ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ⚠️ [BREAKING] ⚠️ ทรัมป์ประกาศ #สหรัฐกำลังจะมีวัคซีนโควิดภายในไม่กี่อาทิตย์นี้ ! เป็นแรงสนับสนุนให้ดัชนีหุ้น Futures สหรัฐยังคงบวกเขียวทั้งแพงคืนนี้ก่อนเปิดตลาด

    เมื่อเวลา 19.20น. ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศกลางรายการ Fox News ว่าสหรัฐกำลังจะมีวัคซีนโควิดภายในไม่กี่อาทิตย์นี้ ! โดยกำหนดการที่ทรัมป์คาดว่าสหรัฐจะได้ผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิดสำเร็จคือภายใน 4 - 8 สัปดาห์นี้ หากเป็นจริงจะทำให้สหรัฐมีวัคซีนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

    ทางด้านทรัมป์ย้ำว่าการเร่งผลิตวัคซีนครั้งนี้นั้นไม่เกี่ยวกับการเรียกคะแนนเสียงทางการเมืองแต่อย่างใด แต่ทางตนต้องการเร่งการผลิตอยู่แล้ว โดยหากทางสหรัฐมีประธานาธิบดีอย่าง Obiden (Obama + Biden) ประเทศสหรัฐคงยังไม่มีวันมีวัคซีนไปอีก 2-3 ปี แต่เป็นเพราะเขาพยายามช่วงเร่งรัดขั้นตอนหลายๆอย่างกับ องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) เพื่อให้ประชาชนชาวสหรัฐได้มีวัคซีนอย่างรวดเร็วที่สุด

    ทรัมป์กล่าวว่ารายงานที่เขาได้รับจากบริษัทผลิตวัคซีนต่างๆในสหรัฐอย่าง Pfizer, Johnson & Johnson, Moderna และบริษัทอื่นๆอีกมากมาย ผลการทดลองกำลังเป็นไปอย่างราบรื่น และทางทรัมป์จะสั่งให้มีการกระจายยาวัคซีน (Delivery) ทันทีที่ทดลองสำเร็จ

    คลิปการสัมภาษณ์ของทรัมป์ทางเราได้แนบไว้ในคอมเม้นท์ ส่วนทางทรัมป์นั้นสัญญาว่าจะกลับมาให้สัมภาษณ์กับ Fox News (ที่เขาสนิทสนมด้วย) ทุกๆอาทิตย์และคาดว่าน่าจะเป็นทุกวันจันทร์

    ตลาดหุ้น Futures สหรัฐกำลังบวกต่อเนื่องคืนนี้

    ดัชนี Dow Jones +220 จุด (+0.8%)
    ดัชนี S&P500 +30 จุด (+1.0%)
    ดัชนี Nasdaq +150 จุด (+1.25%)

    น้ำมันดิบ Brent +0.41 เหรียญ (+1.0%)

    ✅ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดการลงทุนไปกับทางเพจเรา

    แนะนำให้กดตั้งค่า “#รายการโปรด” หรือ "#Favourites" ที่เมนูมุมขวาบนของเพจใน Facebook ตรงปุ่ม [...] และกด #เปิดกระดิ่ง ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่พลาดทุกข่าวสารสำคัญ

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากๆครับ

    #ทันโลกกับTraderKP

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ⚠️ [BREAKING] ⚠️ ทรัมป์ทวีตว่า #อิหร่านกำลังอาจวางแผนโจมตีสหรัฐ เพื่อล้างแค้นให้กับนายพลกัสซิม โซเลมานี ที่ถูกทางสหรัฐสังหารไปเมื่อช่วงต้นปี ทรัมป์ขู่ว่าถ้ามีการโจมตีขึ้นจริงทางสหรัฐจะโต้ตอบคืนเป็น 1,000 เท่า !

    หลายท่านคงยังจำเหตุการณ์เมื่อตอนต้นปีนี้ได้ที่ทางสหรัฐได้สังหารนายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้เป็นที่รักของชาวอิหร่าน จนเกือบจะเกิดสงครามขึ้นระหว่างสองประเทศ ต่อมาไม่นานหลังจากที่ทรัมป์ประกาศจะไม่โต้ตอบอิหร่าน (หรือมีข่าวลือว่าทางทรัมป์สั่งการแล้วแต่ทางกองทัพไม่ฟัง) ไวรัสโควิดก็ได้เข้ามาระบาดหนักในทั้งสองประเทศ ทำให้เรื่องความบาดหมางนี้ได้เงียบลงไป

    อย่างไรก็ตามเช้านี้ #เรื่องความแค้นนี้อาจกลับมาระอุอีกครั้ง หลังเวลา 10.05 น. ไทย ทางทรัมป์ได้ทวีตออกมาว่า

    "According to press reports, Iran may be planning an assassination, or other attack, against the United States in retaliation for the killing of terrorist leader Soleimani, which was carried out for his planning a future attack, murdering U.S. Troops, and the death & suffering caused over so many years. Any attack by Iran, in any form, against the United States will be met with an attack on Iran that will be 1,000 times greater in magnitude!" Trump Tweet

    "ตามรายงานของสื่อล่าสุด อิหร่านอาจมีการวางแผนลอบสังหารหรือการโจมตีอื่นๆต่อสหรัฐอเมริกา เพื่อล้างแค้นการสังหารผู้นำผู้ก่อการร้ายอย่างโซเลมานี ที่กำลังวางแผนการโจมตีกำลังสหรัฐอยู่อย่างที่เขาได้กระทำมาตลอดระยะเวลาหลายปี ถ้ามีการโจมตีจากอิหร่านไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตามต่อสหรัฐอเมริกา ทางสหรัฐจะตอบโต้กลับอิหร่านหนักกว่า 1,000 เท่า!" ทรัมป์ทวีต (แนบในคอมเม้นท์)

    ถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นจริงๆ ราคาน้ำมันน่าจะพุ่งกระฉูดแน่ๆอย่างที่เราเห็นเมื่อต้นปี เราคงต้องติดตามเหตุการณ์นี้อย่างใกล้ชิดกันต่อไปครับ

    ทางด้านราคาทองเช้านี้วิ่งขึ้นไปทะลุ 1,965 เหรียญต่อออนซ์แล้ว

    ✅ ติดตามข่าวสารในตลาดโลกที่น่าสนใจไปกับทางเพจเราได้อย่างทันท่วงที

    แนะนำให้กดตั้งค่า “#รายการโปรด” หรือ "#Favourites" ที่เมนูมุมขวาบนของเพจใน Facebook ตรงปุ่ม [...] และกด #เปิดกระดิ่ง ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่พลาดทุกข่าวสารของทางเพจเรา

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากๆครับ

    #ทันโลกกับTraderKP

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    [ANALYSIS] #ดัชนีการล้มละลายของบริษัทสหรัฐ ยังชี้ให้เห็นว่า #วิกฤตหนี้เสีย ครั้งนี้คงยังไม่น่าเป็นห่วงเท่าวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2008 และทาง Goldman Sachs ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว

    สิ่งที่ตลาดทราบกันอย่างดีแล้วในทุกวันนี้คือการที่ #ตลาดหุ้นและสภาพเศรษฐกิจที่แท้จริงนั้นกำลังไปในคนละทิศทางกัน

    แต่นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกตราบใดที่วิกฤตครั้งนี้จะไม่ได้ส่งผลให้เกิดคลื่นหนี้เสียแบบลูกโซ่ไปทั่วประเทศสหรัฐหรือลุกลามไปในที่อื่นๆของโลก

    เพราะด้วยสภาพคล่องและเงินที่ธนาคารกลางสหรัฐอัดฉีดเข้ามาเพื่อประครองหนี้เสียต่างๆนั้น หากสามารถพยุงให้บริษัทต่างรอดพ้นวิกฤตหนี้เสียครั้งนี้ไปได้ ตลาดหุ้นก็ไม่ควรจะกังวลอะไรมากเกินไป เพราะถ้าจะเทขายทั้งๆที่ไม่มีวิกฤตหนี้เสีย เดี๋ยวก็ต้องมีแรงเงินสดเข้ามาซื้อหุ้นให้ดีดกลับขึ้นมาทีหลังอยู่ดี หรือเดี๋ยวถ้าวัคซีนมา ก็จะเข้ามาช่วยทำให้ทุกอย่ากลับเป็นปกติเร็วขึ้นในไม่ช้า

    ทำให้ตลาดกำลังอยู่ในสภาพที่ว่า #ถ้าคนข้างๆเราในตลาดไม่มีใครขายหุ้นทิ้งเราก็จะไม่ขายทิ้งไปด้วย (แต่ถ้าคนข้างๆอื่นเริ่มขายกันหมดก็เชื่อว่าหลายๆคนก็อาจจะขายตาม)

    ทำให้คำถามที่นักลงทุนพยายามหาคำตอบกันหลายคนคือ #แล้วบริษัทในสหรัฐจะล้มละลายกันมากน้อยแค่ไหน ? ด้วยสภาพเศรษฐกิจแบบนี้

    U.S. Bankruptcy Index - ดัชนีการล้มละลายของบริษัทสหรัฐ

    เนื่องจากข้อมูลทางการเงินของสหรัฐนั้นมีรายงานกันอย่างละเอียดมาก จึงมีดัชนีตัวนึงที่ใช้ชี้วัดถึงจำนวนการล้มละลายของบริษัทสหรัฐเลยโดยตรง

    โดยทาง Bloomberg จะทำการนับจำนวนบริษัทสหรัฐที่มีขนาดหนี้สินที่มากกว่า 50 ล้านเหรียญไป ($50 million in reported liabilities) ว่ามีใครประกาศล้มละลายไปกันแล้วบ้าง

    ตัวเลขล่าสุดพบว่ามีบริษัทขยาดใหญ่ที่ประกาศล้มละลายมีเพิ่มขึ้นเป็น 229 บริษัทในสัปดาห์ล่าสุด เมื่อเทียบกับจำนวนประมาณ 81 บริษัทในสิ้นปีที่แล้ว ซึ่งถึงแม้จะเป็นตัวเลขที่สูงขึ้นและสูงที่สุดในรอบ 10 ปี แต่ตัวเลขก็ยังห่างไกลจากจุดสูงสุดที่เคยพบมาที่ 773 บริษัทในเดือนมิถุนายน ปี 2009 ในช่วง Subprime Crisis ทำให้ความรุนแรงของวิกฤตหนี้ในครั้งนี้ไม่น่าหนักเท่ากับในช่วงปีนั้น (กราฟแนบในคอมเม้นท์)

    #FED จะมีการประชุมวันที่ 15-16 ก.ย. นี้

    ต้องบอกว่า FED #ทำหน้าที่ได้ดีมากในวิกฤตครั้งนี้ บริษัทสหรัฐส่วนใหญ่ที่ประกาศล้มละลายไปนั้น ส่วนมากจะมาจากปัญหาทางธุรกิจเองที่ไม่สามารถดำเนินงานหรือทำกำไรต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์ New Normal หลังไวรัสระบาด แต่ไม่มีบริษัทไหนเลยที่ล้มละลายเพราะต้นทุนทางการเงินสูงเกินไป แสดงว่ามาตรการอัดฉีดและลดดอกเบี้ยของ FED นั้นได้ผลค่อนข้างดี

    ต้องติดตามรายงานการประชุมของ FED กลางอาทิตย์นี้ต่อไปว่า นอกจากจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.0-0.25% ตามคาดแล้วจะมีมาตรการอะไรออกมาเพิ่มเติมหรือไม่ ?

    หลังจากที่ทางประธานธนาคารกลาง Jerome Powell ได้เคยกล่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า FED พร้อมจะปล่อยให้อัตราเงินเฟ้อสูงกว่าเป้า 2% ที่คงมาตลอดได้ในบางเวลา และติดตามกันว่าตัวเลขคนว่างงาน Unemployment rate ของสหรัฐที่ลดลงมาต่ำถึง 8.4% แล้วจะมาเปลี่ยนนโยบายอะไรของ FED หรือไม่ ?

    Goldman Sachs มองว่า GDP ไตรมาสที่ 3 ของสหรัจะดีดกลับสูงถึง +35%

    อีกหนึ่งวานิชยกิจที่มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วก็คือ Goldman Sachs นั้นเองที่เพิ่งออกรายงานออกมาว่า GDP ไตรมาสที่ 3 ของสหรัจะดีดกลับแรงถึง +35% ถือว่าสามารถเรียกแรงความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาได้ดีทีเดียวในอาทิตย์นี้

    ✅ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดการลงทุนไปกับทางเพจเรา

    แนะนำให้กดตั้งค่า “#รายการโปรด” หรือ "#Favourites" ที่เมนูมุมขวาบนของเพจใน Facebook ตรงปุ่ม [...] และกด #เปิดกระดิ่ง ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่พลาดทุกข่าวสารสำคัญ

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากๆครับ

    #ทันโลกกับTraderKP

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    MEA x ลงทุนแมน
    MEA กับภารกิจขับเคลื่อน Smart Energy
    พ.ศ. 2501 คือปีก่อตั้งของการไฟฟ้านครหลวง หรือ Metropolitan Electricity Authority (MEA)
    เท่ากับว่าในปีนี้ MEA มีอายุ 62 ปีแล้ว

    ในปัจจุบันโลกกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี
    ที่ผลักดันให้ทุกอย่างเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัล
    ซึ่งจะส่งผลให้วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

    แล้ว MEA ในฐานะผู้ให้บริการพลังงานไฟฟ้าในเขตมหานคร
    จะช่วยขับเคลื่อนการใช้พลังงานไฟฟ้าให้เข้าสู่ยุคสมัยใหม่ได้อย่างไร ?

    เพราะความต้องการใช้ไฟฟ้าของผู้คนมีมากขึ้น
    ดังนั้น MEA จึงต้องบริหารจัดการไฟฟ้าอย่างครอบคลุมมีประสิทธิภาพ
    และพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับ Demand & Supply
    ตอบสนองวิถีชีวิตและการใช้เทคโนโลยีในเมืองมหานคร

    หนึ่งในภารกิจสำคัญในตอนนี้ของ MEA
    คือการพัฒนาระบบพลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy)
    ผ่านการสร้าง “ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ”
    หรือที่เรียกว่า “Smart Metro Grid Project”

    ถ้าให้อธิบายคำว่า Smart Metro Grid แบบง่าย ๆ ก็คือการเปลี่ยนโครงข่ายไฟฟ้าแบบเดิม ให้เป็นระบบดิจิทัล พร้อมมีการบริหารจัดการระบบที่ทันสมัย โดยหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญของเรื่องนี้ คือ “Smart Meter”

    Smart Meter จะมีความแตกต่างจากมิเตอร์ไฟฟ้าแบบดั้งเดิม
    คือนอกจากจะทำหน้าที่แค่อ่านค่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าแล้ว
    ยังมีคุณสมบัติในการรับส่งข้อมูลได้แบบ สองทาง (Two-Way Communication)
    และข้อมูลนั้นจะปรากฏและแสดงผลในทันทีแบบ Real-time
    ทำให้ MEA ทราบถึงปริมาณการจ่ายไฟฟ้าไปในแต่ละที่ได้ชัดเจน
    และทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว

    ยกตัวอย่างเช่น หากมีเหตุไฟฟ้าขัดข้องเกิดขึ้น
    ระบบ Smart Metro Grid จะทราบพื้นที่บริเวณที่เกิดปัญหาขัดข้องได้ในทันที

    หมายความว่า ระบบ Smart Metro Grid
    จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่จะทำให้ MEA
    สามารถวิเคราะห์ข้อมูล บริหารจัดการ และให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    ซึ่งจะทำให้การจัดการพลังงานภายในบ้านเรือน อาคารสำนักงาน มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต

    โดยในช่วงแรกของโครงการ
    MEA ตั้งเป้าติดตั้ง Smart Meter จำนวน 31,539 ชุด ในกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้านำร่อง
    เขตพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ
    โดยที่ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง

    ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้น และเริ่มทดลองใช้ได้ภายในปี พ.ศ. 2565
    จากนั้นจึงจะขยายการติดตั้งให้ครอบคลุมผู้ใช้บริการในพื้นที่ทั้งหมดในอนาคต

    นอกเหนือจากการจัดการไฟฟ้าในอาคารบ้านเรือนแล้ว
    ระบบ Smart Metro Grid ยังเป็นพื้นฐานสำคัญในการเชื่อมโยงพลังงานสะอาด
    อย่างเช่น พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ผ่านโซลาร์เซลล์ และ โซลาร์รูฟท็อป

    รวมทั้งยังเชื่อมโยงไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า EV ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด
    ในการพัฒนาสถานีชาร์จ สำหรับรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า
    เพื่อช่วยให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้น ทั้งลดมลพิษทางอากาศ
    และไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นับได้ว่าเป็นเทรนด์รักษ์โลก รักษ์พลังงาน
    ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในอนาคตอันใกล้นี้..

    Reference
    - เว็บไซต์การไฟฟ้านครหลวง: www.mea.or.th

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #เซ็มเบ หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า 'เซมเบ้' ขนมข้าวกรอบที่คนญี่ปุ่นทุกคนต้องรู้จัก เป็นขนมที่นิยมใช้เป็นขนมรับแขกเมื่อมาที่บ้าน เสริฟพร้อมทานคู่กับชาเขียวร้อนๆ

    เซ็มเบมีหลายรูปร่างลักษณะ มีหลายรสชาติ รสชาติปกติก็จะเป็นรสโชยุ (หรือรสเค็ม) และรสหวาน การทำเซ็มเบแบบดั้งเดิมจะใช้การอบ และ ย่างเตาถ่าน มีความกรุบกรอบและหอมอบอวล ระหว่างปรุงอาจมีการทาเซ็มเบด้วยซอสปรุงรส ซึ่งส่วนมากทำมาจากซอสถั่วเหลืองและมิริง จากนั้นอาจห่อด้วยสาหร่ายและปรุงด้วยเกลือ ซึ่งปัจจุบันนี้ เซ็มเบ้ได้ถูกพัฒนาไปไกลมากขึ้น มีการทำรสชาติที่แปลกใหม่มากขึ้นเช่น รสช็อกโกแลต วาซาบิ และกิมจิ

    ขนมเซ็มเบเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อราวๆค.ศ. 737 หรือสมัยราชวงศ์ถัง แล้วจึงเริ่มมีการแพร่หลายในแถบคันไซ ขนมเซ็มเบได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน เป็นเซ้มเบโบราณ หรือ เซ็มเบกระเบื้องหลังคา ที่ทำมาจากมันฝรั่งและแป้งข้าวสาลี หรือข้าวเหนียว ซึ่งเซ็มเบปัจจุบันที่คนญี่ปุ่นนั้นรู้จักและนิยมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเซ็มเบสมัยราชวงศ์ถังแต่อย่างใด

    คนญี่ปุ่นเริ่มมานิยมเซ็มเบกันจริงๆจังเมื่อตอนยุคสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) โดยร้าน Sōkajuku ในจังหวัดไซตามะ ที่ทำให้เซ็มเบรสซอสถั่วเหลืองเป็นที่นิยมทั่วประเทศญี่ปุ่นจนถึงปัจจุบัน

    ถ้าเปรียบเทียบกับขนมที่นิยมที่บ้านเราก็คือ โดโซะ แต่เซ็มเบยังมีอีกหลายแบบมากๆ

    เซ็มเบยังเป็นขนมที่กวางที่สวนนาราชอบกินกันมากด้วยนะ สนใจโพสเกี่ยวกับกวางนาราอ่านได้ที่นี่



     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ตรวจสอบโครงการก่อสร้างพื้นที่พัฒนาชุมชนเมืองปัตตานีเนื้อที่ 113 ไร่ งบประมาณรวมกว่า 200 ล้านบาท แต่ผ่านมา 15 ปี บางโครงการยังไม่เเล้วเสร็จ

    “ ทุกโครงการนั้นเเหละใน 3 จว.ชายเเดนใต้มันเสี่ยงที่จะเจ๊ง เพราะมักเอา “เงิน”เป็นตัวตั้ง มากกว่า “ความต้องการของชาวบ้าน”

    เป็นเสียงสะท้อนของนายเชษฐา วิรุตะมะวงค์ ชาวบ้านที่อาศัยใกล้ โครงการพื้นที่พัฒนาชุมชนเมืองปัตตานี บนพื้นที่ 113 ไร่ ใน ต.ตะลุโบะ อ.เมืองปัตตานี โดยนายเชษฐา บอกว่า เห็นโครงการนี้มาตั้งแต่เริ่มต้น และรู้ว่าคงสำเร็จได้ยาก เพราะบ้านที่ถูกสร้างไม่ตรงกับสภาพครอบครัวขยายของคนในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนมุสลิมที่มีสมาชิกหลายคน และทางการก็ไม่เคยลงมารับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านก่อนเริ่มดำเนินโครงการ และการมักผลประโยชน์แอบแฝงมาระหว่างการดำเนินงาน จึงไม่คาดหวังมากนัก แต่โดยส่วนตัวเห็นว่า รัฐควรจัดสรรที่ดินให้คนจนเข้ามาสร้างบ้านเองมากกว่า

    “ทุกโครงการรัฐเอาเงินเป็นตัวตั้ง ประชาชนยังยากจน ข้าราชการอู้ฟู่ รัฐไม่เคยถามว่าชาวบ้านอยากได้อะไร เพราะรัฐเเค่ทำ เพราะรู้ว่าตัวเองอยากได้อะไร ใน 3 จว.ใต้มันผิดมาตั้งเเต่ต้น วันนี้ เเค่ระดับ อบต. นายก กับรองนายก ยังทะเลาะกันเเทบเป็นเเทบตายเงินไม่กี่หมื่น นับประสาอะไรกับประเทศนี้ ที่จะเเย่งชิงเพื่อตัวเอง” นายเชษฐากล่าว

    ทั้งนี้ โครงการพื้นที่พัฒนาชุมชนเมืองปัตตานี อยู่ในความดูแลของการเคหะแห่งชาติ ได้มีการแบ่งพื้นที่เป็น 5 โครงการ คือ โครงการบ้านเอื้ออาทร 328 หน่วย ที่ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ก่อนจะถูกปรับลดเหลือ 100 หน่วย และของบเพิ่ม 33 ล้านบาท แต่เพิ่งถูกบอกเลิกสัญญาในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนที่เหลือ 228 หน่วย ถูกโยกไปเป็นโครงการเคหะชุมชน และบริการชุมชน ที่อยู่ระหว่างการเสนอโครงการเข้าพิจารณาราคากลาง และจัดหาผู้จ้างรายใหม่

    ส่วนที่ 3 คือ โครงการก่อสร้างบ้านสวัสดิการข้าราชการเช่าซื้อ จำนวน 115 หน่วย งบประมาณ 75 ล้านบาท ได้มีการขยายระยะเวลาก่อสร้าง 2 ครั้ง โดยสิ้นสุดสัญญาครั้งล่าสุด คือ วันที่ 21 มกราคมปีหน้า แต่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างก็พบปัญหาหลายอย่าง ส่วนที่เหลือ อีก 60 ไร่ เป็นแปลงว่างรอการพัฒนาตามโครงการอื่นๆของรัฐ

    เรียบเรียงโดย
    น.ส.ติชิลา พุทธสาระพันธ์
    ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคใต้

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #มอร์มูฟเป็นข่าว ไทยแย่แล้วววว!!!! ออกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ บริษัทวิจัยชั้นนำของอังกฤษ ตีแผ่รายงานล่าสุด ระบุว่า ความต้องการท่องเที่ยวต่างประเทศทั่วโลกจะร่วงหนักถึง 57% ในปี 2563 เนื่องจากมาตรการควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศและการกักตัวที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ขณะเดียวกัน ความต้องการท่องเที่ยวต่างประเทศทั่วโลกจะไม่กลับไปสู่ระดับปี 2562 จนกว่าจะถึงปี 2567 สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดและความเชื่อมั่นที่ลดลงต่อการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ รวมถึงผลกระทบต่อการท่องเที่ยวทั้งเพื่อธุรกิจและพักผ่อน

    ** รายงานระบุว่า ทุกภูมิภาคมีแนวโน้มจะมีนักท่องเที่ยวลดลง โดยอเมริกาเหนือจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด คาดว่าจะร่วงหนักถึง 70% ตามด้วยเอเชียแปซิฟิกที่หดตัวลง 57% และยุโรปปรับตัวลดลงที่ 56%

    บรรดาเมืองใหญ่ทั่วโลกจะได้รับผลกระทบมากกว่าพื้นที่ชนบท โดยคาดว่า กรุงเทพมหานคร จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง 14.5 ล้านคน ซึ่งนับเป็นเมืองที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเมื่อวัดจากจำนวนทักท่องเที่ยวที่หายไป โดยตัวเลขดังกล่าวเทียบเท่าเกือบ 2 ใน 3 ของการสูญเสียนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยทั้งหมด.

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #มอร์มูฟเป็นข่าว 'ราชกิจจานุเบกษา' เผยแพร่ ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2563 ลงนามโดยจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

    ใจความว่า ... โดยที่มีความจำเป็นเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การสาธารณสุข การคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน และเพื่อให้การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สมควรกำหนดให้ขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร

    ให้ขยะอิเล็กทรอนิกส์ตามพิกัดอัตราศุลกากรตอนที่ 84 และตอนที่ 85 เฉพาะรหัสสถิติ 899 ตามบัญชีแนบท้ายประกาศนี้ เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ทั้งนี้ ประกอบด้วย 428 รายการ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2553 เป็นต้นไป

    ประกาศ ณ วันที่ 11 สิงหาคม 2563.

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #มอร์มูฟเป็นข่าว กระทบหนักมาก!!! ผลสำรวจความคิดเห็นโดยบีบีซีพบว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ส่งผลกระทบต่อประเทศยากจนรุนแรงกว่าใคร ทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจแผ่ขยายไปทั่วโลก โดยพบว่า คนไทย 81% ได้รับผลกระทบด้านการเงิน

    ผลสำรวจพบว่า วิกฤตไวรัสส่งผลกระทบด้านการเงินมากที่สุด เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ยังพบว่า ประเทศยากจนและคนหนุ่มสาวคือกลุ่มที่ประสบความยากลำบากที่สุด อนึ่ง ผลสำรวจยังพบว่า ผู้หญิงได้รับความเดือดร้อนจากโรคระบาดครั้งนี้มากกว่าผู้ชาย และมีรายงานว่าคนผิวดำในสหรัฐฯมีอัตราการติดเชื้อสูงกว่าคนผิวขาว

    ** ผลสำรวจครั้งนี้พบว่า กลุ่มคนอายุน้อยกว่าได้รับความเดือดร้อนจากโรคระบาดครั้งนี้รุนแรงกว่ากลุ่มคนอายุมากกว่า โดยนี่อาจเป็นเพราะพวกเขามีโอกาสน้อยกว่าในการทำงาน การมีเส้นสายในสังคม และการศึกษาหาความรู้ในช่วงเกิดโรคระบาด.
    -----------------------------------
    อ่านต่อ : https://www.bbc.com/thai/thailand-5...-ZfUroKxWz0gJLHvZU_jpPebCk7XgPX5fkQcH9QKkGURQ

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #มอร์มูฟเป็นข่าว อีก 2 ปีต้องยืนหนึ่ง!!! รัฐบาลทุ่มงบฯ 1.9 พันล้านบาท ตั้งเป้าเป็นผู้นำเกษตรอินทรีย์ในอาเซียน ขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ 1.3 ล้านไร่ เกษตรกร 8 หมื่นราย ในปี 2565

    โดยเรื่องนี้ นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2563 ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการทำเกษตรอินทรีย์อย่างเต็มที่ เพราะจะเป็นประโยชน์กับตัวเกษตรกรและผู้บริโภคในประเทศ รวมถึงเป็นสินค้าเกษตรที่มีโอกาสเติบโตในตลาดโลกอย่างมาก มีมูลค่าสูงถึงแสนกว่าล้านเหรียญสหรัฐ อัตราเติบโตปีละ 20% ตลาดที่สำคัญของโลกคือยุโรปและอเมริกาเหนือ และที่มีแนวโน้มสูงขึ้นมากคือ จีน ออสเตรเลีย และอาเซียน สำหรับในประเทศไทย มีมูลค่าตลาด 3,000 ล้านบาท และส่งออก 2,000 ล้านบาท

    ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ แผนปฏิบัติการด้านเกษตรอินทรีย์ พ.ศ.2560-2565 ด้วยการบูรณาการทำงานร่วมกัน 7 กระทรวง ประกอบไปด้วย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นการมุ่งเป้าภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์คือ 1) ส่งเสริมการวิจัย การสร้างและเผยแพร่องค์ความรู้ และนวัตกรรมเกษตรอินทรีย์ 2) พัฒนาการผลิตผลิตและบริการเกษตรอินทรีย์ และ 3) พัฒนาการตลาดสินค้าและบริการ และการรองรับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ในระดับชุมชน ประเทศ และภูมิภาคอาเซียน

    ** "ที่ผ่านมารัฐบาลได้ส่งเสริมการบริโภคเกษตรอินทรีย์ในกลุ่มโรงเรียน โรงพยาบาล โรงแรม และร้านอาหาร และสนับสนุนการปลูกในที่ดินเกษตรกร ที่ดินภายใต้การจัดสรรที่ดินแห่งชาติ และ ส.ป.ก. ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากคือโครงการข้าวอินทรีย์ ที่ขยายพื้นที่ได้ปีละประมาณ 3 แสนไร่ ทั้งนี้ เกษตรกรที่สนใจจะได้รับการสนับสนุนในเรื่องการผลิต องค์ความรู้ และการตลาด สามารถหาข้อมูลได้ที่เกษตรอำเภอใกล้บ้าน"

    ** "รัฐบาลขอเชิญชวนให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชเกษตรอินทรีย์เพราะนอกจากจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพแล้ว ยังจะเป็นช่องทางการเพิ่มรายได้อย่างมาก โดยภาครัฐมีแผนให้การสนับสนุนสินค้าเกษตรอินทรีย์ ตั้งแต่ระดับต้นทาง เช่น การพัฒนาสารชีวภัณฑ์ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การเพิ่มห้องปฏิบัติการตรวจรับรองผลผลิตให้ได้ตามมาตรฐาน ระดับกลางทาง เช่น การแปรรูปผลผลิต ปรับระบบโลจิสติกส์สินค้า และระดับปลายทาง".

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    มาเลเซีย : ซาราวัก น้ำท่วมจากฝนตกหนักแม่น้ำเกินระดับล้นท่วมเมือง
    #ชาวเมืองนำเรือมาใช้แทนรถ

    ภาพ borneo:Wan halil : sarawak aritok

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อินเดีย : รัฐบาล ประกาศ 14 กันยายน ห้ามส่งออกหัวหอมทุกสายพันธุ์มีผลทันที (บังคับ6เดือน)เนื่องจาก ฝนตกหนักกระทบพื้นที่ปลูก น้ำท่วมพื้นที่ ผลผลิตมีจำกัดราคาขายในอินเดียสูงขึ้นแตะ 30,000 รูปี (408.52 ดอลลาร์ 12,737 บาท อิงค่าเงินวันนี้ ) ต่อตัน อินเดียคือผู้ส่งออกหัวหอม ใหญ่ที่สุดในโลก ประเทศเอเชียใต้ลูกค้าหลักได้แก่บังกลาเทศเนปาลมาเลเซียและศรีลังกา /ภาพที่ 1
    #บังกลาเทศ ภาพที่/ 2 หัวหอมเริ่มขาดแคลน และปรับราคาสูงขึ้นเพราะอินเดียไม่ส่งออก บังกลาเทศตัดสินใจนำเข้าหัวหอมจากประเทศจีนเมียนมาร์ปากีสถานอียิปต์และตุรกี 11,000 ตัน ทำเรื่องนำเข้าตั้งแต่ 3 กันยายน

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #ด่วนมาแล้วเส้นทางพายุดีเปรสชั่น 90w ซึ่งคาดการณ์ว่าอีกประมาณ 48 ชั่วโมงจะเป็น #พายุโซนร้อนโนอึล เส้นทางมุ่งหน้าสู่เวียดนามตอนกลาง เข้าสู่สปปลาวตอนล่าง จุดศูนย์กลางมุ่งหน้านครพนม มุกดาหาร รัศมีของพายุกินบริเวณกว้าง ซึ่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือน่าจะโดนเต็มๆ

    ประมาณวันที่ 18 ถึงวันที่ 19 ประเทศไทยน่าจะได้รับผลกระทบกับพายุลูกนี้ ที่ต่ำที่ลุ่ม ระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ลมกระโชกที่แอดคาดการณ์ไว้ ให้ติดตามวันต่อวันเพราะกระแสลมไม่แน่นอน พายุลูกนี้มีความรุนแรงมากติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะช่วงที่เข้าประเทศไทยช่วงแรกอาจจะยังเป็นพายุโซนร้อนอยู่ ซึ่งลมกระโชกค่อนข้างที่จะแรงมาก

    เส้นทางยังคงน่าติดตามวันต่อวันเพราะมีการปรับเปลี่ยน ตามสภาพอากาศที่เกิดขึ้นจริงอาจจะปรับเปลี่ยนบ้างเล็กน้อยก่อนขึ้นฝั่ง

    ภาพกราฟฟิกจากกรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น
    อัพเดทล่าสุด 15 กันยายน 2563

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #มาแบบนี้อันตรายมากๆรุนแรงมาก หลังคาบ้านต้นไม้ใหญ่เสาไฟฟ้าบ้านที่ไม่มั่นคงแข็งแรง ข้อมูล ecmwf ยุโรป (ลมกระโชกความเร็วลมสูงสุด 107 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) บริเวณใกล้จุดศูนย์กลาง นี่คือบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยลมกระโชกแรง #บึงกาฬ #นครพนม #มุกดาหาร #กาฬสินธุ์ #สกลนคร #อุดรธานี #ขอนแก่น #บึงกาฬ #หนองคาย #เลย #หนองบัวลำภู ร้อยเอ็ด แบบจำลองสภาพอากาศของวันที่ 18 กันยายน 2563

    (ย้ำถ้าข้อมูลไม่เปลี่ยนแปลงก่อนพายุจะขึ้นฝั่งประมาณวันที่ 17)คงจะมีการอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย หรืออพยพไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย

    #เพจเตือนภัยพิบัติวาตภัยฝนฟ้าพายุ อัพเดทล่าสุดช่วงบ่าย 15 กันยายน 2563

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    15 กันยายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม.ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. .... ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เสนอปรับปรุงพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 และมีประเด็นเกี่ยวกับการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจและการพิจารณาบำเหน็จความชอบมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนเพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติไว้ในหมวด 16 การปฏิรูปประเทศ มาตรา 258 ง.ด้านกระบวนการยุติธรรม

    สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ปรับปรุงแก้ไขร่างพระราชบัญญัติที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยมี สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฯ สรุปได้ดังนี้ ร่าง พ.ร.บ. ที่ ตร. เสนอ เป็นการปรับปรุง พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 โดยเป็นการดำเนินการตามหมวด 16 การปฏิรูปประเทศ ของรัฐธรรมนูญ และแผน การปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม มีการแก้ไขในประเด็นสำคัญ 3 ประการ คือ 1.การบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจ มีการแบ่งสายงานเพื่อให้ข้าราชการตำรวจในแต่ละสายงานให้สามารถเจริญเติบโตตามสายงานด้วยความรู้ความชำนาญในสายงานของตนให้ชัดเจน แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มสายงาน คือ กลุ่มสายงานบริหาร กลุ่มสายงานอำนวยการและสนับสนุน กลุ่มสายงานสอบสวน กลุ่มสายงานป้องกันและปราบปราม และกลุ่มสายงานวิชาชีพเฉพาะ (ซึ่งเดิมไม่มีการกำหนด)

    ทั้งนี้ให้กำหนดกระบวนการในการแต่งตั้งและการเลื่อนตำแหน่งให้ชัดเจน โดยคำนึงถึง “อาวุโส” ความรู้ความสามารถ และความพึงพอใจในบริการที่ประชาชนได้รับ และมีการกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจน เพื่อเป็นการลดการใช้ดุลพินิจของผู้บังคับบัญชา รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกระบวนการแต่งตั้ง และการเลื่อนตำแหน่งของสายงานสอบสวนไว้เป็นการเฉพาะ (จากเดิมไม่มีการกำหนด)

    2. ปรับปรุงระบบ คณะกรรมการ ยกเลิกคณะกรรมการ เดิม คือ คณะกรรมการ นโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) โดยให้มี เพียง “คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ” (ก.ตร.) ทำหน้าที่ทั้งในการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การบริหารราชการตำรวจ และกำกับดูแล ตร. ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย นโยบาย ยุทธศาสตร์ชาติ มติ ครม. และระเบียบแบบแผน รวมทั้ง กำหนดนโยบายและมาตรฐานการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจและจัดระบบราชการตำรวจ กำกับดูแลการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ตลอดจนกำกับดูแลการจัดสรรงบประมาณให้แก่ส่วนราชการในหน่วยปฏิบัติให้เพียงพอ ให้มี คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ เพื่อพิจารณาวินิจฉัย อุทธรณ์เรื่องร้องทุกข์ รวมทั้งการกำหนดระบบคุณธรรมเพื่อเป็นที่พึ่งของข้าราชการ ตำรวจในการปลดเปลื้องทุกข์ของข้าราชการตำรวจที่เกิดจากผู้บังคับบัญชา ให้มีคณะกรรมการ พิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ เพื่อเป็นกลไกสำหรับประชาชน ในการร้องเรียนการปฏิบัติที่ไม่ชอบของข้าราชการตำรวจอันเป็นการปลดเปลื้องทุกข์ของประชาชน

    3. การเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน ปรับปรุงการจัดระเบียบราชการใน ตร.ใหม่ โดยแบ่งส่วนราชการออกเป็น ระดับกองบังคับการตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรจังหวัด และสถานีตำรวจ (จากเดิมแบ่งเป็นสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการ) เพื่อเป็นหน่วยงานที่ให้บริการประชาชนและใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด จะช่วยให้การบริการ ประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น กำหนดให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในกิจการตำรวจ โดยการให้เงินอุดหนุนแก่ สถานีตำรวจเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจในสถานีตำรวจนั้น ที่จะได้ร่วมกับท้องถิ่นในการจัดทำแผนหรือมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ที่สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละท้องถิ่น หรือชุมชน จัดตั้ง “กองทุนเพื่อการสืบสวน สอบสวน การป้องกันและปราบปราม การกระทำความผิดทางอาญา” เพื่อเป็นแหล่งสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติหน้าที่ ของข้าราชการตำรวจ

    "ถือเป็นการปฏิรูปครั้งใหญ่ของวงการตำรวจ ส่วนการปฏิรูปกฎหมายอีกฉบับหนึ่งคือ การปฏิรูปการสอบสวนคดีอาญานั้น ยังไม่เข้าคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นการแก้ไขในส่วนของคดีอาญา เช่น เดิมการร้องเรียนคดีอาญาจะต้องแจ้งความในพื้นที่ที่เกิดเหตุ แต่ต่อไปจะสามารถแจ้งความในทุกๆพื้นที่ในประเทศ แล้วตำรวจจะประสานงานออนไลน์กันเอง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนมากยิ่งขึ้น" รองโฆษกรัฐบาลกล่าว

    #RoundtableThailand
    roundtablethailand.com

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของจีน เปิดเผยว่า วัคซีนต้านโควิด-19 ที่จีนพัฒนาขึ้นในเดือน พ.ค. จะพร้อมใช้งานได้ในช่วงต้นเดือน พ.ย.นี้

    ปัจจุบัน จีนมีวัคซีนโควิด -19 จำนวน 4 รายการ ที่กำลังอยู่ในการทดลองทางคลินิกเป็นขั้นตอนสุดท้าย โดยก่อนหน้านี้ ได้มีการเปิดตัววัคซีนอย่างน้อย 3 รายการไปในเดือน ก.ค. เพื่อเสนอฉีดให้กับผู้ปฏิบัติงานที่จำเป็นกรณีฉุกเฉิน

    นางกุ้ยเสิ่น อู๋ หัวหน้าด้านความปลอดภัยของชีวภาพของซีดีซี ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ทางการจีนเมื่อวันจันทร์ (14 ก.ย.) ว่า การทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนคลินิกมีความราบรื่น และพร้อมนำออกสู่สาธารณะได้ในเดือน พ.ย. หรือ ธ.ค. นี้ โดยในการทดลองช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เธอไม่พบอาการผิดปกติ หลังจากได้รับวัคซีนด้วยตัวเองในเดือน เม.ย. นางอู๋กล่าว โดยไม่ได้ระบุว่าเธอได้รับวัคซีนชนิดใด

    หน่วยงานด้านเภสัชกรรมของจีน ได้แก่ ซิโนฟาร์ม และชิโนวัค ซึ่งเป็นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐ กำลังพัฒนาวัคซีน 3 รายการภายใต้โครงการใช้ในกรณีฉุกเฉินของประเทศ โดยวัคซีนต้านโควิด-19 รายการที่ 4 ที่พัฒนาโดยบริษัทแคนชิโน ไบโอโลจิกส์ ได้รับการอนุมัติให้ใช้โดยกองทัพจีนในเดือน มิ.ย.

    ด้าน ซิโนฟาร์ม เปิดเผยเมื่อเดือน ก.ค.ว่า วัคซีนโควิด-19 ที่ทดลองอยู่ พร้อมออกสู่สาธารณะได้ในปลายเดือนนี้ หลังจากสรุปผลการทดลองในเฟส 3 แล้ว

    อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตวัคซีนทั่วโลกได้เร่งแข่งขันกันพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งโควิด-19 คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 925,000 คน โดยผู้ผลิตวัคซีนชั้นนำของตะวันตกให้คำมั่นเมื่อต้นเดือน ก.ย. ว่าจะรักษามาตรฐานการศึกษาค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์และปฏิเสธแรงกดดันทางการเมืองใด ๆ ที่ต้องพัฒนาขั้นตอนออกสู่ตลาด

    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com

    ที่มา https://www.bangkokbiznews.com/news...medium=internal_referral&utm_campaign=foreign

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ดีอีเอสได้สั่ง กสทฯ ทีโอทีนำร่องขยายไวไฟฟรีในเขตเมือง อัดสปีด100/100 เมกะบิต เพิ่มเป็น 20 แห่ง โดยชูสำเพ็งเป็นพื้นที่โมเดล ต่อยอดการใช้งานโดยเปิดอบรมการขายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม ของไทยผ่านไปรษณีย์ไทย เพื่อสนับสนุนชุมชนและประชาชนทุกพื้นที่ให้มีโอกาสใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เข้าถึงบริการภาครัฐ และใช้ประโยชน์ในกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และปรับวิถีการใช้ชีวิตแบบปกติใหม่ (นิว นอร์มอล) ตลอดจนเป็นการต่อยอดโครงข่ายอินเทอร์เน็ตสาธารณะของประเทศ

    ทั้งนี้ แม้ที่ผ่านมารัฐบาลจะลดการเข้าเทคโนโลยี ในพื้นที่ต่างจังหวัดและรอบนอกแล้ว จากโครงการเน็ตประชารัฐหรือเน็ตชายขอบ แต่หากดูในเขตเมืองก็ยังบางแห่งที่ยังขาดโอกาสในการเข้าถึงทั้งจากศักยภาพการใช้จ่ายและในพื้นที่จุดบอดเอง ดังนั้นจึงมอบหมายให้ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ทำโครงการนำร่องขยายจุดให้บริการฟรีไวไฟในชุมชนเมือง ด้วยความเร็วดาวน์โหลด/อัพโหลด 100/100 เมกะบิต จากเดิม 10 แห่ง เพิ่มเป็น 20 แห่ง โดยแบ่งเป็น ชุมชนเมืองในกรุงเทพฯ 10 จุด และในต่างจังหวัด 10 จุด ซึ่งคาดว่า จะสามารถเปิดให้ใช้งานในเดือนตุลาคม 2563

    นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ตัวอย่างโครงการนำร่องขยายจุดให้บริการฟรีไวไฟในชุมชนเมือง โครงการ แรกจะทำที่สำเพ็ง โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการประเมินว่าจะใช้อุปกรณ์ อย่างไร และจำนวนเท่าไร ซึ่งหลังเปิดให้ใช้งานจะมีการต่อยอดการใช้งานโดยเปิดอบรมการขายสินค้าออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์ม ของไทย โดยอาจจะใช้แพลตฟอร์มของบริษัท ไปรษณีย์ ไทย จำกัด (ปณท) ที่มีอยู่ เพื่อเป็นการสนับสนุน การใช้แพลตฟอร์ม ขายสินค้าออนไลน์ของไทยได้ทางหนึ่ง

    “อาจมีการจูงใจให้พ่อค้า แม่ค้า หันมาใช้แพลตฟอร์ม ขายสินค้าออนไลน์และใช้บริการของไปรษณีย์ มากขึ้น โดยลดค่าจัดส่งพัสดุ ลงครึ่งหนึ่ง อีกทั้งช่วยเพิ่มรายได้ และสอนให้พ่อค้า แม่ค้าปรับตัวรับกับพฤติกรรม ของผู้บริโภค ที่หันมาพึ่งพา แพลตฟอร์ม ออนไลน์ มากขึ้น” นายพุทธิพงษ์ กล่าว

    นายพุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า จากนี้จะเห็นความร่วมมือระหว่างแคท และทีโอที เพื่อปูทางสู่การควมรวมกิจการเป็น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) อย่างเป็นรูปธรรม ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ต้องแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2564 ประกอบกับสิ่งที่ได้รับหลังการร่วมมือกันครั้งนี้ คือ การทำเครือข่ายให้เข้มแข็ง โดยในอนาคต อาจมีการพัฒนา ระบบการปกป้องข้อมูล ระบบการอำนวยความสะดวกในด้านอื่นๆ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาแพลตฟอร์ม ที่เป็นประโยชน์ ต่อไป

    https://www.bangkokbiznews.com/news...&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=it

    #RoundtableThailand
    roundtablethailand.com

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยการประสานความร่วมมือในการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับข้อมูลทะเบียนยานพาหนะระหว่าง 3 หน่วยงาน ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กรมทางหลวง (ทล.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อศึกษาและพัฒนาระบบเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) ในรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน (Single Platform System) ร่วมกันระหว่าง 3 หน่วยงาน คือ ขบ. ทล. กทพ. และเอกชนผู้รับสัมปทาน คือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ในการให้บริการทางด่วนและมอเตอร์เวย์แบบไม่มีไม้กั้นหน้าด่าน เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด

    นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ได้ให้นโยบาย กทพ. และ ทล.ศึกษาการนำระบบการให้บริการทางด่วนและมอเตอร์เวย์แบบไม่มีไม้กั้น Multi-Lane Free Flow หรือ M-Flow เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรบริเวณหน้าด่านฯ โดยทั้ง ทล.และ กทพ.ได้หารือกับเอกชนผู้รับสัมปทานเพื่อบูรณาการทำงานในรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน (Single Platform System) คือ นำระบบกล้องอ่านป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ เป็นระบบ AI ส่งข้อมูลเชื่อมต่อกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อเรียกเก็บค่าผ่านทาง โดยให้ชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น หักค่าบัตรเครดิต, แจ้งบิลค่าใช้จ่ายรายเดือน ลักษณะเหมือนบิลค่าบริการโทรศัพท์มือถือ โดยเจ้าของรถจะต้องโหลดแอปฯ และลงทะเบียน เพื่อเลือกวิธีการชำระเงิน พร้อมชงคณะกรรมการจัดการจราจรทางบก (คจร.) ไฟเขียวกรณีเบี้ยวหนี้มีความผิดตามกฎหมาย ค่าปรับ 10 เท่า

    ทล.กำลังประมูลหาผู้รับจ้างเข้ามาติดตั้งระบบ ซึ่งจะทดสอบระบบเสร็จภายในสิ้นปี 2563 และหลังปีใหม่ 2564 จะเริ่มนำร่องยกเลิกไม้กั้นถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก (มอเตอร์เวย์ สาย 9) ที่ด่านทับช้าง จากนั้นจะขยายไปครบทุกด่านของมอเตอร์เวย์ ส่วนทางด่วนของ กทพ.จะเริ่มนำร่องที่ทางด่วนสายรามอินทรา-อาจณรงค์ (ทางพิเศษฉลองรัฐ) เช่น ด่านบางนา กม.6, ด่านดาวคะนอง และจะขยายไปครบทุกด่านทั้งมอเตอร์เวย์และทางด่วนภายในปี 2564 จากนั้นจะทยอยเอาตู้ที่ด่านออกเพื่อเปิดพื้นที่

    “ด่านทับช้าง มีปริมาณจราจร 4 แสนคัน/วัน กำหนดว่าปีใหม่ 64 จะใช้รูปแบบใหม่ ทั้งด่านจะไม่มีไม้กั้น และใช้กล้อง AI สแกนป้ายทะเบียนรถเพื่อเรียกเก็บเงินแทน ซึ่งจะให้ทั้ง ทล. กทพ. และเอกชน เร่งประชาสัมพันธ์ข้อมูลประชาชน ไม่ให้เกิดความสับสน และวุ่นวาย เรื่องนี้อาจจะใหม่สำหรับคนไทยแต่ในต่างประเทศใช้กันมานานแล้ว นอกจากนี้ ต้องหาแนวทางเยียวยาพนักงานเก็บค่าผ่านทางที่จะได้รับผลกระทบจากการนำระบบ AI เข้ามาทำงานแทน”

    ระบบนี้นอกจากแก้รถติดหน้าด่านแล้ว ยังจะเพิ่มความสะดวกในการชำระค่าผ่านทางในหลายช่องทาง นอกจากนี้ ยังแก้ปัญหาการสูญเสียรายได้จากค่าผ่านทางกรณีมีการติดค้าง หรือฝ่าด่านโดยไม่จ่ายเงิน ซึ่งที่ผ่านมามีหนี้ติดค้างประมาณ 2% ของรายได้ต่อวัน ซึ่งเมื่อเทียบกับปริมาณรถบนทางด่วนกว่า 1.9 ล้านคน/วัน ถือว่าค่อนข้างสูง โดย ทล. และ กทพ.จะว่าจ้างบริษัทเอกชนเข้ามาทำหน้าที่เรียกเก็บค่าผ่านทางส่งให้ ทล.และ กทพ. ครบ 100% กรณีมีการติดค้างเอกชนมีหน้าที่ทวงหนี้และมีค่าปรับเป็นค่าดำเนินการ ซึ่งเบื้องต้นจะมีค่าปรับประมาณ 10 เท่า

    นอกจากนี้ ได้หารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการเพิ่มเงื่อนไขเรื่องการไม่ชำระค่าผ่านทางพิเศษ ให้กำหนดเป็นความผิดภายใต้ พ.ร.บ.จราจร ซึ่งเตรียมนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) แล้วเพื่อนำไปสู่การบังคับใช้ต่อไป

    นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า การเก็บค่าผ่านทางโดยสแกนป้ายทะเบียนรถนั้น ทล.จะดำเนินการ 2 ส่วน คือ 1. ติดตั้งระบบควบคุมการจัดเก็บค่าผ่านทาง ที่อาคารศูนย์บริหารจัดการจราจร (CCB) ลาดกระบัง อยู่ระหว่างประมูลหาผู้รับจ้าง วงเงิน 180 ล้านบาท 2. ประมูลหาผู้รับจ้าง ในการบริหารจัดการ โดยจะเป็นผู้ติดตั้งกล้อง CCTV จำนวน 4 ด่าน คือ ด่านทับช้าง 1, 2 และด่านธัญบุรี 1, 2 ทำหน้าที่ส่องป้ายทะเบียน ซึ่งส่วนของกล้อง CCTV จะจ่ายเป็นรายเดือนและทำหน้าที่เก็บค่าผ่านทาง โดยแจ้งบิลไปยังเจ้าของรถ รวมถึงติดตามทวงหนี้ ซึ่งส่วนนี้จะมีสัญญาแบบปีต่อปี

    ด้าน นายจิรุฒม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า ระบบของกรมการขนส่งฯ มีความพร้อมในการเชื่อมข้อมูลป้ายทะเบียนรถกับกรมทางหลวงและ กทพ.เพื่อใช้ในระบบจัดเก็บค่าผ่านทางแบบใหม่ ซึ่งปัจจุบันมี 30 หน่วยงานที่เชื่อมข้อมูลกับกรมการขนส่งฯ เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หรือหน่วยงานด้านประกันภัย เป็นต้น ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญคือ การรักษาข้อมูลส่วนตัวของเจ้าของรถ ซึ่งกรมฯ มีระบบป้องกันอยู่แล้ว

    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com

    ที่มา https://mgronline.com/business/detail/9630000094128

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Sep 15 , 2020 อเมซอนจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นกว่าแสนคน สวนสถานการณ์โควิดแพร่ระบาด
    .
    อเมซอน บริษัทค้าปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ ได้ประกาศรับสมัครพนักงานเพิ่มอีกกว่า 100,000 คน ในสหรัฐและแคนาดา ซึ่งขณะนี้ได้มีพนักงานอยู่แล้วถึง 876,800 คน โดยไม่รวมผู้รับเหมาและพนักงานชั่วคราว เเละเพื่อให้ทันกับความต้องการของการขายออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่โควิด-19 ระบาด ทำให้ต้องเพิ่มบุคลากรในคลังสินค้าและไซต์ปฏิบัติการใหม่ 100 แห่งที่กำลังจะเปิดในเดือนนี้ เเละจะช่วยเหลือผู้ที่ถูกเลิกจ้างจากธุรกิจอื่นจากวิกฤติโควิด-19 ระบาดทั่วโลก
    .
    ทั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการโตของตลาดซื้อสินค้าออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เเละจากอานิสงค์ทำให้เกิดความต้องการของเเรงงานของอเมซอน ในการบรรจุเเละจัดส่งสินค้าให้เเก่ลูกค้า โดยอเมซอนมีรายได้เพิ่มขึ้น 40% ในไตรมาสที่แล้วและทำกำไรได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ในรอบ 26 ปี
    .
    #อเมซอน #จ้างพนักงาน #Misterban

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Sep 15 , 2020 ประกาศเคอร์ฟิว จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ห้ามประชาชนออกจากเคหะสถาน นาน 2 เดือน ตั้งแต่เวลา 24.00 น.-04.00 น. เริ่ม 15 ก.ย.นี้
    .
    ทางการเมียนมา จังหวัดเมียวดี ใกล้กับ อ.แม่สอด จ.ตาก ได้ประกาศเคอร์ฟิวห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานระหว่างเวลา 24.00 น.-04.00น. เป็นเวลา 2 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. 2563 เป็นต้นไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อให้การป้องกันโรคไวรัสโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หลังยอดผู้ติดเชื้อในประเทศเมียนมาได้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
    .
    ทางด้าน นายธวัช ธรรมแงะ กำนันตำบลแม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และเจ้าหน้าที่อาสาสาธารณสุขหมู่บ้าน( อสม ) ตั้งจุดตรวจคัดกรอง และ เฝ้าระวังสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามบริเวณท่าขนส่งสินค้าต่างๆประกอบที่ท่าข้ามธรรมชาติ ซึ่งอยู่ติดชายแดนไทย-เมียนมา บ้านห้วยกะโหลก ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ทั้งนี้เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้คนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง และป้องกันการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในประเทศเมียนมา
    .
    #เมียวดี #เมียนมา #ชายแดนไทย #Misterban

     

แชร์หน้านี้

Loading...