ถ่ายทอดสด171ประเทศทั่วโลกพระราชพิธีเชิญพระโกศ

ในห้อง 'ข่าวในพระราชสำนัก' ตั้งกระทู้โดย คือ~ว่างเปล่า!, 16 พฤศจิกายน 2008.

  1. คือ~ว่างเปล่า!

    คือ~ว่างเปล่า! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,647
    ค่าพลัง:
    +473
    ถ่ายทอดสด171ประเทศทั่วโลกพระราชพิธีเชิญพระโกศ

    <!-- by Line --><!--โดย : สุทธิชัย
    --><!-- End by line -->
    [​IMG]


    (15พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนรา ธิวาสราชนครินทร์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 03.45 น. พลฉุดชักราชรถจากกองสรรพาวุธทหารบก รวมพลหน้าโรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เวลาประมาณ 03.55 น. เริ่มพิธีบวงสรวงขอขมาและขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์อวยพรให้ภารกิจลุล่วงด้วยดี สร้างขวัญและกำลังใจให้กับพลฉุดชักโดยมี พล.ท.คำนวณ เธียรประมุข เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก เป็นประธาน
    ต่อมาเวลาประมาณ 04.05 น. เริ่มฉุดชักพระมหาพิชัยราชรถ ราชรถน้อย และสะพานเกรินบันไดนาคออกจากโรงราชรถ ต่อมาเวลา 04.15 น. พลฉุดชักอีกส่วนเคลื่อนพระยานมาศสามลำคาน เสลี่ยงกลีบบัวออกจากโรงราชรถ เวลาประมาณ 04.25 น. พลฉุดชักพระที่นั่งราเชนทรยาน ออกจากโรงราชรถ โดยได้เคลื่อนไปบริเวณหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ เพื่อรอตั้งริ้วขบวนพระอิสริยยศสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ต่อไป
    พลโทคำนวณ กล่าวว่า การดำเนินการในส่วนของกรมสรรพาวุธทหารบกในงานพระราชพิธีนี้มี 2 ส่วนคือ การซ่อมบำรุงราชรถ เริ่มมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และฉุดชักราชรถเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม ตลอด 10 เดือนที่ผ่านมาถือว่าการดำเนินงานเป็นไปอย่างสมบรูณ์ ถูกต้องตามโบราณราชประเพณีเนื่องจากได้พยายามดำเนินการตามรูปแบบสมัยสมเด็จพระนางเจ้าระไพพรรณณีและสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทำให้การทำงานราบรื่น แม้กระทั้งเมื่อวันที่ 13 พ.ย. ก่อนงานพระราชพิธีเพียง 1 วัน ตนยังได้มาตรวจความพร้อมของเชือกสลิงต่างๆให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน
    นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง กรมศิลปากร มาร่วมฝึกซ้อมการอัญเชิญพระโกศจากสะพานเกรินบัน ไดนาคขึ้นสู่พระมหาพิชัยราชรถ เพื่อการทำงานที่คล่องตัวขึ้น ทั้งนี้ทหารฉุดชักพระมหาพิชัยราชรถ ราชรถน้อย สะพานเกรินบันไดนาค พระยานมาศสามลำคาน เสลี่ยงกลีบบัวและพระที่นั่งราเชนทรยานทั้งหมด 340 นาย กำลังพลสำรอง 34 นาย รวม 374 นาย โดยเครื่องแต่งกายทหารเรียกว่า ปัสตูแดงขลิบเหลือง
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชพิธีเชิญพระโกศออกพระเมรุ ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ เริ่มเวลา 06.45 น.เช้าวันนี้ (15 พ.ย.) โดยมีการถ่ายทอดสดไปยัง 171 ประเทศทั่วโลก โดยบริเวณท้องสนามหลวงเต็มไปด้วยพสกนิกรจำนวนมาก ที่สวมชุดไว้ทุกข์ รอชมขบวนพระอิสริยยศ และน้อมส่งเสด็จสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ สู่สวรรคาลัย รวมทั้งร่วมรับเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์ที่เสด็จพระราชดำเนินมาในการนี้ด้วย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.สงขลาพสกนิกรจำนวนมากทยอยเดินทางเข้าร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ที่สถานที่ประกอบพิธีถวายดอกไม้จันทน์ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ที่หน่วยงานราชการได้จัดไว้ 16 อำเภอ ประกอบด้วย1.อ.เมืองสงขลา วัดแหลมทราย ต.บ่อยาง 2.อ.หาดใหญ่ วัดโคกสมานคุณ ต.หาดใหญ่ 3.อ.ระโนด วัดราษฎร์บำรุง 4.อ.สะบ้าย้อย ที่วัดสะบ้าย้อย ต.สะบ้าย้อย 5.อ.บางกล่ำ วัดยูงทอง ต.ท่าข้าม 6.อ.สะเดา วัดหัวถนน ต.ปริก 7.อ.นาหม่อม วัดแม่เปี๊ยะ ต.คลองหรั่ง 8.อ.สิงหนคร ที่วัดโลการาม ต.สะทิ้งหม้อ 9.อ.เทพา วัดรัตนาราม(วัดหัวสวน) ต.เกาะสะบ้า 10.อ.จะนะ วัดกาญจนาวาส ต.บ้านนา 11.อ.นาทวี วัดในวัง ต.นาทวี 12อ.สทิงพระ วัดผาสุกาวาส(บ่อดานตก)13.อ.กระแสสินธ์ วัดเอก ต.เชิงแส 14.อ.รัตภูมิ วัดห้วยหลาด ต.คูหาใต้ 15.อ.ควนเนียง วัดปานศึกษาธิการาม และ16.อ.คลองหอยโข่ง ที่วัดโคกเหรียง ต.โคกม่วง
    นางสุนันทา บุญสนิท ประชาชนในอำเภอหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ได้เดินทางมายังวัดโคกสมานคุณ ซึ่งเป็นสถานที่หนึ่งใน16แห่งที่จัดสงขลาจัดขึ้ยนเพื่อให้พนกนิกรร่วมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย โดยเดินทางเพื่อเข้าร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ตั้งแต่เช้าตรู่เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้ทยอยเดินทางมาเป็นจำนวนมาก จึงเกรงว่าจะไม่มีโอกาสได้ถวายดอกไม้จันทน์ จึงเดินทางมาจับจองพื้นที่ไว้ก่อนในบริเวณวัด
    ในการเข้าร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ที่วัดโคกสมานคุณ อ.หาดใหญ่ นั้นพสกนิกรในจังหวัดสงขลาทุกหมู่เหล่า เฝ้าติดตามรับชมการถ่ายทอดพิธีเชิญพระโกศออกพระเมรุ ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย อย่างใกล้ชิดอีกด้วย
    "แม้ไม่ได้เดินทางเข้าร่วมพิธี ณ มลฑลพิธี ท้องสนามหลวงแต่ก็มีโอกาสได้เฝ้าติดตามรับชมการถ่ายทอดพิธีเชิญพระโกศออกพระเมรุ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ไปยังพระเมรุ ท้องสนามหลวง ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยอย่างใกล้ชิด และได้ถวายดอกไม้จันทน์ตามสถานที่หน่วยงานภาครัฐจัดให้ก็ถือเป็นบุญพสกนิกรคนหนึ่งอย่างล้นพ้นที่ได้ร่วมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย" นางสุนันทา กล่าวพร้อมปาดน้ำตาที่ไหล
    ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ตั้งแต่วันที่8พฤศจิกายนเป็นต้นมาในพื้นที่จังหวัดสงขลามีฝนตกกระจายต่อเนื่องปกคลุมพื้นที่ไม่เว้นแต่ละวัน แต่ในวันนี้ (15พ.ย.)สภาพอากาศทั่วไปในพื้นที่กลับปลอดโปร่งตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้านับแต่มีการเริ่มถ่ายทอดพิธีเชิญพระโกศออกพระเมรุ ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และกระทั่งเริ่มให้พสกนิกรร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์
    ที่วัดกลางใหม่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นสถานที่พิธีบำเพ็ญกุศล และถวายดอกไม้จันทน์งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ โดยทางอ.เมือง ร่วมทางจังหวัดและเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จัดเตรียมสถานที่พิธีบำเพ็ญกุศล และถวายดอกไม้จันทน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนชาวอำเภอเมืองที่เดินทางเข้ามาร่วมพิธีแสดงความอาลัยถวายและส่งเสด็จ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สู่สวรรคาลัย
    โดยนายประชา เตรัตน์ ผวจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการและข้าราชการ และเหล่าพสกนิกรชาว จ.สุราษฎร์ธานี หลายพันคนทยอยมาร่วมงานจำนวนมากตั้งแต่ก่อนถึงพิธีการจริง ทั้งนี้จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เตรียมดอกไม้จันทน์ในส่วนอ.เมือง 3,000 ดอก ส่วนอำเภอรอบนอกอำเภอละ 1,000 ดอก เพื่อคอยบริการให้แก่ประชาชนที่เดินทางมาร่วมในพิธีถวายดอกไม้จันทน์และร่วมส่งเสด็จสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ สู่สวรรคาลัย เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระกรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย
    ขณะเดียวกันตั้งแต่ช่วงเช้าบริเวณทางเข้าวัดกลางใหม่ การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ตำรวจ สภ.เมือง ได้อำนวยความสะดวกแก่ข้าราชการ องค์กรภาครัฐ เอกชนและประชาชนทั่วไป ตั้งแต่เช้า โดยที่ประชาชนทั่วไปและนักเรียน นักศึกษาที่ทยอยไปร่วมพิธีได้ชมนิทรรศการพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน บางคนได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอีกด้วย

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 15 พ.ย.นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าตรวจความพร้อมภายในลานหาดทรายแก้ววัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ถ.ราชดำเนิน อ.เมืองนครศรีธรรมราช สถานที่จัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ในการพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ซึ่งนายภาณุ ได้สั่งการในการจัดสถานที่ด้วยตัวเอง มีเจ้าหน้าที่เข้าจัดเตรียมสถานที่โดยการตกแต่งดอกไม้สด โต๊ะหมู่บูชา พระฉายาลักษณ์ การผูกผ้าขาวและดำประดับบริเวณวัดอย่างงดงามรวมทั้งมีการจัดเตรียมเต้นท์รองรับประชาชนเข้าร่วมพิธีจนเต็มพื้นที่วัด
    ในส่วนของการจัดเตรียมดอกไม้จันทน์ วิทยาลัยอาชีวะศึกษานครศรีธรรมราช ได้เตรียมดอกไม้จันทน์หลายหมื่นดอกไว้แล้วพร้อมที่จะนำเข้ามาแจกจ่าย

    ประชาชนเข้าร่วมพิธีอย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่าประชาชนจะเข้าร่วมหลายหมื่นคน โดยถนนรอบวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารจะถูกปิดการจราจรโดยสิ้นเชิง

    -----------
    [​IMG]
    http://www.komchadluek.net/specialreport/princess/specialreportnews.php?id=564
     
  2. คือ~ว่างเปล่า!

    คือ~ว่างเปล่า! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,647
    ค่าพลัง:
    +473
    ต่างชาติตื่นตา:มหรสพเมลืองมลัง

    <!-- by Line --><!--โดย : สุทธิชัย



    </p>
    --><!-- End by line -->
    [​IMG]






    แต่ก่อนการแสดงจะเริ่มต้นขึ้นเล็กน้อย ตัวละครโขนกลุ่มใหญ่ในเครื่องแต่งกายมลังเมลืองระยิบระยับ ออกมาจากหลังม่านแจกจ่ายคู่มือการชมมหรสพสีฟ้าอ่อน ที่จัดทำขึ้นโดยสำนักการสังคีต กรมศิลปากร เพื่อเป็นไกด์บุ๊กให้ผู้ชมได้เข้าใจการแสดงแต่ละชุด เนื่องจากคณะผู้จัดทำได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการแสดงแต่ละชุดเอาไว้ทั้ง 3 เวที ตลอดจนเรื่องย่อเอาไว้ให้เข้าใจได้ง่าย
    ในบรรดาผู้ชมเรือนหมื่นเรือนแสนมีนักท่องเที่ยวต่างชาติปะปนดูอยู่ด้วยความสนใจใคร่รู้ "แพท" นักท่องเที่ยวหนุ่มจากเมืองผู้ดีอังกฤษ วัย 36 ปี หยุดดูอยู่หน้าเวทีโขนด้วยความตื่นตาตื่นใจ โดยมีไกด์คอยอธิบายอยู่ข้างๆ
    แพทมาเที่ยวเมืองไทยช่วงที่มีพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พอดี เขาจึงค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตว่าภายหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีแล้วจะมีการแสดงมหรสพอื่นๆ ด้วยหรือไม่ เมื่อรู้ว่ามีการแสดงศิลปวัฒนธรรมของไทยจึงขอให้ไกด์พามา ก่อนการแสดงจะเริ่ม แพทนั่งพักเอาแรงอยู่หลังเวที กระทั่งมีการโหมโรงด้วยหนังใหญ่และตามติดด้วยโขน จึงลุกจากที่ตรงมาจับจองที่นั่งหน้าเวที
    "การแสดงศิลปวัฒนธรรมของไทยเป็นสิ่งน่าตื่นเต้น น่าสนใจ โดยเฉพาะหุ่นละครเล็ก ผมลองค้นหาในอินเทอร์เน็ตก็เห็นว่า มีการแสดงชิ้นนี้ด้วย จึงตั้งใจมาดู" แพท พูดพลางดูโขนไปพลาง
    ที่เวทีเดียวกันนี้แต่ห่างออกไปเล็กน้อย "ฮานส์ ฟาน เกลเกอเรน" ชาวเนเธอร์แลนด์ วัย 50 ปี ควงแขนมากับภรรยาคนไทยและหยุดดูโขนชนิดตาไม่กะพริบ เนื่องจากฮานส์มีภรรยาคนไทยจึงกลับมาเมืองไทยเป็นประจำทุกปี ทุกครั้งที่กลับมาก็จะไปดูศิลปะการแสดงของไทย หนึ่งในนั้นคือหุ่นละครเล็กของ อ.จักรพันธ์ โปษยกฤต ศิลปินแห่งชาติ จนกลายเป็นขาประจำถึงขนาดว่ามีการแสดงชุดใหม่ๆ หากอยู่ในเมืองไทย อ.จักรพันธ์ ก็จะโทรเรียกให้ไปดูเสมอ
    วันนี้เขากับภรรยาจึงมาร่วมในงานพระราชพิธีตั้งแต่ก่อนเที่ยง ได้เห็นภาพพระราชพิธีตามแบบโบราณอย่างยิ่งใหญ่ เห็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีของคนไทย ตกเย็นจึงเดินเตร่ดูมหรสพ ฮานส์ บอกว่า วันนี้นอกจากจะมีการแสดงหุ่นละครเล็กแล้ว ยังมีการแสดงรามเกียรติ์ที่ชื่นชอบมากเป็นพิเศษด้วย จึงให้ภรรยาพามาดู ฮานส์เคยดูโขนเรื่องรามเกียรติ์มาแล้วครั้งหนึ่งตอนอยู่เนเธอร์แลนด์ เขาชื่นชอบหรือจะเรียกว่าถึงขั้นหลงใหลก็ได้ สำหรับตัวละครที่ชอบคือ ตัวพระราม พระลักษมณ์ และนางสีดา
    "สวยมากกกกกกกก" ฮานส์ ย้ำเสียงหนักแน่นก่อนจะอธิบายว่า สวยหมดทุกอย่างที่ประกอบกันเป็นการแสดงโขน ทั้งศิลปะการแสดง การร่ายรำ ดนตรีไทย การพากย์ที่แม้จะเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ตลอดจนเครื่องแต่งกายที่ฮานส์ย้ำอีกครั้งว่าสวยจริงๆ
    ระหว่างนี้ฮานส์ยืนดูโขนอย่างตั้งอกตั้งใจ นี่เป็นเวทีแรกที่นักท่องเที่ยวจากเนเธอร์แลนด์ผู้นี้หยุดชม ยังเหลืออีกถึง 2 เวทีใหญ่ ซึ่งคืนนี้จะอย่างไรเสียเขาตั้งใจเอาไว้แล้วว่า จะดูให้ครบหมดทุกเวที "คม ชัด ลึก" ไม่อยากกวนใจเลยขอตัวออกมาก็ได้ยินฮานส์บอกเสียงดังฟังชัดว่า
    "ผมประทับใจคนไทยมาก ประทับใจที่ได้เห็นการแสดงความจงรักภักดีของคนไทย ที่มีต่อพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ เนเธอร์แลนด์ก็มีกษัตริย์ แต่ไม่เห็นเหมือนแบบนี้" ฮานส์พูดด้วยภาษาอังกฤษ แต่หากจะแปลเป็นไทยก็คงจะได้ประมาณนี้
    ชายหญิงกลุ่มหนึ่ง 5-6 คนเป็นที่สะดุดตาผู้พบเห็น เพราะหนึ่งในกลุ่มผิวดำผมหยิกอย่างคนแอฟริกา สอบถามได้ความว่าชื่อ "ปุลกูมา" หนุ่มเคนยา วัย 36 ปี ที่เข้ามาเป็นครูสอนภาษาในเมืองไทยได้ราว 3-4 ปีแล้วมากับเพื่อนครูคนไทย ปุลกูมา บอกว่า ถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่มากที่ได้มาร่วมงานพระราชพิธี เขาเป็นคนหนึ่งที่ชอบการแสดงศิลปะของไทย ทุกอย่างที่เป็นคนไทยดีหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของความมีน้ำใจ
    ระหว่างนี้เพื่อนครูเตือนให้ระวังกระเป๋าสตางค์ ปุลกูมาจึงค่อนข้างแปลกใจ และถามกลับด้วยความสงสัยว่าเมืองไทยมีเช่นนี้ด้วยหรือ ?
    ปุลกูมานอกจากจะเป็นครูสอนภาษาแล้ว ยังมีงานอดิเรกเป็นนักเขียนที่เคนยาด้วย เขาตั้งใจเอาไว้ว่าหลังจากคืนนี้เขาจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับเมืองไทย เกี่ยวกับบรรยากาศพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ตลอดจนเขียนเรื่องศิลปะการแสดงของไทยส่งกลับไปตีพิมพ์ที่เคนยา
    เสียงเครื่องดนตรีจากวงปี่พาทย์วงใหญ่ ดังประชันกับเสียงเครื่องดนตรีสากลจากวงซิมโฟนี สะกดทุกสายตาและโสตสัมผัสจับจ้องอยู่กับการแสดงศิลปวัฒนธรรมทั้งโขน หนังใหญ่ วงดนตรีซิมโฟนีออเคสตรา หรือแม้แต่หุ่นละครเล็ก หุ่นกระบอก และละครนอก ซึ่งจะมีเรื่อยไปจนถึงรุ่งสาง

    ------------
    [​IMG]
    http://www.komchadluek.net/specialreport/princess/specialreportnews.php?id=570



    [music]http://palungjit.org/attachments/a.446196/[/music]
     
  3. 我是泰国福建人

    我是泰国福建人 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2008
    โพสต์:
    298
    ค่าพลัง:
    +306
    หาดูยาก แม้ประเทศไทยจะสถานการในประเทศไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า พร้อมใจกันเข้าเฝ้าพระราชพิธีเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนรา ธิวาสราชนครินทร์ อย่างพร้อมเพียรกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...