ถามเรื่อง ข้อห้าม กินอาหารในงานศพ

เคยได้ยิน และมีคนบอกหลายครั้งว่า เวลาไปงานศพ ให้หลีกเลี่ยง การกินอาหาร และน้ำ ในงานศพ

อยากทราบที่มา และ เหตุผลของความเชื่อนี้ค่ะ เป็นวิทยาทานค่ะ

รบกวนผู้รู้อธิบายด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

 

ขอแสดงความเห็นด้วยคนครับ
โดยส่วนตัวผมที่ไปงานศพ ก็กินทุกงานครับ เพราะเป็นการให้เกียรติเจ้าภาพ
ระหว่างที่ฟังพระสวด ผมก็จะอธิฐานให้ผู้ล่วงลับไปสุ่สุขคติตามกุศลที่เข้าสร้างสมมาและอุทิศส่วนกุศลที่ผมเคยปฏิบัติไปให้ โดยปกติเจ้าภาพจะแจกด้ายแดงเพื่อเป็นการป้องกันสิ่งไม่ดีติดตัวไปที่บ้าน ซึ่งด้ายแดงนี้ผมก็จะพันไว้ที่ต้นทับทิมหน้าบ้านครับ ไม่เอาเข้าบ้าน
เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ คอยดูว่าท่านอื่นว่าอย่างไรบ้างครับ

 

ก่อนอื่นจะขอบอกว่าตัวดิฉันเองก็ไปงานศพและกินอาหารที่เค้าเลี้ยงอยู่บ่อยๆ แต่เมื่อ3เดือนที่แล้วมีคนมาบอกว่าห้ามกินเด็ดขาด แล้วเค้าก้เปิดเวปให้ดูค่ะ ว่ามีคนที่ไปงานศพแล้วเผลอก้มหน้ามองรอดขา ปากฎว่าเห็นคนตายเอาขาไปแกว่งเล่นในหม้อกระเพาะปลาที่เค้าทำแจกอ่ะค่ะ ก็ฟังมาว่างั้น แต่จิงๆแล้วแต่ละงานคงไม่มีผีมาเล่นแบบนี้ทุกตนหรอกนะคะ เพราะมันบาป แล้วเท่าที่เปิดดูก็จะเล่าลักษณะคล้ายๆกันเลยไม่รู้ว่าจิงแท้ยังไงอ่ะค่ะ ถ้าเราไปงานแล้วหิวน้ำก็คงต้องกินอ่ะค่ะ เพราะน้ำเค้าก็แพ๊คมาอย่างดี ให้เจาะกินเองได้ ผีคงไม่เอาอะไรไปแกว่งได้แล้วแน่ๆ จิงป่ะคะ ^^

 

การที่ห้ามเพราะผี กินอาหารนั้นแล้วแต่เราก็ยังเห็นคงสภาพเดิมอยู่ คือเขากินสิ่งที่เป็นนามธรรม ไม่ได้กินรูปธรรม ผีในที่นี้ไม่ได้หมายถึงคนตาย ที่กำลังจัดงานอยู่ แต่ จะเป็นพวกสัพเวสี ที่เร่ร่อนอยู่มากมายนับหมื่นในสถานที่นั้น

 

ถ้าจำไม่ผิดเคยอ่านหนังสือของหลวงพ่อจรัญ มีคนเห็นสัมพเวสีจัดการกับอาหารในงานก่อนที่จะยกมาให้คนกินต่อ.....

 

อย่าคิดมากเลยนะครับ ถ้าเราหิวยังไม่ได้ทานข้านเย็นก็กินเถอะครับแต่ถ้าเราอิ่มแล้วเราไม่หิวก็ไม่ต้องทาน ที่ว่ากันไปนั้นเป็นแค่ความเชื่อนะครับสำหรับผู้ปฎิบัติและศึกษาธรรมอย่างแท้จริงคงจะรู็นะครับว่า เป็นอย่างไรสำหรับสัมพเวสีต่างๆถ้าเจ้าภาพไม่ได้เชิญหรืออุทิศให้ก่อนเขาไม่มีสิทธิ์ได้รับหรอกครับ ....สาธุ

 

ที่จริงผมเองก็ไม่ได้รู้อะไรมากคับแต่ที่แต่ละคนพูดก็น่าจะจิง แล้วต้องดูด้วยว่า
สถานที่จัดงานอยู่บริเวณใด เพราะปกติถ้ามีงานพวกนี้ แน่นอนสัมภเวสีมีแน่นอน
บางบ้านที่ผมเคยๆไปงานศพเค้าจัดสำรับ สำหรับไว้สัมภเวสีด้วย แต่สำรับนั้นจะไปตั้งหน้าบ้าน
แล้วก็ของศพคือไหว้หน้าศพ ของคนก็ส่วนนึงไม่เอาไปปนกันแต่ตอนทำเสร็จใหม่ๆ
เค้าจะตักแยกไว้ว่าอันนี้ไหว้ศพ อันนี้ไหว้สัมภเวสีอะไรทำนองนี้ไม่รวมกัน
แต่ความจิงแล้ว เจ้าภาพเค้าทำเลี้ยงแขก ถ้าหากเราไม่ถือไม่คิดอะไรก็กินไปเถอะ
เพราะความคิดผมคิดว่าเจ้าภาพทำมาเพื่อขอบคุณน้ำใจแขกที่มาช่วยงาน
ที่มางาน ส่วนเรื่องที่ว่าถ้าหากจะไม่กินเพราะ ถือกรณีแบบนี้ก็บอกกะเจ้าภาพไป
ว่าไม่เป็นไรเกรงใจต้องรีบกลับเพราะดึกแล้วหรืออะไรก็ว่าไป แต่ไม่ควรพูดหรือกระ
ทำกิริยาที่เป็นการไร้มารยาทกับเจ้าภาพในงานแค่นี้ก็น่าจะพอแล้วคับ

 

ไปงานศพห้ามกินห้ามดื่ม ไม่ทราบที่มาเคยได้ยินมาเหมือนกัน

แต่ที่ได้ยินมาแน่ ๆ คือ ไปงานศพให้ระวัง ชงกับปีเกิด

เช่น ปีนี้พ.ศ.๒๕๕๓ ปีขาล คนที่เกิดปีขาล, ปีวอก , ปีกุน และ ปีมะเส็ง

ทั้ง ๔ นักษัตรนี้ ห้ามเป็นเจ้าภาพงานศพ และ ห้ามไปงานศพ

 

เออ ไปงานศพไหนก็กินตลอดไม่เป็นอะไรเลย

 

เป็นเรื่องความเชื่อตอบยาก คงต้องใช้วิจารณญาณส่วนตัว ไม่งั้นก็ต้องใช้หลักกาลมสูตร

 

คนที่ไม่กินของในงานศพ ส่วนมากจะเป็นร่างทรง หรือคนที่มีวิชาอาคม

เพราะเขามีข้อห้ามอยู่ แม้แต่ของที่ไหว้ตรุษจีน หรือไหว้สัมพเวสี ก็ไม่กิน

แต่ที่ไหว้พระ หรือไหว้เทพเทวดา ก็เห็นเขากินได้อยู่...

แต่คนปกติทั่วไป หรือคนที่ปฏิบัติธรรม ก็กินเป็นปกติอยู่แล้ว...

ต้องรอคนที่เขาไม่กินมาบอกเหตุผลเองดีกว่านะครับ...

 

อันที่จริงไม่ได้เป็นข้อห้ามของบุคคลทั่วไป...แต่เป็นข้อห้ามของบุคคลที่เรียนวิชาทางศาสตร์ลี้ลับบางศาสตร์เท่านั้น...ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านได้กำหนดข้อห้ามเอาไว้ เช่น ห้ามกินของงานศพ...ห้ามกินน้ำเต้า เพราะจะทำให้วิชาที่เรียนมาเสื่อมครับ...จะมีอาการสำหรับผู้ที่ผิดข้อห้ามของครูบาอาจารย์ศาสตร์นี้ เช่น จะเกิดอาการปวดหัวอย่างหนัก กินยาก็ไม่หาย มีอาการคล้ายคนจะคลุ้มคลั่ง...ต้องแก้ครับ
ส่วนบุคคลทั่วไปไม่ได้มีข้อห้ามอะไร อย่าได้กังวล..ตื่นตูมไปเลยครับ
ผู้ที่เรียนวิชานี้ครับ

 

ผมว่าน่าจะเข้าใจผิดนะครับ..คนที่กินไม่ได้ก็คงเพราะเรียนวิชาบางอย่างที่เขาห้าม แต่ คนธรรมดานั้น กินได้ตลอดครับ...คือการกินอาหารที่งานศพนั้น เจ้าภาพจัดขึ้นมาขอบคุณคนที่มาร่วมงาน และเป็นการทำทานให้กับู้ตายด้วยครับ ส่วนที่บอกว่าเห็นผู้ตายเอาขาไปแกว่งในหม้อแกงนั้น ไร้สาระครับ..มั่วนั่นเอง..ผู้ที่ตายไปแล้ว เป็นวิญญาณไม่มีกายเนื้อ หรือแม้ว่าเขาจะทำจริงแล้วเป็นยังไงอะครับ ก็แค่อากาศผ่านเท่านั้น...หรือจะบอกว่าสกปรกครับ แล้วสิ่งที่เราคิดว่าสะอาดแล้วกินเข้าไปแล้วไปรวมท่กระเพาะอาหาร จะไม่ยิ่งสกปรกกว่าเหรอครับ ตอนขับถ่ายออกมา สกปรกไหมครับ.....ครูบาอาจารย์ท่านสอนให้เห็นความปกติของโลก..แต่มนุษย์เราชอบปรุงแต่งเองครับ....อยากให้ใช้สติในการพิจารณาเหตุและผลครับ....มนุษย์เราเกิดมาเพื่อตายครับ.....สาธุ

 

เห็นด้วยค่ะ

แต่น้าชายเขาไปงานศพ เขากินน้ำที่งานศพ แล้วเขาบอก พอกินไปแล้วเวียนหัว งงเหมือนกัน บางทีคิดว่า เขาอุปทานไปเองหรือเปล่า

 

ผมไปงานไหน ก็กินตลอดนะครับ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย
ของไหว้ตรุษจีน สาร์ทจีน ก็กินอยู่ประจำ กินเสร็จนั่งตาลอย เพราะบริโภคมากไป อึดอัด

 

คงมีความพิเศษอยู่ในตัวน้าคุณ ลองPMคุยกันดูก่อนก็ได้ครับ เผื่อมีอะไรที่พอจะแนะนำช่วยเหลือกันได้ครับ

 

เป็นเรื่องนานาจิตตัง นะครับ
ใครจะะปฏิบัติอย่างไร แบบไหน?
ก้อไม่น่าจะผิด ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมมากกว่า...
อย่าถือนั่น ถือนี่ เลย หนักเปล่า ๆ ..นะครับ

 

บางคนกินในงานไม่ว่าห่อกลับบ้านอีกตั้งหากเห็นอยู่บ่อยๆ

 

คนที่ไปร่วมงานศพ เรียกว่า เป็นการไปสร้างบุญและบารมีนะคะ
คนเหล่านั้นก็มีทั้งปฏิบัติธรรมและไม่ฏิบัติธรรม มากน้อยต่างกัน ปะปนกันไป

เมื่อใดก็ตามหากใคร ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ หรือแม้แต่สัมภเวสี เปรต กระทำตนผิดศีล ต่อผู้ปฏิบัติธรรม หรือไม่ปฏิบัติธรรม ก็ถื่อเป็นการสร้างบาปให้ตนค่ะ

แล้วยิ่งกระทำต่อผู้ปฏิบัติธรรมด้วยแล้ว ยิ่งเป็นการสร้างบาปหนักให้ตนเปล่าๆ ไม่ว่าการกระทำผิดศีลเช่นนั้นจะเป็นสถานที่ใดก็ตามค่ะ ที่ลับหรือที่แจ้ง
มองเห็นหรือไม่เห็น กรรมชั่ว หรือบาปก็ถูกบันทึกโดยอัตโนมัติค่ะ จะติดอยูในจิตของผู้นั้น มักจะระลึกได้ก่อนตายค่ะ

 

จะเล่าเท่าที่รู้นะจ๊ะ....
สำหรับบางคน เขาถือ เหมือนว่าเป็นคนที่เจอของพวกนี้แล้วจะเจ็บไข้ได้ป่วย เขาก็จะไม่กิน ไม่งั้นให้สังเกตุงานศพจะมีกระดาษสีเหลืองเขียนเหมือนบอกเป็นนัยๆ ว่า แปะสื่อบ่กี๋ แปลว่า ไม่ถืออะไรทั้งนั้น บางคนดวงแข็งไม่กลัวเรื่องพวกนี้ กินเข้าไปก็ไม่เป็นไร บางคนอยู่ในระหว่างไม่ค่อยสบาย ก็จะไม่ค่อยกิน แต่ปรกติก็กินนะ สำหรับเรื่องข้าวต้มงานศพมันมีที่มาเนื่องจาก สมัยก่อน คนมาช่วยงานอาจไม่ได้ทานมาจากบ้าน หรือ เหนื่อย หรือ ทานอาหารเย็นกันแต่หัวค่ำ เลยหิว เจ้าภาพเลยจัดอาหารมาให้กิน ไม่ได้เป็นของที่ไหว้ผีหรือไหว้ศพ แต่อย่างที่หลายคนว่า บริเวณที่แบบนี้ สัมภเวสีก็เยอะ ก็ทั้งน้ำทั้งอาหาร คงจะมีเอาไปชิมกันบ้างล่ะ เอาเป็นว่า คนที่ดวงอ่อน หรือ เจอะเจอพวกนี้แล้วจะป่วย ก็เลี่ยงได้ก็เลี่ยง แต่พวกดวงแข็ง กินเข้าไปเหอะ เมื่อสองวันก่อน ไปงานคุณลุงของสามี ยังเอากล่อง S&P กลับบ้านตั้ง 5 กล่องเลย ของเหลือเยอะแยะ ออกจากเตาอบแล้วใส่กล่อง ลงจากรถก็เอามาแจกเลย แฮบมา 5 กล่อง อิอิ
จะเล่าเรื่องหลานให้ฟัง อยู่ข้างบ้านนี้เอง ตอนนี้อายุ 2 ขวบ ปีที่แล้ว อยู่ๆ ก็ชักตาเหลือก ตัวร้อนจี๋ ส่งไป รพ. แค่ 5 นาทีไม่ถึง เพราะจากเซนต์หลุยส์ 3 ไปเซนต์หลุยส์ 2 เท่านั้น ระหว่างทางก็ดีขึ้น ไปชักอีกทีหน้า รพ. ก็รักษาอยู่สองวัน ไม่มีอาการอะไร ไม่พบสาเหตุ เป็นอะไร ก็กลับบ้าน ต่อมาอีกหนึ่งอาทิตย์ เด็กก็ชักอีก ปู่เขาก็มาตาม เราก็เข้าไปดู พอเห็นเรา ตัวก็หายร้อน หายชัก แถมยิ้มแป้นอีกแน่ะ ก็งงกันหมด เราก็ให้เอาใบทับทิมใส่น้ำเย็นอุ่นพอประมาณ แล้วเช็ดตัวให้เด็ก ก็ไม่เป็นไร แล้วปู่เขาก็นึกได้ว่า วันนั้น เป็นวันตายครบหนึ่งปีของย่าเด็ก แสดงให้เห็นว่า เด็กคนนี้ ถือเรื่องพวกนี้ ไม่ว่า งานศพ หรืองานแต่ง ไม่ควรให้ไปอย่างยิ่ง แล้วพอเริ่มจะลืม ก็อาทิตย์นี้ ลุงที่เป็นพี่ชายปู่ของเด็กตาย ปู่กับพ่อเด็กก็ไปงานศพ แค่วันแรก เท่านั้น คืนนั้น เด็กชักอีก นี่เข้า รพ. ยังไม่ออกมาเลย สองคืนก่อนเลยบอกปู่เขาว่า ให้เอาใบทับทิมคอยเช็ดตัว ถ้าออกมาว่าจะแนะนำให้ไปไหว้แปะกงซะหน่อย หรือยกให้เป็นลูกแปะกงซะเลย แล้วจะไม่เป็นอะไรอีก ปรกติเป็นเด็กน่ารักมากๆ และฉลาดมากๆเลย เล่นก็เก่ง ประจบก็เก่ง ยิ้มก็เก่ง