ติดตามสถานะการณ์

Aug 5, 2022 ติดต่อง่าย! หมออนันต์ชี้ 40% คนป่วยในยุโรปไม่รู้ตัวว่าติดโรคฝีดาษลิง แสดงอาการช้า
.
ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงเกือบครึ่งไม่รู้ว่าติดเชื้อ มีดังนี้
.
ข้อมูลล่าสุดจากผู้ป่วยฝีดาษลิงในยุโรปที่รายงานไปที่ ECDC-WHO Regional Office ระบุว่า ในจำนวผู้ป่วยฝีดาษลิงทั้งสิ้น 9626 คน สามารถแบ่งตามกลุ่มอาการ แบบมีอาการนำ กับ อาการตุ่มบนผิวหนังได้ ดังนี้
.
1. 110 คน หรือ 1.1% เป็นกลุ่มที่ไม่มีอาการอะไรเลย ทั้งอาการนำ และ อาการทางผิวหนัง แต่สามารถตรวจพบไวรัสได้ในตัวอย่างที่เก็บจากผู้ป่วย เรียกว่า Asymptomatic case ซึ่งจะแตกต่างจากกลุ่มที่อยู่ในระยะฟักตัว ซึ่งไม่มีอาการและยังตรวจไวรัสไม่พบ ซึ่งถ้าระยะฟักตัวเกิน 21 วัน ไม่แสดงอาการใดๆ แต่ตรวจผลออกมาเป็นบวก กลุ่มนี้ถึงจะจัดเป็น asymptomatic
.
2. 390 คน หรือ 4.1% เป็นกลุ่มที่มีอาการนำ เช่น ไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย หนาวสั่น แต่ไม่มีอาการตุ่มขึ้นตามผิวหนัง หรือ ขึ้นน้อยมาก กลุ่มนี้จะสามารถแพร่เชื้อได้ผ่านช่องทางละอองฝอย หรือ น้ำลายได้มากกว่าการสัมผัส ยังไม่แน่ชัดว่า กลุ่มนี้จะมีไวรัสในร่างกายนานเท่าไหร่ จะหายไปพร้อมกับอาการหรือไม่
.
3. 3216 คน หรือ 33.4% เป็นกลุ่มที่มีผื่นและตุ่มหนองขึ้นแบบที่ไม่มีอาการนำที่ชัดเจน ผู้ป่วยจะไม่รู้ตัวมาก่อนว่าตัวเองเป็นฝีดาษลิงแล้วจนกว่าตุ่มหนองจะปรากฏชัด และ เนื่องจากอาการนำมีน้อย โอกาสที่กลุ่มผู้ป่วยเหล่านี้จะมีกิจกรรมต่างๆที่เสี่ยงต่อการสัมผัสตุ่มแผล หรือการแพร่กระจายจะมีสูง
.
4. 6910 คน หรือ 61.4% เป็นผู้ป่วยที่มีอาการตามตำรา คือ มีอาการนำมาก่อน และ ตามด้วยอาการทางผิวหนัง ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ป่วยส่วนใหญ่ แต่ก็ถือว่าค่อนข้างน้อย เมื่อมองว่าเกือบ 40% เป็นกลุ่มที่ไม่มีอาการตามที่เคยทราบกันมา
.
ข้อมูลนี้ทำให้พอเห็นภาพว่า ผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงหลายคนอาจจะไม่รู้ความเสี่ยงของตัวเองที่จะแพร่เชื้อให้คนรอบข้างได้ เนื่องจากร่างกายไม่ได้เตือนอะไรให้ทราบล่วงหน้าก่อน การเข้าใจกลไกการเกิดโรคในบริบทปัจจุบันจะสำคัญมาก เพราะถ้าอิงตามตำราที่ไม่ update เราอาจตามการเปลี่ยนแปลงของโรคนี้ไม่ทัน
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3BZHBNF
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#ฝีดาษลิง #Monkeypox #เชื้อไวรัส #โรคติดต่อ #โรคฝีดาษวานร #BTimes

 

Aug 5, 2022 ด่วน! รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ประกาศคว่ำบาตรประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐ
.
รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ โดยกระทรวงการต่างประเทศ แถลงประกาศมาตรการคว่ำบาตรนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏร สหรัฐอเมริกา รวมถึงสมาชิกญาติสายตรงของนางแนนซี เพโลซี ด้วยเหตุผลการเดินทางของประธานสภาผู้แทนราษฏร สหรัฐอเมริกา เยือนไต้หวันเป็นการละเมิดอย่างรุนแรงต่อหลักการอธิปไตย และหลักการจีนหนึ่งเดียว
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3d41Oau
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#จีน #คว่ำบาตร #สหรัฐอเมริกา #แนนซีเปโลซี #BTimes

 

Aug 5, 2022 ไม่รอดอีกชาติ! บังกลาเทศอ่วมทุนสำรองดิ่งต่ำขั้นอันตราย ขอกู้เงินแก้วิกฤตเศรษฐกิจกว่า 70,000 ล้านบาท
.
รัฐบาลประเทศบังกลาเทศ เปิดเผยว่า ได้ตัดส่งจดหมายขอกู้เงินจากธนาคารโลก และธนาคารการพัฒนาแห่งเอเชีย หรือ ADB เป็นวงเงินรวม 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 72,000 ล้านบาท โดยยื่นขอเงินกู้แบ่งเป็นแห่งละ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 36,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินกู้จำนวนดังกล่าวมาแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศ ที่เกิดจากปัญหาภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูง จากการนำเข้าน้ำมันดิบที่มีราคาแพงมาตลอดเวลา รวมถึงรายได้เข้าประเทศจากแรงงานชาวบังคลาเทศที่ไปทำงานในต่างประเทศมีปริมาณส่งกลับเข้าประเทศก็ลดลงต่อเนื่อง
.
สถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจบังกลาเทศส่งผลให้ค่าเงินตากาบังกลาเทศเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่าลงอย่างมากและต่อเนื่อง ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมานั้น ค่าเงินดังกล่าวดำดิ่งอ่อนค่ามากถึง 20%
.
รัฐบาลบังกลาเทศประกาศมาตรการสำคัญหลายอย่าง ได้แก่ การตัดสินใจชะลอแผนการลงทุนในประเทศออกไปอย่างไม่มีกำหนด มาตรการประหยัดการใช้ไฟฟ้าของภาคประชาชน เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านพลังงานสูงขึ้น
.
รัฐบาลยังเปิดเผยว่า ข้อมูลเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของบังกลาเทศเหลืออยู่เพียง 39,670 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.43 ล้านล้านบาท จากเดิมที่เคยมีสูงถึง 45,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.64 ล้านล้านบาทเมื่อปี 2021 โดยถูกใช้ไปกับการแทรกแซงค่าเงินตากาบังกลาเทศที่ร่วงอ่อนค่าต่อเนื่อง
.
ทั้งนี้ รัฐบาลบังกลาเทศได้ส่งจดหมายไปยังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ เพื่อขอกู้เงินช่วยเหลือแก้วิกฤตเศรษฐกิจถึง 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 162,000 ล้านบาท ส่งผลให้ประเทศบังกลาเทศเป็นประเทศแห่งที่ 3 ในเอเชียใต้ต่อจากศรีลังกาและปากีสถาน ที่ต้องขอกู้เงินจากสถาบันการเงินอิสระระหว่างประเทศ เพื่อแก้วิกฤตเศรษฐกิจในประเทศที่เลวร้าย
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3Q699VM
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#บังคลาเทศ #บังกลาเทศ #วิกฤตเศรษฐกิจ #ทุนสำรอง #กู้เงิน #การเงิน #เศรษฐกิจ #BTimes

 

Aug 5, 2022 ทั้งประเทศ! สหรัฐประกาศโรคฝีดาษลิงเข้าภาวะสาธารณสุขฉุกเฉิน ยอดผู้ป่วยพุ่งถึงกว่า 7,100 คน มากที่สุดในโลก
.
นายเซเวียร์ เบเซอร์รา รัฐมนตรีกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์ของสหรัฐ ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น โดยระบุว่าประกาศดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลกลางสามารถช่วยเหลือด้านเงินทุนและเครื่องมือทางการแพทย์ไปยังทั่วประเทศได้เพิ่มขึ้น และพร้อมก้าวสู่ขั้นต่อไปในการรับมือกับการระบาดของโรคฝีดาษลิง พร้อมทั้งย้ำเตือนให้ชาวอเมริกันทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้ด้วย
.
นางโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี กล่าวในงานแถลงข่าวร่วมกับนายเบเซอร์ราว่า การประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขจะช่วยปรับปรุงความพร้อมของข้อมูลผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงที่จำเป็นต้องใช้ในการรับมือกับโรค ทั้งยังระบุว่า สหรัฐตั้งเป้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิงให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูงให้ได้กว่า 1.6 ล้านคน
.
รัฐบาลสหรัฐกำลังเผชิญกับกระแสกดดันอย่างหนักในการรับมือกับโรคฝีดาษลิง ซึ่งเริ่มแพร่กระจายในยุโรปก่อนระบาดมายังสหรัฐ จนทำให้สหรัฐมียอดผู้ป่วยฝีดาษลิงมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ สหรัฐยังประสบปัญหาเรื่องการรักษาและวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิงมีไม่เพียงพอจนทำให้ผู้ป่วยโรคนี้มักกระจุกตัวอยู่ที่คลินิกสุขภาพทางเพศ ซึ่งมักไม่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเพียงพอ
.
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ข้อมูลถึงวันนี้ 4 สิงหาคม 2565 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบผู้ป่วยติดโรคฝีดาษลิงสะสมจำนวน 26,864 ราย กระจายใน 88 ประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย จำนวนผู้ติดเชื้อ 26,864 ราย พบว่า 26,519 ราย หรือ 98.7% เป็นผู้ป่วยในประเทศที่ไม่เคยเกิดโรคติดต่อฝีดาษลิงมาก่อน ในเวลาเดียวกัน จำนวน 88 ประเทศที่พบโรคดังกล่าว พบว่ามี 81 ประเทศ หรือ 92% เป็นประเทศไม่เคยพบโรคติดต่อฝีดาษลิงมาก่อน
.
นอกจากนี้ ข้อมูลถึงเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2565 ประเทศแรกที่มีจำนวนผู้ติดโรคฝีดาษลิงสะสมมากที่สุดในโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 7,101 ราย สเปน 4,577 ราย เยอรมนี 2,839 ราย สหราชอาณาจักร 2,759 ราย ฝรั่งเศส 2,239 ราย บราซิล 1,474 ราย เนเธอแลนด์ 957 ราย แคนาดา 890 ราย โปรตุเกส 633 ราย และอิตาลี 505 ราย
.
ทั้งนี้ การระบาดของโรคฝีดาษลิงนอกทวีปแอฟริกาในปีนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม โดยพบผู้ติดเชื้อเดินทางกลับจากประเทศไนจีเรียมายังกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร หลังจากนั้นเป็นต้นมา พบการติดต่อของโรคฝีดาษลิงกระจายในยุโรป อเมริกาเหนือ เอเชีย อาเซียน ตะวันออกกลาง และละตินอเมริกา
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3pfkLdj
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#สหรัฐอเมริกา #สาธารณสุขฉุกเฉิน #ฝีดาษลิง #Monkeypox #โรคติดต่อ #ผู้ติดเชื้อ #เชื้อไวรัส #BTimes

 

Aug 5, 2022 หญิงไทยติด! ไทยพบหญิงชอบเที่ยวติดฝีดาษลิงคนแรกของประเทศ ติดสะสมรวม 4 รายในไทย
.
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่ากรมควบคุมโรคได้รับรายงานพบผู้ป่วยยืนยันโรคฝีดาษวานร รายที่ 4 ของประเทศไทย เป็นหญิงไทยอายุ 22 ปี มีประวัติเสี่ยงไปเที่ยวสถานบันเทิงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ย่านที่ชาวต่างชาตินิยมมาเที่ยวเป็นประจำประมาณสัปดาห์ละครั้ง และมีการสัมผัสใกล้ชิดกับชายชาวต่างชาติ
.
ผู้ป่วยหญิงคนนี้เริ่มมีไข้ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2565 แต่ยังไปเที่ยวสถานบันเทิงพร้อมเพื่อนชาวไทยและชาวต่างชาติ วันที่ 30 กรกฎาคม 2565 เริ่มมีตุ่มขึ้นที่แขนขา แล้วลามไปทั่วร่างกาย ร่วมถึงอวัยะเพศ วันที่ 3 สิงหาคม 2565 จึงเดินทางเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และห้องปฏิบัติการที่คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยืนยันพบเชื้อฝืดาษวานร (Monkeypox virus) วันที่ 4 สิงหาคม 2565 ก่อนส่งตัวผู้ป้วยมารับการดูแลรักษาต่อที่สถาบันบำราศนราดูร
.
นพ.โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้กำชับให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี ประสานสำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง และสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร เร่งติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 2 คน เป็นเพื่อนร่วมห้องของผู้ป่วยและชายชาวต่างชาติแล้ว และเน้นย้ำว่า โรคฝีดาษวานรไม่ได้ติดต่อกันได้ง่าย ๆ ซึ่งจะติดต่อได้จากการสัมผัสใกล้ชิดมากๆ จึงขอให้กลุ่มเสี่ยงเพิ่มความระมัดระวังและงดการสัมผัสใกล้ชิดกับคนแปลกหน้าเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อฝีดาษวานร
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3zZNB7C
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#ฝีดาษลิง #ไทย #Monkeypox #เชื้อไวรัส #โรคติดต่อ #โรคฝีดาษวานร #BTimes

 

Aug 5, 2022 ฟังแล้วเจ็บ! รัฐบาลไต้หวันประณามจีนแรง ชี้เป็น “เพื่อนบ้านชั่วร้าย” ซ้อมรบกระสุนจริงครั้งใหญ่ประวัติศาสตร์
.
นายกรัฐมนตรีซู เจินชางของไต้หวันแถลงในวันนี้ว่า จีนกำลังทำลายเส้นทางทางน้ำที่มีการใช้งานมากที่สุดในโลกตามอำเภอใจด้วยการซ้อมรบ และกล่าวถึงจีนที่ยิงขีปนาวุธว่า เป็นเพื่อนบ้านชั่วร้าย ประเทศเพื่อนบ้านและประชาคมโลกกำลังประณามการกระทำของจีน ด้านกระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงว่า ขีปนาวุธของจีนร่อนอยู่ในชั้นบรรยากาศระดับสูง และไม่เป็นภัยต่อไต้หวัน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเรื่องเส้นทางการยิงโดยอ้างเรื่องความกังวลด้านข่าวกรอง
.
นางบอนนี แกลเซอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงเอเชียที่อยู่ในสหรัฐกล่าวถึงเรื่องจีนยิงขีปนาวุธ 4 ลูกข้ามเกาะไต้หวันว่า เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และมองว่าภัยที่ใหญ่หลวงกว่านั้นคือ จีนกำลังซ้อมการปิดล้อมไต้หวัน ด้วยการแสดงให้เห็นว่าสามารถปิดท่าเรือ ท่าอากาศยาน และสกัดการเดินเรือของไต้หวันได้
.
ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นแจ้งเป็นแห่งแรกว่า ขีปนาวุธจีนมากถึง 4 ลูกยิงข้ามกรุงไทเปของไต้หวัน และมีขีปนาวุธ 9 ลูกยิงมายังดินแดนญี่ปุ่น ในจำนวนนี้ 5 ลูกตกในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น ทำให้ญี่ปุ่นต้องยื่นประท้วงทางการทูต
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3P3g0O6
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#ไต้หวัน #จีน #ประณาม #ซ้อมรบ #กระสุนจริง #ขีปนาวุธ #BTimes

 

Aug 5, 2022 ลดนิดหน่อย! เงินเฟ้อไทยกรกฎาคมยังแตะกว่า 7.6% สูงในรอบ 13 ปี ดันเป้าเงินเฟ้อทั้งปีสูงขึ้นกว่า 6%
.
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนกรกฎาคม 2565 หรือเงินเฟ้อเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมาลดลงครั้งแรกในรอบปี และเงินเฟ้อในเดือนนี้น้อยกว่าเดือนที่ผ่านมา โดยเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมาลดลงร้อยละ 0.16 เป็นการลดลงจากเดือนก่อนหน้าครั้งแรกในรอบปี 2565 และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปน้อยกว่าเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ร้อยละ 7.61 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน สำหรับเงินเฟ้อพื้นฐาน เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออกในเดือนนี้อยู่ที่ร้อยละ 2.99
.
สินค้ากลุ่มพลังงานยังเป็นสาเหตุหลักต่ออัตราเงินเฟ้อเดือนกรกฎาคม 2565 ซึ่งเป็นต้นทุนในทุกขั้นตอนการผลิตและโลจิสติกส์ของสินค้าและบริการ ประกอบกับอุปสงค์ในประเทศปรับตัวดีขึ้นจากการท่องเที่ยว การส่งออกและราคาสินค้าเกษตรสำคัญสูงขึ้น ทำให้อัตราเงินเฟ้อในเดือนนี้เป็นผลของการคำนวณจากฐานดัชนีราคาผู้บริโภคของเดือนกรกฎาคม 2564 ที่ค่อนข้างต่ำ จึงทำให้เงินเฟ้อขยายตัว ขณะเดียวกันทำให้อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 7 เดือนตั้งแต่มกราคม-กรกฎาคม 65 อยู่ที่ร้อยละ 5.89
.
อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ สนค. ประเมินอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 2565 ใหม่จากเดิมคาดการณ์เงินเฟ้อจะอยู่ที่ร้อยละ 4-5 โดยคาดการณ์เงินเฟ้อใหม่จะอย่ที่ร้อยละ 5.5-6.5 ซึ่งเป็นตัวเลขเงินเฟ้อสอดคล้องกับหลายสำนักคาดการณ์ไว้ และสิ่งที่จะต้องติดตามอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในช่วง 6 เดือนหลังของปี 65 ยังจะต้องจับตาสถานการณ์ความตึงเครียดสงครามรัสเซียและยูเครนว่าจะจบอย่างไร และขณะนี้ยังจะต้องดูว่าความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนรวมทั้งไต้หวันจะออกมาอย่างไร ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อของทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย
.
นอกจากนี้ จากเหตุผลแม้อัตราเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคม 2565จะอยู่ทีร้อยละ 7.61 เป็นอัตราสูงสุดในรอบ 13 ปี แม้จะมีปัจจัยกระทบด้านพลังงาน ไฟฟ้า ก๊าสหุงต้มและกลุ่มอาหารสดที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่จากมาตรการภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือตรึงราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ 18 หมวดสินค้าไว้ให้ได้นานที่สุดทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงและลดลงเมื่อเที่ยบกับเดือนมิถุนายนที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 7.66
.
ดังนั้น อัตราเงินเฟ้อในเดือนต่อๆ ไปหลังจากนี้ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ก็ต้องติดตามสถานการณ์ภายในหากไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้นอัตราเงินเฟ้อจะขยับลดลงได้มาได้ แต่หากปัจจัยความตึงเครียดร้อนแรงขึ้นอัตราเงินเฟ้อก็จะขยับเพิ่มขึ้นตามได้เช่นกัน
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3vE8pis
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#เงินเฟ้อ #เศรษฐกิจไทย #ค่าครองชีพ #ต้นทุน #ก๊าซหุงต้ม #สนค #BTimes

 

Aug 5, 2022 ยิงไล่หลัง! ญี่ปุ่นโวยจีนแผ่นดินใหญ่ซ้อมรบ ยิงจรวด 5 ลูกตกในเขตเศรษฐกิจเฉพาะของญี่ปุ่น
.
นายโนบุโอ คิชิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ในการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงครั้งใหญ่ของจีนแผ่นดินใหญ่นั้น พบว่าขีปนาวุธ 5 ใน 9 ลูกของจีนแผ่นดินใหญ่ถูกยิงมาตกลงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น (EEZ) ในระหว่างที่จีนประกาศว่าจัดซ้อมรบครั้งใหญ่ในพื้นที่ 6 จุดที่ปิดล้อมเกาะไต้หวัน เหตุการณ์ดังกล่าว รัฐบาลญี่ปุ่นจึงแสดงการประท้วงการกระทำของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ นอกจากนี้ ยังได้เรียกประเด็นรุนแรงดังกล่าวว่าเป็นปัญหาร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนชาวญี่ปุ่น
.
ทั้งนี้ เครื่องบินแอร์ฟอร์สของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏร สหรัฐอเมริกา ได้ลงจอดที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ซึ่งประเทศญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายของการเดินทางเยือนเอเชีย และอาเซียน ก่อนหน้านี้ ประธานสภาผู้แทนราษฏร สหรัฐอเมริกา เดินทางเยือนสิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน เกาหลีใต้ และสุดท้ายที่ญี่ปุ่น
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3vG8l1z
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#ญี่ปุ่น #จีน #เขตเศรษฐกิจ #จรวด #ซ้อมรบ #ความปลอดภัย #BTimes

 

America-Russia: รัสเซียพร้อมเจรจาแลกตัวนักโทษกับสหรัฐฯ ผ่านช่องทางการทูตที่มีอยู่ หลังตัดสินจำคุกนักบาสเกตบอลหญิงชื่อดัง เป็นเวลา 9 ปี

เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย เผยวันนี้ (5 สิงหาคม) ว่า รัฐบาลรัสเซียพร้อมเจรจาเรื่องแลกเปลี่ยนนักโทษกับสหรัฐฯ ผ่านช่องทางทางการทูตที่มีอยู่ หรือ ภายในกรอบของช่องทางที่เห็นชอบร่วมกัน โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย

ท่าทีตอบรับของรัสเซีย มีขึ้นหลังศาลรัสเซียตัดสินจำคุก บริตต์นีย์ ไกรเนอร์ นักบาสเกตบอลหญิงชาวสหรัฐฯ วัย 31 ปี เป็นเวลา 9 ปีในข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด การถูกตัดสินโทษจะปูทางไปสู่การแลกเปลี่ยนตัวนักโทษ ที่จะรวมทั้งไกรเนอร์ กับ วิคเตอร์ บูต นักธุรกิจชาวรัสเซีย ฉายาพ่อค้าความตาย ที่ถูกจำคุก ข้อหาค้าอาวุธสงครามในสหรัฐฯ 25 ปี
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #สหรัฐฯ #รัสเซีย #แลกตัวนักโทษ
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

America-China: แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ย้ำการเยือนเอเชียรวมทั้งแวะเยือนไต้หวันไม่ได้ทำให้สภาพการณ์ปัจจุบันในไต้หวันเปลี่ยนแปลง

ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อยู่ระหว่างการเยือนญี่ปุ่น เป็นประเทศสุดท้ายในภารกิจเยือนภูมิภาคเอเชีย ซึ่งรวมทั้งการแวะเยือนไต้หวัน แม้ทางการจีนถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่ง ที่รอวันผนวกรวมเข้ากับจีนแผ่นดินใหญ่ ออกมาแสดงท่าทีคัดค้านหลายรอบ การแวะเยือนไต้หวันโดยไม่แจ้งกำหนดการณ์ทำให้จีนไม่พอใจอย่างหนัก ทำให้เกิดการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงในน่านน้ำรอบไต้หวัน และมีขีปนาวุธ 5 ลูกของจีนยิงไปตกในเขตเศรษฐกิจพิเศษของญี่ปุ่นด้วย

เพโลซี ได้แถลงข่าวหลังการหารือกับนายกรัฐมนตรีฟูมิโอ คิชิดะของญี่ปุ่น ว่า พวกเราได้บอกตั้งแต่ต้นแล้วว่า การเดินทางไปเยือน ไม่ได้มีผลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพการณ์ปัจจุบันในไต้หวัน หรือ ในภูมิภาคแต่อย่างใด

พร้อมกันนี้ เพโลซีซึ่งกลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของสหรัฐฯ ในรอบ 25 ปี ที่ได้เดินทางไปเยือนไต้หวัน ยังได้กล่าวชื่นชมการพัฒนาประชาธิปไตย ความสำเร็จด้านเศรษฐกิจ และการเปิดกว้างสนับสนุนสิทธิของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ LGBTQ+ ของไต้หวันด้วย
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #สหรัฐฯ #จีน #ไต้หวัน #Taiwan #เพโลซี
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

North Korea: รายงานลับฉบับหนึ่งของสหประชาชาติเผย เกาหลีเหนือเตรียมการเพื่อทดลองอาวุธนิวเคลียร์

เกาหลีเหนือเตรียมการเพื่อทดลองนิวเคลียร์ ในระหว่าง 6 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งสำนักข่าว Reuters ได้เห็น และนำรายงานลับของสหประชาชาติ หรือ UN ที่ตัดบางช่วงบางตอนออกเผยแพร่

รายงานลับของ UN ระบุว่า การทำงานที่สถานที่ทดลองนิวเคลียร์ ‘ปุงเก-รี’ เพื่อปูทางไปสู่การทดลองนิวเคลียร์อีกครั้งสำหรับการพัฒนานิวเคลียร์ ซึ่งทางหน่วยงานติดตามการคว่ำบาตรอิสระ ได้ทำรายงานถึงคณะกรรมการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC

หน่วยงานติดตามการคว่ำบาตรอิสระ ระบุด้วยว่า เกาหลีเหนือพัฒนาศักยภาพในการผลิตวัสดุฟิชไซล์ ซึ่งคือวัสดุที่สามารถทำให้เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ต่อเนื่องได้ที่ปุงเก-รี

ขณะที่ เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นต่อรายงานลับของ UN แต่สหรัฐฯ เคยเตือนมานานแล้วว่า เกาหลีเหนือพร้อมทดลองอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 7 และสหรัฐฯ จะผลักดันให้สหประชาชาติลงโทษเกาหลีเหนือเพิ่มอีก หากเกาหลีเหนือทดลองนิวเคลียร์อีก

ทั้งนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีมติห้ามเกาหลีเหนือทดลองอาวุธนิวเคลียร์ และขีปนาวุธวิถีโค้ง อันเป็นส่วนหนึ่งของการคว่ำบาตรเกาหลีเหนืออย่างเข้มข้น เพื่อพยายามหาทางตัดเงินทุนโครงการดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือได้เตรียมการทดลองนิวเคลียร์ที่ปุงเก-รี แม้ยังไม่มีการทดลองนิวเคลียร์ก็ตาม
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #เกาหลีเหนือ #สหประชาชาติ #อาวุธนิวเคลียร์
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

China-Taiwan: แม้แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จะเดินทางออกจากไต้หวันไปแล้ว แต่ความตึงเครียดและควันหลงยังไม่จางหาย ลองไปฟังความเห็นของชาวจีนและไต้หวันถึงการเยือนครั้งนี้

จากการสอบถามชาวจีนในกรุงปักกิ่ง ส่วนใหญ่เข้าใจรัฐบาลจีนที่ต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก เรื่องการใช้กำลัง หรือ จะอดทนอดกลั้นเพื่อเห็นแก่ชีวิตประชาชน อย่างไรก็ดี พวกเขาไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งถึงขั้นต้องสู้รบกัน โดยต่างเชื่อว่า ทั้งจีนและสหรัฐฯ ไม่ต้องการทำสงครามกัน ต่างฝ่ายต่างจำเป็นต้องพึ่งพาติดต่อค้าขายกัน จึงมองว่า เพียงแค่ใช้วิธีอื่น ๆ กดดันก็เพียงพอ

ส่วนประเด็นกับไต้หวัน ชาวจีนส่วนใหญ่มองว่าผู้คนทั้งสองฝ่ายไม่ได้ขัดแย้งกัน และหวังร่วมมือกันค้าขายติดต่อกันต่อไป เพื่อวันหนี่งจะได้กลับมารวมประเทศกัน แต่ชาวจีนอีกส่วนหนึ่งยอมรับว่า ไม่เห็นด้วยกับการเยือนไต้หวันของเพโลซี และกล่าวว่า เป็นเรื่องดีเพราะจะได้เป็นเหตุผลให้จีนยกทัพบุกยึดไต้หวันเร็วขี้น

ส่วนผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในจีนพากันแสดงความรักชาติ และเรียกร้องให้รัฐบาลตอบโต้อย่างแข็งกร้าวมากยิ่งขึ้น ขณะที่ ผู้ใช้งานสื่ออนไลน์บางรายตั้งข้อสังเกตว่า กระแสรักชาติในสื่อสังคมออนไลน์ขณะนี้ ทำให้บรรยากาศในจีนตึงเครียดเหมือนกลับไปสู่ยุคที่เด็กถูกสอนให้ต้อง 'ปลดแอกไต้หวัน'

ส่วนสถานการณ์ในไต้หวัน บรรยากาศทั่วไปปกติดี แต่ก็แฝงไปด้วยความกังวลใจในหมู่ประชาชนอยู่บ้าง เนื่องจากการซ้อมรบครั้งใหญ่ของกองทัพจีนและการโจมตีไซเบอร์

อย่างไรก็ตาม ชาวไต้หวันส่วนใหญ่ไม่รู้สึกตื่นกลัวใด ๆ เพราะรู้สึกคุ้นชินกับการซ้อมรบอยู่แล้ว และที่ผ่านมาก็มีการข่มขู่จากจีนแผ่นดินใหญ่ต่อเนื่อง พวกเขามองกันว่าเป็นเพียงเพื่อข่มขวัญชาวไต้หวัน และว่าในความเป็นจริง หากจีนยกกำลังบุกไต้หวันก็จะเป็นผลร้ายกับจีนเอง รวมถึงในขณะนี้ ผู้คนส่วนใหญ่สนใจเรื่องปากท้องมากกว่า โดยเฉพาะผลกระทบจากโควิด-19 จนส่งผลให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ สินค้าราคาแพงและขาดแคลน
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #จีน #ไต้หวัน #Taiwan #เพโลซี
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

North Korea: สำนักงานใหญ่ป้องกันโรคระบาดฉุกเฉินแห่งชาติของเกาหลีเหนือ ประกาศวันนี้ (5 สิงหาคม) ว่า เกาหลีเหนือไม่พบผู้ป่วยเป็นไข้ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 3 สิงหาคม จนถึง 18.00 น. ของวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา และไม่พบผู้ป่วยเป็นไข้แม้แต่รายเดียวมาตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา และตลอดทั้งสัปดาห์นี้

เท่ากับเป็นการประกาศสิ้นสุดการระบาดของโควิด-19 ที่เกาหลีเหนืออ้างว่า เป็นการระบาดครั้งแรกของประเทศ

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า แทนที่เกาหลีเหนือจะประกาศชัยชนะต่อโควิด-19 แต่สื่อรัฐบาลเกาหลีเหนือกลับ รายงานว่า สถานการณ์ต่อต้านโรคระบาดได้เข้าสู่ขั้นของการรักษาเสถียรภาพของสถานการณ์ และประเทศจะเพิ่มความพยายามเป็น 2 เท่า ในการรักษาสภาพอันสมบูรณ์แบบนี้ไว้ต่อไป ด้วยการปฏิบัติตามนโยบายต่อต้านโรคระบาดของประเทศต่อไป

ทั้งนี้ เกาหลีเหนือ ยอมรับว่า เกิดการระบาดของโควิด-19 เป็นครั้งแรกเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ไม่เคยยืนยันจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สาเหตุหนึ่งเนื่องจากเกาหลีเหนือขาดแคลนชุดตรวจเชื้อโควิด ทำให้ไม่สามารถยืนยันผู้ติดเชื้อได้ และใช้คำว่า "ผู้ป่วยเป็นไข้" ในการรายงานสถานการณ์โควิด-19

เกาหลีเหนือได้ยืนยันยอดรวมสะสมของผู้ป่วยเป็นไข้อยู่ที่ 4.77 ล้านคน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 74 คน

อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณที่บ่งบอกว่า สถานการณ์โควิดในเกาหลีเหนือเริ่มคลี่คลายจริง คือการจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 69 ปียุติสงครามเกาหลีในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ประชาชนเริ่มไม่ใส่หน้ากากอนามัยในการเข้าร่วมงานฉลองดังกล่าว

ส่วนล่าสุดในสัปดาห์นี้ ฟุตบอลลีกระดับชาติของเกาหลีเหนือ เริ่มกลับมาแข่งขันเป็นครั้งแรก หลังจากต้องหยุดไปนาน 3 ปี รวมไปถึงการแข่งขันกีฬาอื่น ๆ ทั้งว่ายน้ำ เรือยอชต์และโบวลิ่งด้วย
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #เกาหลีเหนือ #โควิด19
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

Ukraine: ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวเมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) ว่า ไม่สามารถอดทนได้ต่อรายงานขององค์การนิรโทษกรรมสากล ที่ระบุว่า ยูเครนทำให้พลเรือนตกอยู่ในอันตราย

กลุ่มสิทธิมนุษยชนองค์การนิรโทษกรรมสากล ออกรายงานกล่าวหายูเครนทำให้พลเรือนต้องตกอยู่ในอันตราย จากการที่ยูเครนส่งทหารเข้าไปตั้งฐานอยู่ในพื้นที่เขตที่อยู่อาศัยของประชาชน ในระหว่างที่รัสเซียปฏิบัติการในยูเครน

ด้านรัฐบาลยูเครนโต้ว่า รายงานขององค์การนิรโทษกรรรมสากลดังกล่าว เปรียบเหมือนกับการโฆษณาชวนเชื่อและการสร้างข้อมูลเท็จของรัสเซีย

รายงานดังกล่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ขององค์การนิรโทษกรรมสากลเห็นด้วยตาตนเองว่า ทหารยูเครนได้เข้าไปตั้งฐานที่มั่นและระบบอาวุธ อยู่ในเขตที่อยู่อาศัยที่มีประชาชนอาศัยอยู่ ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่องค์การนิรโทษกรรมฯ อยู่ในยูเครนและได้เดินทางไปในพื้นที่แนวหน้าของการสู้รบหลายแห่งในภาคตะวันออกและภาคใต้ของยูเครน ระหว่างเดือนเมษายนถึงกรกฎาคมที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ชาวยูเครนที่มีทั้งผู้หญิงและเด็ก ผู้สูงอายุที่ต้องนั่งรถเข็น ได้ขึ้นรถไฟเมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) เพื่ออพยพออกจากเมืองโพครอฟสก์ ในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน เพื่อหนีการสู้รบในดอนบาส นอกจากนี้ยังมีประชาชนอพยพออกจากเมืองลีซีชานสก์และเมืองครามาทอร์สก์ในดอนบาสด้วย

การอพยพเป็นไปตามคำสั่งของประธานาธิบดีเซเลนสกีเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ด้านเซเลนสกีกล่าวล่าสุดเมื่อวานนี้ว่า ยังมีประชาชนหลายแสนคนที่ยังตกค้างอยู่ในพื้นที่สู้รบในดอนบาส ที่รัสเซียกำลังปฏิบัติการอยู่ และพวกเขาจำเป็นต้องอพยพไปยังที่ปลอดภัย
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #ยูเครน #รัสเซีย
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

Singapore: สายการบินของสิงคโปร์หลีกเลี่ยงบินเข้าไต้หวัน โดยเฉพาะผ่านพื้นที่ที่จีนกำลังทำการซ้อมรบด้วยการยิงกระสุนจริงรอบเกาะ

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งสิงคโปร์ หรือซีเอเอเอส (CAAS) แถลงในวันที่ 4 สิงหาคม ว่า สายการบินของสิงคโปร์ต้องหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการซ้อมรบด้วยอาวุธจริงของจีนใกล้เกาะไต้หวัน โดยจีนซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดในทะเลรอบไต้หวัน หนึ่งวันหลังจากแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวัน

เพโลซีคือนักการเมืองสหรัฐฯ ระดับสูงสุดที่เยือนไต้หวันในรอบ 25 ปี และการเยือนของเธอก็สร้างความเดือดดาลให้จีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนอธิปไตยของตน

ซีเอเอเอส ตอบคำถามจากสำนักข่าวซีเอ็นเอ (CNA) ว่า จีนได้แจ้งไปยังนักบินในวันที่ 2 สิงหาคม ห้ามเครื่องบินบินผ่านเข้าไปในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากการซ้อมรบด้วยกระสุนจริง ซึ่งจะเกิดขึ้นจากวันที่ 4 ถึง 7 สิงหาคม ทางสายการบินของสิงคโปร์ ก็ได้รับแจ้งเตือนดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการปฏิบัติตามมาตรฐาน และกำลังหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว

โฆษกของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส หรือเอสไอเอ กล่าวกับซีเอ็นเอว่า ยกเว้นเที่ยวบินโดยสาร SQ878 และ SQ879 เที่ยวบินโดยสารและเที่ยวบินสินค้าที่เหลือของบริษัท ปัจจุบันนี้ ไม่ได้บินผ่านน่านฟ้าไต้หวัน โดยเที่ยวบิน SQ878 บินจากสิงคโปร์ไปยังกรุงไทเป ขณะที่ SQ879 บินจากไทเป ไปสิงคโปร์

โฆษกกล่าวเพิ่มเติมว่า เราจะยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมต่อไป
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #ไต้หวัน #จีน #สิงคโปร์
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

KEY MESSAGES: แผนซ้อมรบของจีนสะท้อนยุทธศาสตร์ปิดล้อมไต้หวัน มากกว่าเตรียมส่งกำลังบุกไต้หวัน
.
ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเตรียดบนช่องแคบไต้หวันจากการซ้อมรบใหญ่ของจีนในพื้นที่ 6 แห่งรอบไต้หวัน ทำให้เกิดความกังวลว่าสงครามใหญ่อาจปะทุขึ้น แต่เวลานี้นักวิเคราะห์ด้านการทหารหลายคนกลับมองว่า การซ้อมรบวันที่ 4-7 สิงหาคมนี้ของจีน กำลังบอกใบ้เราถึงแผนยุทธศาสตร์ในการปิดล้อมไต้หวัน มากกว่าการส่งกำลังทหารเข้ารุกรานไต้หวัน เพราะเป็นยุทธศาสตร์ที่น่าจะมีความเสี่ยงน้อยกว่าสำหรับจีน
.
การซ้อมรบของจีนบอกอะไรเรา
หนึ่งในมาตรการตอบโต้การเยือนไต้หวันของ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ คือการกำหนด ‘เขตอันตราย’ เหนือน่านฟ้าและน่านน้ำ 6 แห่งรอบเกาะไต้หวัน เพื่อการซ้อมรบใหญ่ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคมนี้ ซึ่งจีนประเดิมด้วยการส่งเครื่องบินรบอย่างน้อย 22 ลำ ล่วงล้ำเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของไต้หวัน

6 พื้นที่ที่จีนกำหนดเป็นเขตอันตรายนั้น บางแห่งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน และบางแห่งทับซ้อนกับน่านน้ำอาณาเขตของไต้หวัน หรืออยู่ห่างจากชายฝั่งไต้หวันไม่ถึง 12 ไมล์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญการทหารบางคนมองว่าเป็นการปิดล้อมชั่วคราว

การซ้อมรบในช่วงที่ผ่านมามีทั้งการยิงปืนใหญ่พิสัยไกล การส่งเครื่องบินขับไล่ เครื่องบินทิ้งระเบิด เฮลิคอปเตอร์ และเรือรบ เข้าร่วมปฏิบัติการจำนวนมาก

แต่สิ่งที่ทั่วโลกจับตาคือ การยิงขีปนาวุธ ‘ตงเฟิง’ ไปตกน่านน้ำฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวันเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ซึ่งถือเป็นการยิงขีปนาวุธข้ามเกาะไต้หวันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามกลางเมือง

นอกจากนี้ขีปนาวุธบางลูกยังไปตกในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของญี่ปุ่น ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นได้ประท้วงจีนผ่านช่องทางการทูต เพราะถือเป็นครั้งแรกที่ขีปนาวุธของจีนไปตกในทะเล EEZ ของญี่ปุ่น

ในอดีตที่ผ่านมา แม้ว่าจีนจะเคยซ้อมรบเป็นประจำรอบเกาะไต้หวัน แต่ก็ไม่เคยครอบคลุมพื้นที่ใหญ่เช่นนี้มาก่อน แม้แต่ในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์ช่องแคบไต้หวันครั้งที่ 3 ระหว่างปี 1995-1996 ก็ตาม

ในบทความที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ The Wall Street Journal ชี้ว่า ถึงแม้จีนจะเคยขู่ใช้กำลังกับไต้หวันหากจำเป็น แต่นักวิเคราะห์ด้านการทหารหลายคนเชื่อว่า จีนยังขาดศักยภาพในการเปิดหน้าบุกไต้หวันเต็มรูปแบบ เพราะปฏิบัติการดังกล่าวจะทำให้สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนและเพิ่มความเสี่ยง แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่า ในวิกฤตเช่นนี้จีนจะพยายามบีบหรือกดดันไต้หวัน มากกว่าพยายามทำให้ไต้หวันยอมจำนน

ไบรอัน คลาร์ก นักวิเคราะห์จากสถาบัน Hudson ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มองว่า จีนทำให้ดูเหมือนกำลังปิดล้อมไต้หวัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถทำได้ ซึ่งถือเป็นการซ้อมรบเพื่อส่งสัญญาณถึงไต้หวัน

ส่วนในมุมมองของจีนนั้น พล.ต. เมิ่งเซี่ยงชิง ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยการป้องกันประเทศของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ให้ความเห็นกับสถานีโทรทัศน์ทางการจีนก่อนจีนเปิดฉากซ้อมรบเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมว่า การซ้อมรบครั้งนี้จะสร้างเงื่อนไขที่ดีต่อบริบททางยุทธศาสตร์ เพื่อกรุยทางสู่การรวมชาติในอนาคต
.
ผลกระทบต่อไต้หวันหากถูกปิดล้อม
คาดการณ์กันว่า การซ้อมรบทางอากาศและทางทะเลของจีนจะเพิ่มดีกรีขึ้นหลังจากนี้ เพื่อแสดงแสนยานุภาพว่าจีนสามารถควบคุมน่านน้ำรอบๆ ไต้หวันได้ ขณะที่การซ้อมรบในช่วงที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อการเดินเรือและการบินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยมีรายงานว่า เที่ยวบินและการขนส่งสินค้าเกิดความล่าช้า ซึ่งทำให้เกิดคำถามตามมาว่า หากการปิดล้อมยังดำเนินต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อซัพพลายเชนและตลาดโลก โดยไต้หวันเป็นผู้ส่งออกเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สำคัญต่อการผลิตสินค้าเทคโนโลยี ตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ล้ำสมัย

ไต้หวันโจมตีแผนซ้อมรบของจีนโดยชี้ว่า ไม่เพียงละเมิดอธิปไตยไต้หวันและฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการปิดล้อมไต้หวันทั้งทางทะเลและทางอากาศ เพราะเขตซ้อมรบที่จีนกำหนดขึ้นนั้นขยายไปถึงหรือมีระยะใกล้น่านน้ำอาณาเขตของไต้หวันมาก

หวังกั๋วไช่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคมนาคมของไต้หวัน เผยว่า ในช่วงที่มีการซ้อมรบ เที่ยวบินขาเข้าและขาออกจากไต้หวันจะเปลี่ยนเส้นทางการบิน โดยให้อ้อมผ่านญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์แทน ขณะที่เรือต่างๆ จะเปลี่ยนเส้นทางให้อ้อมรอบพื้นที่ที่มีการซ้อมรบ

อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินที่จะประเมินผลกระทบทั้งหมดจากการไปเยือนไต้หวันของเพโลซีและการปิดล้อมของจีนครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ในขณะที่ความตึงเครียดและความเสี่ยงต่างๆ มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
.
จีนจะปิดล้อมนานแค่ไหน เรามีโอกาสเห็นสงครามรูปแบบใด
นักวิเคราะห์การทหารและผู้เชี่ยวชาญจีนหลายคนกำลังจับตาดูว่า เมื่อการซ้อมรบสิ้นสุดลงแล้วจะมีทหารจีนหลงเหลืออยู่หรือไม่ หรือจีนจะจัดการซ้อมรบใกล้เกาะไต้หวันเป็นประจำ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น การซ้อมรบอาจกลายเป็นเครื่องมือในการดิสรัปต์เศรษฐกิจไต้หวันเป็นระยะ

ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า ความพยายามปิดล้อมครั้งนี้เป็นการปิดล้อมเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น จีนไม่น่าจะปิดล้อมไต้หวันเต็มรูปแบบในเวลานี้ เพราะไม่เพียงยกระดับความขัดแย้งเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนเองด้วย

แต่สิ่งที่มองข้ามไม่ได้และสร้างความวิตกกังวลอย่างมากคือ จีนอาจจัดการซ้อมรบในลักษณะที่เข้มข้นและในสเกลนี้ต่อไป จนกลายเป็นบรรทัดฐานหรือ ‘ความปกติใหม่’ โดย คริสเทน กันเนสส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงจาก Rand ชี้ว่า มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากการที่จีนเพิ่มกิจกรรมทางทหารในการลาดตระเวนบริเวณช่องแคบไต้หวันหรือรอบๆ น่านฟ้าและน่านน้ำของไต้หวัน ซึ่งอาจเกิดการกระทบกระทั่งหรือการเผชิญหน้ากันบ่อยขึ้น

ขณะที่ แบรดลีย์ มาร์ติน อดีตเจ้าหน้าที่กองทัพเรือสหรัฐฯ ที่เกษียณแล้ว และปัจจุบันเป็นนักวิจัยที่ Rand Corp. เชื่อว่า จีนไม่ต้องการทำสงครามเพื่อบรรลุเป้าหมาย แต่มีแนวโน้มจะแสดงอำนาจภายใต้ขอบเขตที่จะไม่ทำให้เกิดการเผชิญหน้าทางทหารโดยตรง โดยผู้เชี่ยวชาญบางคนเรียกว่า ‘การสงครามในพื้นที่พร่ามัว’ ซึ่งจีนมักใช้กับไต้หวันและหลายประเทศในภูมิภาคที่มีปัญหาพิพาทเรื่องดินแดนกับจีน

มาร์ตินมองการปิดล้อมทางทะเลอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการห้ามเรือทุกลำสัญจรนั้นอาจถูกพิจารณาว่าเป็นการก่อสงคราม ซึ่งจีนอาจเลือกปิดบางพื้นที่มากกว่า โดยอาจเลือกสกัดเรือบางลำ ขณะเดียวกันก็จะปล่อยให้เรือขนส่งสินค้าอาหารแล่นผ่านไปได้

สำหรับการทำสงครามในโซนพร่ามัวหรือสีเทาตามทัศนะของผู้สันทัดกรณีนั้นอาจรวมไปถึงการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจและสงครามไซเบอร์ โดยนอกจากการระงับนำเข้าสินค้าบางรายการจากไต้หวัน เพื่อตอบโต้การเยือนของเพโลซีตามที่เป็นข่าวไปแล้ว จีนยังมีสิ่งที่เรียกว่ากองเรือประมงจีน ซึ่งบางครั้งก็ได้รับการสนับสนุนจากยามฝั่งหรือกองทัพเรือจีนให้ยกโขยงไปท้าทายน่านน้ำประเทศเพื่อนบ้าน เพื่ออ้างสิทธิการทำประมงในพื้นที่ที่มีการอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อน

ส่วนสงครามไซเบอร์นั้น เราได้เห็นไปแล้วกับข่าวที่เว็บไซต์ของทำเนียบประธานาธิบดีและกระทรวงกลาโหมไต้หวันถูกโจมตีจนล่มในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลไต้หวันระบุว่า เป็นฝีมือแฮกเกอร์ในต่างประเทศ โดยหลังจากนี้การโจมตีทางไซเบอร์อาจเกิดถี่ขึ้น ในช่วงที่สถานการณ์บนช่องแคบไต้หวันยังคุกรุ่น
.
จับตาบทบาทของสหรัฐฯ
หนึ่งในการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงของจีนคือ การทดสอบยิงขีปนาวุธต่อต้านเรือรบ โดยจีนอาจจำลองสถานการณ์ในกรณีถูกโจมตี ซึ่งมีเจตนาส่งสารเตือนกองทัพเรือสหรัฐฯ โดยตรงด้วย

ที่ผ่านมาจีนทุ่มงบประมาณมหาศาลไปกับการพัฒนากองทัพเรือให้ทันสมัย โดยปัจจุบันจีนมีจำนวนเรือรบแซงหน้าสหรัฐฯ และมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการทำสงครามต่อต้านเรือดำน้ำ ซึ่งบทวิเคราะห์ของ Rand ชี้ว่า เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์อยู่ในวงล้อมของกองเรือจีน สหรัฐฯ อาจต้องตัดสินใจว่าจะยอมเสี่ยงแลกด้วยหรือไม่

นักวิเคราะห์มองว่า การปิดล้อมไต้หวันเป็นความท้าทายระดับต่ำที่สหรัฐฯ อาจจัดการได้ยาก โดยสหรัฐฯ มีพันธกรณีตามกฎหมายความสัมพันธ์กับไต้หวัน ซึ่งต้องรับประกันว่าไต้หวันจะสามารถป้องกันตนเองได้ แต่ที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐฯ ยึดหลักนโยบายที่เรียกว่า ‘ความคลุมเครือเชิงกลยุทธ์’ (Strategic Ambiguity) ซึ่งด้านหนึ่งก็ช่วยป้องปรามไม่ให้จีนบุกไต้หวัน เพราะจีนจะเกิดความหวาดระแวงว่าสหรัฐฯ อาจแทรกแซงด้วยกำลังทหาร แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ช่วยป้องกันไม่ให้ไต้หวันตัดสินใจประกาศเอกราชทันที เพราะสหรัฐฯ ไม่ได้ให้หลักประกันว่าจะช่วยรบด้วยเสมอไป

แม้สหรัฐฯ จะถูกวิจารณ์เกี่ยวกับจุดยืนที่ไม่ชัดเจนนี้ แต่ความกำกวมนี้ก็ช่วยรักษาสถานภาพความสัมพันธ์สามเส้า สหรัฐฯ-จีน-ไต้หวัน (Status Quo) จนไม่เกิดสงครามขึ้นในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ที่เพโลซีไปเยือนไต้หวันครั้งนี้ ทำให้ทำเนียบขาวเกิดความอิหลักอิเหลื่อไม่น้อย เพราะจีนมองว่าสหรัฐฯ ละเมิดหลักการจีนเดียว (One China Policy) ซึ่งเป็นแถลงการณ์ร่วมระหว่างปักกิ่งและวอชิงตัน

บทบาทของสหรัฐฯ หลังจากนี้จึงเป็นที่จับตาอย่างมาก ภายหลังเพโลซี ซึ่งเป็นผู้นำหมายเลข 3 ของสหรัฐฯ ให้คำมั่นกับประธานาธิบดี ไช่อิงเหวิน ว่า สหรัฐฯ จะยืนหยัดเคียงข้างและไม่ทอดทิ้งไต้หวันในยามที่ถูกจีนคุกคาม ซึ่งเป็นการประกาศแสดงจุดยืนเลือกข้างของสหรัฐฯ อย่างชัดเจน แม้จะไม่มีผลผูกพันตามกฎหมายก็ตาม

การซ้อมรบยังไม่จบ และสถานการณ์ในช่องแคบยังมีแนวโน้มตึงเครียดขึ้นอีก เพโลซีเพิ่งประกาศชัดเจนว่า “เราจะไม่ยอมให้ไต้หวันถูกโดดเดี่ยว” ซึ่งก็ต้องติดตามต่อว่าสหรัฐฯ จะแก้เกมปิดล้อมไต้หวันของจีนครั้งนี้อย่างไร
.
ภาพ: Eastern Theatre Command / Handout via REUTERS
.
#TheStandardNewsทางก

 

UPDATE: รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ รายงานผู้บาดเจ็บ #ไฟไหม้ผับชลบุรี ผู้ป่วย 16 ราย แผลไฟไหม้สูงเฉลี่ยเกิน 60% เตรียมส่ง 2 รายรักษาที่ รพ.จุฬาฯ-ศิริราช
.
วันนี้ (5 สิงหาคม) ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ น.อ.หญิง นงลักษณ์ สิงหโกวินท์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการรักษา กล่าวถึงกรณีเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิง Mountain B ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ว่า เมื่อคืนนี้หลังทางโรงพยาบาลได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการจังหวัดชลบุรีว่า มีเหตุเพลิงไหม้ที่ร้านดังกล่าวในเวลา 01.15 น. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปปฏิบัติการที่จุดเกิดเหตุ
.
โดยพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ระดมทีมแพทย์และกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาเร่งรักษาผู้บาดเจ็บ โดยมีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 27 รายที่เข้ามาที่โรงพยาบาล ซึ่งได้รักษาและให้กลับบ้านได้จำนวน 8 ราย และส่งต่อผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลชลบุรี 1 ราย โรงพยาบาลระยองอีก 1 ราย คงเหลือผู้ป่วยที่รับเข้ารักษาในระบบผู้ป่วยในจำนวน 17 ราย
.
ด้าน น.อ.อนุชา ลิขิตวงษ์ หัวหน้ากลุ่มงานศัลยกรรม เปิดเผยรายละเอียดว่า ในจำนวนผู้ป่วยทั้ง 17 รายนั้น เมื่อเวลา 14.30 น. ได้ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย คือ สุเทพ มงคลแก้ว อายุ 33 ปี โดยผู้เสียชีวิตมีภาวะสำลักควัน และมีเปอร์เซ็นต์ของแผลไฟไหม้ หรือดีกรีความลึก (Degree of burn wound) ที่สูงกว่า 90% ซึ่งการมีเปอร์เซ็นต์แผลไฟไหม้สูง ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตมากอยู่แล้ว ทางโรงพยาบาลได้ให้การรักษาอย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้
.
ส่วนผู้ป่วยอีก 16 รายนั้น ทั้งหมดยังคงมีอาการหนัก ต้องรักษาด้วยการใส่เครื่องช่วยหายใจ และยังไม่รู้สึกตัว ซึ่งแนวทางของการรักษาจะต้องดูแลบาดแผลไฟไหม้ ให้อาหารและน้ำ สิ่งสำคัญคือต้องเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของเปอร์เซ็นต์แผลไฟไหม้ที่อาจจะสูงขึ้นได้อยู่ตลอดเวลา เนื่องจากผู้ป่วยที่มีบาดแผลไฟไหม้จะเกิดการสูญเสียน้ำ และมีโอกาสที่แผลไฟไหม้จะเกิดการติดเชื้อได้ โดยเฉลี่ยตอนนี้ผู้ป่วยทั้ง 16 ราย มีเปอร์เซ็นต์แผลไฟไหม้ที่สูงเฉลี่ยเกินกว่า 60%
.
โดยขณะนี้มีผู้ป่วยจำนวน 2 ราย ที่ทางโรงพยาบาลเตรียมจะส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์และโรงพยาบาลศิริราช เนื่องจากมีเปอร์เซ็นต์ของแผลไฟไหม้อยู่ในระดับ 3 คือมากกว่า 80% ซึ่งศักยภาพของโรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์จะมีความพร้อมมากกว่า เพราะผู้ป่วยควรได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด
.
อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวทางการรักษาของผู้ป่วยที่มีแผลไฟไหม้จะเป็นการรักษาระยะยาว โดยหากผ่านจุดที่อาการวิกฤตเข้าสู่ภาวะคงที่แล้ว ก็ต้องมารักษาบาดแผลกันต่อ หากบาดแผลเข้าไปลึกก็จะต้องตัดเนื้อตาย หากเนื้อมีการสูญเสียเยอะก็ต้องหมุนเนื้อมาปิดรักษา นอกจากนี้ยังต้องระวังเกี่ยวกับเรื่องของภาวะไตวายจากการที่กล้ามเนื้อเกิดการแตกสลายด้วย
.
#MountainB
#ไฟไหม้ผับชลบุรี
#TheStandardNews

 

UPDATE: นักวิทย์ฯ เผย ภาวะโลกรวนทำลูกเต่าทะเลเกิดใหม่ในฟลอริดาเป็น ‘เพศเมีย’ เกือบทั้งหมด
.
นักวิทยาศาสตร์เปิดเผยรายงานล่าสุดว่า ลูกเต่าทะเลเกิดใหม่บนชายหาดของรัฐฟลอริดาในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เป็นเต่าเพศเมียเกือบทั้งหมด หรือคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 99%
.
สาเหตุที่ทำให้ลูกเต่าเกิดใหม่เป็นเพศเมียนั้น เป็นผลมาจากสภาวะโลกรวน ซึ่งทำให้คลื่นความร้อนทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้ทรายบนชายหาดของฟลอริดามีอุณหภูมิสูงขึ้น โดยข้อมูลสถิติระบุว่า ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ฟลอริดาเผชิญกับอุณหภูมิในฤดูร้อนที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์
.
ตามรายงานของ National Ocean Service ระบุว่า หากไข่เต่าฟักตัวที่อุณหภูมิต่ำกว่า 27.7 องศาเซลเซียส ลูกเต่าส่วนใหญ่จะออกมาเป็นตัวผู้ แต่หากไข่เต่าฟักตัวที่อุณหภูมิสูงกว่า 31 องศาเซลเซียส ลูกเต่าจะเป็นตัวเมีย นักวิจัยยังพบด้วยว่า ยิ่งทรายมีอุณหภูมิอุ่นมากขึ้นเท่าไร สัดส่วนของลูกเต่าเพศเมียก็จะยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น
.
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าห่วงกว่านั้นคือ เมื่อโลกประสบกับสภาวะโลกรวน อุณหภูมิที่สูงขึ้นอาจส่งผลให้กระบวนการฟักตัวของไข่เต่าผิดเพี้ยนไป หรืออาจทำให้เต่าตายได้ ซึ่งภาวะนี้จะส่งผลกระทบต่อสัตว์เลื้อยคลานชนิดอื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ การที่ประชากรเต่าทะเลมีสัดส่วนเพศผู้และเพศเมียที่ไม่สมดุลกัน ยังอาจทำให้จำนวนเต่าทะเลเกิดใหม่ลดน้อยลงอีกในอนาคต
.
สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงหนึ่งในสัญญาณที่บ่งชี้ว่า วิกฤตสภาพภูมิอากาศกำลังส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางธรรมชาติของโลก ซึ่งรุดหน้าไปเร็วเกินกว่าที่สัตว์หลายชนิดจะปรับตัวทัน โดยปัจจุบันเต่าทะเลทุกชนิดได้รับการขึ้นบัญชีแดงจากองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ว่ามีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ทั้งหมด
.
#TheStandardNews

 

เซฟเก็บไว้! ข้อควรรู้การรับมือ-อพยพ เมื่อต้องตกอยู่ในเหตุเพลิงไหม้
.
ปัญหาอัคคีภัยนับเป็นภัยใกล้ตัวที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากความประมาท ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น จุดธูป-เทียนไว้โดยไม่ดูแล, การเผาขยะและใบไม้แห้งใกล้วัสดุติดไฟง่าย, ไฟฟ้าลัดวงจร และการใช้ก๊าซหุงต้มประกอบอาหารไม่ถูกวิธี ซึ่งแต่ละครั้งที่เกิดเหตุเพลิงไหม้มักจะสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินที่ไม่อาจประเมินค่าได้
.
THE STANDARD รวบรวมข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เกี่ยวกับข้อควรรู้การรับมือ-อพยพ จากเหตุเพลิงไหม้ มาให้ผู้อ่านได้ทำความเข้าใจและศึกษาวิธีการปฏิบัติเบื้องต้นเมื่อตกอยู่ในเหตุเพลิงไหม้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


#TheStandardNews

———————————————————————

ภาพ: นิสากร ฤทธาภัย

 

‘อนุทิน’ เผยความคืบหน้า พรบ.กัญชา-กัญชง ย้ำใช้ประโยชน์ “ทางการแพทย์” เท่านั้น!
.
วันนี้ (5 ส.ค. 2565) ‘นายอนุทิน ชาญวีรกูล’ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยความคืบหน้า พ.ร.บ.กัญชา - กัญชง ฉบับใหม่ ระบุว่า ขณะนี้ถือเป็นช่วงสุดท้ายของการแปรญัตติกฎหมาย ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิทุกภาคส่วน ผู้แทนราษฎร นักวิชาการ องค์กรอิสระและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยมีการรับฟังข้อมูลจากทุกภาคส่วน หากเสร็จสิ้นจะนำเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาต่อไป โดยจะต้องผ่านทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร คาดว่ากฎหมายฉบับใหม่นี้ จะมีความครอบคลุมและนำมาใช้ปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
ส่วนการปรับปรุงประกาศเพิ่มเติมเรื่องช่อดอกกัญชา กรมอนามัยได้ออกประกาศการห้ามใช้ช่อดอกในการประกอบอาหาร มาก่อนที่กัญชาจะถูกปลดออกจากการเป็นยาเสพติดแล้ว ดังนั้น การนำช่อดอกมาประกอบเป็นอาหารและจำหน่าย รวมถึงการสูบ เสพในที่สาธารณะไม่สามารถทำได้ ซึ่งผู้ที่กระทำจะมีความเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดี มีความผิดทางกฎหมายโทษทั้งจำและปรับ
.
“กระทรวงสาธารณสุข ยังยืนยันเจตนารมณ์ของนโยบายกัญชาทางการแพทย์ ว่าใช้เพื่อสุขภาพเท่านั้น” ‘นายอนุทิน กล่าว
.
#ปลดล็อกกัญชา #กัญชาเสรี #กัญชาทางการแพทย์ #อนุทินชาญวีรกูล #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29