ถ้าทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วคนอื่นเดือดร้อน และได้ช่วยคนด้วยจะบาปมั้ยครับ

คือเพื่อนผมคนนึงทำงานบริษัทฯ และได้ดูแลระบบคอมในบริษัทฯ นั้นแต่บริษัทฯใช้ซอฟท์แวร์ผิดกฏหมาย ทั้งวินโดว์เถื่อน ออฟฟิตเถื่อน โปรแกรมมันก็จะเอ๋อๆ แฮ้งก์บ้างติดไวรัสบ่อยบ้าง และไม่สามารถขอการซับพอร์ตจากไมโครซอฟท์ได้เลย เพื่อนผมก็เคยแจ้งเจ้านายไปแล้วว่า เวลาโปรแกรมแฮงก์ หรือเสียจะโทษพนักงานฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ แต่เจ้านายก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ จนมีครั้งนึงเครื่องน้องพนักงาน ข้อมูลเค้าเสียหาย ทั้งที่เค้าไม่ได้ตั้งใจเค้าไม่เคยโกง ทำงานดีมาตลอด แต่บริษัทฯ ถึงกับแจ้งความกับตำรวจว่าน้องเค้าทำข้อมูลเสียหาย ตำรวจก็รับแจ้งและดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพราะเจ้าของบริษัทฯเป็นคนมีหน้ามีตาในอำเภอ ประมาณว่าสนิทกับตำรวจ
เพื่อนผมถึงกับเคืองมากและไปคุยกับเจ้านาย ว่าทำเกินกว่าเหตุ แต่เจ้านายก็ไม่สนใจ จนมีหมายเรียกส่งไปที่บ้านน้องเค้า แม่เค้าเห็นถึงกับช็อคเพราะเป็นความดันอยู่แล้ว ถึงกับเข้าโรงพยาบาล น้องเค้าเสียใจมาก บ้านก็ไม่มีเงินหาเช้ากินค่ำ และทำงานดีมาตลอด เพื่อนผม
มันก็สงสารเพื่อนร่วมงานมาก และเจ้านายจะให้มันไปยืนยันในศาลอีกว่าน้องเค้าทำพัง มันเลยขอลาออก เพื่อนมันบอกจะแจ้งไมโครซอฟท์ดีมั้ย ว่าบริษัทฯใช้โปรแกรมเถื่อน เค้าจะได้ซื้อของแท้มาใช้ ปัญหาอาจจะลดลง และเพื่อนพนักงานที่เหลือก็เชียร์
เต็มที่เพราะไม่มีใครอยากตกเป็นเยื่ออีก ถ้าเพื่อนผมทำในสิ่งที่ถูกต้อง คือแจ้งไมโครซอฟท์ อาจทำให้บริษัทฯต้องซื้อของแท้ แต่ได้ช่วยเพื่อนพนักงานที่เหลืออยู่ ทำแบบนี้จะบาปมากมั้ยครับ
แต่ผมบอกตามตรงน้องคนที่โดนฟ้องผมก็รู้จัก ผมโคตรสงสารเลยครับ บ้านก็จน ต้องหาเงินมาจ่ายค่าหมอให้แม่อีก ต้องนั่งรถโดยสารประจำทางไปพบอัยการในตัวจังหวัดอีก และอัยการก็เสือกสั่งฟ้องอีก และนัดให้ไปพบอีก ให้เตรียมเงินไปคอยประกันอีกแสนนึง ผมถึงกับน้ำตาร่วงเลย ยังพูดกับมันว่าเวรกรรมอะไรของมึงวะ ถ้ามึงหาเงินประกันไม่ได้ ใครจะดูแม่มึงวะ มึงผิดอะไรนักหนาวะ คนเรามีเงินมีอำนาจอยากหาเรื่องเอาใครเข้าคุกก็ได้เหรอวะ

 

ทำเรื่องที่ถูกต้อง ทั้งทางศีลธรรม และ กฎหมาย มันจะไม่ดีได้อย่างไรหละครับ?

ระวังเพียงอย่างเดียว อย่าให้น้องเขาเดือดร้อนมากไปกว่านี้ เพราะนิสัยพาลของคนแล้วกันครับ พิจารณาให้รอบคอบครับ

 

ไมโครซอฟท์เค้า จะเก็บไว้เป็นความลับครับ แต่ถ้าฟ้องไปหนักเลยครับ ตีไปเครื่องละ30000 จำนวน30เครื่องก็900000 ผมบอกมันว่าถ้ากลัวฟ้องแล้วบาป ก็บอก
เพื่อนพนักงานว่า ใครกลัวมีปัญหาก็หางานใหม่เอา แต่ใช้โปรแกรมเถื่อนมันก็ผิดอยู่แล้ว

 

จนท. ผิดพบเห็นการกระทำผิดแล้วไม่จับ โดนละเว้นปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ + เข้าด้วยช่วยเหลือผู้กระทำผิด

และการไต่ส่วนเรื่องข้อมูลหาย จำเลยสามารถนำสืบว่า บ.ใช้โปรฯ ผิด กม. และได้ขอร้องให้ใช้โปรฯที่ถูกต้องแล้ว หลังจากศาลมีคำพิพากษาแล้ว ให้ฟ้อง บ. กลับฐานทำให้เสียชื่อเสีย เสียเวลา ฯลฯ ให้ดีฟ้อง จนท. พ่วงไปด้วย :X

 

คุณไม่ต้องห่วงหรอก Microsoft เขาก็มีเทคนิคในการทำธุรกิจของเขา...
คนทำธุรกิจแบบเขี้ยวๆ หนะ เขาไม่รีดเลือดครั้งเดียว เกินกว่าที่ปูจะให้ได้หรอกครับ

ถ้าพิจารณาแล้ว เห็นว่าสามารถช่วยคนอื่นได้ โดยไม่ทำให้พนักงานเดือดร้อนเพิ่มเติม ไม่ทำให้น้องคนที่ว่าเดือดร้อนเพราะอำนาจนอกกฎหมาย ก็ทำไปเลยครับ

 

คนที่มีอำนาจแล้วใช้อำนาจที่มีในทางวิบัติ โลกและสังคมก็เลยต้องวิบัติตามไปแบบนี้ :'(

 

คุณภัทรากร
เหนื่อย...เวลาคุณเอาโลกสมมุติไฮเท็คมาใช้ แล้วคุณไปดึงเอาศาสนามาเกี่ยว....
อ่านพระไตรปิฏกอย่างเดียวแก้ไม่ได้ ต้องใช้พระไตรปิฏกคอมพิวเตอร์มาใช้ จึงน่าจะทันกัน...
หลักมันมีอยู่ว่า คุณและน้องคนนั้นย อยู่กับโจร อยู่ที่อโคจรแบบนั้น มีแต่โจร ต้องหนี ไปหาที่คนดีๆเขาอยู่กัน
ถ้าจำเป็นต้องอยู่ ก็ต้องทน และต้องอยู่แบบโจร ตามน้ำ บาปก็บาป เพราะจำเป็นต้องเป็นโจร
หรือ ทุบหม้อข้าวตนเอง ให้มันพังกันไปทั้งนายทั้งบ่าว...
ไปหางานที่อื่นทำดีกว่า...

 

ข้อมูลหาย กู้ได้ครับ ยก comp ไปร้านรับกู้ข้อมูลเลยครับ ชั่วโมงเดียวครับ
ฮาร์ดดิศเสียก็กู้ได้ ใช้เวลานานหน่อย แต่ไม่ร้อยเปอร์เซนต์ครับ

 

ผมว่าถึงชั้นศาลแล้ว จำเลยอ้างและมีหลักฐานได้ว่า บริษัทใช้โปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ คราวนี้จบเลย บริษัทซวยไปมากกว่าจำเลยอีก

 

ก็ประเทศไทย เรา อ่ะนะ ชอบอะไรง่าย ๆ ไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไร

สิงคโป มาเลย์ เวียดนาม เยอรมัน ฯลฯ เค้า

หันไปใช้ั ลีนุกซ์ กัน หมดแล้ว ครับ...

โปรแกรม Office เค้าใช้ ของแจกฟรีกันหมดแล้วครับ

โอเพ่นซอร์ส ครับ ลองเสริทดูนะครับ มีเยอะเลย

 

จะสร้างศัตรูเพิ่มทำไมครับ
ที่ไหนมีภัย ผมว่าหนีออกมาดีกว่าครับ

 

เรื่องที่เพื่อนของท่านจขกท จะฟ้อง Microsoftนั้น เข้าใจว่า เจ้าของบริษัทน่าจะเดาได้ว่า ใครเป็นผู้ฟ้อง Microsoftเพราะเพื่อนคนนี้เคยแจ้งเจ้าของบริษัทหรือผจก มาแล้วว่าให้ใช้Microsoftที่ถูกต้อง จึงควรระมัดระวังตนเองด้วย ..

ส่วนใครๆที่ทำงานในบริษัทที่เจ้าของไม่มีศีลธรรม ก็ย่ิอมถูกเบียดเบียนอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว การหลีกปลีกตนออกห่างจากพาลชนหรือพาลบริษัทเช่นนี้ย่อมเป็นความปลอดภัยแก่ตน..

โดยเฉพาะิเมื่อคนชั่วจับมือกับตำรวจเลว และอาจมีอิทธิพลถึงขั้นศาลแล้ว ก็เป็นเรื่องที่เสี่ยงมากแก่เพื่อนของท่าน พึงทราบว่า ในกรณีที่อกุศลวิบากมีกำลังมากแล้ว แม้นั่งฟังธรรมทั้งคืน พอรุ่งเช้า ทหารยังจับไปตัดหัวด้วยคดีลักทรัพย์ได้ .. ทำนองเดียวกัน..แม้คนที่ถูกและดี1000% ก็ย่อมกลายเป็นผู้ทำผิดไปได้ในศาลนั่นแหละ...เจตนาดีแน่นอนที่คิดเกื้อกูลคนอื่นๆ แต่แม้นี่ก็เป็นปัจจัยให้วิบากต่างๆทั้งดีและชั่วมาให้ผลเช่นกัน ขอให้รอบคอบหาทางหนีทีไล่ที่ดีไว้ด้วย เพราะการเกี่ยวข้องกับคนพาลนั่น ต้องเหนื่อยมากเพราะเขาทำร้ายคนคนอื่นๆที่เขาเห็นเป็นศัตรูได้โดยไม่จำกัดรูปแบบเลย...

ขอให้ปลอดภัยทุกคนครับ

 

เอ่อ การแก้เรื่อง ลิขสิทธิ นั่น ค่อนข้างเป็นเรื่อง อนาคต ไปหน่อย

ให้กลับมาเรื่องของ น้องคนนั้นก่อน

*******************************

ปรกติ ฝ่ายคอมฯ ที่ดี จะต้องมีการบอกล่าว ผู้บริหาร
ให้สนับสนุน งานการแบ๊คอัพข้อมูลสำคัญ

หากมีการ สนับสนุนจากผู้ บริหารตรงนี้ เราจะ อาศัย ตัวนี้ เป็น ข้อบังคับ
หรือ ข้อมูล บ่งชี้ ความผิดของผู้บริหาร ไม่ใช่ของ พนักงาน ได้

ซึ่งจะทำให้ช่วย กัน ภาระทางกฏหมาย และ การรับผิดชอบ ออกจาก พนักงาน

เพราะ ธรรมชาติของพนักงาน ย่อมใช้คอมฯ อย่างเดียว ไม่ได้ คำนึงถึง ความเสี่ยง
ทางงานคอมพิวเตอร์

ทีนี้ หาก ทางบริษัทคุณ แม้นจะไม่มี นโยบายการสำรองข้อมูล การจัดการความเสี่ยง
เหล่านี้ก็ตาม แต่ โดนพฤตินัย ยังไงเสีย ก็ต้องมีเรื่อง การสำรองข้อมูลอยู่แล้ว

ดังนั้น ให้เรา หาหลักฐานเกี่ยวกับ การสำรองข้อมูลสำคัญออกมาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น
เรื่องความถี่ แหล่งที่เก็บ ลำดับชั้นของผู้รักษา

เพราะ ข้อมูลนี้ จะเป็นประโยชน์มากต่อ น้องคนนั้น เพราะถ้าหากมี วัตถุพยาน เพียง
นิดเดียว เกี่ยวกับเรื่อง สำรองข้อมูลสำคัญ ก็เท่ากับ ยกความรับผิดชอบเรื่องข้อมูล
ของบริษัทออกไปได้เลย

เหลือเพียง การรับผิดชอบต่อ ตัวเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่อาจจะใช้อย่างประมาท เช่น ทำให้
เกิดไฟฟ้าช๊อต

แต่............ถ้าเราพิสูจน์ทราบได้อีกว่า ตัวเครื่องที่ ทางบริษัท ไม่ได้่จัดการความ
เสี่ยงเรื่อง อายุการใช้งาน การทำความสะอาดภายในตัวเครื่อง เหล่านี้ ก็โยนความรับ
ผิดไปที่ ผู้บริหารได้เต็มๆ แถม เรียกร้องค่าเสียหายกลับได้อีก ด้วย เพราะ ทำให้พนัก
งานต้องตกอยู่ในความเสี่ยง ( ข้อหลังนี่ ไม่ค่อยมี เพราะ คอมส่วนใหญ่ 5 ปี ก็มักจะ
เปลี่ยนเครื่องใหม่แล้ว เว้นแต่ จะเหนียวจริงๆ หรือ จัดซื้อยี่ห้อดีมากๆ มันก็อึด )

********************************

และถ้า ยังไงก็แล้วแต่ แผนการรักษาพนักงาน ควรเริ่มจาก ที่ทำง่าย สามารถได้
รับการสนับสนุนทันทีจากผู้บริหาร เช่น หากยังไม่มี เรื่องกระบวนการ สำรองข้อมูล
ก็ รายงานและขออนุมัติให้มีนโยบาย และ แผน และ การปฏิบัติ เสีย ( มันจะมีเรื่อง ot
ด้วยในบางบริษัท ก็ต้องพินาให้ดี พอมี ot ก็อาจจะถูก พับแผน ซึ่งจะทำให้เราจัดการ
โครงการไม่เป็น ไม่ใช่ความผิดของ ผู้บริหาร )

ส่วนเรื่อง ลิขสิทธิ ก็ให้ค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากเครื่องใหม่ๆ ที่จะจัดซื้อ พอซื้อมา
แล้วก็ดูแลให้ดีๆ ซื้อให้กับคนไม่มีความเสี่ยง ก็จะทำให้พอ สร้างภาพได้ว่า ใช้
ของมีลิสิทธิปัญหาน้อย ตบตาผู้บริหารได้ ไม่มากก็น้อย เมื่อนั้น การจัดซื้อ
โปรแกรมลิขสิทธิ ก็จะมี ความเป็นไปได้ ขึ้นมาบ้าง

 

เห็นด้วยเลยครับ จะให้ดีให้เพื่อนเจ้าของกระทู้ ลองโทรไปปรึกษากับสภาทนายความดูครับ หรือในเว็บบอร์ดที่ตอบปัญหาทางกฎหมายครับ ว่าอย่างนี้เป็นข้อโต้แย้งในชั้นศาลได้หรือไม่ แล้วเรามีสิทธิ์แจ้งความกลับได้หรือไม่
ท่านเจ้าของกระทู้ ในความเห็นผมถ้าท่านจะแจ้งเรื่องลิขสิทธิ์ ท่านต้องระวังตัวครับ และที่สำคัญท่านอาจจะต้องเตรียมหางานใหม่ไว้ด้วยครับ เพื่อความปลอดภัย คนแบบนี้ถ้าอยู่ในบ้านของมัน ยังไงมันก็กัดเราได้ครับ เพราะยังไงเขาก็ต้องรู้ครับว่าคนในหน่วยงานเป็นคนแจ้ง เขาก็คงต้องหาทางสืบแน่นอน
ผมเองก็แฉที่ทำงานเก่าให้ผู้บริหารใหญ่ของบริษัททราบเรื่องพฤติกรรมเลวๆคนในที่ทำงานเก่าของผมหลังจากผมออกจากงานไปแล้ว ผมเองเคยโดนแบบแกล้งทำใบประเมินผ่านทดลองงานหายครับ แกล้งดองเรื่องเป็นปี ถ้าไม่โทรไปถามที่สำนักงานใหญ่คงเป็นควายไปอีกนาน(คนละบริษัทกับที่ผมส่งเรื่องแฉความจริง) แล้วแกล้งมาเขียนสัญญาปรับขึ้นเงินเดือนที่น้อยกว่าที่เขียนไว้ในตอนแรก เคยคิดจะจ้างคนไปเล่นงานครับ หรือไม่ก็จะไปดักยิงเองเลย แต่คิดถึงลูกเลยให้กรรมตามสนองมันเองดีกว่า จริงๆก่อนหน้านี้ก็มีทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งเจ้าของรู้มากไม่เข้าระบบประกันสังคมให้เรา ทำสักพักก็ต้องออก แจ้งไปยังประกันสังคมกว่าจะเดินเรื่องก็ทำอะไรเขาไม่ได้ ทางประกันสังคมจังหวัดบอกว่าทางโรงงานทำไม่้รู้ไม่ชี้เพราะไม่มีหลักฐาน เดินเรื่องช้ามากผมได้งานใหม่แล้วเพิ่งมาเดินเรื่อง......
คิดอีกแง่ชาติก่อนเราอาจเคยทำกับเขาไว้ก็ได้ โดนมาแต่ละที่นี่เจ็บๆทั้งนั้น คงเป็นกรรมเก่าของเราจริงๆ แต่ที่กล่าวถึงถือว่าเป็นตัวอย่างที่ผมประสบมาครับ

ขอให้น้องคนนั้น ผ่านพ้นเงื้อมมือของคนชั่วครับ.....