ถอดจิตด้วยพุทโธ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ฐสิษฐ์929, 5 ธันวาคม 2013.

  1. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    เป็นประสพการณ์ส่วนตัวที่ปฏิบัติมาในอดีตครับ
    ในช่วงนั้นผมบวชเป็นพระและก็ออกไปปริวาสกรรมตามวัดต่างๆที่เขาจัดงาน ผมได้พบพระรูปหนึ่งท่านแนะวิธีถอดจิต ซึ่งท่านรับประกันหากตั้งใจปฏิบัติก็จะสามารถทำได้ภายในเวลาไม่เกิน 15 วัน
    ช่วงนั้นผมก็พอมีพื้นฐานทางสมาธิอยู่บ้าง ผมเอาวิธีที่ท่านแนะนำมาปฏิบัติ ใช้เวลาเพียง 1 วัน ก็สามารถทำได้
    วิธีปฏิบัตินี้ก็คือให้กำหนดพุทโธทุกเรื่อง ทุกอย่าง ทุกอริยาบท ไม่ว่าจะเป็นนั่ง นอน ยืน เดิน กิน ขับถ่าย ของใช้ ของกินทุกชนิดให้เปลี่ยนชื่อเรียกเป็นพุทโธทั้งหมด งดการสนทนากับผมผู้อื่นให้มากที่สุด ทำตลอดเวลาทั้งวัน ตั้งแต่ตื่นนอนไปจนหลับ และให้นั่งสมาธิกำหนดพุทโธจะอิงลมหายใจด้วยหรือไม่ก็ได้
    ก่อนนอนทุกครั้งต้องนั่งสมาธิก่อนทุกครั้ง
    ขณะที่จิตออกนั้น บางครั้งก็ลุกขึ้นเดินออกมาเลยอย่างไม่รู้ตัว บางครั้งก็หมุนเป็นเกลียวลอยขึ้นไปในอากาศและตกลงมาที่ใดที่หนึ่ง การไปมาของจิตที่ถอดสามารถเดินไปอย่างปรกติก็ได้ หรือจะละลึกเอาให้ไปใหตำแหน่งใดที่มองเห็นในขณะนั้นก็ได้ เมื่อต้องการกลับเข้าร่างให้ระลึกถึงร่างกายและกำหนดในใจว่า "กลับ" จิตก็จะกลับมาที่เดิม
    ครั้งหนึ่งขณะถอดออกไปผมเคยไปเจอพวกวิญญาณที่ฮวงซุ้ยแห่งหนึ่งแต่ไม่ทราบว่าที่ใด พวกมันก็วิ่งไล่ผม ผมก็วิ่งหนี ขณะวิ่งหนีผมก็ระลึกถึงร่างและกำหนดว่า "กลับ" จิตก็กลับมาที่เดิม แต่ครั้งนั้นก็กลัวอยู่พอสมควร
    ผมถอดเองบ้าง มันออกเองบ้าง ต่อเนื่องอยู่ประมาณ 1 ปี ผมก็เบื่อและบางครั้งก็กลัวด้วยเพราะมันไปทั่วไม่รู้ว่าเป็นที่ใด ก็เลยหยุดทำครับ
    หากมีเวลา ก็สามารถทดลองดูได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2013
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ขอบคุณที่เล่าให้ฟังครับ.ปล.ขอเล่าเสริมๆหน่อยนะครับ
    เพื่อใครทำได้หรืออยากลองทำก็สุดแล้วแต่นะครับ.
    แต่ควรจะอ่านบทความที่จะเขียนต่อไปนี้ประกอบการพิจารณาดูก่อน
    เรื่องทำนองนี้เราไม่ควรให้ความสำคัญมากกว่าการเจริญสติให้ต่อเนื่อง
    ให้ได้ทั้งวันเพื่อสร้างสติทางธรรมสำหรับบังคับและ
    ควบคุมจิตให้อยู่ในร่างกายให้ได้ก่อนถึงจะไป

    เราต้องมั่นใจว่าเรามีสติทางธรรมตัวนี้พอสมควร.
    สติทางธรรมตัวนี้หละครับที่เราจะได้เปรียบภพภูมิอื่นๆ
    ที่เค้าจะไม่สามารถสร้างได้เหมือนเราเพราะว่าเค้าไม่
    ร่างกายเหมือนเราๆถึงแม้ว่าการออกไปของดวงจิต
    แม้ว่ามันดูว่าจะไม่ยึดติดกับสิ่งที่เห็น และดูเป็นธรรม
    แต่ว่ามันยังเป็นกิเลสธรรมอยู่.

    เพราะด้วยลักษณะนิสัยเดิมของดวงจิต
    ที่ชอบท่องเที่ยวมันจะคอยออกไปข้างนอกอย่างเดียว
    .มันจะทำให้เราไม่สนใจเรื่องการเดินปัญญา เพื่อลด ละกิเลส.
    และจะหลงไปกับการที่จะถอดดวงจิตอย่างเดียว
    และอาจทำให้เราเผลอคิดว่าตัวเองเก่งหรือมีความสามารถ
    กว่าใครตลอดจนกระทั่งยอมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง
    จากตนเองได้ยาก ใครเห็นต่างตัวเองไม่ได้ความคิดตัวเองต้องถูกต้อง
    เป็นอย่างที่ตนคิด และวิธีการของตนดีที่สุดกว่าวิธีการอื่นๆ
    และทำบ่อยๆจะติดนิสัยไปเหมือนกลุ่มฤาษีในอดีตบางกลุ่ม
    ที่เอาแต่ไปเน้นเรื่องสิ่งที่เห็น เน้นเรื่องความสามารถพิเศษที่ใช้สร้าง
    เพื่อยกตนเองฝ่ายเดียว.โดยไม่นำมาใช้ให้ก่อเกิดประโยชน์ในทางธรรม
    และสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นมิฉาทิฐิได้ง่ายแบบไม่รู้ตัว
    หากไม่มาเดินปัญญาควบคู่กันไป.

    .และลักษณะการถอดดวงจิตจะทำให้เรากำหนดสถานที่ๆ
    ตั้งใจจะไปจริงๆได้ยาก.บางทีก็ไปโผล่ยังสถานที่นั้นๆเลย
    และแม้ว่าเหมือนเราไปได้แต่เราจะไม่เข้าใจวัตถุประสงค์
    หรือทราบว่าที่ๆเราไปหรือสิ่งที่เห็นคืออะไรไม่ได้ในบางครั้ง
    หลังจากกลับมาแล้ว หรือ ไม่เข้าใจแม้ว่าจะผ่านไปแล้วหลายวัน
    ..กรณีแบบนี้.หากนักปฏิบัติท่านใดมาถึงก็ตามควรพิจารณาให้
    ดีๆก่อนนะครับ.และควรที่จะดับวงโคจรการเกิดของดวงจิตให้ได้ก่อน
    ตั้งแต่ตอนที่มันกำลังจะขึ้นมา กำลังจะก่อตัวและไม่ให้มันควง
    ขึันเป็นเกลียวแบบก้นหอยแล้วมาเป็นวงกลมได้.
    .และออกทางด้านบนร่างกายได้
    ให้ดับให้ทันจนกระทั้งขั้นตอนที่ดวงจิตจะผุดขึ้นมา แล้วต่อไปจะเหลือแต่การส่งไปแต่จิต.

    หากทำได้จะทำให้เราสามารถไปได้ไกลกว่าไม่ว่าที่ใดๆบนโลกที่เรา
    พอจะนึกได้ และสามารถกำหนดสถานที่ตั้งใจว่าจะไปได้และจะได้รับ
    การต้อนรับที่ดีจากผู้เป็นใหญ่ที่ดูแลสถานที่นั้นๆ แม้ว่าบางครั้งท่านอาจจะไม่ให้เข้าหากเราไม่มีเหตุผลที่ดีพอ
    .และจะไปในชั้นภพภูมิในระดับซ้อนทับบนโลกได้ทุกภพภูมิ.
    .แต่สูงสุดของวิธีการนี้ปกติจะไปได้ไม่เกินชั้นพรหม.ยกเว้นบางกรณี
    และจะทำให้เรามีเครื่องป้องกันตนที่ดีจากครูบาร์ อาจารย์ทางภพภูมิด้วยครับ.
    ไปไหนก็จะปลอดภัยทุกที่ไม่ต้องกลัวอันตรายใดๆ
    หากจะไปเกินชั้นพรหม.ต้องอาศัยหลักการทางวิชาพิเศษร่วมด้วย.
    และประเด็นหลักคือ พอออกไปแล้ว เห็นแล้ว รู้แล้ว และเข้าใจวัตถุประสงค์ในสิ่งที่เห็นได้แล้ว
    ให้ละ แล้ววางเพียงแค่รับรู้.จะป้องกันเราไปกลายเป็นมิจฉาทิฐิแบบไม่รู้ตัว
    อย่างนี้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติในขั้นนี้และในลำดับต่อไปได้ครับ

    ปล.ขอบคุณครับ
     
  3. Prasit5000

    Prasit5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +228
    ถามจริงๆ จิตมันถอดได้ด้วยหรือครับ พระพุทธองค์ตรัสตอนใหนกัน ไม่ได้แย้งนะ อยากรู้
     
  4. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    จะลองทำดูคะ ช่วงนี้ว่างๆพอดี เพิ่งส่งรายงานเสร็จเมื่อวานนี้เอง วิธีนี้อาจจะได้ผลดีกับดิฉันมากกว่าการเจริญสติ เพราะว่าเราอยู่เมืองหนาว เลยจะตายเอาเสียก่อนทรงญาณสำเร็จ เพราะยิ่งต้องทำความรู้สึกทั้งตัว ในขณะที่อากาศหนาวติดลบ ลมพัดทีตัวปลิวจริงๆที่เมืองนี้ ไม่มีใครถือร่ม แต่ใส่ชุดกันฝนเพราะลมแรงมาก ร่มเอาไม่อยู่หักทุกราย และตัวเองก็เป็นคนทนหนาวได้น้อยกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว เลยอยากหาวิธีปฏิบัติที่สบายกว่านี้เล็กน้อย
     
  5. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ในที่นี้น่าจะหมายถึงจิตถอดออกจากร่างหรือ จิตแยกจากกายนะคะ ถ้าคนที่ไม่อคติ เวลาอ่านอะไรก็น่าจะเข้าใจตรงกันว่า มันหมายถึงจิตแยกจากกาย
     
  6. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ตามที่คุณ DuchessFidgette แสดงนั้นละครับ ผมเอาภาษาพื้นๆพอเข้าใจกันเท่านั้นครับ ตรงนี้เป็นทักษะหรือลูกเล่นบางอย่างเท่านั้น
     
  7. Piagk3

    Piagk3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +1,222
    ถ้าทำได้แล้วเอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้างครับ หรือถือว่าเป็นการบรรลุธรรมหรือป่าว
     
  8. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ดิฉันตอบแทนคุณฐสิทฐ์ให้คะ ส่วนคุณฐสิทฐ์จะมาเพิ่มในส่วนใดก็ต้องรอฟังต่อ แต่ถ้าในความเห็นของดิฉัน ประโยชน์อันดับแรกเลยก็คือ การรู้ คะ ว่าของแบบนี้มันมีจริง แล้วรู้แล้วมันได้ประโยชน์อย่างไร ก็คือทำให้หายทุกข์ไงคะ ที่เราทุกข์กันในขันธ์ ห้า หลักๆก็มาจากความไม่รู้ ไม่รู้ว่าเราเกิดมาทำไม, และไม่รู้ว่าทำไมเราถึงมีทุกข์, ไม่รู้ว่าตายแล้วมีวิญญาณจริงหรือ, หรือตายไปแล้วตายเลยจบแค่นั้น

    สำหรับตัวดิฉันเอง แม้ทุกวันนี้จะไม่ถึงกับพูดได้เต็มปากว่ามีความสุข แต่ก็เชื่อว่า เพราะญาณสี่ที่เคยสัมผัสนั้นแหละที่ยังทำให้อย่างน้อยก็มีความทุกข์น้อยกว่าที่ไม่รู้อะไรเลย เพราะถ้าดิฉันไม่เคยประสบกับเรื่องญาณมาก่อน และรู้ว่าภพภูมิต่างๆ วิญญาณ การเกิดใหม่มันมีจริง ป่านนีก็คงจะฆ่าตัวตายไปแล้วละคะ


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2013
  9. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ประโยชน์มีอย่างมากแน่นอนครับ
    ประโยชน์เรื่องของสมาธิ ตรงนี้เป็นฝึกสมาธิแบบหนึ่งซึ่งเป็นชนิดอุกกฤษฏ์ เมื่อนำไปปฏิบัติแล้วผู้ปฏิบัติจะเห็นได้ว่ามีสมาธิขั้นสูงเกิดขึ้น การบรรลุธรรมต้องมีฐานของสมาธิประกอบร่วมด้วย
    ประเด็นนี้อาจมีคำถามตามมาด้วยว่ามีการเจริญสติด้วยหรือไม่ ผมตอบได้เลยว่าเป็นครับ หากขาดสติสมาธิก็ไม่เกิด ตรงนี้เนื่องกันอยู่แล้ว
    แต่ตรงนี้ไม่ใช่การบรรลุธรรมครับ แต่อาศัยฐานตรงนี้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อการบรรลุธรรมได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2013
  10. phutsa

    phutsa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    261
    ค่าพลัง:
    +852
    ผมตกใจมากที่ไปอ่านกระทู้ข้าง ๆ ว่าคุณ DuchessFidgette เป็นคนไม่นับถือศาสนา หรือ Antheist แต่ปฏิบัติจนถึงขั้นที่คนที่นับถือพระพุทธศาสนาหลายคนยังทำไม่ได้ รวมทั้งผม เพราะผมสงสัยที่คนปฏิบัติจนสามารถพิสูจน์ได้ว่าชาตินี้มี ชาติหน้ามี ชีวิตหลังความตายมี หรือพูดง่าย ๆ คือ ไม่สงสัยในคำสอนแล้วในเรื่องดังกล่าว น่าจะยิ่งเคารพนับถือพระพุทธศาสนามากยิ่ง ๆ ขึ้นกว่าคนปรกติ เพราะผมเคยได้ยินมาว่าคนที่ได้ขั้นมโนมยิทธิเต็มกำลัง จะไม่กลับมาเป็นมิจฉาทิฏฐิอีก เพราะผมว่ากำลังจะไปฝึกแบบเต็มกำลังที่วัดท่าซุงพรุ่งนี้ดูอยู่พอดีครับ แต่คิดว่าน่าจะยากอยู่ เพราะทุวันนี้ฌาน 4 เป็นยังไงผมยังทำไม่ได้เลยครับ ถ้าไม่ได้ผมก็ไปถือทำบุญครับ
     
  11. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844

    สำหรับผมใครจะเก่งแค่ไหน อย่างไร ก็แค่นั้นละครับ รวมไปถึงว่าจะจริงหรือไม่อีกด้วย เพราะว่ามันไม่เกี่ยวกับเรา และก็ไม่ทำให้เราดีและไม่ดีไปด้วยแต่อย่างไร ผมเอาเราเป็นหลักดีกว่าครับ เราทำได้แค่ไหนอย่างไรเรารู้อยู่แก่ใจ
    และที่คุณสนใจที่จะไปฝึกไปปฏิบัตินั้นผมขออนุโมทนาให้สำเร็จนะครับ เอาใจช่วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2013
  12. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301

    ดิฉันก็ยังมีส่วนที่ยังทำไม่ได้คะ เช่น วิชชา สาม & ญาณหยั่งรู้ อดีต ปัจจุบัน อนาคต แต่มีบางครั้งที่มาในรูป เทพสังหรณ์ และ ผีบอกอะไรทำนองนั้น.... เหตุใดดิฉันจึงไม่นับถือศาสนาพุทธแบบเต็มตัวก็เพราะ เหตุผลในการประกาศเจตนารมย์
    บางอย่าง อันเนื่องมาจาก ความเห็นในเรื่องศาสนาพุทธของดิฉันไม่ตรงกันกับ ศาสนาพุทธที่เขาแสดงออกในประเทศไทยณ.ขณะนี้ จึงขอเป็น Antheist หรือผู้อยู่ตรงกลางและเชื่อในแบบของเราคะ คงไม่ขอแสดงความคิดเรื่องนี้ ขอพูดเฉพาะแนวทางปฏิบัติเพื่อพ้นทุกข์เท่านั้นคะ

    edit - ที่ประเทศทางตะวันตกก็มีคนที่เขาถึงญาณสี่กันหลายคนนะคะ และในแบบพุทธ อย่าง ของตะวันตก เราไม่ได้จัดศาสนาพุทธอย่างในเมืองไทยแต่ เป็น ปรัชญาการดำเนินชีวิต philosophy มากกว่าจะเรียกว่าเป็น religion ศาสนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2013
  13. Prasit5000

    Prasit5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +228
    ....ผมเห็นด้วยกับคุณ phutsa ที่ว่า "ผมตกใจมากที่ไปอ่านกระทู้ข้าง ๆ ว่าคุณ DuchessFidgette เป็นคนไม่นับถือศาสนา....."
    .....พุทธศาสนา มิได้สอนหยุดแค่ จิต แต่ทะลุถึงญาณ ตัวผู้รู้มีสองตัวคือ ตัวจิต กับตัวญาณ
    .....ผมไม่เข้าใจที่ว่า ญาณสี่ เป็นอันเดียวกับ ญาณ 16 หรือเปล่าครับ
    .....การทำวิปัสสนาต้องตั้งใจใว้ชอบก่อน ต้องมีสัมมาทิฏฐิก่อน แล้วนี้คุณไม่นับถือพระพุทธเจ้า จะเรียกว่า มีสัมมาทิฏฐิได้อย่างไร
    .....การรู้ได้ด้วยญาณ คือทางพุทธเรา เน้นเอาญาณมาดูขันธ์ห้า ให้เห็นเป็นไตรลักษณ์ เพื่อให้เกิดวิปัสสนาญาณ ส่วน พวกอภิญญา เป็นของพระที่ท่าน ได้สมาธิถึงระดับฌาณ
    .....การแยกรูปแยกนาม ก็คือแค่รู้ว่านี้รูป นี้นาม
    .....การเขานิโรธสมาบัติของพระอรหันต์สิของจริง ถึงจะไปได้ด้วยกายทิพย์ กายเนรมิตร
    .....ถ้าไม่มีศรัทธาก็ยาก ที่จะเข้าใจ คนไม่มีอาจารย์ ไม่มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ยากที่จะมีการเชื่อม ญาณเรากับ พระอรหันต์ญาณ
    ....ผมเห็นด้วยกับ คุณ phutsa ที่ว่า ถ้าปฏิบัติถึงระดับหนึ่ง จะมีศรัทธา หมั่นคงใน พระพุทธเจ้า ในคำสอนที่มาจาก สัพพญูญาณของพระองค์
     
  14. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301

    คุณไม่รู้จริงๆหรือว่าแกล้งถามกันแน่คะ คนในหมวด อภิญญา ทุกคนน่าจะรู้อยู่แล้ว
    ส่วนเรื่อง ญาณ เคยเขียนตอบไปแล้วในกระทู้หนึ่ง ลองดูในกระทู้ล่างนี้ มีคนตอบกันเอาไว้มากมาย รวมทั้งดิฉันด้วย



    http://palungjit.org/threads/ระดับอุปจาระสมาธิกายกับจิตแยกจากกันหรือยังคะ.518365/page-4
     
  15. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ขออภัยขอรับ สิ่งที่คุณกล่าวมาทั้งหมด ในหมวด ฌาน(ชาน) เรียกว่า ฟุ้งซ่าน หรือ วิตก วิจารณ์ ฯลฯ ขอรับ ไม่ได้ถอดจิต อะไรดอกขอรับ จะเรียกว่า บ้า....ก็ยังได้เลยขอรับ เพราะ ขณะที่คุณคิดว่า จิตออกไปจากร่างนั้น คุณไม่ได้นอนหลับเลย แต่สมองของคุณสร้างภาพ ก็คือ คิดนั่นแหละ แต่คิดเป็นภาพ ว่าไปโน่น ไปนี่ เพ้อเจ้อขอรับ

    มนุษย์ถอดจิต หรือแยกจิตไม่ได้ดอกขอรับ ไม่มีทางถอดจิตหรือแยกจิตได้เลย เพราะไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องประกอบด้วยความรู้ หลายด้าน ไม่ใช่แค่นั่งสมาธิแถมยัง มี วิตก อยู่เสมอ (ภาวนาพุทโธ) ไม่มีทางดอกขอรับ
     
  16. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ไม่ได้ให้เชื่อ แค่ว่าใครมีเวลาก็ลองดูเท่านั้น จริงหรือไม่พิสูจน์เอาเองครับ
     
  17. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ telwada อ่านข้อความ
    ขออภัยขอรับ สิ่งที่คุณกล่าวมาทั้งหมด ในหมวด ฌาน(ชาน) เรียกว่า ฟุ้งซ่าน หรือ วิตก วิจารณ์ ฯลฯ ขอรับ ไม่ได้ถอดจิต อะไรดอกขอรับ จะเรียกว่า บ้า....ก็ยังได้เลยขอรับ เพราะ ขณะที่คุณคิดว่า จิตออกไปจากร่างนั้น คุณไม่ได้นอนหลับเลย แต่สมองของคุณสร้างภาพ ก็คือ คิดนั่นแหละ แต่คิดเป็นภาพ ว่าไปโน่น ไปนี่ เพ้อเจ้อขอรับ

    มนุษย์ถอดจิต หรือแยกจิตไม่ได้ดอกขอรับ ไม่มีทางถอดจิตหรือแยกจิตได้เลย เพราะไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องประกอบด้วยความรู้ หลายด้าน ไม่ใช่แค่นั่งสมาธิแถมยัง มี วิตก อยู่เสมอ (ภาวนาพุทโธ) ไม่มีทางดอกขอรับ

    ข้าพเจ้าก็ไม่ได้บอกว่าคุณหลอกให้ผู้อื่นเชื่อนะขอรับ แต่ข้าพเจ้าชี้แนะ หรือแนะนำ หรือสอนให้ทุกคนตามหลักพุทธศาสนาเลยขอรับ อ่านแล้วก็คิดพิจารณาเอาเองเถอะขอรับ หรือถ้ายังสงสัยว่าทำไมข้าพเจัาจึงขัดหรือคัดค้าน
    ก็มาพิสูจน์ การแยกจิต ถอดจิต อะไรของคุณจากข้าพเจ้าก็ได้นะขอรับ อิ อิ อิ อิ
     
  18. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ข้าพเจ้าก็ไม่ได้บอกว่าคุณหลอกให้ผู้อื่นเชื่อนะขอรับ แต่ข้าพเจ้าชี้แนะ หรือแนะนำ หรือสอนให้ทุกคนตามหลักพุทธศาสนาเลยขอรับ อ่านแล้วก็คิดพิจารณาเอาเองเถอะขอรับ หรือถ้ายังสงสัยว่าทำไมข้าพเจัาจึงขัดหรือคัดค้าน
    ก็มาพิสูจน์ การแยกจิต ถอดจิต อะไรของคุณจากข้าพเจ้าก็ได้นะขอรับ อิ อิ อิ อิ
    [/QUOTE]
    ก็ตามนั้นครับ
    ถ้าจะพูดถึงหลักปฏิบัติ ถ้าดูโพสต์อื่นๆที่ผมโพสต์ ก็จะรู้อยู่ว่าผมปฏิบัติอย่างไร
    ตรงนี้เพียงเป็นทักษะเล็กๆน้อยๆ ที่ผมเคยลองมาแล้ว และก็เลิกไปแล้ว ไม่ใช่สาระอะไร
    ใช่หรือไม่ธรรมะวิจารณ์ก็ว่ากันไป ผมเน้นในการปฏิบัติด้วยตัวเอง รู้เองเห็นเอง ไม่ว่าเรื่องนี้หรือเรื่องไหน ส่วนคนอื่นจะเน้นเรื่องไหนก็ตามใจ
    ก็แค่นั้นครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ธันวาคม 2013
  19. Prasit5000

    Prasit5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +228
    ผมสะใจ ที่คุณ telwada ตอบว่า "มนุษย์ถอดจิต หรือแยกจิตไม่ได้ดอกขอรับ...."มันตรงกับคำสอนที่ถูกต้องเลย จิตมันเป็นกองหนึ่งในขันธ์ห้า จิตมันจะเกิดก็ต้องเกิดร่วมกับขันธ์ไดขันธ์หนึ่ง หรือมากกว่า มันจะแยกออกมาได้อย่างไร มันดับแล้วก็เกิดตามเหตุตามปัจจัยที่ให้เกิด
     
  20. wisarn

    wisarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    727
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,503

แชร์หน้านี้

Loading...