ทัวร์ยุโรป ณ ประเทศที่ซ่อนอยู่ "เอสโตเนีย"

เอสโตเนีย ประเทศเล็กๆในยุโรปเหนือ เยอะแยะด้วยความสวยของสถาปัตยกรรม วัฒนธรรมจารีต รวมทั้งสถานที่เที่ยวที่งดงาม ทดลองไปทำความรู้จักแล้วจะตกหลุมรักหมดใจ

ถ้าเกิดทดลองกางแผนที่ออกมอง คุณน่าจะมีความเห็นว่ายังมีดินดินแดนรวมทั้งอีกหลายประเทศในโลกนี้ที่คุณไม่ทราบ หรือเปล่าเคยรับรู้ชื่อมาก่อน "เอสโตเนีย" หรือ "สาธารณรัฐเอสโตเนีย" ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ชาวไทยไม่ค่อยชินหูนัก แต่ว่าเป็นประเทศที่น่าไปทำความรู้จักมากมายๆเนื่องจากประเทศนี้มีสถาปัตยกรรม วัฒนธรรมขนบธรรมเนียม และก็สถานที่เที่ยวที่งามไม่แพ้ที่แห่งไหนในโลก

เอสโตเนีย ตั้งอยู่ในเขตยุโรปเหนือ ใกล้กับอ่าวประเทศฟินแลนด์รวมทั้งสมุทรบอลตำหนิก มีพื้นที่ทั้งปวงราวๆ 45,227 ตารางกิโลเมตร เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีภูมิทัศน์ที่สวยสดงดงาม มีเมืองเก่าให้เดินเล่นดูกับอากาศที่เย็นสบาย คุณสมาชิกลำดับที่ 1622446 สมาชิกเว็บพันทิปดอทคอม ได้ใช้จังหวะสำหรับในการเดินทางไปเป็นผู้เรียนแลก เดินทางท่องเที่ยวเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ประเทศเอสโตเนียมาฝากเราซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศนี้มีดีไม่ใช่น้อยอย่างยิ่งจริงๆ เอสโตเนียจะสวยแล้วก็น่าค้นหาเท่าไร ไปติดตามกันเลย

บางทีก็อาจจะไม่ได้รับความนิยมแล้วก็ชินหูชาวไทยราว ประเทศใหญ่ๆในยุโรปอย่างอังกฤษ ประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี หรืออิตาลี แต่ว่าก็เป็นประเทศหนึ่งที่มีความสวยสดงดงาม มีเสน่ห์ รวมทั้งมีเอกลักษณ์เป็นของตนเองไม่แพ้ประเทศอื่นๆในยุโรปเลยเหตุผลที่เลือกไปน่ะหรอ? ก็เพราะว่ามันเป็นประเทศที่งาม สงบ รวมทั้งน้อยผู้ที่จะได้โอกาสได้ไปสัมผัสการดำรงชีวิตตรงนั้น เลยรู้สึกว่ามันน่าดึงดูดดีไปดำเนินชีวิตอยู่ตรงนั้นมาตรงเวลา 10 เดือน เพิ่งจะกลับมาได้ไม่นาน ได้อะไรกลับมาจำนวนมากเลย

เมืองหลวงของประเทศเอสโตเนียเป็น "ทาลลินน์" เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับแรกๆของประเทศนี้ ส่วนภาษาราชการของเอสโตเนียก็คือภาษาเอสโตเนียน เป็นภาษาที่ยากพอเหมาะพอควรเอสโตเนียเป็นประเทศเล็กๆในประเทศกรุ๊ปบอลติเตียนก ทิศเหนือใกล้กับอ่าวประเทศฟินแลนด์ ทิศตะวันตกชิดกับสมุทรบอลติเตียนก ทิศใต้ชิดกับประเทศลัตเวีย แล้วก็ทิศตะวันออกชิดกับประเทศรัสเซียเผื่อคนไหนคิดภาพไม่ออกมามองแผนที่กันเลยดีกว่า

ประเทศเอสโตเนียมีประชาชนแค่เพียง 1.3 ล้านคนเองอาหารประจำชาติของเขาก็คือมันฝรั่ง (อร่อยมากขอบอก อิอิ) ผู้ที่นี่ถูกใจซาวน่ากันมากมายนับว่าเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมเชียวล่ะ เพราะประเทศเขามีอากาศที่หนาวมากมายนั่นเองผู้คนตรงนี้โดยมากจะเป็นคนออกจะขวยเขิน เฉยๆบางทีอาจจะไม่ค่อยยิ้มแย้มสักเยอะแค่ไหน เป็นด้วยเหตุว่าลักษณะอากาศ

แล้วก็เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ยังฝังใจผู้คนอยู่ เลยบางทีอาจไม่ค่อยเชื่อใจคนใดกันสักมากแค่ไหน แม้กระนั้นหากพวกเราได้ทดลองสนิทกับคนเอสโตเนียนแล้วเขาจะเป็นเพื่อนสนิทพวกเราไปนิรันดรเลย มองเห็นเฉยๆแบบงี้เวลามีคนต่างประเทศไปถามทางเขาก็เฟรนด์ลี่นะผู้ที่โน่นส่วนมากพูดอังกฤษได้ได้ยิ่งวัยรุ่นนี่ยิ่งบอกปร๋อเลยแต่ว่าหากเป็นผู้ที่แก่แล้วบางทีอาจจะไม่สามารถพูดได้ไหมคล่องแคล่วสักมากแค่ไหน

ขณะที่หนูเดินทางไปหนูนั่งเรือบินสายการบิน Finnair จากสุวรรณภูมิ ไปยังเมืองเฮลสิงกิ ประเทศฟินแลนด์ แล้วต่อเรือบินลำเล็กของสายการบิน Estonian Air ไปยังเอสโตเนียใช้เวลาเพียงแต่ 30 นาที จากเฮลสิงกิไปยังทาลลินน์ เวลาสำหรับการเดินทางทั้งผองรวมแล้วราวๆ 12 ชั่วโมงได้

เอาละ...เกริ่นมามากพอแล้ว หนูจะพาไปดูรูปสถานที่เที่ยว เมืองงามๆกันเลยนะจำเป็นต้องขออภัยด้วยจริงๆนะถ้าบกพร่องอย่างใด เพิ่งจะได้โอกาสมาตั้งหัวข้อรีวิวทีแรกจริงๆ

เริ่มกันด้วย Tallinn Old Town หรือเขตเมืองเก่าที่มีชื่อเสียงว่าเป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี 2540 รอบๆนี้เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสในกลางเมืองเก่า หรือที่เรียกว่า Raekoja Plats ในตอนซัมเมอร์หรือหน้าร้อนรอบๆนี้จะมีความครื้นเครงและก็มองสดชื่นมากมาย เต็มไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของ รวมถึงนักเดินทางมากมาย แต่ว่าบังเอิญรูปที่ถ่ายไว้ดันไม่ได้มีการถ่ายในฤดูร้อน หากจำไม่ผิดรู้สึกจะถ่ายเอาไว้ในตอนฤดูใบไม้ร่วงหรือ Autumn เลยบางทีอาจจะมองค่อนข้างจะเหงาหงอยไปหน่อยนึง ^___^

สถานที่ถัดไปเป็น Lauluv ljak เมื่อมีเทศกาล Laulupidu หรือ Estonian Song Festival ผู้คนจะเต็มลานเลยเต็มแบบประเภทที่ว่าไม่มีอากาศให้หายใจกันอย่างยิ่งจริงๆ เทศกาลนี้จะจัดขึ้นทุกๆ5 ปี ในตอนกรกฎาคม ผู้คนจะด้วยกันร้องประสานเสียงโดยมีหัวหน้าอยู่ข้างหน้า ร้องอย่างพร้อมเพรียงกันแล้วก็เสียงก้องกังวานกระทั่งน่ากลัวมากมายเพลงที่ร้องก็จะมีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับความรักประเทศหรือเสรีภาพอะไรทำนองนั้นถ้าหากพึงพอใจทดลองหาวิดีโอในยูทูบมองได้นะ

การเดินทางไม่ยากสามารถนั่งรสบัสไปได้ เสนอแนะให้ใช้กูเกิล แมพ สบายจริงอะไรจริง ตอนอยู่นู้นเวลาต้องการท่องเที่ยวไหนเองใช้ตลอดไม่มีพลาด

ถัดไป เป็น พระราชวัง Kadriorg Palace ตั้งอยู่ใน Kadriorg Park เป็นสวนสาธารณะที่มีความสวยสดงดงามมากมายข้างในรอบๆสวนสาธารณะนอกเหนือจากที่จะมีพระราชวังแล้วยังมีพิพิธภัณฑสถานอีกด้วยธรรมดาแล้วในตอนซัมเมอร์หรือหน้าร้อนรอบๆหน้าพระราชวังจะมีดอกไม้หลายสีงาม สวยมากมายแม้กระนั้นบังเอิญรูปที่ถ่ายมานั้นถ่ายมาในฤดูใบไม้ผลิเลยไม่ค่อยงามเยอะแค่ไหน แม้กระนั้นก็พอเพียงไหวอยู่นะ ส่วนการเดินทางก็ง่ายๆ มีรถรางหรือ Tram สาย 1 รวมทั้ง 3 วิ่งผ่าน

น้ำตก Jgala Juga หรือ J gala Waterfall หากกล่าวกันตามจริงบางครั้งอาจจะมิได้สวยสดงดงามหรูหราราวกับน้ำตกบ้านพวกเรา แต่ว่าอย่างต่ำน้ำตกบ้านพวกเราก็เป็นน้ำแข็งอย่างงี้มิได้นะ ในขณะที่ไปเป็นตอนหน้าหนาวน้ำตกเลยมีภาวะอย่างที่มองเห็น ในตอนที่ไปหนแรกรู้สึกอะเมซิ่งมากมายๆด้วยเหตุว่าไม่เคยมองเห็นน้ำตกอะไรที่มีหน้าตาเสมือนค้างปูชิโน่ขนาดนี้ ฮ่าๆๆๆในรูปบางทีอาจมองเห็นไม่ชัดเจน แต่ว่าน้ำที่ตกลงมาด้านด้านล่างจะมีลักษณะเป็นฟองสีน้ำตาลราวกับกาแฟจริงๆ

"เมืองแห่งมหาวิทยาลัย" หรือ "ตาร์ตู" (Tartu) เมืองที่อยู่ทางตอนใต้และก็ใหญ่เป็นชั้น 2 ของเอสโตเนีย อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่า Tartu เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นชั้น 2 และก็อยู่ด้านใต้ของเอสโตเนีย เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงว่า "เมืองที่มหาวิทยาลัย" เนื่องจากว่ามีมหาวิทยาลัยโด่งดังและก็มีความเก่าแก่ของประเทศตั้งอยู่ ซึ่งก็คือ Tartu Ulikool หรือ University of Tartu การเดินทางจากทาลลินน์ไปยังตาร์ตูนั้นสบายมากมายเพียงนั่งรถเมล์จากสถานี Tallinna Bussijaam หรือรถไฟจากสถานี Baltijaam เพียงแค่ราวสองชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้วแล้วก็นี่เป็นภาพของ Tartu Ulikool หรือ University of Tartu

ยิ่งกว่านั้นเมืองตาร์ตูยังมีพิพิธภัณฑสถานวิทยาศาสตร์ด้วยนะชื่อพิพิธภัณฑสถาน Ahhaa Keskus จัดเป็นสถานที่เสนอแนะอันดับแรกเลยสำหรับเมืองนี้ สิ่งหนึ่งที่น่าหวาดกลัวและก็ควรจะทดลองทำก็คือ "การขี่จักรยาน" แน่ๆว่าไม่ใช่การขี่จักรยานปกติ แต่ว่าเป็นการขี่จักรยานบนเส้นเชือกหนูว่าจะทดลองหลายรอบสุดแท้แต่ยังมิได้ทดลอง กลัว...จิตใจไม่ถึง ขืนทดลองได้หัวใจวายตายระหว่างทางแน่นอน

ที่มา : ทัวร์ยุโรป