ต้องการแค่นอนสมาธิ เพื่อให้หลับสงบ ไม่หวังอะไร ต้องระวังอะไรไหมคะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย catsan, 27 มีนาคม 2018.

  1. ใต้สรวงสวรรค์ ตรีเอกภาพ

    ใต้สรวงสวรรค์ ตรีเอกภาพ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +11
    เวียนว้ายตายเกิดนี้มันก็เกี่ยวกับการนั่งสาธินะ เพราะว่ามันก็คือณานนี้และมันเป็น
    ณานสู่คลุ่มนรกไงเวียนว้ายตายเกิดคนก็กลัว
    เก็บไปจนตายพอดี
     
  2. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    การเวียนว่ายตายเกิด มันเกี่ยวกับจิตใจที่ขัดเกลากิเลสออกให้เหลือแต่จิตบริสุทธิ์ไม่ได้
    เนื่องจากขาดความเพียร และขาดปัญญาฮับ ไม่ใช่เรื่อง" นั่งมาธิ"หรือ
    นอนมาธิคับ
     
  3. catsan

    catsan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +54
    เพิ่งลองนั่งสมาธิบนรถแอร์เมื่อ ส.อา. ที่ผ่านมา นั่งรถแล้วเพลีย จะหลับ ก็เลยนั่งสมาธิซะเลย พยายามจะหายใจให้ท้องป่อง แต่ก็จะได้กลิ่นควันเยอะไปหน่อยเลย กึ่งๆ เต็มที่กับครึ่งเดียว
    เห็นแสงสีเหลือง แล้วก็ม่วงน้ำเงิน
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ระบบหายใจแรกๆต้องฝืนหน่อย
    ธรรมชาติร่างกายจะเริ่มเปลี่ยนเอง
    อย่างน้อย ๒ สัปดาห์ (ขาดๆเกิ๊นๆ
    หลงๆลืมๆ สลับๆ งงๆ เรื่องปกติ)
    ทำได้ต่อเนื่อง ๒ เดือน
    ถึงจะกลายเป็นระบบหายใจใหม่ได้เอง
    ทีนี่มันจะเป็นไปตามธรรมชาติได้เอง
    เพราะร่างกายจะคุ้นเคย


    ฐานดีฝึกอะไรก็เข้าถึงง่าย
    เพราะความละเอียดมันจะรองรับ
    ได้ทุกกรรมฐาน(๔๐ กอง)
    รวมทั้งวิชาพิเศษสายต่างๆ
    หากว่าจะลองทำ
    จะพบว่า ไม่ยากเลย

    การไม่ให้ความสำคัญตรงนี้
    เป็นเหตุหนึ่งที่บางดวงจิต
    ฝึกเป็น ปี ๑๐ปี ๒๐ปี หรือทั้งชาติ
    ถึงไม่สามารถเข้าถึงระดับใช้งานได้จริง
    เลยเปลี่ยนแนว ไปทางปัญญา
    พูดจาใช้ศัพท์สูงๆแทน
    แต่จิตจะเข้าใจได้อย่างไรหละ
    เพราะสภาวะมันเป็นนามธรรม
    มันมาคิด วิเคราะห์ ตีความเอาไม่ได้
    ถ้าไม่ผ่านการปฎิบัติมาก่อน


    ฐานไม่ดี
    มันจะค้าง ติด ในกิริยาระหว่างทาง
    หากมองข้ามพื้นฐานสำคัญตรงนี้ไป
    และจะเผลอไปหลงกับผลสำเร็จของกรรมฐาน
    ที่ตำราว่าไว้ ทั้งๆที่ตนยัง
    เข้าไม่ถึง

    เหตุเพราะ
    บ้างก็ว่าไม่เท่ห์
    เพราะมันดูไม่หล่อ
    ไม่เหมือนเอากิริยาระหว่างทางที่ได้เจอมาพูด
    มันดูพิสดารยิ่งนัก พูดแล้วหล่อดี
    (ทั้งที่ยังใช้งานไม่ได้ ก็คิดว่าตนเท่ห์ได้
    น่าประหลาดใจยิ่งนัก)
    บ้างก็หาว่าไปดูแคลน หาว่าอ่อน

    ก็เมื่อมีแต่รถคันโก้ๆ (เอาไว้
    เข็นไป คุยอวดไประหว่างทาง)
    แต่ไม่มีน้ำมัน
    เมื่อไร่จะถึงปลายทาง
    หละออเจ้า แมน บ่

    แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง
     
  5. catsan

    catsan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +54
    ถ้าปกติทำสมาธิที่ห้อง ไม่ว่าจะนอนสมาธิ หรือว่านั่งสมาธิ ก็จะหายใจเข้า ท้องป่อง หายใจออก ท้องแฟ่บได้ค่ะ ถ้านอนสมาธิก็จะหลับไปเลยค่ะ
    แต่ถ้านั่งมันโงนเงนจะร่วงจะคว่ำ ก็เลยไม่ค่อยนิยมนั่ง อีกอย่างเวลาตั้งใจว่าจะสวดมนต์น้อย+ทำสมาธิแค่ 10 นาที คือรวมๆ แล้วไม่อยากให้เกิน 30 นาที มันทำไม่ได้ค่ะ กะนั่งสมาธิแค่ 10 นาทีทีไรมันลืมตามาเกิน 30 นาทีตลอด

    เลยเลือกมานอนสมาธิแล้วก็ให้หลับไปเลย แหะ แหะ
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    นั่งแล้วหลับ หรือสัปหงก
    หรือจม หรือแช่ ไม่พัฒนาต่อ
    ก็คือ กำลังสมาธิสะสมไม่พอ
    แก้ด้วยเจริญสติในชีวิตประจำวันให้ต่อเนื่อง
    สลับกับเดินจงกลมร่วมกับตอนนั่ง
    และทำสมาธิเล็กๆน้อยเอาแค่สงบในระหว่างวันครั้งละ ๒ ถึง ๓ นาทีก็ว่าไป แต่ทำบ่อยๆ

    นอนถ้าจะไม่ให้หลับ
    ลมหายใจต้องมากระทบ
    ที่ส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายแทน
    เช่นนิ้วมือ แล้วระลึกรู้สึกที่นิ้วมือแทน

    ลมหายใจลึก ถึงท้องหมายถึงว่า
    ในเวลาใช้ชีวิตปกติทั่วๆไป ไม่ใช่
    เฉพาะเวลาทำสมาธิครับ
    เพราะใครก็ๆทำได้ทั่วไป

    ที่พูดมาข้างบน
    เป็นอภิมหาเบสิกทั่วไป

    สมาธิเราไม่ได้ดูที่ระยะเวลาที่นั่งได้
    เราจะดูสภาวะที่เข้าถึงได้
    เช่น เข้าถึงระดับปฐมฌาน ภายใน ๑ นาที
    คือจบ กับ นั่งได้ ๓ ชั่วโมง หมายถึงสภาวะเดียวกันไร้ประโยชน์ เพราะเป็นสมถะ

    ในทำนองเดียวกัน การอยู่ในระดับนี้ ๓ ชั่วโมง กลับพบว่า เป็นการสร้างให้จิตพิการ
    หรือซื้อบื้อโดยคาดไม่ถึง และสร้างความคุ้นเคยให้จิตแบบไม่ฉลาด เพราะนอกจากจะไม่เกิดผลอะไร อาจหลงตนว่านั่งได้เก่ง

    ถ้าไปต่อไม่ได้ หรือไม่คิดพัฒนาต่อ
    หรือพอใจแค่นั้น
    ควรเอากำลังมา
    วิปัสสนา แต่ต้องรู้จักการวางอารมย์ระหว่างวัน เรื่องที่จะพิจารณาด้วย
    เรื่องอะไร ก็เป็นเรื่อง
    ที่เราอ่อน(หมายถึง โทสะ โมหะ โลภะ)
    ที่เราเห็นได้ จากกำลังสติใน
    ระหว่างการเจริญสติในชีวิตประจำ
    วันนั่นหละครับ
    สมาธิที่จะเกิดผล คือสมาธิแบบธรรมชาติ
    ระยะเวลาที่นานมากขึ้น ตรงสภาวะนี้
    ถึงจะมีประโยชน์ครับ
    (ธรรมชาติ คือ เป็นเอง เข้าได้เอง
    ไม่ใช่การใช้กำลังจิต หรือมานั่งเกร็งกล้ามตะระรูดเพื่อเข้า)

    ส่วนสมาธิที่เป็นสัมมาหรือมิจฉา
    เราจะดูตอนใช้งานได้แล้ว
    (ใช้งานได้ในกำลังระดับนั้นๆ
    ไม่ใช่เคยเข้าได้ในระดับนั้นๆ)
    ถึงบอกได้
    ว่ามันเสื่อมหรือไม่ มันพัฒนาขึ้น
    เรื่อยๆหรือไม่
    หรือใช้เพื่อเป็นฐานสำหรับเดินปัญญา
    หรือไม่.

    การที่ยังต้องฝึกเข้าอยู่
    การจม การแช่ในสมาธิอยู่
    ถือว่าเป็นมิจฉาทั้งหมดครับ
    เพราะมันมีตัวเรา ตัวจิต
    เข้าไปกระทำอยู่
    แต่ก็จำเป็นในช่วงแรกๆ
    ของการฝึกสมาธิครับ

    ปล นัยยะ “สมาธิได้แล้วมันจบ
    มันฝึกเอาต่อไม่ได้
    มันต้องทิ้งเอา”


     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ปล.ทั่วไปไม่มีอะไรหรอกครับ
    เรื่องนามธรรมทั้งหลายอย่าไปยึด
    แม้เห็นได้ด้วยตาเปล่าก็อย่าไปยึด
    และเรื่องนามธรรมถ้าไม่เข้าใจ
    ด้วยตนเองให้นึกเสียว่า ไม่เคยเกิดขึ้น
    บนโลกใบนี้(จักรวาลจะเห็นภาพชัดไป ๕๕)
    เรื่องนามธรรม ถ้าไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์ผู้อื่น
    หรือประโยชน์ทางธรรมและถ้าไม่มีใครถาม
    หรือไม่จำเป็นจริงๆอย่าพูด
    ถ้าจะพูดควรเลือกที่จะพูดให้ดีๆ ว่าควรพูดแค่ไหน
    (บางเรื่องเราก็รู้ของเราคนเดียวก็ได้
    ไม่จำเป็นต้องบอกให้ใครรู้)
    หรือถ้าจะพูดเพื่อหาวิธีแนวทางไปต่อพูดได้
    ประมาณนี้หละ ตามเหตุและปัจจัย
    ทางสมาธิพูดครั้งหนึ่ง อย่างเก่งก็ช้าไปสัปดาห์หนึ่ง
    ปกติจะช้าไป ๒ สัปดาห์
    ควรทำจนกระทั่งเข้าถึงผลสำเร็จก่อน
    มันจะย้อนรู้ได้ทุกกิริยาที่ผ่านมาแบบละเอียด
    ตามวิสัยของจิตเราได้เองอยู่แล้วเป็นปกติครับ
    เล่าให้ฟังเล่นๆ
     
  8. apekfudsuvl

    apekfudsuvl สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2018
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +14
    หลายท่านตอบได้ดีครับ

    ส่วนความคิดเห็นของผมคิดว่า ที่คุณเข้าใจว่าไม่ขอเกิดเเต่ไปสวรรค์(ภพเเห่งความสุข) ผมคิดว่าตรงนี้คุณเข้าใจผิดทางธรรมเรียกว่า มิจฉาทิฏฐิ ความทุกข์กับความสุขเป็นเงาซึ่งกันเเหละกัน เช่นถ้าคุณไม่รู้จักทุกข์ เเล้วที่สุข มันจะเป็นเเบบไหนล่ะ คือจริงๆมันก็สุขแบบตรงเข้ากับทุกข์ยังไงละ

    การไปสวรรค์ก็ตามตำราคือไปเน้นเสพสุข เสพบุญกุศล บาปนั้นเดียวหลังจากตายหรือจุติบนสวรรค์ ก็มีโอกาสสูงไปรับบาปต่อถ้าไม่ สร้างบุญต่อ ต้องเข้าถึงสภาวะนิพพาน ถึงหลุดได้ตามตำราบอกมา

    ส่วนไอ้เเสงที่คุณว่ามันก็ปกติของคนทำสมาธิ ตอบสั้นๆนะ (ปกติสีสว่าง)

    ส่วนเเสงสีต่างๆผมว่าเป็นมโนภาพของเเต่ละคนมากกว่า (ไม่ให้ความสำคัญ)

    การรู้เห็นในสมาธิเป็นของที่วัดเเยกเเยะได้ยาก เพราะอะไรหรอ ก็เพราะว่า ตัวเรานั้นประกอบด้วย
    1 ความคิดปรุงเเต่ง เช่น สี ต่างๆ ต่าคงนต่างชอบ 2 ความจำได้จากประสบการณ์ในโลกรวมถึงหลังจากที่ปรุงเเต่งเเล้ว 3 อรรมณ์ สุข ทุกข์ วางเฉย 4 ความรู้สึกเห็นทางกาย ทั้งหมดนี้ขณะทำสมาธิ อารมณ์ความนึกคิดการปรุงเเต่งอาการรู้ทางกายมันจะจรเข้ามาเรื่อยแบบเเรงบ้างอ่อนบ้าง(ไม่รู้ตัว) เจือเเต่งเข้ามาในอารมณ์ของจิตที่ไปรู้ ดังนั้นถ้าคุณไม่ใช้พระอรหัตน์เเล้วล่ะก็ ไอ้ที่จะไปรู้เห็นอะไรมันก็เจือไปด้วยกิเลส ปรุงเเต่งต่างๆนั้นเเหละครับ เชื่อไม่ได้ จึงต้องอย่าไปสนใจมันยังไงละครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2018
  9. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ความปกติคืออะไรควรรู้แลความไม่ปกติเป็นอย่างไรก็ควรรู้ ทั้งสองสิ่งต่างก็มีที่มาโดยธรรมชาติมิได้เกิดจากการบังคับแต่อย่างใดถ้า พึงใจเชื่อสิ่งใดก็ตามนั้น...อย่ากังวลอีกเลย
     
  10. catsan

    catsan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +54
    คือเห็นอะไรก็เฉยๆ ไป ดูไป แล้วก็ไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องอยากรู้ ละไปเลย ใช่ไหมคะ
     
  11. apekfudsuvl

    apekfudsuvl สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2018
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +14
    ครับ เเละเรียนรู้ศึกษา สังเกตุ ตั่งสติ ต่อไปครับ จะเก่งขึ้นเเละเข้าใจถูกต้องชัดเจนมากขึ้นครับ
     
  12. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    ก่อนผมมาปฎิบัติก็แบบนี้เหละ ฝันว่าลอยได้บ้าง เดินลงน้ำบ้าง บินไปอวกาศบ้าง หายตัวบ้าง

    พอมาปฎิบัติก็เห็นแต่นิมิตร จนไม่รู้จะทำยังไง เคยจุดธูป 16 ดอกขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ปฎิบัติแบบไม่รู้ไม่เห็นอะไร

    หายไป 6 เดือน ก็กลับมาเห็นนิมิตเหมือนเดิม

    ก็เลยต้องยอมรับ ว่าเราไม่สามารถหนีชะตากรรมของเราได้ เห็นก็เห็นไป ตอนภาพหมดก็ค่อยวิปัสสนา ก็แค่เพิ่มเวลาปฎิบัติเข้าไป นิมิตรไม่ได้อยู่ตลอดเวลา
    แค่ไม่หลงนิมิตร แต่ก็ไม่ปฎิเสธ ก็แค่ดูเฉยๆ พอหมด เราก็ไปต่อได้ ขอให้จับปลายทางไว้ให้มั่น

    ลด ละ กิเลสลูกเดียว
     
  13. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    หลังๆมานี่ ผมมาปฎิบัติ พุทธานุสติ ระหว่างวัน จับภาพพระตลอด
    นิมิต ชอบเกิดนัก ผมเลยแก้ด้วย สร้างนิมิตทั้งวันไปเลย
    ค่อนข้างได้ผลมาก ตอนปฎิบัติไม่ค่อยมีนิมิตมากวนอีก
     
  14. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    เห็นคุณ hastin พูดเรื่องพุทธานุสติพอดี
    เลยพอนึกอะไรได้บ้างอย่างครับ
    ส่วนตัวมองเห็น ข้อ ดีของพุทธานุสติอย่างหนึ่งครับ...
    ถ้าอฐิษฐานครอบกายตนเองไว้เวลานอนได้
    จะป้องกันอาการปราณรั่วหรือปราณไหลออก
    หรืออาการจิตออกไปตามตัววิญญานได้
    เพราะช่วงเวลาที่เรานอนนั้น เราจะอ่อนแอที่สุด

    กิริยาที่รั่วไหลออกตามตัววิญญานนั้นคือ
    การที่จิตมันจะส่งออกไปรับรู้ภายนอก
    เช่น ไปได้ยินเสียงต่างๆนาๆหรือ ไปรู้เรื่องๆราวต่างๆ
    แล้วดึงกลับมาที่กาย ส่งผลให้เราสะดุ้งตื่นนั่นหละครับ
    (อาการพวกนี้ ไม่ใช่เรื่องดีนะครับ เพราะตัววิญญาน
    การรับรู้ของจิต มันส่งออกไปเรื่อยเปื่อย
    เล่าให้ฟังเฉยๆ เพื่อบางคนจะเข้าว่า เป็นความ
    สามารถพิเศษในการรับรู้ของจิต)

    ซึ่งการที่ใครก็ตามสามารถเขียนยันต์กลางอากาศได้
    สามารถสวดมนต์บทต่างๆได้ แต่ยันต์หรือบดสวดนั้น
    จะทำหน้าที่ผลัก ป้องกัน พลังงานไม่ดีภายนอกเข้ามา
    แต่จะไม่ป้องกัน กรณีที่รั่วไหลหรือตามตัววิญญาน
    ออกไปรู้ภายนอกได้

    ส่วนอานิสงค์อีกอย่างที่ได้ยินมา
    จะได้บุญมากกว่า การทำเรื่องอื่นๆ
    อย่างหลัง ท่านว่ามา แต่ไม่ทราบ
    ว่าเป็นอย่างไรครับ

    ปล.แค่เพียงแต่เล่าให้ฟังครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...