ถามครับ เห็นนิมิต ภาพน้ำ ภาพไฟ บ่อยๆ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมมนุษย์, 24 มิถุนายน 2014.

  1. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    เวลานั่งสมาธิ ปกติก็จะเห็น จุดสว่าง จุดขาว จุดดาว จุดดำ กลมขาวกลางจุดดำ วงกลมบูดๆเบี้ยวๆบ้างก้อนเมฆหลากสีบ้าง คือ ไอ้พวกนี้มันเป็นปกติของผมนานแล้วเลยไม่ค่อยใส่ใจมันเท่าไร

    แต่พวกที่แทรกเข้ามาเริ่มบ่อยขึ้น เช่น ภาพเปลวไฟ ภาพถ่านร้อนแดงๆ ภาพน้ำตก ภาพน้ำเฉยๆ ภาพน้ำที่มีละลอกคลื่น อะไรประมาณนี้ครับ อย่างภาพน้ำนิ ปรากฎแล้วผมไปเผลอจับ มันก็เปลี่ยนเป็นสว่างจ้า ก็ยังงงๆ อยู่ครับ
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    เด่วเล่าใหัฟังแล้วกันนะครับ..บอกก่อนเลยว่านิมิตรที่จะเล่าต่อไปนี้
    ถือว่าเป็นนิมิตรขวาง หรือ นิมิตรลวง ง่ายๆก็คือ มันจะทำให้เราฝึก
    กรรมฐานกองตั้งต้นที่เรากำลังฝึกอยู่ให้ช้าลงไปอีก ขอเริ่มโดย
    นิมิตรเกี่ยวกับ กสิณไฟ แสงสว่าง แบบลืมตาก่อนนะครับ

    ๑.ถ้าเป็นควันไฟมาจากทางด้านซ้ายและขวาพร้อมกันพวกนี้ถือว่า
    ปกติ ถ้าฝึก กสิณไฟ หรือ แสงสว่างอยู่ ถ้าไม่ได้ฝึกคือขวาง

    ๒.ถ้ามีนิมิตรสีสวยกว่า คมกว่าพวกนี้คือ ขวาง
    ถ้าแบบหลับตานะครับ..
    ๑.ถ้ามีนิมิตรแบบไฟลาวาไหลมา ไฟลุกในกองเถ้าถ่าน
    หรือไฟแบบเดือดๆคล้ายอุตสาหกรรมเผาเหล็กพวกนี้คือขวาง..
    .
    ๒.ถ้ามีนิมิตรสีขาวขึ้นมาตรงด้านขวาของศรีษะแล้วเอาจิต
    ไปดูและมันสามารถวิ่งได้ พวกนี้เป็นปัญญาทางโลก
    ถ้าไปเผลอตามบ่อยๆ ต่อไปจะเพี้ยน..พวกนี้ก็คือขวาง

    ต่อไปถ้าฝึกกสิณน้ำนะครับ..แบบหลับตา
    ๑.นิมิตรเป็นแบบน้ำไหลเข้าฝั่งเหมือนคลื่นทะเล มีฟองเล็กน้อย
    ๒.นิมิตรแบบน้าตก หรือ นิมิตรเหมือนน้ำนิ่งในบ่อแต่ไม่ใส
    ๓.นิมิตรแบบน้ำแยกออกจากกันได้ พร้อมกันเป็นเส้นตรง
    ถ้าเห็นจากข้างบน ถ้าเห็นจากข้างล่างจะเห็น ลูกกลมๆตรงกลางร่วมด้วย

    ๔.นิมิตรแบบน้ำหมุนเหมือนพายุงวงช้าง แบบอยู่เหนือผิวน้ำ
    ๕.นิมิตรแบบน้ำใสแต่มี ลวดลายต่างๆหรือมีอะไรก็ตามอยู่ใต้น้ำ
    ๖.นิมิตรแบบน้ำใสแต่มีกำแพง..
    ๗.นิมิตรแบบน้ำใสมีกำแพง และมีควันไฟพุ่งออกจากตัวเราไปตรงๆ เข้าหากำแพง
    ๘.นิมิตรแบบผิวน้ำดูใสแต่หาขอบเขตน้ำไม่ได้และมีสภาพแวดล้อมดำๆปน
    กสิณน้ำแบบลืมตานะครับ..
    ๑.ถ้าเห็นเป็นคลื่นวงกลม วงใหญ่
    .อยู่ข้างหน้าระยะประมาณ ๑ เมตร และมีเส้นคลื่นเล็ก
    เชื่อมขอบวงกลมออกไปตรงๆ
    .เป็นนิมิตรกสิณลมแบบลืมตา

    ๒.ถ้าเห็นแบบคลื่นสี่เหลี่ยมผืนผ้าและขอบบนล่างไม่ตรง
    มีคลื่นเล็กๆเป็นแผ่นๆไหลอยู่ข้างนอกร่วมด้วย
    เป็นส่วนของนิมิตรกสิณอากาศแบบลืมตา..

    ทั้ง ๒ ส่วนนี้จะมาตอนที่พอจะเกือบถึงการสร้างกำลังจิตได้
    มักจะมาหลอกให้ไปฝึกอย่างอื่นก่อน ทำให้ช้าได้อีก.
    หรือเค้าเรียกว่านิมิตรกรรมฐานเก่ามาแทรกนั่นหละครับ...
    ที่เล่ามาทั้ง ๑๐ และก่อนหน้า ข้อสามารถเกิดขึ้นได้หมด ให้เลิกคบนิมิตรพวกนี้ไปเลยครับ
    พวกนี้คือนิมิตรขวางและหลอกเราให้ช้าและหลงทางได้ทั้งนั้น..
    เพราะไม่มีประโยชน์ สร้างกำลังจิตไม่ได้.ต่อยอดไปถึงขั้นอธิษฐานไม่ได้..
    เอาแค่นิมิตรพวกที่ไม่ควรสนใจก่อนแล้วนะครับ.
    .แบบที่มีประโยชน์ค่อยว่ากันหรือจะไปดูจากตำราไปก่อน
    ก็สุดแล้วแต่ครับ...

    ปล.ประมาณนี้หละครับ
     
  3. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    ดูจากที่คุณ nopphakan เล่ามา ผมคิดว่า ทั้งกสินแสงสว่าง กสินไฟ กสินน้ำ กสินลม มันเคยมาแทรกทั้งหมดครับแล้วอย่างนิ นิมิตรต่างๆ วงกลมขาว จุดดาว จุดดับ น้ำ ไฟ ก็ไม่ต้องสนใจไปจับมันเลยใช่ไหมครับ ประมาณว่าเห็นๆ ขวางอยู่ทั้งๆที่เห็นก็ไม่สนใจ

    ผมฝึกอานาปนาสติอยู่ เอาจับเฉพาะลมหายใจ ไม่ต้องยุ่งกับพวกนี้เลยใช่ไหมครับ เอาจับลมหายใจอย่างเดียวจนกว่าจะเกิด แสงสว่างหรือเบากายเบาใจ แล้วเรื่องอดีตมัน ผุดๆๆ แล้วค่อยไปพิจารณาสังโยชน์ต่อใช่ไหมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2014
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ถูกครับ.กรรมฐานของคุณ ธรรมมนุษย์ เป็นกรรมฐานแบบวิชาเดินธาตุครับ.
    เป็นการฝึกแบบอิทธิวิธี.ส่วนมากกรรมฐานแนวนี้เค้าจะเรียกว่า
    วิชาเดินธาตุโบราณครับซึ่งจริงๆแล้วพวกที่เก่งทางด้านนี้
    จะเป็นภูมิพยานาคครับ....ถ้าเป็นเดินธาตุแบบพระในดง
    จะต้องฝึกกสิณให้ได้ก่อนถึงจะไปต่อได้
    ซึ่งไม่ว่าแบบไหนก็เป้าหมายเดียวกัน เล่าให้ฟังเฉยๆ
    โดยที่ความเข้าใจตรงนี้.เป็นรูปแบบของการฝึกรูปแบบหนึ่ง..
    ซึ่งหลังจากเลยช่วงที่เรื่องราวในอดีตมันผุดๆขึ้นมาได้
    จิตมันสามารถไต่ระดับเลยขึ้นไปถึงอรูปฌานได้.
    .เป็นอรูปฌานที่สามารถวิปัสสนาให้เกิดปัญญาทางธรรมได้

    เพราะกำลังสมาธิสะสมและกำลังสติทางธรรมที่จะสร้างปัญญา
    ทางธรรมเพื่อให้จิตละวางในช่วงนี้ได้(ถ้าทำได้นะครับ).
    และจะไม่ใช่อรูปฌานแบบไปเห็นดวงดาวมากมาย
    หรือดวงจิตไปลอยเคว้งคว้างอยู่ในมวลหมู่ดวงดาว
    แต่ทำอะไรไม่ได้ ออกมาก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร
    ทั้งกำลังสมาธิสะสมและปัญญาทางธรรม
    รวมทั้งเครื่องรู้ต่างๆที่จะเกิดกับจิตตนเอง
    .เป็นอรูปฌานที่ไม่ว่าคนฝึกสมถะหรืออาปาฯมักจะเข้าถึงได้ปกติ
    แต่มักจะเผลอคิดไปว่าตัวเองเข้าสมาธิระดับสูงได้
    จริงๆแล้วมันบอกว่ากำลังสมาธิสะสมและกำลังสติทางธรรมเรายังไม่พอ
    ประเด็นนี้ก็เล่าให้ฟังเฉยๆนะครับ ไม่ได้พลาดพิงใคร
    ส่วนใครจะเชื่อไม่เชื่อสุดแล้วแต่พิจารณาครับ...

    .
    และต่อจากความเข้าใจตรงนี้ถึงจะสร้างโอกาส
    ในการไต่ระดับฌานได้แบบชนิด
    ที่ไม่พรวดพลาดข้ามขั้นแบบที่ไม่มีผลต่อการพัฒนาความสามารถ
    ทางจิตและพัฒนาปัญทางธรรมอย่างที่เล่าให้ฟังมาก่อนหน้า...
    และช่วงนี้ขึ้นอยู่กับตัวจิตด้วยครับว่าจะสามารถปล่อยวางได้
    หรือไม่..ในช่วงที่เรื่องราวในอดีตมันผุดขึ้นมาครับ..
    ซึ่งกิริยาการปล่อยวางของจิตตรงนี้ยากในการคาดคะเน
    เพราะมันมีองค์ประกอบหลายๆอย่าง.แต่ถ้าเทียบ ญ กับ ช
    ถ้ามาถึงจุดนี้ส่วนมากแล้วการพัฒนาถ้าเป็น ญ มักจะง่ายกว่าครับ
    เพราะว่า..ญ มักจะค่อยยึดติดในเรื่องของอัตตาตัวตนมากนัก.
    และพอสร้างสติทางธรรมมากๆเป็นเหตุให้เกิดปัญญาทางธรรม
    ญ ก็มักจะไต่ระดับได้เร็วกว่าเราๆที่เป็น ช ด้วยครับ.เพราะ ช
    บางคนจะไปยึดติดกับการอยากให้คนยอมรับตัวเอง..ขี้อิจฉาลึกๆ
    คือติดชอบแข่งกันดีแข่งกันเด่น.หรือชอบเผลอคิดว่าตัวเองเป็น
    พระอริยะอยู่ในใจลึกๆ..ประเด็นนี้ก็เล่าให้ฟังเช่นกัน
    แต่การเข้าออกใช่ช่วงอารมย์ก่อนไต่ระดับฌาน.
    ผู้ชำนาญทางสายวิชาเดินธาตุโบราณท่านบอกว่าเราสามารถใช้
    ซ้อมๆการเข้าออกก่อนช่วงไต่ระดับให้คล่องได้
    ก็จะได้ประโยชน์ไปอีกอย่าง.เพื่อเป็นการฝึกซ้อมให้จิตทำงาน
    สำหรับเป็นพื้นฐานสำหรับการใช้งานจริงในอนาคต.

    เพราะจิตจะทำงานเมื่อเห็นแสงและเห็นเส้นสาย..
    และถ้าหากว่าวันหนึ่งจิตเราสามารถ
    สร้างกำลังจิตได้และมีกำลังจิตแล้ว.
    .การใช้งานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับความสามารถพิเศษของจิต
    จะกลายเป็นเรื่องง่ายครับ..
    ยกเว้นว่าถ้าจะไปทางเดินธาตุแบบพระอาจารย์ในดง
    ก็จะฝึกกสิณให้ได้ก่อนและก็เอาให้มันได้กองแรกก่อน
    อย่างนี้ไม่เป็นไรครับเพราะพลังงานที่เหลืออีก ๙ กอง
    ไม่ว่ากสิณสี หรือกสิณกลางมันจะมาได้เองโดยที่
    ไม่ต้องไปฝึกให้ยุ่งยาก.แต่กองไหนจะกำลังเข็มแข็ง
    สุดแล้วแต่ความฟิตครับ.และถ้าหากยังฝึกไม่ถึงระดับปฏิภาคนิมิตรและ
    บังคับปฏิภาคนิมิตรกสิณได้ แล้วไปเปลี่ยนเป็นกองอื่น.
    ตรงนี้ยิ่งเพิ่มเวลาให้นานออกไปอีกแม้ว่าบางคนจะมีของเดิม
    ถึงขั้นที่เห็นอุคคหนิมิตรได้ก็ตาม.แต่ถ้าไม่ฟิดพอตัวการไต่ระดับ
    จากอุคคหนิมิตรไปถึงปฏิภาคนิมิตรระดับที่จะบังคับได้ จนถึง
    จิตมีกำลังจิตตรงนี้.ในระดับที่เรียกพลังงานกสิณขึ้นมาใช้ได้
    ปกติไม่ใช่แบบทำได้แต่ในนิมิตรนั้น..ต้องอาศัยอิทธบาท ๔ และ
    องค์ประกอบต่างๆซึ่งบอกได้เลยว่า ไม่มีคำว่าฟลุ๊คครับ สำหรับพวกกสิณนะครับ..

    ปล.แค่เพียงแต่เล่าให้ฟังครับ
     
  5. โลโป

    โลโป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2012
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +1,714
    การเห็นจุดสว่าง จุดขาว จุดดำ ภาพนิมิตต่างๆ อย่างไปสงสัย เป็นธรรมดาของจิต บางครั้งจิตจะไปเกาะอยู่ที่รูป บางครั้งจิตจะไปเกาะเวทนา ไปสัญญา ไปสังขาร เป็นธรรมชาติของจิตที่เปลี่ยนแปลงได้เร็ว หน้าที่ของผู้ทำสมาธิต้องมีสติสัมปชัญญะกำหนดรู้ จิตฟุ้งซ๋านก็รู้ว่าจิตฟุ้งซ่าน จิตเปลี่ยนแปลงก็รู้ว่าจิตเปลี่ยนแปลง ทำสมาธิแต่ละครั้งจะได้ผลไม่เหมือนกัน บางครั้งจิตฟุ้งซ่าน บางครั้งจิตสงบเป็นเรื่องธรรมดาของจิตที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญคือต้องมีสติสัมปชัญญะเจริญสมาธิอย่างหลงไปตามนิมิตต่างๆ ให้ใช้ความเพียรมีสติสัมปชัญญะในการทำสมาธิจนเป็นเอกัคคตาจิต
     
  6. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    "แต่การเข้าออกใช่ช่วงอารมย์ก่อนไต่ระดับฌาน.
    ผู้ชำนาญทางสายวิชาเดินธาตุโบราณท่านบอกว่าเราสามารถใช้
    ซ้อมๆการเข้าออกก่อนช่วงไต่ระดับให้คล่องได้
    ก็จะได้ประโยชน์ไปอีกอย่าง.เพื่อเป็นการฝึกซ้อมให้จิตทำงาน
    สำหรับเป็นพื้นฐานสำหรับการใช้งานจริงในอนาคต."



    ผมก็เพิ่งเข้าใจเพราะผมเข้าๆออกๆ ช่วงนี้มา 2-3 ปี ไม่ก้าวหน้าไม่ถอยหลัง ไต่ระดับต่อไม่ได้ เข้าออกจนรู้สึกว่าพอจะเป็นวสี ตั้งแต่เริ่มนั่งจนเรื่องอดีตผุดๆ อย่างเร็วภายใน 1-2 นาที อย่างช้าก็ไม่เกิน 20-30 นาที แต่ผมก็คิดว่าจะฝึกเข้าๆออกๆต่อให้ชำนาญกว่านี้ ยังไม่รีบไต่ยกระดับฌาน (sing) ตั้งแต่ที่คุณ nopphakan แนะนำคราวนั้นก็ก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่งรู้ได้ด้วยตนเองไม่สงสัย อิอิ อย่างนิขอยกเป็นศิษย์พี่ใหญ่แห่งสำนักวิชาเดินธาตุโบราณเลยครับ อิอิ :cool:
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    "ใช่ช่วงอารมย์" แก้เป็น "ในช่วงอารมย์" นะครับเขียนผิด
    อุ๋ยๆๆๆๆๆๆ. ไม่ว่าเดินธาตุโบราณหรือแบบพระในดง
    ความจริงส่วนตัวถือว่าเด็กน้อยมากครับ ยังต้องฝึก
    อีกหลายกระบวณท่าอยู่ครับ ใจเย็นๆก่อนเน้อ ๕๕๕๕
     
  8. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    "ต้นข้าวที่เมล็ดแก่ออกดอกผลเต็มรวง มักจะโน้มเรี่ยยอดลงสู่พื้นดิน"
    "บุคคลผู้มีอะไร จะทำตนไม่มีอะไร"
    อิอิ นับถือๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2014
  9. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    ขอบคุณนะคร้าบ เป็นคำแนะนำที่ดีมากครับ สาธุๆๆๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...