ถอดรหัสกลอนพระเจ้าตาก

ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยศึกษาประวัติพระเจ้าตากสิน และมีความรู้สึกว่าคุ้นเคยหรือเกิดในสมัยท่าน รวมทั้งสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯด้วย โดยเฉพาะ ร.1 นี้ ใจเรียกพ่อเลย แต่ในใจลึกๆแล้ว รวมทั้งอุปนิสัยของผมจะไปทางพระเจ้าตากเสียมากกว่า
.
ผมเคยอ่านกลอน
อันตัวพ่อ ชื่อว่า พระยาตาก
ทนทุกข์ยาก กู้ชาติ พระศาสนา
ถวายแผ่นดิน ให้เป็น พุทธบูชา
แด่พระศาสนา สมถะ พระพุทธโคดม
ให้ยืนยง คงถ้วน ห้าพันปี
สมณะพราหมณ์ชี ปฏิบัติ ให้พอสม
เจริญสมถะ วิปัสสนา พ่อชื่นชม
ถวายบังคม รอยบาท พระศาสดา
คิดถึงพ่อ พ่ออยู่ คู่กับเจ้า
ชาติของเรา คงอยู่ คู่พระศาสนา
พุทธศาสนา อยู่ยง คู่องค์กษัตรา
พระศาสดา ฝากไว้ ให้คู่กัน
.
ซึ่งอ่านแล้วก็เข้าใจไปตามตัวอักษร เข้าใจไปตามเนื้อความนั้นๆ ยังไม่ได้เข้าใจลึกๆ ลงไปลึกๆ หรือถอดรหัสความหมายแต่อย่างใด
.
ผมมักไปสวดมนต์ สวดพระคาถาชินบัญชร กับชมรมสวดพระคาถาชินบัญชร ของสำนักปู่สวรรค์ ซึ่งจัดให้สวดตามลานพระบรมรูปต่างๆ ตามวันต่างๆ เริ่มสวดเวลา 19.30 น.
.
ซึ่งลานพระเจ้าตาก วงเวียนใหญ่ จะสวดกันประจำทุกวันเสาร์
.
และเมื่อไม่กี่วันมานี้ คือวันเสาร์ที่ผ่านมา ในขณะที่สวดมนต์กับชมรมฯ ที่ลานพระเจ้าตาก ได้มีความคิดขึ้นมา คือ คิดเล่นๆ ว่าบารมีของหลวงพ่อฤษีฯ มีมากมายมหาศาลเช่นนี้ และบารมีของพระเจ้าตากสิน จะมากขนาดไหน คือ ท่านหนึ่งเป็นผู้กอบกู้รวบรวมแผ่นดิน อีกท่านหนึ่งเป็นผู้รักษาแผ่นดินเอาไว้ ที่จริงจะว่าไปแล้ว ท่านทั้งสองล้วนช่วยกันกอบกู้แผ่นดิน คือ ช่วยกันออกรบ เพียงแต่ท่านหนึ่งเป็นนาย อีกท่านหนึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา
.
ผมเคยอ่านเจอ หรือเคยได้ยิน หลวงพ่อฤษีฯ พูดกล่าวถึงอดีตชาติของท่าน และท่านเรียกพระเจ้าตากว่านาย "คือเป็นนาย" และหลวงพ่อฤษีนี่เอง ที่ชวนเทวดาพระเจ้าตาก ไปเฝ้าพระพุทธเจ้าบนแดนนิพพาน และให้พระเจ้าตากลาพุทธภูมิ และบำเพ็ญสำเร็จเป็นพระวิสุทธิเทพ ทำให้ผมเกิดความคิดว่า ขนาดหลวงพ่อฤษียังมีบริวารติดตามมามากมายเช่นนี้ และพระเจ้าตากล่ะ จะมีบริวารติดตามมามากมายขนาดไหน
.
แน่นอนพระเจ้าตากท่านย่อมมีบริวารติดตามมามากไม่แพ้หลวงพ่อฤษี แต่เมื่อท่านลาพุทธภูมิเข้านิพพานไปแล้ว แต่บริวารท่านยังอยู่ ดังนั้น วิญญาณบริสุทธิ์ของท่านจึงคอยช่วยเหลือลูกหลานบริวารของท่าน ตามที่ปรากฏตามพระบรมรูปตามสถานที่ต่างๆ ตามศาลต่างๆ ที่มีผู้คนมาบนบานศาลกล่าว
.
และเมื่อมาพิจารณากลอน จึงรู้ว่า ท่านกู้ชาติ และพระศาสนาจริงๆ ท่านกอบกู้ชาติบ้านเมืองโดยการรบทัพจับศึก รวบรวมแผ่นดินเพื่อถวายให้เป็นพุทธบูชา ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศพุทธศาสนา ที่จะรองรับพระพุทธศาสนาให้อยู่ยงถึง 5000 ปี และท่านก็ยังเฝ้ามองเฝ้าดูตลอด และในสมัยสงครามนั้น พระพุทธศาสนาได้เสื่อมลงเป็นอันมากจากสงคราม วัดวาอารามโดนเผา พระธรรมคัมภีร์ต่างๆโดนเผาและสูญหายไปเป็นอันมาก พระภิกษุสงฆ์เองก็ย่อหย่อนในพระธรรมวินัย
.
ปัจจุบัน ถือได้ว่า ประเทศไทย เป็นประเทศที่เป็นศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนา เป็นประเทศที่ไม่ว่างเว้นจากพระอริยสงฆ์ อริยบุคคล มีพระอริสงฆ์เกิดขึ้นมากมาย แต่น่าแปลกที่ไม่สามารถบัญญัติให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติได้ ไม่เหมือนกับชาติอื่นที่นับถือคริสต์ หรือ อิสลาม แต่สามารถบัญญัติให้ศาสนาคริสต์ หรือ อิสลาม เป็นศาสนาประจำชาติไว้ในรัฐธรรมนูญได้
.
ต่อมาอ่านตรงกลอนที่ว่า
ชาติของเรา คงอยู่ คู่พระศาสนา
พุทธศาสนา อยู่ยง คู่องค์กษัตรา
พระศาสดา ฝากไว้ ให้คู่กัน
.
ความหมายตรงตัว และถอดรหัสได้ว่า เมื่อพระเจ้าตากทรงกอบกู้แผ่นดินนี้ และถวายให้พระพุทธเจ้า คือ ถวายให้เป็นพุทธบูชา และพระพุทธเจ้าก็ทรงให้พร หรือ ให้คำพูดฝากมาว่า "ให้ประเทศไทยนี้เป็นเมืองพุทธ โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นองค์อุปภัมภ์" หมายถึงประเทศไทยนี้จะต้องมีพระมหากษัตริย์จนถึง 5000 ปี หรือ องค์ประกอบหรือสถาบันหลัก 3 อย่างนี้ จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ได้แก่ ชาติ ศาสนาพุทธ และพระมหากษัตริย์ ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป พระพุทธศาสนาอาจไม่ตั้งมั่นอยู่ในประเทศไทยจวบจนถึง 5000 ปี ตามปณิธานของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งพระองค์ท่านยังคงช่วยเหลือลูกหลานบริวาร และเฝ้ามอง คุ้มครอง ให้ประเทศสยามเป็นที่ตั้งมั่นของพระพุทธศาสนาจนถ้วนครบ 5000 ปี
.
สำหรับบรรดาลูกหลานบริวารตั้งมากมายทั้งหลายของท่านนั้น หากท่านใดที่ยังไม่เข้านิพพาน ก็จะฝากไว้กับพระศรีฯ รอคอยพระศรีฯมาโปรด และเทศน์เพียงครั้งเดียวก็บรรลุธรรม ตามวาสนาบารมี จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์เข้าสู่พระนิพพาน
.
เรื่องแปลกในงานวันพระเจ้าตาก ทุกวันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี ที่ลานวงเวียนใหญ่ จะมีประชาชนมาจากทั่วทุกสารทิศ มาทำพิธีบวงสรวง ไหว้ครู แก้บน กราบไหว้บูชาขอพรพระเจ้าตาก ซึ่งล้วนแต่มากันเอง เป็นกิจกรรมของชาวบ้านชาวประชาชน เป็นการรวมตัวกันของประชาชน มีการตั้งโรงทานแจกจ่ายข้าว อาหาร และน้ำ ซึ่งต่างคนต่างก็หอบหิ้วกันมาเอง

 

สักสิบปีก่อน ไปไหว้พระเจ้าตากที่วัดเชิงท่า ก็เห็นมีให้บูชารูปหล่อพระเจ้าตาก
ขนาดสักประมาณ 5 นิ้ว ต้องลงชื่อจองไว้ก่อน
ตอนนั้นแม่ชีที่รับจองบอกว่า เดือนนั้นเดือนนี้เสร็จ จำไม่ได้ว่ากี่เดือนจึงเสร็จ

ครั้นมีอยู่วันนึง
ก็ระยะเวลาน่าจะประมาณตามที่รูปหล่อพระเจ้าตากเสร็จ
โทรไปถามที่วัดเชิงท่า
แทบไม่น่าเชื่อล่ะ
แม่ชีรับสายบอก เขาเพิ่งมาส่งรูปปหล่อพระเจ้าตากวันนี้พอดีเลย

เราทำงานแถวชานเมืองกรุงเทพ
แต่วัดเชิงท่าอยู่อยุธยา
ความอยากได้มันมีมาก อยากได้ในวันนั้นเลย ไม่อยากรอวันอาทิตย์ล่ะ
บอกแม่ชีว่า ผมขับรถไปรับเย็นนี้เลยได้ไหม
แม่ชีบอกวัดจะปิด แต่จะรอ

วันนั้นเลิกงาน ห้าโมงเย็นขับรถไปถึงวัด น่าจะเกือบมืดล่ะ
แม่ชีท่านก็ใจดี รออยู่ มอบรูปหล่อพระเจ้าให้มา ดีใจมาก
ลาแม่ชีกลับบ้าน

แต่มีเรื่องน่าแปลกมาก

ตั้งแต่ขับรถออกจากวัดจนมาถึงบ้าน มีกลิ่นดอกมะลิอบอวลในรถตลอดทาง
เราก็สงสัยว่ากลิ่นดอกมะลิมาจากไหน ปิดแอร์ก็แล้ว เปิดกระจกออกก็แล้ว
หรือว่า กลิ่นติดมากับรูปหล่อ แต่พอยกขึ้นดม ก็ไม่มี

ขับรถประมาณเกือบ 2 ชม กลิ่นดอกมะลิก็ยังมีอยู่จนถึงบ้าน

 

วัดเชิงท่ามีประวัติเกี่ยวกับพระเจ้าตาก

ด้วยว่าสมัยเด็ก พระองค์เป็นเด็กวัดที่นั่น แต่ออกจะซนหรือทะโมน
มีหนนึงถูกสมภารเจ้าวัดทำโทษ จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร
เอาตัวท่านไปผูกกับเสาท่าน้ำให้แช่น้ำไว้

ผูกไว้นานกี่เพลาก็ไม่รู้ จนคนทำโทษก็ลืมไป
มานึกได้ ก็เย็นแล้ว พอรีบไปดู
คุณพระช่วย น้ำมันท่วมเสาท่าน้ำไปตั้งแต่เมือ่ไหร่ไม่รู้ เพราะเป็นจังหวะน้ำมันขึ้น
ก็ให้คนลงไปช่วยงมเป็นการใหญ่ ก็ไม่พบอะไร

เดชะบุญ หรืออาจเป็นด้วยบุญญาธิการของเด็กน้อยที่คือพระเจ้าตากในอนาคต
เสาที่มัดพระจ้าตากไว้ มันถอนลอยออกไปน้ำ จึงรอดพ้นจมน้ำตายไปได้
สมภารเจ้าวัดครั้น พบตัวพระเจ้าตากก็นำตัวมาดูแลเป็นอย่างดี ทำพิธีสวดมนต์เรียขวัญ

ที่ไปอ่านประวัติมาที่จารึกไว้ที่วัดเชิงท่า มีทำนองนี้ครับที่จำได้
มันก็ประมาณ 10 ปีแล้วมั้ง

 

เคยอ่านตอนที่พระเจ้าตากสิน
ท่านไปที่วัดแห่งหนึ่งที่จันทบุรี

นิมนต์พระมาเจริญพุทธมนต์
แล้วท่านอธิฐานบารมีของท่าน
ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต?

โดยการเคาะระฆังให้แตกเฉพาะจุก...
ปรากฏว่า เป็นตามที่ท่านอธิฐานบารมีทุกอย่าง
จะได้เป็นพระพุทธเจ้าแน่นอน..

แล้วมาอ่านที่หลวงพ่อฤษีลิงดำเขียน
ท่านบอกไว้ว่าท่านเข้านิพพานไปแล้ว

มันขัดแย้งกัน?

 

ไม่ขัดสิ พระเจ้าตาก ลาพุทธภูมิเสียแล้ว
ถ้าจำไม่ผิด หากไม่ลา จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 30 นับจากนี้
ตอนลา ไปกับหลวงพ่อนี่แหล่ะ ความเกี่ยวพันระหว่างหลวงพ่อกับพระเจ้าตากย่อมมีอยู่
ที่วัดท่าซุง มีรูปปั้น เป็นรูปพระเจ้าตากในเพศบรรพชิต ประดิษฐานหน้าวิหาร 100 เมตร

 

มันขัดแย้งกันสิ

ขัดแย้งตามหลักการของระบบบารมีของเหล่าโพธิสัตว์


อีกอย่าง พระพุทธเจ้าสมณะโคดมท่ายทำนาย
ท่ายทำนายอนาคตวงค์ ไว้แค่ 10 องค์
ที่เหลือยังกำหนดไม่ได้ เพราะบารมียังไม่เรียงลำดับ

อีกอย่างถ้ามีกายทิพย์ ท่องเที่ยวไปในภพภูมต่างๆ
เราจะพบว่า มีพระพุทธเจ้าเก้ ก๊มีถมไป...

 

แม้พระพุทธเจ้าทำนาย 10 องค์
ส่วนที่เลยไปย่อมมีอยู่ หมายถึงบารมีที่จะต่อคิวย่อมมีอยู่
แต่หากยังไม่ได้รับคำพยากรณ์ พระโพธิสัตว์ต่อคิวกันอยู่ย่อมลาได้
องค์ถัดไปก็ต่อคิวแทนถัดมา
หากไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรครับ เล่าให้ฟังเฉยๆครับ

 

กลอนที่พระเจ้าตากเขียนไว้

แสดงว่าท่านลงมาทำงานพร้อมกับอนิยตโพธิสัตว์
รวมทั้งอุบาสก อุบาสิกา

มาเกิดเพื่อทำสงคราม ทำปาณา ตัดหัวคน
เล่นกรรมชั่วกัน

ทำให้ได้แผ่นดินรองรับศาสนายุคหลัง...