ติดตามสถานะการณ์

Canada: เจ้าหน้าที่แคนาดา เริ่มภารกิจฟื้นฟูและประเมินความเสียหายจากพายุ “ฟิโอนา” พร้อมเตือนอาจต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์หรือเป็นเดือน กว่าจะฟื้นฟูระบบโครงสร้างพื้นฐานให้กลับมาเป็นปกติ

ทางการแคนาดาเริ่มภารกิจฟื้นฟูและประเมินความเสียหายจากพายุฟิโอนา ที่พัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศในช่วงสุดสัปดาห์ ด้วยแรงลมเทียบเท่าเฮอริเคน ก่อความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

พายุฟิโอนา สร้างความเสียหายให้ระบบโครงสร้างพื้นฐานและบ้านเรือนประชาชนในหลายรัฐโดยประชาชนหลายแสนคนในรัฐโนวาสโกเชีย ปรินซ์เอดเวิร์ด ไอส์แลนด์ นิวฟันด์แลนด์ ควิเบก และนิว บรันสวิค ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ และต้องเผชิญกับการเชื่อมต่อสัญญาณสื่อสารที่ไม่เสถียร

ด้านเจ้าหน้าที่เตือนประชาชนให้ใช้ความอดทน เพราะบางกรณีการที่จะกู้ระบบ หรือฟื้นฟูบริการที่จำเป็นให้กลับมาใช้การได้ตามปกติ อาจต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์ หรือเป็นเดือน โดยรัฐบาลกลางอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือแล้ว รวมทั้งจัดส่งกำลังทหารลงไปช่วยภารกิจฟื้นฟู เพื่อเคลียร์ทางให้มีการกู้ระบบไฟฟ้าให้กลับมาใช้ได้โดยเร็ววัน

ส่วนที่รัฐโนวาสโกเชีย เจ้าหน้าที่เรียกความเสียหายที่เกิดจากพายุ “ฟิโอนา” ว่า ทำให้หัวใจสลาย เพราะสร้างความเสียหายให้กับที่อยู่อาศัยและระบบโครงสร้างฟื้นฐานในระดับที่เป็นไปตามการคาดการณ์ว่า จะเป็นพายุลูกหนึ่งที่ก่อความเสียหายรุนแรงให้กับแคนาดา

ข่าวระบุมีรายงานคนสูญหายหนึ่งคนที่เมืองปอร์โตซ์บาสค์ส หนึ่งในเมืองที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดจากพายุฟิโอนา อยู่ในพื้นที่รัฐนิวฟันด์แลนด์

เจ้าหน้าที่เตือนการฟื้นฟูอาจต้องใช้เวลาหลายเดือน แต่ยังไม่มีรายงานยืนยันผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่แคนาดาระบุ เป็นเพราะประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและคำประกาศเตือนภัยของภาครัฐเป็นอย่างดี
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #แคนาดา #พายุ #ฟิโอนา
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

UPDATE: พนังกั้นน้ำฝั่งขวาลำน้ำเสียวใหญ่ ศรีสะเกษ ทรุดตัว ทะลักท่วมพื้นที่เกษตรกว่า 6,000 ไร่ คาดซ่อมเสร็จวันนี้
.
วันนี้ (26 กันยายน) เทิดพงศ์ ไทยอุดม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ภาค 3 (สทนช. ภาค 3) ในฐานะฝ่ายเลขานุการศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายใต้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยถึงแนวทางการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหา กรณีพนังกั้นน้ำฝั่งขวาของลำน้ำเสียวใหญ่ (Dike-5) บริเวณที่ไหลมาบรรจบกันกับแม่น้ำมูล ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่าง กรมชลประทาน ท้องที่ตำบลด่าน อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ เกิดการทรุดตัวและเป็นช่องยาวประมาณ 30 เมตร ลึกประมาณ 4-5 เมตร เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา
.
ส่งผลทำให้น้ำจากลำเสียวใหญ่ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ตำบลหนองบัวดง อำเภอศิลาลาด และตำบลด่าน อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ ประมาณ 6,000 ไร่ ซึ่งกรมชลประทานได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยระดมเครื่องจักร-เครื่องมือ ทำการปิดท่อคอนกรีตบริเวณทางหลวงหมายเลข 2068 จำนวน 3 แห่ง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลผ่านถนนทางหลวง ไม่ให้ขยายวงมากขึ้น และมีแผนที่จะปิดช่องพนังที่ขาดให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ เพื่อลดผลกระทบจากมวลน้ำที่จะแผ่ขยายต่อพื้นที่การเกษตรโดยเร็วที่สุด
.
อย่างไรก็ตาม กรมชลประทาน โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่างได้แจ้งให้ทางจังหวัด ประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบแล้ว เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากการสัญจรในบริเวณดังกล่าว ซึ่งศูนย์ส่วนหน้าฯ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้มีการประสานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่างเร่งดำเนินการปิดกั้นรอยรั่วที่พนังกั้นน้ำดังกล่าว
.
“กรณีพนังกั้นน้ำเกิดการทรุดตัวดังกล่าว สาเหตุเนื่องจากพื้นที่ต้นน้ำของลุ่มน้ำมูลมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ส่งผลให้ปริมาณน้ำท่าไหลหลากลงสู่ลำน้ำมูลเป็นปริมาณมาก ประกอบกับมีปริมาณน้ำจากลำเสียวใหญ่ซึ่งเป็นลำสาขาของลำน้ำมูลมีต้นน้ำอยู่ในเขตจังหวัดมหาสารคามไหลมาสมทบ จึงทำให้ระดับในแม่น้ำมูลสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อพนังกั้นน้ำดังกล่าว” เทิดพงศ์กล่าว
.
#TheStandardNews

______________________________________

 

UPDATE: ไต้ฝุ่นโนรูพัดถล่มฟิลิปปินส์ ผู้คนนับพันเร่งอพยพ ทางการเตือนอาจเกิดน้ำท่วมหนักในมะนิลา
.
วานนี้ (25 กันยายน) ซูเปอร์ไต้ฝุ่นโนรูเข้าพัดถล่มฟิลิปปินส์ ส่งผลให้เกิดลมกระโชกแรง ฝนตกหนัก และคลื่นสูง ขณะประชาชนกว่า 8,300 คนต้องเร่งอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง โดยโนรูเป็นไต้ฝุ่นที่รุนแรงสุดที่เข้าพัดถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ มีความเร็วลมสูงถึง 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
.
อิทธิพลจากไต้ฝุ่นส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและลมแรง วิดีโอในโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นภาพของต้นไม้ที่โน้มเอนไปตามแรงลมจวนเจียนจะหัก ขณะที่ในหมู่เกาะโปลิโยของจังหวัดเกซอนนั้นเกิดเหตุดินถล่มด้วย โดยวานนี้มีผู้คนกว่า 2,500 คนติดอยู่ตามท่าเรือต่างๆ เนื่องจากทางการได้สั่งระงับการเดินทางทางเรือเพื่อความปลอดภัย อีกทั้งยังได้สั่งระงับเที่ยวบินเกือบ 50 เที่ยวด้วย
.
ด้านกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์เปิดเผยวานนี้ว่า พื้นที่การเกษตรอาจได้รับผลกระทบจากไต้ฝุ่นโนรูกว่า 1.47 ล้านเฮกตาร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าว 75% ของประเทศ ทำให้เสี่ยงว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอาจทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นอีกในอนาคต
.
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ได้ออกประกาศเตือนให้เฝ้าระวังว่าอาจเกิดน้ำท่วมรุนแรงในพื้นที่เสี่ยงอย่างกรุงมะนิลาและจังหวัดใกล้เคียง ขณะ พล.ต.อ. โรโดลโฟ อาซูริน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ เรียกร้องให้ประชาชนที่อาศัยในเขตอันตรายปฏิบัติตามคำสั่งอพยพอย่างเคร่งครัดเมื่อเกิดเหตุจำเป็น โดยในวันนี้โรงเรียนและสถานที่ราชการหลายแห่งได้ปิดทำการชั่วคราวด้วย
.
ซูเปอร์ไต้ฝุ่นโนรูได้อ่อนกำลังลงเป็นไต้ฝุ่นระดับ 4 ในขณะที่พัดผ่านทางตอนกลางของเกาะลูซอน และคาดว่าจะเข้าสู่ทะเลจีนใต้ในวันนี้ โดยมุ่งหน้าสู่เวียดนาม
.
โดยปกติแล้ว ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มักจะเผชิญกับพายุอยู่เป็นประจำ หรือเฉลี่ยที่ราว 20 ครั้งต่อปี แต่ล่าสุดนั้นนักวิทยาศาสตร์ได้กล่าวเตือนว่า พายุจะมีความรุนแรงมากกว่าเดิม เนื่องจากโลกของเรามีอุณหภูมิสูงขึ้นจากภาวะโลกรวน ซึ่งฟิลิปปินส์เองก็หนึ่งในชาติที่เสี่ยงต่อผลกระทบจากภาวะโลกรวนมากที่สุดด้วย
.
ภาพ: TED ALJIBE / AFP
.
#TheStandardNews

______________________________________

 

UPDATE: กรมอุตุฯ ประกาศเตือนไต้ฝุ่น ‘โนรู’ ขึ้นฝั่งเวียดนาม 28 ก.ย. ส่งผลถึงไทย ฝนตกหนักมากทันที
.
วันนี้ (26 กันยายน) กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนเรื่องไต้ฝุ่น ‘โนรู’ ฉบับที่ 4 ระบุว่า เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ พายุไต้ฝุ่นโนรู บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 15.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 119.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
.
คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางในวันที่ 28 กันยายน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น
.
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่งกับมีลมแรงในช่วงวันที่ 28 กันยายน - 1 ตุลาคมนี้
.
ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย
.
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
.
ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 27 กันยายน - 1 ตุลาคม
.
สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล เวลา 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น.วันพรุ่งนี้ (27 กันยายน) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
.
#TheStandardNews

______________________________________

 

UPDATE: ลาฟรอฟลั่น รัสเซียพร้อมปกป้องดินแดนที่ผนวกมาจากยูเครน ส่งสัญญาณความเป็นไปได้ในการใช้อาวุธนิวเคลียร์
.
เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า แคว้นต่างๆ ของยูเครนที่กำลังจัดการลงประชามตินั้น จะได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่จากมอสโกหากถูกผนวกมาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ซึ่งคำกล่าวของลาฟรอฟถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณความเป็นไปได้ในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ หากเคียฟพยายามที่จะยึดดินแดนเหล่านั้นกลับคืน
.
ถ้อยแถลงของรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียมีขึ้นในการแถลงข่าวที่นิวยอร์กเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (24 กันยายน) ขณะที่การออกเสียงลงประชามติ ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 4 วัน เริ่มต้นขึ้นในวันศุกร์ที่แคว้นลูฮันสก์ โดเนตสก์ เคอร์ซอน และซาปอริซเชีย ทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของยูเครน ซึ่งเป็น 4 แคว้นของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครองอยู่
.
มอสโกอธิบายถึงการจัดการลงประชามติดังกล่าวว่าเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม ยูเครนและชาติตะวันตกประกาศจะไม่ยอมรับผลการลงประชามติ โดยมองว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นเรื่องตบตา และมีรายงานว่าประชาชนถูกบังคับให้ออกไปร่วมลงประชามติ
.
“ภายหลังการลงประชามติ รัสเซียจะเคารพเจตจำนงของประชาชนที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการทารุณข่มเหงของระบอบนีโอนาซีมาเป็นเวลาหลายปี” ลาฟรอฟกล่าวกับผู้สื่อข่าว หลังการปราศรัยต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
.
เมื่อถูกถามว่ารัสเซียมีเหตุผลสำหรับการใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อปกป้องดินแดนที่ผนวกมาจากยูเครนหรือไม่ ลาฟรอฟตอบว่า ดินแดนของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงดินแดนที่ผนวกเพิ่มเติมในรัฐธรรมนูญของรัสเซียในอนาคต จะอยู่ภายใต้การคุ้มครองอย่างเต็มที่ของรัฐ
.
“กฎหมาย หลักการ แนวความคิด และยุทธศาสตร์ทั้งหมดของสหพันธรัฐรัสเซีย มีผลบังคับใช้กับทุกดินแดนของสหพันธรัฐ” เขากล่าว
.
การแสดงความคิดเห็นของรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ออกมาประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะใช้ทุกสรรพกำลังที่มีเพื่อปกป้องดินแดนและประชาชนรัสเซีย หรืออีกนัยหนึ่ง คือการขู่ใช้ ‘อาวุธนิวเคลียร์’ ตอบโต้ใครก็ตามที่กล้ารุกรานแผ่นดินรัสเซีย ซึ่งรวมถึงดินแดนในยูเครนที่รัสเซียยึดครองและผนวกรวมไว้
.
“หากบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศเราถูกคุกคาม เราจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อปกป้องรัสเซียและประชาชนของเราอย่างแน่นอน” ปูตินกล่าว พร้อมย้ำว่าคำเตือนของเขาไม่ใช่แค่การข่มขวัญ
.
ขณะที่ ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน กล่าวว่า คำกล่าวของลาฟรอฟ และถ้อยแถลงก่อนหน้านี้ของปูตินนั้น ‘ไร้ความรับผิดชอบ’ และ ‘ไม่สามารถยอมรับได้’
.
นอกจากนี้ ยูเครนยังได้ขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดการประชุมด่วนเกี่ยวกับการลงประชามติ 4 แคว้นของยูเครน โดยเรียกร้องให้รัสเซีย “รับผิดชอบต่อความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงพรมแดนที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลว่าเป็นดินแดนของยูเครน ซึ่งเป็นการละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ” โอเลก นิโคเลนโก โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน กล่าวทาง Twitter
.
ภาพ: Lev Radin / Pacific Press / LightRocket via Getty Images
.
#TheStandardNews

______________________________________

 

UPDATE: สหรัฐฯ ประกาศเตือนถึงหายนะครั้งใหญ่ หากรัสเซียตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์ในสงครามยูเครน
.
วานนี้ (25 กันยายน) ทางการสหรัฐอเมริกาประกาศเตือนถึงผลลัพธ์ร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นตามมา หากกองทัพรัสเซียตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์ในสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างยูเครน หลังจากประกาศจะปกป้องดินแดนยูเครนที่ลงประชามติขอแยกตัวและจะขอเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ซึ่งคาดว่าจะประกาศผนวกรวมดินแดนอย่างเป็นทางการในอนาคตอันใกล้นี้
.
การผนวกรวมดินของรัสเซียในครั้งนี้จะเพิ่มโอกาสการเผชิญหน้ากับกองทัพ NATO มากยิ่งขึ้น พร้อมมีแนวโน้มจะยกระดับให้สงครามที่ยืดเยื้อมานานถึง 7 เดือนนี้ กลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบที่มีกำลังพลและสรรพกำลังเพิ่มมากขึ้น และขยายขอบเขตของการทำสงครามมากยิ่งขึ้น
.
ทางด้าน เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาวระบุว่า “หากรัสเซียล้ำเส้นจะมีหายนะครั้งใหญ่เกิดขึ้นตามมากับรัสเซีย สหรัฐอเมริกาจะตอบโต้อย่างเด็ดขาด”
.
ทางการรัสเซียจะใช้วิธีการเดียวกับที่เคยผนวกรวมแหลมไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตนเมื่อปี 2014 โดยพยายามจะอ้างความชอบธรรมว่าตนเองมีสิทธิปกป้องและผนวกรวมดินแดนเหล่านั้น โดยอาศัยผลการลงประชามติ แม้จะมิชอบด้วยกฎหมายและไม่ได้ยอมรับจากรัฐบาลยูเครนและประชาคมโลกแต่อย่างใด
.
แฟ้มภาพ: Alex Wong / Getty Images
.
#TheStandardNews

______________________________________

 

BREAKING!!
ด่วน ! ตำรวจสากล (Interpol) ออกหมายแดง (Red Notice) ให้ทั่วโลกช่วยกันจับตัว Do Kwon ผู้ก่อตั้ง LUNA ที่สร้างความเสียหายให้นักลงทุนทั่วโลกไปมากกว่า 2 ล้านล้านบาท !
#WorldMaker

References : https://www.coindesk.com/business/2...5S7RBECRurwRHkNxyxeSpJBdDX0MMwm0g8NQPHEMVhrAo

 

ทั่วโลกจับตามองว่า 1 ดอลลาร์จะเท่ากับ 1 ปอนด์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลกไหมในตอนนี้ ?? โดยหลายคนคาดว่ามันจะเกิดขึ้นแน่ ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ??
#WorldMaker

เงินปอนด์อังกฤษร่วงทะลุไป 1.03 ต่อดอลลาร์เข้าไปแล้ว และมีความเสี่ยงที่จะตามยูโรไปในเร็ว ๆ นี้

 

BREAKING!! : ด่วน ! ค่าเงินโลกยังร่วงตามกันไปติด ๆ เช้านี้ !!! ล่าสุดเงินปอนด์อังกฤษร่วง 1.035 ต่อ 1 ดอลลาร์แล้ว ! จะหลุดระดับ 1 ต่อ 1 ตามยูโรไปเร็ว ๆ นี้หรือไม่ ??? รอดู ! ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าทะลุไป 114 หน่วย, ยูโรอ่อนหลุด 0.96 และเงินบาทอ่อนทะลุไป 37.7 แล้ว ! กองเชียร์ว่าไง ? ใกล้ถึงจุด Peak หรือยัง ??
#WorldMaker




ยาวไปครับท่าน !!! ร่วงกันแทบทุกสกุลเงินบนโลกนี้เลย !!! มารอดูกันว่าจะเป็นยังไงต่อกันแน่ ?

 

ด่วน ! ดัชนีดอลลาร์ทะลุไป 114 !!!
1 ยูโร = 0.9585 ดอลลาร์
ขณะที่ 1 ดอลลาร์ = 37.7 บาท
#WorldMaker

ดอลลาร์แข็งทะลุ 114 ไปแล้ว !!!

 

ล่าสุดกองทัพรัสเซียเริ่มยิงถล่มเมือง Odesa ด้วยโดรนจากอิหร่าน ! ขณะที่สหรัฐฯ เตือนรัสเซียอีกครั้งว่าอย่าใช้อาวุธนิวเคลียร์ในสงครามยูเครน และย้ำด้วยว่ารัสเซีย 'อาจสั่งปิดพรมแดนประเทศ' เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชายหนีออก เพราะอาจต้องเกณฑ์ทหารไปทำสงครามเพิ่ม !!!
#WorldMaker

References : https://www.bloomberg.com/news/arti...18kts8varGVpQXmghOtt8T-tdLUK-vnPV7NIjX2o4auXo

 

นิตยสาร The Economist ซึ่งถือหุ้นใหญ่โดย Rothschild รายงานว่า Propaganda ของรัสเซียกำลังกระฉ่อนไปทั่วโลกและมีทุนหนุนอย่างดี ขณะที่รัสเซียโต้ว่าโฆษณาชวนเชื่ออันดับ 1 ของโลกมาจากสหรัฐฯ และตะวันตกต่างหาก ! รอดูสุดท้ายใครลวงโลกกันแน่ ? รัสเซียหรือตะวันตก ?
#WorldMaker


https://www.economist.com/internati...DJyqy-EzLUqTUDjA1JtflPN4V6Vn9Jniorx1115Mi7xWg

How Russia is trying to win over the global south from TheEconomist

 

ค่าเงินบาท 37.77 บาท ต่อดอลลาร์แล้ว
- แต่ไม่ต้องตกใจ ค่าเงินอ่อน เป็นทั้งโลก ไม่ใช่แค่บาท และบาทไม่ได้อ่อนสุดในโลก

- ตัวอย่างเงินปอนด์ เช้านี้อ่อนค่าลงในระดับที่ต่ำสุดในประวัติศาสตร์ เมื่อเทียบกับดอลลาร์
รวมถึงค่าเงินเยน ก็อ่อนค่าลงเช่นกัน หลังจากการแทรกแซงค่าเงิน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่มาวันนี้ก็กลับมาอ่อนแล้ว

- ดังนั้น ทุกประเทศในโลก ยกเว้นสหรัฐ การค้าระหว่างกัน ค่าเงินคงไม่ได้ส่งผลเท่าไร เช่น คนยุโรป ญี่ปุ่น ไม่ได้รู้สึกมาเที่ยวประเทศไทยแล้วถูกลง เพราะค่าเงินยูโร เงินเยน ก็อ่อนเหมือนกัน

- เหตุการณ์เกิดขึ้นครั้งนี้ จึงต้องวิเคราะห์ดี ๆ และหากลยุทธ์ที่เหมาะสม เพราะมันไม่ได้แย่แค่ประเทศไทย แต่เป็น “ทั้งโลก”..

 

ลอนดอนปี 1930s (พ.ศ2473)ผู้หญิงทำอาชีพเป่าเม็ดถั่วใส่หน้าต่างเพื่อ “เคาะ” ปลุกให้เจ้าบ้านตื่นตามเวลา อาชีพนี้นับเป็นอาชีพสำคัญสมัยก่อนที่นาฬิกาปลุกจะมีแพร่หลาย
_________________________
#ภาพและเรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจ

 

เงินปอนด์อ่อนสุดเท่าที่เคยมีมา !!!

ใกล้แตะจุดประวัติศาสตร์ 1 ดอลลาร์ / 1 ปอนด์

ติดตามการวิเคราะห์ประเด็นเศรษฐกิจที่น่าสนใจ

แบบสั้นๆ กระชับๆ ไม่เกิน 8 ย่อหน้า

กับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจซึ่งเราไม่ควรพลาด ที่

#มุมมองดรกอบ ในกลุ่ม "คอเศรษฐกิจและการลงทุน"

Link อยู่ด้านล่าง ลองติดตามดูนะครับ

#คอเศรษฐกิจและการลงทุน



เงินปอนด์อ่อนสุดเท่าที่เคยมีมา !!!

ใกล้แตะจุดประวัติศาสตร์ 1 ดอลลาร์ / 1 ปอนด์

ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการแข็งค่าของดอลลาร์ จากเฟดที่เอาจริงมากกว่าทุกคนเรื่องเงินเฟ้อ

จาก Carry Trades ที่กำลังกลับมา

จากความกังวลใจเฉพาะเรื่องอังกฤษ เกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่

อ่อนลงมามากจาก 2.77 ดอลลาร์ / 1 ปอนด์ เมื่อ 55 ปีที่แล้ว

หากเป็นเช่นนี้ ก็คงไม่พ้น "ดอลลาร์แข็งกว่าปอนด์"

นับเป็นครั้งแรกนับแต่การเป็นอิสรภาพของสหรัฐจากอังกฤษเมื่อปี 1776

และเป็นอีกเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของเศรษฐกิจโลก

#มุมมองดรกอบ #ค่าเงินปอนด์

 

บันทึก Perfect Storm ... สัปดาห์ที่ 38/156

นานๆ เศรษฐกิจจะเกิดวิกฤตที่สำคัญ

ครั้งสำคัญในช่วงที่ผ่านมา ก็คงเป็น

The Great Depression 1929-1939

Oil Price Shocks 1970s

Global Financial Crisis 2008

การได้อยู่ร่วมสมัยกับวิกฤต สำหรับนักเศรษฐศาสตร์ ต้องถือว่าเป็นโชคดีของชีวิต

เพราะวิกฤตเป็นสิ่งที่อาจารย์ไม่ค่อยสอนในโรงเรียน

แต่ต้องเรียนรู้เองจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริง

น่าจดบันทึกไว้เป็นความทรงจำ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ทั้งนี้ จากการประเมินเบื้องต้น

วิกฤตรอบนี้คงใช้เวลาประมาณ 3 ปี นับแต่ต้นปี 2022

ซึ่งถ้าเรานับจากจุดนั้น สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็จะเป็นสัปดาห์ที่ 38 จาก 156

ผ่านมาได้ประมาณ ¼ ของระยะทางทั้งหมด

ที่จะประกอบด้วย 4 ช่วงคร่าวๆ

• ช่วงแรก (6 เดือนแรกของ 2022) - นักลงทุนเร่ง Exit ออกจากตลาด ซึ่งช่วงนี้ได้ผ่านไปมากแล้ว ส่งผลให้เกิด Investment Storm ในตลาดการเงินโลกในช่วงที่ผ่านมา โดยผู้ที่เก็งกำไรในช่วงตลาดกระทิงระหว่างโควิด พยายามหนีตายออกจากตลาด หลังชัดเจนว่า Party is over

• ช่วงสอง (ต้นปี 2022-ปลายปี 2023) - เฟดพยายามเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสู้ศึกเงินเฟ้อ และเงินเฟ้อเริ่ม Peak และลงมาบางส่วน ซึ่งช่วงที่สองนี้ได้เริ่มมาแล้วประมาณ 6 เดือน คงเหลือเวลาในช่วงนี้อีกประมาณ 1 ปี ระหว่างที่เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย ไปสู่ระดับที่น่าจะสูงพอกับการจัดการเงินเฟ้อ โดยอย่างน้อยก็ต้อง 5% ขึ้นไป และคงไว้ระดับนั้นระยะหนึ่ง โดยในช่วงเวลานี้ เงินเฟ้อก็จะเริ่มลดลงมาบ้าง แต่ยังอยู่ในระดับที่สูงอยู่

• ช่วงที่ 3 (กลางปี 2023-ปลายปี 2024) – จากดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมากในช่วงที่ 2 โลกจะเข้าสู่ภาวะ Global Recessions ที่ชัดเจนในปี 2023 โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วจะต้องเผชิญหน้ากับเศรษฐกิจถดถอย คนที่ตกงานเพิ่มขึ้น สุดท้ายเงินเฟ้อก็จะลดลงมาใกล้เป้าหมาย 2% ขณะเดียวกันอีกข้างหนึ่ง ปัญหาใน Emerging Markets ก็จะสุกงอมมากขึ้น ทำให้เกิดวิกฤตใน Emerging Markets

• ช่วงที่ 4 (กลางปี 2024 เป็นต้นไป) - เฟดก็จะเริ่มที่จะลดดอกเบี้ยลงมา หลังมั่นใจว่าเอาเงินเฟ้ออยู่แล้ว และเข้าสู่ช่วงของการกระตุ้นเพื่อฟื้นเศรษฐกิจรอบใหม่ และ Emerging Market Crisis ก็จะค่อยๆ สงบลงในปี 2025 โลกก็จะเข้าสู่ช่วงใหม่ของการเจริญเติบโต

โดยในระหว่าง 3 ช่วงแรก

จะมีปัญหาเกิดขึ้น 3 ระลอก ใน 3 จุด

ตลาดการเงิน เศรษฐกิจจริง และ Emerging Markets

ส่วนในช่วงสุดท้าย ระหว่างการกลับคืนสู่ปกติ

ก็จะมีความผันผวนในตลาดการเงินอีกแบบ จากดอกเบี้ยที่ลดลง และค่าเงินที่กลับสู่ปกติอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม เส้นทาง 4 ช่วงนี้ เป็นมุมที่มองจากกลไกด้านเศรษฐกิจเป็นสำคัญ

ได้แต่แอบหวังว่า Geopolitics ระหว่างสหรัฐ รัสเซีย จีน จะไม่ลุกลามบานปลาย

จนทำให้เกิดวิกฤตซ้อนวิกฤต

กระทบกับ Timeline ข้างต้น และนำไปสู่เส้นทางใหม่ที่ยาวไกลกว่าเดิม

สำหรับบันทึก Perfect Storm สัปดาห์ที่ 38 ที่เพิ่งผ่านมา นั้น

คงต้องบอกว่า

วิกฤตได้เริ่มเข้าสู่ช่วงใหม่เต็มรูปแบบ

ที่กล่าวเช่นนี้ เพราะชัดเจนว่า

(1) การประชุมเฟดในกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ที่ทำให้ทุกคนเห็นชัดว่า

เฟดเอาจริง

จะจัดการเงินเฟ้อ ให้ได้

โดยความเสียหายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น

เฟดรับได้

ต้องชนะศึกเงินเฟ้อเท่านั้น

ทำให้คำถามของสังคมและผู้สื่อข่าวเริ่มเปลี่ยนไป

จากเดิม ที่ถามกันมากว่า

เฟดขึ้นดอกเบี้ยช้าไปหรือไม่

เฟดขึ้นน้อยไปหรือไม่

เฟดจะเอาเงินเฟ้ออยู่หรือไม่

ตอนนี้ คำถามเริ่มกลายเป็นว่า

เฟดทำมากไปหรือไม่ overdoing it หรือ gone too far หรือไม่

เฟดจะหยุดการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อรอดูผลบ้างหรือไม่

เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยไปถึงไหน

เมื่อไหร่จะลดดอกเบี้ย

แล้วเฟดจะทำให้คนตกงานเท่าไหร่

เฟดเคยคิดถึงคนที่จะตกงานเหล่านี้ หรือไม่

เป็นหนังคนละม้วนกับช่วงก่อนหน้า

(2) เศรษฐกิจสหรัฐได้เริ่มเปลี่ยน

จาก “คึกคัก” “ร้อนแรง” มาสู่โหมด “ชะลอตัว” อย่างชัดเจน

โดยการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด กำลังเข้าสู่ Restrictive Zone

ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างมีนัยยะสำคัญ

ดอกเบี้ยพันธบัตร 2 ปี เพิ่มมาที่ 4.2% จากที่เคยอยู่ที่ 0.25% เมื่อ 1 ปีที่แล้ว

ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน 30 ปี เพิ่มมาที่ 6.29% จากที่เคยอยู่ที่ 3.0%

ถ้าช่วงแรก นักลงทุนสะเทือน จากความผันผวนของราคาสินทรัพย์ต่างๆ

ช่วงนี้จะกลายเป็น ภาคการผลิต ภาคอสังหาริมทรัพย์ เศรษฐกิจจริง คนทั่วไป สะเทือนแทน

สะเทือนแม้กระทั่งราคาน้ำมันโลก ราคาสินค้า Commodities ต่างๆ โดยราคาน้ำมัน WTI ก็ลดลงต่ำกว่า 80 ดอลลาร์/บาเรล เป็นครั้งแรกนับแต่ต้นปี เป็นต้นมา

(3) นักลงทุนที่หวนเข้าตลาดนับแต่กลางมิถุนายนที่ผ่านมา

กำลังเผชิญปัญหารูปแบบใหม่

จากเดิมหุ้นตกเพราะคนแย่งกันออก

แต่ผลประกอบการที่ยังดี

ทำให้หลายคนเข้าตลาดอีกครั้ง

แต่ตอนนี้ เมื่อเศรษฐกิจจริงเริ่มได้รับผลกระทบ

ผลประกอบการบริษัทต่างๆ เริ่มไม่ได้ตามเป้า

สำนักวิเคราะห์จึงปรับลดราคาเป้าหมายของหุ้นต่างๆ ลงมา

ส่งผลให้นักลงทุนเร่งออกจากตลาดในรอบที่ 2

ล่าสุด ดัชนี Dow Jones ได้ลดลงต่ำกว่า 30,000 จุด

ต่ำกว่าที่เคยลงไปในรอบแรกเมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา

และต่ำกว่าช่วงก่อนที่จะเกิดโควิดเรียบร้อย

ทำให้ฟองสบู่ที่เกิดขึ้นช่วงโควิด หายไปอีกฟอง !!!

ส่วนเป้าถัดไป ก็คงเป็น Nasdaq และ S&P

(4) แนวรบด้านตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเริ่มเข้มข้นขึ้น

ทุกคนเริ่มพูดถึงปัญหาใหม่ Strong Dollar

ล่าสุด ค่าเงินดอลลาร์ล่าสุดทะลุ 113 เรียบร้อย

ทำให้ดอลลาร์กลายเป็นหนึ่งใน Best Performing Assets

ปีนี้ แข็งขึ้นประมาณ 20% !!!

ส่งผลให้เงินของหลายสกุลทำ New Low แล้ว Low อีก

และทำให้ธนาคารกลางต่างๆ อยู่ไม่ติดที่

ต้องชี้แจง ต้องเข้าแทรกแซง ต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยตาม

โดยเงินเยน หนึ่งในสกุลเงินหลักของโลก

จากที่เคยอยู่ประมาณ 115 เยน/ดอลลาร์ ได้อ่อนทะลุ 146 เรียบร้อย

กดดันให้ทางการญี่ปุ่นต้องเข้าแทรกแซง เป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี !!!!

ซึ่งคงต้องบอกว่า ปัญหา Strong Dollar ก็ยังไม่จบง่าย

จะยังกดดันทุกประเทศไปอีกระยะ

แม้วันต่อวัน ช่วงสั้นๆ จะเอาแน่ไม่ได้ ว่าจะอ่อนหรือแข็ง

แต่ในระยะยาว จากความแตกต่างของนโยบายของประเทศหลักๆ และส่วนต่างดอกเบี้ยที่กว้างขึ้นเรื่อยๆ

ทำให้ Carry Trades กำลังหวนกลับคืนมา

ทำให้เราได้เห็นสถิติค่าเงินใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

ซึ่งเป้าหมายถัดไปที่น่าจับตามอง ก็คือ เงินปอนด์

ที่เราอาจจะเห็น 1 ปอนด์ ต่อ 1 ดอลลาร์ได้

(5) ด้าน Geopolitics ก็เข้มข้นไม่แพ้กัน

กับข่าวท่านปูตินบุกต่อ และข่าวลือท่านสี

จึงนับว่าเป็นสัปดาห์ที่มีสีสันอย่างยิ่ง

ส่วนสัปดาห์นี้ เรามาลุ้นกันต่อเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ กนง ว่าจะขึ้นเท่าไหร่

และลุ้นข้อมูลเศรษฐกิจไทยล่าสุดว่า จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตมากน้อยแค่ไหน ครับ

#บันทึกPerfectStorm #ดรกอบ

 

Sep 26, 2022 รวยต้องจ่าย! รัฐบาลจ่อขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้าหรูฟุ่มเฟือยเกิน 7% คาดได้กว่า 100,000 ล้าน
.
แหล่งข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จะมีการนำประเด็นการจัดเก็บอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) 2 อัตรา มาหารือกันอีกครั้ง เนื่องจากเป็นอัตราภาษีที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด ซึ่งในหลายๆประเทศก็ใช้ลักษณะเดียวกัน โดยสินค้าจำเป็น สินค้าอุปโภคบริโภค โดยจะไม่กระทบประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งจัดเก็บภาษีอัตราปกติ 7% ส่วนสินค้าฟุ่มเฟือย สุรา ยาสูบ เบียร์ สินค้าแบรนด์เนม ร้านอาหารราคาแพง จัดเก็บในอัตราที่สูงกว่า 7% คาดว่าจะสร้างรายได้เข้ารัฐมากกว่า 100,000 ล้านบาท
.
สาเหตุที่กระทรวงการคลังต้องหารายได้ภาษีเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากที่รัฐบาลมีภาระค่าใช้จ่ายสูงขึ้น โดยปีงบประมาณ 2566 มีรายจ่าย 3.185 ล้านล้านบาท ขณะที่รายได้อยู่ที่ 2.49 ล้านล้านบาท ทำให้รัฐบาลมีความจำเป็นต้องหาแนวทางการจัดเก็บรายได้เพิ่ม เพื่อลดการขาดดุลงบประมาณ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามปฏิรูปภาษี ปรับโครงสร้างภาษี เพื่อเพิ่มรายได้ และลดการขาดดุลงบประมาณ แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้

#ภาษี #ภาษีมูลค่าเพิ่ม #คนรวย #ภาษีคนรวย #VAT #BTimes

 

ด่วน!วินาทีนี้ ปอนด์ดิ่งนรก!อ่อนสุดในประวัติศาสตร์แล้ว!!!
(สัปดาห์ก่อน ยังอ่อนสุดแค่รอบ 37 ปี)



มีจังหวะที่ดิ่งลงไปถึง 1.0350 ดอลลาร์/ปอนด์ แล้วนะครับเช้านี้ (เวลาไทยแลนด์)
ข่าวว่ากระหน่ำเทขายใน 20 นาที! ทำให้ร่วงระนาว ราว 5% หล่นไปทำลายสถิติอ่อนสุดเป็นประวัติการณ์
(จากบลูมเบิร์ก ส่วนถ้าของรอยเตอร์ 1.0382 ดอลลาร์/ปอนด์ แต่จะเลขไหนก็ทุบสถิติเช่นกันครับ)
https://www.bloomberg.com/.../truss-faces-new-dangers-as..





ต่อเนื่องจากที่โพสต์ไปวันเสาร์นะครับ ชวนขนพองสยองเกล้ายิ่งนักแล
https://www.facebook.com/HardBoiledPeace/posts/pfbid0vXkodMiYmUP3CAyAsmyKEvaTig6B1A2UauDYyHPmwK5qhiFqu5iMrsUdYzfs82uBl?__cft__[0]=AZXca7ieDEPTDwEsvdgEVXr9xWhoy4JFzvqgIzkKfHxXn1p6XT9rtgN6YWijNzMRPJLHV1flSl1yOPb3yrIGt5pYo1SRRBsvvv9Zbe8xCXSrOJmokppW-oeSSb0toQzTtrzu0GAtv8OLth501WFcFRm6kTrsT0TCowF_677oIskI5A&__tn__=%2CO%2CP-R

 

ทะลวง “จุดยุทธศาสตร์”
พลาดมหันต์! ปล่อยให้หลุดเช่นนี้ได้เยี่ยงไร! ยุทโธปกรณ์เอก ที่ใช้กำราบอริราชศัตรู กลับกลายเป็นมี “ชิ้นส่วน” จากศัตรูอยู่ในนั้น???
1. ปัญหา “ห่วงโซ่อุปทาน” supply chain : หากทะเลากัน แล้วจู่ๆ ศัตรูพาลไม่ส่งชิ้นส่วนนั้นให้ดื้อๆ เท่ากับว่าจบเห่ ไม่มีเครื่องบินรบใช้เลยนะครับท่าน
2. แล้วหากศัตรูสอดไส้ “วางยา” ไว้ในชิ้นส่วนนั้นล่ะก็ เสร็จเลย หายนะ!
.
เกิดอะไรขึ้น? ต้น ก.ย. กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกาอภิมหาอำนาจ “ระงับ” การส่งมอบเครื่องบินรบ F-35 จากบริษัทเอกชนอเมริกัน “ล็อกฮีด มาร์ติน” ให้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาอันแกล้วกล้า เพราะพบว่ามีชิ้นส่วนจากจีนอยู่ในนั้น

วัสดุที่ใช้ทำแม่เหล็กในเครื่องยนต์เทอร์โบ เป็น “โลหะผสม” alloy ที่ประกอบด้วย โคบอลต์ และ ซามาเรียม --- ปรากฏว่ามัน “เมด อิน ไชน่า” มาจากจีน!!!
หมิ่นเหม่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของประเทศ (Defense Federal Acquisition Regulation)

ฉะนั้น ระงับการส่งมอบชั่วคราวไปก่อน

ถ้าตรวจสอบแล้วผลออกมาว่าส่งข้อมูลไม่ได้ ไม่กระทบความมั่นคง และไม่เกี่ยวกับความปลอดภัยของเครื่องบินรบ ก็สามารถ “ยกเว้น” waiver จากมาตรการคว่ำบาตรได้
.
เครื่องบินรบ ประกอบไปด้วยกี่ชิ้นส่วน? มากมาย ซับซ้อน --- ล็อกฮีด มาร์ติน ชี้แจงว่าเต็มไปด้วย ผู้รับเหมารายย่อย เยอะแยะยั้วเยี้ย ยากจะคุมอยู่
ชิ้นส่วนที่มาจากจีน บริษัทเอกชนอเมริกัน “ฮันนี่เวลล์” เป็นผู้รับผิดชอบ

อนาคตอาจเจออีก วันนี้แค่ยังค้นไม่พบ???

ถ้าจะให้เด็ดขาด ก็ต้อง “แบน” เลย --- แบนไอ้ที่จะส่งมา และแบนไอ้ที่บินอยู่บนฟ้าตอนนี้ด้วย
แต่ในทางปฏิบัติ มันทำได้หรือ
ไม่ง่ายนะครับท่านเทคโนโลยี … ถ้ามันง่าย คงไม่ต้องถ่อขนมาจากจีนหรอก (เหตุผลไม่น่าจะใช่เรื่องราคา --- นี่มันระดับเครื่องบินรบพันล้าน ไม่ใช่เครื่องบินวิทยุบังคับเด็กเล่นที่คลองถมนะจ๊ะ)

ให้โละที่ใช้ประจำการอยู่ นี่เป็นไปไม่ได้ 100%
อย่างเก่ง แค่ไม่รับล็อตใหม่ จนกว่าจะสร้างใหม่แบบที่ไม่ใช้ของจีน
ซึ่งนับว่า “ท้าทาย” อย่างยิ่ง
อาจไม่ใช่แค่เรื่องเวลาและราคา แต่ทำได้รึเปล่าเนี่ยสิ ...

เหลือเชื่อ! กลายเป็นกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาถูกพญามังกรเกาะกุม “กล่องดวงใจ” โดยไม่รู้ตัว
จะบีบก็ฟิน จะจิ้นก็เคลิ้ม

https://www.scmp.com/.../trouble-trying-keep-chinese...
https://www.defensenews.com/.../eight-f-35-jets-await.../
https://www.politico.com/.../pentagon-suspends-f-35...

 

การตัดไม้ทำลายป่าในแอมะซอน ของบราซิล เดือนสิงหาคม 2022 เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 80% ขณะไฟป่ากำลังเผาทำลายในอัตราที่น่ากังวล
.
โดยข้อมูลทางดาวเทียมของหน่วยงานรัฐบาลบราซิล Inpe ชี้ว่า นับตั้งแต่ มกราคม - สิงหาคม 2022 การตัดไม้ทำลายป่าส่งผลให้มีการสูญเสียพื้นที่กว่า 7,135 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเพิ่มจากช่วยเดียวกันของปีที่แล้วถึง 19%
.
โดยในเดือนสิงหาคม 2022 มีการตัดไม้ทำลายป่าไป 1,661 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเพิ่มจากเดือนสิงหาคม ปี 2021 ถึง 80% ซึ่งนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมได้กล่าวโทษประธานาธิบดี Jair Bolsonaro ถึงการตัดไม้ทำลายป่าที่เพิ่มขึ้นในแอมะซอน โดยชี้ว่าเขาทำให้กฎหมายสิ่งแวดล้อมอ่อนแอลง สนับสนุนการทำฟาร์มและเหมืองเชิงพาณิชย์ในพื้นที่ป่า
.
ซึ่งเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา รัฐบาลบราซิลก็ได้ให้คำมั่นสัญญาในระดับเวทีโลกในการยุติการตัดไม้ทำลายป่าในปี 2030 แต่ถึงกระนั้น การตัดไม้ทำลายป่าในผืนป่าปอดโลกแห่งนี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
.
ป่าดิบชื้นแอมะซอน เป็นป่าดินชื้นเขตร้อนที่ใหญ่ที่สุด ขนานนามปอดของโลก มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดของโลก ครอบคลุมพื้นที่กว้างขางในหลายประเทศทางอเมริกาใต้ เป็นแหล่งกักเก็บดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และผลิตออกซิเจนให้โลก รวมทั้งยังเป็นแหล่งอาศัยของสิ่งมีชีวิตพืช สัตว์ และชนเผ่าพื้นเมือง เป็นป่าซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างสมดุลภูมิอากาศโลกและช่วยต่อสู้กับภาวะโลกร้อน อย่างไรก็ตาม ปอดโลกสุดสำคัญแห่งนี้กำลังถูกทำลายอย่างหนักจนน่าเป็นห่วง ทั้งจากการตัดไม้ทำลาย การเผาป่า การทำเกษตรกรรม ปศุสัตว์ เหมือง รวมไปจนถึงการพัฒนาต่างๆ
.
โดยเมื่อเดือนสิงหาคม 2022 ที่ผ่านมา ไฟป่าในป่าแอมะซอนของประเทศบราซิล เพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 10 กว่าปี ขณะนับตั้งแต่ช่วงมกราคม - กรกฎาคม 2022 พื้นที่ป่าดังกล่าวได้ถูกตัดทำลายสูงทุบสถิติในช่วง 7 เดือนแรกของปี ซึ่งนับว่าเป็นการตัดไม้ทำลายป่าที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มบันทึกมาในปี 2022
.
ป่าแอมะซอน และป่าฝนหลายแห่งของโลกกำลังเผชิญภัยคุกคามอย่างหนักจากการตัดไม้ทำลายป่า ผืนป่าเหล่านี้มีความสำคัญอย่างมากต่อสิ่งมีชีวิต ระบบนิเวศ และการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง นักวิจัยได้เป็นกังวลว่าป่าแอมะซอนกำลังถูกทำลายจนอาจถึงจุดแตกหักในอนาคต และจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อโลก
.
ที่มา

https://www.reuters.com/.../brazil-sees-dramatic-spike.../