"ทองหยิน เจ๊กบ้า" หมอดูทำนาย พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ว่าจะได้ครองราชย์

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย vibe, 23 กันยายน 2009.

  1. vibe

    vibe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    731
    ค่าพลัง:
    +3,146
    "ทองหยิน เจ๊กบ้า" หมอดูทำนาย พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ว่าจะได้ครองราชย์
    Posted by สายลมที่ผ่านมา , ผู้อ่าน : 6 , 01:33:43 น.
    หมวด : ศิลปะ/วัฒนธรรม
    [​IMG] พิมพ์หน้านี้

    [​IMG]

    จำ ไม่ได้แล้วว่าได้ Copy เรื่องนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ถ้าจำไม่ผิดคง Copy เอาไว้ตั้งแต่สมัยที่หัดเล่น Internet ใหม่ ๆ ก็โน้นนนนนน สมัยที่เรายังคงใช้เวิล์ดราชวิถี เวิล์ดจุฬากันอยู่หละมั้ง พอใช้เป็นแล้วก็เห่อ ตื่นเต้นเห็นอะไรน่าสนใจก็ Copy เก็บเอาไว้เพื่ออ่าน แน่นอนที่สุดสมัยนั้น ยังไม่มีการประกาศใช้ กม.ลิขสิทธิ์
    จำ ไม่ได้ว่า Copy มาจากที่ไหน น่าจะเป็นสำนักพิมพ์มติชน หรือศิลปวัฒนธรรมอะไรซักอย่างหนึ่ง เพราะก่อนที่จะนำมาลงนี่ก็ได้ทำการเช็คใน Google ก็ไม่พบที่มาแต่อย่างใด
    อย่าง ไรก็ดี ขอขอบพระคุณไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย ที่นำมาเผยแพร่ด้วยเห็นว่าเป็นเรืองเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า เจ้าอยู่หัว เป็นเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยที่เล่าไว้ในวันก่อน จึงอยากนำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ


    [​IMG]


    "ทองหยิน เจ๊กบ้า" หมอดูทำนาย
    พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ว่าจะได้ครองราชย์
    เรื่อง "พระปกเกล้าฯ" นี้เป็นเรื่องหนึ่งที่รวมอยู่ในหนังสือเรื่องบุกบรมพิมาน โดย "แหลมสน" จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์สหกิจ, ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์-หากสันนิษฐานได้ว่าราวๆ ปี ๒๔๙๒-๒๔๙๓
    "แหลมสน" จะเป็นนามปากกาของผู้ใดนั้น ไม่อาจระบุได้ (อย่างไรก็ตาม คำว่า "ข้าพเจ้า" ในบางเรื่องนั้น คือหลวงศุภชลาสัย)
    สุภาพ บุรุษในวัยหนุ่มผู้หนึ่ง ร่างเล็กแบบบาง หนวดแหย็มประทับเหนือริมฝีปากประปราย หลังจากเบรครถฟอร์ดรุ่นปี ๑๙๑๐ เมื่อเกือบ ๔๐ ปีมาแล้ว เทียบสนิทตรงสี่แยกวัดตึก ก็เร่งดำเนิรดุ่มเข้าไปในสำนักโหรมีชื่อของประเทศไทย ในสมัยนั้นอันมีนามที่เป็นที่รู้กันทั่วไปว่า "จีนทองหยิน"
    จีน ทองหยินผู้นี้ใช่แต่ว่าจะเป็นที่ขึ้นในการตรวจทำนายปูมชาตาของผู้มี บรรดาศักดิ์อัครฐานชนชั้นกลางในครั้งกระนั้นแล้ว แม้แต่จ้าวนายเชื้อพระวงศ์จากเวียงวังต่างก็พากันยกย่องนิยมนับถือโหรจีนผู้ นี้อยู่ และดังนั้นจึงไม่เป็นการแปลกปลาดอะไรที่โหรทองหยินจะได้ต้อนรับอาคันทุกะ สุภาพบุรุษผู้ซึ่งโหรทองหยินไม่เคยประสพพบพานหน้าค่าตามาแต่ก่อน แต่ก็เขม้นหมายว่าต้องอยู่ในตระกูลสูงอย่างแน่ชัด


    [​IMG]

    สุภาพ บุรุษซึ่งเป็นอาคันทุกะของโหรจีนผู้ลือชื่อก็เร่งให้ทำนายทายทักตามแบบวิธี การของโหรจีนผู้นี้ ซึ่งแทนที่จะลงเลขคูณหารตรวจปูมชาตาบนกระดานของโหรเหมือนโหรทั้งหลาย แต่กลับเพียงแต่สอบถามวันเดือนปีเกิดซึ่งอาคันทุกะสุภาพบุรุษผู้นั้นตอบ เรียบๆ ว่า
    "วันพุธ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะเส็ง"
    โหรทองหยินเพ่งอยู่ฉะเพาะดวงหน้าเขาอยู่ขณะหนึ่ง พลางบอกให้ลุกขึ้นเดินกลับไปกลับมา
    โหรเอกมองดูท่าทางกิริยาวิธีการเดินของเขาอย่างสนใจ และในทันทีที่สุภาพบุรุษเจ้าของดวงชาตาทรุดตัวลงตามเดิม ฉับพลันนั้นโหรเอกก็เบิกตาโพลง ตลึงและงงงวย เขาลอดสายตาเพ่งออกมานอกแว่น จรดจ้องอยู่กับดวงหน้าของอาคันทุกะแปลกหน้า ผู้ซึ่งไม่เคยเห็นมาเลยนับแต่มาเหยียบเมืองไทย เหมือนกับจะไม่เชื่อตัวเองว่า สุภาพบุรุษที่นั่งอยู่ฉะเพาะหน้าตนนั้น จะมีดวงชาตากำเหนิดสูงละลิ่วอย่างเทพเจ้าที่จุติลงมาเพื่อปกครองแผ่นดินไทย เพื่อเป็นจ้าวชีวิตของคนไทยทั้งชาตินี้ พลางระล่ำระลัก
    "วาสนาลื้อสูงมาก ลื้อจะได้เป็นกษัตริย์--"
    น้ำเสียงเขาขาดเป็นห้วงๆ และเน้นคำว่ากษัตริย์ พร้อมกับสำทับซ้ำ
    "ลื้อจะได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินปกครองเมืองนี้"
    ทันทีก็ทรุดตัวลงเบื้องล่าง ยกมือขึ้นประณมสาธุการสุภาพบุรุษผู้นั้นด้วยศรัทธาแก่กล้าในบารมี


    [​IMG]

    ชาย สุภาพบุรุษอาคันทุกะเพ่งดูใบหน้าสวนสายตาของทองหยินออกไป พลางหัวเราะอยู่ในลำคอ เป็นการหัวเราะที่แสดงความขบขันคล้ายๆ กับจะตั้งคำถามตัวเองว่า
    "นี่น่ะหรือ ทองหยิน โหรเอกที่คนเลื่องลือกันทั้งเมือง นี่น่ะหรือที่ใครๆ โจษจรรย์กันว่าทำนายทายทักปูมชาตาแม่นยำนัก"
    แล้ว ก็หัวเราะ--หัวเราะให้กับอาการอันงกงันสั่นเทาของทองหยินอีกครั้ง แล้วชำระค่าตอบแทนเมื่ออำลาจากทองหยิน กลับออกไปสตาร์ทฟอร์ดสมัยโบราณคร่ำครึแต่ทันสมัยที่สุดในสมัยนั้น พรืดออกไป
    สุภาพ บุรุษในฟอร์ดคันนั้นไม่ได้เหลียวกลับมาที่สำนักโหรเอกทองหยินอีกจึงไม่มีโอ กาศทราบว่าทองหยินได้พาร่างอันสั่นเทาของเขาออกมาคะเย้อคะแยงแง้มประตูห้อง แถวเก่าๆ ตรงสี่แยกมองตามฟอร์ดนั้นจนกระทั่งลับสายตาไปในท่ามกลางความมืดมนธ์ร้อยแปด วุ่นวายสับสนอลหม่านของทองหยินว่า อาคันทุกะผู้มาเยี่ยมเยียนนี้ และมีดวงดาวชาตากำเหนิดรุ่งโรจน์ยิ่งกว่าคนที่เคยดูมาตลอดชีวิตของความเป็น โหรนี้คือใคร?
    ระยะเวลาที่ว่างจากเหตุการณ์ที่ สี่แยกวัดตึกเมื่อครู่นี้ห่างกันไม่กี่นาฑีนักรถฟอร์ดคันนั้นก็เลี้ยวเข้าไป จอดที่ชายสนามเทนนิส ณ วังบ้านดอกไม้ของเสด็จในกรมพระกำแพง ซึ่งกำลังสวิงกันด้วยลุกสักหลาดอย่างโชกโชน เหน็จเหนื่อย แต่ทว่าเต็มไปด้วยรสชาติของความสนุกสนานปนเปไปในระหว่างเชื้อพระวงศ์ในครอบ ครัว และขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในกรมรถไฟที่เสด็จในกรมทรงเป็นผู้บัญชาการ


    [​IMG]

    เสียงแจ๋วๆ ของสุภาพสตรีสาวร่างท้วม แจ่มใสและร่าเริงดังขึ้นทางฟากสนามโน้นพร้อมกับผลุดลุกขึ้น
    "ทูลหม่อมเล็ก เสด็จแล้ว!"
    ใน ขณะที่สุภาพบุรุษเจ้าของรถฟอร์ดก้าวดำเนิรลงมายังชุมนุมของแฟมมิลี่แห่ง ตระกูลฉัตรชัย องอาจสง่าผ่าเผย แม้จะมีสิริร่างที่อ่อนแอและแบบบางแต่ด้วยท่าทางของนายร้อยโทแห่งกรมทหารปืน ใหญ่รักษาพระองค์ ของพระเจ้ากรุงอังกฤษออลเดอชอดในอดีต แต่ปัจจุบันที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นคือ


    [​IMG]

    นาย พันโท กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา ผู้บังคับการโรงเรียนนายร้อยทหารบกชั้นประถม พระอนุชาธิราชแห่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และสุภาพสตรีร่างท้วมสุรเสียงใสนั้นคือ หม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี พระธิดาในกรมพระสวัสดิ์วัฒนวิสิษฎซึ่งโดยฐานันดรแห่งราชตระกูลก็คือระหว่าง "จ้าวพี่ จ้าวน้อง" และเป็นที่รู้กันว่าได้ทรงมีสายสัมพันธ์เสน่หากันอย่างรัดรึง


    [​IMG]

    คำ ทำนายของโหรทองหยินยังก้องอยู่ในพระกรรณของนายพันโทจ้าวชายหนุ่ม เมื่อได้ทรงเล่าคำทำนายนั้น ในที่ประชุมแฟมมิลี่ของฉัตรชัย ก็ได้มีเสียงสำรวลด้วยความขบขัน เพราะในขณะนั้นย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะโดยลำดับการสืบสันติวงค์สืบจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะต้องผ่านทูลกระหม่อมจักรพงค์ และทูลกระหม่อมอัษฎางค์อีกถึงสองพระองค์ใน แฟมมิลี่ของฉัตรชัย และนายพันโทจ้าวชายหนุ่มจึงทรงถือเป็นเรื่องไร้สาระทั้งเพ จ้าวชายมีพระดำรัสสั้น เมื่อเสียงสำรวลในกลุ่มนั้นเงียบลงว่า
    "ทองหยิน เจ๊กบ้า"

    ที่มา http://www.oknation.net/blog/swongviggit/2009/09/23/entry-1
     
  2. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานอำนาจประชาธิปไตยให้กับปวงชนชาวไทย

    แต่ยังไม่เห็นมีประชาชนคนใดของพระองค์เห็นคุณค่าของประชาธิปไตยที่ได้รับพระราชทานมามากกว่าความเห็นแก่ตัวเองและพวกพ้องเลย...พระคุณของแผ่นดิน ความกตัญญู จางหายไปแล้วหรือ....
     

แชร์หน้านี้

Loading...