ติดตามสถานะการณ์

ฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ และทหาร วางมาตรการตรวจเข้มคนเข้าออกพื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านอุ้มเปี้ยม หลังทางการสั่งล็อกดาวน์พื้นที่เพื่อสอบสวนโรค หลังเจอผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย ที่ลักลอบเข้ามาในพื่นที่ และกำลังรอผลตรวจยืนยันรอบสอง ล่าสุดมีการยืนยันแล้วว่า เบื้องต้นพบผู้สัมผัสใกล้ชิด 10 ราย เร่งติดตามเข้ากระบวนการคัดกรองและสืบสวนโรคต่อไป
.
หลังมีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย เป็นชายต่างด้าวอายุ 48 ปี พักอาศัยหมู่ที่ 4 โซน A ภายในพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าศูนย์อพยพ ตั้งอยู่กลางดอยสูงชันติดถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง เขตอำเภอพบพระ จังหวัดตาก มีการจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่คุมเข้มรอบพื้นที่
.
โดยเบื้องต้นพบว่าผู้ป่วยรายนี้เป็นบุคคลที่ไม่มีทะเบียนอยู่ในพื้นที่ศูนย์พักพิง ซึ่งผู้ป่วยรายนี้เป็นคนต่างด้าวได้แอบลักลอบมาจากแนวชายแดนไทย-พม่า แล้วลักลอบเข้าไปในพื้นที่ศูนย์บ้านอุ้มเปี้ยมผ่านช่องทางป่าล่อแหลมป่ารกทึบ ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ออกตรวจ และพบตัวหลังชาวบ้านแจ้งข่าวให้เจ้าหน้าที่ทราบ เนื่องจากชาวบ้านพบตัวชายรายนี้มีอาการป่วยและมีไข้สูงผิดปกติ
.
เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพร้อมชุดป้องกันแล้วส่งตัวไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลและผลการตรวจเบื้องต้นพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ป่วยรายนี้เดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแม่สอดซึ่งมีห้องรักษาตัวสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะ โดยมีทีมแพทย์ดูแลติดตามอาการผู้ป่วยอย่างดี
.
ขณะที่ล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอพบพระได้ส่งเจ้าหน้าที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอพบพระ เข้าวางกำลังทุกช่องทางทั้งประตูเข้าออกภายในพื้นที่พักพิง และเพิ่มการตรวจค้นบุคคลเข้าออกพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยมอย่างเข้มงวด โดยไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกที่ไม่มีความจำเป็นเข้าออกในพื้นที่อย่างเด็ดขาด
.
พร้อมสั่งปิดพื้นที่ล็อกดาวน์ในโซนที่พบผู้ป่วย รวมทั้งระดมกำลังทีมสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยม เร่งลงพื้นที่ลงไปทำการสอบสวนโรคพร้อมนำตัวผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้ไปกักตัวในพื้นที่ปลอดภัย
.
ส่วนพื้นที่ล่อแหลมขณะนี้ เจ้าหน้าที่กองร้อย อส.อำเภอพบพระและทหาร ได้เพิ่มการออกตรวจลาดตระเวนในพื้นที่ล่อแหลมเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าออกพื้นที่ศูนย์อพยพผู้หนีภัยสงครามแห่งนี้ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าภูเขา
.
ปัจจุบันพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบบ้านอุ้มเปี้ยมแห่งนี้มีผู้หนีภัยจากการสู้รบอาศัยรวมกันโดยแบ่งเป็นโซนหมู่บ้านรวมกันมากกว่า 1 หมื่นคน

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://mgronline.com/local/detail/9630000120226

https://siamrath.co.th/n/199028

-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

แหล่งข่าว #อิสราเอล เผย กลุ่มขบวนการต่อสู้ #ปาเลสไตน์ใน #กาซา กำลังจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้นในแต่ละวัน

แหล่งข่าวความมั่นคงอิสราเอล ได้เปิดเผยว่า กลุ่มการต่อสู้ปาเลสไตน์ในเขตฉนวนกาซานั้นมีความแข็งแกร่งอย่างรวดเร็วอย่างมากในทุกๆวัน

สถานีวิทยุกองทัพอิสราเอลได้อ้างจากแหล่งข่าวความมั่นคง ระบุว่า หากว่าอิสราเอลได้ปะทะกับพวกปาเลสไตน์แล้วละก็ เราจะได้เหตุการณ์ที่ยังไม่เคยเห็นมาก่อนเลยอย่างแน่นอน

 

พรุ่งนี้อุณหภูมิลดฮวบ -6 องศา

ตั้งแต่วันจันทร์นี้เป็นต้นไป อุณหภูมิทั่วเกาหลีจะลดลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากลมหนาวที่พัดมาจากทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ อุณหภูมิภาคพื้นดินในภาคกลางและคย็องบุกจะลดลงกว่า 10 องศา

กรมอุตุนิยมวิทยาออกเตือนคลื่นความเย็นเริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนนี้เป็นต้นไป ด้วยลมแรงทำให้รู้สึกหนาวกว่าอุณหภูมิจริง อย่างไรก็ตามฝากเตือนให้ประชาชนทุกคนควรระมัดระวังและดูแลสุขภาพด้วย

ในเช้าพรุ่งนี้ อุณหภูมิจะลดลง -6 ถึง 7 องศาเซลเซียส และเที่ยงวันอุณหภูมิจะอุ่นขึ้นที่ 5 ถึง 14 องศาเซลเซียส

อากาศทั่วประเทศจะปลอดโปร่ง เว้นแต่ชายฝั่งจอลลาโดและเชจูโดจะมีฝนในช่วงเช้ามืดเล็กน้อย
ทางด้านคังวอนโดตามบริเวณชายฝั่งทะเลจะพบฝนโปรยปรายเช่นกัน ส่วนอุณหภูมิบนภูเขาแทบคังวอนโดจะลดต่ำถึงขั้นมีหิมะในบางส่วน

ขอบคุณที่มา: https://www.weather.go.kr/w/weather/warning/status.do

 

โซลยกระดับ 2 เริ่ม 24 พ.ย. นี้ “งดนั่งร้านกาแฟอีกรอบ!”

หลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง รัฐบาลจึงตัดสินใจจะเพิ่มระดับการเว้นระยะห่างทางสังคมในระดับ 2 ในเขตมหานครโซล (โซล, คย็องกี - โด, อินชอน)

โดยการบังคับใช้จะเริ่มเวลา 00.00 น. ของวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน นายกรัฐมนตรีช็องเซ-กยุน มีการประชุมและตัดสินใจว่านี่คือ COVID-19 ระลอกที่ 3 ที่ได้กลับมาระบาดอย่างหนักอีกครั้งแล้ว

ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายนถึง 7 ธันวาคมเขตเมืองโซลจะเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาระยะห่างทางสังคมขึ้นเป็นระดับ 2

ในขณะที่ภูมิภาคโฮนัม (จอนนัม, จอนบุก) จะต้องเพิ่มระดับมาเป็น 1.5 ระดับ จอนบุกจะเพิ่มระดับเป็น 1.5 ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 23 พฤศจิกายน และกวางจูกำลังอยู่ในระดับ 1.5 อยู่แล้ว

[สิ่งที่เปลี่ยนแปลงเมื่อยกระดับขึ้นเป็นระดับ 2]

- จะมีการบังคับใช้ข้อห้ามตามสถานที่เสี่ยงหลักๆ เช่น คลับบาร์บันเทิง, 단란주점, 콜라텍, 감성주점, 헌팅포차 โดยจะให้มีการหยุดบริการชั่วคราวอีกครั้ง

- ศูนย์ขายตรงและส่งเสริมการขาย รวมถึงการขายแบบตัวต่อตัวจะมีการจำกัดอยู่ที่ 1 คนต่อพื้นที่ 8 ตารางเมตร (และงดให้บริการหลัง 21:00 น. / ห้ามมีการเปิดเพลงและร่วมรับประทานอาหาร)

- พื้นที่ซ้อมร้องเพลงจะปิดให้บริการหลัง 21:00 น. และจำกัดจำนวนคนไว้ที่ 1 คนต่อพื้นที่ 4 ตารางเมตร และห้ามรับประทานอาหารภายใน (น้ำดื่ม, หรือเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ให้บริการได้)

- ห้องแสดงการแสดงยืนในร่มจะถูกระงับหลังเวลา 21:00 น. และผู้ชมจะต้องงดการยืนชมแบบติดกันและควรจัดที่นั่งให้ห่างกันอย่างน้อยหนึ่งเมตร (งดบริการอาหาร)

- สำหรับร้านอาหารจะให้บริการเฉพาะบรรจุภัณฑ์หลัง 21 น. (ให้บริการก่อน 21:00 น.)

- นอกจากนี้ ร้านกาแฟทั้งหมดที่ขายเครื่องดื่มให้งดการนั่งดื่มภายในร้าน และให้นำกลับเท่านั้น และจะให้บริการได้เพียงช่วงเวลาทำการเท่านั้น (งดการจัดวางที่นั่ง)

- ผู้จัดการสถานที่ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจะต้องจ่ายค่าปรับสูงสุด 3 ล้านวอนและผู้ใช้บริการต้องจ่ายค่าปรับ 100,000 วอน หากตรวจพบการละเมิดกฎอย่างน้อยหนึ่งครั้ง สถานที่นั้นๆ จะถูกแบนทันที

- ในกรณีของสถานอำนวยความสะดวกที่อยู่ในระดับการจัดการทั่วไปจะมีการเปลี่ยนแปลงในด้าน 'ข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนผู้ใช้บริการ'

- ไม่อนุญาตให้ใช้สถานอำนวยความสะดวกด้านกีฬาในร่ม เช่น ฟิตเนส, บิลเลียด (สนุ๊กเกอร์) และสนามกอล์ฟ หลังเวลา 21:00 น. (จำกัดจำนวนหนึ่งคนต่อพื้นที่ 4 ตารางเมตร)

- ในกรณีของห้องโถงหรือฮอล์สำหรับจัดงานแต่งงานและห้องจัดงานศพจะอนุญาตให้มีแขกเข้าได้ไม่เกิน 100 คน

- ห้ามรับประทานอาหารในห้องอาบน้ำสาธารณะและร้านค้าข้างทางและ จำกัดจำนวนคนไว้ที่หนึ่งคนต่อพื้นที่ 8 ㎡

- โรงภาพยนตร์, ห้องจัดการแสดง, ห้องพีซีรูม ฯลฯ ควรเว้นตรงกลางระหว่างที่นั่ง

- ในกรณีของสถานศึกษา, ศูนย์การสอนและสถาบันฝึกอบรมวิชาชีพ ห้ามมีการรับประทานอาหารร่วมกันและ จำกัดจำนวนคนไว้ที่หนึ่งคนต่อ8㎡

- สวนสนุกควรจำกัดจำนวนคนไว้ที่หนึ่งในสามของความจุที่สามารถจุได้ และร้านเสริมสวยควรจำกัด จำนวนคนไว้ที่ 1 คนต่อ8㎡หรืออนุญาตให้มีที่นั่งได้สองที่

- และจำเป็นจะต้องสวมหน้ากากในสถานอำนวยความสะดวกอเนกประสงค์ในร่ม เช่น ตามพิพิธภัณฑ์, ห้องสมุดและหอศิลป์

- ในกรณีของสถานอำนวยความสะดวกที่ดำเนินการโดยรัฐ จำนวนผู้ใช้งานจะถูกจำกัดไว้ที่ 30% ในขณะที่การแข่งม้าและคาสิโนจะถูกระงับการให้บริการ

- โรงเรียนต้องจำกัดจำนวนความหนาแน่น1/3 ของนักเรียนที่มีอยู่ (ร.ร. มัธยมจะต้องจำกัดความหนาแน่น2/3) อย่างไรก็ตามโรงเรียนจะดำเนินการต่อได้ที่ความหนาแน่นได้ไม่เกิน 2/3 ของนักเรียนที่มีอยู่

- กิจกรรมทางศาสนาอนุญาตให้เข้าร่วมได้เพียง 20% ของจำนวนที่นั่งเท่านั้น และห้ามจัดประชุมและรับประทานอาหารร่วมกันในสถานที่ทางศาสนา

ขอบคุณที่มา: https://news.naver.com/main/read.nhn?mode=LSD&mid=sec&sid1=102&oid=087&aid=0000821629

 

แรงงานชาวไทยที่ประสบปัญหาต่างๆ สามารถปรึกษาศูนย์ช่วยเหลือต่างชาติได้แล้วผ่านเฟสบุ๊คไลฟ์สดที่จะมาถามตอบทุกปัญหาของแรงงาน

#thaikuk #thaikuknews #ช่วยเหลือต่างชาติ #ศูนย์ช่วยเหลือต่างชาติในเกาหลี

https://thaikuk.com/korea-news/gene...is-also-non-face-to-face-and-online-20201122/

 

อัฟกานิสถาน : กรุงคาบลู กลุ่มก่อการร้ายยิงจรวดถล่มเขตชุมชน 23 ลูกในช่วงเช้าวันนี้ เสียชีวิต 8 คน บาดเจ็บมากกว่า 20คน

 

อิตาลี : เมืองโกรโตเน แคว้นคาลาเบรีย มีพายุฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมหลายพื้นที่

 

อินเดีย : เดลี เช้าวันนี้คลื่นความเย็นอากาศหนาวที่สุดในรอบ 17 ปี เช้าวันนี้อุณหภูมิ 6.9 องศา บันทึกสถิติใหม่อีกครั้ง

 

มาเลเซีย : ยะโฮร์บาห์รู เครื่องบินเล็กลงจอดฉุกเฉินบนทางด่วน ใกล้เมืองยะโฮร์
ชาวสิงคโปร์ 2 คนบินด้วยเครื่องบินเล็กได้ลงจอดฉุกเฉินที่ กม.47ทางด่วนเหนือ-ใต้
ผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัยกล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 11.13 น. บนช่องทางฉุกเฉินที่มุ่งหน้าไปยัง Kulai เชื่อว่าเครื่องบินลำนี้ประสบปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องจนนำไปสู่การลงจอดฉุกเฉิน นักบินและนักบินร่วมไม่ได้รับอันตรายจากเหตุการณ์นี้

 

แอฟริกาใต้ : เมือง Upingtonจังหวัด Northern Cape ริมฝั่งแม่น้ำออเรนจ์ พายุทรายพัดเข้าปกคลุมเมือง ช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา

 

ไต้หวัน : ประท้วงการนำเข้าเนื้อหมูและเนื้อวัวจากสหรัฐฯ 22 พฤศจิกายน
สหภาพแรงงานและพรรคฝ่ายค้านของไต้หวันนำประชาชนลงถนน เพื่อต่อต้านประท้วงรัฐบาลกรณีนำเข้าเนื้อหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดงจากสหรัฐฯ โดยมีพรรคฝ่ายค้านเข้าร่วมเดินขบวนเป็นครั้งแรก ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน ประกาศว่านับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 จะอนุญาตให้นำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐฯ ซึ่งมีส่วนผสมของสารแรคโตพามีน สารเร่งเนื้อแดง เป็นสารต้องห้ามสำหรับในสหภาพยุโรปและจีน รัฐบาลไต้หวันให้เหตุผลว่าการปรับเปลี่ยนมาตรฐานการนำเข้านี้เป็นไปตามบรรทัดฐานทั่วไปของนานาชาติ ไม่ได้ส่งผลด้านความปลอดภัยใดๆ และยังช่วยเพิ่มสายสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับสหรัฐให้ดียิ่งขึ้น
*กรณีก่อนหน้าประเทศไทยกีดกันการนำเข้า จนถูกตอบโต้และตัดสิทธิการค้าจากสหรัฐ / ภาพบางส่วน Reuters

 

รัสเซีย : เมืองวลาดิวอสต็อก ชายในวินาทีเฉียดวันที่หิมะตก เขารอดจากแท่งคอนกรีต

 

มาเลเซีย : รัฐบาลมะละกา ยกเลิกโครงการ Melaka Gateway มูลค่า 3.4 แสนล้านบาท
จากสาเหตุผู้พัฒนาโครงการ Melaka Gateway ล้มเหลวในการดำเนินงานถมทะเลหลังจากทำสัญญา 3 ปี(อยู่ระหว่างฟ้องร้องของผู้พัฒนาได้ดำเนินงานไปแล้ว) โครงการประกอบด้วยถมเกาะ 3 เกาะ ท่าเรือน้ำลึกขนาดยักษ์ ท่าเรือสำราญระหว่างประเทศรองรับเรือสำราญ 4ลำพร้อมกันใหญ่ที่สุดในภูมิภาค บังกะโลพร้อมท่าจอดเรือส่วนตัว คอนโดมิเนียมโรงแรมและสวนสนุก รวมถึงความบันเทิงและไลฟ์สไตล์ โครงการเริ่มปี 2014 อนุมัติโดย นาจิบ ราซัค เป็นโครงการร่วมพัฒนา บ.มาเลเซีย และผู้พัฒนาจากจีน

 

ข่าวที่เรียกเสียงฮือฮาในสัปดาห์นี้ เป็นเรื่องราวของนายโจชัว ฮูตากาลุง ช่างทำโลงศพชาวอินโดนีเซีย ในจังหวัดสุมาตราเหนือ ที่สื่อต่างประเทศรายงานว่ากลายเป็นเศรษฐีชั่วข้ามคืน หลังจากขายหินอุกกาบาตตกใส่หลังคาบ้าน ให้นักสะสมต่างชาติ ประเมินแล้วน่าจะรับทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 1.85 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 56 ล้านบาท ) แต่ล่าสุด เวบไซต์ จาการ์ตา โพสต์ สื่ออินโดนีเซีย รายงานว่า นายโจชัว วัย 34 รู้สึกผิดหวังที่มารู้ราคาที่ควรจะได้ในภายหลัง เพราะเขาขายไปในราคาเพียง 200 ล้านรูเปียะห์ หรือประมาณ 4.3 แสนบาทเท่านั้น จึงรู้สึกเหมือนถูกหลอก เมื่อได้ขายให้กับ จาเร็ด คอลลินส์ ผู้เชี่ยวชาญหินอุกกาบาต ที่พำนักในบาหลี ในราคาต่ำกว่าความเป็นจริงร่วม 100 เท่า

 

“แอปเปิล” ถูกแฉใช้ล็อบบี้ยิสต์ ต่อต้านกฎหมายสหรัฐฯห้ามใช้แรงงานทาสอุยกูร์ในจีน
.
.
.
.
เอเจนซีส์/เอพี – แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รัฐสภาสหรัฐฯระบุ บริษัทยักษ์ใหญ่มือถือสหรัฐฯ แอปเปิล พยายามล็อบบี้เพื่อให้เนื้อหาของกฎหมายยุติการใช้แรงงานทาสในจีนอ่อนลง หลังแอปเปิลตกเป็นจำเลยตกเป็นข่าวมีซัพพลายเออร์ของตัวเองในจีนใช้แรงงานบังคับชาวอุยกูร์ผลิตชิ้นส่วน
.
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวานนี้(21 พ.ย)ว่า กฎหมายป้องกันการใช้แรงงานบังคับมุสลิมอุยกูร์ (Uyghur Forced Labor Prevention Act) เป็นการป้องกันไม่ให้บริษัทสัญชาติสหรัฐฯทั้งหลายใช้แรงงานบังคับชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ในจีนในสายการผลิตของตนเอง
.
ขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านมือถือและคอมพิวเตอร์ “แอปเปิล” นั้นต้องใช้การผลิตในจีนเป็นส่วนใหญ่ โดยกลุ่มสิทธิมนุษยชนได้รายงานว่า มีการใช้แรงงานบังคับอุยกูร์ในการผลิตชิ้นส่วนให้แอปเปิล
.
ทั้งนี้แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รัฐสภาคองเกรส 2 คนที่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อเนื่องจากการหารือกับบริษัทแอปเปิลนั้นเป็นการประชุมลับได้เปิดเผยข้อมูลว่า แอปเปิลเป็นหนึ่งในบริษัทสัญชาติสหรัฐฯที่พยายามล็อบบี้เพื่อต่อต้านกฎหมายฉบับนี้ขณะที่กำลังร่างขึ้น แต่แหล่งข่าวปฎิเสธที่จะให้ข้อมูลว่ามีเนื้อหากฎหมายข้อใดที่ทางแอปเปิลต้องการให้ถอนออกไปหรือทำการเปลี่ยนแปลง
.
แต่คนทั้งคู่ยืนยันว่าแอปเปิลต้องการให้เนื้อหากฎหมายป้องกันใช้แรงงานทาสอุยกูร์นั้นอ่อนลง
.
ด้านบริษัทล็อบบี้ยิสต์ Fierce Government Relations ซึ่งเป็นบริษัทที่แอปเปิลจ้างได้ออกมายอมรับว่า บริษัทเป็นตัวแทนล็อบบี้กฎหมายให้กับบริษัทแอปเปิลจริง
.
จอช โรเซนสต็อค (Josh Rosenstock) โฆษกบริษัทแอปเปิลกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “ทางบริษัทได้ทุ่มเทเพื่อทำให้มั่นใจว่าทุกคนในสายการผลิตของเราถูกปฎิบัติด้วยความเคารพและมีศักดิศรี เรารู้สึกสยดสยองต่อการใช้แรงงานบังคับและสนับสนุนต่อเป้าหมายของกฎหมายป้องกันป้องกันการใช้แรงงานบังคับมุสลิมอุยกูร์ เราร่วมในเป้าหมายของคณะกรรมการในการกำจัดแรงงานทาสและทำให้กฎหมายสหรัฐฯมีความแข็งแกร่ง และเราจะยังคงร่วมมือกับพวกเขาเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย”
.
และโฆษกบริษัทแอปเปิลยังเปิดเผยว่า เมื่อต้นปีนี้ทางบริษัทได้ทำการสอบสวนเกี่ยวกับสายการผลิตในประเทศจีนแต่ไม่พบหลักฐานของการใช้แรงงานทาสในสายการผลิต และทางเราจะยังคงเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิดต่อไป
.
เอพีรายงานเมื่อต้นเดือนมีนาคมปีนี้ว่า บริษัทสายการผลิตให้กับแอปเปิลในจีนคือ OFILM ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานหนานชาง(Nanchang) พบว่าได้มีการใช้แรงงานมุสลิมอุยกูร์
.
เอพีชี้ว่าแรงงานชาวอุยกูร์ในโรงงานแห่งนี้ได้รับค่าจ้างเช่นเดียวกับพนักงานคนอื่นในโรงงานแต่ได้รับการปฎิบัติที่ต่างออกไป เป็นต้นว่า พนักงานอุยกูร์จะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปนอกตัวโรงงานหรือสวดภาวนาตามหลักศาสนา ต่างจากแรงงานนอกพื้นที่ มุสลิมฮุย(Hui Muslim) ที่ตกเป็นเป้าจากรัฐบาลปักกิ่งน้อยกว่า
.
แอปเปิลได้เปิดเผยรายชื่อบริษัทสายส่งการผลิตของเดือนมกราคมปี 2019 พบว่ารวมไปถึงโรงงาน 3 แห่งของบริษัท OFILM ในหนานชาง
.
นอกเหนือจากบริษัทแอปเปิลแล้ว พบว่าบริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ของจีน เลอโนโว ยืนยันว่า มีการผลิตหน้าจอมือถือ กล้อง และเครื่องสแกนลายนิ้วมือจากบริษัท OFILM เช่นเดียวกัน แต่ทางบริษัทกล่าวว่าไม่ได้ทราบถึงปัญหาการใช้แรงงานทาส แต่จะเริ่มการสอบสวนภายใน
.
นอกจากบริษัทแอปเปิลแล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พ.ย นี้ บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานว่า บริษัทไนกี้และบริษัทเสื้อผ้าชื่อดัง H&M รวมไปถึงบริษัท Boohoo ถูกกล่าวหาว่ามีการใช้แรงงานบังคับในจีนเพื่อผลิตสินค้าให้ตัวเองเช่นกัน
.
วอชิงตันโพสต์ชี้ว่า กฎหมายป้องกันการใช้แรงงานบังคับอุยกูร์จะทำให้เป็นการยากขึ้นต่อบริษัทอเมริกันที่จะไม่สนใจการใช้แรงงานบังคับในสายการผลิตสินค้าของตัวเองในจีน และกฎหมายให้อำนาจมากขึ้นต่อเจ้าหน้าที่สหรัฐฯเพื่อบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งหนึ่งในเนื้อหาคือการกำหนดให้บริษัทต้องให้การรับรองต่อคณะกรรมการความมั่นคงและการแลกเปลี่ยนสหรัฐฯ (Securities and Exchange Commission) ว่าผลิตภัณฑ์ของตนเองไม่ได้มาจากการใช้แรงงานทาส
.
ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ได้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯเมื่อกันยายนด้วยเสียงสนับสนุน 406 ต่อ 3 และในเวลานี้กำลังอยู่ในการพิจารณาของสภาสูงสหรัฐฯ
.
ทั้งนี้พบว่ากฎหมายป้องกันการใช้แรงงานบังคับมุสลิมอุยกูร์มีจุดประสงค์หลักอยู่ที่อุตสาหกรรมสิ่งทอและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับต่ำ เป็นต้นว่า น้ำตาลที่ผลิตในซินเจียงนั้นถูกส่งไปยังบริษัทโคคา-โคล่า และมะเขือเทศถูกใช้สำหรับการผลิตซอสมะเขือเทศบริษัทไฮซ์( Heinz ketchup) เป็นต้น อ้างอิงจากรายงานกลุ่มฮิวแมนไรท์ส

 

ทรัมป์หนี “ประชุมซัมมิต G-20” ถกปัญหาโควิด-19 ไปตีกอล์ฟระหว่างสหรัฐฯมียอดติดเชื้อทะลุ 12 ล้าน
.
.
.
.
เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(21)ระหว่างที่บรรดาชาติผู้นำกลุ่มประเทศ G20 กำลังประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซืเพื่อหาทางรับมือโควิด-19 ที่กำลังระบาดอย่างหนักในยุโรปและอเมริกา แต่ทว่าผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่เข้าร่วมแต่แอบไปเล่นกอล์ฟที่สนามกอล์ฟ ทรัมป์ เนชันแนล วอชิงตัน ดีซี (Trump National Golf Club Washington DC)
.
บิสซิเนสอินไซเดอร์ สื่อธุรกิจรายงานเมื่อวานนี้(21 พ.ย)ว่า การประชุมซัมมิต G20 ของผู้นำทั่วโลกเพื่อรับมือการระบาดโรคโควิด-19 พบว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ยอมเข้าร่วม
.
ทั้งนี้ดูเหมือนประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่แสดงความสนใจในการประชุมที่เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเช้าเมื่อเขาเริ่มต้นทวีตถึงผลการเลือกตั้งหลังการประชุมซัมมิต G20 เกิดขึ้นในเวลา 08.00 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ
.
อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษ ทรัมป์ปรากฎตัวผ่านการประชุมออนไลน์ในช่วงการแถลงเปิด แต่ทว่าภายในเวลา 10.00 น. ของเช้าวันเสาร์(21) ผู้นำสหรัฐฯเดินทางออกจากทำเนียบขาวเพื่อไปตีกอล์ฟที่สนามส่วนตัว สนามกอล์ฟ ทรัมป์ เนชันแนล วอชิงตัน ดีซี (Trump National Golf Club Washington DC) เมืองสเตอร์ลิง(Sterling) รัฐเวอร์จิเนีย
.
ทรัมป์ออกไปตีกอล์ฟในวันที่สหรัฐฯเห็นเคสใหม่เกิดขึ้น 195,500 คน อ้างอิงตัวเลขจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์
.
บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า กลุ่มประเทศ G20 คิดเป็น 80% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจโลก 2 ใน 3 ของประชากรโลกทั้งหมด และ 3 ใน 4 ของการค้าโลก
.
ผู้นำสหรัฐฯปรากฎตัวในช่วงหนึ่งของซัมมิต และได้กล่าวเป็นนัยกับผู้นำทั่วโลกที่ร่วมการประชุมว่า เขาอาจได้พบกับบรรดาผู้นำโลกอีกครั้งในปีหน้าถึงแม้ว่าเขาจะแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯก็ตาม
.
“มันถือเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้ทำงานกับพวกคุณ” และกล่าวต่อว่า “และผมหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับพวกคุณอีกเป็นเวลานาน”
.
ภายในการปะชุม G20 ซึ่งมีซาอุดีอาระเบียเป็นเจ้าภาพ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุแอล มาครง และประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มุน แจ-อิน ออกมาแสดงความเห็นในที่ประชุมที่เน้นในด้านความร่วมมือเพื่อตอบโต้วิกฤตโรคโควิด-19 และพัฒนาการเตรียมความพร้อมการรับมือการระบาดทั่วโลก

 

“เกาหลีใต้” เพิ่มความเข้มข้นมาตรการเว้นระยะทางสังคมเขตกรุงโซล หลังยอดติดเชื้อพุ่ง
.
.
.
.
รอยเตอร์ – รัฐมนตรีสาธารณสุขเกาหลีใต้วันนี้(22 พ.ย)สั่งเพิ่มความเข้มงวดมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม สั่งปิดบาร์และจำกัดการให้บริการในภัตตาคารและโบสถ์เพื่อควบคุมการระบาดรอบ 3 หลังล่าสุดพบเคสใหม่ 330 ราย
.
รอยเตอร์รายงานวันนี้(22 พ.ย)ว่า สำนักงานควบคุมโรคและการระบาดเกาหลีใต้ KDCA (Korea Disease Control and Prevention Agency) รายงานในวันอาทิตย์(22)ว่า ภายใน 24 ชั่วโมงซึ่งนับถึงพบเที่ยงคืนวันเสาร์(21)พบเคสโควิด-19 ใหม่จำนวน 330 ราย น้อยกว่าก่อนของวันก่อนหน้าที่มีรายงานการพบเคสใหม่ 386 ราย
.
อย่างไรก็ตามเกาหลีใต้มีเคสใหม่เกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 300 คนมาแล้ว 5 วันติดต่อกัน
.
รัฐมนตรีสาธารณสุขเกาหลีใต้ พัก เนือง-ฮู (Park Neung-hoo)แถลงในรายงานสรุปวันอาทิตย์(22)ว่า “การระบาดโรคโควิด-19 รอบ 3 นั้นกำลังระบาดอย่างรวดเร็ว” และชี้ว่า “สถานการณ์เวลานี้นั้นมีความร้ายแรงและหนักมาก”
.
การระบาดทั่วประเทศเกิดขึ้นจาการระบาดแบบกระจุกตัวที่ย่านแหล่งหนาแน่นในกรุงโซลซึ่งมีประชากรอาศัยทั้งหมดราวครึ่งหนึ่งของประชากรทั่วประเทศ 52 ล้านคน
.
โดยในวันอังคาร(24) ร้านกาแฟทั่วกรุงโซลจะไม่ได้รับอนุญาตให้ลูกค้านั่งในร้านแต่สามารถสั่งซื้อกลับบ้านได้ รวมไปถึงภัตตาคารจะปิดให้บริการนั่งรับประทานในร้านหลังจากเวลา 21.00 น.ไปแล้ว ส่วนมาตรการจำกัดอื่นจะถูกนำมาใช้ในศูนย์กีฬา และมีการกำหนดจำนวนสูงสุดของผู้เข้าโบสถ์และการแข่งขันกีฬา
.
ในช่วงต้นของวันนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ชุง ไซ-คยุน (Chung Sye-kyun) ออกแถลงในการประชุมรัฐบาลเกาหลีใต้ว่า มาตรการเว้นระยะทางสังคมแบบป้องกันอาจจำเป็นเพื่อทำให้การระบาดเป็นวงกว้างหมดไป อ้างอิงจากสำนักข่าวยอนฮับ
.
ทั้งนี้ในวันเสาร์(21) KDCA ออกมาเตือนว่า เกาหลีใต้อาจจะได้เห็นการระบาดรอบใหม่ที่ร้ายแรงกว่า 2 รอบที่ผ่านมาหากว่าทางรัฐบาลโซลยังไม่สามารถป้องกันได้ทัน
.
เกาหลีใต้ล่าสุดมียอดเสียชีวิตรวม 505 ราย และติดเชื้อรวม 30,733 คน

 

Sichuan chili oil...
ทำน้ำมันพริกเสฉวน
ไว้กินกับบะหมี่สักหน่อย
สูตรน้ำมันพริกเสฉวน มีมากมายหลายสูตร
แล้วแต่ความชอบ ของแต่ละคน
ผมชอบกลิ่นเครื่องเทศ มันเข้มข้นดี เวลาคลุกกับบะหมี่
กลิ่น รสดีมากมาย มีสรรพคุณทางยา แถมมาด้วย
พริกไทย - ขับลมแก้ท้องอืด
พริกแห้ง - ขับเสมหะขับลม ช่วยในการเจริญอาหาร
ชวงเจีย - ขับปัสสาวะและรักษาโรคกระเพาะอักเสบ บรรเทาอาการปวดข้อ ปวดกระดูก ช่วยย่อยอาหาร ขับลมในลำไส้ รวมทั้งใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ บำรุงกำลัง
กานพลู - ย่อยอาหาร ขับลม แก้ท้องอืด
ลูกจันทร์ - ขับลม ช่วยเจริญอาหาร
โป๊ยกัก -ขับเสมหะ บำรุงธาตุ แก้หวัด
ใบกระวาน - ขับลมแก้ท้องอืด
อบเชย - ขับเหงือ ขับลม แก้ท้องอืด จุกแน่น
เทียนข้าวเปลือก - แก้ไอ ละลายเสมหะ บำรุงธาตุ
วิธีทำ (สามารถปรับ ลดเพิ่มได้ตามความชอบ )
พริกแห้งเม็ดใหญ่ หรือ กลาง 2 ขีด ชวงเจียง 1-1.5 ขีด
ใบกระวาน 2-3 ใบ กานพลู 6-8 ก้าน อบเชยแท่ง
ขนาด 2 นิ้ว 1 อัน โป๊ยกัก 1-2 ชิ้น ลูกจันทน์เทศ ครึ่งลูก บดๆ ให้แตก พริกไทย 1 ชช. เที่ยนข้าวเปลือก 1 ชช.
.
นำทุกอย่างไปคั่วในกระทะไฟกลางๆ ให้หอม
ทิ้งไว้ให้เย็น แยก พริกแห้ง กับ ชวงเจียง ออกมาด้วยกัน
นำไปบด แล้วแต่ชอบหยาบ ละเอียด แต่อย่าถึงกับละเอียดจนเกินไป ให้ได้แบบพริกป่นกำลังสวย พักไว้
นำของแห้งที่เหลือลงไปปั่นหยาบๆ พอให้ได้ใส่ถุงชา
แบบบรรจุได้ (ที่ไดโซะมีขาย) นำพริกที่บดและเครื่องที่เหลือที่ใส่ไว้ในถุงชา ใส่รอไว้ในภาชนะที่ทนร้อนได้ อาจจะเพิ่มงาขาวคั่วลงไปด้วย ภาชนะเช่น กะลามังสแตนเลส หรือภาชนะเซรามิคทนความร้อน จากนั้นตั้งน้ำมันประมาณสองถ้วย ผสมน้ำมันงาได้อีก 1 ช้อนชา ในกระทะให้เดือด แต่ไม่ต้องถึงกำลังเดือดมากจนเกินไป ดูพอให้ร้อนเริ่มมีควันขึ้นมาพอสมควร ประมาณ 180-200 c พอน้ำมันเดือนและร้อนได้ที่ เทน้ำมันลงในภาชนะที่มีของแห้งรอ ปล่อยให้เย็น แล้วดึงถุงชาออก พอเย็นสนิทก็ใส่ภาชนะเก็บต่อไป
.
สามารถสร้างสรรเมนูได้หลายชนิด นำไปคลุกบะหมี่
ผัดบะหมี่ ตุ๋นเนื้อ ตุ๋นหมู ผัดผัก ราดบนข้าวอบ คลุกกับ ข้าวแกะเนื้อปลาทูทอด ใส่ผักชี ต้นหอม บีบมะนาว กินแกล้มผักสด เทสมาแล้วอร่อย ซึ่งสารพัดจะทำ ต้องมีติดบ้านไว้เลย บางทีผมเอา บะหมี่เป๊าะ เส้นใหญ่มาลวก หั่นบ๊อคโคลี่ ถั่วงอก ผักกวางตุ้ง ลวก ทิ้งให้สะเด็ดน้ำ สไลด์หมูย่าง แล้วคลุกทั้งหมดด้วยน้ำมันพริก ใส่ซีอิ๊วขาว เกลือเล็กน้อย โรยด้วยต้นหอม ผักชี คื่นไช่ซอย แค่นี้ก็อร่อยเหลือร้าย

 

火锅 หม้อไฟหม่าล่า ที่จริงผมทำไว้หลายเดือนแล้วครับ แต่ทำแล้วใส่ช่องแข็งเก็บไว้ เริ่มจะเข้าหนาวแล้วเหมาะทีเดี่ยวที่จะกินตอนนี้ สูตรนี้รับประกันว่าอร่อยมาก แต่อาจจะไม่ได้อร่อยสุดยอดอย่างหลายร้าน แต่ก็อร่อยกว่าหลายร้านที่ผมเคยไปกิน ความอร่อยขึ้นอยู่กับคุณภาพพริกเสฉวนและเครื่องเทศที่ใช้และสัดส่วนเครื่องเทศ
-ขั้นตอนการทำยุ่งยากนิดหน่อย แต่ที่ลำบากกว่านั้นคือการหาเครื่องเทศที่ดีครับ เพราะต้องใช้เยอะทีเดียว และจำเป็นต้องใช้ไขมันวัวเยอะมากครับ กลิ่นถึงจะหอมอร่อย ใช้น้ำมันอื่นก็(คง)ได้แต่ผมเองก็ยังไม่เคยทำนะครับว่าจะออกมาดีมั้ย
火锅 หม้อไฟ

แบ่งเป็น4ขั้นตอน

ขั้นตอนที่1 เตรียมน้ำมัน
น้ำมันวัว 4000 กรัม
กระเทียมจีนกลีบๆหั่นเล็กหน่อยถ้ามันใหญ่มากจะได้เจียวง่าย 200 กรัม
ต้นหอม 200 กรัม
หอมแขก 200 กรัม
ผักชี 100 กรัม
ขิงแผ่น 100 กรัม
นำเครื่องทั้งหมด เจียวกับน้ำมัน จนน้ำมันหอม แล้วกรองกากทิ้ง

ขั้นตอนที่2 ทำเครื่องเทศป่น
ชะโก(เฉาโก,กระวานดำ)เอาแต่เปลือก 4 ลูกใหญ่
อบเชย 30 กรัม
โป๊ยกั๊ก 20 กรัม
เทียนข้าวเปลือก 40กรัม
ยี่หร่า 5-7กรัม ใส่มากเหม็นครับ
กานพลู 5 กรัม ประมาณ30ดอก
ชะเอมเทศ 20 กรัม
ผิวส้มแห้ง 2แผ่นใหญ่
ตัดทุกอย่างให้เล็กๆแล้วบดหรือปั่นให้ละเอียด จากนั้นเอาน้ำมันวัวบางส่วนที่เราทำไว้ร้อนๆมาฉ่าที่เครื่องเทศ

ขั้นตอนที่3
พริกเสฉวนสีแดง100กรัม สีเขียว100กรัม ใส่เพิ่มได้ถ้าไม่สะใจครับ อันนี้สำคัญมากครับคือคุณภาพต้องใช้อย่างดี เกรดดีและไม่ดี กลิ่นและความชาต่างกันมาก ราคาต่างกันมากครับ
ใบกระวาน12-15ใบแล้วแต่ขนาด
กระวานไทย25เม็ด
ทุกอย่างคลุกเหล้าขาว50กรัมเพื่อดึงกลิ่น พักไว้30นาทีเตรียมผัด

ขั้นตอนที่4ผัด
น้ำมันวัวตั้งไฟ+พริกป่นจีน800กรัมถ้าไม่อยากได้เผ็ดมากลดพริกลงนะครับ ใช้พริกป่นไทยจะเผ็ดมากเกินไป ใช้พริกป่นไทยถึงใส่น้อยลงแต่สีก็จะไม่สวย+ขิงแก่ๆสับละเอียดหรือปั่น60กรัม ผัดให้หอมก่อน
-แล้วถึงใส่โต้วป้านเจียง800กรัม+เต้าซี่สับ20กรัม ผัดทุกอย่างให้หอม,+พริกแห้งเม็ด 200 กรัมผัดไฟอ่อนไปพักนึง
-ใส่เครื่องเทศข้อ1 ใส่เครื่องเทศข้อ2 ผัดไฟอ่อนไปอีกพักนึง
-ปรุงรสด้วยน้ำตาลกรวด30กรัม+เกลือ50กรัม+ข้าวหมาก60กรัม+เหล้าขาว1/2ถ้วยตวง+ผงชูรส2ช้อนโต๊ะหรือตามชอบ เทใส่ถาด หรือพิมพ์นำใส่ตู้เย็นช่องธรรมดาพอแข็งดีแล้วนำเก็บแช่ช่องแข็งได้ครับ

 

#เล่าข่าว (22 พ.ย.) กลับมากับช่วงวันหยุดยาววันที่ 2 นะคะ ข่าวอัปเดตมีไม่เยอะ มาตราการโกทูอันใหม่ เอาอันไหนเข้าออก ยกเลิกมีเงินชดเชยไหม เริ่มเมื่อไหร่ แผนจริงจังคงออกอาทิตย์หน้า

✒️(1)⚠︎緊急地震速報⚠︎
ข่าวแรกของวันนี้ก็คือ แผ่นดินไหวนอกชายฝั่ง บริเวณอ่าว จ. อิบารากิ เมื่อตอนหัวค่ำ แรงสุดอยู่ที่ 5- รู้สึกไปทั้งแถบโทโฮคุและคันโต
ระดับนี้ถ้าเป็นที่อื่นอาจเห็นบ้านโยกถล่มกันบ้าง แต่บ้านญี่ปุ่นยังโอเค อาจมีของตกหล่นถ้าไม่วางดีค่ะ
อ่านรายละเอียดได้ที่โพสต์ที่แล้ว:

((Φ(｡ﾛ≡ﾛ｡) ยิ่งช่วงก่อนมีข่าวหอยฮามากุริขึ้นมาเกยเต็มฝั่งทะเลชิบะ คนที่กังวลเรื่องแผ่นดินไหวใหญ่ก็เครียดกันอีก คือ จะบอกว่ามันจะเกิดวันนี้พรุ่งนี้ อีก 10 ปี หรือ 20 ปีก็ไม่แปลกค่ะ นั่นคือ เครียดไปก็เท่านั้น เตรียมพร้อมรับแผ่นดินไหวใหญ่ในทุก ๆ วันกันนะคะ

———-

✒️(2) #โควิด
ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มในประเทศวันนี้ ทั้ง ๆ ที่ยอดน่าจะลง (วันอาทิตย์) แต่ก็ยังสูง โดยเฉพาะโอซาก้า ทำนิวไฮที่ 490 รายแซงหน้าโตเกียว (391 ราย) ไปเรียบร้อย ในขณะที่โตเกียวก็เป็นยอดสูงสุดสำหรับวันอาทิตย์

✝️ยอดผู้เสียชีวิตสะสม (รวมเรือ) ทั้งญี่ปุ่น แตะ 2,000 รายแล้ว

ยอดเพิ่มวันนี้ 2,168 ราย
เสียชีวิตเพิ่ม 7 ราย
คนอาการหนัก 323 ราย (เพิ่ม 10 ราย )

———

✒️(3) ณ ตอนนี้โอซาก้า น่าเป็นห่วงกว่าโตเกียว อีกค่ะ
Positive rate อยู่ที่เกิน 18%
คนอาการหนักครองเตียงไปเกิน 44% แล้ว
ชาวโอซาก้ารักษาตัวด้วยนะคะ

✒️สุดท้ายตามคำขอจากชาวเพจ อยากได้รูปใบไม้แก้เครียด จัดไปค่ะ #เรื่องเล่าจากไอจี ภาพแรกจาก วัดน้ำใส เกียวโต 　/ ภาพสองจาก สวนโชวะ โตเกียว
—————

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #สรุปข่าว
เครดิต:
https://www3.nhk.or.jp/news
Yahoo! Japan News
Instagram