ติดตามสถานะการณ์

อเมริกา-ไซออนิสต์-ซาอุฯ กำลังดิ้นรนเพื่อขยายมาตรการคว่ำบาตรอาวุธอิหร่าน



ระยะเวลาการคว่ำบาตรอาวุธต่ออิหร่านตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 2231 กำลังจะสิ้นสุดลง ทำให้สหรัฐอเมริกา ซาอุดิอาระเบีย และอิสราเอล ทำงานร่วมกันอย่างหนักเพื่อป้องกันการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว
ในเรื่องนี้ ล่าสุด เมื่อวันจันทร์ (29 มิ.ย) Brian Hook ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯในกิจการอิหร่านและ Adel al-Jubeir ที่ปรึกษารัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิอาระเบียในแถลงการณ์ร่วมกันในริยาด ได้เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศขยายมาตรการคว่ำบาตรอาวุธอิหร่านและพวกเขาย้ำว่า การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรมันจะยิ่งเพิ่มขีดความสามารถของอิหร่านในด้านอาวุธมากขึ้น
มติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 2231 ระบุชัดว่าการคว่ำบาตรขายอาวุธให้อิหร่านมีระยะเวลาห้าปี และมติดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งการคว่ำบาตรอาวุธอิหร่านจะเหลือเวลาอีกเพียงแค่สี่เดือนก็จะสิ้นสุดลง
ในแถลงการณ์ร่วมครั้งนี้ Adel Al-Jubeir อ้างอีกครั้งว่า อิหร่านเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของโลกและกล่าวว่า: "เราต้องการให้อิหร่านหยุดโปรแกรมพัฒนาขีปนาวุธ"
ทางด้านจีนและรัสเซียซึ่งเป็นสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกล่าวว่า พวกเขาจะไม่สนับสนุนการลงมติของสหรัฐฯและการต่อระยะเวลาการคว่ำบาตรอิหร่าน
ในขณะเดียวกันตัวแทนของไซออนนิสต์ในสหประชาชาติกล่าวว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันในภูมิภาค "อาวุธของอิหร่านกำลังเคลื่อนไหวอย่างอิสระและ "ไม่มีอุปสรรค"
ทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติกล่าวอ้างว่าการส่งมอบซอฟต์แวร์สงครามของอิหร่านเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มาถึงลิเบียแล้วโดย "ไม่มีอุปสรรค"
Denon ทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ เพื่อ "เตือน" สหประชาชาติเกี่ยวกับผลที่ตามมาจากการยุติการคว่ำบาตรอาวุธของอิหร่าน โดยเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคง "สนับสนุนการขยายมาตรการคว่ำบาตรอาวุธอิหร่านต่อไปในระยะเวลา ด้วยมุมมองที่ครอบคลุมของความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นที่เกี่ยวข้องกับขีดความสามารถของอาวุธอิหร่าน”
ข่าวโลกที่3
https://www.jamnews.com/detail/News/987621

 

เปิดข้อเท็จจริงเหตุการณ์ ระเบิดใกล้ ‘เตหะราน’ ถังแก๊สระเบิดหรือการก่อวินาศกรรมทางไซเบอร์ ?!!!



เมื่อช่วงกลางดึกของวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 มิ.ย.) เกิดถังก๊าซอุตสาหกรรมระเบิดทางตะวันตกของกรุงเตหะรานและใกล้ บริเวณพื้นที่เปราะบางทางทหาร ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ในชั่วโมงแรก ๆ มีการคาดเดาต่างๆนานา และการคาดเดาเหล่านี้ได้รับคำตอบในระดับหนึ่งจากการอธิบายของโฆษกกระทรวงกลาโหมเกี่ยวกับสาเหตุของเหตุการณ์นี้
โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า เสียงระเบิดและแสงที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากอุบัติเหตุถังแก๊สระเบิด ในพื้นที่ของเมืองปาร์คิน (Parchin) ไม่ใช่ในค่ายทหารอย่างที่มีการเข้าใจกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว และไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
แน่นอนว่า เหตุการณ์นี้เป็นโอกาสสำหรับสื่อ(ภาคภาษาเปอร์เซีย) ฝ่ายต่อต้านรัฐอิสลามเพื่อตั้งข้อสงสัยในเรื่องนี้
หนึ่งในประเด็นที่เกิดขึ้นในสื่อคือ การมุ่งเป้าไปที่จุดระเบิดว่าเกิดขึ้นในเขตพื้นที่คาเญร์ (Khajir) โดยที่สื่ออ้างว่าการระเบิดเกิดขึ้นที่ศูนย์ผลิตขีปนาวุธอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรม Shahid Bagheri Industrial Group (SBIG) ในขณะที่ เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างชัดเจนในรายงานของพวกเขา
ชื่อเมือง ปาร์คิน (Parchin) ได้รับความสนใจจากสื่อต่างประเทศตั้งแต่ปี 2003 ในการเจรจานิวเคลียร์ของอิหร่านกับ P5 + 1 และในตอนนี้เมื่อมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น สื่อภาษาเปอร์เซียที่ต่อต้านรัฐอิสลามกำลังมองหาความคลุมเครือและความสงสัยโดยผ่านการย้ำชื่อ ปาร์คิน อีกครั้ง เพื่อใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ที่เป็นปกตินี้อีกครั้ง
การอ้างที่ไร้สาระของการระเบิดในอุโมงค์ใต้ดินของการผลิตและการบำรุงรักษาขีปนาวุธ หลังจากการเผยแพร่รายงานวิดีโอและการนำเสนอคำอธิบายที่สมบูรณ์เกี่ยวกับสถานที่ตั้งของการระเบิดของถังแก๊สโดยอิหร่านนั้น มันแสดงให้เห็นว่าสื่อต่อต้านกำลังมองหาสองเป้าหมายหลักด้วยกันจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ๑) อุตสาหกรรมทางทหารที่สำคัญของอิหร่านมีจุดอ่อนที่สามารถโจมตีได้ ๒) พลังขีปนาวุธป้องกันของอิหร่านด้อยประสิทธิภาพ (ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้พวกเขาถูกโจมตีอย่างรุนแรงมาแล้ว)
องค์ประกอบและสื่อบางสำนักที่เกี่ยวข้องกับระบอบการปกครองไซออนนิสต์ได้นำเสนอข้อมูลเท็จและไปไกลกว่าเกินความจริง โดยพวกเขายังเชื่อมโยงไปถึง “การก่อวินาศกรรมทาง ไซเบอร์” Cyberattack ของรัฐบาลไซออนนิสต์ !
ในเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางทหารกล่าวกับ สำนักข่าว "Nornews" เพื่อตอบสนองต่อข้อสงสัยที่เกิดขึ้นจากสื่อต่อต้านว่า :ภาพที่ปรากฏให้เห็นและเช่นเดียวกับภาพถ่ายดาวเทียมจากสื่อที่อ้างถึงการระเบิดที่ศูนย์ผลิตขีปนาวุธนั้น แสดงให้เห็นถึงสวนพืชพันธุ์ที่ถูกเผาไหม้รอบ ๆ จากเหตุถังแก๊สที่ระเบิดอย่างชัดเจน
เขาได้อ้างถึงการเทียบภาพถ่ายดาวเทียมกับสถานที่เกิดเหตุที่ทางการอิหร่านได้ประกาศ และตั้งข้อสังเกตว่า :การระเบิดจะเกิดขึ้นจากใต้ดินได้อย่างไรโดยที่ไม่มีหลุมบนพื้นผิวดินให้เห็นและนำไปสู่การเผาไหม้สวนพืชพันธุ์
เจ้าหน้าที่ทหารกล่าวว่า: "รายงานภาพและภาพถ่ายที่เผยแพร่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า มีการระเบิดที่ จำกัด และมีพื้นฐานจากพื้นดินและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับศูนย์ผลิตขีปนาวุธที่ถูกกล่าวหาในอุโมงค์ใต้ดินแต่อย่างใด"
เขาเสริมว่า : "ถังแก๊สที่ระเบิดได้ถูกควบคุมและเป็นอุบัติเหตุและไม่มีความเป็นไปได้ในการโจมตีทางไซเบอร์"
ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรมองข้ามในประเด็นที่ว่า เนื่องจากสหรัฐอเมริกามีความพยายามที่จะขยายมาตรการคว่ำบาตรอาวุธอิหร่านและดึงประเทศอื่น ๆ เข้ามาในเรื่องนี้ให้เพื่อชนะการโหวตมติการคว่ำบาตรอิหร่านต่อไป ดังนั้นจึงมุ่งเน้น ไปที่ชื่อ “ปาร์คิน” และการอ้างถึงอุโมงค์ขีปนาวุธในเขตพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งมันเป็นวิธีหนึ่งในการเรียกร้องความสนใจจากประชาคมโลกและเรียกแรงสนับสนุนทางการเมืองจากประเทศอื่น ๆ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรอิหร่านต่อไป
อย่างไรก็ตามรายงานทั้งหมดของศูนย์ตรวจสอบระหว่างประเทศระบุว่าอิหร่านมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศและหลีกเลี่ยงการผลิตอาวุธที่อันตราย และการอ้างและปั่นกระแสกรณีที่ไม่เป็นจริงดังกล่าวถือเป็นสัญญาณของการไร้ความสามารถของอเมริกาในการพิสูจน์ข้ออ้างที่เป็นเท็จของตนในการประณามอิหร่าน
ทั้งนี้ ไม่ควรลืมว่า สหรัฐอเมริกากำลังดิ้นรนกับแรงกดดันทั้งภายในและระหว่างประเทศ เนื่องจากไม่สามารถควบคุมโคโรนาได้ อีกทั้งกระแสการต่อต้านการเหยียดผิวยังอยู่ภายใต้แรงกดดันของสาธารณชนทั่วโลก ดังนั้นจึงพยายามหาโอกาสที่จะเอาชนะแรงกดดันเหล่านี้ด้วยการเพิ่มประเด็นชายขอบเพื่อเบี่ยงเบนความคิดเห็นของประชาชนในประเทศและต่างประเทศ....
ข่าวโลกที่3
https://nournews.ir/Fa/News/51728/%D8%A7%D9%86%D9%81%D8%AC%D8%A7%D8%B1-%DA%AF%D8%A7%D8%B2-%DB%8C%D8%A7-%D8%A7%D9%86%D9%87%D8%AF%D8%A7%D9%85-%D8%AA%D8%A7%D8%B3%DB%8C%D8%B3%D8%A7%D8%AA-%D9%85%D9%88%D8%B4%DA%A9%DB%8C%D8%9F-%D9%88%D8%A7%D9%82%D8%B9%DB%8C%D8%AA%E2%80%8C%D9%87%D8%A7%DB%8C-%D8%AD%D8%A7%D8%AF%D8%AB%D9%87-%D8%A7%D8%AE%DB%8C%D8%B1-%D8%AF%D8%B1-%D9%BE%D8%A7%D8%B1%DA%86%DB%8C%D9%86

 

เมอร์เคิล แนะ ยุโรปควรคิดถึงโลกที่ไม่มีสหรัฐเป็นผู้นำ!!!
แองเจอล่า เมอร์เคิล ผู้นำประเทศเยอรมัน ยังเผยว่า
“เราเติบโตขึ้นมาด้วยความเข้าใจที่แน่นอนว่าสหรัฐอเมริกาต้องการเป็นมหาอำนาจโลก หากสหรัฐอเมริกาต้องการยุติบทบาทนี้ด้วยความตั้งใจของตัวเองล่ะ พวกเราจะต้องคิดถึงเรื่องนี้อย่างจริงจัง”
เธอยังกล่าวต่อไปว่า
“ประเทศในยุโรปควรไตร่ตรองอย่างจริงจังเกี่ยวกับความเป็นจริงใหม่ ซึ่งสหรัฐฯอาจไม่ต้องการเป็นผู้นำของโลกใบนี้”
นายกรัฐมนตรีเยอรมัน Angela Merkel กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับหนังสื่อพิมพ์ในยุโรปหลายฉบับรวมถึงหนังสือพิมพ์ The Guardian ด้วย
เธอยังกล่าวว่า
“ทหารอเมริกันในเยอรมนีช่วยปกป้องไม่เพียงแต่ประเทศยุโรปที่เป็นสมาชิกของนาโต้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลประโยชน์ของวอชิงตันเองและได้สัญญาว่าจะสร้างศักยภาพทางทหารให้เยอรมนีต่อไปด้วย”
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเยอรมันได้ทำการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับสหรัฐอเมริกามาโดยตลอดก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้ว ที่เธอกล่าวว่า ยุโรปจำเป็นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเอง เพราะสหรัฐฯจะไม่ปกป้องพวกเราแบบ "อัตโนมัติ" เหมือนในช่วงสงครามเย็นอีกต่อไป..!!!
ข่าวโลกที่3
https://www.facebook.com/100050431470957/posts/152601416430907/?d=n

 

หลังจากที่สหภาพยุโรปได้คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่เวเนซุเอลา 11 คน ประธานาธิบดีเวเนซุเอลาประกาศขับไล่ตัวแทนสหภาพยุโรปออกจากเวเนซุเอลาภายใน 72 ชั่วโมง



ประธานาธิบดีเวเนซุเอลาเวเนซุเอลา Nicolas Maduro ได้สั่งให้ตัวแทนสหภาพยุโรปออกเดินทางจากประเทศภายใน 72 ชั่วโมง
การตัดสินใจของประธานาธิบดีเวเนซุเอลามีขึ้นหลังจากสหภาพยุโรปเพิ่มเจ้าหน้าที่เวเนซุเอลาอีก 11 คนเข้าในรายการคว่ำบาตร
Sputnik รายงานว่า “ ฉันได้ตัดสินใจที่จะให้ตัวแทนสหภาพยุโรป เดินทางออกนอกประเทศภายใน 72 ชั่วโมง” Maduro กล่าวผ่านโทรทัศน์
เขาเสริมว่า ตัวแทนของสหภาพยุโรปได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องบินเพื่อออกจากเวเนซุเอลา
"การล่าอาณานิคมของยุโรปในเวเนซุเอลานั้นสิ้นสุดแล้ว" Maduro กล่าว
ข่าวโลกที่3
https://fa.alalamtv.net/news/5020641/%D9%88%D9%86%D8%B2%D9%88%D8%A6%D9%84%D8%A7-%D9%86%D9%85%D8%A7%DB%8C%D9%86%D8%AF%D9%87-%D8%A7%D8%AA%D8%AD%D8%A7%D8%AF%DB%8C%D9%87-%D8%A7%D8%B1%D9%88%D9%BE%D8%A7-%D8%B1%D8%A7-%D8%A7%D8%AE%D8%B1%D8%A7%D8%AC-%DA%A9%D8%B1%D8%AF

 

กระทรวงต่างประเทศอิหร่านออกมาประณามสหรัฐอเมริกาและประเทศยุโรปอย่างรุนแรง ที่ให้การสนับสนุน,ช่วยเหลือกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ต่อต้านอิหร่านMujahedin-e-Khalq Organization(MKO)
ในทวีตเตอร์วันนี้(อาทิตย์)ของกระทรวงต่างประเทศอิหร่านระบุว่า
MKOเป็นลัทธิก่อการร้ายที่น่ากลัว ซึ่งขณะนี้กลุ่มประเทศในยุโรปกำลังปกป้องและให้ที่พักพิงสมาชิกผู้ก่อการร้ายในกลุ่มนี้ ในขณะเดียวกันสหรัฐอเมริกาก็กำลังให้เงินสนับสนุนกิจกรรมในการต่อต้านอิหร่านต่อกลุ่มก่อการร้ายนี้อย่างเต็มที่”
ทั้งนี้โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่านซัยยิดอับบาส มูซาวี ยังได้กล่าวสรุปเนื่องในวันครบรอบ39ปีการก่อวินาศกรรมของกลุ่มMKO ที่สังหารเจ้าหน้าที่อิหร่านหลายสิบราย ซึ่งรวมถึงประธานศาลฎีกาในขณะนั้น อยาตุ้ลลอฮ มูฮัมหมัด เบเฮชตี้ ไว้ว่า
“มือของสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศยุโรปนั้นเปื้อนเลือดประชาชนผู้บริสุทธิ์ชาวอิหร่านถูกสังหารอย่างมากมาย เนื่องจากผลของการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายMKOของพวกเขา”
ข่าวโลกที่3
https://www.facebook.com/145097112198751/posts/4083773724997717/?d=n&substory_index=0

 

กลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตย #ฮ่องกง ประกาศสลายตัวเป็นทิวแถว หลัง #จีน ผ่าน #กฎหมายความมั่นคง แกนนำกลุ่มเรียกร้องเอกราชหนีประกันตัวไปต่างแดน ยอมรับไม่พร้อมเผชิญชะตากรรมติดคุก อันตรายถึงชีวิต

หลังจาก #โจชัวหว่อง และคณะแกนนำพรรค “เดโมซิสโต” ประกาศลาออกจากพรรคได้ไม่กี่ชั่วโมง พรรคเดโมซิสโตก็ประกาศสลายตัว นาธาน หลัว แกนนำกลุ่มคนหนึ่งบอกว่า ภายใต้กฎหมายความมั่นคง ชาวฮ่องกงจะรับโทษเพราะการแสดงความคิดเห็น โทษเบาจำคุก 3ปี โทษหนักจำคุก 10 ปี และอาจถูกส่งตัวไปดำเนินคดีในจีน ทุกคนอกสั่นขวัญแขวน โดยเฉพาะบุคคลทางการเมือง ยิ่งยากจะคาดถึงความปลอดภัยของตัวเองได้
.
กลุ่ม #ประท้วงฮ่องกง ส่วนใหญ่ก่อตัวขึ้นตั้งแต่ “การประท้วงร่ม” เมื่อ 4 ปีก่อน และขยายตัวเป็นเครือข่ายมากมาย ต่างประกาศสลายตัว ยุติการเคลื่อนไหว สมาชิกคนสำคัญถอนตัวกันอย่างถ้วนหน้า กลุ่มเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนอายุราว 20-30 ปี หลายคนได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น เป็นคนดังของนานาชาติ แต่หลายคนก็ถูกดำเนินคดีจากการชุมนุม
.
แกนนำกลุ่มการเมืองเหล่านี้หวั่นเกรงว่า รัฐบาลจีนจะใช้กฎหมายความมั่นคงมาเล่นงานพวกตน กฎหมายนี้มีการกำหนดโทษสำหรับผู้ที่มีพฤติกรรมแบ่งแยกดินแดน ล้มล้างอำนาจรัฐ ก่อการร้าย และสมคบต่างชาติคุกคามความปลอดภัยของประเทศ
.
มีการประเมินว่า กลุ่มเรียกร้อง #ประชาธิปไตย เสี่ยงจะถูกเช็คบิล เนื่องจากแกนนำตระหนักดีว่าการต่อสู้โดยลำพังไม่มีพลังมากพอ จึงใช้ยุทธศาสตร์หลักคือ เรียกร้องให้ต่างชาติกดดันจีน
.
ผู้ชุมนุมที่โบกธงต่างชาติ เรียกร้องให้ต่างชาติช่วยปลดปล่อยฮ่องกง เขียนจดหมายถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และมีการพบปะกับนานาชาติอยู่ตลอด เข้าข่าย “หลัก 3 ประการ” ที่ฝ่ายจีนใช้ประเมินความผิดฐานบ่อนทำลายอำนาจรัฐ คือ มีความรุนแรง, มีการรวมกลุ่มเป็นองค์กร และมีการแทรกแซงจากต่างชาติ

กลุ่มการเมืองเหล่านี้บางกลุ่มมีเป้าหมายเพียงเพื่อเรียกร้องสิทธิ เสรีภาพในการปกครองตนเองของฮ่องกง แต่บางกลุ่มก็ก้าวไกลไปถึง “เรียกร้องเอกราช” ให้ฮ่องกงเป็นอิสระจากจีน เช่นกลุ่มแนวหน้าประชาธิปไตยฮ่องกง 香港民族陣綫 ก็ได้ประกาศสลายกลุ่มในฮ่องกง และให้เครือข่ายในไต้หวันและอังกฤษรับไม้เคลื่อนไหวต่อ
.
ชานกากุย แกนนำสมาพันธ์เอกราชฮ่องกง 香港獨立聯盟 ยอมรับว่า ตัวเขาได้หนีการประกันตัวคดีชุมนุม ออกจากฮ่องกงแล้ว พร้อมประกาศสลายกลุ่ม ยุติการเคลื่อนไหวในฮ่องกง
.
นอกจากกลุ่มการเมืองแล้ว บรรดาร้านค้าที่เคยออกหน้าสนับสนุนผู้ชุมนุม ที่เรียกกันว่า “เครือข่ายเศรษฐกิจสีเหลือง” ก็ต่างประกาศถอนตัวจากเครือข่ายเช่นกัน ร้านค้าร้านอาหารเหล่านี้เคยได้รับการอุดหนุนอย่างเนืองแน่นจากผู้ชุมนุมในช่วงการประท้วงใหญ่ในฮ่องกง

การสลายตัวของกลุ่มการเมืองจากผลของกฎหมายความมั่นคง จะทำให้การเคลื่อนไหวประชาธิปไตยในฮ่องกงอ่อนพลังลงมาก และจะส่งผลต่อการเลือกตั้งในฮ่องกงด้วย เพราะกลุ่มประชาธิปไตยต้องเคลื่อนไหวส่วนตัว และอาจไม่สามารถส่งผู้สมัครในนามอิสระได้.
ดูน้อยลง

 

#ไต้หวัน ไม่รอช้า ไช่อิงเหวินแถลง #จีน ผ่าน #กฏหมายความมั่นคง #ฮ่องกง พิสูจน์ถึงความล้มเหลวของหลักการ 1 ประเทศ 2 ระบบ ไต้หวันพร้อมสนับสนุนชาวฮ่องกง

กรณีที่คณะกรรมการประจำสภาประชาชนแห่งชาติจีน ลงมติผ่านกฏหมายความมั่นคงฮ่องกงด้วยเสียงเป็นเอกฉันท์ ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน แห่งไต้หวัน แถลงว่า รู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งและเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความล้มเหลวของหลักการ 1 ประเทศ 2 ระบบ
.
พร้อมเผยว่า สำนักงานบริการและแลกเปลี่ยนระหว่างไต้หวัน-ฮ่องกง จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ก.ค.นี้ สำนักงานดังกล่าวจะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวฮ่องกง
.
กฎหมายความมั่นคงฮ่องกง จะเปิดทางให้จีนจัดตั้งสำนักงานความมั่นคงในฮ่องกง เพื่อสอดส่องและจัดการกับผู้ที่ทางการจีนมองว่า เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ เช่น สนับสนุนการแบ่งแยกดินแดน ล้มล้างอำนาจการปกครอง ก่อการร้าย รวมถึงสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังต่างชาติ
.
หลายฝ่ายกังวลว่า ทางการจีนจะใช้กฎหมายฉบับนี้เป็นเครื่องมือในการลิดรอนเสรีภาพ รวมถึงปราบปรามกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยและต่อต้านรัฐบาลจีนในฮ่องกง
https://th.rti.org.tw/news/view/id/2002831

 

"ถ้าคุณเกิดในปีค.ศ. 1900"

บทความต่างประเทศที่โด่งดังชิ้นหนึ่งได้ชวนให้คนจินตนาการย้อนไปในประวัติศาสตร์ “ลองจินตนาการว่าคุณเกิดในปีค.ศ. 1900" ชั่วชีวิตของคุณจะได้พบเจออะไรบ้าง?

“ลองจินตนาการว่าคุณเกิดในปี ค.ศ.1900" ในวันเกิดปีที่ 14 ของคุณ "มหาสงคราม" หรือสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเริ่มขึ้น นาน 4 ปี สงครามสิ้นสุดในวันเกิดปีที่ 18 ของคุณมีผู้เสียชีวิต 22 ล้านคนในสงครามครั้งนั้น

ปีถัดมา มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ในสเปน ยาวไปจนถึงวันเกิดครบรอบ 20 ปีของคุณ มีผู้เสียชีวิตทั่วโลก 50 ล้านคน ในช่วงสองปีที่ผ่าน

คุณทำงานได้ไม่ถึง 10 ปี ในวันเกิดปีที่ 29 ของคุณ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่เริ่มต้นขึ้น การว่างงานสูงถึง 25% จีดีพีโลกลดลง 27%

กว่าทั่วโลกจะฟื้นก็ตอนคุณอายุ 33 ปี

แต่เมื่อคุณอายุ 39 ปีสงครามโลกครั้งที่สองเริ่มต้นขึ้น

ในวันเกิดปีที่ 41 ของคุณ ถ้าคุณเป็นคนอเมริกัน สหรัฐอเมริกาถูกดึงเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง (WWII) นานจนคุณอายุ 45 ปี มี 75 ล้านชีวิตจากไปในสงคราม

เมื่อคุณอายุ 50 สงครามเกาหลี เริ่มต้น - 5 ล้านคนเสียชีวิต

เมื่ออายุ 55 ปีสงครามเวียดนามเริ่มขึ้น และต่อเนื่องเป็นเวลา 20 ปี กับชีวิตที่จากไปอีก 4 ล้านคน ในความขัดแย้งครั้งนั้น

ในวันเกิดปีที่ 62 ของคุณ คุณอยู่ในบรรยากาศวิกฤตการณ์ขีปนาวุธนิวเคลียร์ จุดเปลี่ยนในสงครามเย็น จนกระทั่งเมื่อคุณอายุ 75 ปี สงครามเวียดนามก็จบลงในที่สุด

ชีวิตบนโลกของเราอย่างที่เรารู้ ความขัดแย้งน่าจะจบได้แล้ว ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ควรป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นอีก

ด้วยความคิดถึงทุกคนบนโลกที่เกิดในปี ค.ศ. 1900

.........
จากบทความ - Be Happy you Weren't Born in 1900

 

โจชัวหว่อง และแกนนำกลุ่มเรียกร้อง #ประชาธิปไตย #ฮ่องกง โบกมือลาจากพรรคเดโมซิสโตในทันที หลังจากรัฐสภา #จีน มีมติเอกฉันท์ 162 เสียงผ่าน #กฎหมายความมั่นคงฮ่องกง ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ ประกาศสู้ไม่ถอย พร้อมลงสมัครรับเลือกตั้งสภาท้องถิ่น

โจชัว หว่อง ประกาศผ่านเฟชบุ๊กส่วนตัวว่า เขาขอลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคและสมาชิกพรรคเดโมซิสโต ที่เขามีส่วนก่อตั้งขึ้น แต่จะเผยแพร่อุดมการณ์ในฐานะส่วนตัวต่อไป
.
เขาระบุว่า “เผชิญชะตากรรมคับขัน ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดี และต้องใช้ความกล้าหาญในการแบกรับ” พร้อมอ้างว่ากังวลความปลอดภัยในชีวิต และโทษจำคุก 10 ปี การสอบสวนอย่างทารุณ รวมถึงถูกส่งตัวไปยังประเทศจีน ไม่อาจแน่ใจถึงวันพรุ่งนี้ได้
.
สภาประชาชนแห่งชาติจีนได้ลงมติผ่านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติสำหรับฮ่องกงในเช้าวันนี้ รายละเอียดของกฎหมายนี้ไม่เป็นที่เปิดเผย แต่จะมีการกำหนดโทษสำหรับผู้ที่มีพฤติกรรมแบ่งแยกประเทศ ล้มล้างอำนาจรัฐ ก่อการร้าย และสมคบกับต่างชาติคุกคามความปลอดภัยของประเทศ แต่บทลงโทษ "จำคุก" นั้นเป็นเพียงการคาดการณ์ของสื่อในฮ่องกง ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัด
.
นอกจากโจชัว หว่อง แกนนำคนอื่นของพรรคเดโมซิสโต ก็ประกาศละทิ้งจากพรรคการเมืองของพวกตนเช่นเดียวกัน
.
นาธาน หลัว แกนนำอีกคนหนึ่งบอกว่า ภายใต้กฎหมายความมั่นคง ฮ่องกงจะเกิดการปฏิวัติวัฒนธรรมนองเลือด ชาวฮ่องกงจะรับโทษเพราะการแสดงความคิดเห็นและอุดมการณ์ ยิ่งเป็นบุคคลทางการเมืองยิ่งมีความเสี่ยงสูง ยากจะคาดถึงความปลอดภัยของตัวเองได้

แกนนำ #ประท้วงฮ่องกง บางคน ยังแจ้งว่า ได้เดินทางออกนอกฮ่องกงแล้ว โดยอ้างว่า การออกจากฮ่องกงไม่ได้แปลว่าละทิ้งการเรียกร้องประชาธิปไตยให้บ้านเกิดของตัวเอง เพียงแต่ขณะนี้ไม่อยากเผชิญผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นจากกฎหมายความมั่นคง.

 

จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของวิถีชีวิตชาวฮ่องกงนับตั้งแต่อดีตอาณานิคมอังกฤษแห่งนี้ถูกส่งกลับสู่อ้อมอกจีนเมื่อ 23 ปีก่อน ขณะที่สหรัฐฯ เริ่มกระบวนการถอดสถานะพิเศษของฮ่องกง โดยจะระงับส่งออกอาวุธ และจำกัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง



อ่าน - https://mgronline.com/around/detail/9630000066998

 

รัฐบาล #ญี่ปุ่น ไม่มีแผนจะประกาศภาวะฉุกเฉินอีกครั้ง แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัส #โควิด ในกรุงโตเกียวจะเพิ่มขึ้นเกือบวันละ 60 คนติดต่อกันมาหลายวัน




https://mgronline.com/japan/detail/9630000066946

 

โค้ชอ๊อดและคู่ชีวิตชาวจีน ร่วมยินดี 45 ปี สัมพันธ์จีน-ไทยฉันท์ครอบครัว ลึกซึ้งแล้วยิ่งลึกซึ้งขึ้นไป



เนื่องในวาระครบรอบ 45ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีนไทย เพจฯ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย (29 มิ.ย.) ได้แสดงความยินดีและส่งความหวังดีเป็นอย่างยิ่งในความสัมพันธ์ที่ดีงามของทั้งสองประเทศจะมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนตลอดไป
คณะบัลเลต์แห่งชาติจีน ได้แสดงบัลเลต์ “จิตวิญญาณนกกระเรียน” เนื่องในวาระครบรอบ 45ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีนไทย เพื่อแทนคำอวยพรจากประชาชนชาวจีนทุกคน
โอกาสอันเป็นมงคลนี้ นางเฝิง คุน อดีตกัปตันวอลเลย์ทีมชาติจีนและสามี นายเกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร อดีตผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย และ นายธรรศภาคย์ ชี นายมาริโอ้ เมาเร่อ นักแสดงชาวไทย ก็ได้ร่วมอวยพรกล่าวแสดงความยินดีเช่นกัน
นางเฝิง คุน อดีตกัปตันวอลเลย์ทีมชาติจีน กล่าวเป็นภาษาจีน "สวัสดีค่ะ ปีนี้เป็นปีครบรอบ 45ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีนไทย ในอดีตที่ผ่านมา จีนและไทยมีมิตรไมตรีที่ดีต่อกันมาโดยตลอด โดยเฉพาะในปีนี้ท่ามกลางโรคระบาด ดิฉันได้เห็นภาพของทั้งสองประเทศ ร่วมแรงร่วมใจ ช่วยเหลือพึ่งพากัน ส่งกำลังใจให้กัน จับมือกันก้าวพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบาก"
"ในวาระครบรอบ 45ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีนไทย ดิฉันของอวยพรให้มิตรภาพสองประเทศยืนยาว ประเทศสงบ ร่มเย็นเป็นสุข ขณะเดียวกัน หวังว่าในอนาคต ทั้งสองประเทศจะมีการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมและกีฬาเพิ่มมากขึ้น แต่งแต้มสีสันในชีวิตให้กับผู้คนทั้งสองประเทศ"
นายเกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร อดีตผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย กล่าวว่า "เนื่องในโอกาสครบรอบ 45ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ประเทศจีนและประเทศไทยในครั้งนี้ ผมมีความยินดีและดีใจมากที่ความสัมพันธ์ที่ดีงามของทั้งสองประเทศ ก่อมิตรภาพซึ่งกันและกันอย่างยาวนานในทุก ๆ ด้าน ทั้งทางด้านวัฒนธรรม ประเพณี การค้าขาย การเดินทาง การกีฬา การศึกษา และมิติอื่น ๆ อีกมากมาย"
"ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความสัมพันธ์ที่ดีงามของทั้งสองประเทศ จะมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน นำความผาสุขมาสู่พี่น้องประชาชนของทั้งสองประเทศตลอดไป"
"ความสัมพันธ์จีน-ไทยฉันท์ครอบครัว ลึกซึ้งแล้วยิ่งลึกซึ้งขึ้นไป" นางเฝิง คุนและนายเกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร คู่ชีวิตจีน-ไทย กล่าวด้วยความยินดี
พร้อมกันนี้ ยังมีสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา นายมาริโอ้ เมาเร่อ และนายธรรศภาคย์ ชี นักแสดงชาวไทย ร่วมกล่าวแสดงความยินดีด้วยภาษาไทยและภาษาจีน "ครบรอบ 45ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีนไทย ขอให้มิตรภาพสองประเทศจงเจริญ จีนไทยพี่น้องกันตลอดไป"

 

Jun 30 , 2020 องค์การค้าของ สกสค.ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 961 คน มีผล 1 ส.ค.นี้
.
นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการ กศน. ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. ได้ลงนามคำสั่งองค์การค้าของ สกสค.ที่ 45/2563 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2563 เรื่อง เลิกจ้างพนักงานเจ้าหน้าที่องค์การค้าของ สกสค. ด้วยองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (องค์การค้าของ สกสค.) เป็นองค์กรจัดหาผลประโยชน์ให้แก่สำนักงานคณะกรรมการสงเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
.
มีหน้าที่บริการส่งเสริมอำนวยความสะดวกในการจัดระบบการศึกษาของชาติในด้านการพิมพ์ หนังสือเรียน เอกสารทางการศึกษา ผลิตอุปกรณ์การศึกษา บริการธุรกิจทางการศึกษา ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากร ทางการศึกษามอบหมาย ประสพภาวะขาดทุนต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลาฃมากกว่า 15 ปี องค์การค้าของสกสค. จึงมีความจำเป็นที่ต้องเลิกจ้างพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปรับปรุงอัตรากำลังและผลประโยชนตอบแทนขององค์การค้าของ สกสค. ให้สอดคล้องกับภาระกิจ
.
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 16(5) แห่งข้อบังคับคณะกรรมการ สกสค. ว่าด้วยการ บริหารงานองค์การค้าของ สกสค. พ.ศ. 2554 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2556 ประกอบกับ มติคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาคราวประชุมครั้งที่ 5/ 2563 เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2563 จึงให้เลิกจ้างพนักงานเจ้าหน้ที่ จำนวน 961 ราย
.
โดยให้ได้สิทธิประโยชน์ตามที่กฏหมายกำหนดตามรายชื่อแนบท้ายคำสั่งนี้ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563
.
#องค์การค้า #สกสค #เลิกจ้าง #961คน #Misterban

 

“สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์” ฟันธง ทีมเศรษฐกิจใหม่เจอโจทย์ยาก เหตุ เศรษฐกิจดิ่วเหว หลังวิกฤตโควิด และไทยมีปัญหาความเหลื่อมล้ำสูง ระบุ ต้องเป็นคนที่มีความรู้การเงินการคลัง-ภูมิรัฐศาสตร์ สามารถสร้างความเชื่อมั่น และสร้างเอกภาพภายใต้ความคิดต่าง เชื่อ มีคนอาสา แต่ยังไม่กล้าเปิดตัว

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000067409

 

#เมลเบิร์นประกาศLockdown
#กักเขตชาวเมืองกว่า3แสนคนหลังเกิดการระบาดระลอกใหม่

ข่าวด่วนวันนี้ ทางการออสเตรเลียได้ประกาศ Lockdown เขตทางตอนเหนือของกรุงเมลเบิร์น รัฐวิคตอเลีย ที่เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ มีผลให้ชาวเมืองในพื้นที่ต้องถูกจำกัดบริเวณ หยุดเชื้อ อยู่บ้านกว่า 3 แสนคน เป็นเวลา 1 เดือน เริ่่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้

สาเหตุเนื่องจาก ตรวจพบการระบาดระลอกใหม่ในเมืองเมลเบิร์น ด้วยยอดตัวเลข 2 หลัก 2 วันติดต่อกัน ล่าลุดรายงานยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มในเมลเบิร์นเพิ่มขึ้นอีก 73 ราย และเพิ่มมากที่สุดในออสเตรเลีย

ทำให้ในรัฐวิคตอเลีย มียอดผู้ติดเชื้อที่เป็น Active case มากกว่า 300 ราย มากที่สุดในออสเตรเลียเช่นกัน และมีหลายคนที่ติดเชื้อไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ

โดยกลุ่มผู้ติดเชื้อรายล่าสุด มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มพนักงานทำความสะอาดที่เข้าไปดูแลในโรงแรมที่ถูกใช้เป็นที่กักตัวของชาวออสเตรเลียที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ

เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดระลอก 2 ทางการรัฐวิคตอเลียจึงสั่งปิดเมืองครอบคลุมถึง 36 เขตในกรุงเมลเบิร์น ชาวเมืองที่อยู่ในเขตดังกล่าว ต้องกักตัวอยู่บ้าน ออกไปซื้อของ พบแพทย์ได้เท่าที่จำเป็น

ส่วนชาวออสเตรเลียที่อยู่นอกพื้นที่ ไม่ว่าจะอยู่รัฐใดก็ตาม ถ้าเดินทางเข้าไปในเขตที่มีการประกาศ Lockdown ก็ต้องกักตัวเองอยู่บ้านเช่นกัน หากฝ่าฝืน มีโทษปรับสูงสุดถึง AUD$ 11,000

ก็ยังเป็นสถานการณ์ทีไว้ใจไม่ได้จริงๆ สำหรับ Covid-19 ที่ทำให้เรายังใช้ชีวิตกันได้ไม่เต็มที เจอ cluster เมื่อไหร่ ต้องถอยกลับมา lockdown กันใหม่ ช่างเป็นโรคระบาดที่น่ากลัวจริงๆ

สำหรับท่านใด ที่มีเพื่อน หรือ ญาติอยู่ในเมลเบิร์น ลองเช็คดูว่าบ้านอยู่ในเขตที่ทางการได้ประกาศ Lockdown หรือเคยเข้าไปในเขตพื้นที่เหล่านี้ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาหรือเปล่า จะได้ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขของทางออสเตรเลียได้ถูกต้องนะคะ เพราะมาตรการจับ ปรับ ที่ออสเตรเลียค่อนข้างเข้มงวดทีเดียว

เขตที่เพิ่งประกาศ lockdown มีอยู่ 10 กลุ่มตามรหัสไปรษณีย์ ครอบคลุม 36 เมืองดังต่อไปนี้ค่ะ

3012
Brooklyn, Kingsville, Maidstone, Tottenham, West Footscray

3021
Albanvale, Kealba, Kings Park, St Albans

3032
Ascot Vale, Highpoint City, Maribyrnong, Travancore

3038
Keilor Downs, Keilor Lodge, Taylors Lakes, Watergardens

3042
Airport West, Keilor Park, Niddrie

3046
Glenroy, Hadfield, Oak Park

3047
Broadmeadows, Dallas, Jacana

3055
Brunswick South, Brunswick West, Moonee Vale, Moreland West

3060
Fawkner

3064
Craigieburn, Donnybrook, Mickleham, Roxburgh Park, Kalkallo

ขอลงรายละเอียดเยอะหน่อย เพราะว่าในออสเตรเลีย โดยเฉพาะเมลเบิร์น ก็มีคนไทยอยู่เยอะเหมือนกัน จะได้ฝากข่าวไว้เป็นข้อมูลให้ทั้งคนไทยที่อยู่ทางโน้น และญาติมิตรที่อยู่ที่บ้านเราด้วย ยังไงก็รักษาตัวกันนะคะ

แหล่งข้อมูล

https://www.channelnewsasia.com/news/world/covid-19-coronavirus-australia-lockdown-suburbs-12889232

https://www.theguardian.com/world/l...08a1c3db3f6876#block-5efc17f98f08a1c3db3f6876

https://www.smh.com.au/national/cor...restrictions-ease-in-nsw-20200701-p557ud.html

https://www.theage.com.au/national/victoria/the-melbourne-suburbs-in-lockdown-20200630-p557pl.html

 

#ม๊อบฮ่องกงมาตามนัด
#ฉลองวันคืนเกาะภายใต้กฏหมายความมั่นคงใหม่

ชาวม๊อบฮ่องกงตัดสินใจลงถนน ไม่หวั่นกฏหมายความมั่นคงใหม่ ที่ทางการฮ่องกงเพิ่งประกาศเริ่มใช้เมื่อเช้านี้ ที่ตรงกับวันครบรอบคืนเกาะฮ่องกง 23 ปีพอดี โดยนางแครี่ ลัม ผู้ว่าการเกาะฮ่องกง เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง ม๊อบก็ไหลมาทันที

โดยช่วงบ่ายวันนี้ มีผู้ประท้วงมารวมตัวกันที่เก่า เวลาเดิม ย่าน Causeway Bay ไล่ยาวไปจนถีงหว่านไจ๋ มากกว่าพันคน เพื่อออกมาประท้วงกฏหมายความมั่นคงใหม่ของจีน และเรียกร้องเสรีภาพให้กับฮ่องกง ปะทะกับกลุ่มตำรวจฮ่องกง ขว้างปาข้าวของ กระป๋อง สเปรย์พริกไทย วุ่นวายไปทั้งท้องถนน

ซึ่งตอนนี้ มีรายงานว่าทางตำรวจได้จับกุมผู้ประท้วงไปแล้วกว่า 300 คน ที่จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมายความมั่นคงใหม่แล้วนับแต่วันนี้

โดยปกติ มักมีชาวฮ่องกงมาประท้วงจีนในวันคืนเกาะเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว แต่นับจากนี้เป็นต้นไป การประท้วงจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น เพราะทางการจีนแผ่นดินใหญ่เปิดหน้าแทรกแซงกระบวนการปกครองท้องถิ่นของชาวฮ่องกงอย่างเต็มตัว

ซึ่งเป็นผลจากการประท้วงอย่างหนัก และยาวนานของชาวม๊อบฮ่องกง ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา และยังถึงขั้นเรียกร้องให้ชาติตะวันตกเข้ามาแทรกแซงการเมืองในฮ่องกง

นี่เป็นเพียงการปะทะกันแค่ช่วงเช้า งานฉลองใหญ่ในวันคืนเกาะยังรอชาวฮ่องกงอยู่ในค่ำคืนนี้ นับเป็นงานฉลอง 2 นครา ที่เป็นเอกลักษณ์ของฮ่องกง ที่ไม่มีใครเหมือนจริงๆ

แต่ทั้งนี้ เตือนกันอีกครั้งนะค้า หากต้องการชมพลุไฟ ควรหลีกเลี่ยงย่านที่มีการชุมนุมในวันนี้จะดีกว่า จะได้ไม่โดนลูกหลงนะค้า

แหล่งข้อมูล

https://www.straitstimes.com/asia/e...-for-hong-kong-since-handover-chief-executive
https://www.scmp.com/news/hong-kong...curity-law-hong-kong-police-make-first-arrest

 

#ผ่าประเด็นกฏหมายความมั่นคงใหม่ฮ่องกง
#ยาแรงของจีนvsบทบาทในอนาคตของฮ่องกง

ในที่สุด ทางการจีนแผ่นดินใหญ่ก็ได้เปิดเผยร่างกฏหมายความมั่นคงใหม่ของฮ่องกง ที่จะเริ่มต้นใช้แล้วในเดือนกรกฎาคมนี้ ออกมาต้อนรับงานฉลองวันคืนเกาะฮ่องกงให้กับจีน ปีนี้ครบรอบ 23 ปี

ราวกับธรรมเนียมของทางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เวลาจะประกาศอะไร ชอบมาดึกๆ แต่ไม่ว่าจะมากี่โมง ความเข้มข้นของข่าวก็ไม่ต่างกัน เพราะสำนักข่าวทั่วโลกเขาปักธงรอฟังอยู่แล้ว

รายละเอียดคร่าวๆของกฏหมายความมั่นคงใหม่ฮ่องกง มีดังนี้

- ความผิดใน 4 ข้อหา ได้แก่ การแบ่งแยกดินแดน การล้มล้างรัฐบาล ก่อการร้าย และสมคบกับต่างชาติ ถือคดีความมั่นคง มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ถึงโทษสูงสุด จำคุกตลอดชีวิต

- องค์กร หรือ กลุ่มบุคคลที่เกี่ยวกับความผิดในกฏหมายความมั่นคง มีโทษตั้งแต่ปรับ ถึงระงับกิจการ

- การทำลายระบบขนส่งมวลชน หรือทรัพย์สินสาธารณะ ถือเป็นความผิดฐานก่อการร้าย

- ใครก็ตาม ที่เคยถูกดำเนินคดีทีเกี่ยวข้องกับกฏหมายความมั่นคงจะถูกตัดสิทธิ์ในการเลือกตั้ง

- ผู้ที่ถูกดำเนินคดีกฏหมายความมั่นคงใหม่ ต้องขึ้นศาลด้านความมั่นคง ไม่ใช่ศาลของรัฐบาลฮ่องกง

- เจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ติดตาม สอดส่อง หรือดักฟังโทรศัพท์ผู้ต้องสงสัยที่จะเป็นภัยคุกความความมั่นคงได้ทุกเมื่อ

- หน่วยงาน NGO และสำนักข่าวจะถูกตรวจสอบเข้มกว่าเดิม

และสุดท้ายคือที่สุด กฏหมายฉบับนี้บังคับใช้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชาวฮ่องกง หรือคนต่างชาติ

นับเป็นการผ่านร่าง และบังคับใช้กฏหมายด้านความมั่นคงที่ออกมาไวทุบสถิติ ที่ตอนแรกทางจีนว่าจะมีผลใช้ในปีหน้า แต่ไปๆมาๆ ประกาศใช้เลยหลังจากที่จีนผ่านสภาอนุมัติให้ร่างได้เมื่อเดือนที่แล้วเอง

แค่มีข่าวว่ากฏหมายใหม่จะออกมา โจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวคนดัง และหัวหน้าพรรค Demosisto ประกาศถอนตัวออกจากพรรคทันที แล้วหลังจากหัวพรรคหาย ลูกพรรคก็ประกาศยุบพรรค สลายตัวทันทีในเวลาต่อมา

เพราะทุกอย่างต้องเลิกก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม ที่กฏหมายนี้จะประกาศ มิฉะนั้น จะเข้าข่ายผิดกฏหมายความมั่นคงทันที และคงไม่มีใครอยากจะฉลองตัดริบบิ้นเป็นคนแรก

และแน่นอนว่า หลังจากที่จีนประกาศใช้กฏหมายใหม่ ทั้งสหรัฐ อังกฤษ ออกมาขยับ และมีการล่ารายชื่อกว่า 27 ชาติร่วมกดดันจีนให้ถอนกฏหมายความมั่นคงนี้ออกไป แต่จีนก็ตอบโต้ว่า นี่คือเรื่องภายในประเทศ

อย่างที่เราเคยคุยกันแล้ว ฮ่องกงจะกลายเป็นสนามรบในสงครามตัวแทน (เชิงเศรษฐกิจ และ การเมือง) ระหว่างสหรัฐ กับจีน

และจีนก็พร้อม หากจำเป็นต้องเปลี่ยนเกาะภูเก็ต ให้กลายเกาะสีชัง ก็ต้องยอม

แต่ชาวฮ่องกงจะพร้อมไหม?

มีหลายฝ่ายเชื่อว่า กฏหมายความมั่นคงใหม่จะจุดกระแสการประท้วงรอบใหม่ ที่ใหญ่กว่าเก่าในฮ่องกง

จากเดิมที่เคยประท้วงต่อต้านกฏหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ตอนนี้ชาวฮ่องกงเลยได้กฏหมายความมั่นคงมาแทน สุดจัดยิ่งกว่าเก่าอีก

เมื่อชาวม๊อบฮ่องกงเคยบอกว่ายอมเสียทุกอย่าง จีนก็ยอมเทยกเกาะ และสหรัฐก็พร้อมบี้สุดชีวิต ดังนั้น อนาคตของฮ่องกง ก็จะมีแต่ ร้าง เละ และ โรยรา

แหล่งข้อมูล

https://www.aljazeera.com/news/2020...y-law-hong-kong-unveiled-200630151906406.html

https://en.m.wikipedia.org/wiki/Demosistō

 

#จับตา_3_ประเด็นร้อนหลังวันที่_1_กรกฎาคม
#เปิดฤกษ์การเมืองโลกในครึ่งปีหลัง

เวลาผ่านไปแป๊บๆ ก็จะหมดครึ่งปีแรกของปี พ.ศ. 2563 กันแล้วนะคะ บอกได้เลยว่าเป็นครึ่งปีที่เหนื่อยมาก ที่ทั้งบ้านแรา และทั่วโลกผ่านเหตุการณ์ร้ายๆมา แทบไม่ต่างจากสงครามโลกกันเลยทีเดียว

พรุ่งนี้ 1 กรกฎาคม วันแรกของครึ่งปีหลัง ก็ใช่ว่าจะเข้าสู่สเตจ Cool Down ให้เราได้พัก เพราะในวันพรุ่งนี้ จะมีเหตุการณ์ที่น่าจับตามองพร้อมกันถึง 3 เรื่อง ใน 3 มุมโลกเลยทีเดียว

แต่จะมีเรื่องอะไรนั้น เดี๋ยวเรามาสรุปกันดู

1 กรกฎาคมนี้ ที่อิสราเอล
เป็นวันที่ บีบี้ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้เคยกำหนดไว้ว่าจะเป็นวัน Deadline ที่อิสราเอลจะเริ่มผนวกดินแดนในเขต West Bank ทางฝั่งของปาเลสไตน์ ไป 30% ตามเงื่อนไขในข้อตกลง Middle East Peace Plan

Middle East Peace Plan หรือที่นักข่าวส่วนใหญ่มักเรียกว่า Trump Plan เป็นการลงนามตกลงกันเองระหว่างสหรัฐ และ อิสราเอล เมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา โดยอ้างว่าทำเพื่อยุติข้อพิพาทระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ และเดินหน้าเป้าหมายของ Two-State Solution?

เรื่องราวเบื้องหลังของการเซ็นข้อตกลง Trump Plan เคยเขียนแชร์ไว้แล้ว อย่างละเอียดยิบ ย้อนอ่านได้ที่นี่ค่ะ



โดยการลงนามข้อตกลง Trump Plan ก็เป็นการพูดเอง เออเองแค่ระหว่าง สหรัฐ กับ อิสราเอล ไม่มีคนของปาเลสไตน์ไปร่วมด้วย และก็แทบไม่มีใครเห็นด้วยกับเงื่อนไขการผนวกดินแดน West Bank ของอิสราเอลเลย

ที่ผ่านมาทั้งกลุ่ม อาหรับ ลีค องค์การสหประชาชาติ และ สหภาพยุโรป ต่างก็ออกมาคัดค้าน แม้แต่นายเบนนี่ แกนซ์ หัวหน้าพรรค ฟ้า-ขาว ที่ยอมร่วมรัฐบาลเฉพาะกิจกับ บีบี้ ก็ยังเตือนว่า เรื่องผนวกดินแดน เลื่อนไปก่อนดีไหม

แต่บีบี้ ก็ยังยืนยันจะเริ่มเดินหน้าตามแผนในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ที่หลายฝ่ายก็วิตกว่า มันจะกลายเป็นชนวนความขัดแย้งกันไปถึงรุ่นลูก รุนหลาน

สำนักข่าวต่างประเทศวิเคราะห์ว่า ที่บีบี้ เนทันยาฮู เร่งที่จะให้มีการลงนามข้อตกลงสันติภาพกับสหรัฐ และผนวกดินแดน West Bank ให้ทันภายในปีนี้ เพราะไม่อยากรอจนถึงการเลือกตั้งสหรัฐตอนปลายปี ที่ยังไม่รู้ว่าท่านเสี่ยทรัมพ์ จะกลับมาได้หรือไม่

และหากโจ ไบเดน ชนะ ก็อาจจะมีผลกับข้อตกลงที่เซ็นไปแล้ว เพราะโจ ไบเดน เคยบอกว่า ไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงผนวกดินแดนของอิสราเอล ดังนั้น จึงต้องเร่งให้เสร็จทุกอย่างในทรัมพ์ 1 น่าจะดีที่สุด (สำหรับฝ่ายอิสราเอล)

ดังนั้น สถานการณ์ใน West Bank หลังวันที่ 1 กรกฎาคม จึงเป็นที่จับตามองกันมากทีเดียว

**********

1 กรกฎาคม ในฮ่องกง
จะเป็นวันครบรอบการคืนเกาะฮ่องกงให้แก่จีน ที่ปีนี้ครบรอบ 23 แล้ว

โดยปกติ วันนี้ ที่ฮ่องกง จะเป็นวันฉลองใหญ่สำหรับทางแผ่นดินจีนเขา แต่ไม่ใช่สำหรับชาวฮ่องกง ที่มักจะนัดกันออกมาประท้วงจีนทุกปี และเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จนมาพีคสุดเมื่อปีที่แล้ว 2019 ที่มีกระแสต่อต้านกฏหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนพอดี ที่ทำให้มีผู้มาร่วมเดินเดินประท้วงมากกว่า 5 แสนคน มากที่สุดเท่าที่ชาวฮ่องกงเคยเดินประท้วงในวันคืนเกาะที่ผ่านมาเลยทีเดียว

และในปีนี้ ชาวฮ่องกงก็ไม่พลาด มีนัดชุมนุมประท้วงเหมือนเช่นทุกปี ท่ามกลางความคลุมเครือ ของกฏหมายความมั่นคงใหม่ ที่ทำให้การปลุกระดม เรียกคนเพื่อชุมนุมประท้วง อาจทำได้ไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน

แต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีการเดินประท้วงเลย ปีนี้ก็มีนัดกันแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เตรียมชุดควบคุมฝูงชน สำรองไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ถึง 4,000 คน ดูแลทั้งงานฉลองจุดพลุเปรี้ยงปร้าง และ งานม๊อบไปด้วยในงานเดียวกัน เกิดเป็นตำรวจฮ่องกงยุคนี้ เหนื่อยจริงๆ

และสุดท้าย วันที่ 1 กรกฎาคม ที่รัสเซีย
เป็นวันปิดหีบการลงประชามติว่าด้วยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญรัสเซีย ที่จะขยายวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ได้อีกเรื่อยๆ ของป๋าปูตินของเรา ที่เปิดให้ลงคะแนน 1 อาทิตย์ เต็มๆ ทั้งระบบออนไลน์ และ ออฟไลน์

และหากผลประชามติออกมาว่าคนรัสเซียยอมรับ ให้ปูตินอยู่ในตำแหน่งได้เท่าที่สบายใจ เท่ากับว่าท่านป๋าก็อาจอยู่ยาวได้จนถึงปี 2036 ยาวจนหลานโต

สิ่งที่น่าจับตาไม่ใช่ผลว่าป๋าปูตินจะผ่านหรือไม่ แต่ผ่านด้วยคะแนนเท่าไหร่ อย่างไรมากกว่า

เพราะระดับป๋าปูติน หลายฝ่ายเชื่อว่า น่าจะผ่านได้ไม่ยาก แต่จะดูดีกว่าไหม ถ้าป๋าปูตินสามารถผ่านได้อย่างฉลุย อย่างน้อยสัก 70% ไม่ใช่แต่พอผ่านคาบลูก คาบดอก ย่อมไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของป๋า และเสถียรภาพของรัฐบาลในระยะยาว

และผลคะแนนเทียบระหว่างการลงคะแนนออนไลน์ กับเข้าคูหา กาถูกแบบดั้งเดิม เพราะถ้าผลคะแนนทั้้ง 2 รูปแบบ ไปในทิศทางเดียวกัน ก็ดีไป

แต่ถ้าไม่ มันก็จะสะท้อนความเห็นคนกลุ่มคนหลาย Generation ต่อระบอบปูติน ที่จะต้องอยู่ร่วมกันไปอีกหลายปีนับจากนี้

ทุกประเด็นที่ยกมา หลังวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ รู้กัน

ช่างเป็นปีที่ดุมากจริงๆ แค่เริ่มวันแรกของปี ยังดุขนาดนี้ กว่าจะถึงสิ้นปี โลกเราจะเปลี่ยนไปขนาดไหน ก็ไม่รู้นะคะ

แหล่งข้อมูล

https://en.wikipedia.org/wiki/Benny_Gantz

https://www.scmp.com/news/hong-kong...national-security-law-passed-beijing-expected
https://www.scmp.com/news/hong-kong...activists-plan-defy-police-ban-july-1-protest

https://www.euronews.com/2020/06/24...bout-putin-s-july-1-constitutional-referendum
https://en.wikipedia.org/wiki/2020_Russian_constitutional_referendum

 

#EUเปิดพรมแดนแล้ว
#ไทยติดอยู่ในกลุ่ม15ประเทศแรกที่เข้าEUได้

คนไทยเตรียมเฮ EU ประกาศรายชื่อ 15 ประเทศแรกที่สามารถเดินทางเข้าเมืองในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรปได้แล้ว หนึ่งในนั้นคือประเทศไทย

หลังจากที่ชาติสมาชิกใน EU ได้ประชุมหารือกันที่เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม เรื่องมาตรการเปิดพรมแดน ที่จะเริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ และร่วมโหวตว่าจะอนุญาตให้ประเทศใดบ้าง นอกกลุ่มสมาชิก EU ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ายุโรปได้

จนล่าสุด เคาะแล้ว 15 ประเทศแรก ที่ทาง EU ไว้ใจให้เข้าเมืองได้แก่

แอลจีเรีย ออสเตรเลีย แคนาดา จอร์เจีย ญี่ปุ่น มอนเตร เนโกร โมรอคโค นิวซีแลนด์ รวันดา เซอร์เบีย เกาหลีใต้ #ไทย ตุนิเซีย อุรุกวัย และ *จีน (ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด)

โดยทาง EU เน้นย้ำว่า เป็นการตัดสินใจที่ใช้มาตรฐานด้านสาธารณสุขเป็นเกณฑ์ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเมืองใดๆทั้งสิ้น

ซึ่งกลุ่มประเทศเหล่านี้ มีการควบคุมการแพร่ระบาดได้ดี เป็นที่ไว้วางใจของทาง EU ที่จะให้เข้าเมืองได้นั่นเอง

ถือเป็นความสำเร็จด้านสาธารณสุขของไทยทีเดียว ที่สามารถเอาเจ้า Covid-19 อยู่ จนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และความสำเร็จนี้ ก็เป็นของคนไทยทุกๆคนที่เราร่วมมือกัน

แต่ที่น่าแปลกใจคือ จีนติดอยู่ในลิสต์กลุ่มแรกนี้ ถึงแม้ว่ายังต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขพิเศษ ที่ยังไม่ระบุรายละเอียดในตอนนี้

อย่างที่รู้กัน จีนเป็นประเทศแรกที่เจอวิกฤติไวรัส ก่อนที่จะกระจายไปทั่วโลก และเพิ่งจะมีข่าวการแพร่ระบาดครั้งใหม่ที่ปักกิ่ง แต่ก็เริ่มควบคุมได้แล้ว

พอเปิดมามีจีนนี่ เซอร์ไพรซ์เลย

โดยทาง EU ย้ำชัดอีกครั้งว่า นี่ไม่ใช่เรื่องการเมือง เราเน้นความปลอดภัยด้านสุขภาพ

เพราะน่าจะมีอย่างน้อยหนึ่งประเทศ ที่ออกมาโวยวายว่า ทำไมประเทศนั้นได้ ประเทศนี้ไม่ได้ ถ้ามีประเทศนั้นมา เราจะคว่ำบาตร

ประเทศที่คุณน่าจะรู้ว่าใคร

ด้วยสถานการณ์เชื้อไวรัส ที่แพร่ระบาดอย่างหนักมาก และยังไม่สามารถควบคุมไม่ได้ EU ก็ยังจำเป็นที่ต้องห้ามพลเมืองของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐเข้าเมืองไปก่อน

และยังไม่สามารถตอบได้เลยว่า จะเปิดพรมแดนให้ชาวอเมริกันเข้าเมืองได้เมื่อไหร่ หากสถานการณ์ยังวิกฤติอยู่อย่างนี้

นี่อาจะเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ที่โลกต้องจารึกทีเดียวว่า ประเทศระดับสหรัฐ เคยถูกทั่วโลกแบน ไม่กล้าให้เข้าเมือง

แต่จนถึงขนาดนี้ ท่านเสี่ยทรัมพ์ของเรา ก็ยังเกรี้ยวกราดไม่ถูกจุด เพิ่งจะประกาศขู่ว่าจะทำสงครามการค้ารอบใหม่กับ EU และตั้งกำแพงภาษีสินค้าจากกลุ่มสหภาพยุโรปเพิ่ม

และหากรู้ว่า EU เปิดเมืองให้จีนเข้าเมืองได้แล้ว แกคงโกรธหัวฟัด หัวเหวี่ยงน่าดู

แต่ทั้งนี้ ทาง EU ก็บอกว่า รายชื่อกลุ่มประเทศที่จะเข้า EU นี้ สามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ตามสถานการณ์ ถ้าเราการ์ดตก เจอการระบาดระลอกใหม่ เราก็มีสิทธิ์หลุดได้เหมือนกัน

แล้วก็ไม่ได้หมายความว่า ถ้าเขาเปิดให้เราเข้าเมืองได้แล้วเราจะบินไปเที่ยวกันได้ทันทีนะค้า ตอนไป เข้าได้ ตอนขากลับเมืองไทยยังต้องถูกกักตัว 14 วันอยู่น้า เพราะตอนนี้ หลายประเทศในยุโรปยังเสี่ยง Covid มากกว่าประเทศไทยหลายเท่า

เพราะฉะนั้น จนกว่าที่โลกจะควบคุมการแพร่ระบาดได้ ก็ยังควรงดเดินทางนอกประเทศก่อนน่าจะดีกว่านะค้า

แหล่งข้อมูล

https://www.euronews.com/2020/06/29...will-be-allowed-to-enter-eu-when-borders-open

https://edition.cnn.com/2020/06/29/europe/eu-travel-ban-us-coronavirus/index.html

 

นวัตกรรม ผ้ายับยั้งเชื้อไวรัส สามารถซักและนำกลับมาใช้ใหม่ได้

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้ผู้คนทั่วโลกรวมถึงคนไทย ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส ซึ่งจะกลายเป็นวิถีชีวิตใหม่ของคนไทย เครือสหพัฒน์ในฐานะผู้นำในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ได้พัฒนา นวัตกรรม ที่ช่วยดูแลสุขภาพสำหรับคนไทย

นวัตกรรมนี้ทำมาเพื่อให้สามารถใช้ได้ในทุกกลุ่ม ทั้งเด็กเล็ก คนทำงาน ผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย โดยล่าสุด ได้นำนวัตกรรมผ้ายับยั้งเชื้อไวรัส มาใช้ในการผลิตหน้ากาก และเสื้อผ้า ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ในยุคที่ต้องเผชิญกับเชื้อโรคต่างๆ ซึ่งในอนาคตจะมีการนำนวัตกรรมนี้ ไปผลิตสินค้าประเภทอื่นๆ เพิ่มในกลุ่มเครื่องแต่งกายและแฟชั่น

นวัตกรรมผ้ายับยั้งเชื้อไวรัส จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่กังวลเรื่องการติดเชื้อไวรัส เพราะเนื้อผ้าเคลือบด้วยสารที่มีคุณสมบัติช่วยลดการสะสมของเชื้อไวรัสได้ โดยได้ทำการทดสอบกับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H3N2 ซึ่งสามารถซักและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติ ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ปลอดภัยใช้ได้แม้กับเด็ก เนื้อผ้าแห้งไว และระบายอากาศได้ดี

ขณะนี้ แบรนด์ต่างๆ ใน เครือสหพัฒน์ อาทิ Wacoal Absorba Arrow และ Erawon ได้นำ นวัตกรรม ผ้ายับยั้งเชื้อไวรัส ไปใช้ในการผลิตหน้ากาก และเสื้อผ้า ซึ่งจะเปิดตัวและจำหน่ายให้กับผู้สนใจเป็นครั้งแรกใน งานสหกรุ๊ปแฟร์ ออนไลน์ ปี 63 ที่ www.sahagroupfair.com ระหว่างวันที่ 2-5 กรกฎาคม 2563

The post นวัตกรรม ผ้ายับยั้งเชื้อไวรัส สามารถซักและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์