ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เช็กเลย เอกสารอะไรบ้างในร่างกฎกระทรวง 5 ฉบับ ได้ยกเว้น-ลดค่าธรรมเนียม
    ครม. มติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงมหาดไทย 5 ฉบับ ยกเว้นและลดค่าธรรมเนียม บัตรประชาชน - เอกสาร - หนังสือสำคัญ ช่วยคนสัญชาติไทยประสบภัยหรือได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กรณีศึกษา Grammarly โปรแกรมตรวจไวยากรณ์ ภาษาอังกฤษ /โดย ลงทุนแมน
    มนุษย์ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการสื่อสารไปอย่างสิ้นเชิงโดยไม่รู้ตัว
    จากที่เคยพูดและเขียน เป็นส่วนใหญ่ของชีวิต
    ในวันนี้ ถ้าถามว่ามนุษย์สื่อสารในรูปแบบไหนมากที่สุด
    สิ่งนั้นน่าจะเป็น “การพิมพ์ตัวหนังสือ”

    เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า
    ทุกวันนี้ สมาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์ ได้กลายเป็นเสมือนปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์
    ทั้งแช็ตข้อความ, เล่นโซเชียลมีเดีย, ค้นหาข้อมูล หรือทำงาน

    แต่ปัญหาที่กลับพบได้บ่อยคือ การพิมพ์ผิด จนสื่อความหมายออกไปไม่ถูกต้อง
    ทำให้โปรแกรมตรวจสอบไวยากรณ์ภาษาอังกฤษชื่อว่า “Grammarly” ได้รับความนิยม จนธุรกิจมีมูลค่าสูงถึง 3 หมื่นล้านบาท

    นอกจากให้คำแนะนำเรื่องภาษาแล้ว
    Grammarly ยังเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจในแง่ของธุรกิจอย่างไร
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
    มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
    Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    Grammarly เป็นสตาร์ตอัปจากประเทศยูเครน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2009 หรือ 11 ปีที่แล้ว
    โดยกลุ่มเพื่อน 3 คน คือ คุณ Alex Shevchenko, Max Lytvyn และ Dmytro Lider

    บริษัททำธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์ สำหรับตรวจและแก้ไขไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ รวมทั้งยังสามารถเช็กการคัดลอกผลงานได้อีกด้วย

    แต่ฟีเจอร์ที่โดดเด่นกว่าโปรแกรมอื่น
    คือการใช้อัลกอริทึม AI (Artificial Intelligence) เรียนรู้คำศัพท์ วลี และประโยคต่างๆ
    แล้วมาประมวลผล เพื่อแนะนำรูปแบบการเขียนที่ถูกต้องเหมาะสมให้

    ซึ่งที่ผ่านมา Grammarly มีจำนวนผู้ใช้งานประจำ หรือ Active Users เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
    ปี 2015 อยู่ที่ 1 ล้านรายต่อวัน
    ปี 2017 อยู่ที่ 7 ล้านรายต่อวัน
    ปี 2019 อยู่ที่ 20 ล้านรายต่อวัน

    ด้วยเหตุนี้ ในการระดมทุนรอบล่าสุดเมื่อปี 2019 บริษัทจึงถูกประเมินมูลค่าธุรกิจเอาไว้ที่ 31,300 ล้านบาท
    ถือเป็นสตาร์ตอัปยูนิคอร์นแห่งแรกของประเทศยูเครน

    แต่กว่าจะประสบความสําเร็จระดับนี้ได้ บริษัทต้องผ่านการปรับตัวมาตลอด..

    ในอดีต ผู้ร่วมก่อตั้ง เคยสร้างซอฟต์แวร์ตรวจเช็กไวยากรณ์มาก่อน ชื่อว่า MyDropbox โดยขายให้กับมหาวิทยาลัยได้ถึง 800 แห่ง ครอบคลุมนักเรียนกว่า 2 ล้านคน

    อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับพบว่า การออกแบบโปรแกรมสำหรับลูกค้าสถาบันการศึกษาเพียงกลุ่มเดียว ค่อนข้างจำกัดศักยภาพทางธุรกิจ จึงได้ตัดสินใจขายกิจการไป

    เพราะจริงๆ แล้ว คนทั่วไปก็ต้องการใช้ภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องเหมือนกัน เช่น เขียนอีเมล, จัดทำรายงานเสนอที่ประชุม, โพสต์คอนเทนต์ลงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือแม้แต่แช็ตคุยกับเพื่อนฝูง

    พวกเขาเลยหันมาพัฒนาซอฟต์แวร์ตัวใหม่ นั่นคือ Grammarly

    แต่ในช่วงแรก บริษัทยังคงโมเดลธุรกิจแบบเดิมอยู่ โดยขายขาดโปรแกรมให้กับมหาวิทยาลัย 250 แห่ง ครอบคลุมนักเรียนกว่า 3 แสนคน

    เนื่องจากต้องการสร้างฐานลูกค้าและสถานะทางการเงินที่มั่นคงให้ได้เสียก่อน
    รวมทั้งเก็บข้อมูล เพื่อปรับปรุงบริการให้พร้อมสำหรับการขยายสู่ตลาดใหญ่ในอนาคต

    ต่อมาในปี 2012 บริษัทก็ได้เปิดตัวบริการตรวจไวยากรณ์ภาษาอังกฤษบนเว็บไซต์ ในรูปแบบระบบสมาชิก หรือ Subscription โดยคิดราคาราว 370 บาทต่อเดือน และทดลองใช้ก่อนได้เป็นเวลา 7 วัน

    นอกจากนี้ ยังได้เชื่อมต่อซอฟต์แวร์เข้ากับ Microsoft Office เพื่อให้สามารถแนะนำไวยากรณ์ได้ทันทีตั้งแต่ที่ผู้ใช้พิมพ์ตัวหนังสือ

    ผลปรากฏว่า Grammarly ได้รับกระแสตอบรับที่ดี จนรายได้จากค่าสมาชิก มีสัดส่วนเป็น 80% ของรายได้ทั้งหมด แซงหน้าการขายขาดให้ลูกค้าสถาบันศึกษาไปอย่างสิ้นเชิง

    จากตัวเลขดังกล่าว พวกเขาจึงเล็งเห็นโอกาสว่า หากลูกค้าได้ลองใช้จริงก่อน ก็จะมีแนวโน้มสมัครเป็นสมาชิกมากขึ้น ทำให้ในปี 2015 บริษัทเปลี่ยนมาใช้กลยุทธ์การขายแบบ Freemium แทน

    โดย Grammarly เปิดบริการขั้นพื้นฐานให้ใช้ได้ฟรี แต่ถ้าจ่ายค่าสมาชิกราว 370-940 บาทต่อเดือน ก็จะสามารถใช้ฟีเจอร์พิเศษเพิ่มเติม เช่น การให้ AI แนะนำรูปประโยคที่เหมาะกับเนื้อหา หรือตรวจเช็กเรื่องคัดลอกผลงาน

    และในขณะนั้น ผู้คนไม่ได้พิมพ์ตัวหนังสือบนโปรแกรมออฟไลน์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเริ่มไปทำงานบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น เช่น Facebook, Google Docs, Gmail

    นอกจากนั้น Grammarly ยังพัฒนาการเชื่อมต่อกับเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ต และคีย์บอร์ดของระบบปฏิบัติการในสมาร์ตโฟน เพื่อรองรับพฤติกรรมตลาดที่เปลี่ยนไป

    ทั้งนี้ บริษัทยังเลือกมุ่งเน้นพัฒนาบริการเพียงแค่ภาษาอังกฤษเท่านั้น เพราะมองว่าเป็นภาษาหลักของการติดต่อสื่อสาร โดยคอนเทนต์บนโลกอินเทอร์เน็ตกว่า 59% ถูกเขียนขึ้นด้วยภาษาอังกฤษ

    จากการปรับธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ ทำให้ Grammarly เติบโตอย่างรวดเร็ว จนมีผู้ใช้งานรวมทุกแพลตฟอร์มสูงถึง 20 ล้านบัญชี ในปัจจุบัน

    เราได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง?

    หลายครั้งที่บริษัทเทคโนโลยี เร่งเปิดตัวแพลตฟอร์มในตลาดใหญ่ เพื่อให้มีคนมาใช้งานเยอะๆ
    แต่ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่คิด บริษัทนั้นไม่สามารถสร้างรายได้จากฐานลูกค้าในมือได้
    สุดท้ายธุรกิจอาจมีแต่ค่าใช้จ่าย จนขาดทุนมหาศาล

    ตัวอย่างของ Grammarly แสดงให้เห็นถึงการค่อยๆ สร้างความแข็งแกร่ง
    ค่อยๆ ทดลองตลาดจากกลุ่มเล็กๆ และปรับตัวตามพฤติกรรมผู้บริโภค
    จากนั้นถึงเริ่มขยายตลาดเมื่อมีความพร้อม

    ซึ่งการทดลองจากสิ่งเล็กๆ แล้วขยายเป็นใหญ่
    อาจเป็นทางเลือกที่จะเจ็บตัวน้อยกว่า ใช้เงินทุนน้อยกว่า และสำเร็จได้เร็วกว่าก็เป็นได้

    เพราะอย่าลืมว่า คนที่เข้าเส้นชัย ไม่จำเป็นต้องวิ่งเร็วเสมอไป
    คนที่วิ่งช้า แต่วิ่งให้ถูกทาง และยืนระยะได้นาน
    ก็ก้าวถึงเป้าหมายได้เหมือนกัน..
    ╔═══════════╗
    อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
    มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
    Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - ลงทุนแมน
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    References
    -https://en.wikipedia.org/wiki/Grammarly
    -https://venturebeat.com/2019/10/10/grammarly-raises-90-million-for-ai-that-spots-grammar-errors-and-plagiarism/
    -https://techcrunch.com/2019/10/10/grammarly-raises-90m-at-over-1b-valuation-for-its-ai-based-grammar-and-writing-tools/
    -https://producthabits.com/how-grammarly-quietly-grew-its-way-to-7-million-daily-users/
    -https://en.wikipedia.org/wiki/Languages_used_on_the_Internet

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [สัมภาษณ์พิเศษ] ธนาคารจะอยู่รอดได้ไหม? ในมุมมอง ดร.นิเวศน์ - ฟังฉบับเต็มได้ใน ลงทุนแมน Podcast แอป Blockdit Blockdit.com/download

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความบอบช้ำ อย่างต่อเนื่อง ของเศรษฐกิจอิตาลี /โดย ลงทุนแมน
    ถ้าถามว่า หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญต่อเศรษฐกิจโลกในปี 2008 คืออะไร?
    คำตอบที่นักลงทุนคิดถึงคงเป็น วิกฤติซับไพรม์ และการล่มสลายของ Lehman Brothers วาณิชธนกิจที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

    แต่รู้ไหมว่าปีนั้น
    ยังเป็นปีที่มูลค่า GDP ของอิตาลีขึ้นไปถึง 74 ล้านล้านบาท
    ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดตลอดกาลสำหรับมูลค่า GDP ของประเทศอิตาลี
    แต่แล้วหลังจากนั้น อิตาลีก็ไม่เคยกลับมาที่จุดนั้นอีกเลย

    นับจากวันนั้นมา 12 ปี มูลค่า GDP ของอิตาลี เฉลี่ยแล้วลดลงปีละ 1 ล้านล้านบาท
    และดูเหมือนว่าปีนี้ก็จะแย่ลงไปอีกจาก Covid-19

    เกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจของอิตาลีในช่วงที่ผ่านมา?
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    อยากรู้ความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก ต้องเข้าใจอดีต
    เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี พิมพ์ครั้งที่ 6
    สั่งซื้อได้ที่ (รับส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท)
    Lazada : https://www.lazada.co.th/products/1000-i714570154-s1368712682.html
    Shopee : https://shopee.co.th/product/116732911/6716121161
    ╚═══════════╝
    ในปี 2019 เศรษฐกิจอิตาลีมูลค่า GDP กว่า 62 ล้านล้านบาท เป็นอันดับที่ 8 ของโลก
    และใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ในทวีปยุโรป

    ขณะที่ประชากรของอิตาลีนั้นมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวเท่ากับ 1 ล้านบาทต่อปี อยู่อันดับที่ 26 ของโลก

    เดิมทีนั้นอิตาลีเป็นประเทศเกษตรกรรม แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2
    ในปี 1945 เศรษฐกิจของอิตาลีเริ่มเปลี่ยนจากเศรษฐกิจที่พึ่งพาเกษตรกรรม มาสู่เศรษฐกิจที่พึ่งพาอุตสาหกรรม

    ปัจจุบัน สัดส่วนภาคการเกษตรมีสัดส่วนเหลือเพียง 2% ขณะที่สัดส่วนนอกภาคเกษตร เช่น ภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ มีสัดส่วนมากถึง 98%

    อิตาลียังเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม G7 ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก โดยประกอบไปด้วยประเทศอื่นๆ อีก 6 ประเทศคือ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

    รู้ไหมว่า อิตาลีนั้น ถือว่าเป็นผู้นำของโลกในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมหลายอย่าง เช่น
    เป็นประเทศที่ผลิตไวน์ใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ของโลก
    เป็นประเทศที่มีภาคอุตสาหกรรมการผลิตใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของยุโรป และใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของโลก
    เป็นประเทศที่มีแหล่งสำรองทองคำมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก
    เป็นประเทศผู้นำทางแฟชั่นของโลก และเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมสินค้าหรูหราที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก

    ในช่วงระหว่างปี 2000-2008 เศรษฐกิจของอิตาลีนั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้มูลค่า GDP เพิ่มขึ้นจาก 34 ล้านล้านบาท มาถึง 74 ล้านล้านบาท

    แต่การเติบโตในครั้งนั้น แลกมาด้วยการใช้จ่ายเงินมหาศาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านงบประมาณขาดดุลของรัฐบาล ซึ่งอิตาลีนับเป็นหนึ่งในประเทศที่มีงบประมาณขาดดุลยาวนานประเทศหนึ่งของโลก

    ในช่วงปี 2000-2008 รัฐบาลอิตาลีใช้งบประมาณขาดดุลรวมกันสูงถึง 14 ล้านล้านบาท ทำให้เฉลี่ยแล้วหนี้สาธารณะต่อ GDP ของอิตาลีอยู่ในระดับที่สูงกว่า 100%

    และแล้ว 2 เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอิตาลีหยุดชะงักลงกว่า 12 ปีก็เกิดขึ้น

    ครั้งแรกในปี 2008 จากวิกฤติซับไพรม์ ซึ่งอิตาลีเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติดังกล่าว โดยในช่วงระหว่างปี 2008-2009 GDP ของอิตาลีติดลบไปทั้งหมด 7 ไตรมาส เศรษฐกิจของประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอย

    หลังจากเจอกับผลกระทบจากวิกฤติซับไพรม์ไม่นาน อิตาลีก็ต้องมาเจอกับแรงกระแทกครั้งที่สองที่ชื่อว่า วิกฤตหนี้สาธารณะยุโรป ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2009

    ปี 2011 ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อสถานะทางการเงินของอิตาลีตกต่ำอย่างหนัก ความน่าเชื่อถือของประเทศถูกลดอันดับลง ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล 10 ปีของอิตาลี ปรับเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งหมายถึง ต้นทุนการกู้ยืมเงินของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น

    ในปี 2015 หนี้สาธารณะต่อ GDP ของประเทศพุ่งขึ้นถึง 131% ต่อ GDP มากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของยุโรป แม้จะเป็นรองกรีซที่ขณะนั้นมีหนี้สาธารณะต่อ GDP เท่ากับ 180% แต่เนื่องจากเศรษฐกิจของอิตาลีนั้นใหญ่กว่ากรีซเกือบ 10 เท่า แน่นอนว่าผลกระทบจะรุนแรงกว่ากรณีของกรีซอย่างไม่ต้องสงสัย

    ทั้ง 2 เหตุการณ์นี้ จึงทำให้มูลค่า GDP ของอิตาลีจากที่เคยขึ้นไปถึง 74 ล้านล้านบาท ในปี 2008 ปัจจุบัน ลดลงมาเหลือเพียง 62 ล้านล้านบาท หรือลดลงเฉลี่ยปีละประมาณ 1 ล้านล้านบาท ในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา

    และมาวันนี้ผลกระทบจาก Covid-19
    กำลังจะทำให้เศรษฐกิจของอิตาลีที่ยังบอบช้ำอยู่แล้ว ย่ำแย่ลงไปอีก

    ซึ่งก่อนที่ Covid-19 จะระบาดนั้น อิตาลีมีอัตราการว่างงานประมาณ 10% ทำให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการว่างงานมากที่สุดในกลุ่มยูโรโซน

    มีการคาดกันว่า นับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ปี 2020 ที่รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ประเทศ มีแรงงานของอิตาลีกว่า 11.5 ล้านคนต้องตกงาน คิดเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนแรงงานทั้งประเทศ

    ขณะที่การท่องเที่ยวซึ่งปัจจุบัน มีสัดส่วน 13% ของ GDP หรือกว่า 8 ล้านล้านบาท ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศที่หดหายไปในช่วงที่ผ่านมา

    จึงทำให้คาดกันว่า ในปี 2020 GDP ของอิตาลีจะติดลบกว่า 9.5% ซึ่งนับเป็นความตกต่ำทางเศรษฐกิจของอิตาลีครั้งรุนแรงอีกครั้งในประวัติศาสตร์ของประเทศ

    เรื่องนี้ทำให้รัฐบาลอิตาลีต้องประกาศใช้งบประมาณขาดดุลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวงเงินกว่า 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อลดผลกระทบจากโรคระบาดดังกล่าว

    แต่เมื่อทำแบบนี้ก็มีราคาที่ต้องจ่าย มีการคาดกันว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้จะทำให้หนี้สาธารณะต่อ GDP ของอิตาลีพุ่งขึ้นไปถึง 160% ต่อ GDP ในปี 2020

    และตัวเลขหนี้สาธารณะที่สูงขึ้นนี้ ก็จะวนกลับไปเป็นปัญหาของอิตาลีในอนาคต โดยที่ไม่รู้ว่าจะจบลงอย่างไร..
    ╔═══════════╗
    อยากรู้ความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก ต้องเข้าใจอดีต
    เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี พิมพ์ครั้งที่ 6
    สั่งซื้อได้ที่ (รับส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท)
    Lazada : https://www.lazada.co.th/products/1000-i714570154-s1368712682.html
    Shopee : https://shopee.co.th/product/116732911/6716121161
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - ลงทุนแมน
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    Line - page.line.me/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    References
    -https://data.worldbank.org/country/italy
    -https://en.wikipedia.org/wiki/Lehman_Brothers
    -https://www.forbes.com/sites/rebeccahughes/2020/05/26/after-the-health-crisis-comes-poverty-italy-warns-the-world/#79514a302d31
    -https://www.statista.com/statistics/268830/unemployment-rate-in-eu-countries/
    -https://en.wikipedia.org/wiki/Economy_of_Italy
    -https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal)
    -https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal)_per_capita
    -https://en.wikipedia.org/wiki/European_debt_crisis
    -https://countryeconomy.com/deficit/Italy
    -https://www.republicworld.com/world-news/rest-of-the-world-news/italy-faces-worst-recession-since-world-war-ii-economy-shrinks.html
    -https://news.cgtn.com/news/2020-05-14/Italy-approves-55-billion-euro-stimulus-package-in-coronavirus-fight-QtOOkvBBss/index.html

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Reliance Industries บริษัทอินเดีย ที่ใครๆ ก็อยากจับมือด้วย /โดย ลงทุนแมน
    อินเดีย ประเทศที่มีประชากรในประเทศกว่า 1,380 ล้านคน
    มากเป็นอันดับสองของโลก เป็นรองเพียงแค่จีนประเทศเดียว

    ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ
    อินเดียมีจำนวนคนที่เข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตประมาณ 450 ล้านคนในปี 2019
    มากกว่าประชากรสหรัฐฯ ทั้งประเทศที่มีอยู่ประมาณ 330 ล้านคน
    และมากกว่าจำนวนคนไทยทั้งประเทศถึง 6 เท่า

    พอเรื่องเป็นแบบนี้ หลายบริษัทยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศ ที่เน้นให้บริการบนแพลตฟอร์มดิจิทัล
    จึงวิ่งเข้าหาอินเดีย เพื่อหวังเข้ามาแบ่งเค้กก้อนโตชิ้นนี้ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Amazon, Netflix หรือ Disney+

    แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่บริษัทข้ามชาติเหล่านี้จะเข้าถึงและเข้าใจชาวอินเดีย มากไปกว่าธุรกิจที่ดำเนินการด้วยคนอินเดียเอง

    และทางเลือกที่หลายบริษัทเหล่านี้เลือกใช้ คือ การเป็นพันธมิตรกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนั้นๆ ของอินเดีย
    ╔═══════════╗
    อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
    มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
    Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ตัวอย่างที่เกิดขึ้นคือ ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา
    Facebook ประกาศเข้าถือหุ้น 10% ในบริษัท “Jio”
    คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนกว่า 180,000 ล้านบาท
    โดยมีเป้าหมายคือ การเพิ่มความแข็งแกร่งของฐานผู้ใช้งาน Facebook และ WhatsApp

    โดยที่ Jio คือ บริษัทที่เป็นผู้นำด้านโทรคมนาคมและดิจิทัลเซอร์วิสในอินเดีย
    ที่มีฐานผู้ใช้งาน ฐานลูกค้ากว่า 370 ล้านคน

    และล่าสุด Netflix ผู้นำแห่งแพลตฟอร์มสตรีมมิงมีเดียออนไลน์
    ประกาศเป็นพันธมิตรกับ Viacom18 ผู้นำด้านการผลิตคอนเทนต์ทั้งรายการโทรทัศน์ ซีรีส์ และภาพยนตร์ในอินเดีย

    เนื่องจากก่อนหน้านี้ในปี 2016 Netflix เคยบุกตลาดอินเดียมาแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
    เพราะคนอินเดียนิยมเสพคอนเทนต์ท้องถิ่นมากกว่าคอนเทนต์ต่างชาติ ซึ่ง Netflix ไม่ตอบโจทย์คนอินเดียในจุดนี้

    Netflix จึงพยายามอีกครั้ง โดยการดึงผู้เชี่ยวชาญตลาดคอนเทนต์ออนไลน์ของอินเดียมาดูแลโดยเฉพาะ
    ซึ่ง Viacom18 ก็คือผู้ถูกเลือกให้มาดูแลในครั้งนี้

    แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ
    รู้หรือไม่ว่า ทั้ง Jio และ Viacom18 มีเจ้าของเป็นคนเดียวกัน
    คือ “Reliance Industries” บริษัทของ มูเกช อัมบานี มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย

    Reliance Industries คือ บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย และมีธุรกิจอยู่ในหลายอุตสาหกรรม
    ทั้ง ธุรกิจปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ำมันและก๊าซ โทรคมนาคม ค้าปลีก มีเดีย

    รายได้ของ Reliance Industries ทุก 100 บาท มาจาก

    ธุรกิจปิโตรเคมี 43 บาท
    ธุรกิจโรงกลั่น 26 บาท
    ธุรกิจเทเลคอม 18 บาท
    ธุรกิจค้าปลีก 7 บาท
    มีเดียและอื่นๆ 6 บาท

    โดยในปี 2019 Reliance Industries มีรายได้ถึง 2.4 ล้านล้านบาท และมีกำไร 1.5 แสนล้านบาท

    ด้วยการที่ธุรกิจของ Reliance Industries กระจายอยู่ในหลายอุตสาหกรรมของอินเดีย
    ดำเนินกิจการโดยคนอินเดีย แต่ละบริษัทเป็นผู้เล่นคนสำคัญในตลาดอินเดีย
    และแต่ละธุรกิจล้วนเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนอินเดีย

    จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ต้องการบุกตลาดอินเดีย
    ล้วนแต่จะต้องมาขอจับมือเป็นพันธมิตรกับธุรกิจในเครือ Reliance Industries

    แม้บางส่วนจะเป็นความโชคดีของ Reliance Industries
    ที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดที่ใครต่อใครต่างก็อยากจะเข้ามา

    แต่อีกส่วนก็เป็นเพราะว่า ธุรกิจของ Reliance Industries ที่กระจายอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม
    ต่างก็เป็นผู้นำ หรือผู้เล่นคนสำคัญในตลาด ที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านของตัวเองทั้งสิ้น

    เรื่องนี้ทำให้เห็นว่า
    คนที่เก่งจริง รู้จริงในขอบเขตที่ตนเองอยู่
    จะทำให้มีหลายคนต้องการเข้าหาเพื่อร่วมงาน
    เหมือนอย่าง Reliance Industries
    ที่ใครๆ ก็อยากจับมือด้วย..
    ╔═══════════╗
    อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
    มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
    Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - ลงทุนแมน
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    Line - page.line.me/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    References
    -https://www.bloomberg.com/news/newsletters/2020-04-23/facebook-s-big-india-bet-explained
    -https://www.jio.com/
    -https://economictimes.indiatimes.com/tech/internet/india-has-second-highest-number-of-internet-users-after-china-report/articleshow/71311705.cms?from=mdr
    -https://www.reuters.com/article/us-netflix-india-network18-exclusive/exclusive-netflix-in-talks-to-source-indian-content-from-reliance-affiliate-viacom18-sources-idUSKBN23J0VH
    -https://www.longtunman.com/20572

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กรุงไทย x ลงทุนแมน
    ครั้งแรกในประเทศไทย พันธบัตรดิจิทัล ทางเลือกใหม่ในวันที่ดอกเบี้ยเงินฝากลดลง

    หลังจากที่ธนาคารหลายแห่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์
    เหลือ 0.25 - 0.30% ซึ่งต่ำสุดเป็นประวัติศาสตร์
    เรื่องนี้ก็เลยทำให้หลายคนกำลังมองหาการลงทุนที่คุ้มค่ามากกว่าการฝากเงินไว้ในธนาคาร
    ที่สำคัญเมื่อลงทุนไปแล้วก็ต้องสบายใจ

    และถ้ามีการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ 1.7% ต่อปี
    มีความปลอดภัย และมีความเสี่ยงต่ำ เพราะเป็นการลงทุนกับกระทรวงการคลัง
    พอได้ยินแบบนี้ น่าสนใจไหม?

    ครั้งแรกในประเทศไทย ที่เราจะสามารถซื้อพันธบัตรออมทรัพย์แบบดิจิทัล ผ่านแอปฯ เป๋าตัง
    ของธนาคารกรุงไทย… พันธบัตรนี้ ตอบโจทย์มากแค่ไหน
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

    รู้หรือไม่ว่า พันธบัตรออมทรัพย์แบบดิจิทัล ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในบ้านเรา
    แต่เมื่อเกือบทุกธุรกรรมทางการเงินในยุคนี้ ทุกอย่างจบลงในโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว
    จึงเกิดความร่วมมือระหว่างสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) และธนาคารกรุงไทย
    ในการออกพันธบัตรออมทรัพย์ดิจิทัลรุ่น วอลเล็ต สบม. ซื้อง่ายผ่านแอปฯ เป๋าตัง ของธนาคารกรุงไทย โดยมีวงเงินจำหน่ายรวม 200 ล้านบาท

    เรื่องนี้ความน่าสนใจอยู่ที่ว่าเราสามารถซื้อพันธบัตรนี้ได้ด้วยวงเงินซื้อขั้นต่ำ 100 บาท (หน่วยละ 1 บาทเท่านั้น) และจำกัดวงเงินซื้อสูงสุดที่ 500,000 บาท
    ซึ่งยังไม่เคยมีพันธบัตรรุ่นไหนเคยทำมาก่อนที่ใช้เงินลงทุนแค่ 100 บาท
    เพราะแต่เดิม การซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะเริ่มต้นที่ 1,000 บาท

    ทำให้ในครั้งนี้ เป็นการขยายกลุ่มนักลุงทุนไปในวงกว้างได้มากขึ้น และยังเข้าถึงนักลงทุนหน้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนอายุ 15 ปีขึ้นไปก็สามารถครอบครองพันธบัตรออมทรัพย์แบบดิจิทัลนี้ได้

    โดยพันธบัตรดิจิทัลจะเริ่มขายวันพรุ่งนี้ 24 มิถุนายน 2563 เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป

    หากใครสนใจก็ดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง ผ่าน App Store และ Google Play
    ซึ่งแอปฯ นี้สามารถรองรับวอลเล็ตได้หลายตัวพร้อมๆ กัน
    จากนั้นก็โอนเงินเข้าวอลเล็ต สบม. และเลือกพันธบัตรออมทรัพย์รุ่น วอลเล็ต สบม.
    ระบุจำนวนเงิน และกดยืนยันการชำระเงินเราก็เป็นเจ้าของพันธบัตรออมทรัพย์ดิจิทัลได้ทันที
    ไม่ต้องรอ 15 วันเหมือนที่ผ่านมา

    โดยพันธบัตรนี้จะมีอายุ 3 ปี ซึ่งเราจะรับดอกเบี้ยในอัตรา 1.7% ต่อปี แบ่งเป็น 2 งวด ในทุกๆ วันที่ 24 ธันวาคม และ 24 มิถุนายน ของทุกปี
    และเมื่อพันธบัตรครบกำหนดอายุ 3 ปี เราก็จะได้รับเงินต้นคืนเข้าทางวอลเล็ตเช่นกัน

    เรื่องนี้..ถือเป็นการปฎิวัติวงการ การขายพันธบัตรรัฐบาลเลยก็ว่าได้ เพราะจากเดิมหากเราต้องการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ จะต้องเดินทางไปที่ของธนาคาร

    แต่..ครั้งนี้เราสามารถซื้อได้ทันที ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านแอปฯ เป๋าตังของธนาคารกรุงไทย
    ถือเป็นการเบิกทางแอปฯ เป๋าตังให้เป็นช่องทางหลักในการซื้อขายพันธบัตรอื่นๆ ของภาครัฐ
    และเราก็น่าจะได้เห็น นวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะมาตอบโจทย์ทางการเงินของเรา อีกมากมายในอนาคต

    References
    -https://www.youtube.com/watch?v=JTGONGBLx8Y&feature=youtu.be
    -https://news.ch7.com/detail/419965
    -https://www.youtube.com/watch?v=fyQl79iojqs&feature=youtu.be
    -https://www.pdmo.go.th/th/bond-knows
    -https://www.prachachat.net/finance/news-471257

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ครม. อนุมัติร่างแก้กฎหมาย ปรับเกณฑ์เด็กไม่ต้องรับโทษ จากอายุ 10 ปี เป็น 12 ปี
    ครม. อนุมัติร่างแก้กฎหมายอาญา ปรับเกณฑ์เด็กไม่ต้องรับโทษ จากอายุ 10 ปี เป็น 12 ปี แต่ให้เข้าสู่กระบวนการคุ้มครองสวัสดิภาพเพื่อให้ฟื้นฟูเด็กกลับไปสู่สังคม
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฮุนเซนมั่นใจพรรครบ.จะครองกัมพูชายาว 100 ปี ชี้ฝ่ายค้านรอไปเถอะชาติหน้า

    สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ให้สัมภาษณ์หลังจากลงพื้นที่ตรวจงานโครงสร้างสนามบินในต่างจังหวัดว่าพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลที่มีอำนาจตั้งแต่ปี 2522 จะมีอำนาจทางการเมืองในประเทศนานไปอีกมากกว่า 100 ปี พร้อมแสดงความมั่นใจว่าจะไม่มีใครมาเปลี่ยนแปลงได้ แม้กระทั้ง พรรคสงเคราะห์ชาติ (CNRP) ซึ่งเป็นแกนนำพรรคฝ่ายค้านที่นำโดยนาย Kem Sokha และต้องรอไปถึงชาติหน้าหากต้องการจะมาเป็นรัฐยาลในประเทศกัมพูชา

    https://www.tcijthai.com/news/2020/6/asean/10565

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อเมริกาใต้ : ฝุ่นจาก ทะเลทรายสะฮารา
    เมืองในอเมริกาใต้ รวมถึงสหรัฐ กำลังเจอฝุ่นจากทะเลทรายสะฮารา ที่ลอยข้ามมหาสมุทรกว่า 8,200 กม. ขณะนี้ฝุ่นเริ่มเข้าปกคลุมในหลายเมือง
    # แอดมินเพิ่มคลิปในช่องความคิดเห็น
    Cr : The weather channel

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไต้หวัน : ไทเปวันร้อนที่สุดของปี เมื่อเวลา 2:04 น. อุณหภูมิในเขตจงเจิ้งของไทเปพุ่งสูงขึ้นถึง 38.4 องศาซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สูงที่สุด ที่บันทึกไว้ในไทเปปีนี้

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีน : ฉงชิ่ง น้ำท่วม ในหลายเขต ท่วมหนักสุดในรอบ 98 ปี
    # เมืองยังประกาศเตือนระดับสีแดง หากฝนตกหนักแม่น้ำสายหลักเอ่อท่วมเมือง
    # ภาพเพิ่ม


     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐ : นิวยอร์ก ร้านค้าหลายร้านอยู่ในช่วงซ่อมแซมร้าน หลายร้านใช้ไม้อัดกั้นป้องกันการทุบกระจกเพื่อเข้าไปขโมยของ

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ลาว : ขุดหลุมฝังรักษาเบื่อเห็ดพิษ
    ผู้ใช้เฟสบุ๊ค ທອງ ມຸງຄຸນ ได้โพสแจ้งข่าวคนเบื่อเห็ดพิษวันนี้ เตือนขอให้ทุกคนระวังในการกินเห็ดพิษในช่วงนี้ เหตุเกิดที่แขวงสะหวันนะเขตประเทศลาว
    Cr : ທອງ ມຸງຄຸນ

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เยอรมนี : ทุเรียนไทย เป็นเหตุ
    ไปรษณีย์เมือง ชไวน์ฟวร์ท เยอรมันได้รับกล่องพัสดุที่มีขนาดใหญ่ที่มีกลิ่นเหม็นจนทำให้ต้องนำพนักงาน 6 คนส่งโรงพยาบาล 12 คนมีอาการคลื่นไส้ อพยพพนักงาน 60 คนออกจากอาคารด่วนพร้อมกับระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ พนักงานดับเพลิง และรถฉุกเฉิน 20 คัน เพื่อควบคุมสถานการณ์หลังจากตรวจสอบแล้วพบว่า ของในพัสดุกล่องนั้นคือ ทุเรียนจากประเทศไทย 4 ลูกต่อมาทุเรียนได้ถูกนำส่งไปให้ผู้รับอย่างปลอดภัย

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เรื่องเดิมๆ ทรัมป์กลับลำ อ้างจะพูดคุยกับ “มาดูโร”
    เฉพาะเรื่องลงจากอำนาจ

    รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯในวันจันทร์ (22 มิ.ย.) กลับลำคำพูดที่เพิ่งบอกว่าจะพิจารณาพูดคุยกับ นิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา โดยบอกว่าเขาจะทำเช่นนั้นก็ต่อเมื่อมันเป็นการหารือเกี่ยวกับการลงจากอำนาจของมาดูโรเท่านั้น

    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000064438

    #วเนซุเอลา #นิโคลัสมาดูโร #สหรัฐฯ

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เริ่มสงครามจิตวิทยา!
    เกาหลีเหนือนำ ‘เครื่องขยายเสียง’ กลับมาติดตั้งที่ชายแดน
    กองทัพโสมขาวขู่ตอบโต้
    .
    เกาหลีเหนือเริ่มนำเครื่องขยายเสียงสำหรับเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อมาติดตั้งตามแนวชายแดนอีกครั้ง ซึ่งนับเป็นการถอยห่างออกไปอีกก้าวจากข้อตกลงสันติภาพสองเกาหลี ขณะที่กองทัพเกาหลีใต้เตรียมใช้มาตรการตอบโต้แบบเดียวกัน
    .
    ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและใต้เริ่มเข้าสู่ภาวะตึงเครียด หลังจากที่เปียงยางระเบิดทำลายสำนักงานประสานงานร่วม (liaison office) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองแกซองฝั่งเกาหลีเหนือ พร้อมประกาศยุติการเจรจากับโซล และขู่จะใช้ปฏิบัติการทางทหาร
    .
    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000064490
    #mgronline #สงครามจิตวิทยา #เกาหลีเหนือ #เกาหลีใต้ #แนวชายแดน

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศิริราชชี้ "ไทย" ยังไม่ปลอดภัย เสี่ยง "โควิด" ระบาดรอบ 2
    ห่วงคนไทยภูมิคุ้มกันน้อย การ์ดตกอาจแพร่กระจายง่าย
    .
    ศิริราชชี้ "ไทย" มีโอกาสโควิดระบาดรอบ 2 ย้ำไม่มีติดเชื้อในประเทศ 28-39 วันไม่ได้แปลว่าปลอดภัย ยก "จีน" ปลอดโรค 57 วันยังระบาดใหม่ได้ ย้ำการ์ดอย่าตก ใช้ไทยชนะ หากระบาดใหม่ช่วยจำกัดวงเป็นคลื่นลูกเล็กๆ คุมแค่ธุรกิจที่มีปัญหา เศรษฐกิจไทยยังเดินหน้าต่อได้ เชื่อคนไทยภูมิคุ้มกันยังน้อย เผยตรวจ นศ.แพทย์ศิริราชไม่เจอภูมิเลย บุคลากร รพ.รามาฯ ดูแลผู้ป่วยโควิด มีภูมิ 3%
    .
    วันนี้ (23 มิ.ย.) ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงผ่านเฟซบุ๊กสรุปสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 จากทั่วโลก และการปรับกระบวนทัศน์แบบองค์รวมที่ประเทศไทยต้องทำให้เกิดสมดุลของสุขภาพ เศรษฐกิจและสังคม ว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเตือนการเข้าสู่ช่วงเวลาใหม่และอันตรายของเชื้อโควิด-19 หรือการระบาดระลอก 2 เนื่องจากแต่ละวันตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้น อัตราการติดเชื้อในผู้ป่วยใหม่และเสียชีวิตเพิ่มขึ้นในประเทศที่เคยควบคุมได้ดี เช่น กรณีกรุงปักกิ่ง กรุงโซล โดยช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า 81 ประเทศมีอุบัติใหม่ต่อวันเพิ่มสูงขึ้น มีเพียง 36 ประเทศที่ลดลง
    .
    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/qol/detail/9630000064715
    #mgronline #ไทย #โอกาสโควิดระบาดรอบ2 #คนไทยภูมิคุ้มกันน้อย #การ์ดอาจตก #แพร่กระจายเชื้อง่าย

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ซาอุฯ ปิดพรมแดนห้ามมุสลิมจากต่างชาติประกอบ ‘พิธีฮัจญ์’ ในปีนี้
    .
    รัฐบาลซาอุดีอาระเบียประกาศจำกัดจำนวนคนเข้าร่วมพิธีฮัจญ์ในช่วงปลายเดือน ก.ค. นี้ โดยจะอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่อาศัยหรือพำนักอยู่ในราชอาณาจักรเท่านั้น เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่จัดว่ารุนแรงที่สุดในกลุ่มประเทศริมอ่าวเปอร์เซีย
    .
    ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ที่ผู้แสวงบุญจากต่างชาติจะไม่สามารถเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งปีที่แล้วมีผู้เข้าร่วมมากถึง 2.5 ล้านคน
    .
    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000064634
    #mgronline #ซาอุดีอาระเบีย #ปิดพรมแดน #ห้ามมุสลิมจากต่างชาติ #พิธีฮัจญ์ #โควิด-19

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สั่งลาครั้งสุดท้าย! โรงหนังสกาลาเปิดไฟทุกดวงให้ถ่ายรูป
    3-5 ก.ค.นี้ ก่อนปิดกิจการ
    .
    ปิดตำนานสามทหารเสือโรงหนังแห่งสยาม "โรงภาพยนตร์สกาลา" ประกาศเปิดไฟทุกดวง 3-5 ก.ค.นี้ พร้อมฉายหนังโดยหอภาพยนตร์ ก่อนปิดกิจการถาวร เหตุสัญญาเช่ากับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกำลังจะหมดลง และผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
    .
    วันนี้ (23 มิ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า ในระหว่างวันที่ 3-5 ก.ค. 2563 โรงภาพยนตร์สกาลา สยามสแควร์ซอย 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ จะทำการเปิดไฟทุกดวง เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาเก็บภาพก่อนปิดกิจการถาวร โดยเฟซบุ๊ก Apex Scala ระบุว่า "3-5 JULY 2020 FINAL TOUCH OF MEMORY “LA SCALA ลาสกาลา” วันที่ 3 กรกฎาคม 2563 โรงภาพยนตร์จะเปิดไฟทุกดวง เพื่อให้มาเก็บภาพความสวยสง่า และบรรยากาศที่แสนมีเสน่ห์ ให้ความสว่างไสวของแสงไฟอยู่ในความทรงจำร่วมกัน สยามสแควร์เคยมีโรงหนังขนาดใหญ่สามทหารเสือ สยาม ลิโด สกาลา จนเป็นส่วนสำคัญที่ให้สยามสแควร์เติบโตเป็นทำเลทองทางธุรกิจที่เจริญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย และปฏิเสธไม่ได้ว่าความโอ่อ่าทำให้สกาลามีฐานะเป็น “ราชาโรงหนังแห่งสยาม”
    .
    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000064748
    #mgronline #โรงหนังสกาลา #ราชาโรงหนังแห่งสยาม #เปิดให้ถ่ายรูป #ก่อนปิดกิจการถาวร #ผลกระทบ #สถานการณ์โควิด-19

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เตือนภัย! หนุ่มนักวิ่งถูกวางยาในขวดน้ำ
    หลังวางไว้และไปวิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะ
    เตือนเพิ่มความระมัดระวัง
    .
    หนุ่มนักวิ่งโพสต์เล่าเหตุการณ์ไว้สำหรับเป็นอุทาหรณ์ หลังตนเองโดนวางยาในขวดน้ำที่วางไว้ก่อนจะไปวิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะ จนต้องเข้าโรงพยาบาล โชคดีไม่อันตรายถึงชีวิต เตื่อนเพื่อนนักวิ่งเพิ่มความระมัดระวัง
    .
    เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Etoriw Sibaht” ได้โพสต์ข้อความเตือนภัยลงในโลกออนไลน์ เพื่อเป็นการเตือนกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย หลังตนเองถูกวางยาลงในขวดน้ำที่ซื้อมาเพื่อดื่มหลังการออกกำลังกายเสร็จ จนต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว
    .
    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000064467
    #mgronline #เตือนภัย #นักวิ่ง #วางยาในขวดน้ำ #วางไว้และไปวิ่ง #สวนสาธารณะ #เจาะรู

     

แชร์หน้านี้

Loading...