ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เช็กความพร้อมก่อนเปิดประเทศระยะที่ 2 รับนักท่องเที่ยว 1 ตุลาคมนี้
    .
    “ผมตั้งเป้าเอาไว้ว่าประเทศไทยจะต้องเปิดประเทศทั้งประเทศให้ได้ภายใน 120 วันนับจากวันนี้” คำประกาศของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2564 ซึ่งหากนับจำนวนวันก็จะครบกำหนดในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ หรืออีกไม่ถึงเดือน
    .
    ล่าสุดวานนี้ (14 กันยายน) พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันว่าจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวตามแผน โดยจะเริ่มต้นวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ในพื้นที่ 5 จังหวัดท่องเที่ยว คือ กรุงเทพมหานคร, เชียงใหม่, ประจวบคีรีขันธ์, เพชรบุรี และชลบุรี ทั้งนี้จะกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมออกมาหลังจากนี้
    .
    THE STANDARD เปิดข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อ ยอดการฉีดวัคซีน และสัดส่วนการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ต่อประชากรในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นดัชนีชี้วัดความพร้อมในการเปิดจังหวัด เหมือนพื้นที่จังหวัดภูเก็ตที่ได้นำร่องเปิดไปก่อนหน้านี้
    .
    ภาพ: ฉัตรชัย เฉยชิต
    .
    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
    #News #TheStandardInfographic #COVID19NOW #ฝ่าวิกฤตโควิด19 #โควิด19 #COVID19 #โควิดวันนี้ #โควิด19วันนี้ #วัคซีนโควิด19 #วัคซีนโควิด #TheStandardNews

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    UPDATE: ไบเดน เตรียมเรียกร้องให้ผู้นำโลกช่วยกันเร่งฉีดวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 70% ของพลเมืองโลก ภายในปี 2022
    .
    เมื่อวานนี้ (14 กันยายน) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา เตรียมเรียกร้องให้บรรดาผู้นำโลกช่วยกันเร่งฉีดวัคซีนโควิดให้ได้อย่างน้อย 70% ของพลเมืองโลก ภายในปี 2022 รวมถึงจะต้องช่วยกันบริจาควัคซีนเพิ่มอีก 1 พันล้านโดส เพื่อให้ประเทศที่มีรายได้เข้าถึงวัคซีนได้มากยิ่งขึ้น
    .
    ตามเป้าหมายที่ CNN ได้รับมา ระบุว่า แต่ละประเทศจะต้องร่วมกันประกันเงิน 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.9 หมื่นล้านบาท) ภายในปีนี้ และอีก 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.3 แสนล้านบาท) ภายในปี 2022 เพื่อสนับสนุนทางด้านการเงินในการเตรียมความพร้อมเรื่องวัคซีนโควิดในมิติต่างๆ
    .
    โดยคาดว่าไบเดนจะประกาศแผนการดังกล่าวขณะที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมโควิดในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่จะมีการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (UNGA) และคาดว่าไบเดนจะจัดการประชุมเพิ่มเติมอีกในช่วงปลายปีนี้หรือ่วงต้นปีหน้า
    .
    รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของไบเดนตั้งเป้าจะให้สหรัฐฯ เป็นคลังวัคซีนของโลกที่พร้อมจะส่งวัคซีนช่วยเหลือประเทศอื่นๆ ในประชาคมโลกได้ แต่กระนั้นสหรัฐฯ ก็ยังเป็นหนึ่งในประเทศมั่งคั่งที่ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยถึงการเดินหน้าฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster Shot) ให้กับพลเมืองของตน แทนที่จะช่วยให้สัดส่วนพลเมืองโลกที่เข้าวัคซีนเข็มแรกมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยที่ผ่านมาสหรัฐฯ บริจาควัคซีนไปแล้วกว่า 140 ล้านโดส ซึ่งส่วนใหญ่มอบผ่านโครงการ COVAX ขององค์การอนามัยโลกและพันธมิตร ที่พยายามจะสร้างหลักประกันให้แต่ละประเทศเข้าถึงวัคซีนได้อย่างเท่าเทียมกัน
    .
    บทความที่เกี่ยวข้อง:
    ภาพรวมประเทศในอาเซียนฉีดวัคซีนโควิดไปถึงไหนแล้ว โดย Our World in Data อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/our-world-in-data-covid-19-vaccination/
    .
    สำรวจแนวทางการใช้วัคซีน mRNA เป็น ‘วัคซีนเข็มที่ 3’ ในประเทศที่ใช้วัคซีน Sinovac อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/exploring-guidelines-for-using-mrna-vaccine-as-a-third-dose-vaccine/
    .
    เปรียบเทียบประสิทธิภาพล่าสุด วัคซีน Sinovac vs. Pfizer-BioNTech ในชิลี อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/efficacy-comparison-of-sinovac-vs-pfizer-biontech-vaccine-in-chile/
    .
    โควิด-19 กลายพันธ์ุสายพันธ์ุต่างๆ มีชื่อเรียกใหม่ว่าอย่างไร อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/new-name-covid-19-in-diferrent-species/
    .
    สำรวจราคาวัคซีนต้านโควิด-19 ในประชาคมโลก โดสละเท่าไร เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/price-survey-of-covid-19-vaccine/
    .
    ผลข้างเคียงวัคซีนต้านโควิด-19 ในประชาคมโลก อาการเป็นอย่างไรบ้าง อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/side-effects-of-the-covid-19-vaccine-2/
    .
    เช็กประสิทธิภาพวัคซีนต้านโควิด-19 ล่าสุด อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/coronavirus-vaccine-potential-update/
    .
    ภาพ: Nina Riggio / San Francisco Chronicle via Getty Images
    .
    อ้างอิง:
    https://edition.cnn.com/2021/09/14/politics/joe-biden-vaccinating-the-world/index.html
    https://www.usnews.com/news/world/a...embrace-70-global-covid-19-vaccination-target
    https://www.theguardian.com/world/2021/sep/14/joe-biden-propose-target-vaccinating-world-covid
    .
    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
    #TheStandardNews #โควิด #โควิด19 #COVID19 #โควิดวันนี้

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    UPDATE: กรมอนามัย กำชับทุกศูนย์อนามัย เตรียมพร้อมรับมือพายุ ‘โกนเซิน’ คาดส่งผลกระทบทุกภาคของประเทศ
    .
    วันนี้ (15 กันยายน) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา พายุดีเปรสชัน ‘โกนเซิน’ ฉบับที่ 16 ลงวันที่ 13 กันยายน 2564 พายุดีเปรสชันโกนเซิน บริเวณชายฝั่งของเมืองกว๋างหงาย ประเทศเวียดนาม ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้ว ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดมุกดาหาร, ร้อยเอ็ด, ยโสธร, อำนาจเจริญ, อุบลราชธานี, ศรีสะเกษ และสุรินทร์
    .
    ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
    .
    ดังนั้น ในเบื้องต้นกรมอนามัยได้มอบหมายให้ศูนย์อนามัยทั่วประเทศเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร และอุปกรณ์ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมรองรับกรณีที่เกิดอุทกภัยในพื้นที่เสี่ยง เช่น การจัดการสุขาภิบาลอาหาร การจัดการขยะ จัดหาน้ำสะอาด และชุดนายสะอาด ประกอบด้วยถุงดำขนาดใหญ่สำหรับใส่ขยะ ถุงดำเล็กสำหรับใส่อุจจาระ น้ำยาล้างจาน สบู่ เจลล้างมือใช้ทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อโรค หยดทิพย์ (คลอรีนน้ำ) ใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรคในน้ำ นอกจากนี้ประชาชนควรระมัดระวังสัตว์และแมลงมีพิษที่มากับน้ำท่วม รวมถึงการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านหรือบริเวณบ้าน หากน้ำกำลังท่วมให้ปลดสวิตช์ (เบรกเกอร์เมน) เพื่อตัดกระแสไฟฟ้า และควรหลีกเลี่ยงการเล่นน้ำหรืออยู่ใกล้บริเวณที่มีน้ำหลาก เพื่อป้องกันการจมน้ำ
    .
    สำหรับในกรณีที่ตั้งศูนย์พักพิงช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ขอให้ทุกพื้นที่เน้นย้ำมาตรการ DMHTT เพื่อป้องกันโควิดอย่างเคร่งครัดด้วย
    .
    “ทั้งนี้ ขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่ง เช่น ทุ่งนา สนามฟุตบอล สนามกอล์ฟ แต่หากเลี่ยงไม่ได้ต้องไม่อยู่ใกล้ที่สูง เช่น ต้นไม้สูง เสาโทรศัพท์ เสาไฟฟ้า ควรถอดวัตถุหรือเครื่องประดับที่เป็นโลหะออกจากร่างกาย และให้จอดรถห่างจากต้นไม้ใหญ่ ตึกสูง เสาไฟฟ้า หรือป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ แต่หากอยู่ในอาคาร ควรปิดประตูหน้าต่างทุกบานและอยู่ห่างจากผนังอาคาร ประตูและหน้าต่าง ถอดปลั๊กอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าออกให้หมด เพื่อลดอันตรายที่เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรได้ ดังนั้นในช่วงเวลานี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงติดตามสถานการณ์พายุโกนเซิน จากช่องทางสื่อสารต่างๆ อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจัดเตรียมสิ่งของขึ้นที่สูง เตรียมยาและอาหารแห้ง เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น” นพ.สุวรรณชัยกล่าว
    .
    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
    #TheStandardNews
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    PHOTO JOURNAL: ‘VACCINATION IN PACHINKO PARLOR’
    .
    ประชาชนเข้ารับวัคซีน Moderna โดสแรก ภายในร้านปาจิงโกะแห่งหนึ่งในนครโอซาก้าของญี่ปุ่น โดยร้านดังกล่าวเสนอตัวเป็นหนึ่งในสถานที่ฉีดวัคซีน ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมาว่า เวลานี้มีประชากร 50.9% ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว และมี 63% ที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม - Jinhee Lee/NurPhoto via Getty Images
    .
    IG: www.instagram.com/thestandardth.ig
    .
    #TheStandardNews

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    จากอู่แท็กซี่กลายเป็นสวนผัก ภาพสะท้อนพิษ COVID-19 อู่สหกรณ์แท็กซี่ต้องแบกรับหนี้ไฟแนนซ์
    .
    วิกฤต OVID-19 ส่งผลกระทบต่อผู้คนหลากหลายอาชีพ หนึ่งในภาพสะท้อนเกิดขึ้นที่อู่แท็กซี่สหกรณ์บวรและราชพฤกษ์ มีรถจำนวนมากมาจอดทิ้งไว้นานจนมีสภาพกลายเป็นสวนผัก
    .
    ฐาปกรณ์ อัศวเลิศกุล ที่ปรึกษาสหกรณ์บวรและราชพฤกษ์ แท็กซี่ จำกัด อธิบายว่า มีคนขับแท็กซี่มาจอดรถทิ้งไว้เป็นปีๆ แล้ว ช่วงแรกๆ ก็ให้พนักงานทำความสะอาด แต่ตอนหลังๆ ได้เปลี่ยนปลูกผักไปเลย เพราะดูเหมือนว่ารถเหล่านี้จะต้องถูกจอดทิ้งไว้อีกนาน
    .
    “จะเลอะก็ให้มันเลอะไป คนขับหรือพนักงานก็จะได้กินด้วย มะเขือออกลูกก็เอาไปกินกัน เอาดินไว้บนหลังคารถ ปลูกผัก รดน้ำพรวนดินกันไป ตอนนี้เราก็มีการปลูกผักสวนครัว เลี้ยงกบ จริงๆ เดี๋ยวเราจะปลูกให้เต็มหมดเลย ถ้าเต็ม เดี๋ยวจะไปปลูกที่กระทรวงพลังงานต่อ” ฐาปกรณ์ กล่าว
    .
    ที่ปรึกษาสหกรณ์ฯ ผู้นี้บอกด้วยว่า ได้ตั้งกองทุนขึ้นมา เพื่อให้รถแท็กซี่ที่ติดไฟแนนซ์ภาครัฐรับไว้ ให้คนขับผ่อนกับภาครัฐก็ได้ ผ่อนกับกองทุนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่เขียวเหลือง สีส้ม สีชมพู ชมพูขาว ไม่ว่าสหกรณ์ไหนๆ ก็แล้วแต่ ส่งมันจะได้ดอกเบี้ยถูก แล้วจะไปรอด
    .
    “รถมันวิ่งไม่ได้ ไม่มีผู้โดยสารเรียก ผมยังมืดแปดด้านอยู่เลย ถ้าไฟแนนซ์ไม่คิดดอกเบี้ยผม ค่างวดที่ค้างไว้ ปรับดอกเบี้ยเท่ากับรถบ้าน ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะคนขับก็อยู่บ้านนอก ไปทำนา ทำไร่หมด คนขับก็ไม่มี รถที่จะออกวิ่งแต่ละคัน คนขับต้องจองที่สหกรณ์ก่อน พอมาจองแล้วเราถึงจะสั่งซื้อรถให้”
    .
    ทั้งนี้ อีกหนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ สหกรณ์ต้องแบกรับภาระที่คนขับรถทิ้งเอาไว้ให้
    .
    “คนขับมีเงินติดตัว 3,000 บาท ออกรถคันนึงล้านกว่า ไม่ใช่คนขับต้องขายที่ ขายนา มาดาวน์คันนึงสอง-สามแสน ปัจจุบันมีเงิน สามพัน ห้าพันก็ออกรถแท็กซี่ได้ แต่ตอนนี้คนขับได้ทิ้งภาระให้กับสหกรณ์เรา เราก็ไปไม่รอด” ฐาปกรณ์ กล่าว
    .
    .
    photo and story by : Asadawut Boonlitsak

    #photoalbum #covid19 #taxi #TheMATTER

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ยังคงเป็นที่สับสนของผู้คนว่า สรุปแล้วประชาชนกลุ่มใด จะได้ฉีดวัคซีนสูตรไหนบ้าง หลังกระทรวงสาธารณสุขออกมาแถลงว่า จะเริ่มให้มีการฉีดวัคซีนไขว้ทั้งประเทศ ตลอดทั้งเดือนตุลาคมนี้ โดยกระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าว่า จะจัดให้การฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มจำนวน 50 เปอร์เซ็นต์ในทุกจังหวัด
    .
    สูตรการฉีดไขว้ จะใช้วัคซีนจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 24 ล้านโดส ซึ่งตรงกับช่วงเดือนตุลาคม ที่กระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์ว่าจะมีวัคซีนส่งมายังไทยจำนวนมาก โดยจะเริ่มฉีดตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน - 31 ตุลาคม พ.ศ.2564 ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร The MATTER ได้แจกแจงมาให้ตรงนี้แล้ว
    .
    เกณฑ์การฉีดกลุ่มเป้าหมายตลอดเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้

    - ฉีด 1 เข็มให้ครอบคุลมประชากรทั้งหมดอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ของทุกจังหวัด และให้มีอย่างน้อย 1 อำเภอที่ฉีดครอบคลุม 70 เปอร์เซ็นต์ ตลอดจนทำ Covid Free Area ในจังหวัดที่ฉีดครอบคลุม 80 เปอร์เซ็นต์ โดยเน้นฉีดให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ให้ได้มากที่สุด ส่วนประชากรกลุ่มอื่นๆ นั้น คณะกรรมการโรคติดต่อในแต่ละจังหวัดจะเป็นผู้จัดสรร

    - จัดการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ของทุกคน ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกไปก่อนหน้านี้

    - ขยายกลุ่มอายุผู้ได้รับวัคซีน ไปเป็นผู้มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดเทอม

    - ฉีดเข็มกระตุ้นในผู้ที่ได้รับวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็มช่วงมีนาคม - พฤษภาคม พ.ศ.2564

    - ฉีดในพื้นที่เศรษฐกิจและควบคุมการระบาด
    .
    แล้วใครได้ฉีดสูตรไหนกันบ้าง?

    - ประชาชนทั่วไป ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วทั้งประเทศ จำนวน 16.8 ล้านโดส คิดเป็น 70 เปอร์เซ็นต์ ตลอดการฉีดทั้งเดือนตุลาคม พ.ศ.2564 แบ่งออกเป็น 3 สูตรการฉีด ได้แก่ Sinovac เข็มที่ 1 + AstraZeneca เข็มที่ 2, AstraZeneca เข็มที่ 1 + AstraZeneca เข็มที่ 2, AstraZeneca เข็มที่ 1 + Pzfier เข็มที่ 2

    - นักเรียนที่มีอายุระหว่าง 12 - 17 ปี ทั่วทั้งประเทศ จำนวน 4.8 ล้านโดส คิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ ตลอดการฉีดทั้งเดือนตุลาคม พ.ศ.2564 โดยจะใช้สูตร Pfizer เข็มที่ 1 + Pfizer เข็มที่ 2

    - แรงงานในระบบประกันสังคม จำนวนกว่า 8 แสนโดส คิดเป็น 3 เปอร์เซ็นต์ ตลอดการฉีดทั้งเดือนตุลาคม พ.ศ.2564 โดยจะใช้สูตร Sinovac เข็มที่ 1 + AstraZeneca เข็มที่ 2

    - หน่วยงานอื่นๆ เช่น องค์กรภาครัฐ ราชทัณฑ์ จำนวน 1.1 ล้านโดส คิดเป็น 5 เปอร์เซ็นต์ ตลอดการฉีดทั้งเดือนตุลาคม พ.ศ.2564 โดยจะใช้สูตร Sinovac เข็มที่ 1 + AstraZeneca เข็มที่ 2

    - ผู้ที่ได้รับวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็ม และต้องการฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 จำนวนกว่า 5 แสนโดส คิดเป็น 2 เปอร์เซ็นต์ ตลอดการฉีดทั้งเดือนตุลาคม พ.ศ.2564 โดยจะใช้สูตร Sinovac เข็มที่ 1 + Sinovac เข็มที่ 2 ที่เคยได้รับไปก่อนหน้านี้ ตามด้วย AstraZeneca เข็มที่ 3 เป็นเข็มกระตุ้น
    .
    สูตรฉีดวัคซีนในไทยเป็นอย่างไร?

    1. สูตรฉีดไขว้
    - Sinovac เข็มที่ 1 + AstraZeneca เข็มที่ 2 ฉีดห่างกัน 3 - 4 สัปดาห์ ซึ่งใช้เป็นสูตรหลักในไทยตอนนี้ เพื่อฉีดให้แก่ผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
    - AstraZeneca เข็มที่ 1 + Pzfier เข็มที่ 2 ฉีดห่างกัน 3 - 4 สัปดาห์ ใช้ทดแทนสูตร AstraZeneca 2 เข็ม เนื่องจากมีระยะเวลาห่างระหว่างโดสของสูตร AstraZeneca 2 เข็มเดิม ไม่ทันต่อการรับมือการระบาด และใช้ในกรณีเหตุผลความจำเป็นอื่น

    2. สูตรฉีดโดสเดียวกันตามบริษัทผู้ผลิต
    - Pfizer 2 เข็ม ฉีดห่างกัน 3 - 4 สัปดาห์ ใช้ในผู้มีอายุ 12 - 17 ปี และผู้ที่จะต้องเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งปลายทางกำหนดให้ว่าต้องรับวัคซีน Pfizer
    - AstraZeneca 2 เข็ม ฉีดห่างกัน 8 - 12 สัปดาห์ ใช้ในผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และผู้ที่จะต้องเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งปลายทางกำหนดให้ว่าต้องรับวัคซีน AstraZeneca
    - Sinopharm 2 เข็ม ฉีดห่างกัน 8 - 12 สัปดาห์ เป็นวัคซีนทางเลือก รายละเอียดการใช้เป็นไปตามผู้ผลิตกำหนด

    3. การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น
    Sinovac เข็มที่ 1 + Sinovac เข็มที่ 2 เว้นระยะห่างจากเข็มที่สอง 4 สัปดาห์ขึ้นไป แล้วตามด้วย AstraZeneca เข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ปัจจุบันกำลังเริ่มใช้ใน Phuket Sandbox

    4. การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในผู้เคยติดเชื้อ
    AstraZeneca หรือ Pfizer 1 เข็ม ฉีด 1 - 2 เดือน หลังจากตรวจพบเชื้อและหายดี รวมทั้งพ้นระยะกักตัว หรือหากเกิน 3 เดือนให้เข้ารับการฉีดโดยเร็ว โดยจะฉีดให้ผู้ที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน หรือได้รับวัคซีนไม่ครบ หรือได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม แต่ยังไม่ถึง 2 สัปดาห์แล้วติดเชื้อ
    .
    นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรคระบุว่า แผนการฉีดวัคซีน 24 ล้านโดส จะสามาถมีการปรับเปลี่ยนได้ หากในอนาคตวัคซีนไม่ได้ถูกจัดส่งมาตามแผนการ หรือชุดความรู้ใหม่ๆ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention เช่น การใส่หน้ากาก การเว้นระยะห่าง การล้างมือ
    .
    .
    อ่านต่อได้ที่: https://thematter.co/quick-bite/thailand-cocktail-vaccine/155058

    Illustration by Waragon Keeranan

    #วัคซีน #สูตรไขว้ #โควิด #TheMATTER

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    BRIEF: The MATTER ชนะคดีกระดาษเปล่า! ศาลปกครองกลาง สั่ง ป.ป.ช.ต้องเปิดเผยผลสอบคดีนาฬิกาหรู-คำให้การประวิตร
    .
    “โปร่งใส ตรวจสอบได้” เคยเป็นคำที่ผู้มีอำนาจนับแต่รัฐประหารในปี 2557 ใช้พูดแบบส่งๆ พูดแบบขอไปที อยู่บ่อยๆ เพราะเวลามีคนจะขอเข้าไปตรวจสอบ ขอดูความโปร่งใสอะไรทีไร ก็มักจะบ่ายเบี่ยง ถ่วงเวลา ขัดขวาง หรือกระทั่งเบี้ยวสิ่งที่ตัวเองเคยพูดไว้แบบดื้อๆ
    .
    แต่พอคำๆ นี้ มาปรากฎในคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง มันกลับดูมีน้ำหนักขึ้นมา และกลายเป็นข่าวดีเล็กๆ ในสถานการณ์ปัจจุบัน เมื่อศาลสั่งให้ ป.ป.ช. ‘ต้องเปิดเผย’ รายงานการตรวจสอบคดีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ยกคำร้องไปตั้งแต่ปลายปี 2561 หลังเชื่อคำอ้างที่ว่า ยืมนาฬิกาหรู 22 เรือนจากเพื่อนมาใส่ แม้กระทั่งเวลาที่เพื่อนคนดังกล่าวเสียชีวิตไปแล้ว เป็นเหตุให้ไม่ได้แจ้งทรัพย์สินมูลค่าสูงดังกล่าวไว้ในบัญชีทรัพย์สินที่ต้องยื่นต่อ ป.ป.ช. (เพราะไม่ได้เป็นเจ้าของ แค่ยืมมาใส่ออกงานเฉยๆ)
    .
    โดยวันนี้ (15 ก.ย.2564) ศาลปกครองกลาง ได้อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 2557/2562 คดีหมายเลขแดงที่ 1327/2564 ที่ผู้สื่อข่าว The MATTER ยื่นฟ้อง ป.ป.ช. กรณีไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 และ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2564 หลังจากเรายื่นขอรายงานผลการสอบสวนคดีดังกล่าวและเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจาก ป.ป.ช. ภายหลังมีมติไม่รับคดีนี้ไว้ไต่สวน เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2561 โดยเราทำเรื่องยื่นขอข้อมูลทันทีในวันรุ่งขึ้น แต่ ป.ป.ช.ก็ไม่ยอมจัดส่งเอกสารบางรายการมาให้ ส่วนที่ส่งมาให้เอกสารสำคัญกว่าครึ่ง..ก็เป็นเพียง ‘กระดาษเปล่า’!
    .
    หลังจากนั้นเราได้ยื่นร้องเรียนและอุทธรณ์ตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ ทั้งเรื่องความล่าช้าและการไม่เปิดเผยข้อมูล จนที่สุด คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร (กวฉ.) สาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดิน และการบังคับใช้กฎหมาย ได้มีคำวินิจฉัยที่ สค. 334/2562 สั่งให้ ป.ป.ช.ต้องเปิดเผยเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีนาฬิกายืมเพื่อนที่เหลือให้กับเรา
    .
    แต่แม้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ มาตรา 37 วรรคสอง จะกำหนดไว้ว่า คำวินิจฉัยของ กวฉ. “ให้เป็นที่สุด” แต่มันก็ไม่เป็นที่สุดจริงๆ เมื่อ ป.ป.ช.ไปอ้างกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 28, 36 และ 180 และ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ มาตรา 15(2)(3)(6) ไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว นำไปสู่การฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง ช่วงปลายปี 2562
    .
    ผ่านไปเกือบ 2 ปี ในวันนี้ ศาลปกครองกลางก็มีคำพิพากษาสั่งให้ ป.ป.ช.ต้องเปิดเผยเอกสาร 2 รายการให้กับ The MATTER (โดยปกปิดข้อมูลที่มีลักษณะเฉพาะของบุคคล) ได้แก่

    1.) รายงานสรุปผลการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งคณะทำงานรวบรวมเสนอต่อที่ประชุม ป.ป.ช.ในวันที่มีมติเกี่ยวกับคดีนี้ (27 ธ.ค.2561) รวมถึงเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

    2.) คำชี้แจงของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. ในคดีนี้ รวมทั้งหมด 4 ครั้ง
    .
    “การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารนี้ จะแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสและตรวจสอบได้ อันจะก่อให้เกิดความน่าเชื่อถือและศรัทธาในการปฏิบัติงานของ ป.ป.ช. อีกทั้งผู้ฟ้องคดีสมควรจะได้รับความคุ้มครองสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารซึ่งอยู่ในความครอบครองของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐจะต้องเปิดเผย ตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มาตรา 41 และ 59 เพื่อเปิดโอกาสให้มีการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆ ของรัฐ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในระบอบประชาธิปไตย ตามหลักการและเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ และเพื่อให้มีการตรวจสอบความโปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่ของ ป.ป.ช.ให้สิ้นสงสัย อันเป็นการแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติหน้าที่และการใช้อำนาจ ที่ต้องเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม กล้าหาญ และปราศจากอคติทั้งปวงในการใช้ดุลยพินิจ”
    .
    ส่วนหนึ่งของคำพิพากษาศาลปกครองกลางในคดีนี้ ที่ปรากฎอยู่ในหน้าที่ 15 จากทั้งหมด 22 หน้าว่าไว้เช่นนั้น แม้น่าเสียดายที่ ป.ป.ช.ไม่มีผู้บริหารมารับฟังเหตุผลนี้ของศาลด้วยตัวเอง เพราะส่งผู้แทนมาฟังคำพิพากษาแทน
    .
    หลังจากนี้ ก็วัดใจทาง ป.ป.ช. ที่มี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ (ซึ่งเคยเป็นเลขานุการรองนายกฯ ของ พล.อ.ประวิตร มาก่อนในรัฐบาล คสช.) เป็นประธาน ว่าจะยื่นอุทธรณ์คดีนี้ต่อศาลปกครองสูงสุดหรือไม่ มีกำหนดระยะเวลา 30 วัน หาก ป.ป.ช.ยื่นอุทธรณ์ก็ยังต้องไปสู้กับต่อไป แต่หาก ป.ป.ช.ไม่ยื่นอุทธรณ์ ก็จะต้องส่งเอกสารต่างๆ ที่ศาลสั่งให้กับ The MATTER ภายในระยะเวลา 15 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด
    .
    มหากาพย์กระดาษเปล่า ‘คดีนาฬิกายืมเพื่อน’ จะเป็นอย่างไร ยังต้องติดตามกันต่อไป บ้านนี้เมืองนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ เลย
    .
    .
    ย้อนดูการติดตามทวงถามผลสอบสอบคดีนาฬิกายืมเพื่อนจาก ป.ป.ช. ของ The MATTER (เอาแค่บางชิ้นพอเนอะ เพราะทำไว้เยอะอยู่) และเหตุผลว่า ทำไมการเปิดเผยข้อมูล จึงสำคัญกับพวกเราทุกๆ คน





    https://thematter.co/social/nacc-tranparency-general-rolex-case/78759

    https://thematter.co/brief/brief-1583632835/103350

    https://thematter.co/brief/brief-1582956008/102304

    #Brief #TheMATTER

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    BRIEF: นักวิทยาศาสตร์เสนอไอเดียเจ๋งสุดอี๊ สร้างฐานอวกาศบนดาวอังคาร ด้วยอิฐที่ผลิตจากเลือดและสิ่งปฏิกูลของนักบินอวกาศ
    .
    ของเสียที่ถูกขับถ่ายออกจากร่างกายมนุษย์ สามารถทำอะไรได้บ้างนอกจากถูกหมักเป็นปุ๋ย ไอเดียสุดแหวกนี้ถูกนำเสนอโดยนักวิทศาสตร์ในสหราชอาณาจักร โดยพวกเขาเสนอว่า สิ่งปฏิกูลเหล่านี้สามารถนำไปทำเป็นอิฐ เพื่อสร้างฐานอวกาศบนดาวอังคารได้
    .
    งานวิจัยชิ้นใหม่นี้เสนอว่า ฐานอวกาศบนดาวอังคารสามารถทำจากอิฐ ที่ถูกผลิตขึ้นโดยเลือด เหงื่อ น้ำตา และปัสสาวะ ของนักบินอวกาศได้ โดย อเล็ด ดี. โรเบิร์ตส์ นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ในสหราชอาณาจักร เป็นผู้นำในการทดลองครั้งนี้ เพื่อจุดประสงค์ในการลดต้นทุนของกิจการนอกอวกาศ ผ่านของเสียจากร่างกายมนุษย์
    .
    ภาจกิจการสร้างอิฐจากเลือด เหงื่อ น้ำตา และปัสสาวะของนักบิวอวกาศ ท้าทายไม่ต่างไปจากภารกิจของพวกเขาบนดาวอังคาร “การทดลองนี้เหมาะอย่างยิ่งกับการส่งนักบินอวกาศ ไปยังดาวอังคารเป็นครั้งแรกของมวลมนุษยชาติ ซึ่งมันน่าจะเป็นเรื่องที่แสนยาก และท้าทายเทคโนโลยีของมนุษย์เท่าที่เคยมีมา” โรเบิร์ตส์กล่าว
    .
    ด้วยภารกิจที่ท้าทายบนดาวอังคาร นำมาซึ่งการใช้ทรัพยากรที่จำกัดจำเขี่ยที่สุด นักวิทยาศาสตร์จะต้องพยายามจำกัดทรัพยากรต่างๆ ที่จะถูกขนจากโลกขึ้นยานอวกาศไปยังดาวอังคาร และสิ่งปฏิกูลเหล่านี้เอง ที่หลายคนอาจมองข้ามพวกมันไป
    .
    โรเบิร์ตส์และทีมได้นำโปรตีนจากเลือด และยูเรียซึ่งเป็นสารประกอบในเหงื่อ น้ำตา และปัสสาวะ นำมาผสมเข้ากับ เรโกลิธ หรือพื้นผิวบนดาวอังคาร ที่ประกอบไปด้วยพื้นหินและฝุ่นซึ่งไม่รวมตัวกันอยู่หลวม ๆ โดยอิฐเวอร์ชั่นทดสอบของพวกเขา มีชื่อเรียกว่า ‘AstroCrete’ ทั้งนี้ มันสามารถรับแรงกดได้มากขึ้นกว่าเดิม 300 เปอร์เซ็นต์ และสามารถทำขึ้นด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติบนดาวอังคารได้เลย
    .
    ทีมผู้ผลิตเชื่อว่า ภายในเวลา 2 ปี นักบินอวกาศจะสามารถผลิตอิฐจากโปรตีนและยูเรีย ที่สกัดออกจากของเหลวของร่างกายมนุษย์ได้ประมาณ 500 กิโลกรัม ซึ่งมันจะกลายเป็นวัสดุก่อสร้างที่สามารถถูกใช้ได้อย่างต่อเนื่อง และใช้ได้ในระยะยาวภายใต้ภารกิจบนดาวอังคาร
    .
    ถึงแม้ว่าการบริจาคเลือดบนดาวอังคาร ในสภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำของดาวอังคาร อาจส่งผลเสียต่อร่างกายของนักบินอวกาศ แต่โรเบิร์ตส์เสนอว่า มันอาจจะเป็นประโยชน์ในระยะยาว และพวกเขาอาจเปิดรับการบริจาค ด้วยการทดลองโดยใช้ทรัพยากรจากมนุษย์คนอื่นๆ ในการสร้าง AstroCrete ต่อไป
    .
    ทีมนักวิทยาศาสตร์ยังเสนออีกว่า พวกเขาอาจใช้เคราตินจากผมและเล็บ คอลลาเจนจากเซลล์ผิวตาย เมือก ปัสสาวะ และอุจจาระมนุษย์ในการสร้าง AstroCrete ได้ แต่มันยังมีข้อกังวลในเรื่องสุขภาวะของนักบินอวกาศบนดาวอังคาร มันจึงทำให้พวกเขายังไม่ผสมอุจจาระมนุษย์เข้ากับเรโกลิธบนดาวอังคารในตอนนี้ อย่างไรก็ดี หากจะเรียกการทดลองในครั้งนี้ว่า มนุษย์ได้เสียเลือดและเนื้อเพื่ออาณานิคมบนดาวอังคารก็คงไม่ผิดนัก
    .
    .
    อ้างอิงจาก

    https://www.vice.com/en/article/wx5...IoTDYiRSv8wetkd62gPl_MP18Jd8ujrn3DolG4rhrx-R0

    https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S2590006421000442#!

    #Brief #TheMATTER

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    BRIEF: สรุปวันโอนเงินเยียวยาผู้ประกันตน ม.33, 39, และ 40 รอบสอง ได้วันไหน คนละกี่บาท ?
    .
    หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศล็อกดาวน์ ในหลายพื้นที่ เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ในะระลอกล่าสุด ทำให้รัฐบาลมีการอนุมัติงบประมาณ เพื่อเยียวยากลุ่มผู้ประกันตน ตามมาตรา 33, 39 และ 40 โดยใครจะได้เท่าไหร่ และได้วันไหน The MATTER สรุปมาให้แล้ว
    .
    ผู้ประกันตนและนายจ้างตามมาตรา 33

    เงื่อนไขผู้ที่จะได้รับเงินเยียวยา: ประกอบอาชีพใน 9 กลุ่มกิจการ ของพื้นที่ 13 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา ซึ่งถูกประกาศล็อกดาวน์เป็นเวลา 2 เดือน

    วันที่จะได้รับเงินเยียวยา: วันที่ 27 - 28 กันยายน พ.ศ.2564

    จำนวนเงินที่ได้: ลูกจ้าง 2,500 บาท, นายจ้างได้ตามจำนวนลูกจ้างหัวละ 3,000 บาท ไม่เกิน 200 คน หรือสูงสุด 600,000 บาท
    .
    ผู้ประกันตนตามมาตรา 39

    เงื่อนไขผู้ที่จะได้รับเงินเยียวยา: อยู่ในพื้นที่ 13 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา ซึ่งถูกประกาศล็อกดาวน์เป็นเวลา 2 เดือน

    วันที่จะได้รับเงินเยียวยา: วันที่ 21 กันยายน พ.ศ.2564

    จำนวนเงินที่ได้: 5,000 บาท
    .
    ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 พื้นที่ 13 จังหวัด

    เงื่อนไขผู้ที่จะได้รับเงินเยียวยา: อยู่ในพื้นที่ 13 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา ซึ่งถูกประกาศล็อกดาวน์เป็นเวลา 2 เดือน

    วันที่จะได้รับเงินเยียวยา: วันที่ 22 - 23 กันยายน พ.ศ.2564

    จำนวนเงินที่ได้: 5,000 บาท
    .
    ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 พื้นที่ 16+3 จังหวัด

    เงื่อนไขผู้ที่จะได้รับเงินเยียวยา: พื้นที่ 16 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ระยอง ราชบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี ตาก อ่างทอง นครนายก สมุทรสงคราม และสิงห์บุรี ที่สมัครขึ้นทะเบียนสมบูรณ์ในระหว่างวันที่ 4 - 24 สิงหาคม พ.ศ.2564

    วันที่จะได้รับเงินเยียวยา: วันที่ 20 - 21 กันยายน พ.ศ.2564

    จำนวนเงินที่ได้: 5,000 บาท

    เงื่อนไขผู้ที่จะได้รับเงินเยียวยา: พื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, และพระนครศรีอยุธยา

    วันที่จะได้รับเงินเยียวยา: วันที่ 28 กันยายน พ.ศ.2564

    จำนวนเงินที่ได้: 10,000 บาท (รับงวด 1+2 รวมกัน งวดละ 5,000 บาท)
    .
    อย่างไรก็ดี ผู้ที่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39, และ 40 ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์หน้าเป็นต้นไปนี้ ต้องทำการผูกบัญชีธนาคารใดธนาคารหนึ่ง เข้ากับระบบพร้อมเพย์ ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก เนื่องจากเงินเยียวยาจากรัฐบาล จะถูกโอนตามเลขบัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้น
    .
    .
    อ้างอิงจาก

    https://www.prachachat.net/csr-hr/news-760399

    https://www.tnnthailand.com/news/covid19/90731/

    #Brief #TheMATTER

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    BRIEF: คุณก็ช่วยโลกได้ แค่เริ่มสอนวัวเข้าส้วม? นักวิจัยพบ การสอนวัวขับถ่ายเป็นที่ ช่วยลดภาวะโลกร้อนได้
    .
    พวกเราสามารถช่วยลดปัญหามลพิษได้ เพียงแค่สอนวัวเข้าส้วม! ในปัสสาวะของวัวมีไนโตรเจนสูง ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัวที่ถูกเลี้ยงในที่แจ้งอย่างนิวซีแลนด์หรือออสเตรเลีย ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ไนโตรเจนจากปัสสาวะวัวซึมลงไปในดินรวมถึงน้ำ ดังนั้น เราสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยการสอนน้องวัวให้ฉี่ถูกที่ถูกทาง
    .
    ปัญหาจากปัสสาวะวัวไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ อย่างที่หลายคนคิด เพราะเมื่อไนโตรเจนจากฉี่ของพวกมันซึมลงดินในปริมาณเยอะ จะส่งผลให้เกิดสารไนเตรตและไนตรัสออกไซด์ เมื่อไนเตรตถูกชะล้างลงสู่แหล่งน้ำ ทะเล ลำคลอง และชั้นหินอุ้มน้ำ จะทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย รวมถึงทำให้วัชพืชและสาหร่ายเติบโตเร็วเกินไป
    .
    ส่วนไนตรัสออกไซด์ก็เป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีอายุยาวนาน อีกทั้งยังส่งผลกระทบมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 300 เท่า ซึ่งการศึกษาในนิวซีแลนด์พบว่า 12% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศมาจากภาคเกษตรกรรม ซึ่งนั่นรวมถึงปัสสาวะของเจ้าวัวเหล่านี้ด้วย
    .
    แล้วถ้าเลี้ยงในโรงนาจะช่วยลดปัญหานี้ได้ไหม? คำตอบคือไม่ได้เช่นกัน เพราะในยุโรปและอเมริกาเหนือที่เลี้ยงวัวในโรงนาเป็นหลัก พบว่าไนโตรเจนจากปัสสาวะของวัวที่ผสมกับอุจจาระที่ถูกทิ้งเรี่ยราดบนพื้นทำให้เกิดสารแอมโมเนียได้
    .
    อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์พบว่าหากเราสามารถทำให้ปัสสาวะของวัวอยู่เป็นที่เป็นทางได้ จะช่วยทำให้ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมลดลง ซึ่งทางเดียวที่จะทำเช่นนั้นได้คือการใส่ผ้าอ้อม? ไม่ใช่ คือการสอนเจ้าวัวเข้าห้องน้ำต่างหาก
    .
    นักวิจัยแห่งสถาบันสรีรวิทยาและพฤติกรรมในเยอรมนี ร่วมกับมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ในนิวซีแลนด์ ได้ศึกษาเกี่ยวกับวิธีการสอนให้วัวเข้าห้องน้ำ และพวกเขาก็ประสบความสำเร็จ
    .
    พวกเขาใช้หลักการเชิงจิตวิทยามาสอนให้เจ้าวัวรู้จักเดินไปเข้าห้องน้ำเองทุกครั้งที่รู้สึกปวดหนักปวดเบา โดยกำหนดให้วัวเดินไปขับถ่ายยังจุดที่กำหนด หากไม่ปฏิบัติตามก็จะโดนลงโทษเล็กน้อย และหากปฏิบัติตามก็จะได้รับรางวัล ซึ่งหลังจากทดลองครบ 10 ครั้ง มีวัวถึง 11 ตัวจาก 16 ตัวที่สามารถขับถ่ายในพื้นที่ที่กำหนดได้ถูกต้อง
    .
    ซึ่งนอกจากนักวิจัยจะพบว่าเจ้าวัวเป็นนักเข้าห้องน้ำที่ดี เขายังพบว่าพวกมันเรียนรู้ได้เร็วไม่ต่างจากสัตว์อื่นๆ เลยทีเดียว
    .
    นักวิจัยระบุว่าหากวัว 80% สามารถขับถ่ายเป็นจุดได้ จะลดจำนวนการปล่อยแอมโมเนียลงถึง 56% อย่างไรก็ตาม ในแง่ปฏิบัติวิธีนี้ยังมีข้อจำกัดอีกมาก ทั้งการวางจุดขับถ่ายให้เหมาะสม ทั้งการสอนให้วัวเข้าใจพฤติกรรมแบบใหม่ แต่ถ้าทำสำเร็จ น่าจะช่วยแก้ปัญหาก๊าซเรือนกระจกไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
    .
    .
    อ้างอิงจาก

    https://www.bbc.com/news/world-europe-58552651

    https://www.sciencealert.com/scient...these-good-cows-to-help-combat-climate-change

    #Brief #TheMATTER

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    BRIEF: รองโฆษกรัฐบาลแจง โมเดอร์นาล็อตที่ ครม.อนุมัติงบกลางให้สภากาชาดซื้อและที่ เป็นคนละล็อตกับของ รพ.เอกชน
    .
    เมื่อวานนี้ แฮชแท็ก #โมเดอร์นา กลับมาขึ้นเทรนด์อีกครั้ง หลังมีกระแสข่าวว่า ครม.ได้อนุมัติงบกลางเกือบ 1,000 ล้านบาทให้สภากาชาดไทยนำไปซื้อวัคซีนโมเดอร์นา 1 ล้านโดสมาฉีดให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
    .
    ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า วัคซีนล็อตนี้รวมถึงล็อตที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เซ็นสัญญาสั่งซื้อ 8 ล้านโดสเมื่อวานนี้ เป็นล็อตเดียวกับที่ รพ.เอกชนดีลผ่านองค์การเภสัชกรรมเพื่อนำเข้ามาฉีดเป็นวัคซีนทางเลือกในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้หรือไม่
    .
    ล่าสุด รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาลได้ออกมาชี้แจงผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า “การจัดหาวัคซีน #โมเดอร์นา มี 2 ล็อต ขออย่าสับสน”
    .
    “เมื่อวานนี้ มีข่าวการจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นาของทางจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย และที่รัฐบาลอนุมัติงบกลางให้สภากาชาด วัคซีนจะมาถึงในต้นปีหน้า เป็นคนละล็อตกับที่โรงพยาบาลเอกชนและสภากาชาด ได้ทำการสั่งซื้อก่อนหน้าผ่านองค์การเภสัชกรรม ซึ่งจะมาถึงในช่วงตุลาคม-ธันวาคม ดังนั้น การดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนผู้ทำการจองผ่านโรงพยาบาลเอกชน จึงไม่เกี่ยวข้องกับการสั่งซื้อในล็อตใหม่นี้ค่ะ”
    .
    แม้คำตอบนี้จะมีความชัดเจนในส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมถึงประเด็นคำถามของประชาชนที่ว่า ในเมื่อภาครัฐอย่างองค์การเภสัชกรรม รวมถึงราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์สามารถนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นาได้ตั้งแต่แรก แล้วทำไมจึงเพิ่งมาดำเนินการหลังจากที่ COVID-19 ระบาดจนเกินจะควบคุม
    .
    นอกจากนี้บางส่วนยังฝากคำถามไปยังองค์การเภสัชกรรมเพื่อขอความชัดเจนในการส่งมอบวัคซีนโมเดอร์นาในไตรมาสที่ 4 นั้นว่าคือวันไหน เพราะผู้จองวัคซีนหลายคนได้สอบถามไปยังโรงพยาบาลที่ตัวเองลงชื่อจองไว้ และส่วนใหญ่ล้วนให้คำตอบไม่ได้ เพราะต้องรอคำตอบจากองค์กรเภสัชกรรม
    .
    .
    อ้างอิงจาก

    https://news.thaipbs.or.th/content/307910

    https://www.hfocus.org/content/2021/08/22905

    https://www.thairath.co.th/news/society/2181830

    #Brief #TheMATTER

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    BRIEF: #DoNotTouchMyClothes หญิงอัฟกันต่อต้านกฎการควบคุมการแต่งกายสตรีของตาลีบัน ด้วยการโพสต์รูปชุดประจำชาติ
    .
    เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ตาลีบันเพิ่งออกประกาศกฎควบคุมการแต่งการของผู้หญิงชาวอัฟกานิสถาน โดยจะมีการสั่งให้พวกเธอต้องคลุมผ้าเบอร์กา แบบปิดมิดชิดตั้งแต่ดวงตาจรดปลายเท้า ทำให้หญิงชาวอัฟกานิสถานหลายคนออกมารณรงค์ผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อกฎดังกล่าว ภายใต้ #DoNotTouchMyClothes
    .
    “นี่คือชุดชาวอัฟกันที่แท้จริง หญิงอัฟกันแต่งตัวด้วยสีสันที่สดใส และดูสุภาพเรียบร้อย ผ้าคลุมเบอร์กาสีดำไม่เคยเป็นวัฒนธรรมของอัฟกันมาก่อน #FreeAfghanistan” สปอจมาไว มาสจิด หนึ่งในหญิงชาวอัฟกานิสถาน ที่อาศัยอยู่ในเวอร์จิเนียร์ ออกมาร่วมการรณรงค์ในครั้งนี้ ด้วยการทวิตข้อความพร้อมภาพของเธอกำลังใส่ชุดประจำชาติอัฟกานิสถาน เพื่อต่อต้านอำนาจของตาลีบัน
    .
    การแต่งกายของหญิงอัฟกานิสถานมักใช้ผ้าถักลายสีสันสดใส ห่มคลุมร่างกายลงไปถึงกระโปรง พร้อมด้วยเครื่องประดับประดาที่ทำจากกระจก เธอใส่เสื้อผ้าเหล่านี้ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา หลังตาลีบันลงจากอำนาจเมื่อครั้งก่อน นอกจากนี้ โดยปกติพวกเธออาจจะเลือกใช้ผ้าสีดำ ห่มร่างกายท่อนบน และใส่กางเกงขายาวหรือยีนส์ในท่อนล่าง เพื่อเดินทางไปไหนมาไหนในประเทศของพวกเธออย่างสะดวกสบายและปลอดภัย
    .
    แต่ภาพเหล่านี้กำลังจะถูกตาลีบันลบให้หายไปจากอัฟกานิสถานอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน พวกเขาได้นั่งแถลงออกกฎการควบคุมการแต่งกายของผู้หญิงในประเทศ พร้อมกับจัดให้มีกลุ่มประชาชนผู้ให้การสนับสนุนพวกเขา ซึ่งเป็นผู้หญิงกำลังห่มผ้าคลุมเบอร์กาปิดตั้งแต่ใบหน้ายันปลายเท้า เข้าฟังการแถลงและถือธงตาลีบัน เสมือนว่าพวกเธอสยบยอมต่อคำสั่งของตาลีบันด้วยกันทั้งประเทศ
    .
    ตาลีบันระบุว่า การแต่งกายสีสันสดใสของหญิงชาวอัฟกานิสถานนั้น ผิดไปจากกฎชารีอะห์ หรือกฎทางศาสนาอิสลามของพวกเขา พวกเขายังกล่าวอีกว่า การแต่งกายหล่านี้ได้รับอิทธิพลจากต่างชาติ และไม่ได้เป็นภาพแทนของหญิงชาวอัฟกานิสถานที่แท้จริง ในทางตรงกันข้าม การห่มผ้าคุลมปิดทั้งร่างกายต่างหาก ที่ตาลีบันเห็นว่าเหมาะสมและถูกต้อง เนื่องจากมันคือสัญลักษณ์ของชาวมุสลิม
    .
    ด้วยเหตุนี้ บาชาร์ จาลาลิ อดีตศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยอเมริกันของอัฟกานิสถาน จึงได้ริเริ่มการรณรงค์ให้หญิงอัฟกานิสถาน ร่วมกันโพสต์รูปภาพของพวกเธอ ในชุดที่ดูสวยงามตามแบบอย่างวัฒนธรรมดั้งเดิม เพื่อแสดงให้เห็นตัวตนของพวกเธอ และต่อต้านกฎสุดโต่งของตาลีบัน พร้อมติด #DoNotTouchMyClothes และ #AfghanistanCulture ในการแสดงเจตนารมณ์ถึงสิทธิเหนือร่างกายของพวกเธอ
    .
    จาลาลิเกรงว่า กฎของตาลีบันจะทำร้ายทำลายอัตลักษณ์ของหญิงอัฟกานิสถานทั้งหมด ที่พวกเธอต่างมีชุดแต่งกายตามวัฒนธรรมที่ดูสดใส พร้อมประดับไปด้วยเครื่องกระจกและงานปักอันสวยงาม พวกเธอกล่าวว่า เครื่องแต่งกายเหล่านี้ เป็นแบบแผนวัฒนธรรมที่มีมาในอัฟกานิสถานตลอด 5,000 ปี และก่อนหน้าตาลีบันจะกลับมา มันยังเป็นเรื่องยากที่คุณจะเห็นหญิงชาวอัฟกานิสถานแต่งกายด้วยชุดนิกอบ หรือผ้าคลุมที่เปิดให้เห็นเฉพาะดวงตา ในพื้นที่ที่มีความอนุรักษ์นิยมสูงของอัฟกานิสถาน
    .
    ด้วยความกลัวหลังตาลีบันเข้ายึดอำนาจในรอบ 20 ปี หญิงอัฟกานิสถานหลายคนเริ่มกลับมาใช้ผ้าคลุมผมอีกครั้ง โดยเฉพาะในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ศูนย์กลางอำนาจใหม่ของตาลีบัน “ฉันโพสต์รูปเพราะว่าฉันคือหญิงอัฟกัน เราแต่งกายด้วยวัฒนธรรมของเราบนความภาคภูมิใจ และเราคิดว่าอัตลักษณ์ของเราไม่สามารถถูกนิยามได้โดยกลุ่มก่อการร้ายบางกลุ่ม วัฒนธรรมของเราไม่ใช่สีดำ มันไม่ใช่เรื่องขาวหรือดำ มันคือสีสัน และมันคือความสวยงาม มันคือศิลปะ มันคืองานฝีมือ และมันคืออัตลักษณ์” ลิมา ฮาลิมา อาฮ์หมัด นักวิจัยหญิงชาวอัฟกานิสถานระบุ
    .
    .
    อ้างอิงจาก

    https://www.bbc.com/news/world-asia...3yBkajhgxlKFCcQnV4YyVuwu1msXJaFcUuVPuncAskCpU



    #Brief #TheMATTER

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    SPOTLIGHT: 5 ข่าวน่าสนใจในรอบวัน
    .
    ครม.อนุมัติงบกลาง 3,851 ล้าน จัดการน้ำท่วม-ภัยแล้ง
    .
    ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เผย ที่ประชุม ครม.อนุมัติงบกลางจำนวน 3,851 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมปี 2564 และปัญหาภัยแล้งปี 2564-2565 จำนวนทั้งสิ้น 3,378 รายการ โดยมีกระทรวงที่รับผิดชอบ 3 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย
    .
    https://www.thairath.co.th/news/politic/2193430
    https://www.prachachat.net/economy/news-760962
    .
    .
    รมว.การท่องเที่ยว ยืนยันเปิดประเทศตามแผนเดิม
    .
    แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันจะลดลงมาบ้างแล้ว แต่หากไปดูผู้ตรวจ ATK และยอดผู้เสียชีวิต สถานการณ์ก็ยังถือว่าน่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตาม พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวและกีฬา ยังคงยืนยันว่า แผนการเปิดประเทศ 5 จังหวัดวันที่ 1 ตุลาคมนี้ยังคงเป็นตามเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึง 21 จังหวัดที่ประกาศออกมาก่อนหน้านี้ว่าจะทยอยเปิดในวันที่ 15 ตุลาคมด้วย
    .
    https://siamrath.co.th/n/280270
    .
    .
    ญี่ปุ่นบริจาควัคซีนแอสตร้าฯ ให้ไทยเพิ่ม 3 แสนโดส
    .
    สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โทชิมิตสึ โมเตกี รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมส่งมอบวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าให้ประเทศไทยเพิ่มเติม 300,000 โดส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแผนส่งมอบวัคซีนเพื่อช่วยเหลือประเทศในแถบเอเชียทั้งสิ้น 1.3 ล้านโดส โดยนอกจากไทยแล้ว ก็มีไต้หวัน เวียดนาม และบรูไนได้รับวัคซีนบริจาคในล็อตนี้ด้วย
    .
    https://www.reuters.com/article/health-coronavirus-japan-vaccines-idUSL4N2QG0QL
    .
    .
    นิวยอร์กอนุญาตให้เด็กกลับมาเรียนในห้องได้แล้ว
    .
    นครนิวยอร์กอนุญาตให้เด็กกลับมาเรียนที่โรงเรียนแบบเต็มรูปแบบได้แล้ว หลังปิดไปตั้งแต่มีนาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่นิวยอร์กเป็นศูนย์กลางการระบาดของโลก ขณะที่คณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ออกคำแนะนำให้เด็กที่อายุระหว่าง 12-17 ปีเข้ารับวัคซีนเพื่อความปลอดภัยมากขึ้น แต่มาตรการดังกล่าวยังไม่บังคับใช้ เป็นเพียงการขอความร่วมมือเท่านั้น ยกเว้นแต่ทำกิจกรรมที่มีการรวมตัวคนหมู่มาก เช่น การแข่งกีฬา บังคับว่าต้องฉีดวัคซีนก่อนเข้าร่วมกิจกรรม
    .
    https://www.nytimes.com/2021/09/13/nyregion/nyc-schools-reopening.html?smid=tw-nytimes&smtyp=cur
    .
    .
    เกาหลีใต้ปรับกูเกิล 2 แสนล้านวอน ผูกขาดการค้า
    .
    คณะกรรมการธิการการค้ายุติธรรมแห่งเกาหลี (KFTC) สั่งปรับกูเกิล 207,400 ล้านวอน หรือประมาณ 5,000 ล้านบาท ฐานผูกการค้า จากกรณีออกข้อตกลงต่อต้านการแยกส่วน เพื่อกีดกันไม่ให้บริษัทสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเจ้าอื่นติดตั้งระบบแอนดรอยด์เวอร์ชั่น “Android fork” ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ ส่งผลให้บริษัทสมาร์ทโฟนเจ้าอื่นไม่สามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์พร้อมบริการแบบใหม่ได้ ซึ่งถือเป็นการจงใจผูกขาด
    .
    https://www.bloomberg.com/news/arti...fines-google-for-abusing-smartphone-dominance

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เราอาศัยอยู่ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่าการแพร่ระบาดดังกล่าวส่งผลต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์อย่างที่ในช่วงชีวิตนี้ไม่เคยประสบมาก่อน และไม่ได้ส่งผลในแค่เรื่องสุขภาพกาย หรือสุขภาพจิตเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบในเรื่องของทั้งเศรษฐกิจ และสังคมให้เดินถอยหลังลงไปเรื่อยๆ ถึงตอนนี้เราเห็นแล้วว่า โควิดไม่เลือกคนจนหรือคนรวย แต่ทั้งนี้ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเข้าถึงทรัพยากรได้อย่างเท่าเทียม และสิ่งนี้ก็ไม่ต่างจากปัญหา Climate Change ที่เริ่มส่งผลรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเรียกได้ว่า โลกก็ป่วยเช่นเดียวกัน เพราะ Climate Change จะกระทบผู้คนทั้งหมด แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นผู้ก่อก็ตาม เหมือนที่ได้เห็นจากข่าวว่าเกาะต่างๆ อาจจะจมลงสู่ใต้น้ำจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งๆ ที่พวกเขาปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยที่สุด
    .
    ในแง่ของสิ่งแวดล้อมโลกที่ป่วย อาจหมายถึงโลกที่ไม่เหมาะสมแก่การดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิต ซึ่งอดีตโลกก็เคยผ่านอาการไม่สบายครั้งใหญ่มาหลายครั้งก่อนที่มนุษย์จะถือกำเนิดขึ้น ด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนตามธรรมชาติ มีทั้งยุคที่เย็นสุดขั้วและร้อนสุดขีด แต่ท้ายที่สุดโลกก็ปรับสมดุลรักษาตนเองจนกลับมาหายเป็นปกติ และอยู่ในสภาพที่เหมาะสมแก่การดำรงชีวิตของมนุษย์
    .
    แต่แล้วหลังจากที่มนุษย์ เริ่มมีการพัฒนา มีความต้องการที่มากขึ้น เราก็เริ่มที่จะแสวงหาผลประโยชน์จากธรรมชาติมากขึ้น เพื่อนำมาสร้างสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่เราต้องการ มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิจัยของ IPCC ซึ่งระบุว่า กิจกรรมจากมนุษย์ประมาณ 90% เป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนโลกร้อนในปัจจุบัน อันที่จริงมนุษย์เราอาจเปรียบเสมือนแบคทีเรียส่วนเล็ก ๆ ในโลก ที่สามารถส่งผลต่อความเป็นอยู่ของโลกได้มาก ไม่ว่าจะเป็นทั้งในผลกระทบเชิงบวกหรือลบ
    .
    โลกที่ป่วยส่งผลอะไรกับเรา ? การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศส่งผลต่อการเกิดภัยต่างๆ ที่กระทบต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์ เช่น ความร้อน ไฟป่า ความแห้งแล้ง ฝนตก น้ำท่วม เป็นต้น ปัจจุบันบางพื้นที่ในโลกประสบกับความร้อนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อเดือนที่ผ่านมา NOAA ก็ระบุว่า เดือนกรกฎาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา เป็นเดือนที่ร้อนที่สุดตั้งแต่มีการบันทึกมา ซึ่งวิจัยจาก Monash University ชี้ว่า ภัยความร้อนได้คร่าชีวิตคนมากถึง 5 ล้านคนในแต่ละปี ประกอบกับรายงาน IPCC ครั้งที่ 6 ยังชี้อีกด้วยว่า ทวีปเอเชียจะเจอทั้งน้ำท่วม ดินถล่ม ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และความร้อนที่รุนแรงมากขึ้นภายในสิ้นศตวรรษนี้ ซึ่งนอนว่าเราเป็นส่วนหนึ่งในสิ่งแวดล้อมเราเองเป็นผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าว
    .
    ในช่วงโควิดที่คนป่วยล้นเมือง โลกก็ป่วยอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ ถึงแม้ปีที่ผ่านมาเราอาจจะเห็นข่าวที่อาจบอกว่า สัตว์ออกมาใช้ชีวิตช่วงที่เมืองไร้ผู้คน หรือการปล่อยคาร์บอนที่ลดลงเองก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วเรื่องเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนเลย เพราะมันเป็นเพียงการหยุดกิจกรรมของมนุษย์เท่านั้น ซึ่งหากกลับมาในสภาวะปกติ กิจกรรมดังกล่าวก็จะกลับมา การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ก็จะเด้งกลับมาเช่นเดิม ประกอบกับเรามีขยะบางประเภทที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นภาระที่แต่ละประเทศต้องจัดการ ซึ่งตรงนี้ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
    .
    อย่างไรก็ตามการหยุดกิจกรรมทั้งหมดของมนุษย์ก็ไม่ใช่ทางออกเช่นกัน แต่การพัฒนาที่คำนึงถึงการดูแลและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศในระยะยาวต่างหากเล่า ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ผลักดันทั้งสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน เพื่อชะลออาการป่วยของโลกไม่ให้แย่ลง และลดความเสี่ยงของการป่วยของมนุษย์เราในอนาคตด้วย ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราทุกคนต้องลุกขึ้นมาสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพื่อกอบกู้และฟื้นฟูโลกใบนี้ของเราทุกคน ?

    Source

    Extreme temperatures kill 5 million people a year with heat-related deaths rising, study finds, https://bit.ly/3l3uWPg

    It’s official: July was Earth’s hottest month on record
    , https://bit.ly/2WYngpy

    A natural climate cycle, https://bit.ly/3tistnY
    In-depth Q&A: The IPCC’s sixth assessment report on, https://bit.ly/3BNg1zH

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ก็เป็นทั้งรถและบ้านไปเลยสิ! ผุดรถบ้านพลังแสงอาทิตย์ เพื่อท่องเที่ยวผจญภัยทางไกล

    นักออกแบบจากมหาวิทยาลัย Eindhoven University of Technology ได้ดีไซน์รถบ้านแคมเปอร์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อการท่องเที่ยวผจญภัยทางไกล

    บนหลังคาของเจ้ารถดังกล่าวมีแผงโซลาร์ขนาดใหญ่ ส่วนภายในก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไม่ว่าจะเป็นเตียงนอน ที่ทำอาหาร และที่นั่งเล่นที่ทำมาเพื่อการท่องเที่ยวพักผ่อนจริงๆ

    ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

    https://solarteameindhoven.nl

    ที่มา

    https://www.yankodesign.com/2021/09...er-is-set-for-3000-km-journey-through-europe/

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอก คั้น เอาเปลือกไปทำแก้ว! อิตาลี่ฉลาดคิดผลิต เครื่องคั้นน้ำส้ม ผลิตแก้วจากเปลือกส้ม ปอก คั้นเอาเปลือกไปทำแก้วออโต้ในเครื่องเดียว ไร้ขยะ! ส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน

    สตูดิโอออกแบบอิตาเลี่ยน Carlo Ratti Associati ได้พัฒนาบาร์ทำน้ำส้ม (circular orange juice bar) ที่นอกจากจะนำผลส้มมาคั้นน้ำออกแล้ว ก็ยังนำเปลือกที่เหลือจากการคั้นมาพิมพ์เป็นถ้วยพลาสติกชีวภาพสามมิติอีกด้วย!

    เครื่องทำน้ำส้มที่มีชื่อว่า Feel the Peel นี้ ผลิตมาเพื่อเป็นตัวอย่างเครื่องคั้นน้ำส้มที่ปรับวิถีเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน (Cicular Design) มาใช้ในชีวิตประจำวัน

    บาร์น้ำผลไม้นี้สูง 3 เมตร 10 ด้านบนมีโดมร้อยเรียงด้วยผลส้ม 1,500 ลูก เมื่อคนมาสั่งน้ำส้ม ส้มจะสไลด์ลงมาที่เครื่องคั้น และจะถูกแบ่งเป็นครึ่งและถูกคั้นน้ำออกมา

    เปลือกที่เหลือจากการคั้นจะหล่นไปในช่องใสด้านล่างของเครื่อง เปลือกส้มจะถูกนำไปอบแห้งและบดให้เป็นผงเรียกว่า “Orange dust” หรือ “ฝุ่นส้ม” ผงนี้จะถูกนำไปผสมกับ Polylactic Acid (PLA) เพื่อไปทำพลาสติกชีวภาพ (ซึ่งแก้วน่าจะนำไปใช้ซ้ำได้)

    วัสดุที่ได้จากการผสมของกรดและผงส้มจะถูกนำไปทำให้ร้อนและละลายกลายเป็นเส้นใย (filament) ซึ่งเครื่องพิมพ์รูปสามมิติที่ถูกติดตั้งในบาร์ผลไม้นี้จะนำเส้นใยนี้ไปใช้อีกที

    ผู้ใช้งานเครื่องนี้ยังสามารถดูขบวนการณ์พิมพ์เส้นใยเป็นชั้นๆ ก่อนที่ได้ดื่มน้ำส้มที่คั้นสดๆจากเครื่องด้วยถ้วยจากเปลือกส้มนี้ ถ้วยนี้ยังสามารถนำไปรีไซเคิลได้เพื่อตอบโจทย์เศรษฐกิจแบบหมุนเวียนอีกด้วย

    ผู้ก่อตั้งสตูดิโอ Carlo Ratti กล่าวว่า “การบริโภคแบบหมุนเวียนควรเป็นเรื่องหลักสำหรับสิ่งของในปัจจุบัน”

    เราพยายามที่จะทำให้เห็นว่าการบริโภคแบบหมุนเวียนเป็นเรื่องที่จับต้องได้ผ่านการผลิตเครื่องจักรที่จะสามารถช่วยให้เราเข้าใจได้ว่า ส่วนอื่นของส้มสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อีก นอกเหนือจากน้ำของมัน”

    ทางสตูดิโอย้ำว่าจะมีการต่อยอดเครื่อง Feel the Peel นี้โดยการใส่ฟังค์ชั่นใหม่ๆเข้าไป เช่น การสร้างเสื้อจากเปลือกส้ม

    โดยจะมีการนำบาร์ผลไม้แบบหมุนเวียนนี้ไปติดตั้งที่งานประชุม Singularity University Summit ในเมืองมิลาน (ใครอยู่แถวนั้นฝากดูด้วย ในวันที่ 8-9 ตุลาคม 2019 ก่อนที่จะนำไปเสนอตามงานประมูลต่างๆของประเทศเพื่อ “เสนอให้คนเห็นถึงไอเดียใหม่ๆที่สามารถนำการบริโภคแบบหมุนเวียนมาใช้ในชีวิตประจำวันได้”

    Feel the Peel ไม่ใช่เครื่องแรกที่ทางสตูดิโอและ Eni ทำร่วมกันเกี่ยวกับการบริโภคแบบหมุนเวียน ก่อนหน้านี้มีซุ้มประตูโค้งที่ทำจากเห็ดไมซีเลียมจัดโชว์ที่ Milan Design Week 2019 เห็ดพวกนี้เกิดจากวัสดุที่เป็นเชื้อราและจะย่อยสลายกลับคืนสู่ดินเป็นปุ๋ยหมัก หลังจากใช้โชว์ในงาน

    ณิชากร บัวทรัพย์ (ดีจัง)
    ร่มธรรม ขำนุรักษ์ (หวาย)

    ที่มา

    https://www.dezeen.com/2019/09/10/carlo-ratti-feel-the-peel-circular-orange-juice-bar-design/

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    CLIMATE CHANGE: โพลสำรวจใน 10 ประเทศพบว่าคนรุ่นใหม่ 4 ใน 10 กังวลและลังเลที่จะมีลูกเนื่องจากผลกระทบจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง และกลัวว่ารัฐบาลจะลงมือทำไม่เพียงพอในการป้องภัยพิบัติวิกฤตภูมิอากาศ
    .
    การสำรวจนี้ถือเป็นการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับความกังวลเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศและวัยรุ่นโดยสำรวจผู้คนกว่า 10,000 คนใน 10 ประเทศคือ ออสเตรเลีย บราซิล ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส อินเดีย ไนจีเรีย ฟิลิปปินส์ โปรตุเกส สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา
    .
    ผลชี้ว่า 6 ใน 10 ของวัยรุ่นอายุ 16-25 ปีกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง โดยจำนวนมาชี้ว่ารัฐบาลไม่ได้ปกป้องพวกเขา โลก และรุ่นลูกหลานในอนาคต 3 ใน 4 ของผู้สำรวจเห็นด้วยว่าอนาคตจะน่ากังวลอย่างมาก โดยรู้สึกเครียดและกังวลเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต
    .
    คนรุ่นใหม่มีความกังวลและเครียดเรื่องสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งสอดคล้องกับปัญหาที่ทวีคูณขึ้น ทั้งอุณหภูมิที่สูงขึ้น ไฟป่า ความแห้งแล้ง คลื่นความร้อน น้ำแข็งละลาย ฝนตก พายุ น้ำท่วมฉับพลันที่รุนแรงขึ้น อีกทั้งยังมีรายงานจาก IPCC ที่ยืนยันว่าอนาคตจะโหดร้ายกว่านี้หากไม่เร่งลงมือทำอย่างเร่งด่วน
    .
    ต้นเดือนที่ผ่านมา UNICEF ชี้ว่าเด็กกว่าพันล้านคนอยู่ในความเสี่ยงอย่างมากจากภัยสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง
    .
    ผู้คนทั่วโลกให้ความหวังและสร้างแรงกดดันไปที่การประชุมระดับโลกเกี่ยวกับด้านสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง COP26 ที่จะจัดขึ้นในสหราชอาณาจักรปลายปีนี้ โดยมีความจำเป็นอย่างที่ประเทศทั่วโลกจะตั้งเป้าหมายในการลดก๊าซเรือนกระจก ฟื้นฟูธรรมชาติ และวางแผนรับมือกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
    .
    รายงาน

    https://papers.ssrn.com/sol3/papers.cfm?abstract_id=3918955

    ที่มา

    https://www.theguardian.com/environ...le-fear-having-children-due-to-climate-crisis

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    FASHION: ในไทม์ไลน์เฟสของเราอาจจะเห็นว่ามีภาพดาราและคนดังต่างชาติไปเดินอวดชุดในงาน Met Gala ที่จัดขึ้นในที่ Metropolitan Museum of Art Costume Institute ในนิวยอร์ก มากมาย
    .
    ซึ่งงาน Met Gala นี้เป็นงานจะโดยปีนี้งาน Met Gala มาในธีม ‘American Independence’ เพื่อให้เข้ากับธีมนิทรรศการ ‘In America: A Lexicon of Fashion’ Fashion’
    .
    ในปีนี้นอกจากจะมีชุดเงาดำของ Kim Kardashian ที่เป็นที่พูดถึงแล้ว ก็มีการปรากฎตัวของ Billie Eilish ที่ได้เป็นหนึ่งในประธานร่วมในการจัดงานของปีนี้ เนื่องจากเธอมาในลุคที่แตกต่างออกไปกับเดรสเกาะอกลากยาวสีพีช ให้ฟีล Marilyn Monroe
    .
    แต่สิ่งที่ทำให้เธอเป็นที่พูดถึงเลยคือที่มาที่ไปเบื้องหลังชุดนี้ อย่างที่รู้กัน Billie เป็นวีแกน ดังนั้น ตอนที่เธอดีลงานกับดีไซน์เนอร์ Oscar de la Renta เธอพูดว่า เธอจะเลือกชุดของพวกเขา ถ้าพวกเขาไม่ใช้ขนสัตว์ในการผลิต
    .
    ซึ่ง Oscar de la Renta ผู้ผลิตชุดนี้ก็ทำเช่นนั้น พวกเขาก็ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2021 แล้วว่า พวกเขาตั้งใจจะผลิตสินค้าปราศจากการใช้ขนสัตว์ทั้งหมดภายในเดือนตุลาคมนี้ ตอนนี้พวกเขาไม่ใช้ขนสัตว์ในคอลเลคชั่นต่าง ๆ และไม่ขายในร้าน ซึ่งในอนาคตก็จะไม่อีกต่อไปเช่นกัน
    .
    ด้าน Billie หลังจากที่ได้ร่วมงานและได้ชุดจากแบรนด์ที่ไม่ทารุณสัตว์แล้ว เธอก็ได้โพสต์รูปลงอินสตาแกรมส่วนตัว @billieeilish ว่า “ขอบคุณ @oscardelarenta สำหรับการออกแบบเดรสที่สวยงามนี้ และทำให้ไอเดียและความคิดของฉันกลายเป็นจริง รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ใส่เดรสตัวนี้ โดยที่รู้ว่าชุดของ Oscar de la renta จะไม่มีการใช้ขนสัตว์เลย ฉันรู้สึกมากกว่าตื่นเต้นที่ @fernandogarciam1205 และ @tokibunbun และทั้งเข้าใจฉันในประเด็นนี้ และได้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่สำหรับสัตว์ แต่สำหรับโลก และสิ่งแวดล้อมด้วย ฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นตัวกระตุ้น และทำให้ทุกคนได้รู้เรื่องนี้ ฉันหวังว่าดีไซน์เนอร์ทุกคนจะทำเช่นนี้เช่นกัน”
    .
    Billie Eilish ถือเป็นศิลปินที่คอยเป็นกระบอกเสียงด้านสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ เธอประกาศแผนการทัวร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเริ่มแบนหลอด และกระตุ้นให้แฟนเพลงนำขวดน้ำมาเอง และมีจุดรีไซเคิลด้วย
    .
    ในอินสตาแกรมของเธอ เธอก็เคยลงสตอรี่ เป็นวิดีโอจาก Animal Recovery Mission ที่เผยให้เห็นการทารุณกรรมสัตว์ พร้อมเชิญชวนให้ผู้ติดตามของเธอให้หันมาเป็นวีแกนมากขึ้น เพราะเราก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้
    .
    ที่มา


    https://meaww.com/met-gala-2021-bil...scar-de-la-renta-told-designer-stop-using-fur

    https://www.livekindly.co/billie-eilish-condemns-meat-dairy-industry/

    https://wwd.com/fashion-news/fashion-scoops/oscar-de-la-renta-going-fur-free-1234892475/
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    LIFE: MooLoo เพื่อโลก! นักวิจัยเยอรมันทดลองฝึกวัวใช้ห้องน้ำ หวังลดโลกร้อนหากวัวปล่อยของเสียเป็นที่เป็นทาง
    .
    ปกติเรามักจะได้ยินว่า การผายลมของวัวปล่อยก๊าซเรือนกระจก อย่าง มีเทนออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งก๊าซเหล่านี้ก็เป็นหนึ่งในตัวการที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน แต่รู้หรือไม่ว่า ของเสียอื่น ๆ อย่าง แอมโมเนียในปัสสาวะของวัวก็ส่งผลกระทบต่อโลกเช่นกัน เพราะเมื่อปัสสาวะซึมลงในดิน จุลินทรีย์ที่อยู่ในดินก็จะทำการเปลี่ยนแอมโมเนียเป็นไนตรัสออกไซด์ ซึ่งก็เป็นก๊าซเรือนกระจกเหมือนกับมีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์
    .
    โดยเมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยในเยอรมันก็ได้ทำการทดลองที่พวกเขาเรียกว่า MooLoo ซึ่งเป็นการฝึกให้ลูกวัวใช้ห้องน้ำที่อยู่ภายในโรงนา เพื่อจะได้นำปัสสาวะไปบำบัดต่อ หากลูกวัวใช้ห้องน้ำ พวกเขาก็จะมอบรางวัลเป็นน้ำหวาน หรือบาร์เลย์บด ส่วนลูกวัวที่ไม่ยอมใช้ห้องน้ำ ก็จะถูกทำโทษโดยการฉีดน้ำใส่เป็นเวลาสั้น ๆ
    .
    หลังจากการฝึกอยู่หลายอาทิตย์ ลูกวัว 11 ตัวจากทั้งหมด 16 ตัวก็ผ่านการทดลอง และสามารถใช้ห้องน้ำได้ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามนักวิจัยระบุว่า ลูกวัวอีก 5 ตัวที่เหลืออาจต้องเวลาในการฝึกมากกว่านี้ซักหน่อย
    .
    “เราอยากพัฒนาระบบตรวจจับอัตโนมัติที่จะมาฝึกแทนคนได้” Jan Langbein หนึ่งในนักวิจัยกล่าวพร้อมเผยอีกว่า หากวัวหันมาปัสสาวะในห้องน้ำ ก็จะสามารถลดปริมาณแอมโมเนียลงไปได้เยอะ ซึ่งในอนาคต เขาก็อยากจะฝึกให้วัวอุจจาระในห้องน้ำด้วย และหวังว่าภายในเวลาไม่กี่ปี วัวทุกตัวจะหันมาใช้ห้องน้ำกันหมด
    .
    ที่มา
    https://www.theguardian.com/environ...experiment-to-reduce-greenhouse-gas-emissions

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รายงานของสหประชาชาติพบว่า เงินช่วยเหลือเกษตรกรทั่วโลกในแต่ละปีเกือบ 90% หรือจำนวน 540,000 ล้านดอลลาร์นั้น “เป็นอันตราย” นั่นก็คือมันเป็นตัวการสร้างผลกระทบต่อสุขภาพของประชากร
    .
    ความเสียหายที่ว่า มาจากการใช้เชื้อเพลิงซึ่งก่อวิกฤตต่อสภาพภูมิอากาศ ทำลายธรรมชาติ และยังสร้างความไม่เท่าเทียมเกิดขึ้นต่อเกษตรกรรายย่อย
    .
    รายงานระบุว่า แหล่งที่มาของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุด เช่น เนื้อวัวและนม ได้รับเงินอุดหนุนมากที่สุด และมักผลิตโดยกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สามารถเข้าถึงเงินอุดหนุนได้ดีอยู่แล้ว
    .
    หากไม่มีการปฏิรูประดับเงินอุดหนุนจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.8 ล้านดอลลาร์ต่อปีภายในปี 2573 จะส่งผลเสียต่อสวัสดิภาพของมนุษย์ และทำให้เกิดวิกฤตการณ์ต่อโลกเลวร้ายลง รายงานยูเอ็น ระบุ
    .
    การวิเคราะห์ชิ้นนี้กล่าวว่า การสนับสนุนอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นม "เกินขนาด" ในประเทศร่ำรวยจะต้องลดลง ในขณะเดียวกันจำเป็นจะต้องลดเงินอุดหนุนสำหรับปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงที่ก่อมลพิษในประเทศที่มีรายได้ต่ำด้วย
    .
    รายงานที่ตีพิมพ์ก่อนการประชุมสุดยอดระบบอาหารของสหประชาชาติที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 กันยายน ระบุอีกว่า การนำเงินอุดหนุนไปใช้ในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์อาจ “เป็นตัวเปลี่ยนเกม” และช่วยยุติความยากจน ขจัดความหิวโหย ปรับปรุงโภชนาการ ลดภาวะโลกร้อน ช่วยฟื้นฟูธรรมชาติ โดยเน้นไปสนับสนุนอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น ผักและผลไม้ การปรับปรุงสิ่งแวดล้อม และการสนับสนุนเกษตรกรรายย่อย
    .
    การวิเคราะห์จำนวนมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้ข้อสรุปว่า ระบบอาหารทั่วโลกพังทลาย โดยในปี 2563 ผู้คนมากกว่า 800 ล้านคนประสบปัญหาความหิวโหยเรื้อรังและ 3,000 ล้านคนไม่สามารถซื้ออาหารเพื่อสุขภาพได้ ในขณะที่อีก 2,000 ล้านคน เป็นโรคอ้วนหรือมีน้ำหนักเกิน ซึ่งอาหารหนึ่งในสามได้สร้างความเสียหายประมาณ 12 ล้านดอลลาร์ต่อปีซึ่งมากกว่ามูลค่าของอาหารที่ผลิตได้
    .
    Achim Steiner หัวหน้า UNDP กล่าวว่า การเปลี่ยนรูปแบบและวิธีการเงินอุดหนุนจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรรายย่อย 500 ล้านคนทั่วโลก
    .
    ในขณะที่ Joy Kim จาก UNEP กล่าวว่า การเกษตรมีส่วนทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหนึ่งในสี่ และสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ 70% และการตัดไม้ทำลายป่า 80%
    .
    นั่นจึงเป็นที่มาของรายงานที่พบว่าระหว่างปี 2556 ถึง 2561 การสนับสนุนเกษตรกรมูลค่ารวม 540,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี จึงเป็นอันตราย เพราะมันคือเงินอุดหนุนสำหรับปุ๋ยและยาฆ่าแมลง ฉะนั้นหากไม่มีการปฏิรูปเงินอุดหนุนฟาร์มจะยิ่งทำให้พื้นที่อุดมสมบูรณ์ไม่ก่อประโยชน์อีกด้วย ซึ่งย้อนแย้งต่อจำนวนประชากรโลกที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านคนภายในปี 2593
    .
    Guido Broekhoven หัวหน้าฝ่ายนโยบาย การวิจัยและพัฒนาของ WWF กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงรูปแบบเงินอุดหนุนภาคเกษตรจะช่วยลดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและยังสามารถสร้างโอกาสในการฟื้นฟูธรรมชาติ รวมถึงผู้คนและระบบเศรษฐกิจด้วย” เขากล่าวกับ Reuters
    .
    และว่าการอนุรักษ์และการจัดการพื้นที่ธรรมชาติที่ดีขึ้น เช่น อุทยาน มหาสมุทร ป่าไม้ และถิ่นทุรกันดาร จะมีความสำคัญต่อการปกป้องระบบธรรมชาติที่มนุษย์ต้องพึ่งพาและเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยภาวะโลกร้อน

    อ้างอิง:
    (Sep 14,2021) "90% of global farm subsidies damage people and planet, says UN" . The Guardian
    (Aug19, 2021) "Ending subsidies that harm nature could create millions of green jobs, WWF says" . Reuters

     

แชร์หน้านี้

Loading...