ติดตามสถานะการณ์

หายแล้ว เชื้อก็กลับมาได้อีก การอยู่ใกล้คนหายป่วยก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อไปด้วยได้ น่ากลัวน่ะ

จีนพบผู้ป่วยกลับมามีเชื้อโคโรนาไวรัสอีกครั้ง หลังจากหายป่วยแล้ว‼️
เจ้าเจียนผิง ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจชาวจีนและหัวหน้าทีมแพทย์ที่ทำงานในพื้นที่มณฑลหูเป่ยของจีนเตือนว่า ผู้ป่วยบางรายที่หายจากการติดเชื้อโคโรนาไวรัสแล้วยังมีโอกาสแพร่เชื้อสู่คนอื่นได้
“มันอันตรายมาก เราจะนำคนไข้กลุ่มนี้ไปไว้ที่ไหน เราไม่สามารถส่งพวกเขากลับบ้าน เพราะอาจนำเชื้อไปแพร่ให้คนในบ้าน แต่ก็ไม่สามารถให้อยู่โรงพยาบาลต่อได้ เนื่องจากพื้นที่ไม่เพียงพอ” เจ้าให้สัมภาษณ์กับ Southern People Weekly
นอกจากนี้ เจ้ายังให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ The Beijing News ด้วยว่า หนึ่งในผู้ป่วยของเขาได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน หลังจากผลตรวจให้ห้องแล็บ 2 ครั้งยืนยันว่าไม่พบเชื้อโคโรนาไวรัสแล้ว ทว่าไม่กี่วันต่อมาผู้ป่วยรายนี้กลับเป็นไข้และตรวจพบเชื้อโคโรนาไวรัสอีกครั้ง

 

อิตาลีล็อคคน 50,000 คนใน 10 เมืองเนื่องจากการระบาดของโรค coronavirus กระโจนทั่วยุโรป
Italy locks down 50,000 people across 10 towns as coronavirus outbreak leapfrogs across Europe

 

กรมวิทย์ นำเชื้อผู้ป่วย 2 รายแรก ไปพัฒนาชุดตรวจไวรัสโควิด-เริ่มทดลองสารสกัดฟ้าทะลายโจร
เขียนวันที่
วันศุกร์ ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 13:50 น.
เขียนโดยthaireform


กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นำตัวอย่างเชื้อผู้ป่วยยืนยัน 2 รายแรกของไทย ไปพัฒนาชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่าฯ พัฒนาวัคซีนป้องกันโรค -แบ่งปันให้องค์การอนามัยโลกไปต่อยอด ขณะที่กรมการแพทย์แผนไทยฯ เตรียมศึกษาสารสกัดฟ้าทะลายโจร ประสิทธิภาพที่มีต่อเชื้อไวรัสนี้ ด้านสถานทูต ณ กรุงโซล เตือนชาวไทยในเกาหลีหลีกเลี่ยงเดินทางไปยังพื้นที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก



วันที่ 21 กุมภาพันธ์ กระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

1.สถานการณ์ ถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ณ เวลา 08.00 น.

1. ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 16 ราย กลับบ้านแล้ว 19 ราย รวมสะสม 35 ราย

2. ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม – 20 กุมภาพันธ์ 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 1,151 ราย คัดกรองจากสนามบิน 58 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 1,093 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 941 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 210 ราย

3. สถานการณ์ทั่วโลกใน 28 ประเทศ และ 2 เขตบริหารพิเศษ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม – 21 กุมภาพันธ์ 2563 (07.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 76,202 ราย เสียชีวิต 2,247 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 75,000 ราย เสียชีวิต 2,236 ราย

2. สธ.เผยข่าวดีผู้ป่วยยืนยันกลับบ้านได้ 2 ราย นำเชื้อผู้ป่วยยืนยัน2รายแรกของไทยพัฒนาชุดตรวจ/วัคซีนโรคไวรัสโคโรน่า 2019

กระทรวงสาธารณสุข เผยข่าวดีผู้ป่วยยืนยันกลับบ้านได้ 2 ราย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นำตัวอย่างเชื้อจากผู้ป่วยยืนยัน 2 รายแรกของไทย ไปพัฒนาชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พัฒนาวัคซีนป้องกันโรค รวมทั้งแบ่งปันเชื้อให้องค์การอนามัยโลกนำไปต่อยอดเป็นประโยชน์ต่อคนทั้งโลก

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมด้วยนายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกและนายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ว่า กระทรวงสาธารณสุข มีข่าวดี ผู้ป่วยยืนยันกลับบ้านได้เพิ่มอีก 2 ราย ชายชาวจีน อายุ 56 ปี และอายุ 34 ปี จากสถาบันบำราศนราดูร เหลือนอนในโรงพยาบาล 16 คน รวมมีผู้ป่วยยืนยันรักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 19 ราย

ในส่วนผู้ป่วยใช้เครื่องเอคโม (ECMO) หรือเครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอด อาการคงที่ ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อแล้ว ส่วนรายที่เป็นวัณโรคร่วมด้วย ยังตรวจพบเชื้ออยู่ อาการคงที่ยังคงใช้เครื่องช่วยหายใจทั้ง 2 ราย ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง

ขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์ไทย จากหลายหน่วยงานได้ร่วมกันทำการทดลองทางห้องปฏิบัติการ ค้นพบว่าสารสกัดจากฟ้าทะลายโจรของประเทศไทย สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสได้ในหลอดทดลอง ซึ่งจะได้นำมาพัฒนาต่อยอดกับเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หากได้ผลเป็นที่น่าพอใจก็จะทำการขยายผลต่อไป คาดใช้เวลา 1 เดือนถึงจะได้คำตอบ

สำหรับกรณีผู้ป่วย Super Spreader ที่พบจากการรายงานข่าวในต่างประเทศนั้น จะเป็นผู้ที่มีเชื้อในร่างกายจำนวนมากสามารถแพร่ให้ผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วจนไม่สามารถควบคุมได้ ลักษณะดังกล่าวนี้ ยังไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากไทยมีระบบเฝ้าระวังควบคุมโรคที่เข้มแข็ง ทำให้สามารถตรวจจับผู้อาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังและนำมาแยกเก็บตัวไว้ในห้องแยกได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่ไปแพร่สู่ผู้อื่นได้ นอกจากนี้ประเทศไทยยังมี พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ที่ให้อำนาจเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ สามารถบังคับผู้ที่สงสัยว่าป่วยนำเข้ามาสู่ระบบการรักษาได้ ขอให้ประชาชนมั่นใจและให้ความร่วมมือกับทางราชการ เพื่อความปลอดภัยของคนในประเทศ ส่วนการติดตามผู้โดยสารและลูกเรือชาวไทยบนเรือสำราญไดมอนด์ ปริ้นเซส 3 ราย ทั้งหมดตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และออกจากเรือเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ ในการแถลงข่าว ได้มีการเน้นย้ำ ประเทศไทยยังไม่มีนโยบายห้ามการเดินทางไปยังพื้นที่ระบาดของโรค หากจำเป็นต้องไป ขอให้ระมัดระวัง ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสะอาดกับสบู่ หรือเจลล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย เมื่อไปอยู่ในที่คนจำนวนมาก เมื่อกลับประเทศไทย ทุกคนจะผ่านการคัดกรองที่สนามบิน ในส่วนผู้ที่ไม่มีไข้ อาการไม่เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรค สามารถกลับบ้านไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ขอแนะนำให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง หากป่วย มีไข้ไอ มีน้ำมูก ภายใน 14 วัน ให้รีบพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง หากพบมีไข้ ไอ มีน้ำมูก หรือมีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรค จะถูกนำไปตรวจเพิ่มที่โรงพยาบาล

นายแพทย์โอภาส กล่าวว่ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้นำตัวอย่างเชื้อจากผู้ป่วยไวรัสโคโรนา 2019 รายที่แรกและรายที่สองของประเทศไทย ไปถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นำมาพัฒนาชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยเทคนิค Real time RT –PCR พัฒนาวัคซีนป้องกันโรค รวมทั้งแบ่งปันเชื้อให้องค์การอนามัยโลกนำไปต่อยอดเป็นประโยชน์ต่อคนทั้งโลก

นอกจากนี้ ยังได้เร่งรัดพัฒนาเครือข่ายห้องปฏิบัติการให้พร้อมรับมือสถานการณ์ระบาดฉุกเฉิน ใน 14 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเริ่มที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ทั้ง 13 แห่ง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลรามาธิบดี และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลราชวิถี สถาบันบำราศนราดูร และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ในขยายไปยังโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง ทั้งนี้ ตั้งแต่ 5 มกราคม – 20 กุมภาพันธ์ 2563 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากตัวอย่างสิ่งส่งตรวจ รวม 1,489 ตัวอย่าง

เริ่มทดลองสารสกัดฟ้าทะลายโจร

ด้านนายแพทย์ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกได้ร่วมมือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม โดยในวันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 จะมีการลงนามความร่วมมือเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของสารสกัดฟ้าทะลายโจร รวมถึงสมุนไพรอื่น เพื่อดูกลไก ประสิทธิภาพของสมุนไพรไทยต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งเดิมได้มีการศึกษาเรื่องสารสกัดฟ้าทะลายโจรอยู่แล้วว่ามีฤทธิ์ในเชิง Antiviral broad spectrum เช่น ฤทธิ์การต้านไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์ การเพิ่มภูมิคุ้มกัน หรือการต้านการอักเสบ ทำให้มีการใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน

โดยในวันนี้กระทรวงสาธารณสุขจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้เรื่องโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้ความรู้ในการป้องกันโรค ยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัย ที่ โรงเรียนวัดโพธิ์ ท่าเตียนและมหาวิทยาลัยขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น พร้อมทั้งจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้ในการทำความสะอาดสถานที่ ที่วัดโพธิ์ ท่าเตียนและโรงแรมริชมอนด์ จ.นนทบุรี

3.ข้อแนะนำประจำวันในการป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น และปฏิบัติตามคำแนะนำ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” อย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัยแบบผ้าที่สะอาดเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก สำหรับผู้ป่วยและผู้ที่มีอาการ ไอ จาม ควรใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ สำหรับหน้ากากอนามัยประเภท N95 จะใช้ในเจ้าหน้าที่ที่ดูแลรักษาใกล้ชิดกับผู้ป่วย



ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ล่าสุด สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ประกาศเรื่อง การแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ที่พบผู้ติดเชื้อในเกาหลีใต้แล้ว 156 ราย โดยเฉพาะในเมืองแทกู และพื้นที่โดยรอบในจังหวัดคยองซังเหนือ พบผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 111 ราย (สถานะ ณ วันที่ 21 กุมภาพันธ์)

สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอประกาศเตือนชาวไทยในเกาหลีทุกท่านให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก

ขณะที่ The Center for Systems Science and Engineering (CSSE) มหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ (Johns Hopkins) แสดงแผนที่ลำดับประเทศที่พบผู้ติดฟเชื้อยืนยัน นอกจากประเทศจีนแล้ว เกาหลีพบผู้ติดเชื้อ อยู่อันดับ 2 ตัวเลขอยู่ที่ 156 ราย แซงประเทศญี่ปุ่นที่ตัวเลขอยู่ที่ 97 ราย




https://www.isranews.org/isranews/85821-covmoph85821.html

 

จากหมอคนหนึ่งเรื่อง Covid 19
#เหตุผลที่ไม่ควรเดินทางไป
- ญี่ปุ่น
- สิงค์โปร์
- มาเก๊า
- ฮ่องกง
- เกาหลีใต้
- มาเลเซีย
- ไต้หวัน
#จากการดูประชุมเมื่อวาน
- ยังไงประเทศไทยก็จะ
- เข้าสู่การระบาดแน่ๆครับ
#แต่ของไทย
- ยังอยู่ที่เฟส 2 อยู่
#คำว่าเฟส 2 คืออะไร
- หมายความว่า
#มีการระบาดจากแหล่งต้นทาง
- คือมีการติดเชื้อ
- เฉพาะผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับจีน
เช่น
- กลับมาจากจีน
- หรือแท็กซี่ที่ติดจากการรับส่งคนจีน
.
#ส่วน ญี่ปุ่น สิงค์โปร์ มาเก๊า ฮ่องกง และล่าสุด เกาหลีใต้ เป็นเฟส 3 แล้ว
#เฟส 3 คือ มีการระบาดกัน
ในคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับต้นตอ
เช่น
- คุณหมอที่ วากายาะ
- เมียคุณหมอ ลูกคุณหมอ
- แม่ยาย
- คนขับแท็กซี่ที่โตเกียว
- และล่าสุด การระบาดที่แทกู เกาหลีใต้
.
#ประเทศไทยต้องการที่จะ
- เข้าสู่เฟส 3 ให้ช้าที่สุด
#เนื่องจาก
- บุคลากรทางการแพทย์
- อุปกรณ์เครื่องมือเราน้อย
#ถ้าเฟส 3 มาไว
- เราตั้งรับไม่ทัน
- ดูแลผู้ป่วยไม่ทัน
- จะตายกันเยอะเหมือนที่จีน
#ถ้ามาช้าๆ เราดูแลทัน
- อัตรการตายจะน้อย
- ถ้าเป็นไปได้
- ก็ไม่อยากให้ตายเลย
.
#ทีนี้หากเราเดินทางไปยัง
- ประเทศที่อยู่ในเฟส 3 ดังกล่าว
#บุคลากรที่ต้องมาคัดกรองมีน้อย
- เป็นการเพิ่มงานให้เค้าเปล่าๆ
- การคัดกรอง
- ไม่จบแค่สนามบินนะครับ
- เค้าต้องส่งคน
- มาติดตามอีก 14 วัน
.
#สมมติผมเดินทาง
- กลับมาจากญี่ปุ่น
- แล้วมีอาการไข้
- แน่นอน ผมต้องโดนกัก
- ที่โรงพยาบาลดูอาการ 14 วัน
#แต่ถ้าผม
- ไม่มีอาการอะไรเลยหล่ะ
- ทำยังไง
#ผมต้องนั่งให้สัมภาษณ์ว่า
- ไปไหนมาบ้าง
- ทำอะไรมาบ้าง
- จากนั้นผมก็กลับบ้าน
- โดยต้องแยกตัว
- ไม่สุงสิง ไม่ไปทำงาน
- ไม่ยุ่งกับใคร เป็นเวลา 14 วัน
#โดยระหว่างนี้
- เค้าก็จะส่งคนมาตรวจดู
- ว่าเรากักตัวเองไหม.
#ที่ทำแบบนี้เพราะ
- มีคนที่ติด
- แต่ไม่แสดงอาการไงครับ
- #มันสามารถแพร่เชื้อได้
#สมมติ
- ผมไม่ทำตามที่เค้าบอก
- ยังไปทำงาน ยังไปดูหนัง
- แต่ตัวเองติดเชื้อ
- แล้วไม่มีอาการ
- จะเกิดอะไรขึ้น
- คนอื่นจะติดไปด้วยครับ
#และตอนนั้นแหละ
- บรรลัย แน่นอน
- เฟส 3 มา แน่นอนครับ
.
#ที่กังวลอีกอย่างนึง
- นักเดินทาง ส่วนใหญ่
- อายุประมาณ 25-50 ปี ไงครับ
- ร่างกายค่อนข้างแข็งแรง
- ถึงติดมา ก็ไม่แสดงอาการอะไร
#แต่ถ้ากลับบ้านอย่าลืมว่ามี
- พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตายาย รออยู่นะครับ
- เราเป็นพาหะ
- แล้วติดคนเหล่านั้น
- คุณจะเสียใจไปตลอดชีวิตนะครับ
.
#สรุป
1. ถ้าคุณเป็นพาหะกลับมา
- ติดคนแก่ที่บ้าน อายุ 50 ปีขึ้นไป
- หรือคนที่มีโรค
- ความดันโลหิตสูง
- โรคหัวใจ
- โรคทางเดินหายใจ
- โรคมะเร็ง
คนเหล่านี้อัตราการตายสูงมาก และอาจจะเป็นการเร่งให้ไทยเข้าสู่เฟส 3 เร็วขึ้น
2. เราอยากให้ไทย
- เข้าสู่เฟส 3 ให้ช้าที่สุด
#เนื่องจากปัจจุบัน
- รพ. ธรรมดาก็คนล้น
- นอนกันริมระเบียง
- นอนกันบนทางเดินอยู่แล้ว
#ถ้ามันเฟส 3 ขึ้นมา บอกเลย
- ตายกันเยอะแน่นอน
- เพราะบุคลากรดูแลไม่พอครับ
3. เห็นใจ คนปฏิบัติงานด้วย
- เพราะคนมีน้อย
- ต้องทำงาน 24 ชั่วโมง
- แถมต้องเสี่ยงกับไวรัสนี้อีก
- เค้าก็มีครอบครัวต้องดูแล เหมือนกัน
.
แต่ถ้าคุณตัวคนเดียว อยู่คนเดียว และลางานต่อได้อีก 14 วัน หลังจากคุณกลับมาจากเที่ยว และคุณพร้อมที่จะกักตัวเองอยู่ในบ้าน ไม่ไปไหน ก็ไปเที่ยวได้ครับ
จบแล้ว

 

ผมอ้างงานวิจัยเรื่องโคโรน่าของ Columbia . Med. หลายชิ้นในเพจนี้
แต่กว่าจะได้ผลเบื้องต้น รออีกสองปี อย่างต่ำ แค่ทดลองทางคลีนิก ต้องทดลองในคนต่อ กว่าจะได้cert นาน
แค่พัฒนายา
งานพวกนี้ต้องอเมริกา จีนทำได้แจ้ค หม่าให้ตังค์ไปแล้ว งานถอดระหัสโปรตีนทำวัคซีน จีนก็ส่งตัวอย่างให้เทกซัส U ทำให้ สองอาทิตย์ เสร็จ
อนาคตขึ้นกับความร่วมมือสองประเทศ จะได้ไม่มีซอมบี้ในโลก
=============
Feb 22) "แจ็ค หม่า" ทุ่มทุน หนุนผลิตยาฆ่าไวรัสโคโรนา : สำนักข่าวซินหัว รายงานเมื่อวันที่ 21 ก.พ. ว่า คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) ในมหานครนิวยอร์กของสหรัฐฯ จะร่วมกันพัฒนายาต้านไวรัสและสารภูมิต้านทานหรือแอนติบอดี เพื่อการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
เว็บไซต์มหาวิทยาลัยฯ ระบุว่าคณะนักวิจัยจะพัฒนายาหรือแอนติบอดีที่ยับยั้งการจำลองตัวเองของไวรัสโควิด-19 ด้วยวิธีที่แตกต่างกัน 4 วิธี ซึ่งแต่ละวิธีจะอ้างอิงข้อมูลความรู้จากความสำเร็จในการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) และไวรัสตับอักเสบซี (Hepatitis C)
เดวิด ดี. โฮ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์แอรอน ไดมอนด์ (ADARC) และศาสตราจารย์คณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฯ ซึ่งเป็นผู้นำความร่วมมือครั้งนี้ เผยว่าทั้ง 4 วิธีจะนำไปสู่การพัฒนายาหรือแอนติบอดีที่มีประสิทธิภาพต้านไวรัสโคโรนาที่พบในปัจจุบันและอนาคต“เรากำลังเร่งทำงานอย่างหนักตามสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 พร้อมกับคิดล่วงหน้าถึงสิ่งที่เราอาจเผชิญในอนาคตด้วย”
เดวิด ดี. โฮ เสริมว่าทีมนักวิจัยของมหาวิทยาลัยฯ คาดหวังจะนำตัวยับยั้งเอนไซม์โปรติเอส (protease inhibitor), ตัวยับยั้งพอลิเมอเอส (polymerase inhibitor) และโมโนโคลนอลแอนติบอดี (monoclonal antibody) อย่างละหนึ่งเข้าสู่การทดลองทางคลินิกภายในเวลาหนึ่งปี
ทั้งนี้ คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม และดำเนินการพัฒนายาและแอนติบอดี โดยอาศัยเงินทุน มูลค่า 2.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 66.25 ล้านบาท) จากมูลนิธิแจ็คหม่า (Jack Ma Foundation) ในจีน“เราขอขอบคุณมูลนิธิแจ็คหม่าอย่างสุดซึ้ง ที่ร่วมเป็นหุ้นส่วนและสนับสนุนการทำงานของนักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยฯ ซึ่งพยายามยับยั้งโรคระบาดที่กลายเป็นภัยคุกคามทั่วโลกอย่างรวดเร็ว” เดวิด ดี. โฮ กล่าวทิ้งท้าย

 

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เผยเหตุเพลิงไหม้จังหวัดนครนายกล่าสุดเพลิงเข้าถึงด้านหลัง รร.เตรียมทหารแล้ว แต่มั่นใจไม่ไหม้ตัวโรงเรียน เนื่องจากได้ทำแนวกันไฟป้องกันไว้แล้ว
พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงเหตุเพลิงไหม้บริเวณช่องยางแดง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ที่เพลิงได้ขยายวงกว้างเข้าเขตจังหวัดนครนายก ล่าสุดได้เข้าถึงด้านหลังโรงเรียนเตรียมทหารว่าเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวได้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยขณะนี้กองทัพ ได้บูรณาการสรรพกำลังจากทุกภาคส่วนเข้ามาช่วยดับไฟแล้ว โดยศูนย์การบินทหารบก ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ MI-17 จำนวน 2 ลำเข้ามาช่วยดับไฟ , กองทัพอากาศ ได้ส่งเครื่องบิน ซี-130 และ บีที-67 บรรทุกสารดับไฟขึ้นโปรยสารเคมี , กระทรวงมหาดไทย ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ KA-32 ตักน้ำดับไฟ และยังมีการระดมรถดับเพลิงในพื้นที่เข้ามาช่วยด้วย
ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้บางส่วน แต่เนื่องจากลมที่แรง ทำให้ไฟกระจายตัวมากขึ้น โดยขณะนี้เพลิงยังไม่เข้ามาถึงภายในตัวอาคารเรียน แต่อยู่ในส่วนของด้านหลังโรงเรียนเตรียมทหาร
สำหรับในส่วนของเพลิงที่เข้ามาใกล้บ้านพักภายในโรงเรียน ฯ คาดว่าจะสามารถสกัดเพลิงไว้ได้ เนื่องจากล่าสุดได้มีการนำรถแบคโฮไปขุดดินทำแนวกันไฟไว้แล้ว ส่วนเพลิงที่ไหม้จะสามารถดับได้ในคืนนี้หรือไม่ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้

 

นาซาเผยภาพน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็วบนเกาะแห่งหนึ่งที่ขั้วโลกใต้ จากอากาศร้อนเกือบ 20 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าร้อนที่สุดครั้งหนึ่งตั้งแต่มีการบันทึกมา!!

 

คู่สามีภรรยาอเมริกันผู้อพยพจากเรือ Diamond Princess เล่าว่าตอนที่รัฐบาลสหรัฐมารับนั้น
-พวกเขาใช้เวลาเดินทางเกือบ6ชมก่อนจะได้ขึ้นเครื่อง
4 ช.ม. เพื่อย้ายคนลงจากเรือ
20 นาทีไปสนามบิน
2 ช.ม. รอบน runway เพื่อขึ้นเครื่อง
บนรถมีทั้งคนไอ จาม และ อ้วก "เหมือนนั่งในจานเพาะเชื้อ" Kathy ที่เป็นพยาบาลบอก
-ไฟลท์ใช้เวลา10ช.ม.
บนเครื่องทุกคนหยิบอาหารเครื่องดื่มจากโต้ะเดียวกัน
มีบางคนไม่ได้ใส่หน้ากาก
ผลตรวจของบางคนบนเครื่องพบว่ามีเชื้อ แต่แยกกันด้วยผ้ากั้นแค่นั้น
ใช้ห้องน้ำเดียวกันหมด
-ตอนนี้ Kathy ยังถูกกักบริเวณเป็นครั้งที่2อยู่หลังกลับถึง US เพราะผลตรวจจากญี่ปุ่นพึ่งมาถึงและ Rick สามีตรวจเจอโรค (ข่าวลงวันที่ 21) ส่วน Kathy ถูกตรวจใหม่อีกครั้ง ถ้าไม่เจอเชื้อจะกลับบ้านได้เร็วๆนี้
https://sanfrancisco.cbslocal.com/2...y-couples-dream-cruise-into-quarantine-chaos/

 

อิตาลีประกาศมีผู้เสียชีวิตรายที่สองโดย coronavirus ในอาณาเขตของตนมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 40 ราย

 

#ตราด-ป่าเขาบรรทัดเสียหายหนัก ไฟป่ายังรุนแรงลามขยายวงกว้างขึ้น(คลิป)
#ไฟป่าตราด
https://www.77kaoded.com/content/1334038

 

สหรัฐอเมริกายืนยันว่ามีผู้ป่วย coronavirus 34 ราย และเตรียมความพร้อมสำหรับการระบาดใหญ่ที่อาจเกิดขึ้น
Estados Unidos confirma 34 casos de coronavirus y se prepara para una posible pandemia.

 

Tacna (เปรู) ในกรณีฉุกเฉิน
ถล่มเข้าสู่บ้านในเมือง

 

#เกาะติดสถานการณ์โคโรนาไวรัสในญี่ปุ่น 22 / 2 / 2020
#ข่าวร้อนในญี่ปุ่น #ทำงานที่บ้าน
ญี่ปุ่นเริ่มแล้ว NTT บอกให้พนักงานกว่า 2 แสนคนทำงานที่บ้าน เริ่มวันจันทร์นี้ !!
.
◾ วันนี้ 21 กุมภาพันธ์ 2020 บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น NTT บอกให้พนักงานกว่า 2 แสนคน ทำงานที่บ้าน หรือ เลี่ยงเวลาช่วง Rush hour ที่มีคนเดินหนาแน่นบนรถไฟ โดยเริ่มตั้งแต่วันจันทร์นี้เป็นต้นไป เพื่อปกป้องพนักงานบริษัท จากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนาที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นในขณะนี้
.
◾ โดยบริษัทได้ออกประกาศ ให้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ NTT Docomo และหน่วยงานระดับภูมิภาค กลุ่มทั้งหมดมีพนักงานประมาณ 200,000 คนทั่วประเทศญี่ปุ่น เนื่องด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นมากเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และเริ่มไม่รู้เส้นทางการติดเชื้อของโรคไวรัสโคโรนา ทำให้ผู้คนเริ่มวิตกกังวลกันมาก ทาง NTT ยังเรียกร้องให้ บริษัทลูก ใช้การประชุมทางไกล แทนการรวมกลุ่มใหญ่แล้วเช่นกัน
.
◾ บริษัทโทรคมนาคม Dwango ก็ได้สั่งให้พนักงาน 1,000 คนทำงานที่บ้านโดยเริ่มตั้งแต่วันจันทร์นี้แล้วเช่นกัน
.
◾ บริษัท รถทัวร์ ในโตเกียว เริ่มกำหนดให้พนักงานทุกคน ต้องสวมหน้ากากแล้ว หลังจากที่คนขับรถทัวร์ในจังหวัดนาราติดเชื้อไวรัสโคโรนา ช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา
.
◾ บริษัท JR East กำลังเร่งทำความสะอาดราวจับด้วยแอลกอฮอล์ และตั้งจุดให้บริการเจลทำความสะอาดมือ ตามสถานีโตเกียวและชิบุยะ
.
◾ บริษัท Keikyu ซึ่งให้บริการรถไฟด่วนจากสนามบินนานาชาติฮาเนดะไปยังกรุงโตเกียว ก็มอบผ้าเปียกสำหรับผู้โดยสารทุกคน
.
◾ เจแปนแอร์ไลน์ เริ่มทำการฆ่าเชื้อในเที่ยวบินจากประเทศจีน ด้วยแอลกอฮอล์ ขณะที่ห้างดังอย่าง "อิออน" ก็เริ่มเช็ดลูกบิดประตู ปุ่มลิฟต์ และพื้นผิวต่างๆ ด้วยแอลกอฮอล์แล้ว
.
◾ ขณะนี้มีคอนเสิร์ต และกิจกรรมต่างๆ ได้ถูกยกเลิกไปหลายงานแล้ว
.
#ญี่ปุ่น #ไวรัสโคโรนา #covid19
#ข่าวร้อนในญี่ปุ่น #ทำงานที่บ้าน
.
ขอบคุณที่มาของข่าวจาก https://s.nikkei.com/39D1lF

 

#ประกาศหยุดเทศกาลชมดอกซากูระที่เมกูโร่ | เนื่องจากการแพร่กระจายอย่างไม่หยุดหย่อนของไวรัสโควิด-19 (โคโรน่า) ทางผู้ว่าราชการประจำกรุงโตเกียว คุณยูริโกะ โคอิเคะ จึงได้มีการออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า ในปีนี้เทศกาลชมดอกซากูระที่บริเวณเขตเมกูโร่ หรือ นากะเมกูโร่ “มีความจำเป็นต้องยุติลงไปเพื่อความปลอดภัยของประชากร”
ทั้งนี้ทั้งนั้นยังมีอีกหลายอีเว้นท์ ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต อีเว้นท์งานกีฬาต่างๆที่ส่อแววว่าจะยุติลงไปอีกเช่นกัน การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดยังไม่มีวี่แววว่าจะลดลงแต่อย่างใด ดังนั้นทุกคนควรหลีกเลี่ยงการไปอยู่ในฝูงชนจำนวนมากครับ
สำหรับใครที่มีเพื่อน หรือญาติพี่น้องที่วางแผนจะมาชมดอกซากูระในปีนี้ ควรตรวจสอบล่วงหน้าอย่างละเอียดครับ ปีนี้ทุกอย่างอาจไม่สะดวกสบายอย่างที่คิด ด้วยความหวังดี
หากการเขียนมีข้อผิดพลาดประการใดแอดมินต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
อ้างอิง: สำนักข่าว(นิตเทเล) 日テレ ของประเทศญี่ปุ่น
แอดมิน: “โกเบ คุณากร/Kobe Khunakon”

 

ผู้โดยสารกดปุ่มฉุกเฉินรถไฟใต้ดินญี่ปุ่น เพราะ “มีคนไอไม่สวมหน้ากากอนามัย”
โดยสารบนรถไฟใต้ดินฟุคุโอกะ กดปุ่มฉุกเฉินแจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามีคนไอโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย เพราะเกรงกลัวเชื้อไวรัส COVID-19
ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้รถไฟล่าช้าไปกว่า ３นาทีและเป็นครั้งแรกที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น

 

ทิศทางของโรโรน่า คนสวย สัปดาห์หน้า
หนึ่ง อิหร่านจะระบาดหนักทุกเมือง ความพร้อมเรื่องหมอ อุปกรณ์ การขนย้ายต่ำ มีโรงพยาบาลเฉพาะทางแห่งเดียวที่เตหราน การขนย้ายผู้ป่วยจากเมืองต่างๆทำให้เขื้อกระจาย
สอง ตามดู การระบาดในตะวันออกกลาง และประเทศกลุมมุสลิม หนึ่งในสามของโลก
ยกเว้นสายรัสเซีย หนี
สาม อีกสองสัปดาห์อาฟริกาจะวุ่น
สี ตามดูการระบาดในจีน อาจปิดปักกิ่ง ปักกิ่ง Lock Down เพราะเกิดระบาดในโรงพยาบาลสองแห่งในใจกลางปักกิ่ง หน่วยราชการไทยในปักกิ่ง เตรียมครับ ห่วงนะ น้องๆ
ห้า สัญญานจากจีนมาแล้ว ว่าเอาไม่อยู่
ฮูเป่ยจะมีคนไข้เก่ามากขึ้น การป่วยครั้งที่สอง เชื้อจะโจมตีหัวใจ ตาย อัตราตายจะสูงขึ้น
การระบาดสู่กลุ่มที่หนาแน่น คุก ทหาร
ระบาดในที่ทำงาน จีนสั่งให้ทุกคนออกไปทำงาน มิฉนั้น จะลงโทษ แต่คนกลัว
คนป่วยมากขึ้น สร้างโรงพยาบาลอีก 19แห่ง สามหมื่นคน จะเอาหมอที่ไหน การใช้ยาจีนแสดงความขาดแคลนยา
ระวังการระบาดในโรงพยาบาลในมณทลต่างๆ คุก อาคาร สามสิบมณทล
อีกสามเดือนคนจะหมดเงิน เพราะกิจการปิดมานาน กิจการขนาดเล็ก 99%ของทั้งหมดจะแย่ คนแย่ด้วย
จีนเจอระบาด คนไม่มีเงิน ไม่มีสินค้า มีปัญหาเสถึยรภาพสังคม
หก เกาหลีจะระบาดหนัก เพราะโครงสร้างเมือง อาคาร
เหมียงดองของผม ร้านกาแฟของผมเป็นงัยบ้าง
โครงสร้างการแพทย์ไม่พร้อม แต่มีหมอความงามเยอะ
ฉีดโอท็อกใส่ไวรัสที่ปอดได้เลย
ตอนจะรักษาปอดอาจต้องให้หมอศัลย์รื้อนมปลอมออกก่อน
เจ็ด ญี่ปุ่น น่าจะรับมือไม่ไหว มีเตียงแ่1800 เตียง ชั้นดีน่าจะ200 เท่านั้น ระบบหมอญี่ปุ่นทำตัวเป็นคนชั้นสูงไม่ติดตินเหมือนหมอไทย จะตรวจไข้ต้องรอสี่วันจึงยอมตรวจ ระบาดไปไหนแล้ว คนไข้จะอาการหนัก
แปด อีกสองสัปดาห์ตามผลฮ่องกง สิงคโปร์
เก้า อเมริกาสั่งกักคน 7000 ตอนนี้มีปัญหาว่าเครื่องวัดไข้ใช้ไม่ได้ อ้อ เมกาลดการตั้งอุณหภูมิไข้ที่36.5*ผลการวิจัยแสนกว่าคน จะประกาศภัยคุกคามเร็วนี้ CDC อำนาจเต็ม เหมือนอนุทิน
สิบ อิตาลี่รับผลจากเรือเต็มๆ วันนี้สิบราย ตอนนี้สั่งปิดเมืองแล้ว สิบเมือง lock down เมืองน่ารักทั้งนั้น
เมืองสวยๆ ร้านกาแฟโปรดของผมตามเมืองต่างๆ โดนหมดเลย จะไปไหนได้
อยู่กับคนไทยนี่แหละ อบอุ่นมาก

 

สธ.เตือน ‘จัดกิจกรรม-ชุมนุมทางการเมือง’ หากเลี่ยงได้ควรเลี่ยง เหตุเพิ่มความเสี่ยง ‘โควิด-19’
สธ.เตือน หากไม่อยากเพิ่มความเสี่ยงโรคโควิด-19 อย่าจัดงานอีเวนท์และชุมนุม ชี้ไม่ใช่เวลาเหมาะ จะทำให้ไวรัสแพร่เชื้อได้ง่าย กิจกรรมบางอย่างหากชะลอได้ก็ควรชะลอไป พร้อมระบุสถานการณ์น่าห่วงในหลายประเทศ ล่าสุดพบอิตาลี แต่หากจำเป็นต้องจัดต้องมีการคัดกรองที่เข้มข้น
https://www.hfocus.org/content/2020/02/18555
#ไวรัสโคโรนา2019 #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #COVID19

 

เปิดข้อมูลช็อก! "ป้ามหาภัย" แห่งเมืองแทกู แค่คนเดียว แต่ทำเกาหลีใต้ยอดผู้ติดเชื้อ #โคโรนา พุ่งอันดับ 2 ของโลก

 

ยอดติดเชื้อพุ่ง อู่ฮั่นเตรียมสร้าง รพ.ชั่วคราวเพิ่มอีก19แห่ง
22 กุมภาพันธ์ 2563 - 08:06 น.

• 
  

อู่ฮั่นวางแผนเตรียมสร้างโรงพยาบาลชั่วคราวเพิ่มอีก 19 แห่ง เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ที่กำลังเพิ่มมากขึ้น

เมื่อวันศุกร์(21 ก.พ.) หน่วยงานท้องถิ่นเผยว่า นครอู่ฮั่นในมณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 (COVID-19) วางแผนที่จะสร้างโรงพยาบาลชั่วคราวเพิ่มอีก 19 แห่งเพื่อรองรับผู้ป่วยมากขึ้น
.
หูย่าโป รองนายกเทศมนตรีเมืองอู่ฮั่น กล่าวในงานแถลงข่าวว่าด้วยการป้องกันและควบคุมโรคระบาดว่า เมื่อโรงพยาบาลทั้ง 19 แห่งสร้างเสร็จสมบูรณ์ โรงพยาบาลชั่วคราวทั้งหมดในอู่ฮั่นจะสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 30,000 เตียง ในวันที่ 25 ก.พ.
.
รองนายกเทศมนตรีเมืองอู่ฮั่น ระบุต่ออีกว่า จนถึงปัจจุบัน อู่ฮั่นได้เปลี่ยนสถานที่ 13 แห่งให้กลายเป็นโรงพยาบาลชั่วคราว ที่รองรับผู้ป่วยได้ทั้งหมด 13,348 เตียง โดยเตียงราว 9,313 เตียงถูกใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย
.
โรงพยาบาลชั่วคราวทุกแห่งจะติดตั้งเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) และอุปกรณ์การแพทย์อื่นๆ เช่น เครื่องเฝ้าติดตามคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG Monitor) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาทางการแพทย์
.
บุคลากรทางการแพทย์ราว 72 ทีมจากภูมิภาคอื่นของจีนถูกส่งมาประจำยังโรงพยาบาลชั่วคราวเหล่านี้ เพื่อช่วยบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ทำการรักษาผู้ป่วยและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส
.
ทั้งนี้ จนถึงวันพฤหัสบดี(20 ก.พ.) เมืองอู่ฮั่น ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 มีผู้ป่วยที่ยืนยันผลทั้งหมด 45,346 ราย
-------------------------

ที่มา xinhuathai.com
.
https://www.komchadluek.net/news/regional/418305?sq=

 

สังหรณ์ใจมานานแล้วว่ามันมีกลิ่นที่ไม่ค่อยดีเกี่ยวกับ COVID-19 เพราะมันมีหลายอย่างที่ดูผิดปกติมากเช่น
1. เป็นเชื้อที่มีคุณสมบัติของ HIV นั้นคือการโจมตีระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้อ่อนแอโลก โดยนักวิทยาศาสตร์จะใช้ค่า เม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์ (Lymphocyte) เป็นเม็ดเลือดขาวที่ผลิตจากไขกระดูก เป็นตัวชี้วัดความแข่งเกร่งของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งหากระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ค่าเม็ดเลือดขาวก็จะลดลง ผลจากการตรวจสอบพบว่าผู้ป่วยโรค COVID-19 ส่วนใหญ่ (ประมาณ 60%) มีแนวโน้มที่ค่าเม็ดเลือดขาวจะลดลงสะท้อนให้เห็นว่าเชื้อตัวนี้มีฤทธิ๋ในการทำลายคล้ายกับเชื้อ HIV ยังไม่พอสามารถแพร่กระจายได้เหมือน SARS ซึ่งโอกาสที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ในธรรมชาติไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย
พูดง่ายๆคือ COVID-19 มันมีลักษณะของ HIV กับ SARS รวมกัน (อะไรจะบังเอิญได้ขนาดนั้น)
2. โดยปกติเชื้อโคโรน่าที่อยู่ในค้างคาวจะไม่แพร่มายังมนุษย์ เหมือนกับ HIV ในแมวก็จะไม่แพร่มายังมนุษย์เช่นเดียวกัน สาเหตุก็เพราะ S Protein ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับหนามที่งอกออกมาจากมงกุฎ โดยปกติจะไม่สามารถเกี่ยวกับเซลล์ในระบบทางเดินหายใจของมนุษย์ได้ แต่ปรากฏว่าด้วยเหตุผลบางประการ ซึ่งอาจจะเกิดจากขั้นตอนในการกลายพันธุ์ตามธรรมชาติ หรืออาจถูกใครบางคน "ตัดต่อพันธุกรรม" ตามที่มีนักวิทยาศาสตร์หลายท่านตั้งขอสังเกตุ ประเด็นคือ รหัสพันธุกรรมของ S Protein และ รหัสพันธุกรรมที่อยู่ใน RNA ของไวรัส ต้องมีรูปแบบที่เหมือนกัน
ข่าวลือที่ออกมาคือ รหัสพันธุกรรมใน S Protein กับ RNA ที่อยู่ในเชื้อ COVID-19 มันแตกต่างกัน! เรื่องนี้ต้องจับตามองไปเรื่อยๆ แต่ผมเชื่อว่านักวิชาการไทย สามารถตอบคำถามนี้ได้ว่าตกลงไอ้เชื้อตัวนี้มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือว่าถูกตัดแต่งมาจากห้องปฏิบัติการตามที่สื่อตะวันตกได้ตีข่าวนี้มาตลอด?
3. โดยปกติแล้วการที่เชื้่อไวรัสจะสามารถเข้าไปฝังตัวในร่างกายมนุษยได้จะต้องมี ACE2 หรือตัวรับ (Receptor) ที่สามารถจับตัวกับ ไกลโคลโปรตีน S Protein ซึ่งก็คือหนามที่งอกออกมาจากมงกฎของเชื้อไวรัส COVID-19 ได้ โดยปกติแล้วเชื้อ COVID-19 ที่อยู่ในค้างคาวจะไม่สามารถจับกับตัวรับ ACE2 แต่มีนักวิทยาศาสตร์จีนท่านหนึ่งชื่อ Shi Zhengli ซึ่งอยู่ที่ Wuhan Institute of Virology (WIV) ได้เผยแพร่บทความทางวิชาการตีพิมพ์ลงใน Nature และวารสารชั้นนำระดับโลกอีกมากมายแสดงให้เห็นว่าในทางเทคนิคได้ค้นพบความเชื่อมโยงระหว่าง ACE2 กับ S Protein ซึ่งคือกุญแจสำคัญในการแพร่เชื้อแบบข้ามสายพันธุ์มาตั้งแต่ปี 2013 แล้ว
คำถามคือตอนนี้ความพร้อมเราอยู่ในระดับไหน? แน่นอนผมมั่นใจว่าบุคลาการทางด้านสาธารณสุขเราเข้มแข็งมากและสามารถจัดการการแพร่ระบาดของโรคนี้ได้ดีแต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ไม่ควรประมาทก็คือ
1. ณ จุดนี้การยืนยันว่าผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อ COVID-19 หรือไม่ วิธีมาตรฐานที่ยอมรับกันในระดับสากลคือการใช้ Real Time PCR หรือเทคนิคในการสกัดเอา RNA จากไวรัสต้องสงสัยมา Copy และขยายจำนวนให้เพิ่มขึ้นซึ่งในอดีตใช้เวลาเป็นวัน ปัจจุบันสามารถลดระยะเวลามาเหลือแค่ 3-4 ชั่วโมง แต่ขนาดประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่น ซึี่งเป็นประเทศผู้ผลิตเครื่อง Real Time PCR ยังประสบกับปัญหา จำนวนเครื่องและนักเทคนิคที่จะมาวิเคราะห์หาเชื้อ COVID-19 ยังมีประมาณไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ป่วย 3,700 คนที่ติดอยู่บนเรือ Diamond Princess
2. ที่ร้ายกว่านั้นก็คือแม้ผลตรวจจะออกมาเป็น "ลบ" แต่หากตรวจซ้ำอีกครั้งที่ สาม หรือครั้งที่ สี่ ผลอาจเป็น "บวก" ก็ได้ ความหมายคือเชื้อ COVID-19 สามารถฝังตัวอยู่ในร่างกายและการรักษาที่ดูเหมือนว่าจะหายในตอนแรก มันอาจกลับมาได้อีกรอบ จากรายงานพบว่าใน 100 คนที่ติดเชื้อ COVID-19 มีแค่ 40 คนเท่านั้นที่แสดงผลเป็น "บวก" ที่เหลืออีก 60 คนแสดงผลเป็น "ลบ" ความหมายก็คือความแม่นยำในการตรวจวัดตอนนี้อยู่ที่ 40% เท่านั้น
3. อาจมีความจำเป็นที่ต้องการ Test Kit ง่ายๆที่ไม่ซับซ้อนสามารถตรวจหาเชื้อ COVID-19 ก่อนที่จะนำไปตรวจซ้ำโดย Real Time PCR ความหมายคือ หากใช้ Test Kit ตัวนี้ตรวจเจอเชื้อก็จบ ไม่ต้องไปทำต่อโดย PCR ให้สิ้นเปลืองเวลาและงบประมาณโดยใช้เหตุ กรณีนี้เหมาะมากกับการควบคุมมวลชนที่คาดว่าน่าจะเป็นพาหะของเชื้อตัวนี้
4. โรงพยาบาลที่จะรักษาผู้ป่วยต้องมีระบบ Isolation System ซึี่งส่วนใหญ่จะใช้ระบบ Negative Pressure Isolation Room กับ Positive Pressure Isolation Room ซึ่งโรงพยาบาลทุกแห่งใช่ว่าจะมีระบบ Isolation System ทุกแห่ง
สมมุติว่าเกิดการระบาดครั้งใหญ่ของ COVID-19 ในประเทศไทยตอนนี้เรามีเครื่อง Real Time PCR อยู่กี่เครื่องและจำนวนของนักเทคนิคการแพทย์เพียงพอต่อการตรวจวัดเชื้อที่อาจมีจำนวนพุ่งสูงขึ้นถึงหลักพัน หรือหลักหมื่นหรือไม่? แล้วตัว Test Kit ละมีการเตรียมพร้อมหรือยัง เหนือสิ่งอื่นใด ระบบ Isolation System ของโรงพยาบาลแต่ละแห่งมีความพร้อมมากน้อยเพียงใด
ที่เขียนเพราะด้วยความหวังดี และลึกๆก็เชื่อมั่นในความสามารถของบุคลากรด้านสาธารณสุขของไทยอยู่แล้ว แต่อย่างน้อยก็ไม่ควรประมาทเพราะอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น