ทั้งชีวิตขอเรื่องเดียว

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย เสขะปฎิสัมภิทา, 19 เมษายน 2015.

  1. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    เรื่องมรรผลเป็นเรื่องรอง เป็นเรื่องอื่นไปแล้วครับ ที่ใช้การันตีตนเอง แต่เรื่องนี้สำคัญมากกว่ามากที่สุดในชีวิตผม เพราะชีวิตสรรพสัตว์เป็นสิ่งมีคุณค่าครับ ถ้าเก่งแต่อยู่คนเดียว ไม่เอาหรอกครับ ได้บ้าแน่แบบนั้น
    ผมมีคำบรรยายมหานิมิตนั้นอยู่ครับ อยู่ในเหตุการณ์ยังกับว่าเผชิญจริงๆ ไม่ใช่ฝันนะครับ
    มันเศร้าสร้อยมาครับ ได้แต่นั่งนึกคิดที่ปลายฐานยอดไม้ที่สูงใหญ่ที่สุด สูงกว่าภูเขามากๆ ที่งอกขึ้น จากธารลาวาแดงฉาน มีท้องฟ้าที่มีหมอกควันสีดำแดงครุกกรุ่น หาเหตุพิจารณาว่าอะไรจึงเป็นเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ในภาพยังน้อยไปครับ สุดสายตาไม่เหลืออะไรเลย นอกจากที่ตรงนั้นผมไม่ทราบ เดือนดาวก็ไม่มี หมอกเมฆดำทะมึนแดงปิดหมดครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 เมษายน 2015
  2. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    หัวใจของผมครับ

    บาลี ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๗๐/๒๔๐. ตรัสแก่ภิกษุ
    ภิกษุ ! ในกรณีนี้ ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก ย่อมไม่คิดไป
    ในทางทำตนเองให้ลำบากเลย ไม่คิดไปในทางทำผู้อื่นให้ลำบาก ไม่คิดไป
    ในทางทำทั้งสองฝ่ายให้ลำบาก; เมื่อจะคิด ย่อมคิดอย่างเป็นประโยชน์
    เกื้อกูล แก่ตนเองเป็นประโยชน์ เกื้อกูลแก่ผู้อื่น เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ทั้งสองฝ่าย คือเป็นประโยชน์เกื้อกูล แก่โลกทั้งปวงนั่นเอง. ภิกษุ ! อย่างนี้
    แล ชื่อว่า ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก.

    - จตุกฺก. อํ .๒๑/๒๔๑/๑๘๖

    https://youtu.be/xCn-1N3dGT4
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    ธรรมทาน ชนะทานทั้งปวง (สัพพทานัง ธัมมทานัง ชินาติ)
    รสแห่งธรรม ชนะรสทั้งปวง (สัพพัง รสัง ธัมมรโส ชินาติ)
    ยินดีในธรรม ชนะความยินดีทั้งปวง (สัพพัง รติง ธัมมรตี ชินาติ)

    https://youtu.be/QxPyyCvynLA
    ขอขอบคุณที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้ ผมเป็นเพียงพยานผู้ส่งข่าวครับ ผมเชื่อว่า ในหมู่พวกท่านทั้งหลายที่รู้ในเรื่องนี้ เป็นบุคคลสำคัญ มีโอกาสจุติธรรมในตนทั้งนั้นครับ คือ พระธรรมลงมาโปรด ขอให้ได้พบครับ ทราบเรื่องราวเช่นนี้แล้ว จะต้องมีศรัทธาและได้พบเองแน่ๆ จะได้สิ้นสงสัยครับ ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมอันยิ่งขึ้นไปครับ ความรู้สึกและความรู้ของพวกท่านจะเปลี่ยนไป เมื่อได้พบกับสัจธรรมที่ข้าพเจ้านำมาแสดง อย่างไม่เคยมีมาก่อนในชีวิต เชื่อเถอะครับ รอดูภาวะจิตของตนเองให้ดีๆ และดูภาวะฐานะในธรรมด้วย หากไม่มีบุญไม่ได้อ่านแน่นอนครับ เราต้องทำบุญร่วมกันมาแน่นอนครับ

    สาธุธรรม ขออนุโมทนาบุญฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 เมษายน 2015
  4. ลุงจิ๋ว

    ลุงจิ๋ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +990
    ยังมีต่อหรือเปล่าครับ "จ่ายักษ์" จะได้ติดตาม เพราะยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่ (มาใหม่ครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2015
  5. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    อ่านที่ท่าน แบล็คแองเจิ้ลก๊อปมานะครับ รายละเอียด
    ตอนนี้ รู้ที่มาที่ไปในปริศนานี้แล้วครับ อันตรายอยู่ที่ฝั่งตรงกันข้ามที่ได้ผลึกไป แต่ได้ไปแค่ก้อนเดียว ปัญหามันอยู่ที่เทวปุตมารของตัวใครตัวหนึ่งแล้วในตอนนี้ ที่จะแก้ไขเตรียมการ สำหรับผม ถ้าย้อนกลับไปสารเลวแปรพักต์อีก ศาสนาอื่นแย่แน่ บอกตามตรงผมเหมือน What changed everything !? เป็นทุกขลาภ ถ้าจะให้ตีราคาสนนค่าตัว สงสัยพวกอาหรับเอมิเรตส์ตะวันออกกลาง จับตัวไปบำรุงบำเรอแหงๆ นั่นหมายถึงถ้าเขารู้จริงๆนะครับ เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แม้ตอนนี้เขาจะยกลูกสาวให้ก็มาก ผมต้องสู้กับความชั่ว และตัณหามากๆ นี่เรื่องจริง และถ้าผมไปบอกพวกเขา ประเทศนี้พลิกแน่ครับเรื่องศาสนา

    เหรียญมีสองด้านนะ อันตรายครับ

    เรื่องนี้ต้องแจ้งให้ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิญญานของทางศาสนาพุทธให้ทราบโดยด่วน เพื่อหารือ นี่เรื่องสำคัญ ไม่ใชเรื่องแหกตาปาหี่ และถ้าในโลกยุคปัจจุบันนี้ มีคนที่เห็นคัมภีร์อักขระพยัญชนะมาร หรือ อหังการวิเศษมารแบบเดียวกับผมด้วยล่ะก็ เตรียมตัวซวยสุดๆกันได้เลยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2015
  6. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    ใครรู้จักผู้เชี่ยวชาญทางศาสนาให้ติดต่อมาได้เลยครับ ผมพร้อมให้ข้อมูลทั้งหมดเท่าที่มี ในสมองที่ทรงจำไว้ได้ ในตอนนี้

    เรื่องของคัมภีร์ทั้งสอง มีหลักฐานพยานในที่เกิดเหตุครับ แต่ อหังการวิเศษมาร นี่หนักหน่อย เหตุที่ อาชีวะหนองแค สระบุรีครับ ถามดูได้ที่เกิดพายุ ฟ้าผ่าเด็กโครงการทำดีมีอาชีพปี๕๔ ที่นั่งต้มน้ำกระท่อม รอดเพราะผมดึงออกทันครับ แข็งเป็นเลข11 ร้อนแบบไหม้ไปเลย สุดท้ายหามเข้ามัสยิดไปอ่านยาซีนกัน ฝีมือผมเอง ถามโต๊ะอีหม่าม สวนส้มหนองแคดูนะครับ แต่อย่าเปิดเผยเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นเขาแห่กันมาซอลลุลเลาะห์ผมแน่ ปิดได้ก็ดีครับ เรื่องคัมภีร์ ผมเคยบอกแล้วนะครับ ถ้าผมเข้ามัรกัสดาวะยะลา ประเทศไทยจะเกิดพวกพลีชีพทันที ได้ตายกันเป็นเบือแน่ครับ มีผลกระทบมาก ไม่ใช่ไม่มี ดีที่เรียนพระธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่งั้นแย่แน่ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2015
  7. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,286
    ค่าพลัง:
    +1,507
    .
    เขียน ๒๓.๓๖

    นักรบบอกในที่สุมหัวลับ ว่า จะใช้แผนทูอินวัน เพื่อประหยัดพลังงาน
    ทั้งห้องมึนตึ้บ ทำหน้าไม่เข้าใจ ทำให้ข้าเข้าใจ ว่าทั้งห้องมึนตึ้บ
    นักรบเลยใช้ภาษาวัวควาย กับพวกที่ไม่รู้เรื่อง คือภาษาโคนันทิวิศาล

    ค่อยค่อยพูด ค่อยค่อยแจง
    ไม่พูดให้แรง แจกแจงให้ทั่ว
    ลูบที่หัว จึงค่อยตบหลัง


    บางส่วนจากนิทานเรื่องจริง เรื่อง "นักรบแสง แห่งหมู่บ้านในนิทาน"
    เกี่ยวกันไม๊หว่า แต่ไม่น่าพลาด นะ เนอะ


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ชาวหมู่บ้านในนิทาน

    .
     
  8. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,286
    ค่าพลัง:
    +1,507
    .
    เขียน ๒๓.๔๓

    ในนิทานเรื่องนั้น ก็มีกลอนมนตราบทนึง ที่เกี่ยวข้องกับภัยพิบัติโดยเฉพาะ
    น่าจะร่ายมนต์ครั้งแรก ในกระทู้มิติที่ห้า ของท่านประยุทธ์ ศิษย์ต่างมิติ
    ตอนรับมือกับปี 2012 น่ะนะ เห็นคนกลัวกันจัง ใครเลยร่ายมนต์ฝากมา

    แม้จะเป็นในนิทาน แต่ก็เป็นนิทานเรื่องจริงนะ เราเชื่อคนหนึ่งล่ะ หึหึหึ
    ความดังนี้ว่า (จำได้ถูกหมดป่าว ไม่รู้นะ)

    ...ลืมไปได้เลย เรื่องภัยพิบัติ ฉันฝันว่าจัด การมันจนสิ้น
    ไม่ว่าเรื่องน้ำ หรือเรื่องแผ่นดิน ชั้นจัดการสิ้น ไม่ดิ้นรุนแรง
    จะเรื่องดาวหาง หรือดาวผลุบโผล่ ดาวชวนโมโห ผลุบโผล่กวนทีน
    ชั้นเป่าโอมเพี้ยง โคจรเอียงซักมิล โลกพ้นด้วยกสิณ แล้วนอนดิ้นไปมา

    ...เรื่องแผ่นดินไหว ก็จงวางใจ เราจำฝันได้ ฝันดีติดตา
    เรามองขวาซ้าย คิดไปคิดมา กาวช้างนี่หละหวา เอามาเชื่อมแผ่นดิน
    หยอดหยอดมันเข้าไป ในร่องของแผ่นดิน เชื่อมไว้ไม่ให้ดิ้น แถวแผ่นดินอินโด
    นี่คือเรื่องจริง ที่มันได้เกิด ฉันฝันเตลิด แล้วนอนดิ้นไปมา

    ...เรื่องฝนเรื่องน้ำ ก็ไม่ต้องเป็นห่วง ชั้นฝันตอนง่วง ในห้วงนิทรา
    ว่าได้ตีซี๊ พี่น้องนาครา เรื่องน้ำเรื่องท่า เดี๋ยวนาคราโชว์พาว
    หรือเรื่องพายุ ลูกใหญ่มหึมา มังกรของข้า เลี้ยงมารับมือ
    แค่ส่งขึ้นฟ้า เมฆาครางฮือ ฉันฝันตาปรือ แล้วนอนดิ้นไปมา

    ...เห็นคนอื่นเล่า เรื่องราวที่ฝัน เราก็มีเหมือนกัน เลยแบ่งปันกันมา
    แต่ว่าในฝัน ฉันมักรู้ตัว ไม่ได้พูดมั่ว รู้ตัวไม่ได้ฝัน
    ภาพที่ฉันเห็น ชัดเจนเต็มที่ ดุจดั่งทีวี เฮชดีพลาสม่า
    นี่ว่าเรื่องฝัน ไม่ใช่เรื่องจริง เล่าเสร็จจนสิ้น เดี๋ยวจะนอนดิ้นไปมา



    ด้วยอำนาจกลอนมนตราบทนี้ เรื่องภัยพิบัติใหญ่ ก็กลายเป็นภัยเล็กเล็กลง
    ภาพที่ท่านเห็น น่าจะเป็นภาพเก่าตกค้าง
    เหมือนข้อมูลที่ค้างในกูเกิ้ล แบบที่ท่านนางฟ้าดำปี๋ (ขอกัดทีน๊า ๕๕๕)
    บังเอิญยกตัวอย่างมาให้ดู ก็เป็นได้นะ เนอะ ๕๕๕ บังเอิญจังนิ ฮิฮิฮิ


    กระต่ายป่า ข้างวัด / นักรบแสง แห่งหมู่บ้านในนิทาน

    .
     
  9. บางเบา

    บางเบา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    349
    ค่าพลัง:
    +88
    "น้ำตาเราคลอจนร่วงเลย"
    ชัดเจนในอารมณ์ออกมาเป็นตัวอักษร
     
  10. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    ผู้อยู่ป่าชนะภัย ๕ อย่าง.
    บาลี พระพุทธภาษิต ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๑๕/๗๗.
    ภิกษุ ท.! ภัยในอนาคตเหล่านี้ มีอยู่ ๕ ประการ ซึ่งภิกษุผู้อยู่ป่ามองเห็นอยู่ ควรแท้ที่จะเป็นผู้ไม่ประมาท มีเพียรเผากิเส มีตนส่งไปแล้วในการทำเช่นนั้นอยู่ตลอดไป, เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้งเสียโดยเร็ว. ภัยในอนาคต ๕ ประการนั้นคืออะไรบ้างเล่า? ห้าประการคือ:-
    (๑) ภิกษุผู้อยู่ป่าในธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็นชัดแจ้งว่า "บัดนี้ เราอยู่ผู้เดียวในป่า งูพิษ หรือแมลงป่อง หรือตะขาบ จะพึงขบกัดเราผู้อยู่ผู้เดียวในป่า, กาลกิริยาของเราจะพึงมีได้เพราะเหตุนั้น, อันตรายอันนั้นจะพึงมีแก่เรา, เราจะรีบทำความเพียร เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้งเสีย" ดังนี้. ภิกษุ ท.! นี้เป็นภัยในอนาคตข้อแรก อันภิกษุผู้อยู่ป่ามองเห็น ควรแท้ที่จะเป็นผู้ไม่ประมาท มีเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วในการทำเช่นนั้นอยู่ตลอดไป, เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้งเสียโดยเร็ว.
    (๒) อีกข้อหนึ่ง, ภิกษุผู้อยู่ป่า พิจารณาเห็นชัดแจ้งว่า "บัดนี้ เราอยู่ป่าผู้เดียวในป่า เมื่อเราอยู่ป่าผู้เดียวในป่า เราจะพึงพลาดตกหกล้มบ้าง อาหารที่เราบริโภคแล้ว จะพึงเกิดเป็นพิษบ้าง น้ำดีของเรากำเริบบ้าง เสมหะของเรากำเริบบ้าง ลมมีพิษดั่งศัสตราของเรากำเริบบ้าง, กาลกิริยาของเราจะพึงมีได้เพราะเหตุนั้น, อันตรายอันนั้นจะพึงมีแก่เรา, เราจะรีบทำความเพียร เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้งเสีย" ดังนี้. ภิกษุ ท.! นี้เป็นภัยในอนาคตข้อที่สอง อันภิกษุผู้อยู่ป่ามองเห็น ควรแท้ที่จะเป็นผู้ไม่ประมาท มีเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วในการทำเช่นนั้นอยู่ตลอดไป, เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้งเสียโดยเร็ว.
    (๓) อีกข้อหนึ่ง, ภิกษุผู้อยู่ป่า พิจารณาเห็นชัดแจ้งว่า "บัดนี้ เราอยู่ป่าผู้เดียวในป่า เมื่อเราอยู่ป่าผู้เดียวในป่า จะพึง มาร่วมทางกันด้วยสัตว์ทั้งหลาย มีสิงห์ เสือโคร่ง เสือเหลือง หมี หรือเสือดาว, สัตว์ร้ายเหล่านั้นจะพึงปลิดชีพเราเสีย, กาลกิริยาของเราจะพึงมีได้เพราะเหตุนั้น, อันตรายอันนั้นจะพึงมีแก่เรา, เราจะรีบทำความเพียร เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้งเสีย" ดังนี้. ภิกษุ ท.! นี้เป็นภัยในอนาคตข้อที่สาม อันภิกษุผู้อยู่ป่ามองเห็น ควรแท้ที่จะเป็นผู้ไม่ประมาท มีเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วในการทำเช่นนั้นอยู่ตลอดไป, เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้งเสียโดยเร็ว.
    (๔) อีกข้อหนึ่ง, ภิกษุผู้อยู่ป่า พิจารณาเห็นชัดแจ้งว่า "บัดนี้ เราอยู่ป่าผู้เดียวในป่า เมื่อเราอยู่ป่าผู้เดียวในป่า จะพึงมี มาร่วมทางด้วยกันพวกคนร้าย ซึ่งทำโจรกรรมมาแล้วหรือยังไม่ได้ทำ (แต่เตรียมการจะไปทำ) ก็ตาม, พวกคนร้ายเหล่านั้นจะพึงปลิดชีพเราเสีย, กาลกิริยาของเราจะพึงมีได้เพราะเหตุนั้น, อันตรายอันนั้นจะพึงมีแก่เรา, เราจะรีบทำความเพียร เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้งเสีย" ดังนี้. ภิกษุ ท.! นี้เป็นอนาคตภัยข้อที่สี่ อันภิกษุผู้อยู่ป่ามองเห็น ควรแท้ที่จะเป็นผู้ไม่ประมาท มีเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วในการทำเช่นนั้นอยู่ตลอดไป, เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้งเสียโดยเร็ว.
    (๕) อีกข้อหนึ่ง, ภิกษุผู้อยู่ป่า พิจารณาเห็นชัดแจ้งว่า "บัดนี้ เราอยู่ป่าผู้เดียวในป่า พวกอมนุษย์ดุร้ายก็มีอยู่ในป่า พวกมันจะพึงปลิดชีพเราเสีย, กาลกิริยาของเราจะพึงมีได้เพราะเหตุนั้น, อันตรายอันนั้นจะพึงมีแก่เรา,เราจะรีบทำความเพียร เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้งเสีย" ดังนี้. ภิกษุ ท.! นี้เป็นอนาคตภัยข้อที่ห้า อันภิกษุผู้อยู่ป่ามองเห็น ควรแท้ที่จะเป็นผู้ไม่ประมาท มีเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วในการทำเช่นนั้นอยู่ตลอดไป, เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้งเสียโดยเร็ว.
    ภิกษุ ท.! ภัยในอนาคต ๕ ประการเหล่านี้แล ซึ่งภิกษุผู้อยู่ป่ามองเห็นอยู่ ควรแท้ทีจะเป็นผู้ไม่ประมาท มีเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วในการทำเช่นนั้นอยู่ตลอดไป, เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้งเสียโดยเร็ว.
     
  11. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    (f)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2015
  12. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,756
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ถามหน่อยครับ ที่บอกว่า
    คัมภีร์อักขระพยัญชนะมารหรืออหังการวิเศษมาร
    หมายถึงเป็นคัมภัร์ของพวกศาสนาอื่น ? หรือเป็นของศาสนาพุทธที่ถูกบิดเบือนครับ ?
     
  13. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    เป็นของศาสนาอื่นครับ ตอนที่ผมเป็นเดียร์ถีย์ ผมปฏิบัติจนเห็นคือ เรียกว่า อัญเชิญมาปรากฏตรงหน้าเลย พร้อมกับพายุเมฆดำและฟ้าผ่าครับ ที่หนองแค น่ากลัวครับ อันเดียวกับพวกอาหรับตะวันออกกลางล่ะครับ แต่ไม่ใช่ ของโลกมนุษย์ คนอยู่ในเหตุการณ์นับร้อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2015
  14. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    ของศาสนาพุทธ มีเพียงแค่ สัทธรรมปฎิรูปครับ น่าห่วงแต่ไม่น่ากังวลเท่า อสัทธรรม
    คือผลที่ได้รับ จากสัทธรรมปฎิรูป สัมมาทิฎฐิมาเป็นมิจฉาทิฏฐิ มีการล่มสลาย๑

    แต่อสัทธรรม เป็น มิจฉาทิฏฐิอยู่แล้วโดยปรมัตถ์ ยังเพิ่มดรีกรีเข้าไปอีก คลื่นลมจึงเร็วแรงขึ้น มันทำลายสิ้นเสียทุกสิ่ง๑
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2015
  15. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    โลหิตสูตรมีอยู่พระสูตรครับ ที่พระพุทธเจ้าตรัสเรื่อง *ผู้ที่สอนธรรมของมาร* กำลังค้นครับ ช่วยค้นก็ดีครับ มีผู้เอามาโพสให้อ่านสองบรรทัด ผ่านตา อาจจะเป็นของมหายานเดี๋ยวจะสืบเสาะอีกที ไม่แน่ใจว่าเป็นอรรถาธิบายที่เกี่ยวข้องกับคัมภีร์มารหรือไม่ แต่ก็ทรงตรัสไว้อย่างชัดแจ้งแล้ว ซึ่ง *อสัทธรรม* งั้นต้องมาค้นหา *อสัทธรรม*แทน

    ช่วยกันหาด้วยนะครับ ขอความกรุณา *ท่านตรัสว่า พวกนั้นกำลังทำเหมือนฝนกำลังจะตก *
    พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า "บรรดาผู้ยิ่งใหญ่ มารเป็นเลิศ"
    มาแล้วครับ *ธรรมของมาร* หรือ*อสัทธรรม* เดี๋ยวตามต่อ
    ได้พบแล้วได้เห็นแล้วตามนี้


    ถ้าเราพิมพ์คำว่า "เขาแสดงธรรมเสมือนว่าเขา กำลังทำฝนให้ตก"จะ
    เห็นแว๊บๆในลิงค์นี้ครับhttp://www.gmwebsite.com/Webboard/Topic.asp?TopicID=Topic-071129085622060&PageNo=8&Other= เยอะมาก กำลังค้น


    ผมไม่ค่อยแน่ใจ เพราะหายังไม่เจอ ไม่รู้ว่าคำสาวกหรือ จากพระสูตรใด จะพยายามหาครับ
    คนที่ไม่เข้าใจธรรมะถ่องแท้ และคิดว่าตนเองเข้าใจ โดยปราศจากการศึกษาและปฏิบัติ (อย่างถูกต้อง) คนเช่นนั้นก็ไม่แตกต่าง ไปจากคนหลงทาง หลงตนเองไม่สามารถจะแยกขาว ต่างจากดำได้[18]* ย่อมประกาศพุทธธรรมอย่างผิด ๆ เช่นนั้นย่อมชื่อว่า กล่าวตู่หรือดูหมิ่น พระพุทธเจ้า และชื่อว่า เป็นผู้ลบล้างพระธรรม


    เขาแสดงธรรมเสมือนว่าเขา กำลังทำฝนให้ตก แต่ที่จริงคนเช่นนั้น กำลังแสดงธรรมของมาร ไม่ใช่คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ครูของพวกเขาก็คือพญามาร[19]* และสาวกของเขาก็คือ บริวารของพญามาร คนที่หลงงมงาย ทำตามคำสอนเช่นนั้น ย่อมจมลงในทะเล แห่งการเวียนว่ายตายเกิดลึกลงไปเรื่อย ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2015
  16. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    ๙. ตติยอนาคตสูตร
    ว่าด้วยภัยในอนาคต ๕ ประการ
    [๗๙] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคต ๕ ประการนี้ ยังไม่บังเกิด
    ในปัจจุบัน แต่จะบังเกิดในกาลต่อไป ภัยเหล่านั้น เธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ
    ครั้นแล้ว พึงพยายามเพื่อละภัยเหล่านั้น ภัยในอนาคต ๕ ประการเป็นไฉน
    คือ


    ในอนาคต ภิกษุทั้งหลายจักไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต
    ไม่อบรมปัญญา เมื่อไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา
    จักให้อุปสมบทกุลบุตรเหล่าอื่น จักไม่สามารถแนะนำแม้กุลบุตรเหล่านั้นในอธิ-

    พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้าที่ 194
    ศีล อธิจิต อธิปัญญา แม้กุลบุตรเหล่านั้น ก็จักไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล
    ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เมื่อไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต
    ไม่อบรมปัญญา ก็จักให้อุปสมบทกุลบุตรเหล่าอื่น จักไม่สามารถแนะนำแม้
    กุลบุตรเหล่านั้นในอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา แม้กุลบุตรเหล่านั้นก็จักไม่อบรม
    กาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เพราะเหตุดังนี้แล การลบ
    ล้างวินัยย่อมมีเพราะการลบล้างธรรม การลบล้างธรรมย่อมมีเพราะการลบล้าง
    วินัย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย


    ภัยในอนาคตข้อที่ ๑ นี้ ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้
    แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยข้อนี้อันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้วพึง
    พยายามเพื่อละภัยนั้น.
    อีกประการหนึ่ง ในอนาคต ภิกษุทั้งหลาย จักไม่อบรมกาย ไม่
    อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เมื่อไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล
    ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา จักให้นิสัยแก่กุลบุตรเหล่าอื่น จักไม่สามารถ
    แนะนำแม้กุลบุตรเหล่านั้นในอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา แม้กุลบุตรเหล่านั้นก็
    จักไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เมื่อไม่อบรม
    กาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา ก็จักให้นิสัยแก่กุลบุตรเหล่า
    อื่น จักไม่สามารถแนะนำแม้กุลบุตรเหล่านั้นในอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา
    แม้กุลบุตรเหล่านั้นก็จักไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรม
    ปัญญา เพราะเหตุดังนี้แล การลบล้างวินัยย่อมมีเพราะการลบล้างธรรม การ
    ลบล้างธรรมย่อมมีเพราะการลบล้างวินัย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย


    ภัยในอนาคตข้อที่ ๒ นี้ ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้ แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยข้อนี้อันเธอ
    ทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้วพึงพยายามเพื่อละภัยนั้น.
    อีกประการหนึ่ง ในอนาคต ภิกษุทั้งหลายจักไม่อบรมกาย ไม่อบรม
    ศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เมื่อไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรม

    พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้าที่ 195
    จิต ไม่อบรมปัญญา เมื่อแสดงอภิธรรมกถา เวทัลลกถา หยั่งลงสู่ธรรมที่ผิด
    ก็จักไม่รู้สึก เพราะเหตุดังนี้แล การลบล้างวินัยย่อมมีเพราะการลบล้างธรรม
    การลบล้างธรรมย่อมมีเพราะการลบล้างวินัย

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคตข้อที่ ๓ นี้ ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้ แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยข้อนี้อันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้วพึงพยายามเพื่อละภัยนั้น.
    อีกประการหนึ่ง ในอนาคต ภิกษุทั้งหลายจักไม่อบรมกาย ไม่อบรม
    ศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เมื่อไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรม
    จิต ไม่อบรมปัญญา พระสูตรต่าง ๆ ที่ตถาคตได้ภาษิตไว้ เป็นสูตรลึกซึ้ง
    มีอรรถลึกซึ้งเป็นโลกุตระ ประกอบด้วยสุญญตาธรรม เมื่อพระสูตรเหล่านั้น
    อันบุคคลแสดงอยู่ก็จักไม่ฟังด้วยดี จักไม่เงี่ยโสตลงสดับ จักไม่ตั้งจิตเพื่อรู้
    จักไม่ใฝ่ใจในธรรมเหล่านั้นว่าควรศึกษาเล่าเรียน แต่ว่าสูตรต่าง ๆ ที่นักกวี
    แต่งไว้ ประพันธ์เป็นบทกวี มีอักษรสละสลวย มีพยัญชนะสละสลวย เป็น
    พาหิรกถา เป็นสาวกภาษิต เมื่อพระสูตรเหล่านั้น อันบุคคลแสดงอยู่ ก็จัก
    ฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ จักตั้งจิตเพื่อรู้ จักฝักใฝ่ใจในธรรมเหล่านั้นว่า
    ควรศึกษาเล่าเรียน เพราะเหตุดังนี้แล การลบล้างวินัยย่อมมีเพราะการลบล้าง
    ธรรม การลบล้างธรรมย่อมมีเพราะการลบล้างวินัย


    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคตข้อที่ ๔ นี้ ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้ แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยข้อ
    นี้เธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้ว พึงพยายามเพื่อละภัยนั้น.
    อีกประการหนึ่ง ในอนาคต ภิกษุทั้งหลายจักไม่อบรมกาย ไม่อบรม-
    ศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา เมื่อไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต
    ไม่อบรมปัญญา ภิกษุผู้เถระก็จักเป็นผู้มักมาก มีความประพฤติย่อหย่อน เป็น
    หัวหน้าในความล่วงละเมิด ทอดธุระในความสงัด จักไม่ปรารภความเพียร เพื่อ

    พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้าที่ 196
    ถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งธรรมที่ยัง
    ไม่ได้ทำให้แจ้ง ประชุมชนรุ่นหลังก็จักถือเอาภิกษุเหล่านั้นเป็นตัวอย่าง แม้
    ประชุมชนนั้นก็จักเป็นผู้มักมาก มีความประพฤติย่อหย่อน เป็นหัวหน้าใน
    ความล่วงละเมิด ทอดธุระในความสงัด จักไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึงธรรม
    ที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ได้ทำให้
    แจ้ง เพราะเหตุดังนี้แล การลบล้างวินัยย่อมมีเพราะการลบล้างธรรม การลบ
    ล้างธรรมย่อมมี เพราะการลบล้างวินัย

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคตข้อที่ ๕ นี้ ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้ แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยข้อนี้อัน
    เธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้วพึงพยายามเพื่อละภัยนั้น.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคต ๕ ประการนี้แล ซึ่งยังไม่บังเกิด
    ในบัดนี้ แต่จะบังเกิดในกาลต่อไป ภัยเหล่านั้นอันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ
    ครั้นแล้วพึงพยายามเพื่อละภัยเหล่านั้น.
    จบตติยอนาคตสูตรที่ ๙



    อรรถกถาตติยอนาคตสูตร
    พึงทราบวินิจฉัยในตติยอนาคตสูตรที่ ๙ ดังต่อไปนี้ :-
    บทว่า ธมฺมสนฺโทสา วินยสนฺโทโส ได้แก่ การเสียวินัยย่อมมี
    เพราะเสียธรรม. ถามว่า ก็เมื่อธรรมเสีย วินัยชื่อว่า เสียอย่างไร. ตอบว่า
    เมื่อธรรมคือสมถวิปัสสนาไม่ตั้งท้อง วินัย ๕ อย่างก็ไม่มี. เมื่อธรรมเสียอย่างนี้
    วินัยก็ชื่อว่าเสีย ส่วนสำหรับภิกษุผู้ทุศีล ชื่อว่าสังวรวินัยไม่มี เมื่อสังวรวินัย
    นั้นไม่มี สมถะและวิปัสสนา ก็ไม่ตั้งท้อง. การเสียธรรมแม้เพราะเสียวินัย
    ก็พึงทราบโดยนัยอย่างนี้.

    พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้าที่ 197
    บทว่า อภิธมฺมกถ ได้แก่ กถาว่าด้วยธรรมสูงสุด มีศีลเป็นต้น.
    บทว่า เวทลฺลกถ ได้แก่ กถาเจือด้วยญาณที่ประกอบด้วยความรู้.
    บทว่า กณฺห ธมฺม โอกฺกมมนา ได้แก่ ก้าวลงสู่กรรมฝ่ายดำ โดยการ
    แสวงหาด้วยการแข่งดี เพราะแส่หาความผิดเขา. อนึ่ง ภิกษุทั้งหลาย กระทบ
    บุคคลด้วยจิตคิดร้ายก็ดี สร้างกรรมฝ่ายดำนั้น สำหรับตนก็ดี กล่าวเพื่อลาภ-
    สักการะก็ดี. ชื่อว่า ก้าวลงสู่ธรรมฝ่ายดำเหมือนกัน.
    บทว่า คมฺภีรา ได้แก่ ลึกโดยบาลี. บทว่า คมฺภีรตฺถา ได้แก่
    ลึกโดยอรรถ. บทว่า โลกุตฺตรา ได้แก่ แสดงโลกุตรธรรม. บทว่า
    สุญฺตรปฏิสยุตฺตา ได้แก่ ประกอบด้วยขันธ์ ธาตุ อายตนะ และปัจจยาการ.
    บทว่า น อญฺาจิตฺต อุปฏฺเปสฺสนฺติ แปลว่า จักไม่ตั้งจิตไว้เพื่อรู้.
    บทว่า อุคฺคเหตพฺพ ปริยาปุณิตพฺพ ได้แก่ พึงศึกษา พึงเล่าเรียน.
    บทว่า กวิกตา ได้แก่ ที่กวีแต่งโดยผูกเป็นโศลกเป็นต้น. บทว่า กาเวยฺยา
    เป็นไวพจน์ของคำว่า กวิกตา นั้นนั่นแหละ. บทว่า พาหิรกา ได้แก่
    ที่ตั้งอยู่ภายนอกพระศาสนา. บทว่า สาวกภาสิตา ได้แก่ ที่สาวกภายนอก
    [พระศาสนา] กล่าวไว้. คำที่เหลือในสูตรนี้ มีความง่ายทั้งนั้น เพราะมีนัย
    ที่กล่าวไว้แล้วในหนหลัง และเพราะรู้ได้ง่าย.
    จบอรรถกถาตติยอนาคตสูตรที่ ๙

    พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้าที่ 198
    ๑๐. จตุตถอนาคตสูตร
    ว่าด้วยภัยในอนาคต ๕ ประการ
    [๘๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคต ๕ ประการนี้ ซึ่งยังไม่
    บังเกิดในบัดนี้ แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยเหล่านั้นอันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้
    เฉพาะ ครั้นแล้วพึงพยายามเพื่อละภัยเหล่านั้น ๕ ประการเป็นไฉน คือ
    ในอนาคต ภิกษุทั้งหลายจักเป็นผู้ชอบจีวรดีงาม เมื่อชอบจีวรดีงาม
    ก็จักละความเป็นผู้ถือทรงผ้าบังสุกุลเป็นวัตร จักละเสนาสนะอันสงัดคือป่าและ
    ป่าชัฏ จักประชุมกันอยู่ที่บ้าน นิคมและราชธานี และจักถึงการแสวงหาไม่
    สมควร อันไม่เหมาะสมต่าง ๆ เพราะเหตุจีวร ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภัยใน
    อนาคตข้อที่ ๑ นี้ ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้ แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยนั้น
    อันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้วพึงพยายามเพื่อละภัยนั้น.
    อีกประการหนึ่ง ในอนาคต ภิกษุทั้งหลายจักเป็นผู้ชอบบิณฑบาต
    ที่ดีงาม เมื่อชอบบิณฑบาตที่ดีงาม ก็จักละความเป็นผู้ถือเที่ยวบิณฑบาตเป็น
    วัตร ละเสนาสนะอันสงัดคือป่าและป่าชัฏ จักประชุมกันอยู่ที่บ้าน นิคม และ
    ราชธานี แสวงหาบิณฑบาตที่มีรสอันเลิศด้วยปลายลิ้น และจักถึงการแสวงหา
    อันไม่สมควร ไม่เหมาะสมต่าง ๆ เพราะเหตุแห่งบิณฑบาต ดูก่อนภิกษุ
    ทั้งหลาย ภัยในอนาคตข้อที่ ๒ นี้ ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้ แต่จักบังเกิดใน
    กาลต่อไป ภัยนั้นอันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้วพึงพยายามเพื่อละ
    ภัยนั้น.
    อีกประการหนึ่ง ในอนาคต ภิกษุทั้งหลายจักเป็นผู้ชอบเสนาสนะ
    ดีงาม เมื่อชอบเสนาสนะดีงาม ก็จักละความเป็นผู้ถือการอยู่ป่าเป็นวัตร ละ
    เสนาสนะอันสงัดคือป่าและป่าชัฏ จักประชุมกันอยู่ที่บ้าน นิคม และราชธานี

    พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้าที่ 199
    และจักถึงการแสวงหาอันไม่สมควร ไม่เหมาะสมต่าง ๆ เพราะเหตุแห่ง
    เสนาสนะ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคตข้อที่ ๓ นี้ ซึ่งยังไม่บังเกิดใน
    บัดนี้ แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยนั้นอันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้ว
    พึงพยายามเพื่อละภัยนั้น.
    อีกประการหนึ่ง ในอนาคต ภิกษุทั้งหลายจักเป็นผู้อยู่คลุกคลีด้วย
    ภิกษุณี นางสิกขมานา และสมณุทเทส เมื่อมีการคลุกคลีด้วยภิกษุณี นาง-
    สิกขมานา และสมณุทเทส พึงหวังข้อนี้ได้ว่า เธอเหล่านั้นจักเป็นผู้ไม่ยินดี
    ประพฤติพรหมจรรย์ จักต้องอาบัติเศร้าหมองบางอย่าง หรือจักบอกคืนสิกขา
    เวียนมาเพื่อเป็นคฤหัสถ์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคตข้อที่ ๔ นี้ ซึ่ง
    ยังไม่บังเกิดในบัดนี้ แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยนั้นอันเธอทั้งหลายพึงรู้
    ไว้เฉพาะ ครั้นแล้วพึงพยายามเพื่อละภัยนั้น.
    อีกประการหนึ่ง ในอนาคต ภิกษุทั้งหลายจักเป็นผู้คลุกคลีด้วยอารา-
    มิกบุรุษ และสมณุทเทส เมื่อมีการคลุกคลีด้วยอารามิกบุรุษ และสมณุทเทส
    พึงหวังข้อนี้ได้ว่า เธอเหล่านั้นจักเป็นผู้ประกอบการบริโภคของที่สะสมไว้มี
    ประการต่าง ๆ จักกระทำนิมิตแม้อย่างหยาบที่แผ่นดินบ้าง ที่ปลายของเขียว
    บ้าง

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคตข้อที่ ๕ นี้ ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้
    แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยนั้นอันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้วพึง
    พยายามเพื่อละภัยนั้น.

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคต ๕ ประการนี้แล ซึ่งยังไม่บังเกิด
    ในบัดนี้ แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยเหล่านั้นอันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ
    ครั้นแล้ว พึงพยายามเพื่อละภัยเหล่านั้น.
    จบจตุตถอนาคตสูตรที่ ๑๐
    จบโยธาชีววรรคที่ ๓


    ตรัสซ้ำนะครับ มหาภัยเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2015
  17. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,756
    ค่าพลัง:
    +1,919
    แบบนี้คงต้องเปลี่ยนความคิด ของศาสนาอื่น ที่ถือในพระเจ้าครับ หรือผู้สร้าง

    ถ้ามองอีกแนวนึง ก็มีความเป็นไปได้อาจจะเป็น สิ่งมีจิต ในภพภูมิที่สูงกว่า มากกว่า มีมีฤทธิ์ มีอำนาจ ที่ทำไปในทางให้คนหวาดหวั่น หวาดกลัว เช่นเทวดา พรหม บางจำพวก ที่มีอายุยืนนานมองดูโลกจักรวาลเกิดดับนับไม่ถ้วน

    ซึ่งก็แยกออกได้ว่าเป็นพลังอำนาจ สำหรับการทำลายล้าง หรือเยียวยาฃ่วยเหลือ ในสิ่งที่มีที่เกิดขึ้นมาอยู่แล้ว

    เช่นสมมุติผมเป็นเทวดา ผมจะแกล้ง หรือ ช่วยคน ก็ดูจะเป็นไปได้
    หรือจะแกล้งบันดาลภัยพิบัติต่างๆให้เกิด ให้คนกลัวยำเกรง แล้วมานับถือบูชา ก็เป็นไปได้
    พอมีคนมาบูชานับถือก็ดลบรรดาลอะไรนิดๆหน่อยๆช่วยเหลือหน่อยๆก็ได้


    แต่โดยจริงแล้วก็ พวกนี้ ไม่สามารถไป บังคับกรรม และผมกรรม ของคนได้
    ไม่เช่นนั้น ทุกวันนี้เราคงไม่เห็น คนเกิดมาแตกต่างกัน ทุกรูปพรรณ มีหยาบบ้าง ปราณีตมาก ไหนจะถื่นกำเนิดที่อุดมสมบูรณ์บ้าง ขาดแคลนบ้าง
    แต่ที่เห็นชัดที่สุดคือคนบางคนทำไมเกิดมาไม่สมประกอบ อวัยวะต่างๆไม่สมบูรณ์บ้างเป็นต้น

    ถ้าสิ่งที่พวกเขานับถือ ว่าเปี่ยมไปด้วยพลัง อำนาจ ที่จะบรรดาล โลกนี้และหมู่สัตว์ให้เป็นไปตามที่ต้องการได้ ทำไมโลกที่เราเห็นทุกวันนี้มันดูขัดแย้งกับความคิดที่ว่านั้นเหลือเกิน

    ดูเพียงจะเป็นความต้องการ ข้ออ้างในเรื่องการได้มาซึ่งอำนาจ หรือเรื่องการเมือง ของกลุ่มบุคคลบางคน เพื่อชักชวนคนมาเชื่อถือตามตนให้มาก เพื่อที่จะได้ไปย่ำยีพวกที่เห็นต่างได้
    โดยมีปัจจัยหลักจากความไม่รู้ที่มาที่ไป ของภัยธรรมชาติที่เกิด

    ก็คงไม่ต่างจากประวัติศาสตร์ต่างๆที่ผ่านมา ที่อารายธรรมโบราณต่างๆ สร่างเทพ-พระเจ้าในอุดมคติของตนขึ้นมา ไม่ว่าจะ พวก กรีก โรมัน อียิปต์
    อยู่ที่ว่าใครจะสร้างพระเจ้าในอุดมคติให้ดูเหนือกว่า ยิ่งใหญ่ สูงสุดกว่าพวกอื่น แล่วป่าวประกาศโฆษณา ได้มากกว่ากัน
     
  18. บางเบา

    บางเบา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    349
    ค่าพลัง:
    +88
    เรื่องของ GOD
    ต่างคน ต่างค่าย ต่างๆนานา

    คำตอบ ท่าน GOD เป็นผู้เดียว ที่จะให้คำตอบได้
    อย่างที่มีรายละเอียด ถูกต้อง
     
  19. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    ถ้าสิ่งที่พวกเขานับถือ ว่าเปี่ยมไปด้วยพลัง อำนาจ ที่จะบรรดาล โลกนี้และหมู่สัตว์ให้เป็นไปตามที่ต้องการได้ ทำไมโลกที่เราเห็นทุกวันนี้มันดูขัดแย้งกับความคิดที่ว่านั้นเหลือเกิน

    นี่ล่ะครับ จึงเป็นที่มาของภัยที่ ๕ ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้น และมันกำลังจะเกิดขึ้นครั้งแรก ที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน

    กลัวรึ ท่าน Sriaraya5
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2015
  20. บางเบา

    บางเบา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    349
    ค่าพลัง:
    +88
    มนุษย์ทำสิ่งใดไว้ ก็ย่อมได้รับผลแห่งการกระทำ
     

แชร์หน้านี้

Loading...