ต้องการฝึกมโนมยิทธิกับอจ.ที่รู้จริง

ต้องการฝึกมโนมยิทธิกับอจ.ที่รู้จริง มีท่านใดแนะนำได้บ้างครับ

ผมเคยไปซอยสายลมมา แต่ขอโทษนะครับ ขอบอกตามตรงว่า อจ.ที่มาสอนอาจจะได้หรือไม่ได้ก็ได้ เรารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ตอนไปคราวก่อน ยังเห็นอจ. โมโหเถียงกับคนที่มาฝึกจนหน้าดำหน้าแดง

มีที่ไหนที่แนะนำได้บ้างครับ

ขอบคุณครับ

 

พระที่ท่านสอนเดินกายคตาสติ อสุภะกรรมฐาน จะทำให้เราได้มโนมยิทธิ

ก็ลองหาดู มีเยอะ ไม่ว่าจะเป็นพระป่า หรือพระบ้าน

 

ผมรู้จักอาจารเก่งๆ เเต่ไม่เน้นมโนมยิทธิ เเต่การฝึกมันต้องโหดพอควร
ต้องรู้สภาวะต่างๆ ฝึกตั้งเเต่ไม่กี่ทุ่ม ถึงเช้า(ซึ่งผมก็ไม่ไหว^_^)
เเละก็มีพระรูปนึงบอกกับผมเหมือนกันว่าถ้าไม่ ทำเเบบนี้ฝึกยังไงก็ไม่สำเร็จ

เลยคิดว่าสำคัญที่ตัวเรามากกว่า หาอาจารย์เก่งๆคงไม่ยาก
สำคัญที่ว่าเราโหดพอรึเปล่าทนมารไหวรึเปล่า ถ้าเราไหว อาจารย์เก่งๆเหล่านั้น
คงอยากสอนเรามากกว่าเเละเต็มที่มากกว่า ...ผมเชื่อเเบบนั้น

 

ผมรู้จักอยู่คนหนึ่ง บ้านอยู่นนทบุรีเหมือนกัน สอนเก่งนะ

เที่ยวสอนหลายจังหวัดทีเดียว ขึ้นเหนือ ล่องใต้

เสียดาย.............ตายไปแล้ว หัวใจวายระหว่างเดินทาง

 

พี่ครับ ลองฝึกแบบผมไหม พี่สวดมนไหว้พระ นะ (สวดทุกวันยิ่งดี)
มี เอาบท นะโมตะสะ 1 อิติปิโส 2 พาหุง 3มหาการุณิโก 4ชินบัญชร
5ปารมีสามสิบทัศ 6 ยอดพระกัณไตรปิฏก แล้วขออโหสิกรรม ละอุทิศบุญนี้ (กรวดนํ้านั้นละ)
แล้วแผ่เมตตา รวมแล้ว 2ชั่วโมงกน่าจะได้ แล้วอฐิธานขอไห้พระพุทธเจ้า
มาสอน มโนมยิทธิ รับรองครับไม่เกินครึ่งปี ได้แน่พี่ ผมลองมา 3ปีกว่า เป็นแต่ได้ตอนหลับนะ
ผมนั่งสมาธิไม่แข็ง เลย นอนเอาอะ ฮิฮิ ลองแบบผมดูนะ ถ้าหาอาจารย์ไม่ได้จิงจิง

 

ไปวัดท่าซุงสิครับ
แต่อาจารย์เก่งหรือไม่เก่ง... จริงๆแล้วเวลาที่ฝึกนะ
อาจารย์ท่านขอบารมีพระพุทธเจ้า พระอริยสงฆ์และเทวดากับพรหมมาช่วยสงเคราะห์นะครับ
ท้ายที่สุดแล้วได้หรือไม่ได้ อยู่ที่กำลังใจของผู้ปฏิบัติ
ถ้ามีวิจิกิจฉาในอาจารย์และวิธีการ ก็ยากที่จะสำเร็จ

 

ศูนย์พุทธศรัทธา สระบุรี ลอง search หาใน google ค่ะ

 

อะฮ้า....คุณขอรับ คุณอยากจะมีมโนมยิทธิ หรือมีฤทธิ์ทางใจ คุณไม่ต้องไปหาอาจารย์ดอกขอรับ เพราะหลักการทางพุทธศาสนา ไม่ได้เน้นให้บุคคลฝึกเพื่อให้เกิดมีฤทธิ์
ความจริงแล้ว คุณก็มีฤทธิ์ทางใจอยู่แล้ว เพียงแต่เป็นฤทธิ์ทางใจของปุถุชน ไม่ใช่ฤทธิ์ทางใจของพระอริยะบุคคล
แต่ก่อนที่คุณจะมีฤทธิ์ทางใจแบบอริยะบุคคล คุณก็ควรฝึกฝนให้เกิดฤทธิ์ทางใจแบบปุถุชนไปก่อนเถอะนะขอรับ
คงไม่เข้าใจและสงสัยละซิ จะยกตัวอย่างให้ได้พิจารณานะขอรับ
คุณทำอาหารเป็นหรือไม่ ถ้าคุณทำอาหารเป็น นั่นแสดงว่าคุณมีฤทธิ์ทางใจ และสามารถแสดงฤทธิ์ได้ เพราะมีความรู้ในเรื่องการทำอาหารและสามารถทำอาหารได้จริง อย่างนี้เป็นต้น
อ่านแล้วกรุณาใช้วิจารณญาณด้วยนะขอรับ

 

ถึงมีอาจารย์ร้จริงๆ มาสอน ก้ไม่แน่ว่า เราหรือจขกท.จะปฏิบัติได้นะครับ... เพราะว่าเรื่องนี้นอกเหนือจากศรัทธา ก้ขึ้นอย่กับการปฏิบัติไปด้วย เขาว่ามโนมยิทธิ เกิดขึ้นด้วยจิตเปนสมาธิส่วนหนึ่ง และอาศัยอำนาจของปิติที่มีอย่อย่างแรงกล้าอันได้จากสมาธิเปนตัวช่วยผลักอีกส่วนหนึ่ง ฤทธิทางใจที่ว่าถึงจะสำเร็จผลได้ โดยคห.ผมเหนว่าควรร้จักทำจิตใจให้สงบร่มเย็นก่อนครับ ถ้าสงบได้ จะฝึกแนวไหน ก้สามารถฝึกได้โดยไม่ยาก แต่เท่าที่ผมอ่านมาในหลายๆ กท. จะเน้นให้สวดมนต์บทยาวๆที่คิดว่าขลังที่สุด จนจิตเริ่มสงบจากนั้นค่อยน้อมจิต ตามแรงอธิษฐานว่าอยากจะเหนอะไร แต่ส่วนใหญ่คนที่พาอธิษฐานหรือพาให้เราอยากเหน จะเปนอาจารย์ที่นำในการปฏิบัติ เปนคนกล่าวมากกว่า

ไม่ก้ลองทำอย่างที่ กท.#5 โพสท์ไว้ก้อดีเช่นกัน เพราะการสวดมนต์เมื่อสวดบ่อยๆทำให้เกิดสมถะได้ง่าย และเปนการฝึกสมถะไปในตัว จิตสงบเกิดได้จากการสวดที่ติดๆต่อเนื่องกันไป เหมือนบางคนชอบสวดอิติปิโส108 บางคนชอบสวดชินะบัญชร 7 จบ สติสมาธิมันจะมั่นคงดีมาก มันดีสำหรับคนที่มีเวลามากๆ แต่ไม่ดีสำหรับคนที่เวลาน้อยแล้วต้องหาเช้ากินค่ำ จะไม่มีเวลาสวดครบได้เลย แต่ถ้าสวดได้ ถือดีมาก เวลาจิตสงบแล้วร้สึกปิติยินดีเหลือเกิน แล้วอธิษฐานจิตออกไป รับรองว่าได้ผลๆ ......เอาเปนว่าพูดได้เพียงเท่านี้
ส่วนรายละเอียดต้องไปฝึกให้มากกว่านี้