ถึงคุณ NiNe ครับ

ได้อ่านกระทู้ระบายความคับแค้นของคุณแล้วมีความเห็นดังนี้ครับ
ผมว่ามันอยู่ที่ว่าความทุกข์ของเรานั้นเราเอาตัวไปเปรียบเทียบกับใครและอะไร ทุกข์มีอยู่สองอย่างครับ คือ
1 ทุกข์ทางกาย (เป็นของจริงที่ทุกคนเลี่ยงไม่ได้) เช่นร้อน หนาว หิว ไม่สบาย ป่วย เหนื่อย เกิดแก่เจ็บตาย อันนี้เป็นทุกข์ของจริงเป็นรูปธรรม ทุกคนต้องเจอเหมือนกันเท่ากันหรือใกล้เคียงกัน
2 ทุกข์ทางใจ (เป็นทุกข์ที่จิตสร้างขึ้นเอง) เป็นเรื่องนามธรรม แต่ละคนมีไม่เหมือนกัน แล้วแต่ Ego ใครจะมากหรือน้อยต่างกัน Ego มากทุกข์มากEgo น้อยทุกข์น้อย เช่นเด็กยากจนได้ของเล่นชิ้นใหม่จากกองขยะอาจดีใจสุดชีวิต ส่วนเศษฐีได้รถเบนส์คันใหญ่อาจรู้สึกเบื่อๆก็ได้ คนยากจนต่ำต้อยด้อยค่ามักจะมีภูมิคุ้มกันในทุกข์ที่จิตสร้างขึ้นเองเพราะมี Ego น้อยมากกว่าคนรวยครับ ลูกเศษฐี Ego มากเพราะไม่ค่อยมีใครขัดใจจึงมีภูมิคุ้มกันต่อปัญหาต่ำ มีปัญหามากระทบนิดหน่อยเลยโกธรเป็นฟืนเป็นไฟบางทีถึงกับฆ่าตัวตายเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง พวกเราคงเคยได้ยินเรื่องของดาราเศษฐีไฮโซที่ทะเลาะกันจนยกเลิกการแต่งงานเพียงเพราะตกลงกันไม่ได้ว่าจะใช้ผ้าม่านสีอะไรในการตกแต่งเรือนหอ แต่ถ้าเอาเรื่องนี้ไปถามคนอดมื้อกินมื้อเขาจะเห็นเป็นเรื่องไร้สาระที่สุด

คุณ NiNe ลองใช้วิธีของผมดูมั่งก็ได้ไม่สงวนลิขสิทธิ ผมมีรูปPoscardอยู่รูปหนึ่งเป็นภาพเขียนสีน้ำมันเป็นรูปทิวทัศน์อันแสนงดงามซึ่งผมมั่นใจว่าต้องวาดโดยศิลปินชั้นครู เวลามีทุกข์มีปัญหาผมจะเอารูปนี้ขึ้นมาดูแล้วผมจะรู้สึก ละอายใจ ตำหนิตัวเอง กลับมามีสติและมีกำลังใจแช่มชื่นในการต่อสู้ชีวิตอย่างน่าประหลาด ทำไมเหรอครับ เพราะว่า Postcard อันแสนงดงามรูปนั้น(สวยเกินกว่าที่ผมจะวาดได้)รังสรรค์ไว้โดยศิลปินผู้ไม่มีมือทั้งสองข้าง!!! แต่ฝึกใช้เท้าจับพู่กันวาดรูปออกขายหวังหารายได้มาประทังชีวิตและครอบครัวครับ และความงามจากฝีเท้าข้างนั้น ด้วยความเคารพ ไม่มีทางที่มือผมจะไปวาดแข่งกับท่านได้!!! ทุกครั้งที่ผมมองดูรูปนี้เมื่อมีทุกข์ ผมตั้งคำถามกับตัวเองว่า
1 ความทุกข์ของผมเทียบได้เท่ากับครึ่งหนึ่งของศิลปินท่านนี้หรือไม่?
2 ความพยายามในการแก้ปัญหาของผมเทียบได้เท่ากับครึ่งหนึ่งของศิลปินท่านนี้หรือไม่?
3 ปัญหาหรือความโชคร้ายของผมเทียบได้เท่ากับครึ่งหนึ่งของศิลปินท่านนี้หรือไม่?
4 ความมุ่งมั่นในการต่อสู้ชีวิตของผมเทียบได้เท่ากับครึ่งหนึ่งของศิลปินท่านนี้หรือไม่?

ด้วยความเคารพ ไม่เคยมีครั้งไหนเลยในชีวิตที่ผมจะตอบว่าใช่แม้แต่ข้อเดียว!!!
นั่นแหละทำให้ผมเกิดความอดสูละอายใจ นั่นแหละทำให้ปัญหาของผมเป็นเรื่องไร้สาระ นั่นแหละทำให้ผมมีแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตต่อไปอย่างมุ่งมั่นและมีความหวัง

ทั้งหมดนี้มีเคล็ดลับอยู่นิดเดียวเองครับ!!! ถ้าคุณเอาปัญหาของคุณไปเทียบกับคนที่ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จไปเสียทุกอย่างคุณก็รู้สึกว่าคุณเป็นคนโชคร้าย แต่ถ้าคุณเอาปัญหาของคุณไปเทียบกับคนต่ำต้อยด้อยโอกาศในสังคมคุณก็จะรู้สึกว่าคุณเป็นคนโชคดีที่สุดในโลก

ก็อย่างที่ผมบอกแหละคุณ NiNe คุณเอาปัญหาของคุณไปเทียบกับอะไรหละครับ

หวังว่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย

 

ปัญหาของผมนั้นยิ่งใหญ่นัก ... พวกคุณๆ ไม่มีทางรู้หรอก
สงครามของจักรวาลกำลังเริ่มต้น ... โลกจะเข้าสู่สภาวะน้ำแข็งอีกครั้ง ...มนุษยชาติจะสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ในไม่ช้า .. ดวงอาทิตย์ที่เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะจักรวาลกำลังจะดับ ... กลายเป็นดาวแดง (Red Giant) ซึ่งจะกลืนกินดาวเคราะห์น้อยทั้งมวล ... โลกกำลังจะเหือดแห้ง.. ร้อนจัด .. และไร้แล้วซึ่งเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล ... ไร้แสงดาวและแสงเดือน ... และกำลังจะกลายเป็น Big Bang อีกครั้ง ...เพื่อให้กำเนิดกับจักรวาลใหม่ในไม่ช้า ... เศร้าจริงๆ (อีกหลายล้านปีขอรับ... )


สงครามอวกาศกำลังเริ่มต้น คุณไป Search ใน Google.com โดยใช้ Key Word ด้วยคำว่า "Star War, Mar , Earth , Universe, Physic , Atomic , Nuclear , UFO ,etc." แล้วคุณจะได้คำตอบ ...


ขอบคุณที่ให้กำลังใจ NiNe ... ซาบซึ้งยิ่งนัก .... ขอบคุณ และ ขอบคุณ

แต่ที่นี่มี WebSnow .. ผู้ที่กำลังสร้างวิทยาการสายพันธุ์ใหม่ .. ที่มีชื่อเรียกว่า "พลังจิต" ..อาจจะสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวที่เป็นบรรพบุรุษของเราในสากลจักรวาล .. เพื่อให้มาช่วยเราในยามคับขัน...

เฮ้อ... เหนื่อยจริงๆ ... กรุณาอย่าเชื่อผมนะขอรับ .... (แต่ฟังไว้ก็ดี ...ในฌานฯ จะบอกไว้หมดแล้ว ... ตามหลักสูตรของพระพุทธองค์ ... จงเร่งรีบปฏิบัติ รักษาศีลอย่างยิ่งยวด ...)

 

สิ่งที่เป็นไปได้ ณ. ตอนนี้ ก็คือ ... พวกเราชาวโลกจะต้องกอบกู้เสถียรภาพทางด้านธรรมชาติ .. CO2 (คาร์บอนไดออกไซต์) กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ... O2 (อ๊อกซิเจน) ก็กำลังลดลง .. และที่สำคัญคือ O3 (โอโซน) กำลังถูกทำลายด้วยสเปรย์น้ำหอม .. น้ำยาแอร์ (ทั้งแอร์บ้าน และ แอร์รถยนต์) และ ฯลฯ

โอ๊ว... อวสานต์ ... ของโลกกำลังจะมาถึงก่อนเวลาอันควร (เร็วกว่ากำหนด ด้วยน้ำมือของมนุษยชาติ)

สายธารแห่งน้ำแข็งกำลังหลั่งไหลจากขั้วโลกเหนือ
สารธารแห่งน้ำแข็งของขั่งโลกใต้ .. กำลังไหลทะลั่กเข้าสู่เมือง ... สู่เส้นศูนย์สูตร
โอ๊ว... อุกาบาต (ฝนดาวตก) ก็กำลังจะโคจรมาที่โลก .. ช่างน่ากลัว... เสียนี่กระไร????

ปี 2008 อาจจะมีประเทศใดประเทศหนึ่ง .. หายไปจากแผนที่โลก ... (ไม่ใช่ประเทศไทย นะขอรับ)
ปี 2008 อุกกาบาตจะวิ่งเข้าวงโคจรโลก ... ชน!!! ....ปังเข้าให้ ... โอ้..พระเจ้า!!!!!!!!


เกษตรกร... ผู้รอน้ำจากฟากฟ้า ... ต้องหลั่งน้ำตา... ที่เหือดแห้ง
ไหลรินแทนน้ำฝนจากฟากฟ้า...สู่แดนดิน ... อนาจแท้ ... ชีวิตข้าฯ ... เกิดมาท่ามกลางน้ำตา ...


สาธุ.... NiNe ขอให้ประเทศไทยจงแคล้วคลาดปลอดภัย .... ด้วยอำนาจแห่งพระศาสดา ....
ขอให้คนไทยอยู่ในศีล .. รักกัน .. อย่ากัดกัน (และอย่ากัดกู) .. ฮ่าฮ่า .. พูดเล่นนะคร๊าบ ...

 

อ้า!...NiNe...บ่นเป็นหมีกินผึ้งจริงเลยเด็กน้อยจอมทรนง! หลักการนี่รอบรุ้จนหัวหมุนยังกะบุมเมอแรงจริงนะ
บ่นๆปากเปื่อย... นี่กลับมาทำการแก้ไขสิ!
ไ่ม่ีมีกล้าไม้ติดต่อที่ยายได้นะ?...สั่งสมุนเพาะกล้าไม้ป่าไว้เยอะเลย รอคนไปช่วยย้ายกล้าไปปลุกตามป่าตามทุ่งง่ะ... แก่แล้วทำเองไม่ไหวจ๊ะ!.. ฟรีนะจะบอกให้
ห่วงโลกมากจริงๆง่ะ?.. อิ๊ๆ... มัวแต่เก่งหน้าคอมเท่านั้นเองมั้ง?!!
ตังนะช่วยบริจาคสร้างพระไตรฯกะเค้ายังล่ะ?
คนที่เข้ามาอ่านล่าสุดนี่ก็ยังไ่ม่บริจาคใช่ไหมล่า?... กิ่วๆ... ม่าย...อาย...เค้า!!!

 

ฝนดาวตกนี่ไม่ใช่ไม่ดีนะ ตราบใดที่ยังไม่เป็นอุตกาบาต ( ยังตกไม่ถึงพื้น ) แถมยังขอพรได้ด้วยนะ อิ อิ อิ ตอนพระศรีอารีย์ลงมาครั้งที่ 9 เป็นผู้ไถ่บาป ตอนนั้นพระศรีอารีย์กลัวมากเพราะว่าตนจะต้องถูกฆ่า ( เป็นขั้นตอนสำคัญในการไถ่บาปให้มนุษยชาติ ) ในชาตินั้นพระศรีอารีย์ต้องทำให้สะกดคลายตั้งแต่อายุยังน้อย เลยรู้ตัวว่าจะต้องถูกฆ่าตั้งแต่เด็ก

เวลาเทพจะลงมาจะต้องทำสะกดไม่ให้จำได้ว่าตนเองเป็นเทพ ซึ่งถ้ามาทำงานที่ยากๆต้องใช้ปัญญาสูงๆก็จะทำให้สะกดคลายออกตามเวลาที่กำหนด แต่ถ้ามางานไม่ยากเท่าไหร่หรือมาเที่ยวเล่น ปัญญาระดับมนุษย์ก็ทำได้ก็จะไม่ทำให้สะกดคลาย และสะกดจะไม่คลายจากข้างนอก ถ้าไม่ได้ทำให้สะกดคลาย สะกดก็จะไม่คลายจนกว่าร่างจุติจะตาย แต่ว่าถ้ากายทิพย์ถูกสะกดกายทิพย์จะสร้างแรงต่อต้านไม่ให้ถูกสะกดขึ้นมา ทำให้เมื่อจะสะกดกายทิพย์ครั้งต่อไปจะทำได้ยากขึ้น และจะต้องใช้สะกดที่แรงขึ้น ดังนั้นตอนปางแรกๆที่ลงมาก็จะสะกดเบาๆก่อน พอจะลงมาอีกก็ทำสะกดให้แรงขึ้นตามลำดับ ตอนที่ลงมาชาติที่ 9 ตอนนั้นสะกดแรงแบบสุดๆแล้ว แล้วสะกดมันจะสะกดไม่อยู่ ก็เลยต้องทำให้สะกดคลายตั้งแต่เด็ก ( ถ้าสะกดเอาไม่อยู่ ก็ทำให้สะกดคลายเลยจะดีกว่า เพราะถ้าสะกดเอาไม่อยู่ร่างจุติจะจำได้ครึ่งๆกลางๆซึ่งจะดำรงชีวิตอยู่ยาก ก็ให้สะกดคลายไปเลยดีกว่า )

เนื่องด้วยเหตุนี้ ปางที่ 9 เลยต้องทำให้สะกดคลายตั้งแต่เด็ก พระศรีอารีย์เลยรู้ตัวตลอดตั้งแต่เด็กว่าตนเองจะต้องถูกฆ่าเลยกลัวมาก และพระศรีอารีย์ชอบออกมาดูดาวตอนกลางคืน ตอนนั้นพระเจ้าก็คิดว่าชาตินี้ลูกลงไปพ่อไม่ได้ทำอะไรให้เลย ( ชาติอื่นๆ ที่ลงมานี่อภินิหารอลังการสุดขอบฟ้า แหวกทะเลมั่ง ทำให้ฝนอะไรนั่นที่ตกมาเป็นเพชรนิลจินดา เหมือนกับตอนที่พระเวสสันดรสร้างบารมีเพียงพอที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วกลับเข้าเมือง แต่ตอนพระเจ้าทำรู้สึกว่าจะให้ตกลงมาทั้งโลกเลย )

ตอนนั้นพระศรีอารีย์กำลังออกมาดูดาวอยู่ พระเจ้าก็บอกว่า เนี่ยชาตินี้ไม่ได้ทำอะไรให้ลูกเลย เอางี้ละกัน ให้ดูนี่นะ แล้วก็ทำฝนดาวตกให้ดู ซึ่งฝนดาวตกในครั้งนั้นมีลักษณะไม่เป็นฝน คือไม่ได้เป็นดวงเล็กๆหลายๆดวงตกลงมาพร้อมกัน แต่เป็นลักษณะมาเป็นดวงใหญ่ๆ ทีละลูก ทีละลูก ตอนนั้นพระเจ้าก็ถามว่า " เป็นไง สวยมั้ย " พระศรีอารีย์ก็ตอบว่า " สวย " พระเจ้าก็บอกว่า " เนี่ย ถ้าเจ้าอธิฐานขณะที่ดาวตกยังไม่หายไป คำอธิฐานของเจ้าจะเป็นจริง " พระศรีอารีย์ก็ถามว่า " จริงเหรอ " พระเจ้าก็ตอบว่า " จริงสิ " พระศรีอารีย์เลยหัวหมอ บอกไปว่า " งั้นเราจะขอให้เค้าไม่ต้องฆ่าเรา " พระเจ้าก็สวนกลับทันที " ศิอารย์ " " เจ้าไม่ได้กับเมียเจ้าซะที เจ้าก็ขอให้เจ้าได้กับเมียเจ้าดิ " พระศรีอารีย์เลยขอให้ได้กับเมียตัวเอง และในที่สุดก็โดนฆ่าตามระเบียบ -_-"

 

ที่ NiNe บอกว่าโลกกำลังจะสูญสิ้นในไม่ช้านั้น (อีกหลายพันล้านปีครับ) ... อย่าเพิ่งต๊กกะใจ..
เราก็คงตายไปเป็นหลายพันล้านรอบแล้ว ... อย่าซีเรียส ...
ตอนนั้นมนุษยชาติคงมีการพัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีอวกาศยานที่สามารถขนย้ายมวลสรรพสิ่งในโลกไปยังดาวดวงใหม่ ... ที่มีสภาพพื้นผิว... ธรรมชาติใกล้เคียงกับโลกครับ ...

แต่ NiNe คงไม่ได้มาเกิดอีกแล้วครับ ...เพราะว่า...

 

ปัญหาของผมใกล้ตัวกว่าคุณมากครับ เรื่องโลกจะแตกผมยังไม่คิด แต่ตอนนี้ข้างบ้านผมมีก่อสร้างขุดบ่อลงไปใต้ดิน ปัญหาคือผมกลัวส้วมจะแตกมากกว่าครับ เอาไว้แก้ปัญหาเรื่องส้วมแตกแล้วผมจามาช่วยคิดแก้ปัญหาโลกแตกกับคุณNiNeครับ

 

ไปยื่นคำร้องที่เทศบาลเมือง ...กรอกแบบฟอร์ม.. เสียเงินนิดหน่อย.. ซะบายไม่มีปัญหา
ถ้ามีปัญหาอีก.. ก็เตรียมเงินจ้างทนายความ ... จัดการซะ.. ไม่ยาก
ถ้ามีปัญหาอีก ... ก็เตรียมลูกโม่ได้เลย ... ไม่ยุ่งยากซักเท่าไหร่.. (ล้อเล่นนะขอรับกระพ๊ม)

 

อ่านข้อความ #2 และ #3 ดีๆ นะ
แล้วจะรู้ว่า NiNe เป็นห่วงโลกแค่ไหน?......
ถ้าใครอยากจะด่า .. อยากจะว่า...NiNe ก็ตามใจ ...เชิญ

 

ปี 2008 อาจจะมีประเทศใดประเทศหนึ่ง .. หายไปจากแผนที่โลก ... (ไม่ใช่ประเทศไทย นะขอรับ)
........ ขอเดาได้เปล่า ... สหรัฐ คับ

มั่วนิ่ม อิอิ

 

เพื่อนๆ ครับ ....

NiNe ได้รับข่าวสารใหม่ .. ล่าสุด ... เรื่องการขอชีวิต.. ในวันปีใหม่ที่จะถึงนี้
ตามนี้ครับ
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=2726

ช่วยกันแผ่เมตตา... โดยเร่งด่วน ...
NiNe เตือนท่านแล้วนะครับ.... ต่อแต่นี้ไป... ไม่ต้องด่า NiNe แล้วนะครับท่าน...ในฐานะที่ไม่ยอมบอกล่วงหน้า ... เหอเหอเหอ...ๆๆๆๆ ...

 

โอ้แม่เจ้า.......

โอ้แม่เจ้า...พระเจ้าจ๊อต...มันเกิดอะไรขึ้นเหรอเนี่ย...

มันเข้าใจแบบ งง ยังไงไม่รู้สิ

(แค่นี้แหละที่อยากจะพูด)

[music]http://palungjit.org/attachments/a.3880/[/music]

 

มีฝรั่งทำนายไว้ตั้งแต่ปี 2003 แล้วครับ ได้อ่านตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาทำนายว่าจะเกิดปีนี้ แต่ไม่ได้ใส่ใจเท่าใด แล้วมันก็เิกิดขึ้นจริงๆ

 

วู้ อยุ่ไปทำไมยันโลกแตกน่าเบื่อ รีบไปนิพพานดีกว่า อุกกาบาตรมา ก็เอาวาโยสสินปัดไปซิ จบ

 

ทุกคนอย่าประมาท

ดิฉันเชื่อในคำเตือนของคุณ NiNe กับ อาจารย์ปริญญา ตันสกุล นะคะ เพราะดิฉันได้ติดตามผลงานของท่านมาก็หลายเล่มซึ่งลองใช้ปัญญาของตัวเองพิจารณาดูแล้ว มันไม่ใช่เรื่องไร้สาระเลย เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่ต่างยึดมั่นถือมั่นไม่ลองพิจารณาถึงเหตุถึงผลจากสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาทั้งในอดีตและปัจจุบันและก็ไม่ยอมรับและไม่พยามที่จะเรียนรู้ข้อมูลสิ่งใหม่ ๆ ไม่เชื่อแล้วแถมยังลบหลู่ดูหมิ่นถากถางและเสียดสีกับคำเตือนของผู้ที่หวังดีสองท่านนี้ ทุกท่านที่มีความรู้สึกเป็นลบกับสองท่านนี้น่าจะลองพิจารณาเนื้อหารายละเอียดคำบอกคำเตือนดูสิว่ามันทำให้ท่านเสียหายหรือโลกเราเสียหายตรงไหน มีแต่ให้เราอย่าประมาท และระวังตัวในการดำเนินชีวิตอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนกับธรรมชาติ เขาเตือนคุณแล้วคุณไม่เชื่อไม่ระวังก็สุดแท้ แต่อย่าเสียดสีดูถูกและถากถางกันเลยนะคะ หลักธรรมคำสั่งสอนทุกศาสนาเป็นสากลและทันสมัยอยู่เสมอ แต่ความเชื่อของคนบางกลุ่มก็ยังงมงายไร้เหตุผลเหมือนกันนะคะ
ดิฉันเชื่อในธรรมชาติที่เกิดขึ้นค่ะว่าท่านกำลังปรับสมดุล เชื่อในจิตจักรวาล เชื่อในสื่อที่มีถึงคุณ NiNe เชื่อในพระอนุตรธรรมมารดา เชื่อว่ามีพระเจ้า เชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เชื่อว่ามีโลกวิญญาณ เชื่อว่าสวรรค์นรกมีจริง ใครจะว่าดิฉันเชื่อแบบงมงายก็ตาม แต่ดิฉันเชื่อเพราะมันเกิดขึ้นจากสามัญสำนึกและจากจิตลึก ๆ ที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในของตัวเอง ดิฉันจะพยามยามเป็นคนดีเท่าที่จะทำได้ และจะพยามยามดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาท จะพยายามและจะพยายามค่ะ

 

คุณ Kai คุณเดินถูกทางแล้วครับ

โลกกลมๆ ใบนี้มันมีที่มาที่ไป เมื่อมันเกิด สรรพสิ่งใดๆ จึงเกิดขึ้น เหตุผลเพียงเพื่อเป็นเครื่องประดับโลก เพื่อให้เกิดความสวยสดโสภา แล น่าอยู่ (ดวงจิตและวิญญาณ ยังคงหนาแน่นเหมือนกับเม็ดทราย และไม่ยอมห่างหาย ไม่ยอมจากไป ยังคงตราตรึงกับโลกที่สวยสด และงดงามใบนี้) คนจึงไม่ไปนิพพาน เพราะยังหลงอยู่กับที่นี่ ... ที่นี่ ... โลกใบนี้......

เมื่อมันดับ ... สรรพสิ่งใดๆ ก็ดับเหมือนกัน (มิอาจฝืนกฎ และอาญาแห่งจักรวาล)

สิ่งที่ยังคงอยู่ตราบชั่วฟ้าดินสลาย .... นั่นคือ จิตจักรวาล ... นั่นเองครับ

คุณคิดถูก เชื่อถูก และถูกต้องแล้วครับ ... ขอให้คุณ Kai จงเจริญในธรรม ยิ่งๆ ขึ้นไปครับ

 

คุณ NiNe โปรดชี้แนะ

ขอบคุณมากนะคะ สำหรับคำชี้แนะถึงหลักเที่ยงแท้ของสรรพสิ่งในจักรวาลนี้ ซึ่งดิฉันคิดว่ามันก็คือธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้เพื่อเป็นแผนที่เดินทางกลับคืนสู่แดนนิพพาน หรือ กลับแดนสุญญตา หรือ กลับบ้านเก่า ไม่ทราบว่าดิฉันเข้าใจถูกไหมคะ และอีกอย่างหนึ่งดิฉันคิดว่า คุณ NiNe และอาจารย์ปริญญา ไม่ใช่บุคคลธรรมดาแต่ชอบทำตัวแบบว่า ธรรมด๊า ธรรมดา แต่ดิฉันตระหนักถึงคุณค่าของความหวังดีของคุณทั้งสองค่ะ ดิฉันก็เป็นแม่บ้านธรรมดาคนหนึ่งที่อยู่แถวอิสานใต้ และก็ชอบค้นคว้าและอ่านหนังสือประเภทนี้ให้คุณแม่ทราบอีกทีหนึ่ง และก็พยายามขัดเกลานิสัยที่ไม่ดีของตัวเองอยู่ค่ะ แต่ก็ยังไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร (กิเลสยังหนาอยู่) ไม่ทราบว่าดิฉันจะมีวาสนาทางธรรมมากน้อยแค่ไหนคะ โปรดชี้แนะด้วยนะคะ

 

คนละอัน พันธุ์ละสิ่ง
ไม่เคยรู้จักอาจารย์ปริญญา เขาคือใครรึ?

ถ้าคุณ KAI จะเมตตา ช่วยบอกรายละเอียดซักกะติ๊ด ซักกะติ๊ด (ขอบคุณล่วงหน้าครับ)
ว่าความเป็นมาเป็นอย่างไร?

 

นั่นแน่ ! อยากทดสอบอะไรจากดิฉันอยู่หรือเปล่าคะ เอาเป็นว่า อาจารย์ปริญญา ตันสกุล เป็นคนเขียนหนังสือเรื่อง จิตจักรวาล โดยรับสื่อพลังจากพระบิดาแห่งจักรวาลมาสั่งสอนตักเตือนมนุษย์โลกที่หลงทางไม่ยอมกลับคืนบ้านเก่าที่เราเคยอยู่ ก็เป็นธรรมะเชิงวิทยาศาสตร์ และมนุษย์อย่างพวกเราถ้าเชื่อในคำเตือนและสามารถปฏิบัติอยู่ในศีลธรรมจะเรียกว่า นักรบแห่งสุญญตา และอาจารย์ก็พูดถึงเรื่องจักรวาลคู่ขนานและจิตจักรวาลอย่างที่คุณ NiNe พูดถึงอยู่ยังไงคะ หลายคนก็หาว่าแกเพี้ยนนะคะ แต่สำหรับดิฉันไม่คิดเช่นนั้น ก็เหมือนอย่างที่คนเขาหาว่าคุณ NiNe เป็นพวกมนุษย์ต่างดาว อะไรต่อมิอะไรนั่นแหละ สรุปก็คือเขาก็ว่าคุณเพี้ยนเช่นกัน แต่สำหรับดิฉันก็ไม่คิดเช่นนั้นอีกเหมือนกัน ก็ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เพราะฟังแล้วอ่านแล้วดิฉันเข้าใจ (แต่ปฏิบัติตามท่านก็ยากเหมือนกันนะ แฮ่ะ ๆ ๆ) แต่จะพยามยามเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางบวก แค่นี้ละกันนะคะ คิดว่าคุณคงจะรู้มากกว่าดิฉันนะคะ ไม่ต้องแกล้งถามหรอก เพราะเนื้อหาที่กล่าวถึงทั้งของคุณ NiNe กับอาจารย์ปริญญา ก็มีความหมายเหมือนกัน เรียกอีกอย่างให้ทันสมัยคือ เวอร์ชั่นเดียวกันงัย แล้วพบกันใหม่นะคะ

 

อืมม ... หนังเรื่องอาไรน๊า ... "คู่กรรม" ... ใช่ป่าว?
ไม่ได้ดู .. ไม่ได้อ่าน ... แต่ฟังจากพรรคพวกเล่าให้ฟังว่า ... เรื่องมันเศร้าเหลือหลาย ... เวลาไปดูต้องเอาผ้าเช็ดหน้าไปด้วย.... อะไรประมาณนั้น

ตอนนี้ทั้งโกโบริและอังศุมาลิน ...เกิดเป็นดาวแฝดอยู่ที่ทางช้างเผือกจ้ะ