ถ้าทำดีทำถูก ทำแค่นั้นก็บรรลุได้แล้ว

ถ้าทำดีทำถูก ทำแค่นั้นก็บรรลุได้แล้ว

พระอาจารย์กล่าวว่า "ไม่ว่าจะภาพพระหรือภาพกสิณอะไรก็ตาม #ถ้าว่ากันตามความเป็นจริงแล้วก็เป็นการปรุงแต่งของใจ เรียกว่าเป็นจิตสังขารอย่างหนึ่ง #แต่เป็นจิตสังขารฝ่ายกุศล สร้างความดีความเจริญให้เกิดขึ้นกับใจของเรา

#ยิ่งทรงสมาธิมั่นคงจนสามารถใช้อานุภาพของกสิณหรือว่าขยายภาพพระได้ ทำให้เล็กได้ กำลังใจของเราก็จะยิ่งมั่นคงมากขึ้น #กุศลผลบุญตรงนั้นก็มีมากขึ้น แต่ก็เป็นแค่กามาวจรกุศลเท่านั้น จะไปให้มากกว่านั้น #ต้องอาศัยวิปัสสนาญาณเข้ามาช่วยพิจารณาให้เห็นถึงความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความไม่มีอะไรยึดถือมั่นหมายได้ #ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่จะหลุดพ้นถึงจะมี

ดังนั้น..เราจะเห็นว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ดี หรือหลวงพ่อวัดท่าซุงก็ตาม ถึงเวลาที่ท่านสอน #ท่านจะปิดท้ายไว้เสมอ #หลวงพ่อวัดท่าซุงจะให้เราเกาะพระนิพพานเป็นปกติ ส่วนพระพุทธเจ้า ถ้าเราไปอ่านมหาสติปัฏฐานสูตรจะเห็นว่าทุกบรรพ ทุกตอน ถ้าหากว่าภาษาอังกฤษก็น่าจะเป็น chapter จะลงท้ายว่า นะ จะ กิญจิ โลเก อุปาทิยะติ #เราจะไม่ยึดอะไร ๆ #ในโลกนี้ นั่นคือการสรุปจบของแต่ละตอนเลย #ก็แปลว่าถ้าทำดีทำถูก #เราทำแค่นั้นก็บรรลุได้แล้ว"

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๖๑
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
(หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน)