ถามคนในนี้ มีใครมั่นใจว่าตนเองปราถนาพุทธภูมิจริง และได้รับพยากรณ์แล้ว

ตามหัวข้อกระทู้เลยครับมีใครมั่นใจจริงๆมั่งว่าตนเองปราถนาพุทธภูมิเป็นพระโพธิสัตว์ที่ได้รับพยากรณ์แล้วและรู้ได้อย่างไร?


ถ้าคนที่มั่นใจว่าได้รับพยากรณ์แล้วผมไม่พูดถึง ส่วนคนที่ยังไม่มั่นใจว่าได้รับพยากรณ์แล้วผมอยากให้คลถามตนบ่อยๆว่าเหตุที่ตนเองปราถนาพุทธภูมิมาจากสาเหตุใด ถ้าปราถนาเพราะอยากใหญ่ อยากเป็นครู อยากคนนับถือฯลฯ ควรรีบลาเพราะมันยากที่จะสำเร็จ

ส่วนคนไหนที่กำลังใจยังอ่อนไม่กล้า"ตาย" ผมก็อยากให้คิดทบทวนให้ดีๆว่าตนเองจะมีโอกาสบำเพ็ญจนสำเร็จแค่ไหน ถ้าคิดว่าไม่ไหวก็ควรจะรีบลาดีกว่าฝืนทำแล้วไปลาวันหลัง

ที่ผมตั้งกระทู้เพราะปราถนาดีไม่อยากให้เสียเวลาฝืนทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงครับ

 

งงคำถาม ^_^

 

ผมจะบอกคุณ จขกท ว่า.....

กรุณาอย่าไป แนะนำให้ใครๆเลิก ปรารถนา พุทธภูมิ เพราะนั้นจะเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก

จะติดตัวท่านไปนับชาติไม่ถ้วน ท่านจะไม่ประสบความสำเร็จใดๆเลย

ท่านควรให้กำลังใจ เหล่าบุคคลที่ ปรารถนา พุทธภูมิ เพราะนั้นคืิอ สิ่งที่ยิ่งใหญ่มากๆ

ส่วนผู้นั้นจะมีกำลังไปถึงไหม เค้าผู้นั้นจะเป็นผู้พิจรณาด้วย ปัญญาของเค้าเอง

 

อิอิ..... ท่าน จขกท. ถามได้ตรงประเด็นเลยครับ เยี่ยม++
ท่าน จขกท. ต้องเข้าใจนะครับ คนอยากดังเยอะมากนะครับ
อนุโมทนาด้วยนะครับ 5555++

 

ไม่ได้คิดคิดขัดขวาง แต่อยากจะรู้ว่ามีใครบ้างที่มันใจว่าเป็นนิตยโพธิสัตว์ และอยากถามต่อเลยว่ารู้ได้อย่างไร?

ส่วนที่อยากให้พระโพธิ์บางคนทั้งจริง/ทั้งไม่จริงหันมาพิจารณาตนเอง เพราะเป็นห่วงว่าจะพลาดเดินทางไกลโดยไม่จำเป็น. ส่วนพระโพธิ์ที่มีความปราถนาแน่วแน่และถูกต้องผมก็อนุโมทนา

ส่วนหัวกระทู้ต้องขออภัยครับ

 

ผมว่าไม่ควรพูดอย่างนั้นครับ ควรพูดให้เป็นกลางกว่านี้
หากกำลังใจอ่อน สั่งสมบารมีมากภพชาติ เข้ากำลังใจก็จะเข้มแข็งเอง
หากเจตนายังไม่บริสุทธิ์ ถ้าบำเพ็ญจนอินทรีย์แก่กล้า เจตนาเขาก็จะบริสุทธิ์เองครับ

เราไม่รู้ว่าใครสั่งสมมามากน้อยแค่ไหน และกรรมดีกรรมชั่ว มันส่งผลไม่แน่นอนในแต่ละภพชาติ ดีบ้าง ร้ายบ้าง เราตัดสินด้วยจริยา อุปนิสัย และความคิดในชาติเดียวไม่ได้ครับ

 

รู้สึกว่าเข้ามาในห้อง พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์ แล้วอบอุ่นทุกครั้งเลยครับ! เหมือนอยู่ท่ามกลางหมู่ญาติ (จากใจจริงครับ)

 

เรื่องนี้มันก็อยู่ที่ตัวผู้ปรารถนานะครับ เราไม่ควรไปวิจารณ์ หรือแนะนำมากเกินไป สิ่งที่ควรแนะนำให้ถูกต้องก็เช่นการ ปฏิบัติทางพุทธภูมิยังไงให้ถูกต้อง ทำได้ ไม่ได้อีกเรื่อง

ส่วนแนะนำอย่างอื่นบางทีมันเป็นการประมาทผู้ปรารถนา เพราะ เราไม่รู้กำลังบารมี ว่าเขาบำเพ็ญมาช้านานแค่ไหน

การที่จะรู้ได้อย่างไรว่าใคร ใช่ หรือ ไม่ใช่ ก็ตอบได้ยาก ดังนั้นควรปฏิบัติต่อๆไปเถิด

 

ถ้าสัตว์โลกใด ปราถนานำสัตว์โลกทั้งหลายพ้นจากความทุกข์

มีสัจจะ มีความแน่วแน่ การได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า มิใช่จุดมุ่งหมาย

ไม่ใช่ปฏิปทาของสัตว์ตนนั้น.



ถ้าสัตว์โลกใด ปราถนานำสัตว์โลกทั้งหลายพ้นจากความทุกข์

มีสัจจะมีความแน่วแน่ สัตว์โลกนั้นเป็นผู้มีความปราถนาสำเร็จ.

______________
ลอกเขามา

 

ข้าพเจ้าไม่เคยปราถนาในพุทธภูมิ ใดๆทั้งสิ้นเพราะ ปรารถนาก็เป็นกิเลสอย่างหนึ่ง แค่ทำวันนี้ให้สงบสุข ไม่มีร้อนใจ ก็พอแล้ว? ผู้คิดได้เช่นนี้แหละที่จะได้พบนิพพานอย่างแท้จริง

 

คุณพี่เข้าใจผิดนะ การปรารถนาพุทธภูมิไม่ใช่กิเลสนะครับ ผู้ปรารถนามีแต่ให้กับให้ครับ แม้แต่เลือดเนื้อ ชีวิตก็ยังถวายเป็นทานเลย แล้วพุทธภูมิยังพาสัตว์จำนวนมากข้ามไปนิพพานได้เยอะด้วย

 

อ่านคำถามแล้ว ขอเสนอแนะนะครับ

เรื่องนี้เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล การที่คนๆ หนึ่ง ทำอะไรสักอย่างหนึ่ง เช่น

เล่นกีฬาสมมุติว่า เป็นนักฟุตบอล เขากำลังเล่นอยู่ ฝึกอยู่ คุณจะไปบอกให้เขาเลิกเถอะ อย่าทำเลย ไม่ได้เป็นหรอกนักกีฬาทีมชาติน่ะ

ถึงเขาจะไม่ได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ เขาอาจเป็นนักกีฬาโรงเรียน มีความสุขกับการที่ได้ทำ
เขาได้ออกกำลังกาย มีประโยชน์อย่างอื่น ๆอีก
ตั้งใจว่าจะเป็นนักเปียโนอันดับต้นๆ ของประเทศ ถึงเขาไม่ได้ แต่เขาก็มีความรู้ดนตรี มีอะไร ๆ ดีกว่าไม่ตั้งใจทำอะไร

เช่นเดียวกัน คนเราตั้งใจเรื่องความดี จะอะไรก็ตาม
ขึ้นชื่อว่าได้ทำความดี ดีทั้งนั้น

คนเรามีจุดมุ่งหมายที่ดี ถึงแม้เขาจะถึงหรือไม่ก็ตาม
แต่เขาก็ได้อะไรจากการเรียนรู้ เป็นประสพการณ์
ตอนนี้เขาฝีมือยังไม่ถึง แต่ต่อไปใครจะรู้

อย่าวัดคนอื่นโดยใช้ตัวเรา

 

พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง

ถ้าตอบแล้วได้บ้าน ได้รถ หรืออย่างน้อย ไอโฟน ไอแแพท เนี่ยค่อยน่าตอบหน่อย 55555555++++++

 

ผมว่ามันเป็นสัพเพเหระมากกว่านะ ความคิดแบบนี้เอามาจาก สมองหรือเปล่า หลวงปู่ปานท่าน รู้วาระจิต กรรมฐาน ๔๐ ท่านได้คล่องแคล่ว รู้อารมย์พรอริยเจ้า ทุกระดับ ท่านยังกล่าวว่า ท่านน่ะ ยังยังถ่อมตัว ยังเก้าขาไม่พ้นนรกเลย ท่านจะมาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าในกัปนี้ ต่อจากพระราม ผมน่ะเคย เคยคุย กับหลวงปู่ ครูบาวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน ผมอยู่ สองต่อสอง กับท่าน ผมถามท่านตรงๆ ท่านยังปฏิเสธ ท่านพูดอ้อมค้อม

แกเป็นใคร ใหญ่กว่าพระพุทธเจ้าหรือ คำพูดแบบนี้ มันไม่ใช่ พูดมาแบบพ่อยๆนะ ผมถามหลวงปู่ครูบาวงค์ว่า หลวงปู่ครับ หลวงปู่ ปราถนา พระโพธิญาณ หรือครับ (แค่ถามแค่นี้ มันแสดงความโง่ออกมาแล้ว) ผมรู้ตัวว่าโง่ ถึงถามแบบนั้น ปรกติ คนฉลาด เขาจะไม่ถามแบบนั้นนะ ผมรู้สึกอายท่าน เขาจะถามเทียบเคียง ให้เจ้าของเป็นผู้ตอบ ท่านกล่าวกับผมว่า ท่านเป็นสาวก ไม่มีสิทธิ์พยากรณ์ คนที่จะพยากรณ์ ได้ มี ๒ ท่านเท่านั้นนะ คือ พระพุทธเจ้ากับ พระอินทร์เท่านั้นครับ นี่ท่านตอบผมแล้วกล่าวว่า


ถ้าผู้ใดปราถนา พระโพธิญาณ จิตเขาจะเป็นพระโพธิสัตว์ ทันที หลังจากนั้น เป็นหน้าที่ของพระอินทร์ จะแปลงกาย มาทดสอบ มาขอเลือดเนื้อ แขนขา ดวงตา ให้ได้ไหม ถ้าให้ได้ ท่านจะพยากรณ์ ว่า ในอนาคตตกาล เบื้องหน้าโน้น ท่านจะได้ เป็นพระพุทธเจ้า พระองค์หนึ่ง ในอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นเทอญ และหลังจากนั้น จะเกิดเป็นอะไร มากน้อยขนาดไหน จะได้รับการพยากรณ์ จาก พระพุทธเจ้า พระองค์ใด พระองค์หนึ่ง และอีกหลายๆพระองค์ ผมสนธนากับหลวงปู่เมื่อ ปี ๒๓ ไม่เกิน พ.ศ.๒๗

จริงๆยังมีอีก ที่ผมคุยกับท่าน แต่ไม่อธิบาย มันไม่เกิดประโยชน์เท่าใดนัก มันมีแต่โทษมากกว่า ถ้าในกรณี ศึกษา หาความรู้ ถ้านักปฏิบัติด้วยกัน เขาจะสงเคราะกัน ในกรณีพิเศษ ไม่แจกจ่ายพล่ำเพื่อ เขาจะรู้กันโดยเฉพาะ หรือท่านนั้นๆ จะมีเหตุผลอื่นครับ การประกาศต่อหน้ามหาชน ของ พวก ปรมัต ก็ต้องมีเหตุ ในการ กองบุญกุศล จะใหญ่หรือเล็ก ก็ไม่สำคัญ ยิ่ง พวกที่ เป็นปรมัต ท่านคงไม่โง่ถึงขนาดนี้หรอก เพราะท่านบำเพ็ญมาถึงขนาดนี้ เรียกว่า ความฉลาดปราดเปรื่องทุกเรื่อง ย่อมเกิดกับท่าน ไปดู ตัวอย่าง พระเจ้าสิบชาติ

ไปค้นคว้าเอาครับ ช้างนาราคิรี ช้างปาริไลยกะ โพธิสัตว์ แม้เสวยพระช่าติ เป็นสัตว์ ท่านยังฉลาดล้ำลึกไปปนนิบัติ พระพุทธเจ้า ถ้าเกิดเป็นคน ท่านก็จะฉลาด คล้ายๆกับ พระเจ้าสิบชาติ จำกัดว่าชาตินั้นๆ ท่านมาหนัก เรื่อง บารมี ไหนนำหน้า บารมีตัวอื่นๆ จะลองลงไป ตัวอย่างพระชาติสุดท้าย พระเวสสันดร หนักในด้านทานๆนำหน้า ตัวอื่นท่านก็ทำหมด แหละมาหมด ไม่ขาดสักตัวเลย ใช้ปัญญาดูครับทุกคนมี

จะเอามันออกมาใช้หรือเปล่า นอกจากคนนั้น ยังไปไม่ถึง ไหน ถ้าคนมีบารมี ดังที่คุณเจ้าของกระทู้ ทั้งมา ท่านพวกนี้ มีครบทุกด้าน แต่จะเข้มข้นขนาดไหน นั่นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก หรือดูตัวอย่าง พระพุทธเจ้า กับพระเทวทัต ๆ ถึงแม้ จะได้อภิญญา แต่ใจท่านเป็นมิจฉาทิฏฐิ แต่ท่านมีคติ แน่นอนแล้ว แล้วเรามีคติแน่นอนยังครับสวัสดี

 

บุญและบาป ดีหรือชั่ว ใครมิอาจมาเอาได้ แย่งได้ แต่ถ้าโมทนาสาธุด้วยกัน มันมีส่วนเอี่ยวได้ ทั้งดีแลชั่ว คนอื่นชั่ว ก้มิอาจเอาของเขามาได้ เขาทำดี เราควร สนับสนุน ถ้าทำไม่ดี เราควรหลีก สิ่งใด ไมเกินวิสัย ควรตักเตือนกันได้ บางคนมีนิสัย พูดนิ่มนวน บางคนต้องด่าถึงจะรู้เรื่อง พูดนิ่ม เขาไม่ชอบคนมีหลายประเภท

 

ในกาลเวลานี้ พระมหาโพธิสัตว์ ที่ยังทรงพระชนน์ชีพอยู่ และเป็นพระนิยตะโพธิสัตว์ มีเพียงท่านเดียวพระองค์เดียวเท่านั้น ที่เหลือทั้งหมดนั้น เป็นพระอนิยตะทั้งนั้น กำลังสร้างบารมี บางส่วนก็ปราถนาสร้างบารมีต่อ บางส่วนก็ลาพุทธภูมิครับ สาธุ

 

ส่วนอีกท่านที่กำลังเจริญวัย พระองค์ผู้ทรงเป็นเชื้อพระวงศ์ ผู้ทรงมีรัศมีโชิตในกาล ทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต ท่านยังเป็นพระอนิยตะโพธิสัตว์ แต่จักได้ถูกตรัสทำนายเป็นพระนิยตะครั้นในสมัยแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าศรีอริยะท่านมาตรัสรู้พระเจ้าข้า สาธุครับ

 

รู้ได้อย่างไร เขาบอกคุณไม่ได้หรอกครับว่าวิธีที่เขารู้นั้นมันรู้ด้วยวิธีอะไร แต่รู้ก็คือรู้แหละครับเมื่อถึงเวลาที่สมควรบารมีที่คนคนนั้นได้ทำมาก็จะเป็นตัวบอกเขาเองว่าเขาเป็นพุทธภูมิหรือไม่ ประเภทใหน และมีบารมีอยู่ระดับใด และควรจะเดินในเส้นทางสายนี้หรือไม่ พระโพธิสัตว์มีอยู่มากมายดั่งทรายในท้องมหาสมุทรแต่พระนิตยโพธิสัตว์นั้นเปรียบดั่งทรายในกำมือหนึ่ง

 

ท้อก็"ไม่หยุด" ไม่ท้อก็"ไม่หยุด"
เหนื่อยก็"ไม่หยุด" ไม่เหนื่อยก็"ไม่หยุด"
เป็นหมาก็"ไม่หยุด" เป็นคนก็"ไม่หยุด"
ลงนรกก็"ไม่หยุด" ขึ้นสวรรค์ก็"ไม่หยุด"
หลุมถ่านเพลิงก็"ไม่หยุด" กลีบดอกไม้ก็"ไม่หยุด"
ช้าก็"ไม่หยุด" เร็วก็"ไม่หยุด"
ยี่สิบองสไขย ก็"ไม่หยุด" ชาติสุดท้ายก็"ไม่หยุด"

ไปเรื่อย ๆ แต่"ไม่หยุด"

 

คนอยากดังบางที่ก็อาจจะสามารถเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าได้นะครับ อิอิอิอิ ก็คือไม่หลอกครับคนเราเกิดมากำลังใจมันไม่มั่นคงเหมือนเดิมไปทุกชาติทุกวันหรอกครับ ไม่อย่างนั้นพระโพธิสัตว์ที่บารมีใกล้เต็มบางท่านจะลารึ อิอิอิอิอิ ก็แล้วแต่กำลังใจในปัจจุบันด้วยนะ เราว่าน่ะ อิอิอิอิอิ