ถามเรื่องวิญญาณ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย digimon1234, 17 ตุลาคม 2019.

  1. digimon1234

    digimon1234 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    215
    ค่าพลัง:
    +35
    โทษะเบาลง ก้พอจะมีความสุขแล้วคับ งืมม
     
  2. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    เจ๋งเป้ง....

    พึง สดับ ธรรมให้ ยิ่งๆขึ้นไปว่า...

    โทษะ ไม่ใข่แปลว่า คลี่โมโห

    โทษะ เปน ภาษาบาลี ที่มีราก
    ศัพท์เดิม แปลว่า รวดเร็ว รุนแรง

    ดังนั้น เวลา ดู ดิจิม่อน

    แล้ว ภาพนิ่ง ที่ซ้อนกัน 24 frame
    ต่อ วินาที ..... นั้น หากพิจารณา
    ลง อรรถสาระแห่งธรรมานุธรรมา
    ปฏิบัติ.....จะเหน โทษของรูป

    จาก การแปรปรวนรวดเร็ว ของ รูป

    แปลความว่า หาก รู้ชัด "โทษะ"

    จะเหนว่า เอาออกไม่ได้ ทำลาย
    ไม่ได้ เพราะ โลก(รูป/นาม) ทั้ง
    หลายต้องมี

    บัณฑิตที่ ไม่ขาดการสดับ และ
    มี ธรรมานุธรรมาปฏิบัติ(ปฏิบัติ
    ธรรมสมควรแก่ธรรม) จะไม่เผลอ
    เพลิน ขาดการหยั่งรู้ชัด กระบวน
    การของโลก(รูป/นาม) จะพ้นอยู่
    โดยชอบ......จนกว่า จะ "อนุปาทา
    นิพพาน"


    ปล. ถ้าเอา กายหนาคืบกว้างศอก
    เปน ตัวแทนของ รูป แทนการส่ง
    จิตออกนอกเกินกายไปดู การตูน

    เวลาเหน เฟรมของรูปกายกระจาย
    ตัวออก แค่ จขกท ขยับแขนขา
    แล้ว หลงลืมกำหนดเหน โทษของรูป
    จะไม่มี ภาพแขนขาขยับจะเกิดเปน
    ช๊อตๆ ( แต่จะ ยากหน่อย ต้องมี
    สมณสารูปงามๆ ถึงจะมี ฐานะ...

    ถ้า ครองได้แค่ ฆราวาสรูป เอา
    แค่ ปัญญาถึงพร้อม ไม่ล้ำหน้า
    เกินไป เปนใช้ได้ ......ปัญญา
    ล้ำหน้าเกิน สังเกตจาก การ
    จ๊ะจ๋า จาคะทางวาจา กาย ใจ )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2019
  3. digimon1234

    digimon1234 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    215
    ค่าพลัง:
    +35
    ถ้าไม่หลงในรูปแล้ว จะเป็นไงคับ
     
  4. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    555 แมวประหลาดโปรดธรรมสัตว์ประหลาด
     
  5. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    อวกแตก อวกแตน กินม่ายด้าย
    นอนไม่หลับ ตับกระส่าย ไตกระสับ
    ใจพิการอาหารไม่ย่อย เรอเหมน
    เปรี้ยว โตะเม้นเหม็น........เล่นกล้วย ..
    .....วิจารณ์การเมือง....

    เอ้ย ม่ายฉ่าย......

    หากไม่หลงรูป อย่างถูกวิธี จะ บริโภค
    รูปด้วยการสลัดคืนแก่โลกไม่เหลือ

    ยิ่งสลัดคืนแก่โลก(รูป/นาม) เท่าไหร่
    จะยิ่งได้ รูปปราณีต มาบริโภคยิ่ง
    ขึ้นเท่านั้น เช่น อาหารเทวดา วิมาน

    งง เป่า

    คือ ต้องไม่ลืมว่า รูป ยังไงก้ต้องมี เพราะ
    หากยังมีจิต จิตย่อมอาศัยรูป ในการปรากฏ

    ที่นี้ เปนนักปฏิบัติ เสพด้วยความ
    สำรวมมีการกำหนดรู้ ไม่เผลอเพลิน
    มันจะเปนการ สัมผัส รับรู้รูป เพื่อ
    สำรอก เพื่ออาสัยระลึกความสิ้น
    ตัณหา อุปาทาน

    บุคคลที่เสพรูปนาม ด้วยอาการสำรวม
    สละออก สลัดคืนไม่เหลือ ก้จะเรียก
    อีกอย่างว่า นาบุญของโลก

    เพราะ อาหาร(รูปนาม) ที่โลกเขา
    รังสรรขึ้นมา แล้วเราอาสัย การ
    วิวาสะ เสพอาหารนั้น ...คนที่ทำ
    อาหารนั้น เขาจะได้บุญมหาศาล

    สมมติว่า จขกท สุดท้ายเปนนักดู
    การตูนดิจิม่อน เพื่อ การสละตัณหา
    อุปาทานนักเขียนการตูน ก้จะได้
    อานิสงค์ให้มี ปัญญา(ทางโลก)
    รุ่งเรือง ...และโน้มไปทาง พิจารณา
    กุสลบ้าง อกุสลบ้าง ....แต่ เขาจะ
    ไม่มีวาสนา จะได้ฟังธรรมเพื่อ
    การปฏิบัติ อาจจะแค่รู้สิ่งกุสล
    อกุสล บรรยายได้ แต่จะนำออก
    ไม่ได้ once ที่ จขกท ไม่
    อธิษฐานบางประการ

    นะ...

    จะ แลเหนยากนิดหน่อย แต่เชื่อดิ
    จขกท ชาตินึงต้องเคยเขียนการตูน
    แนวดิจิม่อน แล้วคนเขียน(ปัจจุบัน)
    เคยอ่านผลงาน จขกท ในชาตินั้นๆ

    กงกรรม กงเกวียน เวียนวน แต่.....

    ชาตินี้ จขกท อาสัยเปน อุบาย
    พิจารณาธรรม หาก อธิษฐาน
    บางประการ ก้จะเกิด ปฏิกริยา
    แผ่พลัง HP Gumma ออกไป
    หาก จิตไหนฉลาด ก้ รับได้
    ถ้าไม่โน้มมาทางธรรม ก้จะ
    ผลิกเปน กุสลโลกๆ

    แบบที่ ตายาย พาไปฟังเทศนา
    นิทานพระ และมักอ้างว่า ทำให้
    ถูกหวย


    ปล. การเสพอาหาร จะอาหารตา
    หรืออาหารกาย หรือ อาหารใจ
    หากเปน ฆราวาส กัลยาณธรรม
    จะอาสัย วิสาสะ

    หากเปน สมณะ จะต้องให้เขา
    ประเคน สละออก ก่อน

    ส่วนพวกฆราวาส จัดคอส เรียก
    รับทุนค่าจัด ฟอกเงิน อันนั้น
    ท่านว่า อย่าเอาไม้ไปรันคลี่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2019
  6. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    ถ้า จขกท มี แฉลบ

    สละรูป สลัดรูป ยิ่งผอมแห้ง
    แรงน้อย ซูบซีด ....

    อันนี้ ให้ รีบสังเกต สภาวะที่ชื่อ

    "ปัญญา" ล้ำหน้า

    ล้ำหน้า สัทธา จะ เกิดการ หยามหมิ่น
    พวก นักการศาสนา

    ล้ำหน้า สมาธิ จะเกิดการ หยามหมิ่น
    ทาน และ สีล ( พวกการถือ ตบะ ทำสมถะ)

    ล้ำหน้า สติ จะเกิดการ ลอยๆ
    เคว้งๆ คว้างๆ ลืมเหตุ ลืมผล

    ล้ำหน้า วิริยะ จะคลี่เกียจ ประมาท
    ใน สิ่งควรทำแม้นเล็กๆน้อยๆ เช่น
    พระสมัยพุทธกาล ภาวนาแทบตาย
    ไม่บรรลุ เพราะ ลืมกวาดใบไม้ในถิ่น
    อาสัย
     
  7. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    ปัญญา สัทธา สมาธิ สติ วิริยะ

    คือ อะไร...

    ในทาง บุดโดม่อน เรียกว่า อินทรีย5

    อินทรีย ไม่ได้แปลว่า นก แต่แปล
    ว่า คุณสมบัติเด่นๆ เหมือน เวลา
    เล่นเกมส์ จะมี str hp eva dodge
    dual hit อะไรงี้

    ทีนี้

    อินทรีย ต้อง สมดุลย์ ไม่ก้ำเกินกัน
    ถึงจะเปน พละ และ บรรลุ ธรรม

    อันนี้ไม่ได้แปลว่า ต้อง ปรับแต่ง
    ให้ hp str eva dual hit มีค่าเท่า
    กัน ...แต่หมายถึง มีอย่างไร
    ก้ใช้ตามนั้น ให้คล่องตัว ให้ถูกที่
    ถูกจังหวะ ถูกงานการ

    วื๊ดๆๆๆ เปรี้ยง เฟี้ยว ฟ้าว ตูม!!!!


    ผั๊วะ!! ( พระบางท่านหมายถึง
    บรรลุธรรม อะนะ)
     
  8. ไม่ใช่ตัวตน

    ไม่ใช่ตัวตน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2018
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +175
    ช่วงนี้เคลียด
    ลุงก็อายุเยอะแล้ว มีสาระหน่อยๆ
     
  9. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    เอ้อดีหน่อย พอมีคนคุยรู้เรื่องมาทักบ้าง
    แต่ว่า ที่ลุงกล่าวไปก็ไม่ได้คิดใครจะมาหวัง
    สาระจากลุงเลยนะเอ้อ....
    แค่บอกเปรยๆ
    ว่าเค้าเก่งที่พูด ที่ฟังกันเข้าใจ
    แต่ลุงออกจะฮงฮง แค่นั้นเอง
    ไม่มีสาระจริงฮับ
    อายุน้อย 100 ล้าน55
     
  10. digimon1234

    digimon1234 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    215
    ค่าพลัง:
    +35
    ให้ความคิดเห็นได้คับ รับฟังทุกความคิดเห็น ผมไปแอบอ่านได้ยินคำว่ามโนทางใจ
    เพิ่มมา ช่วยผมลดการปรุงแต่งรูปนามได้เยอะทีเดียวคับ แต่ไม่นิ่งปับฉันทะเล่นเป็นพระเอกเลย
    แต่ยังไงมโนใจช่วยผมได้เยอะคับ
     
  11. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    ก็คือว่าถ้าจะให้ลุงเสนอ
    ความคิดเห็น
    เกี่ยวกับเรื่องธรรมะที่ท่าน
    กะลังศึกษาค้นหา
    อะไรอยู่นี้นั้น
    ขอแนะนำให้ท่านพุ่งเป้าไป
    ที่เรื่องการพ้นทุกข์ในแบบ"ถึงที่สุด"
    ไปเลยดีกว่า
    โดย"ต้อง" นะ ต้องเริ่มต้น"ฟัง"นะฟัง ในเรื่องที่
    จำเป็นต่อการปฏิบัติจิต(ใจ)ให้เข้าสู่เส้นทาง
    ของการรู้ความจริงของสิ่งที่มี
    ที่เป็นในปัจจุบันขณะ
    โดย ฟังค้นหาพระธรรมจากบุคคลหรืออริยบุคคลที่ได้แสดงไว้มากมาย
    เจาะฟังจากหลายๆ ท่านหลายๆองค์
    ในหัวข้อเดียวกันซ้ำๆ เพื่อจะได้รายละเอียด
    ทุกๆ แง่มุมนะ ในข้อธรรมหลักๆ ต่อไปนี้ก่อน
    พระพุทธเจ้าคือใคร
    พระธรรมคืออะไร
    พระอริยะสงฆผ์คือใคร
    ทานคืออะไร (เพื่อเจาะลึกว่ามันคืออะไรยังงัย)
    ศีลคืออะไรทำอย่างไรใช่ทำอย่างไรไม่ใช่
    ภาวนาคืออะไร (สิ่งนี้ถ้าไม่รู้จักและไ่ม่ทำจะ
    มีทางพ้นทุกข์ได้ไหม???)
    ถ้าไม่รู้ไม่เข้าใจในเรื่องดังกล่าว
    ก็เป็นชาวพุทธ
    ที่วังเวง เพราะไม่อาจพึ่งความ
    "เป็นพุทธะ" ที่มีในตนเองได้ เพราะไม่พยายาม
    พึ่งพากายและจิตที่เรียกรวมๆ ว่าขันธ์ 5
    ให้เป็นประโยชน์ในการดำเนินเข้าสู่เส้น
    ทางแห่งการถึงที่สุดแห่งทุกข์
    ตามคำชี้ทางขององค์พระศาสดาสัมมาฯ
    ได้คับ
    นำเสนอได้แค่นี้คับ
    อาจจะเป็นประโยชน์
    ต่อสาธารณะบ้าง
    ก็ขอยกความดีทั้งหมดนี้
    ให้แก่ จขกท.ผู้ซึ่งให้โอกาสลุงแมวคับ
    ขอบคุณคับ
     
  12. digimon1234

    digimon1234 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    215
    ค่าพลัง:
    +35
    ขอขอบคุงสำหรับความคิดเห็นคับ สภาพตอนนี้ของผมไม่รู้ว่าหนักอะเปล่า มีแต่สภาวะอาฆาต
    พยาบาทให้เข้าไปปรุงแต่ง โอ้ยเวงกัมแท้ๆ
     
  13. digimon1234

    digimon1234 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    215
    ค่าพลัง:
    +35
    ตกลงเป็นการเตรียมสอบ รึว่าเตรียมฆาตกรรมกันแน่เนี้ย โฮะๆๆ
     
  14. digimon1234

    digimon1234 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    215
    ค่าพลัง:
    +35
    หาไรมาโม้เล่นบ้าง เมื่อ2คืนก่อน จิตได้ไปเกาะเส้นกรรมที่สูงกว่าปรกติ อารมณ์อาฆาตพยาบาท
    ไปไม่ได้ อารมณ์ไม่เกิดหรืออาจโดนข่มไว้ เลยพอจะเข้าใจเหตุผลที่เราต้องแก้ไขอารมณ์ในส่วนนี้ของเราขึ้นมาหน่อยนึง ผ่านไป 10 ชั่วโมง การคลายตัวของจิตถือว่าดีขึ้น แฮะๆๆ
     
  15. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    ในระบบ บุดโดธ์ม่อน ...

    มารมี 5 กลุ่ม

    กิเลสมาร
    ขันธมาร

    มัจจุมาร

    อภิสังขารมาร

    และ

    แต้แด่.... ............ ..........

    เมื่อ ผู้ฝึกฝนบุดโดธ์ม่อน จนเกิด
    สัมมาทิฏฐิ อาธิ

    รู้ชัดซึ่งรูป
    รู้ชัดซึ่งเหตุให้เกิดขึ้นแห่งรูป
    รู้ชัดซึ่งความดับไม่เหลือแห่งรูป
    รู้ชัดซึ่งข้อปฏิบัติให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งรูป
    รู้ชัดซึ่งอัสสาทะ (รสอร่อย)แห่งรูป
    รู้ชัดซึ่งอาทีนวะ (โทษอันต่ำทราม)แห่งรูป
    รู้ชัดซึ่งนิสสรณะ (อุบายเป็นเครื่องออกไปพ้น)

    เมื่อนั้น จะพอเท่าทัน กิเลสมาร ขันธมาร

    ก้จะเปน ด่าน มัจจุมาร ซึ่งไม่ใช่
    ตัวอะไร มีเขา ไม่มีเขา

    มัจจุมาร เปน ทิฏฐิออกมาจาก
    ผู้ปฏิบัติเอง .....หากในอดีตอัน
    ยาวไกล กินข้าวที่เขาหว่าน
    ด้วยเมล็ด มาช้านาน จะเกิด
    เวรกรรมทางทิฏฐิ เนื่องด้วย
    ความเบียดเบียน ปักปันเขต
    แดน และการสะสมข้าวสาร
    เพราะคลี่เกียจไปเกี่บวเก็บ
    แต่พอเพียงในมื้อหนึ่งๆ......

    แต่.. นักล่า ดิจิม่อน ส่วนมาก
    ขยันเหมือนมด อดเหมือนกา
    ติดเกมส์จนลืมนอน ลืมกินข้าว
    มี กายเบา จิตเบา มีสติจดจ่อ
    ในการร่ายพลัง อ่านดิจิมอน
    หรือ เล่นดิจิม่อน .....ซึ่ง จัดเข้า
    เปน เนสัชฉิก ได้บ้างไม่มาก
    ก้น้อย.....ซึ่งก้คือ เคยข้ามฝาก
    ตาย มาแล้ว ไม่ต้องไป งุดโงๆ
    อัปปานง อัปปานา อะไร ( เนข
    ขัมบารมี มีพอใช้ )

    ลอง งัดขึ้นมา พิจารณา ข่ม
    มัจจุมาร ดู ( แต่กำลัง HP จะ
    น้อยกว่าพวก ฝึกจริง เข้าป่าจริง)

    แต่ อย่าลืมว่า มันเปนเพียง ทิฏฐิ
    เปนเพียง นามรูป เพื่อจะ สับขา
    หลอกให้ อภิสังขารมาร เข้าแถว
    มาซัด นักปฏิบัติ ให้เกิด kuแน่
    kuเก่ง kuไม้ขีด kuเทียนเซียน

    หลังจาก รบกับ มาร4 สุดท้าย
    จะเกิด ........ อันเปน มารตัวที่
    ห้าหน้ามีขน เฮีย!!! ชนิดต่างๆ
    มีทั้งที่เปนครูไม่ควรตำหนิ และ
    ครูที่ควรตำหนิ

    แต่จริงๆแล้ว มารตัวที่ห้า เปน
    แค่สิ่งลวงให้สาระวนไปแยกพวก
    ถือข้าง อุปาทานหมู่ เด็กๆ ธรรมดา
    พอหมดแรง ก้ แยกย้ายแผ่สองสลึง
    ไม่ต่างจากเด็ก เล่นขายของ เล่น
    กองทราย

    หาก ก้าวข้าม อย่างสมควรแก่ธรรม

    ก้จะเหน หลักชัย บุดโดธ์ม่อน
    มีอมตะ ในที่สุด
     
  16. digimon1234

    digimon1234 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    215
    ค่าพลัง:
    +35
    55 ท่านพิฬา ไม่ลองเปิดคอสสอนบ้างหรอคับ ดูท่าสายโหดมันฮาพอจะชอบอยู่นะ
     
  17. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    เจ้าหลง กล ข้า< แล้ว.....



    เปรี้ยง!!!!! ......
     
  18. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    ผู้เป็นเกพลีบุคคล ในพุทธศาสนา

    ภิกษุ ท. ! ภิกษุผู้ฉลาดในฐานะเจ็ด
    ประการ (สตฺตฏฺฐานกุสโล) ผู้พิจารณา
    ใคร่ครวญธรรมโดยวิธีสามประการ
    (ติวิธูปปริกฺขี) เราเรียกว่า เกพลี

    อยู่จบกิจแห่งพรหมจรรย์ เป็นอุดมบุรุษ
    ในธรรมวินัยนี้.

    ภิกษุ ท. ! ภิกษุผู้ฉลาดในฐานะเจ็ด
    ประการ นั้นเป็นอย่างไรเล่า ?

    ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัด
    ซึ่งรูป รู้ชัดซึ่งเหตุให้เกิดขึ้นแห่งรูป
    รู้ชัดซึ่งความดับไม่เหลือแห่งรูป
    รู้ชัดซึ่งข้อปฏิบัติให้ถึงความดับไม่
    เหลือแห่งรูป รู้ชัดซึ่งอัสสาทะ (รสอร่อย)
    แห่งรูป รู้ชัดซึ่งอาทีนวะ (โทษอันต่ำทราม)
    แห่งรูป รู้ชัดซึ่งนิสสรณะ (อุบายเป็น
    เครื่องออกไปพ้น) จากรูป (รวมเจ็ดประการ ).

    (ในกรณีแห่ง เวทนา สัญญา สังขาร
    และ วิญญาณ ก็ได้ตรัสไว้ด้วยข้อ
    ความอย่างเดียวกันกับในกรณีแห่งรูป
    ทุกประการ ต่างกันแต่เพียงชื่อแห่งขันธ์
    เท่านั้น).

    ภิกษุ ท. ! รูปเป็นอย่างไรเล่า ?

    มหาภูตรูปสี่อย่างด้วย รูปที่อาศัย
    มหาภูตรูปสี่อย่างด้วย : นี้เราเรียกว่ารูป ;

    การเกิดขึ้นแห่งรูป ย่อมมีเพราะความ
    เกิดขึ้นแห่งอาหาร ;

    ความดับไม่เหลือแห่งรูป ย่อมมี เพราะ
    ความดับไม่เหลือแห่งอาหาร ;

    มรรคอันประกอบด้วยองค์แปดอัน
    ประเสริฐนั่นเองเป็นข้อปฏิบัติให้ถึง
    ความดับไม่เหลือแห่งรูป, ได้แก่สิ่ง
    เหล่านี้ คือ ความเห็นชอบ ความดำริ
    ชอบ การพูดจาชอบ การทำการงาน
    ชอบ การเลี้ยงชีวิตชอบ ความพยายาม
    ชอบ ความระลึกชอบ ความตั้งใจมั่นชอบ ;

    สุขโสมนัสที่อาศัยรูปเกิดขึ้น อันใด ๆ,
    นี้เป็น อัสสาทะแห่งรูป

    ข้อที่รูป ไม่เที่ยงเป็นทุกข์มีความแปร
    ปรวนเป็นธรรมดาอันใด, นี้ เป็น อาทีนวะ
    แห่งรูป ;

    การนำออกเสียได้ซึ่งความกำหนัดด้วย
    อำนาจความพอใจ กล่าวคือการละเสีย
    ได้ซึ่งความกำหนัดด้วยอำนาจความ
    พอใจในรูป อันใด, นี้เป็น นิสสรณะ
    เครื่องออกจากรูป (รวมเป็นสิ่งที่ต้อง
    รู้ชัดเจ็ดอย่าง).

    ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด
    รู้ด้วยปัญญาอันยิ่งซึ่งรูปว่าอย่างนี้
    คือรูป, อย่างนี้ คือเหตุให้เกิดขึ้นแห่งรูป,
    อย่างนี้ คือความดับไม่เหลือแห่งรูป,
    อย่างนี้ คือข้อปฏิบัติให้ถึงความดับ
    ไม่เหลือแห่งรูป, อย่างนี้ คืออัสสาทะ
    แห่งรูป, อย่างนี้ คืออาทีนวะแห่งรูป,
    อย่างนี้ คือ นิสสรณะแห่งรูป, ดังนี้แล้ว

    เป็นผู้ปฏิบัติแล้ว เพื่อความเบื่อหน่าย
    เพื่อความคลายกำหนัด เพื่อความดับ
    ไม่เหลือ แห่งรูป ; สมณะหรือพราหมณ์
    เหล่านั้นเป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว.

    บุคคลเหล่าใด เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว, บุคคล
    เหล่านั้น ชื่อว่า หยั่งลงในธรรมวินัยนี้.

    ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด
    รู้ด้วยปัญญาอันยิ่งซึ่งรูปว่า อย่างนี้
    คือรูป, อย่างนี้ คือเหตุให้เกิดขึ้นแห่งรูป,
    อย่างนี้ คือความดับไม่เหลือแห่งรูป,
    อย่างนี้ คือ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับ
    ไม่เหลือแห่งรูป, อย่างนี้คืออัสสาทะ
    แห่งรูป, อย่างนี้ คืออาทีนวะแห่งรูป,
    อย่างนี้ คือนิสสรณะแห่งรูป, ดังนี้แล้ว
    เป็นผู้พ้นวิเศษแล้ว เพราะความเบื่อ
    หน่าย เพราะความคลายกำหนัด
    เพราะความดับไม่เหลือ เพราะความ
    ไม่ยึดมั่นซึ่งรูป. สมณะหรือพราหมณ์
    เหล่านั้น เป็นผู้พ้นวิเศษแล้วด้วยดี (สุวิมุตฺตา).

    บุคคลเหล่าใด เป็นผู้พ้นวิเศษแล้วด้วยดี,
    บุคคลเหล่านั้น ชื่อว่าเป็นเกพลี.

    บุคคลเหล่าใด เป็นเกพลี, วัฏฏะของบุคคล
    เหล่านั้น ย่อมไม่มีเพื่อการบัญญัติ.

    ...

    - ขนฺธ.สํ. ๑๗/๗๖-๘๐/๑๑๘-๑๒๔.
     
  19. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอย่างไรเล่า ?
    ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งเวทนาหกหมู่เหล่านี้
    คือ จักขุสัมผัสสชาเวทนา โสตสัมผัสสชาเวทนา ฆานสัมผัสสชาเวทนา ชิวหาสัมผัสสชาเวทนา กายสัมผัสสชาเวทนา มโนสัมผัสสชาเวทนา : นี้เราเรียกว่าเวทนา ; การเกิดขึ้นแห่งเวทนา ย่อมมี เพราะความเกิดขึ้นแห่งผัสสะ ; ความดับไม่เหลือแห่งเวทนา ย่อมมี เพราะความดับไม่เหลือแห่งผัสสะ ; มรรคอันประกอบด้วยองค์แปดอันประเสริฐ นั่นเอง เป็น ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งเวทนา, ....ฯลฯ .... [ข้อความต่อไปนี้ มีเนื้อความอย่างเดียวกับในกรณีแห่งรูป ต่างกันแต่เพียงว่านี้เป็นกรณีแห่งเวทนาเท่านั้น ไปจนถึงคำว่า .... สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น เป็นผู้พ้นวิเศษแล้วด้วยดี (สุวิมุตฺตา.) ].
    บุคคลเหล่าใด เป็นผู้พ้นวิเศษแล้วด้วยดี, บุคคลเหล่านั้น ชื่อว่าเป็นเกพลี บุคคลเหล่าใด เป็นเกพลี, วัฏฏะของบุคคลเหล่านั้น ย่อมไม่มีเพื่อการบัญญัติ.

    ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นอย่างไรเล่า ?

    ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งสัญญาหกหมู่เหล่านี้ คือ รูปสัญญา สัททสัญญา คันธสัญญา รสสัญญา โผฏฐัพพสัญญา ธัมมสัญญา : นี้เราเรียกว่าสัญญา ; ความเกิดขึ้นแห่งสัญญา ย่อมมีเพราะความเกิดขึ้นแห่งผัสสะ ; ความดับไม่เหลือแห่งสัญญา ย่อมมี เพราะความดับไม่เหลือแห่งผัสสะ ; มรรคอันประกอบด้วยองค์แปดอันประเสริฐ นั่น
    เอง เป็น ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งสัญญา, .... ฯลฯ ....

    [ข้อความต่อไปนี้ มีเนื้อความอย่างเดียวกับในกรณีแห่งรูป ต่างกันแต่เพียงว่านี้เป็นกรณีแห่งสัญญาเท่านั้น ไปจนถึงคำว่า .... สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น เป็นผู้พ้นวิเศษแล้วด้วยดี (สุวิมุตฺตา).].

    บุคคลเหล่าใด เป็นผู้พ้นวิเศษแล้วด้วยดี, บุคคลเหล่านั้น ชื่อว่าเป็นเกพลี.
    บุคคลเหล่าใด เป็นเกพลี, วัฏฏะของบุคคลเหล่านั้น ย่อมไม่มีเพื่อการบัญญัติ.

    ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ?
    ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งเจตนาหกหมู่เหล่านี้ คือ รูปสัญเจตนา สัททสัญเจตนาคันธสัญเจตนา โผฏฐัพพสัญเจตนา ธัมมสัญเจตนา : นี้เราเรียกว่า สังขารทั้งหลาย ; ความเกิดขึ้นแห่งสังขาร ย่อมมี เพราะความเกิดขึ้นแห่งผัสสะ ; ความดับไม่เหลือ
    แห่งสังขาร ย่อมมี เพราะความดับไม่เหลือแห่งผัสสะ ; มรรคอันประกอบ
    ด้วยองค์แปดอันประเสริฐนั่นเอง เป็น ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับไม่เหลือแห่ง
    สังขาร, .... ฯลฯ ....
    [ข้อความต่อไปนี้ มีเนื้อความอย่างเดียวกับในกรณีแห่งรูปต่างกันแต่เพียงว่านี้เป็นกรณีแห่งสังขารเท่านั้น ไปจนถึงคำว่า ....สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นเป็นผู้พ้นวิเศษแล้วด้วยดี (สุวิมุตฺตา).].

    บุคคลเหล่าใด เป็นผู้พ้นวิเศษแล้วด้วยดี, บุคคลเหล่านั้น ชื่อว่า เป็นเกพลี, บุคคลเหล่าใด เป็นเกพลี, วัฏฏะของบุคคลเหล่านั้น ย่อมไม่มีเพื่อการบัญญัติ.

    ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอย่างไรเล่า ?
    ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งวิญญาณหกหมู่เหล่านี้ คือจักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ มโนวิญญาณ : นี้เราเรียกว่าวิญญาณ ;ความเกิดขึ้นแห่งวิญญาณ ย่อมมี เพราะความเกิดขึ้นแห่งนามรูป : ความดับไม่เหลือแห่งวิญญาณ ย่อมมี เพราะความดับไม่เหลือแห่งนามรูป ; มรรคอันประกอบด้วยองค์แปดอันประเสริฐนั่นเอง เป็น ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งวิญญาณ, .... ฯลฯ ....
    [ข้อความต่อไปนี้ มีเนื้อความอย่างเดียวกับในกรณีแห่งรูป ต่างกันแต่เพียงว่านี้เป็นกรณีแห่งวิญญาณเท่านั้น ไปจนถึงคำว่า ....สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น เป็นผู้พ้นวิเศษแล้วด้วยดี (สุวิมุตฺตา).].
    บุคคลเหล่าใด เป็นผู้พ้นวิเศษแล้วด้วยดี, บุคคลเหล่านั้น ชื่อว่า เป็นเกพลี. บุคคลเหล่าใด เป็นเกพลี, วัฏฏะของบุคคลเหล่านั้น ย่อมไม่มีเพื่อการบัญญัติ.

    ภิกษุ ท . ! ภิกษุเป็นผู้ฉลาดในฐานะเจ็ดประการ (สตฺตฏฺฐานกุสโล) ด้วยอาการอย่างนี้ แล

    ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้พิจารณาใคร่ครวญธรรมโดยวิธีสามประการ (ติวิธูปปริกฺขี) นั้นเป็นอย่างไรเล่า ?
    ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมพิจารณาใคร่ครวญธรรม โดยความเป็น ธาตุ ; ย่อมพิจารณาใคร่ครวญธรรม โดยความเป็น อายตนะ ; ย่อมพิจารณาใคร่ครวญธรรม โดยความเป็น ปฏิจจสมุปบาท.
    ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้พิจารณาใคร่ครวญธรรมโดยวิธีสามประการ ด้วยอาการอย่างนี้ แล.

    ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ฉลาดในฐานะเจ็ดประการด้วยเป็นผู้พิจารณา ใคร่ครวญธรรมโดยวิธีสามประการด้วย เราเรียกว่า เกพลี อยู่จบกิจแห่งพรหมจรรย์ เป็นอุดมบุรุษ ในธรรมวินัยนี้, ดังนี้แล.

    - ขนฺธ.สํ. ๑๗/๗๖-๘๐/๑๑๘-๑๒๔.
     
  20. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    เปรี้ยง !!!!


    นอก
     

แชร์หน้านี้

Loading...