่ปรึกษาอาวุโสของสมาคมผู้ผลิตน้ำตาลของอินโดนีเซียกล่าวว่า อินโดนีเซียจะต้องนำเข้าน้ำตาลเพราะว่า ถ้าหากไม่นำเข้าน้ำตาลจากต่างประเทศ ด้วยปริมาณการผลิตในประเทศด้วยจำนวนจำกัด แต่ความต้องการน้ำตาลยังสูงขนาดนี้ ย่อมส่งผลทำให้ราคาน้ำตาลในประเทศอาจสูงขึ้นได้

โดย Wattanapong Jaiwat

Source: Brandinside.asia
https://brandinside.asia/drought-cu...sia-imported-from-another-countries-feb-2020/

 

อุณหภูมิแอนตาร์กติกสูงขึ้นทะลุ 20 องศาครั้งแรก โดย ThaiPublica > Thaipublica Sustainability14 กุมภาพันธ์ 2020


ที่มาภาพ:
https://www.theguardian.com/world/2...temperature-rises-above-20c-first-time-record
อุณหภูมิที่แถบแอนตาร์กติกได้เพิ่มขึ้นสูงกว่า 20 องศาเซลเซียส หรือ 68 องศาฟาเรนไฮต์ เป็นครั้งแรก ทำให้เกิดความวิตกต่อสภาพความไม่แน่นอนของแหล่งกักเก็บน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าอุณหภูมิซึ่งวัดได้เกาะซีมัวร์ (Seymour Island). ที่ระดับ 20.75 องศาเซลเซียสนั้นเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อและผิดปกติ

จากการวัดอุณหภูมิที่เกาะซีมัวร์เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2020 นักวิทยาศาสตร์ชาวบราซิลพบว่าอุณหภูมิสูงขึ้นเกือบ 1 องศาเซลเซียสจากระดับ 19.8 องศาเซลเซียสของการวัดครั้งก่อนที่เกาะซิกนี (Signy Island) ปี 1982

ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์ชาวอาร์เจนตินาวัดอุณหภูมิของสถานีเอสเพอร์รันซา (Esperanza) วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2020 ได้ 18.3 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของคาบสมุทรแอนตาร์กติก

อุณหภูมิที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์จากการวัดทั้งสองครั้งนี้ แม้ว่าจะต้องผ่านการรับรองจากกรมอุตุนิยมวิทยาโลก แต่ก็สอดคล้องกับสถานการณ์ส่วนใหญ่ในบริเวณคาบสมุทรแอนตาร์กติกและเกาะที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งอุ่นขึ้นเกือบ 3 องศาเซลเซียส นับตั้งแต่ยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม และเป็นอุณหภูมิที่มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแห่งหนึ่งของโลก

นักวิทยาศาสตร์ผู้ซึ่งเก็บข้อมูลจากสถานีตรวจสอบระยะไกลทุกๆ 3 วัน อธิบายว่า อุณหภูมิที่ทำสถิติใหม่นี้เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อและผิดปกติ

“เราเคยเห็นแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิจากหลายสถานีที่เราเฝ้าติดตาม แต่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน” คาร์ลอส เชฟเฟอร์ ซึ่งทำงานในโครงการเทอร์รานทาร์ (Terrantar) โครงการของรัฐบาลบราซิลที่มุ่งไปที่การประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ climate change ต่อชั้นดินเยือกแข็งคงตัว หรือ permafrost (permafrost หมายถึง พื้นดินที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสติดต่อกันเป็นเวลานาน ส่วนใหญ่พบพื้นดินแบบนี้ในบริเวณขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้ และพื้นที่สูงที่มีอากาศหนาวเย็น ซึ่งบนผิวดินอาจไม่จำเป็นต้องมีน้ำแข็งปกคลุมก็ได้) และด้านชีววิทยาจาก 23 สถานีที่คาบสมุทรแอนตาร์ติก

เชฟเฟอร์กล่าวว่า อุณหภูมิในคาบสมุทรแอนตาร์ติก บริเวณเกาะเชตแลนด์ใต้ (South Shetland Island) และหมู่เกาะเจมส์ รอสส์ (James Ross archipelago) ซึ่งครอบคลุมเกาะซีมัวร์ มีความไม่แน่นอนในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา และหลังจากที่เย็นลงในช่วงทศวรรษแรกของศตวรรษนี้ ก็กลับมาอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว


ที่มาภาพ: https://www.theguardian.com/world/2...temperature-rises-above-20c-first-time-record
นักวิทยาศาสตร์ชาวบราซิลซึ่งอยู่ในโครงการแอนตาร์กติกให้ความเห็นว่า การที่อุณหภูมิสูงขึ้นเกิดจากอิทธิพลของการยกตัวของกระแสน้ำในมหาสมุทรและปรากฎการณ์เอลนีโญ

“เราพบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในชั้นบรรยากาศ ซึ่งเกี่ยวข้องกันมากกับการเปลี่ยนแปลงของชั้นดินเยือกแข็งคงตัวและมหาสมุทร ทั้งหมดนี้สัมพันธ์กันมาก”

ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีความแตกต่างกันทั่วทั้งคาบสมุทร ที่ประกอบด้วยผืนดิน เกาะ และมหาสมุทรซึ่งอยู่บริเวณเส้นขนานหรือละติจูดที่ 60 องศาใต้ ภูมิภาคนี้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำ 70% ของโลกในรูปของหิมะและน้ำแข็ง ซึ่งหากละลายทั้งหมดจะส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 50-60 เมตร แต่นั่นต้องเป็นอีกหลายชั่วชีวิตคน นักวิทยาศาสตร์สหประชาชาติพยากรณ์ว่า ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นราว 30-110 เซนติเมตรภายในสิ้นศตวรรษนี้ แต่ขึ้นอยู่กับความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและความเปราะบางของแผ่นน้ำแข็ง




ที่มาภาพ: https://www.theguardian.com/world/2...temperature-rises-above-20c-first-time-record

ขณะที่อุณหภูมิทางตะวันออกและตอนกลางของแอนตาร์กติกยังคงทรงตัว แต่ก็มีความวิตกมากขึ้นต่อทางตะวันตกของแอนตาร์กติก ซึ่งมหาสมุทรที่อุ่นขึ้นมีผลต่อธารน้ำแข็งที่เกาะไพน์และเกาะทะวาอิทส์ (Thwaites and Pine Island) และก็ยังมีผลน้อยต่อการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล แต่ก็อาจจะเพิ่มขึ้นรวดเร็วได้หากอุณหภูมิสูงขึ้นต่อเนื่อง


คาบสมุทรแอนตาร์ติกที่มีความยาวทอดไปยังอาร์เจนตินาได้รับผลกระทบมากที่สุด จากการที่เดอะการ์เดียนร่วมเดินทางไปกับกลุ่มกรีนพีซพบว่า ธารน้ำแข็งลดลงมากกว่า 100 เมตรในอ่าวดิสคัฟเวอรี (Discovery Bay) และพื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะคิง จอร์จ (King George Island) ซึ่งหิมะค่อยๆ ละลายมากว่าสัปดาห์ จนเห็นก้อนหินสีดำ ขณะที่การละลายของน้ำแข็งเกิดขึ้นทุกๆ หน้าร้อน นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมาเห็นได้ชัดขึ้นว่า อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเร็วกว่าการเพิ่มขึ้นในหน้าหนาว สิ่งเหล่านี้เชื่อว่าเป็นสาเหตุของสัญญานอันตรายของการลดลงมากกว่า 50% ของกลุ่มนกเพนกวินสายพันธ์ชินสแตรป (chinstrap penguin) ซึ่งต้องพึ่งพาทะเลน้ำแข็ง

เชฟเฟอร์กล่าวว่า การติดตามการเก็บบันทึกข้อมูลในบริเวณนี้ อาจจะบ่งชี้ได้ถึงสถานการณ์ในส่วนอื่นของภูมิภาค “เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีพื้นที่เฝ้าระวังอย่างเกาะเชตแลนด์ใต้ และคาบสมุทรแอนตาร์กติกเพราะจะบ่งชี้ถึงสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นอนาคตอันใกล้นี้”


https://thaipublica.org/2020/02/temperature-rising-above-20-degree-antartic/

 

14/2/63 CNN รายงานข่าวนี้แล้วเศร้า เจ้าหน้าที่ รพ. ในจีน 6 ราย ที่แอดมิดเสียชีวิตจาก COVID-19 และมากกว่า 100 คนติดเชื้อ..
R.I.P ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกท่านครับ save ตัวเองด้วยนะครับเวลาขึ้นเวรดูคนไข้ทุกโรค

 

ผู้อพยพทั้งหมด 199 คนที่ถูกกักกันหลังกลับมาจากเมืองอู่ฮั่นของจีนโดยเครื่องบินเช่าเหมาลำของรัฐบาลญี่ปุ่นเที่ยวบินที่ 2 ได้รับการยืนยันว่าไม่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ พวกเขาเดินทางกลับบ้านแล้วในวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์
เมื่อวันที่ 30 มกราคม ผู้คนกลุ่มนี้ได้อพยพออกจากเมืองอู่ฮั่นของจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในขณะนั้นพวกเขาไม่ปรากฏอาการใด ๆ และตรวจไม่พบเชื้อไวรัสดังกล่าว แต่เพื่อเป็นการเฝ้าระวังไว้ก่อน พวกเขาจึงถูกกักกันอยู่ที่สถานที่ต่าง ๆ ในเมืองวาโก จังหวัดไซตามะ ใกล้กับกรุงโตเกียว
เจ้าหน้าที่ระบุว่าผลการตรวจเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์พบว่า ผู้อพยพทั้งหมดไม่มีเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยวันดังกล่าวถือเป็นวันสิ้นสุดช่วงเวลาที่คาดว่าเป็นช่วงที่ยาวนานที่สุดที่ไวรัสนี้จะฟักตัว
พวกเขาได้เดินทางกลับบ้านในวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์โดยนั่งรถบัสที่รัฐบาลญี่ปุ่นจัดเตรียมไว้ให้
กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่นไม่มีแผนที่จะออกข้อห้ามใด ๆ ในการใช้ชีวิตประจำวันของกลุ่มคนเหล่านี้
ด้านผู้อพยพอีก 300 คนที่เดินทางกลับญี่ปุ่นโดยเครื่องบินเช่าเหมาลำเที่ยวบินที่ 3 และ 4 ยังคงถูกกักกันโรคอยู่ที่จังหวัดไซตามะ
ติดตามรายละเอียดของข่าวอื่น ๆ ได้ที่นี่
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

พายุ กระทบกับไอซ์แลนด์ด้วยความเร็ว 180 ถึง 220 km \ h

 

ไต้หวันประกาศยกระดับเตือนการเดินทางไปญี่ปุ่นเป็นระดับ 1 คือต้องระวัง (watch) ให้ผู้เดินทางไปญี่ปุ่นต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคของญี่ปุ่นอย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นระดับเดียวกับของไทย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังยกระดับเขตระบาด COV-19 มณฑลเหอหนานและเจ๋อเจียง เป็นเขตระบาดระดับ 1 ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 2563 เป็นต้นไป เนื่องจากพบการติดต่อเป็นกลุ่มและสงสัยว่าเป็นการแพร่เชื้อของผู้ที่ไม่แสดงอาการใด ๆ

 

ข่าวประจำวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓
๑. เวียดนามป่วย Covid-19 ถึง 16 ราย สั่งปิดหมู่บ้าน สิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อ 50 ราย สูงสุดรองจากจีน ปชช. กังวลกระแสกักตุนสินค้า
๒. ม. แพทยศาสตร์จงซาน เผยผลทดลองวิธีนึ่งหน้ากากอนามัยสามารถฆ่าเชื้อโรคได้
๓. Covid-19 พ่นพิษ ทะเลสาบสุริยันจันทราดันแผนท่องเที่ยว "วันวิเวก"

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

อุกกาบาตชนอาคารโรงงานในเมืองอัลวาร์, รัฐราชสถาน, ประเทศอินเดีย: รายงานหลุมอุกกาบาตยาว 6 เมตร

 

สาวจีนแทงคนแก่-เด็ก แย่งยาฆ่าเชื้อขวดสุดท้าย
ประจำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นภายในซูเปฮร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ที่มณฑลเจียงซู ทางตะวันออกของจีน หญิงชราอายุ 71 ปี และเด็กหญิงวัย 9 ขวบถูกแทงเลือดอาบพื้น หลังเกิดเหตุวิวาทยื้อแย่งน้ำยาฆ่าเชื้อขวดสุดท้าย ที่วางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ ท้ายที่สุดเกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อวัยรุ่นหญิง หยิบมีดออกมาแทงทั้งคู่ หวังได้เป็นเจ้าของยาฆ่าเชื้อขวดนี้ ลูกค้าคนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างกรีดร้องออกมาด้วยตวามตกใจและหวาดกลัว
สื่อท้องถิ่นจีนรายงานว่า คุณยายและเด็กหญิงถูกส่งโรงพยาบาล ขณะนี้อาการยังทรงตัว ขณะที่เหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนภาวะหวาดกลัวและตึงเครียดของชาวจีน ท่ามกลางวิกฤตไวรัสโควิด-19 ระบาดหนัก จนส่งผลให้เวชภัณฑ์ขาดแคลน
ส่วนสถานการณ์บนเรือไดมอนด์ พริ๊นเซส ที่ยังคงจอดเทียบท่าเมืองโยโกฮาม่า โดยผู้สูงอายุปลอดเชื้อกลุ่มแรก จะได้รับอนุญาตให้ออกจากเรือภายในช่วงค่ำวันนี้ แต่รายงานไม่ระบุว่ามีจำนวนกี่คนและพวกเขาจะถูกอพยพไปที่ไหน
ช่วงเช้าวันนี้ ผู้นำญี่ปุ่นยังจัดการประชุมร่วมกับคณะกรรมการจัดงานการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการรับมือด้านสุขภาพและความปลอดภัยให้กับนักกีฬาและนักท่องเที่ยวไม่ให้ติดเชื้อไวรัส โดยเน้นย้ำว่ายังไม่มีการยกเลิกหรือเลื่อนการจัดงานในตอนนี้.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

การบุกของ ตั๊กแตน ในซาอุดิอาระเบีย

 

นายกอาเบะออกงบฉุกเฉิน 15,300 ล้านเยน (4.5 พันล้านบาท) เพื่อป้องกันโควิด-19 // สั่งผลิตแมส 600 ล้านอันขึ้นไป ให้เสร็จทันมีนานี้
ใช้งบทำอะไรบ้าง
ให้เงินช่วยเหลือบ. แมสเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการ
พัฒนาอุปกรณ์ตรวจโรค ให้ง่ายและแม่นยำขึ้น
ให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวกู้ฉุกเฉินได้
เตรียมบุคลากรทางการแพทย์ —> เรียกจากกองกำลังป้องกันตนเองที่มีใบประกอบโรควิชาชีพแพทย์/พยาบาล
———
แมสขาดตลาดน่าจะอุ่นใจได้ระดับนึงนะคะ ☺️
https://news.livedoor.com/lite/article_detail_amp/17814388/
#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

 

#ข่าวด่วน #ข่าวสั้น (14 ก.พ. 17:10 น. ) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจ. โตเกียว 2 ราย เป็นคนที่มีประวัติใกล้ชิดกับลุงคนขับแท็กซี่วัย 70 เมื่อวาน
กลางเดือนม.ค. ทั้งสองคนเคยร่วมงานปีใหม่บนยากาตะบูเนะ (เรือบ้านลอยน้ำ) กับลุงคนขับแท็กซี่
เมื่อเช้าไม่ได้อัพ แต่มีคนติดเชื้อที่ จ. วาคายามะวัย 70 คนนี้อาการหนัก อยู่ระหว่างคอนเฟิร์มว่าติดจากคุณหมอวัย 50 เมื่อวานหรือเปล่า
ที่โอกินาว่าก็มีคนขับรถแท็กซี่ป่วยค่ะ เดี๋ยวสรุปรวบทีเดียวโพสต์ถัดไป เพราะรอผลอีก 2 คน
——-
✒หรือญี่ปุ่นคงกำลังใกล้เข้าเฟส 2 ‪( •̥ ˍ •̥ )‬
#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

 

จีนแถลงบุคลากรทางการแพทย์ติด “COVID-19” แล้ว 1,716 คน
จีนยอมเปิดตัวเลขพบสตาฟสาธารณสุขติด COVID-19 ถึง 3.8% จากจำนวนผู้ป่วยมากไป – อุปกรณ์ทางการแพทย์ขาดแคลน ด้านอเมริกาถามหา “ความโปร่งใส” ย้ำพร้อมช่วย แต่ไม่ได้รับโอกาสให้ช่วย
#จีน #อู่ฮั่น #ไวรัสโคโรนา #โคโรนาไวรัส #ปอดอักเสบ #โรคระบาด #ไวรัสอู่ฮั่น #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #COVID19 #WHO #องค์การอนามัยโลก