ทั่วโลกเผชิญวิกฤตแล้ง ยูเอ็นแนะจัดการน้ำ-ทำเกษตรเหมาะสม

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ เตือนภัย, 30 กรกฎาคม 2019.

  1. โพธิสัตว์ เตือนภัย

    โพธิสัตว์ เตือนภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,565
    กระทู้เรื่องเด่น:
    441
    ค่าพลัง:
    +655
    สภาพอากาศโลกเปลี่ยนแปลงส่งผลให้หลายประเทศประสบภาวะแห้งแล้ง ขณะที่ยูเอ็นเตือนทั่วโลกรับมือภัยแล้ง พร้อมแนะให้วางแผนทำเกษตรและบริหารจัดการน้ำ

    วันนี้ (30 ก.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก ยอมนำเข้าข้าวสาลีเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี เนื่องจากคาดการณ์ว่าผลผลิตในปี 2562-2563 อาจจะมีเพียง 17.2 ล้านตัน น้อยกว่าปีก่อนหน้าเกือบครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะไม่เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ การนำเข้าข้าวสาลีในครั้งนี้มาจากประเทศแคนาดา ท่ามกลางความกังวลว่าการนำเข้าข้าวสาลีจากต่างประเทศอาจจะทำให้เชื้อโรคหรือศัตรูพืชปนเปื้อนมาด้วย

    ขณะที่ประเทศอินโดนีเซีย สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติได้ประกาศ 55 อำเภอและเมืองในอินโดนีเซียอยู่ในภาวะภัยพิบัติฝนแล้ง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่กระทรวงเกษตรระบุว่า นาข้าวมากกว่า 625,000 ไร่ได้รับความเสียหายจากภัยแล้ง

    ในประเทศอินเดีย ตลอดทั้งปีนี้ต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติรุนแรง ทั้งภัยแล้งและน้ำท่วมครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์ ภาคเหนือและกลางเผชิญคลื่นความร้อน เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่นครมุมไบเผชิญน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 10 ปี เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เชนไนประสบภาวะแห้งแล้งที่สุดในรอบ 70 ปี รัฐโอริสสาเผชิญพายุไซโคลนรุนแรงสุดในรอบ 10 ปี รัฐพิหารและอัสสัมเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คน

    0b881e0b980e0b89ce0b88ae0b8b4e0b88de0b8a7e0b8b4e0b881e0b8a4e0b895e0b981e0b8a5e0b989e0b887-e0b8a2.jpg

    เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียแปซิฟิก หรือ ยูเอ็นเอสแคปและอาเซียน ออกแถลงการณ์ร่วมแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ภัยแล้ง ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นอีกหลายปี และจะทวีความรุนแรงและขยายวงกว้างมากขึ้น โดยคนจนจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ดังนั้นรัฐบาลของแต่ละประเทศควรวางแผนรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้งอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดความเสียหาย

    ทั้งนี้ ยูเอ็นได้แนะนำให้รัฐบาลควรวางแผนการทำการเกษตรให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ บริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเลือกปลูกพืชที่เหมาะสม เช่น ปลูกข้าวสายพันธุ์ที่ทนทานต่อความแห้งแล้ง เป็นต้น ซึ่งในปี 2562-2563 ผลผลิตหลายอย่างจะมีน้อยกว่าปกติ ได้แก่ ข้าวและอ้อย เพราะประเทศผู้ผลิตอ้อยรายใหญ่อย่างอินเดียและบราซิล คาดว่าปีนี้ผลผลิตจะตกต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี

    ขอบคุณที่มา
    https://news.thaipbs.or.th/content/282196
     

แชร์หน้านี้

Loading...