ติดตามสถานะการณ์

*อัพเดทสถานการณ์ในมาเลเซียประจำวันที่ 5 เมษายน 2563*

1. ผู้ติดเชื้อสะสม 3,662 ราย (เพิ่ม 179 ราย) รักษาหายแล้วสะสม 1,005 ราย (เพิ่ม 90 ราย) เสียชีวิตสะสม 61 ราย (เพิ่ม 4 ราย)

2. รัฐบาลมาเลเซีย (ก. อุดมศึกษา) ประกาศงดให้นักศึกษาที่อยู่ในหอพักของมหาวิทยาลัยเดินทางกลับบ้านในช่วงที่มาตรการ MCO ยังมีผลใช้บังคับ

3. ในวันที่ 10 เมษายน 2563 กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียจะมีแถลงการณ์เกี่ยวกับความจำเป็นในการขยายมาตรการ MCO ออกไป (มาตรการปัจจุบันบังคับใช้ระหว่างวันที่ 18 มีนาคม - 15 เมษายน 2563) ทั้งนี้ การตัดสินใจขึ้นอยู่กับสถานการณ์และข้อเท็จจริง

4. รัฐบาลมาเลเซียเน้นย้ำให้ทุกคนในมาเลเซียปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด และพยายามรักษาระยะห่างระหว่างกัน (social-distancing) เมื่อต้องไปอยู่ในที่สาธารณะ

5. มาเลเซียประกาศพื้นที่อันตราย (red zone) เพิ่มเติมอีก 1 พื้นที่คือ Jerantut โดยในตอนนี้มีจำนวน red zone ที่มีผู้ป่วยมากกว่า 41 ราย/พื้นที่ ทั่วประเทศทั้งหมด 17 พื้นที่ ดังนี้
1. Petaling, Selangor
2. Lembah Pantai, KL
3. Hulu Langat, Selangor
4. Klang, Selangor
5. Gombak, Selangor
6. Seremban, Negeri Sembilan
7. Johor Bahru, Johor
8. Kluang, Johor
9. Kota Bharu, Kelantan
10. Kinta, Perak
11. Kepong, KL
12. Titiwangsa, KL
13. Hilir Perak, Perak
14. Tawau, Sabah
15. Kuching, Sarawak
16. Bahtu Pahat, Johor
17. Jerantut, Pahang

หากมีอัพเดทสถานการณ์เพิ่มเติม สถานเอกอัครราชทูตฯ จะมาแจ้งให้พี่น้องคนไทยทราบต่อไป

#เราจะสู้ไปด้วยกัน

 

ORIENTAL REVIEW
Putin And Trump vs The New World Order: The Final Battle
ปูตินและทรัมพ์ vs The New World Order ...ยกสุดท้าย

Written by Sylvain LAFOREST on 31/03/2020

เรากำลังอยู่ในยุค exciting times

สิ่งที่เรายังไม่รู้ที่อยู่เบื้องหน้าเรานั้น มันน่ากลัว จักรวรรดิ์ที่เคยรุ่งเรืองมาทุกยุคล้วนมีวันต้องสิ้นสุด และวันนี้ เรากำลังอยู่ในช่วงสุดท้ายของ New World Order ที่ไม่อาจฟื้นตัวได้อีกแล้ว ....ซึ่งที่ผ่านมามีแต่การแก้ปัญหาโดยใช้วิธีแบบเกม Russian roulette (เกมเสี่ยงที่มีกระสุนปืนหนึ่งนัดในลูกโม่ปืน) ...แต่ครั้งนี้ วลาดิเมียร์ ปูตินยื่นปืนที่มีกระสุนเต็มโม่มาให้เล่นเกม และมีการเหนี่ยวไกไปแล้วด้วย

หลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ทุกอย่างกำลังอยู่ในการรบครั้งสุดท้ายแล้ว

Dropping dollars

New World Order เป็นคอนเซ็ปท์หนึ่งของพวกนายแบ้งค์นานาชาติจำนวนไม่มาก ที่ต้องการปกครองโลกนี้ทั้งใบแบบเบ็ดเสร็จทั้งทางเศรษฐกิจและทางการเมืองในลักษณะของครอบครัวใหญ่

มันเริ่มมาตั้งแต่ปี 1773 โน่น ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาในช่วงหลายปีนั้น แต่คอนเซ็ปท์และวัตถุประสงค์ไม่เคยเปลี่ยนแม้แต่น้อย ...แต่มาตอนนี้โชคร้ายไปหน่อย หลังจากที่แบ้งเกอร์ทั้งหลายขูดรีดปล้นประชาชนมาตลอดผ่านอิทธิพลของเงินดอลล่าร์มาตั้งแต่ปี 1944 ..กำลังจะถูกตลบหลังด้วยเงินเฟ้อรุนแรง ..อันเนื่องมาจากการพิมพ์เงินที่เกิดขึ้นปีแล้วปีเล่า เพื่อการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแบบไร้เหตุผล และสร้างสงครามแย่งชิงน้ำมันและทรัพยากรอื่น ๆ

ตอนนี้ก็กำลังยืดเวลาการเกิดเงินเฟ้อรุนแรง ด้วยการโจมตีด้วยไวรัสไปยัง 4 ประเทศ (จีน อิหร่าน อิตาลีและสหรัฐ) เพื่อสร้างความตื่นกลัวในหมู่ชาวโลก ด้วยความร่วมมือของเหล่าสมุนสื่อกระแส ธุรกิจทั่วทั้งโลกหยุดไปหมด ถึงขั้นล้มละลาย ผู้คนตกงาน เงินดอลล่าร์สลายไปจากตลาดนับหลายล้านล้านดอลล่าร์ เพื่อลดแรงกดดันของสกุลเงินดอลล่าร์

Digging the abyss

พวกแบ้งเกอร์ตายใจมาตั้งแต่ปี 1991 หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตรัสเซีย เพราะดูเหมือนจะไม่มีอะไรมาหยุดพวกเขาได้อีกแล้ว ..เพียงแค่ทำลายบางประเทศในตะวันออกกลางและขยายดินแดนของอิสเรล และเข้าควบคุมตลาดน้ำมันของโลก แค่นี้ก็ครบถ้วนในสิ่งที่พวกเขาลงแรงมาเกือบศตวรรษ ตั้งแต่ตอนที่มีการประกาศ Balfour declaration (ก่อตั้งประเทศอิสเรล) ในปี 1917 โน่น

วลาดิเมียร์ ปูติน มีเพื่อนนักเศรษฐศาสตร์ผู้รักชาติ Sergey Glazyev ที่เกลียดชัง New World Order เป็นผู้สร้างความแข็งแกร่ง เป็นอิสระทางการเมืองและทางเศรษฐกิจให้กับปูติน ....แรกเริ่ม ปูตินใช้เวลาหลายปีในการกวาดล้างพวกมาเฟียผู้มีอำนาจนอกกฏหมาย ที่รัฐบาลก่อนหน้านั้นได้ปล่อยปละละเลยทิ้งเป็นภาระเอาไว้

ฝ่ายตรงข้ามได้มีการปล้นสดมภ์โลกนี้มากว่า 250 ปีโดยผ่านการยึดเป็นอาณานิคมด้วยกำลังทหาร ปูตินจึงต้องสร้างอำนาจทางทหารให้เหนือกว่า และเขาทำได้สำเร็จ มีระบบการป้องกันที่ดีที่สุดในโลก มีขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคที่ไม่อาจป้องกันได้ มีระบบอิเล็คโทรนิคแจมสัญญานและเครื่องบินรบที่ดีที่สุด ตามด้วยอาวุธนิวเคลียร์เช่น Sarmat, the Poseidon และ the Avangard

เขายังทำให้รัสเซียเป็นอิสระจากระบบแบ้งกิ้งของ NWO และไม่เพียงแต่มีชัยชนะในสงครามซีเรียเท่านั้น แต่เขายังได้แรงสนับสนุนจากเหล่าประเทศในกลุ่มของ NWO ที่มีการกลับลำกระทันหันหลังจากได้รับรู้ถึงอำนาจทางทหารของรัสเซีย ในทางการทูตก็มีจีนเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งทำให้มีอำนาจคุ้มครองเหล่าผู้ผลิตน้ำมัน

รัสเซียไม่ได้มีแค่ไพ่ดีในมือ ...แต่มีไพ่ทั้งสำรับในมือเลย

สรุปคือตอนนี้ปูตินเป็นผู้ควบคุมตลาดน้ำมันไว้หมดแล้ว ตลาดพลังงานซึ่งหล่อลื่นระบบเศรษฐกิจและการทหาร ในขณะที่ฝ่าย NATO ได้แต่นั่งดู ...ตอนนี้ NWO เหมือนปราสาททรายที่กำลังจะพังลง ระบบธนาคารของแบ้งเกอร์อาการหนักมาห้าปีแล้ว ตอนนี้อยู่ได้ด้วยมอร์ฟีน

Tragedy and hope

ตอนนี้คงไม่มีหวังที่จะเปิดสงครามโลกครั้งที่สาม ความหวังสุดท้ายจึงอยู่ที่การปล่อยไวรัสตามด้วยการกระพือข่าวจากสื่อกระแส เป็นการโฟกัสไปที่การไม่ให้เกิดเงินเฟ้อรุนแรงของเงินยูเอสดอลล่าร์ที่ไม่มีใครในโลกต้องการอีกแล้ว เป็นการยื้อเวลาเพื่อให้เกิดเงินคริปโตของตน ...พวกนี้ทำราวกับว่าแบ้งค์ทั้งหลายที่กำลังจะพังมีสิทธิ์ที่จะมาควบคุม money supply ของโลกอยู่อีก ทีแรกแผนก็ทำท่าจะเป็นไปได้ จนกระทั่งปูตินยื่นปืนที่มีกระสุนเต็มลูกโม่ให้ไปเล่น Russian roulette แบ้งเกอร์ก็เหนี่ยวไกทันที

ปูตินเรียกประชุมกลุ่มประเทศโอเปค และทำให้ราคาน้ำมันลดลงโดยปฏิเสธการลดการผลิตของรัสเซีย นั่นทำให้ราคาลงต่ำกว่า $30 ทันที ยุติราคาที่สูงลิ่วของฝ่ายตะวันตก ...Fed ต้องรีบอัดฉีดเงินเข้าตลาดเพื่อหลีกเลี่ยงหายนะยกสุดท้าย พวกแบ้งเกอร์หมดหนทางแล้ว

The punchline

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ทรัมพ์สามารถควบคุม Federal Reserve ไว้แล้ว โดยมีผู้แทน 2 คนจากกระทรวงการคลังสหรัฐ ในบรรดาข่าวร้าย ๆ ในเดือนที่ผ่านมา นี่เป็นข่าวดีที่สุดช้อค ...หลังจากสามปีในอำนาจ ทรัมพ์ก็สามารถทำตามที่สัญญาไว้ได้สำเร็จ ที่ว่าจะเอาบรรดาธนาคารเอกชนทั้งหลายออกจากระบบการเงินของทางการสหรัฐ ...ยุติการเข้ามามีอิทธิพลเหนือประชาชนอเมริกันมาตลอดหนึ่งศตวรรษ เขาได้ให้ Blackrock Investment Group เข้ามาจัดการกับทรัพย์สินของ Fed ...นั่นหมายความว่าเข้ามาจัดการกับเศรษฐกิจส่วนใหญ่ในนามของประเทศแทน

เป็นการทำให้เห็นแล้วว่า วลาดิเมียร์ ปูติน และโดนัลด์ ทรัมพ์มีการร่วมมือกันนำทางให้มนุษยชาติมาที่จุดตัดของ NWO และเสรีภาพแล้ว ....ผมคิดว่าโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ระหว่างปี 2020 - 2024 เพราะนี่จะเป็นช่วง 4 ปีสุดท้ายที่ทั้งสองจะอยู่ในอำนาจในฐานะผู้นำ

New World Order กำลังเผชิญหน้ากับสองชาติมหาอำนาจของโลก และโรคระบาดเฟคนี้เป็นตัวเปลี่ยน มันแสดงให้เห็นว่าพวกนายแบ้งค์ทั้งหลายกำลังสิ้นหวัง ซึ่งถ้าเราไม่ต้องการเห็นจรวดติดหัวรบนิวเคลียร์บินว่อนไปมาบนโลก ปูตินกับทรัมพ์ต้องรีบทำตั้งแต่ตอนนี้

ยกเลิก ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระว่างประเทศ (BIS) World Bank, IMF, European Centrl Bank, EU, NATO, ซะให้หมด .....ถึงแม้โลกจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็จะดีขึ้นมากเลย

Reposts are welcomed with the reference to ORIENTAL REVIEW.

Cr : Sayan Rujiramora

 

วีซ่านักเรียนวีซ่าชั่วคราว ⁉️⁉️⁉️
วันเสาร์ที่ 04 เมษายน 2563

Coronavirus และผู้ถือวีซ่าชั่วคราว
รัฐบาลกำลังทำการเปลี่ยนแปลงจำนวนมากในการจัดเตรียมผู้ถือวีซ่าชั่วคราวในช่วงวิกฤต coronavirus เพื่อปกป้องสุขภาพและความเป็นอยู่ของชาวออสเตรเลียสนับสนุนอุตสาหกรรมที่สำคัญและช่วยเหลือในการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของไวรัส

ปัจจุบันมีผู้คนจำนวน 2.17 ล้านคนในประเทศออสเตรเลียที่ถือวีซ่าชั่วคราว

ทุกคนได้รับการต้อนรับสู่ออสเตรเลียเป็นการชั่วคราวด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันรวมถึงเพื่อเติมทักษะการขาดแคลน เพื่อศึกษาในฐานะนักศึกษาต่างชาติที่จ่ายค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน เยี่ยมครอบครัวและเพื่อน; หรือไปทำงานและวันหยุด

พวกเขาเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจและสังคมของเรา ตัวอย่างเช่นมีผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีทักษะมากกว่า 8,000 คนในเรื่องวีซ่าชั่วคราวที่สนับสนุนระบบสุขภาพของเราในขณะนี้

ในขณะที่ประชาชนผู้อยู่อาศัยถาวรและชาวนิวซีแลนด์หลายคนสามารถเข้าถึงสิทธิในการทำงานที่ไม่มีเงื่อนไขและการจ่ายเงินของรัฐบาล (รวมถึงการจ่ายเงิน JobKeeper และ JobSeeker ใหม่) ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวจะไม่ทำเช่นนั้น

มีความคาดหวังเสมอว่าผู้ถือวีซ่าชั่วคราวจะสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในขณะที่อยู่ในออสเตรเลีย การเปลี่ยนแปลงที่ประกาศในวันนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่อาจหยุดงานหรือสูญเสียชั่วโมงการทำงานอันเป็นผลมาจาก coronavirus

เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับพลเมืองออสเตรเลียและผู้อยู่อาศัยถาวรผู้ถือวีซ่าชั่วคราวที่มีสิทธิ์ในการทำงานส่วนใหญ่จะสามารถเข้าถึงเงินบำนาญของออสเตรเลียเพื่อช่วยเหลือตัวเองในช่วงวิกฤตนี้

ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองภายใต้ข้อตกลงเหล่านี้ในอีกหกเดือนข้างหน้าได้รับการสนับสนุนอย่างยิ่งให้กลับบ้าน สำหรับบุคคลเหล่านี้ถึงเวลากลับบ้านและพวกเขาควรเตรียมการโดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงยังมุ่งสู่การทำให้ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวยังคงอยู่ในอุตสาหกรรมสำคัญ ๆ เช่นสุขภาพการดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการการเกษตรกรรมและการแปรรูปอาหาร

ที่สำคัญพวกเขาสามารถช่วยเพิ่มจำนวนสุขภาพแนวหน้ารับอาหารจากฟาร์มไปยังร้านค้าของเราและให้บริการที่สำคัญต่อไป

ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวมีคุณค่าอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจและวิถีชีวิตของออสเตรเลีย แต่ความจริงก็คือชาวออสเตรเลียจำนวนมากจะพบว่าตัวเองไม่ได้ทำงานเนื่องจากสุขภาพที่ดีและวิกฤตเศรษฐกิจที่เราเผชิญอยู่ในขณะนี้และชาวออสเตรเลียและผู้อยู่อาศัยถาวรเหล่านี้ ความสำคัญอันดับหนึ่งของรัฐบาล

การเปลี่ยนแปลงวีซ่า

มาตรการใหม่ต่อไปนี้จะใช้กับผู้ถือวีซ่าชั่วคราวประเภทใหญ่ ๆ สถานการณ์จะได้รับการตรวจสอบเป็นระยะและมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมหากจำเป็น

ผู้ถือวีซ่าท่องเที่ยว

มีผู้เข้าชมจากต่างประเทศ 203,000 คนในออสเตรเลียโดยปกติแล้วจะใช้วีซ่านานสามเดือนหรือน้อยกว่า

นักท่องเที่ยวต่างชาติควรกลับไปยังประเทศบ้านเกิดของตนโดยเร็วที่สุดโดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีการสนับสนุนจากครอบครัว

มีคนนับพันที่ทำสิ่งนี้อยู่แล้วและคนอื่น ๆ ควรทำตามการนำของพวกเขา

นักเรียนต่างชาติ

มีนักศึกษาต่างชาติจำนวน 565,000 คนในออสเตรเลียส่วนใหญ่กำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษาหรือภาคอาชีวศึกษา พวกเขาเป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญให้กับภาคการศึกษาระดับอุดมศึกษาและเศรษฐกิจของเราซึ่งสนับสนุนงานออสเตรเลีย 240,000 ตำแหน่ง

นักเรียนควรได้รับการสนับสนุนให้พึ่งพาการช่วยเหลือจากครอบครัวงานนอกเวลาที่มีอยู่และเงินออมของพวกเขาเองเพื่อค้ำจุนตนเองในออสเตรเลีย ในส่วนของการสมัครวีซ่านักเรียนต่างชาติต้องแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถช่วยเหลือตนเองได้อย่างสมบูรณ์ในปีแรก

นักเรียนที่อยู่ที่นี่นานกว่า 12 เดือนที่พบว่าตนเองมีปัญหาด้านการเงินจะสามารถเข้าถึงเงินบำนาญของออสเตรเลียได้

รัฐบาลจะมีส่วนร่วมกับภาคการศึกษานานาชาติต่อไปซึ่งให้การสนับสนุนทางการเงินแก่นักเรียนต่างชาติที่ประสบปัญหา ตัวอย่างเช่นเราเข้าใจว่ามีผู้ให้บริการการศึกษาบางรายที่ให้ส่วนลดค่าเล่าเรียนแก่นักศึกษาต่างชาติ

รัฐบาลจะมีความยืดหยุ่นในกรณีที่ Coronavirus ป้องกันไม่ให้นักเรียนต่างชาติปฏิบัติตามเงื่อนไขวีซ่า (เช่นไม่สามารถเข้าเรียนได้)

นักศึกษาต่างชาติสามารถทำงานได้มากถึง 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

นักเรียนต่างชาติที่ทำงานในการดูแลผู้สูงอายุและในขณะที่พยาบาลได้ขยายเวลาเหล่านี้เพื่อสนับสนุนภาคที่สำคัญเหล่านี้

นักศึกษาต่างชาติที่ทำงานในซุปเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ได้ขยายเวลาเหล่านี้เพื่อช่วยรับสต็อกสินค้าในช่วงที่มีความต้องการสูง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมชั่วโมงของพวกเขาจะกลับไปที่สูงสุด 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เนื่องจากมีชาวออสเตรเลียเข้ามารับบทบาทเหล่านี้มากขึ้น

ชาวนิวซีแลนด์ในวีซ่า 444

ชาวนิวซีแลนด์และชาวออสเตรเลียมีข้อตกลงร่วมกันซึ่งเราแต่ละคนสามารถพักอาศัยและทำงานในประเทศของกันและกันได้ มีชาวนิวซีแลนด์มากกว่า 672,000 คนในออสเตรเลียด้วยวีซ่าซับคลาส 444

ชาวนิวซีแลนด์ที่อยู่ในวีซ่า 444 คนและเดินทางมาถึงก่อนวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2544 จะได้รับเงินสวัสดิการและค่าตอบแทนคนงาน

ผู้ถือวีซ่า 444 คนที่เดินทางมาถึงหลังปี 2544 สามารถเข้าถึงการชำระเงินของผู้ดูแลได้ ผู้ที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลียเป็นเวลา 10 ปีขึ้นไปสามารถเข้าถึงการจ่ายเงิน JobSeeker เป็นเวลาหกเดือน

ชาวนิวซีแลนด์ควรพิจารณากลับสู่ประเทศนิวซีแลนด์หากพวกเขาไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ผ่านข้อกำหนดเหล่านี้การทำงานหรือการสนับสนุนจากครอบครัว

ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวที่มีทักษะ

มีผู้ถือวีซ่าชั่วคราวที่มีทักษะประมาณ 139,000 คนโดยมีวีซ่า 2 ปีหรือ 4 ปี พวกเขาได้รับวีซ่าเพื่อเติมทักษะการขาดแคลน - การขาดแคลนที่อาจยังคงอยู่เมื่อเกิดวิกฤต

ดังนั้นผู้ถือวีซ่าเหล่านั้นที่ยืนอยู่ แต่ไม่ได้ถูกปลดออกจากงานจะรักษาความถูกต้องของวีซ่าและธุรกิจต่างๆจะมีโอกาสที่จะขยายวีซ่าตามปกติ ธุรกิจจะสามารถลดจำนวนชั่วโมงของผู้ถือวีซ่าได้โดยไม่ต้องเป็นคนที่ฝ่าฝืนเงื่อนไขวีซ่าของพวกเขา

ผู้ถือวีซ่าเหล่านี้จะสามารถเข้าถึงเงินบำนาญได้สูงสุด $ 10,000 ในปีงบประมาณนี้

ผู้ถือวีซ่าที่ถูกเลิกจ้างเนื่องจาก coronavirus ควรออกจากประเทศตามเงื่อนไขวีซ่าที่มีอยู่หากพวกเขาไม่สามารถรับรองสปอนเซอร์ใหม่ได้ อย่างไรก็ตามหากผู้ถือวีซ่า 4 ปีได้รับการจ้างงานใหม่หลังจากการระบาดของโรคโคโรนาไวรัสเวลาที่ใช้ไปแล้วในออสเตรเลียจะถูกนับรวมกับข้อกำหนดประสบการณ์การทำงานที่มีถิ่นที่อยู่ถาวร

ผู้ทำงานวันหยุดสนับสนุนภาคที่สำคัญ

ในออสเตรเลียมีวีซ่าประเภท Working Holiday อยู่ประมาณ 118,000 คน (หรือ Backpacker Visa) ซึ่งเป็นวีซ่าที่ให้สิทธิทำงานตามเงื่อนไข

เพื่อสนับสนุนภาคส่วนที่สำคัญของการดูแลสุขภาพการดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการการเกษตรและการแปรรูปอาหารและการดูแลเด็กจะมีความยืดหยุ่นที่ จำกัด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานในช่วงวันหยุดที่ทำงานในภาคที่สำคัญเหล่านี้จะได้รับการยกเว้นจากข้อ จำกัด การทำงานหกเดือนกับนายจ้างคนหนึ่งและมีสิทธิ์ได้รับวีซ่าเพิ่มเติมเพื่อทำงานในภาคที่สำคัญเหล่านี้หากวีซ่าปัจจุบันของพวกเขาหมดอายุ หกเดือน.

โดยทั่วไปผู้ทำงานในช่วงวันหยุดที่ไม่มีความมั่นใจในการดำรงชีวิตในอีกหกเดือนข้างหน้าควรเตรียมการที่จะเดินทางออกนอกประเทศ

มีผู้ถือวีซ่าชั่วคราวรายอื่นอีก 185,000 คนในออสเตรเลียประมาณครึ่งหนึ่งเป็นผู้ถือวีซ่าชั่วคราวระดับบัณฑิตศึกษา พวกเขายังสามารถเข้าถึงบำนาญของออสเตรเลียได้หากต้องการความช่วยเหลือ

ประกาศเพิ่มเติมจะทำกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนภาคเกษตรรวมถึงการดำเนินงานของโปรแกรมผู้ทำงานตามฤดูกาลและโครงการแรงงานแปซิฟิก

 

“โบอิ้ง” ให้พนักงานสมัครใจลาออก
“เทสลา” ไล่พนง.คนนอกออกที่โรงงานแคลิฟอร์เนีย-เนวาดา
เซ่นวิกฤตโควิด-19

เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - ซีอีโอใหญ่บริษัทโบอิ้ง เดฟ คอลฮูน( Dave Calhoun) ออกมาเสนอแผนกู้วิกฤตโบอิ้งวันพฤหัสบดี(2 เม.ย)ให้พนักงานยอมสมัครใจลาออกเพื่อช่วยรักษาบริษัทหลังเกิดวิกฤตโรคโควิด-19 ระบาดทั่วโลก ย้ำคนที่ยอมสมัครใจได้แพ็กเกจเงินเดือนพร้อมผลประโยชน์ตอบแทน ด้านบริษัทเทสลาของอิลอน มัสก์แถลงวันศุกร์(3 เม.ย)สั่งปลดพนักงานคนนอกจำนวนรวม 1,600 คนจากโรงงานผลิตรถไฟฟ้าและโรงงานแบตเตอร์รีที่ตั้งในรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐเนวาดา

อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000035029

#ผลกระทบโควิด19 #boeing #โบอิ้ง #tesla #เทสลา

 

คาดมี 15 ล้านคนตกเกณฑ์ "เราไม่ทิ้งกัน"
รัฐให้กู้สูงสุด 1 หมื่นบาท คิดดอกเบี้ย 0.10% ผ่อน 24 เดือน
เริ่มลงทะเบียน 15 เม.ย.นี้

"ชาญกฤช เดชวิทักษ์" เผย จะมีผู้เดือดร้อนและหลุดเกณฑ์พิจารณาคุณสมบัติผู้ได้รับเงินชดเชยการว่างงานจาก "คลัง" เดือนละ 5 พันบาท เป็นเวลา 3 เดือน ราว 15 ล้านราย จะขอใช้บริการเงินกู้ฉุกเฉินจาก "ออมสิน-ธ.ก.ส." ที่กำลังจะเปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 15 เม.ย. 63 โดยผู้กู้ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป มีสัญชาติไทย ประกอบอาชีพอิสระ มีรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาทต่อเดือน การกู้ได้โดยไม่ต้องใช้หลักประกัน พร้อมเตือนประชาชนอย่าได้หลงเชื่อและให้ข้อมูลเลขที่บัตรประชาชน ข้อมูลการเงิน รหัสผ่าน และรหัส OTP แก่บุคคลอื่นผ่านทางโทรศัพท์และสื่อโซเชียลเด็ดขาด

อ่านต่อ>>https://mgronline.com/stockmarket/d...VRS3TJvyLfgRe6tDu02gCIE4jT5lRVvxEvaHMyiHzDsXQ

#ผู้ได้รับผลกระทบโควิด #เราไม่ทิ้งกัน #ลงทะเบียนกู้เงินแก้วิกฤตปากท้องประชาชน #โควิด19 #กักตัวอยู่บ้าน #เคอร์ฟิว #ปัญหาปากท้อง

 

มท.สั่งด่วนทุกจังหวัด เตรียมพร้อมยกระดับตามคำสั่ง ศบค.

5 เมษายน 2563

"มหาดไทย" สั่งการทุกจังหวัดเตรียมความพร้อมกำหนดมาตรการและดูแลประชาชน กรณีการยกระดับปฏิบัติการยับยั้งโควิด-19

เมื่อวันที่ 5 เม.ย.63 นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน


ในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดความปลอดภัยกับประชาชน

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเตรียมพร้อมดำเนินการ ในกรณีศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ยกระดับการปฏิบัติการ ได้แก่ 1) จัดเตรียมพื้นที่รองรับการกักกันตัวของจังหวัด (Local Quarantine) ให้มีความพร้อม โดยสามารถพิจารณาใช้พื้นที่ของภาคเอกชนได้ ทั้งในด้านการจัดทำเป็นสถานที่กักกันตัว โรงพยาบาลสนาม คลังเก็บอาหาร เครื่องดื่ม จุดรับบริจาค จุดประชาสัมพันธ์ให้ข่าว รวมทั้งกำหนดผู้ให้ข่าวที่ชัดเจน 2) ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนและทุกภาคส่วน ถึงความจำเป็นในการปฏิบัติการเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

โดยให้ประชาชนอยู่ในที่พำนัก ไม่เคลื่อนย้าย/เดินทาง อีกทั้งมอบหมายภารกิจหน้าที่แก่ส่วนราชการ/หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ปกครองท้องที่ ถึงภารกิจและแนวทางการปฏิบัติงาน ตลอดจนกำหนดแผนเผชิญเหตุและซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติให้มีความเข้าใจร่วมกัน 3) วางมาตรการควบคุมการกักตุนสินค้า โดยเชิญประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด 4) วางแผนจัดระบบการขนส่งสินค้า เครื่องอุปโภคบริโภค สิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน มีการกำหนดจุดบริการอาหาร เครื่องดื่ม เพื่อดูแลประชาชนถึงระดับหมู่บ้าน/ชุมชนให้ชัดเจน และกำหนดในแผนปฏิบัติการ

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัด ให้ดำเนินการบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนในการปฏิบัติการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไสรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อสวัสดิภาพ และชีวิตของพี่น้องประชาชนทุกคน



https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/874608

 

สัญญาณ บ่งชี้
เคอร์ฟิว 24 ชม.
จะตามมา เร็วๆ นี้ /
เริ่มจาก จังหวัด แพร่เชื้อ

 

จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกทม. แบ่งตามเขต

จากการสอบถามทาง ผอ. เขตสวนหลวง แจ้งว่าหากมีผู้ป่วยในพื้นที่ สามารถติดต่อทางเจ้าหน้าที่เขตสวนหลวง เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการควบคุมโรคต่อไปค่ะ

ที่มา สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล

 

5-4-63--- ภาพสถานะการณ์ในจีน ในปัจจุบันนี้ ในเมืองต่างๆ..ที่ไม่เหมือนเดิมในอดีต ก่อนเกิดไวรัสระบาด...

发布时间：2020-02-24 09:44:37 【编辑：李霈韵】

 

11 จังหวัด ที่ยังไม่มีรายงาน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19

วันที่ 5 เม.ย. 63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ไทยมีผู้ป่วยสะสม 2,067 ราย ผู้ป่วยรายใหม่ 102 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย

ผู้เสียชีวิตรายที่ รายที่ 1 เป็นชายไทย อายุ 46 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางกลับมาจากลอนดอนปปประเทศอังกฤษ มีไข้ 38.9 องศาฯ

รายที่ 2 ชาวสวิสฯ อายุ 82 ปี โรคประจำตัว- หัวใจ ความดันฯ ไขมันในเลือด ประวัติไปร่วมงานเลี้ยงในหมู่บ้าน บาร์ร้านอาหารที่สุขุมวิท

และรายที่ 3 ชายไทย อายุ 30 ปี อาชีพก่อสร้าง มีประวัติดื่มสุราเป็นประจำ ยอดรวมผู้เสียชีวิต 23 ราย ขณะที่ผู้เข้ารับการรักษาจนหายและกลับบ้านได้แล้ว 674 ราย

ส่วนจังหวัดที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ มีดังนี้

The post 11 จังหวัด ที่ยังไม่มีรายงาน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

คำชี้แจงของสถานทูตไทยในอินเดียเกี่ยวกับการเดินทางกลับไทยในกลุ่มไลน์ "ช่วยเหลือคนไทย COVID-19"
.
เนื่องจากมีหลายคนแชทเข้ามาว่าเจอปัญหาเรื่องการเข้ากลุ่มไลน์ของทางสถานทูตในอินเดีย ผมเลยจะพยายามนำเรื่องที่จนท.สถานทูตชี้แจงและบอกกล่าวในกลุ่มมาโพสต์ให้ได้บ่อยและถี่ที่สุดเพื่อให้คนไม่อยู่ในกลุ่มรู้ข่าวสารไปด้วย
.
"สวัสดีวันอาทิตย์ค่ะ
.
ทีมแอดมินฯ ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ช่วยเหลือกัน และช่วยตอบคำถามให้ ทั้งนี้ขอยืนยันว่า สถานทูตฯ ได้รับทราบถึงการไม่ได้รับความสะดวกในการดำเนินชีวิตในอินเดียได้ตามปกติ รวมทั้งไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยในช่วงนี้ตามความต้องการ เพราะมาตรการของทางการอินเดียและไทยในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
.
สถานทูตฯ ขอความร่วมมือคนไทยในอินเดียเข้าใจและอดทนต่อสถานการณ์ปัจจุบันในอินเดียและในไทย โดยขอให้ท่านปฏิบัติตามมาตรการท้องถิ่นและโปรดติดตามข่าวสารจากสถานทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ในอินเดียทั้งสามแห่งอย่างใกล้ชิด เพราะด้วยสติ ความสามัคคี และความอดทน เราจะก้าวข้ามสถานการณ์ COVID-19 ไปได้
.
สำหรับวันนี้ทีมแอดมินฯ ขออนุญาตเป็นการบอกเล่าว่าได้ทำอะไรกันบ้าง รวมทั้งตอบคำถามของสมาชิก ดังนี้
.
1. ข้อแนะนำให้สถานทูตฯ เปิดโอเพ่นแชท (openchat) เพื่อให้สามารถรองรับสมาชิกได้มากขึ้น
คำตอบ สถานทูตฯ ได้ดำเนินการเปิด openchat แล้ว แต่พบปัญหา คือ แอพพลิเคชั่นนี้ยังเปิดให้บริการเพียง 3 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และไทยเท่านั้น ซึ่งจะทำให้สมาชิกบางท่านสามารถเข้าร่วมกลุ่มได้หากการติดตั้งไลน์เป็นการดาวน์โหลดมาจากไทย (ไลน์เวอร์ชั่นไทย)
แต่กรณีเป็นไลน์เวอร์ชั่นอินเดียจะไม่สามารถเข้าร่วมติดตามข่าวสารในกลุ่ม openchat ได้ ซึ่งหากมีความคืบหน้า ทีมแอดมินฯ จะแจ้งให้รับทราบต่อไป
.
2. การเตรียมเอกสารในการเดินทางกลับไทย
คำตอบ เอกสาร 2 ฉบับ คือ
2.1 ใบรับรองแพทย์ หรือ ฟิตทูฟลาย (Fit to Fly) ติดต่อขอได้จาก โรงพยาบาล คลินิกใกล้บ้าน หรือที่อื่น ๆ ที่สะดวก

แต่...แต่..ขอให้ระมัดระวัง เพราะจะติดต่อขอเอกสารนี้ได้เมื่อเราทราบและมั่นใจว่าจะมีเที่ยวบินกลับแล้วแน่นอน เนื่องจากใบรับรองแพทย์ Fit to Fly ดังกล่าวต้องมีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมง (ภายใน 3 วันก่อนเดินทางเท่านั้น) เช่น หากเราจะบินกลับในวันพุธ เราควรจะติดต่อขอใบรับรองแพทย์ ระหว่างวันจันทร์ หรือ อังคาร เป็นต้น

2.2 ใบรับรองจากสถานทูตหรือสถานกงสุลไทยในต่างประเทศเพื่อยืนยันตัวตน
คำตอบ สามารถกรอกคำร้องได้โดยตรงผ่านแบบฟอร์มออนไลน์ในเว็บไซต์ http://dcaregistration.mfa.go.th

แต่..แต่..ปัจจุบันระบบลงทะเบียนขอใบรับรองได้ปิดเป็นการชั่วคราว จนถึงวันที่ 15 เมษายน 2563 หรือจนกว่ามีการแจ้งเปลี่ยนแปลง เนื่องจากรัฐบาลได้ขอความร่วมมือจากคนไทยในต่างประเทศให้ชะลอการเดินทางกลับในระหว่างนี้และมีความเข้าใจต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ภายในประเทศของเรา
.
3. การลงทะเบียนข้อมูลคนไทยในอินเดีย
คำตอบ สถานทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ฯ ยังต้องการข้อมูลคนไทยที่ตกค้างหรือพำนักอยู่ในอินเดีย เพื่อจะได้รวบรวมข้อมูลแหล่งพักของคนไทยตามเมืองต่าง ๆ ในการนำมาใช้ในการวางแผนการให้ความช่วยเหลือแก่คนไทยให้ทั่วถึง โดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ ความต้องการ และความเหมาะสม

คนไทยที่ยังมิได้ลงทะเบียน สามารถเข้าไปกรอกข้อมูลในแบบลงทะเบียนข้อมูลคนไทยที่กำลังเดินทาง/พำนักในสาธารณรัฐอินเดีย ตาม Link
https://www.cognitoforms.com/RoyalT...mForThaiNationalsTravelingToOrResidingInIndia"
.
ฉะนั้นหมายความว่าแม้อินเดียจะเปิดการบินในวันที่ 14 เมษายน แต่การขอใบรับรองจากทางสถานทูตยังปิดอยู่จนถึงวันที่ 15 หมายความการเดินทางกลับประเทศไทยอาจทำได้เร็วที่สุดคือวันที่ 15 นะครับ ไม่ใช่วันที่ 14 เพราะเรายังต้องทำตามมาตรการของทางการไทยด้วย (ยกเว้นระบบกลับมาเปิดก่อนวันที่ 14 ก็อาจจะทำให้เดินทางกลับได้ในวันที่อินเดียเปิดสนามบิน)
.
ยังไงก็ติดตามข้อมูลกันอย่างใกล้ชิดนะครับ
.
ปล. ผมอยากให้ใครที่อยู่ในกลุ่มไม่ว่าจะของสถานทูต หรือสถานกงสุลใด ๆช่วยแปะลิงค์ หรือคิวอาโค้ดไว้หน่อยได้ไหมครับ เพื่อมีผู้ตกหล่นไม่ได้อยู่ในกลุ่มจะได้จอยเข้ากลุ่มไปได้ เพราะแอดเองไม่ได้อยู่ครับเพื่อให้คนอื่น

 

นิวยอร์กได้รับ “เครื่องช่วยหายใจ” จากจีนบริจาคให้ 1,000 เครื่อง

แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ เปิดเผยว่าเครื่องช่วยหายใจที่จีนบริจาคให้ จำนวน 1,000 เครื่อง ถูกส่งมาถึงนครนิวยอร์กแล้วในวันเสาร์ (4 เม.ย.) ที่ผ่านมา

“ในที่สุดวันนี้เราก็ได้รับข่าวดี” คูโอโมโพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์เมื่อวันเสาร์ (4 เม.ย.) “รัฐบาลจีนได้บริจาคเครื่องช่วยหายใจให้เรา 1,000 เครื่อง ซึ่งถูกส่งมาถึงท่าอากาศยานเจเอฟเคแล้วในวันนี้”

คูโอโมแสดงความขอบคุณบรรดานักธุรกิจชาวจีน โดยเฉพาะแจ็ค หม่า และโจ ไช่ ผู้ร่วมก่อตั้งอาลีบาบา รวมถึงมูลนิธิอาลีบาบา และมูลนิธิโจแอนด์คลารา ขณะเดียวกันเขายังขอบคุณหวงผิง กงสุลใหญ่จีนประจำนิวยอร์ก สำหรับความช่วยเหลือที่ทำให้การบริจาคครั้งนี้เกิดขึ้นมาได้

“นี่เป็นการบริจาคครั้งใหญ่และจะสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญให้พวกเรา” คูโอโมกล่าว พร้อมเสริมว่าการบริจาคครั้งนี้เป็นความช่วยเหลือที่เกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากรัฐนิวยอร์กกำลังจะขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจในอีกไม่ถึงสัปดาห์

ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ (3 เม.ย.) คูโอโมได้ลงนามคำสั่งพิเศษที่อนุญาตให้รัฐสามารถนำเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) จากสถาบันต่างๆ ที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้ในเวลานี้มาใช้ก่อนและแจกจ่ายไปยังสถานที่ที่จำเป็นต้องใช้มากที่สุด

รัฐนิวยอร์กตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวม 114,174 ราย และผู้เสียชีวิต 3,565 ราย เมื่อนับถึงเช้าวันเสาร์ (4 เม.ย.) ซึ่งนับเป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตมากที่สุดในสหรัฐฯ

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

ข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาด “กาฬโรคในม้า” (AHS)
• รู้หรือไม่? เป็นไวรัสที่ไม่มียา มีแต่วัคซีน!!
• ข้อควรทราบเกี่ยวกับวัคซีน
• ข้อควรปฏิบัติในการป้องกันโรค AHS
• ตอนนี้! เคลื่อนย้ายม้า ผิดกฏหมาย

#savehorses #africanhorsesickness #TEF

 

Setiawan

เรอูนียง, ฝรั่งเศส - ลาวาไหลลงมาจากภูเขาไฟ #PitondelaFournaise บนเกาะ French ในมหาสมุทรอินเดีย 5 เมษายน 2563

Réunion, France - Lava flows down the #PitondelaFournaise volcano on the French island in the Indian Ocean. April5 2020

 

COVID-19:”ดูไบ”ประกาศ เคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 2 สัปดาห์สถานกงสุลใหญ่เมืองดูไบ U.A.E แจ้งคนไทยในดูไบ ปฏิบัติตามกฏหมาย

เพจ คนไทยใน U.A.E.เผยแพร่ ข้อความจาก สถานกงสุลใหญ่เมืองดูไบ แจ้งคนไทยในดูไบทราบว่า ดูไบประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ขอให้ทุกคนอยู่บ้าน #STAYHOME

นับตั้งแต่เวลา 20.00 น. ของวันที่ 4 เมษายน 2563 เป็นเวลา 2 สัปดาห์ (และอาจมีการพิจารณาขยายเวลาออกไปอีก)

คณะกรรมการสูงสุดด้านการบริหารจัดการวิกฤตการณ์และภัยพิบัติเมืองดูไบ (Supreme Committee of Crisis and Disaster Management) ได้ประกาศว่าจะดำเนินมาตรการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในทุกพื้นที่ในเมืองดูไบตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจะมีการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ในบริเวณที่มีผู้อยู่อาศัยหนาแน่น

ในช่วงเวลาดังกล่าว บุคคลทั่วไปจะสามารถเดินทางออกจากที่พักอาศัยได้เฉพาะเมื่อมีเหตุจำเป็น โดยควรสวมหน้ากากและถุงมือ รวมถึงรักษาระยะห่างระหว่างกัน และบุคคลที่ฝ่าฝืนมาตรการดังกล่าวจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งเหตุจำเป็นมีดังนี้

1. เพื่อซื้ออาหารจากสถานที่ขายอาหาร เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายของชำ โดยอนุญาตให้เพียง 1 คนต่อครัวเรือนเดินทางออกจากบ้านเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว

2. เพื่อซื้อยาหรือเพื่อรับการรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาล คลินิก และร้านขายยา

3. เพื่อรับการตรวจหาเชื้อ COVID-19

4. บุคคลที่ประกอบอาชีพตามด้านล่างนี้ได้รับการยกเว้นให้สามารถเดินทางออกจากที่พักอาศัยได้ แบ่งเป็น 2 กลุ่มบุคคล ดังนี้

4.1 บุคคลที่ได้รับยกเว้นให้สามารถเดินทางออกจากที่พักอาศัยได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- ผู้ให้บริการสุขภาพในโรงพยาบาล คลินิก และร้านขายยา
- ผู้ให้บริการด้านอาหารในซุปเปอร์มาเก็ตและร้านขายของชำ
- ผู้ให้บริการขนส่งอาหารและยา
- ผู้ประกอบอาชีพในร้านอาหาร (อนุญาตเฉพาะเพื่อส่งอาหารตามที่พักอาศัยเท่านั้น)
- ผู้ผลิตยาและเวชภัณฑ์
- ผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการประปา การไฟฟ้า สถานีให้บริการน้ำมัน และระบบทำความเย็น
- ผู้ประกอบอาชีพในท่าอากาศยาน สายการบิน ท่าเรือ และการขนส่งทางเรือ
- เจ้าหน้าที่ศุลกากรและด่านตรวจคนเข้าเมือง
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของรัฐและเอกชน
- เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเก็บขยะ การบริหารจัดการของเสีย และการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ
- เจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนขององค์กรที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการเชื้อ COVID-19
- ผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการขนส่งสาธารณะ เฉพาะรถประจำทางและแท็กซี่ (รถไฟฟ้าและรถรางระงับการให้บริการในช่วงเวลานี้)
- ผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการก่อสร้าง ซึ่งต้องขอรับใบอนุญาตจากเทศบาลเมืองดูไบและคณะกรรมการถาวรด้านแรงงานก่อน

4.2 บุคคลที่ได้รับยกเว้นให้สามารถเดินทางระหว่างที่พักอาศัยและที่ทำงานได้เฉพาะระหว่างเวลา 8.00 - 14.00 น.
- ธนาคารและผู้ให้บริการด้านการเงิน เช่น ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตรา
- นักสังคมสงเคราะห์
- ผู้ให้บริการซักรีดเสื้อผ้าที่ได้รับอนุญาต
- ผู้ให้บริการบำรุงรักษา

#สำหรับท่านที่มีความจำเป็นก่อนออกนอกบ้าน

อย่าลืมลงทะเบียนที่www.move.gov.ae

เพราะอาจถูกปรับ2,000 ดิแรมห์
ถึงแม้จะอยู่นอกเคอร์ฟิว

ต้องแจ้งความจำเป็นก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง

พร้อมลงทะเบียน รถที่จะนำออกไปด้วย

https://mediaoffice.ae/news/2020/Apirl/04-04/Dubai-to-conduct-round-the-clock-sterilisation

ที่มาภาพ: Dubai Media Office.

#TheReporters #โควิด19 #COVID19 #โควิด19

 

‘ภูเก็ต’ ปูพรมค้นหาผู้สัมผัสเชื้อโควิด-19 เชิงรุก มั่นใจสิ้นเดือน เม.ย.นี้ ผู้ป่วยไม่ถึง 700 ราย

ผู้ตรวจราชการ สธ. เขต 11 เผยมาตรการเชิงรุก จ.ภูเก็ต เดินหน้าปูพรมค้นหาผู้สัมผัสเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มั่นใจปลายเดือน เม.ย.นี้ ตัวเลขไม่ถึง 700 ราย ด้าน สปสช.สนับสนุนงบประมาณ-การดำเนินงานเต็มที่

https://www.hfocus.org/content/2020/04/18888

#โคโรนาไวรัส #โรคระบาด #COVID19 #โควิด19เราต้องรอด #โควิด19 #อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ #ตรวจโควิด #ภูเก็ต

 

กรมทางหลวงขานรับมาตรการเคอร์ฟิว ประกาศปิดบริการมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 และมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ชั่วคราว ตั้งแต่เวลา 22.00 น. - 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น พร้อมระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ตรวจเข้ม คัดกรองรถ เพื่อช่วยชะลอการแพร่ระบาด COVID – 19
.
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว ระหว่างเวลา 22.00 น.- 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่คืนวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID - 19) กระทรวงคมนาคมจึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด พร้อมกำหนดมาตรการต่างๆ ให้สอดคล้องกับประกาศดังกล่าว
.
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า กรมทางหลวงได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยปิดการจราจรบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ทั้ง 2 สายทางบางส่วนชั่วคราว ได้แก่ มอเตอร์เวย์หมายเลข 7 กรุงเทพฯ – ชลบุรี - พัทยา และมอเตอร์เวย์ หมายเลข 9 ช่วงบางปะอิน - บางพลี และช่วงสุขสวัสดิ์ - บางขุนเทียน ตั้งแต่เวลา 22.00 น.- 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่คืนวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ยกเว้นยานพาหนะที่ได้รับอนุญาตผ่านทางในช่วงเวลาเคอร์ฟิว โดยเปิดให้ใช้บริการเฉพาะช่องเงินสด
.
สถานการณ์ภาพรวมหลังจากที่เริ่มใช้มาตรการเคอร์ฟิว พบว่าปริมาณรถที่วิ่งผ่านแต่ละด่านน้อยมาก โดยกรมทางหลวงได้จัดกำลังเจ้าหน้าปฏิบัติงานร่วมกับตำรวจทางหลวง ในการตั้งจุดคัดกรองบริเวณด่านเก็บ ค่าผ่านทางต่างๆ ตั้งแต่เวลา 22.00 น. พร้อมทั้งยังได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเหตุการณ์ผ่านระบบกล้อง CCTV ตลอดสายทาง และจัดให้มีการแจ้งเตือนผู้ใช้ทางเกี่ยวกับการปิดการให้บริการผ่านสื่อต่างๆ และป้าย VMS บนเส้นทางอีกด้วย
.
อย่างไรก็ตาม สำหรับรถที่ได้รับอนุญาตตามข้อกำหนด เช่น รถขนส่งสินค้า อุปโภคบริโภค รถขนเวชภัณฑ์ เครื่องมือทางการแพทย์ รถขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง รถขนส่งผลผลิตทางการเกษตร รถขนส่งผู้โดยสารไปกลับสนามบิน และรถที่ได้รับอนุญาตอื่นๆ รวมถึงรถฉุกเฉิน รถพยาบาลของเจ้าหน้าที่ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่บริเวณด่านเก็บเงิน ค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ เพื่อขออนุญาตใช้เส้นทางเป็นกรณีไป ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนมอเตอร์เวย์ 1586 กด 7 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

เชียงใหม่ กำลังเจอความท้าทาย หลายด้าน /โดย ลงทุนแมน
ปี 2562 เชียงใหม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวนถึง 10.3 ล้านคน มีรายได้จากการท่องเที่ยว 102,300 ล้านบาท

แต่ตอนนี้ COVID-19 กำลังส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในหลายจังหวัดของประเทศไทย รวมทั้งเชียงใหม่

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเชียงใหม่อาจจะบอบช้ำกว่าที่อื่นตรงที่นอกจาก COVID-19 เชียงใหม่ยังต้องเจอกับมลพิษจาก PM2.5 จนทำให้ที่นี่กลายเป็นเมืองที่มีค่า PM2.5 สูงที่สุดในโลก..

เชียงใหม่กำลังเจอความท้าทายมากแค่ไหน
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เชียงใหม่คือ หนึ่งในจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานของประเทศไทย เนื่องจากเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรล้านนาไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 1839 หรือเมื่อ 724 ปีที่แล้ว โดยมีชื่อเดิม คือ นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่

ปัจจุบัน เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เท่ากับ 20,107 ตารางกิโลเมตร ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศไทย เป็นรองจากนครราชสีมา

เชียงใหม่ยังเป็น 1 ใน 22 เมืองหลักของไทย เป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องการท่องเที่ยวและเป็นที่นิยมของทั้งของชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศที่เย็นสบาย มีศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน รวมทั้งอาหารการกินที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ

ในปี พ.ศ. 2558 เชียงใหม่เคยได้รับรางวัลด้านการท่องเที่ยว ชื่อ Best Destination จากการเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน

ปัจจุบัน เชียงใหม่มีจำนวนประชากร 1.7 ล้านคน โดยรายได้เฉลี่ยต่อหัวของคนเชียงใหม่ต่อปีเท่ากับ 136,000 บาท

และแน่นอนว่า พอพูดถึงเชียงใหม่ในวันนี้ อุตสาหกรรมที่มีบทบาทมากที่สุดก็หนีไม่พ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

ในปี 2560 มูลค่าเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่เท่ากับ 231,726 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้จากการท่องเที่ยว ประมาณ 43% ของมูลค่าเศรษฐกิจของทั้งจังหวัด

ดูแบบนี้แล้วแทบไม่ต้องสงสัยว่าเศรษฐกิจของเชียงใหม่พึ่งพากับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมากแค่ไหน

แต่หนึ่งในปัญหาที่กระทบกับการท่องเที่ยวของเชียงใหม่คือ ปัญหาหมอกควันและมลพิษ ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำมาหลายปี

รู้ไหมว่า ต้นปี 2563 ค่า PM2.5 ของเชียงใหม่ที่ช่วงหนึ่งเคยพุ่งขึ้นไปสูงถึง 275 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีค่า PM สูงที่สุดในโลก ซึ่งสาเหตุหลักเกิดมาจากการลักลอบเผาป่า

แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่กระทบการท่องเที่ยว แต่ยังรวมถึงสุขภาพของคนในจังหวัดเชียงใหม่ด้วย

โดยในปี 2561 ผลกระทบจากเรื่องของ PM2.5 สร้างความเสียหายให้แก่เชียงใหม่มูลค่ากว่า 48,400 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม นอกจากปัญหาหมอกควันที่เชียงใหม่ต้องเจอทุกปีแล้ว

ตอนนี้เชียงใหม่กำลังเจอผลกระทบจาก COVID-19 เหมือนในจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ ของไทยจนทำให้ตอนนี้ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากนักท่องเที่ยวที่มาเชียงใหม่กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง

2 เดือนแรกปี 2562 จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ 2.08 ล้านคน รายได้จากการท่องเที่ยว 22,200 ล้านบาท

2 เดือนแรกปี 2563 จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ 1.74 ล้านคน รายได้จากการท่องเที่ยว 18,150 ล้านบาท

จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงไป 16% ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวหายไป 18%

แต่นี่เป็นแค่ตัวเลข 2 เดือนแรก เพราะตั้งแต่เดือน 3 เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะหายไปหมดจนแทบจะเป็นศูนย์

ลำพังเจอเพียงปัญหาเดียวก็แย่อยู่แล้ว ตอนนี้เมื่อทั้ง 2 ปัญหามารุมเร้า ทำให้หลายธุรกิจในจังหวัดเชียงใหม่ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร หรือแม้แต่รถโดยสารสาธารณะ กำลังขาดแคลนรายได้ เพราะจำนวนคนมาใช้บริการลดลง

หลายธุรกิจกำลังส่อแววว่าจะไปไม่รอด เนื่องจากไม่มีรายได้มาใช้จ่ายในกิจการ จนบางแห่งต้องหยุดกิจการและปลดคนงาน

ก็น่าคิดว่า ถ้าผลกระทบจากมลพิษ PM2.5 และ COVID-19 ยังลากยาวและดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เชียงใหม่จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้มากแค่ไหน

จากเมืองที่เคยเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ
มาตอนนี้เชียงใหม่กำลังบอบช้ำจากปัญหาต่างๆ ที่กล่าวมา

เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และความร่วมมือจากทุกคนที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหา

เพื่อทำให้เชียงใหม่ของคนไทยทุกคนกลับมา
เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวอยากเดินทางมาเยี่ยมเยือนอีกครั้ง..
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.mots.go.th/more_news_new.php?cid=525
-http://stat.dopa.go.th/stat/statnew/upstat_age_disp.php
-https://www.bbc.com/thai/47534868
-https://www.prachachat.net/local-economy/news-308189
-http://www.chiangmai.go.th/managing/public/D8/8D01Feb2017150134.pdf

 

https://www.sanook.com/news/8072530/