ติดตามสถานะการณ์

เวียดนาม : ประกาศผู้ติดเชื้อรายใหม่ + 28 ราย ติดในประเทศ 26 ราย (ดานัง 18, กว๋างนาม 5, โฮจิมินห์ 2, ไทยบินห์ 1)นำเข้า 2 จากอินโดเที่ยวบิน VJ2432 รอบเช้าประกาศ 12 ราย ทำให้รวมวันนี้ 40 ราย ส่วนใหญ่การติดชื้อรายใหม่ยังอยู่ในดานัง
รวมเคสระบาดในดานังตั้งแต่ 25 ก.ค.รวม 145 รายกระจายสู่ 7 จังหวัด มีผู้เสียชีวิต 2 รายวันนี้
** แผนภาพ 116 รายที่ติดจากโรงพยาบาลคลีนิคในดานัง 6 แห่ง ในช่วงแรกไม่ทราบว่ามีเชื้อ

 

แจกสูตรซอสผัดกะเพรา
.
ผัดกะเพรา เป็นอาหารจานเดียวของกัมพูชาที่ได้รับความนิยมที่สุดจานหนึ่ง เป็นอาหารริมทาง อาหารตามสั่งที่มีทั่วไปในประเทศไทย บางครั้งเรียกว่า เมนูสิ้นคิด เนื่องจากเมื่อจะสั่งอาหารแล้วไม่รู้ว่าจะรับประทานอะไรก็มักจะสั่งผัดกะเพรา
.
วันนี้เราจะมาเผยวิธีทำซอสผัดกะเพราเก็บไว้ใช้กัน สามารถทำเก็บใส่ตู้เย็นไว้รับประทานเอง หรือหากจะเปิดร้านขายข้าวผัดกะเพราสร้างรายได้ก็ดี ผัดกี่จานรสชาติก็อร่อยเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน
.
ส่วนผสมซอสผัดกะเพรา:
.
กระเทียมสับ 500 กรัม หอมแขกสับ 500 กรัม ขี้หนูสวนสับ 200 กรัม พริกจินดาเขียวแดงสับ 300 กรัม รากผักชีสับ 50 กรัม น้ำปลา 1/2 ถ้วย ซอสหอยนางรม 1 ถ้วย ซอสถั่วเหลือง (ฝาเขียว) 1/3 ถ้วย น้ำตาลปีบ 150 กรัม (4 ชต พูนๆ) น้ำซุป 1.5 ถ้วย รสดีไก่ 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ (จะได้ซอสผัดกะเพราประมาณ 1 โหลใหญ่)
.
วิธีทำ: ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน รอจนร้อน ใส่กระเทียมสับ หอมแขกสับ ขี้หนูสวนสับ พริกจินดาเขียวแดงสับ รากผักชีสับ ผัดในน้ำมันจนมีกริ่นหอม ใส่น้ำปลา ซอสหอยนางรม ซอสถั่วเหลือง น้ำตาลปีบ น้ำซุป รสดีไก่ เกลือป่น พริกไทยป่น ซีอิ๊วดำ ผัดต่อจนเข้ากันดีมีกลิ่นหอม ปิดไฟ ทิ้งให้เย็น นำใส่ภาชนะ (ขวดโล) ใส่ตู้เย็นเก็บไว้ใช้ได้นาน หรือ ทำเป็นซอสบรรจุขวดขายได้
.
วิธีนำซอสมาใช้: ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย ใส่เนื้อสัตว์ ผัดจนสุกพอประมาณ ใส่ซอสกะเพรา 2-3 ช้อนโต๊ะ ผัดต่อจนหอม ใส่ใบกะเพรา ผัดให้ใบกะเพราสลบ ปิดไฟ ตักใส่จานเสิร์ฟ
.
ขอบคุณ คุณโป้ง เจ้าของเพจ Pong SinnerMann

อ่านเพิ่มเติม: https://mgronline.com/smes/detail/9...7DYjMa0SVFVg0_wxoqoGWTgIMkqGwUn5Mc3XMeBKaWjjk
.
#mgronline #แจกสูตรซอสผัดกะเพรา

 

“โรคพยาธิในช่องคลอด” ภัยเงียบที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

https://mgronline.com/infographic/detail/9630000077816

#MGRONLINE #โรคพยาธิในช่องคลอด #ภัยเงียบที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

 

#อิวาเตะ (1 ส.ค.) ผู้ติดเชื้อโควิดรายแรกของ จ. อิวาเตะโดนบูลลี่ไม่หยุด ผู้ว่าเผย “จะเป็นยักษ์ถ้าจำเป็น”

บูลลี่ หมายถึง โดนรังแก / โดน social sanction / โดนเหยียด

โดนด่าและเหยียดบนเน็ตและต่อว่าไปที่บริษัทไม่หยุด

รายละเอียดผู้ติดเชื้อ คนแรก ชายวัย 40s เมืองโมริโอกะ
- ไปแคมป์ฝั่งคันโต 22-26 ก.ค.
- เพื่อนที่ไปด้วยกันติดโควิด ตนจึงไปติดต่อสายด่วน จึงทำให้พบเป็นบวก
-29 ก.ค. พบว่าเป็นบวก

บ. ที่ทำงานประกาศเรื่องมีพนักงานติดเชื้อบนโฮมเพจ คืนวันที่ 29 ก.ค. โดยชายผู้ติดเชื้อไปทำงาน 2 วัน แต่ไม่ได้เจอกับลูกค้า จึงมีการอธิบายบนโฮมเพจ

☎️ตั้งแต่นั้นมาจนถึงวันที่ 31 ก.ค. มีโทรศัพท์ไปถึงบริษัทประมาณ 100 สาย มีทั้งสอบถามเฉย ๆ และไม่ไม่น้อยโทรมาต่อว่า

ส่งเมลมาเหยียดบ้าง

มาด่าถึงออฟฟิศบ้าง

โฮมเพจบริษัทตั้งแต่คืนวันที่ 30 ก.ค. คนเข้าเยอะมากจนดาวน์ไปพักหนึ่ง บนอินเทอร์เน็ตมีความพยายามจะหารูปของผู้ติดเชื้อ และเอาภาพบนโฮมเพจไปใช้โดยพลการบ้าง บ. จึงต้องปิดโฮมเพจชั่วคราว

บ. เผยว่า “ที่เปิดเผยข้อมูลเพราะต้องการรถความไม่สบายใจของค้า แต่กลายเป็นว่า เจ้าตัวที่ติดเชื้อและพนักงานคนอื่น ๆ รวมไปถึงครอบครัว ต้องเจอกับเรื่องไม่ดีเช่นนี้ เข้าใจแล้วว่าถ้าเป็นโควิดจะกลายเป็นแบบนี้ เป็นโรคที่เป็นไม่ได้เลย”

————

ผู้ว่าราชการจังหวัดอิวาเตะ เผยว่า บางเคสเป็นคดีความได้ และกับคนที่บูลลี่ผู้ติดเชื้อ ตนจะยอมเป็นยักษ์ถ้าจำเป็น

✒️เศร้าจริงจังค่ะ... คือ คนติดเชื้อแล้วจงใจหนีแบบลุงไซตามะยังพอเข้าใจได้ถ้าจะโกรธ แต่นี่รัฐบาลทำ Go To Campaign สนับสนุนให้เที่ยว กฎหมายก็ไม่ได้ทำผิด นี่ต้องโดนอะไรขนาดนี้???

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น

https://news.yahoo.co.jp/articles/8d66d71328cf5937a0cbe9943191ce2763ecb305

 

เกิดขึ้นเมื่อเสพโคเคน!'นพ.แท้จริง'โชว์ผลตรวจ'บอส'สาร 2 ชนิดไม่มีปะปนในยาหรืออาหารอื่น
เขียนวันที่ วันเสาร์ ที่ 01 สิงหาคม 2563 เวลา 17:00 น.เขียนโดย isranews

'นพ.แท้จริง' โชว์เอกสารสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ระบุสารแปลกปลอม 2 ชนิดในตัว 'บอส อยู่วิทยา' เกิดได้เมื่อเสพโคเคน ไม่มีปะปนในยาหรืออาหารอื่น จี้คณะทำงานทุกชุดหาคำตอบให้สังคม ย้ำ ยาเสพติดไม่เหมือนแอลกอฮอล์ ตรวจพบในร่างกายต้องเอาผิดได้ตามกฎหมาย



สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ โพสต์ภาพผ่าน แท้จริง ศิริพานิช ซึ่งเป็นบันทึกข้อความ ลงวันที่ 16 ต.ค.2555 จากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ (นต.รพ.ตร.) ส่งถึงผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ (สน.ทองหล่อ) โดยเนื้อหาตอนหนึ่ง ระบุว่า ตามหนังสือ สน.ทองหล่อ ที่ ตช. 0015 (บก.น.5)3/1370 ลงวันที่ 9 ต.ค.2555 เรื่องขอตรวจสอบชื่อสารแปลกปลมที่ตรวจสอบในร่างกาย ตามสำเนาผลตรวจเลือดของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมือ่ปี 2555 โดยเป็นผลตรวจเลือดที่ดำเนินการโดยโรงพยาบาลรามาธิบดี พบสาร 4 ชนิด คือ Alprazolam , Benzoylecgonine , Cocaethylene และ Coaffeine

โดย สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ (นต.รพ.ตร.) ได้ตอบคำถามในหลายประเด็น เกี่ยวกับสารทั้ง 4 ชนิด ดังต่อไปนี้

1.Alprazolam ถูกจัดอยู่ในวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 4 ตาม พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 เป็นสารแปลกหลอมที่ไม่มีปนในอาหาร แต่พบเป็นยาคลายวิติกกังวล ในรูปแบบยาเม็ด ในชื่อการค้าต่างๆ ทั้งนี้ Alprazolam มีขายได้เฉพาะร้านขายยาที่มีใบอนุญาตและผู้ซื้อต้องมีใบสั่งแพทย์เท่านั้น โดยสารชนิดนี้ อยู่ในร่างกายได้นาน 44-60 ชั่วโมง

2.Benzoylecgonine ไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษ หรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท แต่เป็นเมตาบอไลต์หรือสารที่เกิดในร่างกาย เมื่อเสพโคเคน (Cocaine) ซึ่งโคเคน จัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 โดยสารชนิดนี้ ไม่มีปนในยาหรืออาหารใดๆ และอยู่ในร่างกายได้นาน 20-40 ชั่วโมง

3.Cocaethylene ไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษ หรือ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท แต่เป็นเมตาบอไลต์ที่เกิดขึ้นในร่างกายเมื่อเสพโคเคน ร่วมกับแอลกอฮอล์ (Alcohol) สารชนิดนี้ไม่มีปนในยาหรืออาหารใดๆ และมีค่าครึ่งชีวิต (Half Life) ประมาณ 2.61 ชั่วโมง ที่ความเข้มข้นของโคเคน 0.3 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ของน้ำหนักตัว และถูกกำจัดออกจากร่างกายใน 10-12.5 ชั่วโมง

4.Coaffeine ไม่จัดเป็นนยาเสพติดให้โทษ หรือ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พบได้ทั่วไปทั้งในเครื่องดื่มพวกชา กาแฟ น้ำอัดลมบางชนิด เครื่องดื่มบำรุงกำลัง พบในช็อคโกแลตที่ผลิตขึ้นจากเมล็ดโกโก้ และในอาหารเสริมบางประเภทสูตรลดน้ำหนัก รวมทั้งประกอบในยาบางประเภทสูตรแก้ปวดต่างๆ เป็นต้น และอยู่ในร่างกายได้นาน 12-35 ชั่วโมง

นพ.แท้จริง เปิดเผยว่า เอกสารฉบับนี้มีผู้หวังดีส่งมาให้ เพื่ออธิบายให้เห็นว่า สารทั้ง 4 ชนิดที่พบในตัวนายวรยุทธเป็นอย่างไร จะเห็นได้ว่า สารทั้ง 4 ชนิดไม่ใช่สารเสพติด แต่ Benzoylecgonine และ Cocaethylene ระบุไว้ชัดเจนว่าเกิดได้จากสารเสพติดประเภทโคเคน และไม่มีปะปนในยาหรืออาหารใดๆ ดังนั้นประเด็นในเอกสารฉบับนี้จึงมีความสำคัญมาก ที่คณะทำงานแต่ละชุดจะต้องพิสูจน์และตรวจสอบข้อเท็จจริงให้สิ้นสงสัยว่า สาร 2 ชนิดที่เป็นปัญหาที่พบในตัวนายวรยุทธ มีที่มาอย่างไร

“ยาเสพติดไม่เหมือนแอลกอฮอล์ เวลาเราพบนักดื่มเมาแล้วขับ ถ้าแอลกอฮอล์ไม่ถึง 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์เรายังเอาผิดเขาไม่ได้ แต่กรณียาเสพติด ถ้าตรวจพบในร่างกายก็ต้องเอาผิดได้ทันที ซึ่งประเด็นนี้เป็นเรื่องที่คณะทำงานแต่ละชุดต้องค้นหาความจริงและตอบคำถามสังคมให้ได้” นพ.แท้จริง กล่าว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา นพ.แท้จริงได้โพสต์ภาพเอกสาร ของสาขาวิชานิติเวชวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ลงวันที่ 1 ต.ค.2555 เรื่องข้อมูลสารแปลกปลอมในร่างกาย ซึ่งเป็นการแจ้งเกี่ยวกับสารแปลกปลอมที่พบในร่างกายของนายวรยุทธ อยู่วิทยา ตามที่ สน.ทองหล่อ ขอทราบข้อมูล จนกระทั่งมีการเปิดเผย รายละเอียดสารทั้ง 4 ชนิดในเวลาต่อมา







https://www.isranews.org/article/isranews/90829-isranewss-19.html

 

'ฟิลิปปินส์' ติดเชื้อใหม่พุ่ง 4 พันราย! โควิดโลก17.7 ล. 'สหรัฐ-ญี่ปุ่น' ตุนวัคซีนร้อยล้านโดส
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://isranews.org/article/isranews/90822-cooov01.html
.
'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสมทะลุ 17.7 ล. - 'รบ.สหรัฐ'อนุมัติอีก 6.5 หมื่นล้าน ตุนวัคซีน 100 ล้านโดส-'เอฟดีเอ'เคาะใช้เซรุ่มวิทยาตรวจหาผู้ติดโควิด -'เยอรมนี'ประกาศตรวจ PCR ผู้เข้าประเทศฟรี-'นอร์เวย์'เจอผู้ติดเชื้อบนเรือสำราญ 4 ราย-'ญี่ปุ่น' บรรลุข้อตกลง บ.ไฟเซอร์ นำเข้าวัคซีน 120 ล้านโดส ก่อนสิ้น มิ.ย. 64 ความหวังช่วยจัดโอลิมปิกปีหน้า- ล่าสุด 'ฟิลิปปินส์' ติดเชื้อใหม่พุ่ง 4 พันราย
#สำนักข่าวอิศรา #isranews #โควิดโลก

 

ฝนตกหนักกระทบชีวิตชาวอันฮุยนับล้าน ไร่นาเสียหายมหาศาล
.
หน่วยงานท้องถิ่นเผยว่าฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนักส่งผลกระทบต่อชาวบ้านมากกว่า 9.9 ล้านคนในมณฑลอันฮุยทางตะวันออกของจีน
.
สำนักงานใหญ่ควบคุมอุทกภัยและบรรเทาภัยแล้งอันฮุยเผยว่าจนถึงเวลา 11.00 น. ของวันศุกร์ (31 ก.ค.) ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องทำให้ทางการต้องอพยพชาวบ้าน 1.31 ล้านคน และยังสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจโดยตรงเกือบ 4.4 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 1.97 แสนล้านบาท)
.
นอกจากนี้ ฝนที่ตกหนักยังทำลายพื้นที่การเกษตรถึง 1.15 ล้านเฮกตาร์ (ประมาณ 7.18 ล้านไร่)
.
(แฟ้มภาพซินหัว : ภาพน้ำท่วมบริเวณตำบลกู้เจิ้น เขตอวี้อัน เมืองลู่อัน มณฑลอันฮุยทางตะวันออกของจีน เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2020)
.
.
ติดตามข่าวน่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : www.xinhuathai.com

 

'เขื่อนสามผา' ระบายมวลน้ำหลากระลอกสามราบรื่น
.
เมื่อวันพุธ (29 ก.ค.) เขื่อนสามผาในมณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของจีนระบายมวลน้ำหลากระลอกสามของปีในแม่น้ำแยงซีอย่างราบรื่น โดยที่อัตราน้ำไหลลงเขื่อนสามผาลดลงเหลือ 34,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
.
(บันทึกภาพวันที่ 31 ก.ค. 2020)
.
.
ติดตามข่าวน่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : www.xinhuathai.com

 

เจ้าหน้าที่กักกันพืชของญี่ปุ่นได้รับคำถามมากมายเกี่ยวกับห่อเมล็ดพืชไม่ทราบที่มาซึ่งดูเหมือนว่าส่งมาจากจีน ทางเจ้าหน้าที่เรียกร้องกับประชาชนว่าอย่านำไปปลูก

เมื่อวันอังคารที่ 28 กรกฎาคม ชายคนหนึ่งในเมืองมิอูระ จังหวัดคานางาวะ ใกล้กรุงโตเกียว ได้รับหีบห่อสีเงินบรรจุห่อถุงหลายสิบถุงซึ่งมีวัตถุคล้ายเมล็ดพืชอยู่ในนั้น แต่ละเมล็ดวัดได้ประมาณ 2 มิลลิเมตร ป้ายระบุการจัดส่งบ่งชี้เป็นนัยว่ามาจากจีน

เจ้าหน้าที่ที่สถานีพิทักษ์พืชโยโกฮามาระบุว่า พวกตนได้รับการติดต่อจากประชาชนทั่วประเทศเกี่ยวกับการจัดส่งเมล็ดต้องสงสัยดังกล่าวตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม และระบุว่าหีบห่อเหล่านั้นดูเหมือนถูกส่งมาจากต่างประเทศ และไม่มีเครื่องหมายใดที่ระบุว่าผ่านด่านตรวจสอบกักกันโรค

ในสหรัฐมีรายงานเหตุการณ์คล้ายคลึงกันนี้ในกว่า 20 รัฐตั้งแต่เดือนมิถุนายน เช่น กว่า 1,000 กรณีเฉพาะในรัฐเวอร์จิเนีย หีบห่อส่วนใหญ่ตีตราไปรษณีย์ว่ามาจากจีน

เจ้าหน้าที่ในแคนาดา อังกฤษ และออสเตรเลีย ก็กำลังรายงานกรณีเหล่านี้เช่นกัน

ติดตามรายละเอียดของข่าวอื่น ๆ ได้ที่นี่
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/

 

UPDATE: เหตุการณ์หลังยื่นล้มละลาย Muji ปิด 7 สาขาในแคลิฟอร์เนีย เหลือ 12 สาขาที่ได้ไปต่อในสหรัฐฯ
.
สำนักข่าวซินหัวได้รายงานว่า บริษัท Muji ผู้ค้าปลีกสัญชาติญี่ปุ่นในสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโรคโควิด-19 ตัดสินใจปิดร้านสาขาทั้ง 7 แห่งในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ตามนโยบายฟื้นฟูกิจการหมวด 11 (Chapter 11) ของกฎหมายล้มละลาย
.
เมื่อวันศุกร์ (31 กรกฎาคม) Women's Wear Daily วารสารด้านอุตสาหกรรมการค้าและแฟชั่นชั้นนำระดับโลก รายงานว่า การปิดกิจการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท Muji ในแคนาดา ญี่ปุ่น และที่อื่นๆ ทั่วโลก รวมถึงธุรกิจอีคอมเมิร์ซของแบรนด์ในสหรัฐอเมริกาด้วย
.
Muji ระบุในเอกสารยื่นขอล้มละลายว่า บริษัทเป็นเหยื่อรายหนึ่งของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจร้านค้าแบบดั้งเดิมอย่างรุนแรง และ “จะจัดวางตำแหน่งธุรกิจอีคอมเมิร์ซของแบรนด์ใหม่ เนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนมาซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น อันเป็นผลมาจากการระบาดใหญ่”
.
แม้ว่าจะปิดกิจการในแคลิฟอร์เนีย แต่ยังมีร้าน Muji อีก 12 สาขาเปิดบริการในสหรัฐฯ ต่อไป
.
ซาโตชิ โอคาซากิ ประธานกรรมการบริหารของ Muji USA กล่าวว่า บริษัทยังหวังที่จะกลับมาเปิดร้าน Muji แบบดั้งเดิมในแคลิฟอร์เนียอีกในอนาคต และระหว่างนี้ก็เฝ้ารอที่จะให้บริการลูกค้าของเราในแคลิฟอร์เนียทางออนไลน์
.
ก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 บริษัท Muji มีแผนขยายตัวครั้งใหญ่ในสหรัฐอเมริกา โดยพิจารณาว่าจะเปิดร้านสาขา 100 แห่งให้ได้ภายใน 5 ปี และจะเปิดกิจการโรงแรมที่ชายฝั่งตะวันตกด้วย
.
อนึ่ง Muji เป็นบริษัทค้าปลีกของญี่ปุ่นที่ขายสินค้าในครัวเรือนและสินค้าอุปโภคบริโภคที่หลากหลาย แบรนด์ดังกล่าวเป็นที่รู้จักในเรื่องสุนทรียะที่เรียบง่ายแบบเอเชีย การจำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย และราคาย่อมเยา นอกจากนี้ยังมีบริการโรงแรมในประเทศจีนและญี่ปุ่น
.
อ้างอิง:
สำนักข่าวซินหัว
.
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
#News #TheStandardCo

 

(บอกแต่ยอดค้าปลีกออนไลน์เพิ่ม แต่ไม่บอกยอดค้าปลีกตามปกติ มีหน้าร้านว่าเพิ่มหรือลดลงไหม ของไทย ยอดค้าปลีกออนไลน์เพิ่ม แต่ยอดค้าปลีกตามปกติ เงียบมากมีแต่คนบอกว่าขายของไม่ได้เลย)

UPDATE: ยอด ‘ค้าปลีกออนไลน์จีน’ โต 7.3% ทะลุ 5 ล้านล้านหยวนในครึ่งปีแรก 2020
.
สำนักข่าวซินหัวของจีนได้รายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกออนไลน์ของจีนสูงแตะ 5.15 ล้านล้านหยวน (ราว 23.02 ล้านล้านบาท) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 เมื่อเทียบปีต่อปี
.
เมื่อวันพฤหัสบดี (30 กรกฎาคม) เกาเฟิง โฆษกกระทรวงฯ แถลงข่าวว่า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในจีนมีความคึกคักและความยืดหยุ่น ทั้งยังดำเนินบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยช่วยสร้างความมั่นใจว่าจีนมีวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เพียงพอ ช่วยเหลือการกลับมาทำงานอีกครั้ง และส่งเสริมการบริโภคอย่างเต็มรูปแบบ
.
อัตราการเติบโตของการค้าปลีกออนไลน์เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 4 เดือนแล้ว โดยสถิติเดือนมิถุนายนพบการเติบโตร้อยละ 18.6 เมื่อเทียบปีต่อปี
.
โดยเกาเสริมว่า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังคงเป็นเสาหลักค้ำจุนเสถียรภาพของตลาดผู้บริโภคด้วยขนาดที่ขยายใหญ่ขึ้นและบทบาทที่สำคัญยิ่งขึ้น ข้อมูลของกระทรวงฯ ระบุว่า จำนวนผู้ใช้อีคอมเมิร์ซของจีนพุ่งขึ้นถึง 100 ล้านคนเมื่อเทียบกับปีก่อน และจำนวนร้านค้าในแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์หลักเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 เมื่อเทียบปีต่อปี
.
อ้างอิง:
สำนักข่าวซินหัว
.
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
#News #TheStandardCo

 

Breaking News‼️ ชาวเบลเยี่ยมที่พบเชื้อในไต้หวัน คาดว่ามีผู้เกี่ยวข้อง 371ราย

วันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม7 ราย มาจากทำงานจากต่างประเทศ 6 ราย และ 1 รายที่ทุกคนกังวลคือ นักวิศวกรชาวเบลเยี่ยมวัย20กว่าปี

ซึ่งรายนี้อาศัยอยู่ไต้หวัน เข้ามาทำงานในไต้หวัน วันที่29ก.ค.ได้ไปขอตรวจเชื้อโควิด เนื่องจากเตรียมตัวกลับประเทศ โดยจ่ายค่าตรวจเอง และพบว่ามีเชื้ออ่อนๆ โดยไม่มีอาการบ่งชี้ใดๆที่ผิดปกติ

ทางกรมควบคุมโรคตรวจไทม์ไลน์ของหนุ่มคนนี้ที่เดินทางไปไหนมาไหนตลอด1 เดือน พบว่าชายคนนี้ ไม่ใส่หน้ากากอนามัยเป็นปกติ (ไม่ชินกับการใส่หน้ากาก) ได้ทำกิจกรรมต่างๆตั้งแต่ไทเป มีการเข้าผับบาร์ ต่อมาไปไถจง มีการเข้ายิมจำนวน 2 แห่ง รวม 8 ครั้ง (ไม่ใส่หน้ากาก) อี๋หลาน และจางฮว้า ตอนนี้กรมอนามัยเขตจางฮว้าคาดว่ามีผู้เกี่ยวข้อง371ราย ใน24แห่งที่ชายคนนี้ไป

ชายคนนี้เข้าไต้หวันตั้งแต่ 3พ.ค. โดยพักโรงแรมที่ไทเปเพื่อกักตัวจนถึงวันที่ 17พ.ค. ไม่พบอาการผิดปกติแต่อย่างใด จึงปล่อยตัว และเมื่อนับจากเวลาคาดการณ์ตั้งแต่พบเชื้อ ในช่วงเวลาตั้งแต่ 25มิถุนายน ถึง 8 กรกฎาคม เป็นระยะของการฟักตัว(ตามข่าวรายงาน) และ 9กรกฎาคม ถึง 29กรกฎาคม เป็นระยะติดเชื้อ นายคนนี้ได้เดินทางระหว่าง ไทเป ไถจง อี๋หลานหลายครั้ง มีการไปผับบาร์ในไทเปหลายครั้ง และมีการเข้าพักโรงเเรม เข้าร้านอาหารต่างๆ รวมถึงเข้าสถานออกกำลังกายถึง8 ครั้งใน2 แห่ง ยังไม่รวมถึงพบปะผู้คน และเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศ

กรมอนามัยจางฮว้าได้แจ้งว่า มี 371 รายที่เกี่ยวข้อง 49รายกักตัวดูอาการ 116ราย เฝ้าระวัง 206 รายอยู่ในภาวะเสี่ยงรอผลตรวจสอบ

มึนตึ้บ ติดจากไหนมา???

 

ผลออกแล้ว‼️ แรงงาน43ราย เขตเถาหยวนที่มีอาการผิดปกติ และทางกรมควบคุมโรคสืบประวัติการรักษา2เดือนที่ผ่านมา-ไม่พบเชื้อ

จากข่าวดังที่ไทยตรวจพบแรงงานไทยสัย30ปีเพศชาย เดินทางกลับจากทำงานที่ไต้หวัน และขณะกักตัวตรวจพบว่ามีเชื้อโควิด แต่ไม่มีอาการภายนอกบ่งชี้ ต่อมาจึงแจ้งมาทางไต้หวันให้ทราบนั้น

เดิมทีมีการกักตัวผู้ใกล้ชิดและเกี่ยวข้องกับแรงงานไทยคนนี้189ราย ผลออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่าไม่พบเชื้อใดๆ

และทางไต้หวันยังคงตรวจต่อเพื่อความแน่ชัดและคลายกังวลต่อผู้อาศัยในพื้นที่เขตเถาหยวนที่แรงงานคนดังกล่าวอาศัยและใข้ชีวิตทำกิจกรรม

ต่อมาทางกรมควบคุมโรคได้แจ้งต่อสถานพยาบาลในเขตเถาหยวน สืบประวัติ2 เดือนที่ผ่านมาว่ามีแรงงานคนใดในพื้นที่เกี่ยวข้องได้เคยพบแพทย์ด้วยอาการผิดปกติทางเดินหายใจ และท้องเสียหรือไม่ พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 43ราย

วันนี้ผลออกมาครบแล้ว ทั้ง43รายนี้เป็นผลลบ ไม่มีพบติดเชื้อโควิด

แต่มีแรงงานบางรายในพื้นที่เถาหยวนและเขตนิวไทเป มีอาการไข้สูง ท้องเสีย ต่อมาทราบว่าเป็นไข้เลือดออก ตอนนี้ไข้เลือดออกกำลังระบาดหนัก ขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพให้ดี

 

เพิ่ม 7 รายจากต่างประเทศ และ1 รายไม่ทราบที่มา‼️

สะสมรวม 474 ราย
เสียชีวิตรวม 7 ราย
หายดี 441 ราย

เมื่อเริ่มผ่อนคลายตัวเลขเพิ่มขึ้นเร็วอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ส่วนใหญ่จะมาจากภายนอกและเป็นคนไต้หวันที่กลับมาก็ตาม

ล่าสุดวันนี้ 1 สิงหาคม ทางกรมควบคุมโรครายงาน มีเพิ่ม7 ราย เคสหมายเลข 468-474
แบ่งเป็น 6 รายเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ และ1 รายพักอาศัยในไต้หวันมาแล้ว4 เดือน**

6รายที่กลับมาจากต่างประเทศนี้ถือสัญชาติดังนี้ :ไต้หวัน3 ราย, ฟิลิปปินส์ 2 ราย, กัวเตมาลา 1 ราย โดยมี5 รายกลับมาจากฟิลิปปินส์ และ 1 รายมาจากกัวเตมาลา

ส่วน1 รายจากเบลเยี่ยม อายุ20ปีที่พบเชื้อนั้นไม่มีอาการใดๆ แต่ได้ออกค่าใช้จ่ายในการขอตรวจเองและพบเชื้อโดยมีเชื้อต่ำมาก

ใน7 รายนี้อายุอยู่ระหว่าง 20-70ปี

ทางกรมควบคุมโรคกล่าวว่า ยังคงต้องระวังและอย่าผ่อนเด็ดขาด แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งโดยเฉพาะอยู่ในที่ปิด เช่น รถโดยสาร ลิฟท์ ในสถานที่ทำงาน และโรงพยาบาล เป็นต้น

และมีการตรวจพบ แรงงานที่มีอาการท้องเสีย เป็นไข้ ไม่สบาย พบ5 คน เป็นโรคไข้เลือดออก ซึ่งทั้ง5 รายอยู่ในเขตนิวไทเป และ เถาหยวน

ตอนนี้โรคไข้เลือดออกระบาด ให้ทุกคนระวังด้วย

 

เปลี่ยนสมองตื้อให้สมองแล่น 3 ขั้นตอนสร้างสรรค์ไอเดียได้ดั่งใจ
.
เมื่อเราทำงานอะไรบางอย่างทุกวัน โดยเฉพาะต้องใช้ไอเดียหรือความคิดสร้างสรรค์ในการขับเคลื่อน มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่มันจะมีบางวันที่เรารู้สึกว่า ‘ไอเดียหมด’ หรือความคิดไม่โลดแล่นเหมือนเดิม เพราะสมองก็เหมือนกับเครื่องยนต์ ทำงานทุกวัน ก็มีสึกหลอบ้าง อย่างในอเมริกา NordVPN ผู้ให้บริการด้านไอที สำรวจพบว่า จากการทำงานแบบ WFH ตั้งแต่กลางมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ชาวอเมริกันทำงานมากขึ้นกว่าเดิม เฉลี่ยวันละ 3 ชั่วโมง ซึ่งการทำงานหนักมากขึ้นก็ส่งผลโดยตรงต่อไอเดียการคิดงานใหม่ๆ อาจจะด้อยลง เพราะความเหนื่อยล้า
.
หากเราต้องการคิดอะไรใหม่ๆได้อยู่เสมอ ควรทำอย่างไร? ขอนำเสนอวิธีง่ายๆที่เสมือนการ Hack ระบบความคิดของเรา ให้ไอเดียพลุ่งพล่านและสามารถแก้ปัญหาต่างๆได้ดี 3 ขั้นตอน
.
1. วิเคราะห์และค้นหา ‘ช่วงเวลาทอง’ ที่เรามักปิ๊งไอเดียใหม่อยู่เสมอ

คนเราจะมีช่วงเวลาที่มีความคิดใหม่ๆหรือสิ่งที่พยายามคิดมานาน แต่มาคิดออกในขณะนั้นอยู่ตลอด เช่น เวลาอาบน้ำ ก่อนเข้านอน หรือขณะกินข้าว เป็นต้น โดยให้เราลองค้นหาช่วงเวลาเหล่านั้นให้เจอ จากนั้นลองวิเคราะห์ว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นเพราะเป็นช่วงเวลาผ่อนคลายและเป็นสิ่งที่เราชอบทำมากที่สุด
.
2. สร้างบรรยากาศที่เหมาะสมและเอื้อต่อการเกิดไอเดียเจ๋งๆ

จากข้อหนึ่ง ทำให้เราทราบว่า ไอเดียมักเกิดตอนช่วงเวลาผ่อนคลาย ดังนั้น การนั่งทำงานติดต่อกันเป็นเวลาหลายชั่วโมงหน้าคอมพิวเตอร์ อย่างที่คนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมเช่นนี้ในช่วง WFH มีแต่ทำให้รู้สึกเหนื่อยและไอเดียสุดบรรเจิดคงไม่เกิดขึ้นเป็นแน่ สิ่งควรทำคือ สร้างบรรยากาศและกำหนดกิจกรรมที่จะทำให้ไอเดียเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น จัดช่วงเวลาพักระหว่างชั่วโมงการทำงาน เพื่อออกไปเดินเล่นผ่อนคลาย
.
3. ตื่นตัวและเตรียมพร้อมรับไอเดียที่เกิดขึ้น

ข้อนี้ไม่ใช่การบอกให้ทุกคนต้องทำงานหรือคิดงานตลอดเวลา เพราะมันคงทำให้เหนื่อยเกินไปและเครียดสะสมได้ แต่แค่ให้ทำในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง กล่าวคือพอเราทราบแล้วว่า เรามักคิดไอเดียหรือแก้ปัญหาเกี่ยวกับงานได้ในเวลาไหน สิ่งที่ต้องทำนอกจากการสร้างบรรยากาศเพื่อกระตุ้นให้เกิดไอเดีย ได้แก่ เตรียมตัวบันทึกไอเดียใหม่ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที เช่น ถ้าการอาบน้ำ เป็นช่วงเวลาทองของการเกิดไอเดีย เราอาจมีสมุดบันทึกและปากกาวางเอาไว้ในห้องน้ำ (ในขณะที่อาบน้ำเสร็จแล้วและตัวไม่เปียก) หรือห้องแต่งตัว จะได้จดเอาไว้ได้
.
หลายคนอาจมีวิธีปลุกความเป็นนักคิดและสร้างสรรค์ไอเดียในวิธีที่แตกต่างไปจากนี้ มาร่วมแชร์กันได้นะว่าแต่ละคนมีวิธีอย่างไรกันบ้าง? เพราะการระดมความคิด ก็เป็นหนึ่งในการสร้างบรรยากาศแห่งการคิดค้นเช่นกัน
.
อ้างอิงจาก:
https://www.fastcompany.com/90534240/how-to-prime-your-brain-for-breakthrough-and-random-ideas

#OnUFO #CreativeIdea #Insight #HowTO

 

เอสโตเนียไม่อนุมัติโครงการลงทุนจากจีน 1.7 หมื่นล้านดอลล์ สร้างอุโมงค์รถไฟใต้น้ำ เนื่องจากประเด็นความมั่นคง
.
หลังจากมีข่าวออกมาเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา ว่า Touchstone Capital Partners กลุ่มทุนจากประเทศจีน พร้อมทุ่มเงิน 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อร่วมกับบริษัท Finest Bay Area Development ของ Peter Vesterbacka นักธุรกิจชาวฟินแลนด์และผู้ให้กำเนิดเกม Angry Birds อันโด่งดัง ก่อสร้างอุโมงค์รถไฟใต้น้ำยาวที่สุดในโลก ระหว่างฟินแลนด์และประเทศเอสโตเนีย ระยะทางมากกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมเมืองหลวงของสองประเทศเข้าด้วยกัน

แต่ดูเหมือนว่าโครงการนี้กำลังเจอกับอุปสรรคใหญ่ เมื่อรัฐบาลเอสโตเนียมีมติ ‘ไม่อนุมัติให้ดำเนินโครงการ’ โดยให้เหตุผลว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องความปลอดภัยและความมั่นคงของชาติ
.
เหตุผลในการปฏิเสธดำเนินโครงการดังกล่าว มีหลายเหตุผลด้วยกัน ได้แก่ต้องศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม แผนการเงินไม่ชัดเจน การประเมินความเป็นไปได้ที่ยังมีข้อกังขาอยู่มาก และการประมาณการจำนวนผู้โดยสารและการขนส่งที่ดูสวยหรูมากเกินไปกว่าความเป็นจริง
.
อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญมาจากประเด็นความมั่นคงของชาติ โดยหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของเอสโตเนียตั้งข้อควรระวังในการลงทุนของกลุ่มทุนจากประเทศจีนว่ามีจุดประสงค์ทางการเมืองแฝงไว้ ตามข้อมูลจากรัฐมนตรีกระทรวง Public Administration (บริหารรัฐกิจ) เอสโตเนีย
.
ทางด้าน YLE สื่อฟินแลนด์อ้างถึงแหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงการขนส่งและการสื่อสาร ว่า รัฐบาลฟินแลนด์ไม่มีแผนที่จะลงทุนในการก่อสร้างอุโมงค์นี้
.
ทั้งนี้จากการศึกษาการสร้างโครงการอุโมงค์ของทั้งเอสโตเนียและฟินแลนด์เมื่อปี 2018 พบว่า แผนการก่อสร้างของ Finest Bay Area Development เป็นไปได้ยาก แต่ตัวโครงการอุโมงค์เอง มีความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจ หากร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน
.
อ้างอิงจาก:
https://www.bloomberg.com/amp/news/...el-suffers-setback-as-estonia-dumps-developer

#OnUFO #RailTunnel #Estonia #Finland #China #FinestBayAreaDevelopment

 

#มอร์มูฟเป็นข่าว ผิดหวังอย่างแรง!!! สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาวฮ่องกงต่างรู้สึกผิดหวัง หลัง นางแคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกงใช้อำนาจฉุกเฉิน-ประกาศเลื่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 6 ก.ย.นี้ ออกไปอีก 1 ปี จนถึงวันที่ 5 ก.ย.ปีหน้า โดยอ้างเหตุผล-สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มสูง

การประกาศเลื่อนครั้งนี้เป็นการดับความหวังของ กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเป็นกลุ่มฝ่ายค้านที่ต้องการทำคะแนนในการเลือกตั้ง ในช่วงที่กำลังเกิดกระแสความไม่พอใจจากการที่จีนแผ่นดินใหญ่ กรณีบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่กับฮ่องกง โดยชาวฮ่องกงบางคนระบุว่า การเลื่อนการเลือกตั้งน่าจะมาจากเหตุผลทางการเมือง

** สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในฮ่องกงยังน่าวิตก โดยเมื่อวานนี้ (31 ก.ค.) เพียงวันเดียวมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 121 คน ซึ่งเป็นวันที่ 10 ติดต่อกันที่ผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งสูงกว่า 100 คน ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 3,272 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,187 คน.

 

#มอร์มูฟเป็นข่าว เตือนก่อนตัด!!! กรมการแพทย์ เตือนชายไทย อย่าตกเป็นเหยื่อของหมอเถื่อนในสื่อสังคมออนไลน์ที่เชิญชวนให้ชายหนุ่มเพิ่มขนาดอวัยวะเพศด้วยการฉีดสารต่างๆ เข้าสู่ร่างกายเพราะมีความเชื่อว่าเวลามีเพศสัมพันธ์จะทำให้เกิดความพึงพอใจแก่ฝ่ายหญิง ระบุชัด-อาจทำให้ติดเชื้อรุนแรงจนถึงขั้นต้องตัดทิ้ง

โดยเรื่องนี้ นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผอ.โรงพยาบาลราชวิถี เผยว่า การฉีดสารแปลกปลอมต่างๆ เพื่อให้อวัยวะเพศมีรูปร่างคล้ายมะระหรือลูกยอ เพื่อเพิ่มขนาดอวัยวะเพศที่กำลังเป็นกระแสอาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรง ระยะแรกหากสารที่ฉีดเข้าไปไม่สะอาดจะมีการติดเชื้อรุนแรงจนอวัยวะเพศอักเสบเป็นหนอง ส่วนระยะยาวจะทำให้อวัยวะเพศมีก้อนแข็งผิดรูป เจ็บปวดเวลามีเพศสัมพันธ์ มีแผลเรื้อรัง และมีบางรายที่ปล่อยไว้นานจนกลายเป็นมะเร็งได้

** "ผู้ที่ฉีดสารแปลกปลอมเข้าอวัยวะเพศ นอกจากเสียเงินในการฉีดแล้วเวลามารับการรักษาในโรงพยาบาลจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาเอง เนื่องจากเป็นการรักษาเพื่อผ่าตัดตบแต่งแก้ไขอวัยวะเพศ ซึ่งสิทธิการรักษาไม่ครอบคลุม ทั้งนี้ การผ่าตัดตกแต่งแก้ไขจะพยายามทำให้อวัยวะเพศกลับมาใกล้เคียงเดิมให้มากที่สุด โดยตัดเอาก้อนและผิวหนังองคชาติที่ฉีดสารแปลกปลอมเข้าไปออกและใช้ผิวหนังจากถุงอัณฑะมาคลุมองคชาติแทน กรณีที่ฉีดสารแปลกปลอมเข้าไปมากจนไม่สามารถใช้ผิวหนังจากถุงอัณฑะได้จะต้องใช้ผิวหนังส่วนอื่นของร่างกายมาคลุมองคชาติแทนซึ่งจะทำให้การทำงานขององคชาติไม่เหมือนเดิม ส่วนผู้ที่มีการติดเชื้อรุนแรงหรือมีแผลเรื้อรังจนลุกลามเป็นมะเร็งอวัยวะเพศ การรักษาอาจถึงขั้นต้องตัดอวัยวะเพศทิ้งในที่สุด"

 

นอนหลับฝันดีครับ

 

วันนี้ ที่1 สิงหาคม เป็นวันกองทัพจีน

ประวัติย่อของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน(中国人民解放军)
ชื่อย่อม:กองทัพปลดแอก
ชื่อเล่น：ผู้ที่น่ารักที่สุด
วันเกิด: วันที่ 1 สิงหาคมค.ศ.1927(พ.ศ.2470)
อายุ: 93ปี
สัญชาติ : สาธารณรัฐประชาชนจีน
สถานที่ก่อตั้ง : เมืองหนานชาง มณฑลเจียงซี
สถานที่ทำงาน : สถานที่ที่ประเทศชาติและประชาชนต้องการ
สมาชิกครอบครัว: กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองทัพตรวจ กองกำลังสนับสนุนด้านกลยุทธ์ กองกำลังตำรวจติดอาวุธ และกองทหารดับเพลิง
สโลแกน: ผู้ใดก็ตามที่กระทำผิดต่อประเทศจีนจะถูกลงโทษแม้ว่าจะอยู่ไกล
วันหมดอายุ: ตลอดชีวิต
แม้ว่าได้เกษียณราชการทหารแล้ว แต่ก็ยังเป็นทหารอยู่! จะกลับไปปฏิบัติหน้าที่ได้ทันทีเมื่อมีความต้องการ!
สุขสันต์วันกองทัพจีน ทหารจีนทุกนาย!