5.ทริปเหนือสุดแดนสยาม

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย สร้อยฟ้ามาลา, 11 เมษายน 2009.

  1. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536


    ทริปเหนือสุดแดนสยาม

    ทริปนี้สร้อยฟ้ามาลาไม่ทราบที่มาที่ไปมากนั้น วันหนึ่งเข้าไปเพ่นพ่านแถวๆ บ้านของพ่อเทพโพลาลีส อุ้ย! ไม่ใช่ พ่อเทพออรฤทธิ์

    teporrarit

    ทีมผู้ดูแลแกลเลอรี่

    ก็อ่านได้สองอย่างนี่หน่า พ่อเทพฯ ตั้งกระทู้เชิญไปทำบุญทริปทำบุญและถวายผ้าคริสตัลห่มองค์ปฐม วัดเขาแร่ จังหวัดสุโขทัย ธรรมทัศนาจรในวันที่ ๔-๖ เมษายน ๒๕๕๒ http://palungjit.org/threads/เชิญร่...ัย-ธรรมทัศนาจรในวันที่-4-6-เมษายน2552.178202/ พอเห็นกำหนดการ ก็น่าสนใจมากๆ อีกอย่างเสียค่ารถแค่ ๑,๐๐๐ บาทเอง คุ้มจัง แต่ตอนนั้นยังไม่ตัดสินใจ เผอิญ พี่โปตาลากา มาชวนไปทริปนี้อีก สร้อยฟ้ามาลาซึ่งอยากไปอยู่แล้ว ก็เลย เอ้า ไปก็ไป ก็ในกลุ่มที่ไปด้วยที่สร้อยฟ้ามาลารู้จัก ก็มี โปตาลากา, ภัค, แมงปอแก้ว รู้จักกันแค่นี้เอง
    ต่อมาได้ทราบว่าทริปนี้ได้ผนวกกับทริปของพี่เตอร์ ที่จะไปทำบุญสร้างพระอุโบสถเหนือสุดแดนสยามร่วมกับหลวงพ่อวิชัย เขมิโย ณ วัดถ้ำผาจม ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย http://palungjit.org/threads/บุญเหนือสุดยอดแดนสยาม.179626/


    เช้าตรู่วันเสาที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๒

    ไก่ยังไม่โห่ สร้อยฟ้ามาลาหอบผ้าหอบผ่อนหนีตามท่านโปตาลากา จุดนัดพบหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงเวลา ๐๖.๐๐ น. งานนี้สร้อยฟ้ามาลามาถึงสถานที่นัดพบก่อนเจอแมงปอแก้วเป็นคนแรก และก็เจอกับโปตาลากาและภัค รถตู้มาถึง หกโมงเช้านิดๆ ขึ้นรถได้ ก็ได้รู้จักกับพ่อเทพฯ กับพี่กุ้ง(Cinderella...) และพี่เตอร์ผู้ให้กำเนิดทริปนี้ กับผู้ร่วมคณะอีกหลายท่าน ก็ยินดีที่ได้รู้จักเจ้าค่ะ..... พูดมากไปแล้วหล่ะ เพื่อไม่ให้ระยะทางอันยาวไกลจะไกลเกินความโม้ของสร้อยฟ้ามาลา ขอWABBBBB .... ไปถึงสถานที่แรกที่จะไปแวะเลยก็แล้วกัน .... (ขออนุญาต นินทาหน่อย คือว่าเนื่องด้วยรถที่เดินทางเป็นรถตู้ ๒ คัน มีผู้ร่วมเดินทางประมาณ ๓๐ คนประกอบกับระยะทางอันยาวไกล ฉะนั้น กำหนดการต่างๆ มิได้เป็นไปดังตั้งใจของเจ้าคณะ จึงทำให้บางแห่งบางที่ตามกำหนดการไม่ได้ไป แต่นั่นก็มิใช่ปัญหา เพราะเราไปทำบุญกันเนอะ....)

    ที่แรกที่แวะกันคือ พิษณุโลก วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก ถึงก็เกือบเที่ยงกลุ่มของสร้อยฟ้ามาลา เดินแยกจากกลุ่มใหญ่ ไปกราบนมัสการพระศรีศาสดาก่อน

    a.jpg

    a.jpg



    พระศรีศาสดา หน้าตัก ๔ ศอกคืบ ๖ นิ้ว มีสัญฐานอาการคล้ายกัน อย่างพระพุทธรูปเชียงแสน ไม่เอาอย่างพระพุทธรูปในเมืองศรีสัชนาลัยสวรรคโลกและเมืองสุโขทัย ที่ทำนิ้วสั้นยาวไม่เสมอกันอย่างมือคน ถึงพระลักษณะอื่นก็ปนๆ เป็นอย่างเชียงแสนบ้าง เป็นอย่างศรีสัชนาลัยสวรรคโลกสุโขทัยบ้าง (ได้อัญเชิญคัดมาจากบางส่วนในพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)

    a.jpg

    a.jpg

    องค์พระปรางค์ตั้งอยู่ ณ ศูนย์กลางของวัด เป็นพระปรางค์ประธาน และเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดของวัด การก่อสร้างพระปรางค์ของพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไท) ได้ทำตามคตินิยมของหัวเมืองราชธานี ของอาณาจักรสุโขทัยในสมัยนั้น คือประสงค์ให้พระปรางค์เป็นหลักเป็นประธานของวัด และเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ รูปแบบของพระปรางค์เมื่อเริ่มสร้างสันนิษฐานว่า เป็นเจดีย์ทรงดอกบัวตูม โดยสร้างครอบพระสถูปเจดีย์ที่สร้างในรัชสมัยของพ่อขุนศรีนาวนำถม เมื่อสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถขึ้นไป ครองราชย์ที่เมืองพิษณุโลก ได้โปรดให้บูรณะพระปรางค์โดยดัดแปลงพระเจดีย์ ได้ให้เป็นรูปแบบพระปรางค์แบบขอมตามพระราชนิยมในสมัยกรุงศรีอยุธยา

    a.jpg


    หลักจากกราบพระศรีศาสดาแล้ว สร้อยฟ้ามาลามัวแต่ถ่ายภาพ หลงเจ้าค่ะ ไปไหนกันหมดแล้ว เลยต้องรีบจ้ำเข้าไปในพระวิหารหลวงไปกราบพระพุทธชินราชก็ได้พบกับกลุ่มของสร้อยฟ้ามาลา นึกว่าจะแย่เสียแล้ว คนเยอะเสียด้วย

    พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยสำริด ปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัยตอนปลาย หน้าตักกว้าง ๕ ศอก ๑ คืบ ๕ นิ้ว สูง ๗ ศอก หล่อในสมัยพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พญาลิไท) ซึ่งได้สร้างพระพุทธชินราช พร้อมกับพระพุทธชินสีห์ และพระศาสดา ฐานชุกชีปั๊มเป็นรูปบัวคว่ำบัวหงาย

    พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปองค์ประธานของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศไทย เส้นรอบนอกพระวรกายอ่อนช้อย พระพักตร์ค่อนข้างกลม พระโขนงโก่ง พระเกตุมาลาเป็นรูปเปลวเพลิง มีลักษณะพิเศษเรียกว่าทีฆงคุลี คือที่ปลายนิ้วพระหัตถ์ทั้งสี่นิ้วยาวเสมอกัน ซุ้มเรือนแก้วทำด้วยไม้แกะสลักสร้างในสมัยอยุธยา แกะสลักเป็นรูปมกร (ลำตัวคล้ายมังกรแต่มีงวงคล้ายช้าง) อยู่ตรงปลายซุ้ม และมีลำตัวเหรา (คล้ายจรเข้) อยู่ตรงกลางซุ้ม มีเทพอสุราปกป้องพระองค์อยู่สองตน คือ ท้าวเวสสุวัณ และอารวกยักษ์

    ส่วนตำนานของการสร้างพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ พระศาสดา และพระเหลือ สร้อยฟ้ามาลาไม่ขอกล่าวไว้ ณ ที่นี้นะเจ้าคะ เพราะจะทำให้มีเนื้อหาที่ยาวเกินไป ถ้าเพื่อนๆ ท่านใดจะตั้งกระทู้เพิ่มเติมก็ได้นะเจ้าคะ หรือถ้าไม่มีใครตั้งเดี๋ยวไว้โอกาสหน้าจะมาลงกระทู้แยกเป็นเฉพาะกิจให้


    a.jpg

    หิวแล้วจ้า เที่ยงกว่าแล้ว ไปหาอะไรทานดีกว่า แถวนั้นมีร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรียกว่า ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาด้วย แต่กลุ่มของสร้อยฟ้ามาลาไม่ได้เข้าไปเพราะคนเยอะ เอานี่แหละ หน้าวัดเลย ก๋วยเตี๋ยวคนละชาม ไม่อิ่มแต่พออยู่ท้อง

    บรรยากาศร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าวัด แอบถ่ายกลุ่มผู้อาวุโส ขอยอมรับเลยว่าท่านๆ แข็งแรงมากๆ แม้คุณยายบางท่านอายุจะ ๘๐ อยู่แล้ว แต่ยังกระฉับกระเฉงอยู่เลย คุยก็สนุกและเป็นกันเองมากๆ



    ออกจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ก็บ่ายกว่าๆ ก็ไปวัดจันทร์ตะวันตก ไปกราบนมัสการพระอาจารย์อุบาลี


    a.jpg

    พระอาจารย์อุบาลี

    แต่ที่นี้สร้อยฟ้ามาลาไม่ได้ถ่ายภาพไว้ ทางคณะของเราได้ร่วมกันถวายผ้าไตรและจตุปัจจัยต่างๆ

    ออกจากเมืองสองแควมุ่งหน้าสู่สุโขทัย แดดร้อนมากๆ ก่อนออกจากกรุงเทพมหานครได้ฟังข่าวว่าจะมีฝนกระจายอยู่ แต่ไม่ยักกะเจอแฮะ สถานที่ต่อไปเป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งเลยของทริปนี้ คือ ถวายผ้าคริสตัลห่มสมเด็จองค์ปฐม วัดเขาแร่ จังหวัดสุโขทัย แต่ตอนถวายผ้า สร้อยฟ้ามาลาไม่ได้ถ่ายภาพเพราะเห็นว่ามีคนถ่ายภาพเยอะแล้ว อีกอย่างเรามาร่วมอนุโมทนาไม่อยากไปเกะกะคณะท่านเพราะเป็นวาระของพ่อเทพฯ เลยขอเป็นผู้ชมดีกว่า แต่ก็ได้เก็บภาพบริเวณวัดเขาแร่มาให้ชม มาชมกันนะ

    a.jpg
    ถ่ายภาพระยะไกล ได้ชัดแค่นี้ขอชมว่างดงามมาก

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg


    ออกจากวันเขาแร่ประมาณ บ่าย ๓โมงกว่าๆ ได้มั้ง เราก็ไปแวะที่วัดๆ หนึ่งในเขตอำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย สร้อยฟ้ามาลาไม่ทันจดจำชื่อวัดว่าวัดอะไร ใครทราบบอกด้วย ก็ได้ไปกราบพระอาจารย์.... สร้อยฟ้ามาลาไม่ทราบชื่อท่านอีกนั่นแหล่ะ ทางคณะก็ได้ถวายเครื่องปัจจัยต่างๆ ท่านก็ได้มอบวัตถุมงคลและประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้ เดี๋ยวมาชมวัดกันนะเจ้าคะ


    a.jpg

    a.jpg
    บริเวณพระเจดีย์หน้าวัด ที่อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย

    จะมืดแล้วเจ้าค่ะ ยังอยู่สุโขทัยอยู่เลย คืนนี้คณะเราจะไปพักที่วัดอนาลโยทิพยาราม โอ้อีกไกล เหนื่อยแล้วด้วย สร้อยฟ้ามาลาเริ่มงอแง ง่วงนอน ก็แวะทานอาหารเย็นที่ปั๊มน้ำมัน ป.ต.ท. ก็มีอะไรก็ทาน ห้ามเลือกแล้วงานนี้ แต่อาหารที่นี่รสชาติเผ็ดไปหน่อย แล้วก็เข้าไป 7-11 ซื้อขนมห่อใหญ่ตุนไว้คืนนี้พร้อมเป๊ปซี่เพื่อเพิ่มความซ่าให้กับตัวเองหน่อย งานนี้ไม่ซ่าไม่ได้แล้ว นิ่มๆ อยู่ไม่ทันเขา เนิบนาบ อดทานเจ้าค่ะ ระหว่างทางพี่บุญญสิกขาโทรมาหา บอกว่าเป็นห่วงนึกว่าไปกับคนนอกเว็ป ก็ขอขอบคุณพี่บุญด้วยนะเจ้าคะที่น้องมาซนอีกแล้วแต่ก็มาซนในเส้นทางธรรมสัญจรนะ มิได้ซนออกนอกลู่นอกทาง ก็ขออนุโมทนาบุญกับพี่บุญด้วยที่วันนี้พี่บุญได้ไปสาธยายพระไตรปิฎกที่วัดพลับ และร่วมอนุโมทนาธรรมสัญจรกับสร้อยฟ้ามาลาด้วย อ้ออีกอย่างพี่บุญอวยพรมาว่า ขอให้คณะเราเดินทางโดยสวัสดิภาพอิ่มในบุญกันทุกคน สาธุ...

    ถึงวัดอนาลโยทิพยาราม จังหวัดพะเยา (คุณบุษบากาญจน์ เค้ามาถึงบ้านตัวเองแล้วนะ คิก คิก วันหน้าจะขอไปดื่มน้ำถึงหน้าบ้านเลยนะ คิก คิก) ก็สามทุ่มกว่าได้กระมัง ที่พักที่นี่สวยงามมาก ต่างคนต่างเลือกหามุมพักผ่อนของตนเอง ตอนนี้ก็จัดแจงปูที่นอนและต่อคิวเข้าห้องน้ำ กว่าจะเข้านอนก็เกือบห้าทุ่มได้ คืนนี้นอนสบาย สงบเงียบ อากาศกำลังดี

    วันอาทิตย์ที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๒

    ตื่นได้แล้ว...... ตีห้ากว่าๆ เข้าคิวแย่งห้องน้ำเหมือนเดิม

    a.jpg
    มาถ่ายรูปคนเพิ่งตื่นได้ ยังไม่งามกันเลย อิ อิ

    a.jpg
    แรงยังดี สู้ตายจ้า


    a.jpg
    เอ หรือว่าไม่สู้แล้ว

    a.jpg
    ชมหิ้งพระในบ้านพักกัน แสงกำลังสวยเลย


    a.jpg

    a.jpg
    บ้านพักในวัดอนาลโยทิพยาราม


    a.jpg

    เอ้าเช้านี้ คณะเราได้ทำบุญถวายภัตาหารพระกันแต่เช้า พอเสร็จก็ทานข้าวต้มกันตอนเช้า อร่อยมากๆ สร้อยฟ้ามาลาจะเบิ้ล ๒ ชาม แต่ทานกาแฟเข้าไปด้วยชามที่สองก็ไม่ไหวแล้ว

    ประวัติของวัดอนาลโยทิพยาราม
    พระอาจารย์ ไพบูลย์ สุมังคโล ขณะนั้นท่านอยู่ที่วัดรัตนวนาราม ท่านได้มีปรากฎการณ์เห็น ทรายทองไหลลงมาสู่วัดเป็นสาย รังสี แสงของทรายทองที่ไหลพั่งพรูราวกับสายน้ำนั้นอาบวัดทั้งวัดจนแทบจะกลายเป็นวัดทองคำ ท่านมองตามลำ แสงสีทองไปก็เห็นเขาที่อยู่อีกฟากหนึ่งของกว๊านพะเยานั่นเอง จากนั้นได้มีโยมมาอาราธนาให้ไปดูสถานที่สำคัญ และแปลกประหลาด เพื่อจะได้สร้างสำนักสงฆ์ไว้เป็นที่บำเพ็ญกุศลของชาวบ้าน เป็นที่ ๆ ชาวบ้านมักจะเห็นแสง สว่างเป็นดวงกลมลอยไปมาอยู่บนดอยสูง แสงนั้นดูสว่างเรืองรอง บางทีก็สว่างจ้าเป็นสีเหลืองสดอาบทั้งดอยราว กับกลายเป็นดอยทองคำ เหตุการณ์เหล่านี้มักจะปรากฏในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วันพระ ๘ หรือ ๑๕ ค่ำ เป็นต้น หลังจากที่พิจารคณาดูสถานที่แล้ว เห็นว่าเป็นสถานที่สงบเหมาะสมแก่การเจริญเตตาภาวนาเป็นอย่างยิ่ง ควรที่จะสร้างเป็นสถานที่พักปฏิบัติธรรม
    ดังนั้นที่นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของวัดอนาลโยทิพยารามยังไงล่ะ

    ส่วนที่มาของชื่อวัด อนาลโยทิพยาราม ก็มาจากเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๕ ท่านพระอาจารย์ได้ตัดสินใจมาอยู่ที่ นี่และเริ่มสร้างวัด ท่านได้ นิมิตว่ามีคนรูปร่าง ดำ สูงใหญ่มาบอกว่า หากท่านอาจารย์จะมาอยู่ที่นี่ ก็มาอยู่ได้ แต่ขอให้ตั้งชื่อวัด เป็นวัดหลวงปู่ขาว ซึ่งท่าน พระอาจารย์ก็ ไม่ขัดข้องประการใด ดังนั้นจึงได้เป็นชื่อ วัดอนาลโยขึ้นมา เพราะท่าน มีนามว่า หลวงปู่ขาว อนาลโย ผู้เป็นประธานสงฆ์ อยู่ ณ วัดกลอง เพล จ.อุดรธานี และยังมี พระพุทธลีลา หรือพระยืนที่ท่านตั้งใจจะ สร้างขึ้น ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางลีลาที่สูงใหญ่ที่สุด สร้างไว้บนยอด เขาตรีเพชร มีความสูง ๒๕ เมตร กว้าง ๖ เมตร น้ำหนักรวม ๒๕๔ ตัน พระองค์นี้ใน ตอนแรกได้สร้างเป็นชิ้น ๆ ก่อน แล้วค่อยนำมาประกอบ ขึ้น ซึ่งต้องใช้ความอดทน มากทีเดียวกว่าจะได้ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง อย่างที่เราได้เห็นกันอยู่นี้

    นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญและน่าท่องเที่ยวอยู่อีกหลายแห่งภายในวัด ไม่ว่าจะเป็น สวนลุมพินีวัน(จำลอง) สถานที่ประสูติของสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า สระโบกขรณี (จำลอง) สถานที่ถวายการสรงน้ำ เมื่อแรกประสูตร เจดีย์พุทธคยา (จำลอง) ซึ่งเป็นสถานที่ตรัสรู้ ต้นพระศรีมหาโพธิ ที่ตรัสรู้ด้านหลังองค์เจดีย์ พระสถูปเจดีย์ (จำลอง) สถานที่ปฐมเทศนา หรือจะเป็น เจ้าแม่กวนอิม ก็มี ที่นี่ได้รวมเอาประติมากรรม ต่าง ๆ เข้ามาไว้รวมกัน ซึ่งเหมาะแก่การทำสมาธิ หรือพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง อ้อ…แล้วอีกที่หนึ่งที่จะขาดเสียมิได้คือ พระตำหนัก "ภูตะวัน" แต่ที่นี่ห้ามบุคคลภายนอกผ่านขึ้นไป เพราะที่ตำหนักนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พร้อมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เพื่อเป็นที่ประทับในวโรกาสที่เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในจังหวัดพะเยา


    มาชมวัดกันดีกว่า รูปเยอะหน่อยเพราะอยู่ที่วัดนี้นาน

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg




    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg
    พระอาจารย์ไพบูลย์ สุมังคโล

    a.jpg
    ซูมข้ามเขา

    a.jpg
    ระยะใกล้

    กราบพระอาจารย์ไพบูลย์ ถวายเครื่องปัจจัยบำรุงวัด พระอาจารย์ท่านใจดีมากๆ ได้ฟังธรรมจากพระอาจารย์แล้วชื่นใจ ท่านเมตตาคณะของเรามาก ท่านอุตสาห์ออกมาต้อนรับทั้งที่ยังอาพาธอยู่ คณะของเรากราบขอพรเสร็จแล้วก็ออกเดินทางสู่วัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย

    a.jpg





    a.jpg

    เก็บตกจ้า

    /ยังไม่จบ มีต่อ หน้านี้ยาวไปแล้วเดี๋ยวขอขึ้นหน้าใหม่นะเจ้าคะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 101.jpg
      101.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.4 KB
      เปิดดู:
      1,399
    • 102.jpg
      102.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45 KB
      เปิดดู:
      1,960
    • 103.jpg
      103.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.2 KB
      เปิดดู:
      1,691
    • 104.jpg
      104.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.6 KB
      เปิดดู:
      1,646
    • 105.jpg
      105.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.9 KB
      เปิดดู:
      2,303
    • 106.jpg
      106.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.7 KB
      เปิดดู:
      1,618
    • 107.jpg
      107.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.2 KB
      เปิดดู:
      1,080
    • 108.jpg
      108.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.8 KB
      เปิดดู:
      1,434
    • 109.jpg
      109.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29 KB
      เปิดดู:
      1,224
    • 110.jpg
      110.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.3 KB
      เปิดดู:
      1,212
    • 111.jpg
      111.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.7 KB
      เปิดดู:
      1,210
    • 112.jpg
      112.jpg
      ขนาดไฟล์:
      63.8 KB
      เปิดดู:
      1,205
    • 113.jpg
      113.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.7 KB
      เปิดดู:
      1,277
    • 114.jpg
      114.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.8 KB
      เปิดดู:
      1,295
    • 115.jpg
      115.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.9 KB
      เปิดดู:
      1,255
    • 116.jpg
      116.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.2 KB
      เปิดดู:
      1,068
    • 117.jpg
      117.jpg
      ขนาดไฟล์:
      22.6 KB
      เปิดดู:
      1,065
    • 118.jpg
      118.jpg
      ขนาดไฟล์:
      21.5 KB
      เปิดดู:
      1,055
    • 119.jpg
      119.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49 KB
      เปิดดู:
      1,479
    • 120.jpg
      120.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.5 KB
      เปิดดู:
      1,331
    • 121.jpg
      121.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.9 KB
      เปิดดู:
      1,253
    • 122.jpg
      122.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.1 KB
      เปิดดู:
      1,576
    • 123.jpg
      123.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84 KB
      เปิดดู:
      1,286
    • 124.jpg
      124.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.7 KB
      เปิดดู:
      1,173
    • 125.jpg
      125.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67 KB
      เปิดดู:
      1,164
    • 126.jpg
      126.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.6 KB
      เปิดดู:
      1,178
    • 127.jpg
      127.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.2 KB
      เปิดดู:
      1,166
    • 128.jpg
      128.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.1 KB
      เปิดดู:
      1,159
    • 129.jpg
      129.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.8 KB
      เปิดดู:
      1,146
    • 130.jpg
      130.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67 KB
      เปิดดู:
      1,153
    • 131.jpg
      131.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.9 KB
      เปิดดู:
      1,163
    • 132.jpg
      132.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.5 KB
      เปิดดู:
      1,145
    • 133.jpg
      133.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52 KB
      เปิดดู:
      1,148
    • 134.jpg
      134.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.5 KB
      เปิดดู:
      1,132
    • 135.jpg
      135.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.2 KB
      เปิดดู:
      1,129
    • 136.jpg
      136.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48 KB
      เปิดดู:
      1,141
    • 137.jpg
      137.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.6 KB
      เปิดดู:
      1,132
    • 138.jpg
      138.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.4 KB
      เปิดดู:
      1,122
    • 139.jpg
      139.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.3 KB
      เปิดดู:
      1,131
    • 140.jpg
      140.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.9 KB
      เปิดดู:
      1,125
    • 141.jpg
      141.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.7 KB
      เปิดดู:
      1,129
    • 142.jpg
      142.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.3 KB
      เปิดดู:
      1,127
    • 143.jpg
      143.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.5 KB
      เปิดดู:
      1,113
    • 144.jpg
      144.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.5 KB
      เปิดดู:
      1,101
    • 145.jpg
      145.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.9 KB
      เปิดดู:
      1,119
    • 146.jpg
      146.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.2 KB
      เปิดดู:
      1,114
    • 149.jpg
      149.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.3 KB
      เปิดดู:
      1,099
    • 150.jpg
      150.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.3 KB
      เปิดดู:
      1,087
    • 148.jpg
      148.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.1 KB
      เปิดดู:
      1,104
    • 148_1.jpg
      148_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69.6 KB
      เปิดดู:
      1,121
    • 151.jpg
      151.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.8 KB
      เปิดดู:
      1,098
    • 152.jpg
      152.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.8 KB
      เปิดดู:
      1,085
    • 153.jpg
      153.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.1 KB
      เปิดดู:
      1,079
    • 154.jpg
      154.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.5 KB
      เปิดดู:
      1,091
    • 155.jpg
      155.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.2 KB
      เปิดดู:
      1,068
    • 156.jpg
      156.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50 KB
      เปิดดู:
      1,072
    • 157.jpg
      157.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.7 KB
      เปิดดู:
      1,079
    • 158.jpg
      158.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.7 KB
      เปิดดู:
      1,070
    • 159.jpg
      159.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.7 KB
      เปิดดู:
      1,047
    • 160.jpg
      160.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.5 KB
      เปิดดู:
      1,059
    • 161.jpg
      161.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.3 KB
      เปิดดู:
      1,097
    • 162.jpg
      162.jpg
      ขนาดไฟล์:
      22.5 KB
      เปิดดู:
      1,059
    • 163.jpg
      163.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.9 KB
      เปิดดู:
      1,052
    • 164.jpg
      164.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.3 KB
      เปิดดู:
      1,090
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2023
  2. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ต่อจ้า



    คณะของเราถึงวัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย ก็ประมาณบ่ายแก่ได้มั้ง ก็กลุ่มของสร้อยฟ้ามาลา ลงรถได้ก็ไปหาอะไรทานก่อน หิวแย้ว สร้อยฟ้ามาลาสั่งข้าวซอยไก่ อิ อิ ไม่ได้ลิ้มรสมานานมากๆ มาถึงถิ่นก็ต้องลองชิมของจริงเสียเลย ปรากฎว่าทานไม่หมดเจ้าค่ะ



    วัดร่องขุ่น
    ออกแบบและก่อสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ซึ่งปรารถนาจะสร้างวัดให้เหมือนเมืองสวรรค์ที่มนุษย์สัมผัสได้ เริ่มสร้างตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๐จากเดิมมีเนื้อที่ ๓ ไร่ ได้ซื้อที่ดินเพิ่มและมีผู้บริจาคคือคุณวันชัย วิชญชาคร จนปัจจุบันมีเนื้อที่ ๙ ไร่ และมีพระกิตติพงษ์ กัลยาโณ รักษาการเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน

    ความหมายของพระอุโบสถของวัดร่องขุ่น
    สีขาว : พระบริสุทธิคุณของพระพุทธเจ้า
    สะพาน : การเดินข้ามจากวัฏสงสารสู่พุทธภูมิ
    เขี้ยว หรือ ปากพญามาร : กิเลสในใจ
    สันของสะพาน : มีอสูรอมกัน ข้างละ ๘ ตัว ๒ ข้าง รวมกันแทนอุปกิเลส ๑๖
    กึ่งกลางของสะพาน : เขาพระสุเมรุ
    ดอกบัวทิพย์ : มี ๔ ดอกใหญ่ตรงทางขึ้นด้านข้างอุโบสถแทนซุ้มพระอริยเจ้า ๔ พระองค์ คือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์
    บันไดทางขึ้น : มี ๓ ขั้นแทน อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    มาชมวัดกันเจ้าค่ะ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    แต่เนื่องจากระยะทางยังอีกยาวไกล ก็เลยชมวัดร่องขุ่นได้ไม่นาน จึงมีภาพมาฝากได้เพียงแค่นี้ ก็ต้องรีบขึ้นรถเพื่อไปให้ถึง เหนือสุดแดนสยาม แม่สาย เจ้าค่ะ

    คณะของเรามาถึงวัดที่เป็นจุดกำเนิดของทริปนี้อีกที่หนึ่งคือ วัดถ้ำผาจม ซึ่งพี่เตอร์และคณะของเราตั้งใจจะมาทำบุญสร้างพระอุโบสถ ณ วัดถ้ำผาจม ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันนี้ มีพระอธิการวิชัย เขมิโย เป็นเจ้าอาวาส และเป็นผู้บริหารงานบูรณปฏิสังขรณ์ ได้สร้างกุฎิ ศาลาปริยัติธรรม ศาลาอเนกประสงค์ ศาลาการเปรียญ ที่พักพระอาคันตุกะ หอสมุด หอระฆัง เจดีย์ และได้สร้างเขื่อนกั้นน้ำสำหรับน้ำมาใช้ที่วัดถ้ำผาจม และพระธาตุดอยเวาด้วย ท่านได้สนทนาและสอนข้อคิดคติการดำรงชีวิตใหกับคณะของเราด้วย โดยมีใจความสำคัญว่า ให้มีสติกำหนดระลึกรู้อยู่แต่ปัจจุบัน อดีตที่ไม่ดีไม่ต้องจดจำ อนาคตยังมาไม่ถึงคิดไปก็เป็นกังวลโดยเปล่าประโยชน์


    ลักษณะวัดถ้ำผาจม
    วัดถ้ำผาจมนั้น ตั้งอยู่ในหุบเขา และอยู่ในแนวนอน เทือกเขาเขาลูกนี้เป็นรูปผู้หญิงนอนหงายสยายผมไปทางประเทศพม่า ฉะนั้น วัดถ้ำผาจมจึงอยู่ปลายผม เมื่อมองไปทางทิศตะวันออก จะเห็นพระธาตุดอยเวา ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งกิโลเมตร และจะเห็นเทือกเขาเป็นคุ้งมังกรสวยงามมาก สถานที่ที่วัดถ้ำผาจมตั้งอยู่นั้น เป็นช่วงปากของมังกร มีธรรมชาติรอบบริเวณวัดสวยงาม สงบ

    ผู้ที่เคยบูรณะวัดถ้ำผาจมสมัยที่ผ่านมา
    ในถ้ำมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ซึ่งประชาชนมาเคารพบูชามากมาย ได้แก่พระยืนสององค์ พระไสยาสน์หนึ่งองค์ และพระหลวงพ่อสายรุ่งอีกองค์หนึ่ง เป็นพระที่สวยงามมาก เป็นพึ่งทางใจของประชาชนซึ่งเข้าไปกราบไหว้สักการบูชาตลอดเวลา ถ้ำข้างในเข้าไปอีก มีหลวงพ่อทองทิพย์ ชื่อของหลวงพ่อในถ้ำนี้เป็นชื่อที่คนถิ่นนั้นเรียกกันติดปากมาช้านานแล้ว ในถ้ำบรรจุคนได้ประมาณ ๒๐๐ กว่าคน แต่ทางด้านหลังของหลวงพ่อทองทิพย์นั้น มีถ้ำลึกลงไป เป็นถ้ำที่กว้างใหญ่มาก สามารถบรรจุคนได้ถึงสามพันหรือสี่พันหรือทีเดียว ถ้ำนี้อยู่ลึกจากปากถ้ำลงไปประมาณ ๑๐๐ กว่าเมตร ยาวไปทางประเทศพม่า ลอดใต้แม่น้ำสายไปทะลุขึ้นถ้ำผาปูนทางฝั่งพม่า ซึ่งห่างจากถ้ำผาจมไปประมาณ ๑,๕๐๐ เมตร ทั้งนี้จากคำบอกเล่าของพระตา (ผู้เป็นผ้าขาว) เป็นชาวจีนฮ่อ และเคยได้มาทำความเจริญให้แก่วัดถ้ำผาจมพอสมควร ซึ่งได้ลงไปในถ้ำและไปโผล่ขึ้นที่ถ้ำผาปานดังกล่าว

    มีญาติโยมที่เคยได้ไปกราบนมัสการหลวงพ่ออุตตะมะซึ่งอยู่ที่อำเภอสังขละ จังหวัดกาญจนบุรีเล่าว่า หลวงพ่อได้ปรารภให้ญาติโยมฟังว่า ถ้ำผาจมที่อยู่ที่อำเภอแม่สายนั้น เป็นถ้ำที่มหัศจรรย์มาก คือ ถ้ำนี้จะลึกเข้าไปถึงเมืองหงสาวดีในประเทศพม่า นี่เป็นคำพูดที่ญาติโยมได้ยินจากหลวงพ่ออุตตมะ มีเรื่องเล่าจากคุณเที่ยง เสกกระโก ว่าเคยได้มาช่วยกันปิดถ้ำนี้ไว้ สาเหตุที่ทำให้ต้องปิดไว้นั้น เพราะเคยมีหนุ่มสาวสองคู่คงไปในถ้ำ เสร็จแล้วหายไปเลย ไม่กลับขึ้นมาอีกมีอยู่ที่เคยนั่งสมาธิเห็นว่าใต้ถ้ำนั้นเป็นสระใหญ่สวยงามมาก และยังเห็นหนุ่มสาวสองคู่นั้นยืนอยู่ริมของสระด้านละคู่

    ในวันพระจะได้ยินเสียงสวดมนต์ในช่วงเวลาตั้งแต่ ๑.๐๐ น. เป็นต้นไป สำหรับในระยะเข้าพรรษานั้น แม้แต่กลางวันก็จะได้ยินเสียงสวดมนต์เสมอ และถ้ำแห่งนี้ กล่าวกันว่า เป็นที่อยู่ของพญานาค ๒ ตัวด้วย

    ความสำคัญของวัดถ้ำผาจม
    ถ้ำผาจมเป็นปูชนียสถานเก่าแก่ ไม่สามารถประมาณได้ว่า มีตั้งแต่เมื่อไรเป็นสถานที่ที่สงบ เงียบสงัด มีต้นไม้ร่มรื่น สวยงามมาก เป็นสถานที่สัปปายะเหมาะสำหรับการบำเพ็ญภาวนา หรือการปฏิบัติสมถกรรมฐานวิปัสสนากรรมฐานเป็นอย่างดีเยี่ยม จึงมีครูอาจารย์ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานจาริกธุดงค์ไปพักเป็นประจำเหตุที่ชาวบ้านเรียกว่า “ถ้ำผาจม” การที่ถ้ำนี้ถูกเรียกว่า “ถ้ำผาจม” นั้น เพราะถ้ำแห่งนี้จมลึกลงไปและอยู่ใต้แม่น้ำสายเป็นบางส่วน คนทั้งหลายจึงได้เรียกว่า “ถ้ำผาจม”
    [​IMG]

    [​IMG]
    ออกจากวัดก็แวะตลาดแม่สาย แต่ไม่ได้ข้ามไปฝั่งพม่า เพราะเวลาไม่มีแล้วจึงได้แต่เก็บภาพมาได้น้อยมาก

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    ออกจากแม่สายได้ประมาณ หกโมงเย็นเราก็แวะ........ เอาไว้ต่อหลังสงกรานต์เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังใหม่ ยังเหลือระยะทางอีกไกล

    คอยติดตามนะเจ้าคะ



    .........................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 165.jpg
      165.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.7 KB
      เปิดดู:
      1,285
    • 166.jpg
      166.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.4 KB
      เปิดดู:
      1,270
    • 167.jpg
      167.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.6 KB
      เปิดดู:
      1,250
    • 168.jpg
      168.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.1 KB
      เปิดดู:
      1,260
    • 169.jpg
      169.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.9 KB
      เปิดดู:
      1,238
    • 170.jpg
      170.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.5 KB
      เปิดดู:
      1,242
    • 171.jpg
      171.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50 KB
      เปิดดู:
      1,250
    • 172.jpg
      172.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.3 KB
      เปิดดู:
      1,259
    • 173.jpg
      173.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.7 KB
      เปิดดู:
      1,229
    • 174.jpg
      174.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.1 KB
      เปิดดู:
      1,306
    • 175.jpg
      175.jpg
      ขนาดไฟล์:
      63.7 KB
      เปิดดู:
      1,342
    • 176.jpg
      176.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.9 KB
      เปิดดู:
      1,283
    • 177.jpg
      177.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.3 KB
      เปิดดู:
      1,277
    • 178.jpg
      178.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30 KB
      เปิดดู:
      1,216
    • 179.jpg
      179.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.1 KB
      เปิดดู:
      1,260
    • 180.jpg
      180.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.8 KB
      เปิดดู:
      1,229
    • 181.jpg
      181.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.3 KB
      เปิดดู:
      1,245
    • 182.jpg
      182.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.4 KB
      เปิดดู:
      1,244
    • 183.jpg
      183.jpg
      ขนาดไฟล์:
      16.9 KB
      เปิดดู:
      1,201
    • 184.jpg
      184.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.1 KB
      เปิดดู:
      1,231
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2013
  3. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    โอ้ยๆๆๆๆ เห็นแล้วคิดตุ๋งบ้านจังเลยอ่ะ พะเยาบ้านบุษเองแหล่ะ
     
  4. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    โอ๊ย เห็นแล้วอยากไปวัดอนาลโยอีก เคยมีโอกาสไปทอดเทียนพรรษากับหลวงพ่อบุญส่งที่วัดนี้เมื่อสัก 3 ปีก่อน ตอนนั้นได้มีโอกาสไปนั่งกินกุ้งเต้นที่คว้านพะเยาด้วยอร่อยสุด คิดถึงอ่ะ อยากไปจริงๆทริปนี้ภัทรตั้งใจจะไปนะ แต่ดันไปผ่าใส้ติ่งเสียนี่ เขาเรียกว่าไม่มีบุญ เลยอดไปเลย อิจฉาคุณสร้อยอ่ะ

    รีบกลับมาเล่าต่อนะเจ้าค่ะ จะรอฟังเจ้าค่ะ
     
  5. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    ขอบพระคุณพี่เตอร์ด้วยที่จัดทริปดีดีนะครับไว้มีโอกาสเราไปกันอีกน่ะ อิอิอิ สนุกดีง่ะ ทำบุญตลอดทางเลย
     
  6. cinderella2517

    cinderella2517 Mindset Coach และ นักพยากรณ์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +1,404
    อะโห คุณสร้อยฟ้ามาลา เอารูปนางซินฯตอนยังไม่แปรงฟันมาลง หุหุ ดูม่ายด้ายเลยเจ้าค่ะ เดี๋ยวชาวประชาจะมาต๊กกะใจว่า ใครหว่า หัวฟูฟ่อง เหมือนงูเกงกองหรือนางเมนดูซ่า คราต่อไป ขอรูปสวย ๆ นะคร้า

    นางซินฯ ขอเอารูปมาแจมด้วยค่ะ ทริปนี้ก็สนุก แต่ไม่ได้ดื่มด่ำกับแต่ละสถานที่นาน ๆ เพราะต้องรีบทุกวัดเลย เง้อ
    1.ภาพถ่ายในหอพระทองคำ ที่วัดอนาลโยฯ
    2.พระปรางนาคปรก วัดอนาลโย
    3.วัดอนาลโยอีกน่ะแหล่ะ
    4.เส้นทางไปหอพระโบราณ
    5.พระทองคำ พระบุษราคำ พระมรกต
    6.อ่างล้างมือ 12 ราศี
    7.นางซินฯกับรูปปั้น
    8.นางซินฯ กับไซบีเรียนฯ นี่คือหมาวัด สุนัขที่ศรัทธาศาสนา แขวนเครื่องรางด้วยนะ อิอิ (สุนัขหลวงพี่เอก วัดเขาแร่)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PICT0132.JPG
      PICT0132.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      57
    • PICT0074.JPG
      PICT0074.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      63
    • PICT0092.JPG
      PICT0092.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3 MB
      เปิดดู:
      66
    • PICT0128.JPG
      PICT0128.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.8 MB
      เปิดดู:
      53
    • PICT0130.JPG
      PICT0130.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2 MB
      เปิดดู:
      56
    • PICT0125.JPG
      PICT0125.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.1 MB
      เปิดดู:
      50
    • อนาลโย3.JPG
      อนาลโย3.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.3 MB
      เปิดดู:
      47
    • PICT0042.JPG
      PICT0042.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.1 MB
      เปิดดู:
      69
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2009
  7. boontar

    boontar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,717
    ค่าพลัง:
    +5,514
    อนุโมทนาครับ.....รูปนี้เล็งนานมั้ยครับ เหลี่ยมมุมออกมาพอดีเลย


    [​IMG]




     
  8. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +7,815
    น่าไปชมัดเลยเจ้าค่ะ หุ หุ หุ
     
  9. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ภาพนี้เล็งจนตาเข เลยเจ้าค่ะคุณบุญตา ต้องแหงนคอถ่าย เล่นเอาเมื่อยเลย ....
     
  10. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    กลับจากสงกรานต์แล้วจ้า

    เดี๋ยวเพื่อนๆ คอยติดตามกระทู้เที่ยวสงกรานต์ของสร้อยฟ้ามาลาต่อนะเจ้าคะ แต่งานนี้ไม่มีเปียกน้ำ อิ อิ เพราะไม่อยากโดนสาดน้ำ....



    มาโม้ต่อจากที่ติดค้างไว้ เอ ถึงไหนแล้วหล่ะนี่

    [​IMG]


    ออกจากแม่สาย คณะของเราก็มุ่งหน้าสู่นพบุรีศรีนครพิงค์ เชียงใหม่ ก็ตอนนั้นออกจากแม่สายประมาณหกโมงเย็นกว่าๆ เราแวะข้างทางเพื่อซื้อผลสตอเบอรรี่ แต่ลูกเล็กไปหน่อยและแพงกว่าที่คิดไว้เลยไม่ซื้อ คณะของเราแวะที่ วัดมงคลธรรมกายาราม ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีพระครูภาวนานุวัตร เป็นเจ้าอาวาส ท่านใจดีมากๆ เป็นกันเองกับญาติโยม ในวันนั้นมีการเตรียมงานบวชเณรลูกแก้วซึ่งจะบวชในวันรุ่งขึ้น

    [​IMG]

    [​IMG]

    วันนี้คณะของเราโชคดีมากๆ ต้องบอกว่าเพราะพี่เตอร์ ที่เป็นโยมอุปฐาก ขอให้เปิดพระอุโบสถให้พวกเราได้เข้าชมความงามของพระประธาน และพระพุทธรูป พระประธานในพระอุโบสถเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิที่สร้างขึ้นเป็นแบบพระแก้วมรกต มีมณฑปและบุษบกเหมือนในพระแก้วมรกตในวันพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมด้วยเครื่องทรงที่ประดับเพชรและพลอย มีความงดงามมากๆ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    ความงดงามของพระประธาน

    [​IMG]
    หยกที่เหลือจากการสร้างพระประธาน ยังนำมาสร้างพระพุทธรูปได้อีก


    ซึ่งในวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ประดับเครื่องทรงพระประธาน และเบิกพระเนตรพระรัตนมงคลมณี พระศรีมงคลสวัสดิ์ พระพุทธรูปปางห้ามญาติ

    วัดมงคลธรรมกายาราม เป็นสาขาวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ได้รับการถวายที่ดิน จำนวน ๘ ไร่ ๓ งาน ๘๗ ตารางวา จากนายจำนง - นางนงลักษณ์ พัดเอี่ยม เมื่อปี ๒๕๓๘ โดยมีพระสมศักดิ์ มหัพพะโล เป็นเจ้าสำนักฯ ต่อมา พระสมศักดิ์ มหัพพะโล ถึงแก่มรณภาพ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ กรรมการมหาเถรสมาคม ได้มีบัญชาให้ พระชูวิทย์ อัตตะวิชโช พร้อมคณะ มาปฏิบัติศาสนกิจในปี ๒๕๔๒ ได้ดำเนินการขอตั้งวัดเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๔๔ และได้ขอพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๔๖ ปัจจุบันมีที่ดินทั้งสิ้น ๙๗ ไร่ ๓ งาน ๕๖ ตารางวา วัดได้ดำเนินการเผยแพร่พระพุทธศาสนา ด้วยการจัดตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกนักธรรมบาลี และอบรมเยาวชน ด้วยการจัดตั้งค่ายพุทธบุตร ปัจจุบันมีพระครูภาวนานุวัตร เป็นเจ้าอาวาส
    ในปี ๒๕๔๔ ได้ดำเนินการสร้างพระอุโบสถ ทรงไทยประยุกต์ขนาดกว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๒๑ เมตร และได้แกะสลักพระประธาน จากหินหยกเขียวแคนาดา ขนาดหน้าตัก ๑๘.๙ นิ้ว ประทับนั่งในบุษบก ขณะนี้ทางวัดได้ดำเนินการจัดสร้างเครื่องทรงพระประธานแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาในการสร้าง ๓ ปี ใช้งบประมาณ ๑๑ ล้านบาทเศษ โดยมีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เนื่องในปี ๒๕๕๐ เป็นปีมหามงคลที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ ๘๐ พรรษา
    เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๔๙ วัดมงคลธรรมกายาราม ได้ดำริสร้างพระพุทธรูปปางห้ามญาติ จำนวน ๒ องค์ เพื่อถวายเป็นพระกุศลในวโรกาสที่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงเจริญพระชันษา ครบ ๕๐ ชันษา และทรงประทานพระนามพุทธรูปว่า “พระรัตนมงคลมณี” และ “พระศรีมงคลสวัสดิ์”

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    พระรัตนมงคลมณี



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    พระศรีมงคลสวัสดิ์

    พระรัตนมงคลมณี และ พระศรีมงคลสวัสดิ์ จะมร้างคล้ายกับ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม นั่นก็คือ การสร้างพระประธาน และพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ทั้งเครื่องทรง บุษบก และมณฑป จำลองจากวัดพระศรีรัตนศาสดารามทั้งสิ้น

    หลังจากฟังคำบรรยาย ที่มาที่ไปของการสร้างจากท่านพระครู และกราบสักการะขอพรแล้ว ท่านยังได้เลี้ยงข้าวคณะของเราอีกด้วย ท่านบอกว่าทางวัดจะมีอาหารพอหรือไม่ ไม่ต้องห่วงท่านจัดหามาได้ถ้าพวกเราไม่รังเกียจและทานได้ ขอกราบขอพระคุณท่านที่ ท่านเมตตาต่อคณะของเรามาก

    หลังจากทานอาหารค่ำที่วัดแล้ว คณะของเราก็กราบลาท่านพระครู มุ่งหน้าสู่ นครเชียงใหม่ เวลาตอนนั้นประมาณ ๒ ทุ่มกว่าๆ ได้มั้ง

    ตอนนี้เป็นช่วงหรรษาฝ่าโค้งของขุนเขา โชว์เฟอร์คันของสร้อยฟ้ามาลาขับรถดีมากๆ แต่อีกคันสร้อยฟ้ามาลาไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้าง พอฝ่าโค้งและขุนเขามาได้ก็เจอปั๊มน้ำมัน จอดแวะที่ปั๊มน้ำมัน เพื่อ........ เอาของเก่าออกเจ้าค่ะ เพราะว่า เมารถเป็นแถวๆ คันของสร้อยฟ้ามาลา มีเมารถอยู่คนเดียว แต่อีกคันมีเมารถหลายคนอยู่ ตอนนั้นประมาณ ๕ ทุ่มกว่าๆ

    จากปั๊มน้ำมัน คณะของเราเดินทางถึง วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ เวลาเที่ยงคืนกว่าๆ ในวัดเงียบเชียบผสมบรรยากาศวังเวง ขอย้ำ วังเวง ตอนเข้าวัดสายตาของสร้อยฟ้ามาลาก็เหลือบไปเห็นกู่บรรจุพระอัฐิของเจ้านายฝ่ายเหนือ ซึ่งสร้อยฟ้ามาลาเคยอ่านในหนังสือแต่ไม่มั่นใจว่าอยู่ที่ใด เมื่อเห็นจึงได้ อ๋อ อยู่ที่วัดนี้เอง

    ก็เหมือนเดิมเจ้าค่ะ เข้าคิวอาบน้ำ แต่ขอกระซิบ บางคนก็ไม่อาบนะ เพราะเหนื่อยจากการเดินทางซึ่งตรงนี้ไม่ว่ากันหรอก เพราะเข้าใจเลย แหม ก็กว่าจะเข้าคิวอาบน้ำกันเสร็จและจัดแจงปูที่หลับที่นอนก็จะปาเข้าไปเกือบตีสองแล้ว แต่สร้อยฟ้ามาลาอาบน้ำนะ.....

    [​IMG]
    ที่พักในวัดสวนดอก

    คืนนี้ไม่ใช่คืนวันพระ คณะของเรา ๓๐ กว่าชีวิตเข้านอนแล้ว แต่สร้อยฟ้ามาลายังไม่หลับ เพราะเหล่าสุนัขประจำวัดต่างพากันเห่ากันเสียงดังไล่ตั้งแต่ท้ายพระเจดีย์ใหญ่ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับกู่ เห่าไม่เห่าเปล่า ยังหอนอีก แล้วเสียงก็หยุด สักพักก็เห่าอีก และก็หอนโหยหวนเลยคราวนี้ไล่มาถึงพระวิหาร และมาหยุดอยู่ใกล้ๆ กับศาลาที่คณะของเราพักอยู่ซึ่งตั้งอยู่เยื้องกับพระวิหาร คราวนี้ชุมนุมเสียงกันใหญ่ สร้อยฟ้ามาลาก็นอนฟังไป ยังไม่นึกกลัว แต่ก็ทำเอานอนหลับๆ ตื่นๆ ....


    .....................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 185.jpg
      185.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.5 KB
      เปิดดู:
      1,370
    • 186.jpg
      186.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33 KB
      เปิดดู:
      1,311
    • 187.jpg
      187.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52 KB
      เปิดดู:
      1,357
    • 188.jpg
      188.jpg
      ขนาดไฟล์:
      22.3 KB
      เปิดดู:
      1,615
    • 189.jpg
      189.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.2 KB
      เปิดดู:
      1,395
    • 190.jpg
      190.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.4 KB
      เปิดดู:
      1,449
    • 191.jpg
      191.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.3 KB
      เปิดดู:
      1,275
    • 192.jpg
      192.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.1 KB
      เปิดดู:
      1,285
    • 193.jpg
      193.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.9 KB
      เปิดดู:
      1,254
    • 194.jpg
      194.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.4 KB
      เปิดดู:
      1,357
    • 195.jpg
      195.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.5 KB
      เปิดดู:
      1,365
    • 196.jpg
      196.jpg
      ขนาดไฟล์:
      26.6 KB
      เปิดดู:
      1,279
    • 197.jpg
      197.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.1 KB
      เปิดดู:
      1,250
    • 198.jpg
      198.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35 KB
      เปิดดู:
      1,264
    • 199.jpg
      199.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.6 KB
      เปิดดู:
      1,253
    • 200.jpg
      200.jpg
      ขนาดไฟล์:
      26.8 KB
      เปิดดู:
      1,258
    • 201.jpg
      201.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.8 KB
      เปิดดู:
      1,245
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2013
  11. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    วันจันทร์ที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๒ วันนี้เป็นวันจักรี

    สร้อยฟ้ามาลาตื่นนอนประมาณ ตีห้าเกือบๆ หกโมงเช้า ก็เหมือนเดิม เข้าคิวอาบน้ำจ้า

    ขอเล่าประวัติวัดสวนดอกสักหน่อยหนึ่ง


    วัดสวนดอกตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ เลขที่ ๑๓๙ ถนนสุเทพ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากประตูสวนดอกไปทางทิศตะวันตก ๑ กิโลเมตร กินเนื้อที่ ๓๕ ไร่ ๒ งาน ๔๔ ตารางวา


    วัดสวนดอกในอดีตนั้นป็นสวนดอกไม้ (ต้นพยอม) ของเจ้านายฝ่ายเหนือในราชวงศ์เม็งราย โดยในปี พ.ศ.๑๙๑๔ (ศักราชนี้ถือตามหนังสือชินกาลมาลีปกรณ์ของพระรัตนปัญญาเกตุ) พระเจ้ากือนา กษัตริย์องค์ที่ ๖ แห่งราชวงศ์เม็งราย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเป็น "พระอารามหลวง" เพื่อให้เป็นที่จำพรรษาของ "พระมหาเถระสุมน" ผู้ประดิษฐานพระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ ในแผ่นดินล้านนา และสร้างองค์พระเจดีย์เพื่อประดิษฐาน "พระบรมสารีริกธาตุ" ๑ ใน ๒ องค์ ที่ "พระมหาเถระสุมน" อัญเชิญมาจากสุโขทัย ในปี พ.ศ.๑๙๑๒ (องค์หนึ่งประดิษฐานอยู่ในพระเจดีย์ ในวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร)

    ในสมัยราชวงศ์เม็งราย วัดสวนดอก มีความเจริญรุ่งเรืองมาก แต่หลังจากสิ้นราชวงศ์เม็งราย บ้านเมืองตกอยู่ในอำนาจพม่า ทั้งเกิดจลาจลวุ่นวาย วัดนี้จึงกลายสภาพเป็นวัดร้างไป วัดสวนดอก ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่อีกครั้ง ในรัชสมัยพระเจ้าบรมราชาธิบดีกาวิละ แห่งราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์(เจ้าเจ็ดตน)และได้รับการทำนุบำรุงจาก เจ้านายฝ่ายเหนือและประชาชนเชียงใหม่มาโดยตลอด

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    อาบน้ำเสร็จก็เก็บข้าวเก็บของ จัดกระเป๋า เก็บที่นอน กราบพระในศาลา และหิ้วกระเป๋าขึ้นรถตู้ แต่รถยังไม่ออกนะ ณ เวลานี้ ฟรีสไตล์ บางคนก็ไปตลาด บางคนก็ไปใส่บาตร แต่กลุ่มของสร้อยฟ้ามาลา เดินไปทางด้านหลังวัดเพื่อไปกราบ พระเจ้าเก้าตื้อ ก่อน

    a.jpg

    a.jpg
    พระเจ้าเก้าตื้อ


    พระเจ้าเก้าตื้อ เป็นพระพุทธรูปหล่อองค์ใหญ่ สร้างด้วยโลหะหนัก ๙ โกฏิตำลึง ("ตื้อ" เป็นคำในภาษาไทยเหนือ แปลว่า หนักพันชั่ง) พระญาเมืองแก้ว กษัตริย์องค์ที่ ๑๓ แห่งราชวงศ์เม็งราย โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๐๔๗ "พระเจ้าเก้าตื้อ" เป็นพระพุทธรูปแบบเชียงแสนฝีมือช่างล้านนาและสุโขทัย หน้าตักกว้าง ๘ ศอก หรือ ๓ เมตร สูง ๔.๗๐ เมตร เพื่อเป็นพระองค์ประธานในวัดสิงห์ แต่เนื่องมีน้ำหนักมากไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ จึงได้ถวายเรือนหลวงของพระองค์เป็นพระวิหาร พระราชทานชื่อว่า "วัดเก้าตื้อ" แทน ซึ่งต่อมาภายหลังได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ในสมัย พระคณูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ในปี พ.ศ.๒๔๗๕ กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๕๒ ตอนที่ ๗๕ ลงวันที่ ๘ มีนาคม ๒๔๗๘

    a.jpg

    a.jpg

    หลังจากราบสัการะขอพรจากพระเจ้าเก้าตื้อเสร็จแล้ว สร้อยฟ้ามาลา ก็เดินดิ่งไปที่กู่พระอัฐิของเจ้านายฝ่ายเหนือเลย พอเดินเข้าไป ก็จะพบกับ กู่บรรจุพระอัฐิของพระราชชายา เจ้าดารารัศมี สร้อยฟ้ามาลา ได้ถวายบังคมพระองค์ท่าน


    a.jpg

    a.jpg

    ส่วนกู่พระอัฐิที่อยู่ทางด้านซ้ายก็คือ กู่ของพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่


    a.jpg

    กู่เจ้านายฝ่ายเหนือ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๔๕๐ โดยพระดำริในพระราชชายา เจ้าดารารัศมี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว


    a.jpg


    เจ้านายฝ่ายเหนือในราชตระกูล ณ เชียงใหม่ ซึ่งทรงเห็นว่าทำเลที่ตั้งของวัดสวนดอกกว้างขวาง จึงโปรดให้อัญเชิญรวบรวมพระอัฐิของเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ และพระประยูรญาติ มาประดิษฐานรวมกัน ณ ที่นี่ รวมทั้งได้ประทานทรัพย์ให้การทำนุบำรุงมาโดยตลอดพระชนม์ชีพ หลังจากพระราชชายา สิ้นพระชนม์ ได้มีการแบ่งพระอัฐิของพระองค์มาประดิษฐานไว้ ณ กู่เจ้านายฝ่ายเหนือ แห่งนี้ (อีกส่วนหนึ่งแบ่งประดิษฐานไว้ในสุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาศรีมารามราชวรวิหาร) ปัจจุบัน กู่เจ้านายฝ่ายเหนือ ได้ถูกจดทะเบียนให้เป็นโบราณสถานสำคัญ ภายใต้การกำกับดูแลของกรมศิลปากร ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg


    หลังจากถวายบังคมเสร็จแล้ว สร้อยฟ้ามาลา ก็ไปสักการะและทำทักษิณาวัตรพระเจดีย์ซึ่งเป็นพระเจดีย์ใหญ่ทรงลังกาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.๑๙๑๔ ในรัชกาลของพระเจ้ากือนา กษัตริย์องค์ที่ ๖ แห่งราชวงศ์เม็งราย โปรด ให้สร้าง "พระอารามหลวง" โดยโปรดเกล้าให้สร้าง "พระเจดีย์ทรงลังกา" ขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่พระมหาเถระสุมนได้อัญเชิญมาจากสุโขทัย ในปี พ.ศ.๑๙๑๒ ซึ่งแต่เดิมมีเจดีย์แบบสุโขทัย(ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์) อยู่ทางทิศตะวันตกขององค์พระเจดีย์ใหญ่ แต่ได้ปรักหักพังลง พระเจดีย์องค์ใหญ่สูง ๒๔ วา ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg
    จากนั้นก็ขึ้นพระวิหารหลวง กราบสักการะพระพุทธปฏิมาค่าคิง และพระยืนด้านหลังพระวิหารหลวง



    พระพุทธปฏิมาค่าคิง(เท่าพระวรกาย) เป็นพระประธานในพระวิหารหลวง สร้างในสมัยพระเจ้ากือนา พ.ศ.๑๙๑๖ หล่อด้วยทองสำริด ขนาดเท่าพระวรกายของพระเจ้ากือนา หน้าตักกว้างสองเมตร สูงสองเมตรครึ่ง เรียกชื่อตามภาษาถิ่นว่า “พระเจ้าค่าคิง”

    แปดโมงกว่าแล้ว คณะของเราเริ่มรวมพลหน้าพระวิหารหลวง จัดข้าวของบนรถเตรียมตัวเดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานคร


    ในการจัดหาที่พักที่วัดสวนดอกนี้ พี่โมเย แม่หญิงแห่งนครพิงค์ เป็นผู้อำนวยความสะดวกและเป็นธุระในการติดต่อขอที่พักให้ และกลุ่มของสร้อยฟ้ามาลาขึ้นเหนือมาครั้งนี้ก็ตั้งใจจะมาพบพี่โมเยด้วยอีกประการหนึ่ง แต่ความตั้งใจนั้นก็ไม่สัมฤทธิ์ผล ในระหว่างการเดินทางขึ้นเหนือ พี่โปตาลากาได้โทรศัพท์ติดต่อไปพี่โมเยตลอด และจะนัดเจอกันเพื่อพาชมเมืองเชียงใหม่ยามค่ำคืนและจะได้ฟังเพลงพื้นเมืองล้านนาที่พี่โมเยเป็นผู้ขับร้องตั้งแต่เมื่อคืน แต่ก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้นเพราะถึงเชียงใหม่ก็ดึกมากแล้ว จึงได้โทรศัพท์เพื่อมานัดเจอกันที่หน้าวัดสวนดอกในตอนเช้า แต่เราก็ไม่ได้เจอกัน เราคลาดกันเพียงแค่นิดเดียว รถของคณะเราได้ออกจากวัด ในขณะที่พี่โมเยขับรถมาถึงหน้าวัดแล้ว ........




    ...............................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 202.jpg
      202.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40 KB
      เปิดดู:
      1,110
    • 203.jpg
      203.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.8 KB
      เปิดดู:
      1,102
    • 204.jpg
      204.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.4 KB
      เปิดดู:
      1,106
    • 205.jpg
      205.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.9 KB
      เปิดดู:
      1,097
    • 206.jpg
      206.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.7 KB
      เปิดดู:
      1,108
    • 207.jpg
      207.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.7 KB
      เปิดดู:
      1,112
    • 208.jpg
      208.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.9 KB
      เปิดดู:
      1,097
    • 209.jpg
      209.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.5 KB
      เปิดดู:
      1,104
    • 210.jpg
      210.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.8 KB
      เปิดดู:
      1,082
    • 211.jpg
      211.jpg
      ขนาดไฟล์:
      26.1 KB
      เปิดดู:
      1,081
    • 212.jpg
      212.jpg
      ขนาดไฟล์:
      21.6 KB
      เปิดดู:
      1,097
    • 213.jpg
      213.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.2 KB
      เปิดดู:
      1,087
    • 214.jpg
      214.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.1 KB
      เปิดดู:
      1,091
    • 215.jpg
      215.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.9 KB
      เปิดดู:
      1,082
    • 216.jpg
      216.jpg
      ขนาดไฟล์:
      26 KB
      เปิดดู:
      1,084
    • 217.jpg
      217.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.8 KB
      เปิดดู:
      1,094
    • 218.jpg
      218.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.4 KB
      เปิดดู:
      1,090
    • 219.jpg
      219.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.6 KB
      เปิดดู:
      1,093
    • 220.jpg
      220.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.9 KB
      เปิดดู:
      1,096
    • 221.jpg
      221.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.5 KB
      เปิดดู:
      1,075
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2023
  12. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ออกจากวัดสวนดอก พี่โปตาลากาได้โทรศัพท์หาพี่โมเยทันที่ เมื่อสร้อยฟ้ามาลาโวยวายขึ้นมาว่าเห็นพี่โมเย จอดรถอยู่หน้าวัด และขอให้พี่โมเยขับตามเราไป เพราะเราจะไปแวะทานข้าวกัน แต่พี่โมเยบอกว่าคงไปไม่ได้เพราะไปไกลเหลือเกิน

    คณะของเราแวะทานข้าวเสร็จ ก็ไปแวะที่วัดพระสิงห์

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    พระพุทธรูปในพระวิหาร



    วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ในบริเวณคูเมืองเชียงใหม่ ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ วัดพระสิงห์ฯ เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ เป็นที่ประดิษฐานพระสิงห์ (พระพุทธสิหิงห์) พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา พระพุทธรูปเป็นศิลปะเชียงแสนรู้จักกันในชื่อ "เชียงแสนสิงห์หนึ่ง"

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg



    พญาผายู กษัตริย์เชียงใหม่ราชวงศ์เม็งราย โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.๑๘๘๘ ขั้นแรกให้สร้างเจดีย์สูง ๒๓ วา เพื่อบรรจุพระอัฐิ ของพญาคำฟู พระราชบิดา ต่อมาอีกสองปีจึงสร้างพระอาราม เสนาสนวิหาร ศาลาการเปรียญ หอไตร และกุฎิสงฆ์เรียบร้อย ทรงตั้งชื่อว่า "วัดลี" ต่อมาบริเวณหน้าวัดมีตลาดเกิดขึ้นชาวบ้านเรียกว่า "ตลาดลีเชียง" แล้วเรียกวัดว่า "วัดลีเชียง" และ "วัดลีเชียงพระ" ระหว่างปี พ.ศ. ๑๙๓๑ - ๑๙๕๔ สมัยพระเจ้าแสนเมืองมา ขึ้นครองนครเชียงใหม่โปรดให้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาจากเมืองเชียงราย เมื่อขบวนช้างอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาถึงหน้าวัดลีเชียงก็ไม่ยอมเดินทางต่อ พระเจ้าแสนเมืองมาจึงให้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ประดิษฐาน ณ วัดลีเชียง ประชาชนทางเหนือนิยมเรียก"พระพุทธสิหิงค์" สั้นๆ ว่า "พระสิงห์" จึงเรียกชื่อวัดตามพระพุทธรูปว่า "วัดพระสิงห์"

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    เมื่อถึงปี พ.ศ.๒๓๕๔ พระเจ้ากาวิละ ได้โปรดฯ ให้สร้างอุโบสถ และหอไตรขึ้น โดยมีลักษณะเป็นอาคารทรงล้านนาขนาดใหญ่ ตรงกลางอาคารมีกู่ซึ่งแต่เดิมคงเป็นสถานที่ที่ประดิษฐานพระประธาน

    ขอบอกว่าที่วัดพระสิงห์นี้ วิ่งถ่ายภาพเจ้าค่ะ ทางคณะบอกว่าต้องทำเวลา รีบไหว้ รีบถ่ายภาพ และก็วิ่งจริงๆ

    ประมาณ เก้าโมงครึ่งเกือบๆ สิบโมง ก็ออกจากเมืองเชียงใหม่ มุ่งสู่ วัดพระธาตุลำปางหลวง

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg


    วัดพระธาตุลำปางหลวง ตั้งอยู่ในเขตตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง อยู่ห่างจากตัวเมืองลำปางไปทางทิศตะวันเฉียงใต้ประมาณ ๑๘ กิโลเมตร ตัววัดตั้งอยู่บนเนินสูง มีการจัดวางผัง และส่วนประกอบของวัดสมบูรณ์แบบที่สุด

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg


    a.jpg
    ภาพสะท้อนของพระธาตุในพระอุโบสถ ถ่ายโดยแมงปอแก้ว


    a.jpg

    a.jpg

    a.jpg



    มีสิ่งก่อสร้าง และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ บริเวณพุทธาวาสประกอบด้วย องค์พระธาตุลำปางหลวง เป็นประธาน มีบันไดนาคนำขึ้นไปสู่ซุ้มประตูโขง ถัดซุ้มประตูโขงขึ้นไปเป็น วิหารหลวง บริเวณทิศเหนือขององค์พระธาตุมีวิหารบริวารตั้งอยู่คือ วิหารน้ำแต้ม และวิหารต้นแก้ว ด้านตะวันตกขององค์พระธาตุประกอบด้วย วิหารละโว้ และหอพระพุทธบาท ด้านใต้มีวิหารพระพุทธ และอุโบสถ ทั้งหมดนี้จะแวดล้อมด้วยแนวกำแพงแก้วทั้งสี่ด้าน นอกกำแพงแก้วด้านใต้มีประตูที่จะนำไปสู่เขตสังฆาวาส ซึ่งประกอบด้วยอาคาร หอพระไตรปิฎก กุฏิประดิษฐานพระแก้วดอนเต้า อาคารพิพิธภัณฑ์และกุฏิสงฆ์


    a.jpg

    a.jpg


    ออกจากวัดพระธาตุลำปางหลวง ก็ประมาณเกือบบ่ายโมง ทางคณะกะว่าจะแวะวัดท่าซุงเป็นที่สุดท้าย แต่ระยะทางกับเวลาเมื่อดูๆ แล้วคงไม่ได้แน่ ก็เลยตกลงว่า กลับกรุงเทพมหานครเลยก็แล้วกัน รถมาถึงกรุงเทพเวลาประมาณ ๔ ทุ่มกว่า ก็ส่งคนรายทาง สร้อยฟ้ามาลาเป็นรายสุดท้าย เลยมีโอกาสได้คุยกับโชเฟอร์ เขาบอกว่าเหนื่อยมากๆ ขนาดเราเป็นคนนั่งยังเหนื่อย ยังได้มีโอกาสหลับบ้าง แต่คนขับหลับไม่ได้ โชเฟอร์มาส่งที่สายใต้ใหม่ล่าสุด สร้อยฟ้ามาลาลงรถได้ ก็โบกแท็กซี่ถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน กว่าจะทำอะไรเสร็จ กว่าจะนอนก็ตีหนึ่งเกือบตีสอง แถมนอนไม่หลับเพราะเลยเวลาแล้ว.......



    สรุปว่า ทริปนี้ อิ่มบุญกันเต็มที่ สนุกและประทับใจ ขอขอบคุณพี่เตอร์กับพ่อเทพออรฤทธิ์ที่ร่วมกันริเริ่มทริปนี้ขึ้นมา ขอขอบคุณโชเฟอร์ที่พาคณะของเราเดินทางสู่จุดหมายและเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ งานนี้สงสารโชเฟอร์มากๆ เพราะกว่าจะได้เข้านอนก็ต้องเคลียรถให้สะอาดในขณะที่พวกเราหลับกันหมดแล้ว และต้องตื่นก่อนเพื่อนเพื่อเตรียมรถให้พร้อม แต่สำหรับสร้อยฟ้ามาลาบอกได้เลยว่าไม่ขอทำให้รถต้องรกเพราะขยะที่ทำไว้ แต่คนอื่นไม่รู้นะว่าทำเหมือนกันหรือเปล่า ก็คงเห็นๆ กันอยู่ไม่ขออธิบายแต่ให้นึกเอาเองเป็นการเหน็บกันเล็กๆ เพราะสงสารโชเฟอร์จริงๆ





    สุดท้ายนี้ อันกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำในครั้งนี้ขออุทิศถวายแด่ คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดาคุณมารดา วงศาคณาญาติ คุณครูบาอาจารย์ เจ้าฟ้า พระมหากษัตริย์ เทพยดาทั้งหลาย พระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาฬ ท่านท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ท่านท้าวเวสสุวรรณ คุณเจ้ากรุงพาลี ภูมิเจ้าที่ทั้งหลาย คุณแม่พระธรณี พระคงคา พระพาย พระเพลิง พระโพสพ พระยายมราช เจ้ากรรมนายเวร และขอให้ผลบุญจงได้สำเร็จผลแด่เพื่อนๆ สมาชิกในเว็ปพลังจิต ทุกท่าน


    ...........................


    ข้อมูลจาก วิกีพีเดีย
    ภาพ สร้อยฟ้ามาลา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 222.jpg
      222.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.3 KB
      เปิดดู:
      885
    • 223.jpg
      223.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.5 KB
      เปิดดู:
      879
    • 224.jpg
      224.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.6 KB
      เปิดดู:
      878
    • 225.jpg
      225.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.8 KB
      เปิดดู:
      891
    • 226.jpg
      226.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.9 KB
      เปิดดู:
      896
    • 227.jpg
      227.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.6 KB
      เปิดดู:
      867
    • 228.jpg
      228.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.7 KB
      เปิดดู:
      871
    • 229.jpg
      229.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.8 KB
      เปิดดู:
      878
    • 230.jpg
      230.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51 KB
      เปิดดู:
      875
    • 231.jpg
      231.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.7 KB
      เปิดดู:
      883
    • 232.jpg
      232.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.2 KB
      เปิดดู:
      870
    • 233.jpg
      233.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.7 KB
      เปิดดู:
      868
    • 234.jpg
      234.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.4 KB
      เปิดดู:
      865
    • 235.jpg
      235.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20.3 KB
      เปิดดู:
      860
    • 236.jpg
      236.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.2 KB
      เปิดดู:
      861
    • 237.jpg
      237.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.8 KB
      เปิดดู:
      851
    • 238.jpg
      238.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.3 KB
      เปิดดู:
      858
    • 239.jpg
      239.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.4 KB
      เปิดดู:
      859
    • 240.jpg
      240.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.9 KB
      เปิดดู:
      854
    • 241.jpg
      241.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.1 KB
      เปิดดู:
      859
    • 242.jpg
      242.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.8 KB
      เปิดดู:
      850
    • 243.jpg
      243.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.6 KB
      เปิดดู:
      852
    • 244.jpg
      244.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.9 KB
      เปิดดู:
      874
    • 245.jpg
      245.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.4 KB
      เปิดดู:
      851
    • 246.jpg
      246.jpg
      ขนาดไฟล์:
      19.3 KB
      เปิดดู:
      846
    • 247.jpg
      247.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.1 KB
      เปิดดู:
      851
    • 248.jpg
      248.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.3 KB
      เปิดดู:
      849
    • 249.jpg
      249.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.6 KB
      เปิดดู:
      869
    • 250.jpg
      250.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.3 KB
      เปิดดู:
      850
    • 251.jpg
      251.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.4 KB
      เปิดดู:
      837
    • 252.jpg
      252.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.8 KB
      เปิดดู:
      843
    • 253.jpg
      253.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.5 KB
      เปิดดู:
      848
    • 254.jpg
      254.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.7 KB
      เปิดดู:
      832
    • 255.jpg
      255.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.5 KB
      เปิดดู:
      835
    • 256.jpg
      256.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.5 KB
      เปิดดู:
      837
    • 257.jpg
      257.jpg
      ขนาดไฟล์:
      19.5 KB
      เปิดดู:
      991
    • 258.jpg
      258.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.9 KB
      เปิดดู:
      833
    • 259.jpg
      259.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.9 KB
      เปิดดู:
      843
    • 260.jpg
      260.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.7 KB
      เปิดดู:
      858
    • 261.jpg
      261.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.6 KB
      เปิดดู:
      859
    • 262.jpg
      262.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.3 KB
      เปิดดู:
      835
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2021
  13. pucca2101

    pucca2101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    5,805
    ค่าพลัง:
    +20,896
    ขอบคุณพี่สร้อยจ้ะ ที่พาไปทัวร์บุญ และมีภาพสวย ๆ กลับมาให้ดูเพียบเลย
     
  14. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

    </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>เฮียปอ ตำมะลัง*, ประทีปแก้ว+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ถ่ายรูปคู่กันหน่อยครับ ^^ กำลังถ่ายรูป.gif


    ขอบคุณครับ คุณสร้อย ฯ ภาพสวย ๆ คำบรรยายดีดี ....เพลินดีครับ
     
  15. โป๊ยเซียนสาว

    โป๊ยเซียนสาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,543
    ค่าพลัง:
    +2,279
    อนุโมทนา สาธุกับทริปกองบุญนี้ทุกๆ ท่านนะคะ ภาพสวยฝีมือเยี่ยมเหมือนเดิมเลยจ๊ะคุณสร้อย











    .
     
  16. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    สถาณที่สวยงามมากๆทุกทีเลยจ๊ะแม่สร้อย เสียดายมากเลยเจ้าค่ะ ที่ไม่ได้ไป ไม่น่ามาติดผ่าไส้ติ่งเลย ทริปนี้อยากไปมากๆ เห้อ บุญมีแต่กรรมบัง อนิจจา ชีวิตของภัทรอังคาร ไม่มีไรเศร้าได้กว่านี้อีกแล้ว
     
  17. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ คุณสร้อยฯ..

    เห็นทีคราวหน้าต้องไปเป็นแบบให้ถ่ายรูปมั่ง อยากมีรูปสวย ๆ กะเค้าน่ะค่ะ ใคร ๆ ถ่ายให้ก็ไม่สวย ไม่รู้ว่าถ้าเปลี่ยนตากล้องแล้วจะสวยหรือเปล่า??...หรือต้องเปลี่ยนนางแบบกันล่ะเนี่ยะ..^__________________^ ..
     
  18. cinderella2517

    cinderella2517 Mindset Coach และ นักพยากรณ์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +1,404
    โอกาศหน้า ไปทัวร์บุญกันใหม่เด้อค่ะ คุณสร้อยฟ้ามาลา
     
  19. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    ขอบคุณค่ะ...คุณสร้อยฟ้าที่มีภาพสวยๆประกอบบทความน่าติดตาม(อ่าน)เสมอ
     
  20. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    เอ แล้วใครหนอเป็นตากล้องใครคุณเจง....
     

แชร์หน้านี้

Loading...