ทั้งชีวิตขอเรื่องเดียว

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย เสขะปฎิสัมภิทา, 19 เมษายน 2015.

  1. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ๑-๕-๒๕๕๘
    ๑๐:๐๐


    เราพบต้นไม้ลักษณะนั้นแล้ว อยู่ที่ อินโดนีเซีย ขนาดยังไม่ถึงศอก เกิดอยู่ท่ามกลางบึงโคลนที่มีอุณหภูมิสูงมีลำแสงรัศมีสีแดงส้มประมาณ ๑๐ เมตรโดยรอบ

    เหตุการณ์นี้เป็นการค้นหาพื้นที่ ที่จะกำเนิดเหตุการณ์นั้นเป็นเป็นหลัก เพราะเหมือนกับว่าได้ใบเปิดทางจากผู้มีฤทธิ์บันดาลสักท่าน เอื้อเฟื้อประโยชน์นี้ให้ เราได้ใช้เวลานานมากในกึ่งราตรีกาล ในการเที่ยวเดินทางและเสาะหา ดูชีวิตความเป็นอยู่ของพลเมืองในระแวกเขตนั้นๆ และไถ่ถามไปทั่วเกี่ยวกับ ทัศนียภาพต่างๆของภูมิประเทศในแถบนั้น

    อีกประการหนึ่ง ไม่แน่ว่าการสร้างมหาสถูปบุโรพุทโธ ที่นั่นและถูกปล่อยร้างไว้ อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง และการทหารและการศาสนาโดยตรง แต่อาจจะเป็นปริศนาธรรมล่วงหน้าในเหตุการณ์อะไรสักอย่าง เพราะมีบทเกี่ยวข้องกับการสร้างโลกและแน่นอนย่อมต้องเกี่ยวพัน กับบทการสูญสลายของโลก

    และประเด็นนี้มิใช่ว่าเราเปิดเผยไปแล้ว อินโดนีเซียเกิดเหตุขึ้นเกี่ยวกับภูเขาไฟ ตามมาหลังจากที่เรากล่าวหลังจากนี้ไปไม่นานนะ อย่าแม่นยำแบบนั้นเลย แค่เนปาลก็มากพอควรแล้ว

    ต้นไม้ลักษณะนั้นมีสักกี่ต้นกันนะ และตอนนี้กำลังเจริญเติบโตหรือเปล่า?



    ข้อมูลย่อ
    • มหาสถูปบุโรพุทโธ ศาสนสถานของศาสนาพุทธที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    • มหาสถูปบุโรพุทโธ หรือ บรมพุทโธ (ภาษาอินโดนีเซีย: Chandi Borobudur) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในภาคกลางของเกาะชวา ห่างจากยอกยาการ์ตาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 40 กิโลเมตร สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 1293 - 1393 โดยบุโรพุทโธเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธนิกายมหายานและเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    • ประวัติของบุโรพุทโธ
    • บุโรพุทโธ ถูกสร้างขึ้นโดยกษัตริย์แห่งราชวงศ์ไศเลนทร เป็นสถูปแบบมหายาน สันนิษฐานว่าสร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ 7-9 หรือ พุทธศักราช 1393 ตั้งอยู่ทางภาคกลางของเกาะชวา ใกล้กับแม่น้ำโปรโก ห่างจากยอกยาการ์ตา ทางตะวันตกเฉียงเหนือ 40 กิโลเมตร บุโรพุทโธสร้างด้วยหินภูเขาไฟประมาณ 2 ล้านตารางฟุตบนฐานสี่เหลี่ยม กว้างด้านละ 121 เมตร สูง 403 ฟุต เป็นรูปทรงแบบปิรามิด มีลานเป็นชั้งลดหลั่นกัน 8 ชั้น และใน 8 ชั้นนั้น 5 ชั้นล่างเป็นลาน 4 เหลี่ยม 3 ชั้นบนเป็นลานวงกลม และบนลานกลมชั้งสูงสุดมีพระสถูปตั้งสูงขึ้นไปอีก 31.5 เมตร เป็นมหาสถูปที่ระเบียงซ้อนกันเป็นชั้นๆลดหลั่นกันไป
    • บุโรพุทโธ เชื่อกันว่าแผนผังของบุโรพุทโธคงหมายถึง “จักรวาล” และอำนาจของ “พระอาทิพุทธเจ้า” ได้แก่พระพุทธเจ้าผู้ทรงสร้างโลกในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ซึ่งแสดงโดยสถูปที่บนยอดสุดก็ได้แผ่ไปทั่วทั้งจักรวาล ซึ่งจักรวาลนี้แบ่งออกเป็น ๓ ตอน คือชั้นบนสุดได้แก่ “อรุปธาตุ” ชั้นรองลงมาคือ “รูปธาตุ” และชั้นต่ำสุดคือ “กามธาตุ”
    พระเจดีย์องค์ใหญ่ที่อยู่บนยอดสูงสุดของ “บุโรพุทโธ” ก็คือสัญลักษณ์แทนองค์ “พระอาทิพุทธเจ้า” ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าสูงสุด ในคติความเชื่อพระพุทธศาสนานิกายมหายานที่เป็นผู้สร้างสรรพสิ่ง
    • สถูปเจดีย์ ที่มีรูปทรงโอ่งคว่ำเป็นแบบทึบนั้นก็คือสัญลักษณ์ของ “อรูปธาตุ” (ไม่ปรากฏร่างกาย) และเป็นเพียงสัญลักษณ์พระสถูปเจดีย์ดังกล่าวอันเป็นพลังสากลทั่วไปที่แผ่ไปทั่ว วสกลจักรวาล
    • ฐานชั้นล่างสุดซึ่งเป็นฐานชั้นที่ ๑ ของ “บุโร พุทโธ” จะมีภาพสลักทั้งหมด “๑๖๐ ภาพ” โดยทุกภาพจะเป็นการเล่าเรื่องราวตาม “คัมภีร์ธรรมวิวังค์” ว่าด้วยเรื่อง “กฎแห่งกรรม” ซึ่งก็คือเรื่องของ บาป บุญ คุณ โทษ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2015
  2. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,353
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ทั้งชีวิต ขอเรื่องเดียว..ขอให้ได้มีส่วนในการค้ำจุนพระพุทธศาสนา
    (ตามกำลังบุญที่หนุนนำ:cool:)
     
  3. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    จากคำถาม


    ๑ถูกแล้วต้องเกี่ยวข้องกัน

    เรารู้เพียงแต่ว่าเรา เป็นอดีตพระราชปาล ในสมัยพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง ก่อนยังไม่มีพุทธบัญญัติเรื่อง การบอกลาคืนสิกขา

    ๒และได้เคยอาศัยในปราสาทมุกสวรรค์มาก่อน ปราสาทเดียวทั้งชั้นฟ้า

    ๓พระเจ้าปเสนทิโกศล ย่อมเกี่ยวพัน เพราะพระปริตรที่เราได้อ่านจากพระไตรปิฏกพระธรรมคัมภีร์ดั้งเดิม เกี่ยวข้องกับพระเจ้าปเสนทิโกศล และพระชาตินั้นได้สวรรคตอย่างกระทันหัน
    ๔พระเจ้าอโศกอาจเกี่ยวข้องด้วย(ผู้เป็นยอดในเรื่องจุติเร็ว)
    ๕ผู้อื่นอีกมากที่ปรากฎในพระสูตรต่างๆ เช่น อุบาสกผู้ช่วยเหลือพระภิกษุณี เป็นต้น

    เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการรวบรวมและคืนฐานะด้วย

    แต่ตราบใดที่ยังไม่มีผู้ที่แสดงปาฎิหาริย์ ๓ โดยมีปฎิสัมภิทาได้ ตราบนั้นก็ยังไม่ถึงเวลา

    เบญจกัลยาณีของเราในอดีตชาติพระราชปาลนั้น ไม่มีสตรีใดในยุคนี้เทียบเทียมได้ เลยต้องเสียใจเพราะต้องทิ้งชาติธรรม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2015
  4. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    จากคำถาม

    เราไม่ทราบ แต่ผู้นั้นจะมาช่วงตอนเกิดภัยที่ ๕ เราเป็นเพียงพยาน เพราะเราเคยได้เคยมีปฎิสัมภิทา๔ และอื่นๆ ตอนบวช แต่เว็บลบเรื่องพระไตรปิฏกพระธรรมคำภีร์ดั้งเดิมและ คัมภีร์อักขระพยัญชนะมารไปแล้ว เราคิดว่าเขาถูกเทวปุตมารแทรก ไม่อยากให้เราบอกใคร เพราะอยากให้ผู้อื่นฉิบหายมากๆ

    ใครแสดงปาฎิหาริย์ ๓ ได้คนนั้นแหละที่เป็น คงจะจุติธรรมในตนมาอีกแน่ สหชาติน่ะ ไม่มาผู้เดียวหรอก
     
  5. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    จากคำกล่าว
    เรื่องที่ท่านพูดจริงหรือไม่ผมไม่ทราบ แต่ผมว่ากระทู้ของท่านไม่สมควรโดนลบเลย น่าจะให้คนเข้ามาอ่านตัดสินใจกันเอง

    ........................................................................................
    เราขออนุโมทนาฯ ช่างมันเถอะ! เท่านี้ก็ดีมากแล้ว เรายังมีความทรงจำอยู่
     
  6. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    เกริ่นเรื่องราวจากกระทู้ที่ถูกลบ
    http://webcache.googleusercontent.c...0%B8%A1-548241.html+&cd=4&hl=en&ct=clnk&gl=th

    http://webcache.googleusercontent.c...B8%A1-548241-2.html+&cd=2&hl=en&ct=clnk&gl=th

    http://webcache.googleusercontent.c...B8%A1-548241-3.html+&cd=3&hl=en&ct=clnk&gl=th


    ๔ ปีที่พยายามสั่งสมภาวะ สุดท้ายมาเผยในราตรีเดียว

    จะมีผู้ใดเข้าใจบ้างนะ
    แก้ไขปริศนาธรรมได้สำเร็จโดยใช้ระยะเวลาเกือบ ๔ ปี นับหลังจากบอกลาสิกขาในห้วงออกพรรษาปี ๒๕๕๔
    สิ้นสุดตรงวันเวลาที่
    ๐๙.๔๘ ๑๓/๔/๒๕๕๘
    {O}สำหรับข้าพเจ้าได้นอนหลับพักสักครู่นี้ไปแล้วพิจารณารู้ คือตั้งข้อสงสัยก่อนหลับ เมื่อพิจารณารู้ในนิมิต จึงตื่นขึ้นมาเพื่อแสดงอรรถาธิบายที่สำคัญ จึงขอใช้คำจำกัดความสิ่งที่เกิดขึ้นตามแรงที่จะอธิษฐานเหล่านี้ว่า
    ขอให้สิ่งที่ข้าพเจ้าได้รู้ได้เห็นทั้งหมดนี้ ที่สำคัญนั่นคือระหว่าง การที่ได้พบเห็นการปรากฎของพระไตรปิฏกพระธรรมคำภีร์ดั้งเดิม และ การที่ได้เห็นการปรากฎของคัมภีร์มารคือคำสั่งสอนของมารนอกพระพุทธศาสนา
    โดยยกทั้ง ๒อย่างนี้เป็นหลักในการพิจารณาในขั้นที่๑
    ประเภทที่๑.๑
    {เป็นพระไตรปิฏกพระธรรมคัมภีร์ดั้งเดิมทางพุทธศาสนา} และ ‪#‎คัมภัร์อักขระพยัญชนะมาร‬# ที่ไม่ใช่ไม่เหมือนกับที่ถูกตีพิมพ์ในโลกมนุษย์ อยู่ในฐานะเป็น{ทิพยวิเศษบริสุทธิธรรม} และ ‪#‎อหังการวิเศษมาร‬# แตกต่างกันชัดเจน
    และ
    ยกทั้งสองอย่างที่ปรากฎเกิดขึ้นในพระพุทธศาสนาในกาลปัจจุบันคือ การปรากฎของพระสัทธรรมที่คงเหลืออยู่จริง และ การปรากฎของสัทธรรมปฎิรูปที่เกิดขึ้นมาใหม่ เป็นหลักพิจารณาให้เห็นตามความเป็นจริงในขั้นที่ ๒
    ประเภทที่ ๒.๒ เป็นพระไตรปิฏกจารึก {พระสัทธรรม} ที่แท้จริง ที่หลงเหลือบันทึกอยู่จริงในพระไตรปิฏกที่แม้จะแตกแยกนิกายออกไป แต่ยังมีอยู่เหมือนเดิม และ ‪#‎สัทธรรมปฎิรูป‬# อันเป็นคำส่งสอนที่สร้างขึ้นมาใหม่โดยจริตธรรมของการยอมรับตกลงในมิจฉาชนหมู่มากที่แสวงอื่น ไม่ใช่พระธรรมแท้ที่มีอยู่จริง ไม่มีมรรคผลเป็นที่รองรับ เป็นสิ่งที่นำพาไปสู่มิจฉาทิฐิ อย่างเช่น แอบอ้างว่าอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นคำสอนที่ถูกต้องในพระไตรปิฏกแต่อย่างนั้นไม่ถูกเป็นต้น
    จุดประสงค์ของอรรถาธิบายสาธยาย
    ทั้งนี้ก็เป็นไปเพื่อปกป้องคุ้มครองรักษาพระพุทธศาสนาไม่ให้พระสัทธรรมนั้นได้เลือนลางหายไปจากเหล่าพุทธบริษัทสาธุชนทั้งหลาย จากการปรากฎของอสัทธรรมอื่นคือการปรากฎคำสั่งสอนของพญามารที่จะรุ่งโรจน์ในปัจจุบัน ที่สำคัญเพื่อให้รักษาพระสัทธรรมแท้ไม่ให้เกิดสัทธรรมปฎิรูปเกิดขึ้นได้ในบวรพระพุทธศาสนา ข้าพเจ้าขอวิงวอนให้ท่านทั้งหลายจงพิจารณาตามเถิด ท่านบัณฑิตทั้งหลายผู้เป็นนักวิชาการบ้าง เป็นผู้มีความรู้ยิ่งบ้าง เป็นอริยะบุคคลบ้าง เป็นพระเสขะ พระอเสขะบ้าง จงพิจารณาตามที่เราได้สาธยาย โดยพิศดารถึงมูลเหตุอันจะพึงมี พึงเกิดขึ้น และพึงเป็น นับตั้งแต่ที่ท่านได้ล่วงรู้อรรถาธิบายตามนี้เถิด{O}


    ข้าพเจ้าได้แก้ไขข้อข้องใจ ในปริศนาธรรมในประการนี้ถึงที่สุดแล้ว
    เอาแค่ตรงนี้พอครับ ช่วยบอกท่านว่า ไม่ใช่ของที่ตีพิมพ์จารึกในโลกมนุษย์ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2015
  7. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    จากคำถาม
    รุกขเทวดาหายไปไหน

    อย่าว่าแต่รุกขเทวดาเลย การที่เราจะหวังพึ่งเขานั้นมีได้อยู่

    เพราะอะไรจึงเป็นเหตุ เพราะในตอนนี้มีภัยมาก ในสหโลกธาตุตอนนี้ มีมารครอบอยู่ แม้พระอินทร์พระพรหมพระปัจเจกพุทธเจ้า มารยังก่อกวนไม่เลิกรา
    พระอินทร์พระพรหมยังต้องหนีการเกะกะระราน จากพญามารไปจนสุดขอบจักรวาล เพราะรังเกียจอกุศลกรรมจากความทุจริต โลกนี้จึงเต็มไปด้วยเสนามาร และสายสืบของเสนามาร ถ้าเทวดาใดเอื้อเฟื้อประโยชน์ในธรรมมากเกินไปจน เสนามารจับพิรุธได้ ก็จะถูกรายงานไปถึงหูพญามาร แล้วพญามารก็จะเล่นงานผู้นั้น
    จึงจำเป็นต้องหนี ห่างหายไปทั้งหมด

    แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีช่องว่าง แห่งบุญพลานิสงส์ที่บำเพ็ญมาดีแล้ว ด้วยเหตุนี้แล มนุษย์เมื่อฝึกตนดีแล้วเป็นผู้มีธรรมอันประเสริฐ จึงเป็นผู้ที่ เทพ เทวดา มาร พรหม ฯต่างให้การเคารพสักการะ ดังนี้แลฯ

    อวิชชาจะสิ้นเมื่อมองเห็นธรรม
    จบการสงสัยเรื่อง การห่างหายไปของเรื่อง เทพ พรหม เทวดาฯ


    ปัญญัติสูตร
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย การบัญญัติซึ่งสิ่งที่เลิศ ๔ ประการนี้ ๔ ประการ
    เป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาสัตว์ผู้มีอัตภาพ (ใหญ่) อสุรินทราหูเป็นเลิศ
    บรรดาบุคคลผู้บริโภคกาม พระเจ้ามันธาตุราชเป็นเลิศ บรรดาผู้ใหญ่ยิ่ง มารผู้มี
    บาปเป็นเลิศ

    พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า อันโลกกล่าวว่าเป็นเลิศในโลก
    ทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาและ
    มนุษย์

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย การบัญญัติสิ่งที่เลิศ ๔ ประการเหล่านี้แล ฯ


    บรรดาสัตว์ผู้มีอัตภาพ (ใหญ่) อสุรินทราหูเป็นเลิศ บรรดา
    บุคคลผู้บริโภคกาม พระเจ้ามันธาตุราชเป็นเลิศ บรรดาผู้-
    ใหญ่ยิ่ง มารเป็นเลิศ

    พระพุทธเจ้าผู้รุ่งเรืองด้วยฤทธิ์ อันโลกกล่าวว่าเป็นเลิศในโลก ทั้งเทวดาและมนุษย์ ทั่วภูมิเป็นที่อยู่ของสัตว์ ทั้งเบื้องบน ท่ามกลาง และเบื้องต่ำ ฯ
    จบสูตรที่ ๕

    เป็นไปไม่ได้ที่ผู้เป็นใหญ่ทั้ง ๓ เหล่านี้ จะไม่รู้เหตุของเรื่องนี้ คือ เหตุของภัยที่ ๕

    ยกเว้นไว้ ณ ที่สูงยิ่ง
    โดยเฉพาะพระพุทธเจ้าของเราท่านทั้งหลายฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • icmy26.jpg
      icmy26.jpg
      ขนาดไฟล์:
      370.2 KB
      เปิดดู:
      59
  8. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ใบไม้ที่เราไปหยิบ ที่ร่วงหล่นจากใต้ร่ม พระมหาบรมโพธิสมภาร นั้นมาเป็นอย่างนี้เองรึ!

    ขนาดไม่ได้ตั้งใจไปเด็ดยังขนาดนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ข้อมูลคร่าวๆ

    เทวภูมิ ๖ (สวรรค์ ๖) แดนอันแสนดีเลิศล้ำด้วย กามคุณ ทั้ง ๕ โลกของ เทวดา ตามปกติหมายถึง กามาพจรสวรรค์
    ๑.จาตุมหาราชิการ (สวรรค์ชั้นที่ ๑) สวรรค์ที่ท้าวมหาราช ๔ องค์ ปกครอง
    จาตุมหาราชิกา มีมหาราช ๔ องค์
    ๑. ท้าววธตรัฐะ มหาราช เป็นผู้ปกครอง คันธัพพเทวดา ทั้งหมด อยู่ทาง ทิศตะวันออก
    ๒. ท้าวิรุฬหกะ มหาราช เป็นผู้ปกครอง กุมภัณฑ์เทวดา ทั้งหมด อยู่ทาง ทิศใต้
    ๓. ท้าววิรูปักษ์ มหาราช เป็นผู้ปกครอง นาคะเทวดา ทั้งหมด อยู่ทาง ทิศตะวันออก
    ๔. ท้าวเวสสุวรรณ มหาราช เป็นผู้ปกครอง ยักขเทวดา ทั้งหมด อยู่ทาง ทิศเหนือ
    (ท้าวกุเวร หรือ เวสสวัณ)
    ท้าวมหาราช ทั้ง ๔ องค์นี้ เป็นผู้รักษาโลกมนุษย์ด้วย จึงชื่อว่า ท้าวจตุโลกบาล หรือ ท้าวโลกบาล ๔
    พระเจ้าพิมพิสาร เอง แม้จะเป็น พระโสดาบัน แต่ก็พอใจสวรรค์ชั้นนี้
    ได้เกิดเป็นบริวารของ ท้าวเวสสุวรรณมหาราช

    เทวดาที่อยู่ภายใต้อำนาจปกครองของ ท้าวจาตุมหาราช
    ๑. ปัพพตัฏฐเทวดา เทวดาที่ อาศัยภูเขาอยู่
    ๒. อากาสัฏฐเทวดา เทวดาที่ อาศัยอยู่ในอากาศ
    ๓. ขิฑฑาปโทสิกเทวดา เทวดาที่ มีความเพลิดเพลินในการเล่นกีฬา จนลืมบริโภคอาหาร แล้วตาย
    ๔. มโนปโทสิเทวดา เทวดาที่ ตายเพราะความโกรธ
    ๕. สีตวลาหกเทวดา เทวดาที่ ทำให้อากาศเย็นเกิดขึ้น
    ๖. อุณหวลาหกเทวดา เทวดาที่ ทำให้อากาศร้อนเกิดขึ้น
    ๗. จันทิมเทวปุตตเทวดา เทวดาที่ อยู่ในพระจันทร์
    ๘. สุริยเทวปุตตเทวดา เทวดาที่ อยู่ในพระอาทิตย์

    ยักษิณี นางยักษ์
    ยักษ์ มีความหมายหลายอย่าง แต่ที่ใช้บ่อยหมายถึง อมนุษย์ พวกหนึ่ง เป็นบริวารของ ท้าวกุเวรตามที่ถือกันมาว่ามีรูปร่างใหญ่โตน่ากลัง มีเขี้ยวโง้ง ชอบกินมนุษย์กิสัตว์ โดยมามีฤทธิ์ เหาะได้ จำแลงตัวได้
    เทวดา หมู่ เทพ ชาว สวรรค์ เป็นคำรามเรียกชาว สวรรค์ ทั้งเพศชายและเพศหญิง

    เทวดาตามที่อยู่อาศัย
    ๑. ภุมมัฎฐเทวดา เทวดาที่อาศัยอยู่ตามพื้นดิน เช่น ภูเขา แม่น้ำ มหาสมุทร ใต้พื้นดิน บ้านเรือน ซุ้มประตู เจดีย์ ศาลา เป็นต้น ถือว่าที่นั้น ๆ เป็นวิมานของตน
    ๒. รุกขเทวดา เทวดาที่อาศัยอยู่ตามต้นไม้ มี ๒ จำพวก คือ
    ๒.๑ มีวิมานอยู่บนต้นไม้ ถ้าอยู่บนยอดต้นไม้ เรียก รุกขวิมาน
    ถ้าอยู่บนสาขาของต้นไม้ เรียก สาขัฏฐวิมาน
    ๒.๒ อยู่บนต้นไม้แต่ไม่มี วิมาน (ที่อยู่ของเทวดา)
    ๓. อากาสัฏฐเทวดา เทวดาที่มีวิมานอยู่ในอากาศ
    ในธรรมบทอรรถกถา พุทธวังสอรรถกถา แสดงเทวดาชั้น จาตุมหาราชิกา มี 2 จำพวก โดยจัด
    รุกขะเทวดา อยู่ในจำพวก ภุมมัฎฐะเทวดา เทพารักษ์ เทวดาผู้ดูแลรักษาที่แห่งใดแห่งหนึ่ง

    เทวดาที่มีใจโหดร้าย
    ๑. คันธัพโพ คันธัพพี ได้แก่ เทวดาคันธัพพะ ที่ถือกำเนิดภายในต้นไม้ที่มีกลิ่นหอม ที่เรียกว่า นางไม้ หรือแม่ย่านาง
    หรือ คนธรรพ ชอบรบกวนให้เกิดอุปสรรคต่าง ๆ เช่นทำให้เกิดเจ็บป่วย หรือ
    หรือ คนธรรพ์ ทำ อันตรายแก่ทรัพย์สมบัติของผู้อื่นที่นำไม้นั้นมาใช้สอย อยู่ในความ
    ปกครองของ ท้าวธตรัฏฐะ คันธัพพะเทวดา นี้สิงอยู่ในไม้นั้นตลอดไป
    แม้ใครจะตัดไปใช้สอยอย่างใด ๆผิดกับ รุกขเทวดา ที่อาศัยอยู่ตามต้น
    ไม้ถ้าต้นไม้นั้นตายหรือถูกตัดฟัน ก็ย้ายจากต้นนั้นไปต้นอื่น
    ๒. กุมภัณโฑ กุมภัณฑี ได้แก่ เทวดาภุมภัณฑ์ ที่เรียกกันว่า รากษส เป็นเทวดาที่รักษาสมบัติต่าง ๆเช่นแก้วมณี
    และรักษาป่า ภูเขา แม่น้ำ ถ้ามีพวกล่วงล้ำ ก็ให้โทษต่าง ๆอยู่ใน
    ความปกครองของ ท้าววิรุฬหกะ
    ๓. นาโค นาคี ได้แก่ เทวดานาค ได้แก่เทวดานาค มีวิชาเวทมนต์คาถาต่าง ๆ ขณะท่องในโลกมนุษย์ บาง
    ทีก็เนรมิตเป็นคนสัตว์ต่าง ๆ ชอบลงโทษพวกสัตว์นรก อยู่ในความ
    ปกครองของ ท้าววิรูปักขะ
    ๔. ยักโข ยักขนี ได้แก่ เทวดายักษ์ พอใจเบียดเบียนสัตว์นรก อยู่ในความปกครองของ ท้าวเวสสุวรรณ

    อาการเกิดของเทวดา ถ้าได้เคยสร้างบุญกุศลไว้มากกพอ ก็ไปเกิดในวิมานของตนเองพร้อมกับมีบริวาร ไม่ต้องเป็น
    บุตรธิดาหรือเทวดารับใช้ของผู้ใด
    กล่าวไว้ในอรรถกถาบางแห่งเป็นพิเศษ เทวบุตร คือ บุรุษ ที่เกิดบนตักของเทวดา
    เทวธิดา คือ สตรี ที่เกิดบนตักของเทวดา
    เทวดาสตรี ถ้าเกิด ในที่นอน จัดเป็น ปริจาริกา (นางบำเรอ)
    ถ้าเกิด ข้างที่นอน จัดเป็น พนักงานเครื่องสำอาง
    ถ้าเกิด กลางวิมาน จัดเป็น คนใช้

    ๒ ดาวดึงส์ (สรรค์ชั้นที่ ๒)
    แดนแห่งเทพ ๓๓ มีจอมเทพชื่อ ท้าวสักกะ หรือที่เรียกว่า พระอินทร์ เป็นใหญ่สุด เมื่อพระอินทร์องค์หนึ่งสิ้นบุญ จุติ ไป ก็มีพระอินทร์อีกองค์หนึ่งเกิดสืบแทนกันไป ดาวดึงส์ เป็นคำบาลีแปลว่า ๓๓ บางทีก็เรียก ไตรตรึงษ์ ซึ่งเป็นคำสันสกฤต แปลว่า ๓๓ เหมือนกัน

    ความเป็นอยู่ของเทวดาชั้นดาวดึงส์ล้วนแต่เป็นผู้เสวยทิพยสมบัติจากกุศลธรรมในอดีต บริโภคอาหารอันละเอียดสุขุม ชนิดที่เป็น สุธาโภชน์ (ผู้บริโภคอาหารทิพย์) อารมณ์ที่ได้รับจึงล้วนมีแต่ อิฏฐรมณ์ (อารมณ์ที่น่าปรารถนา) และไม่มีความเจ็บป่วย ไม่มีอุจจาระ ปัสสาวะ เทวดาผู้ชาย มีความเป็นหนุ่มอยู่ในวัย ๒๐ ปี ส่วนเทวดาผู้หญิงมีความเป็นสาวอยู่ในวัย ๑๖ ปี สวยงามตลอดไปจนตาย มิได้มีความชรา เทวดาผู้หญิงไม่มีประจำเดือนและไม่ต้องมีครรภ์ เว้นแต่ ภุมมัฏฐเทวดา บางองค์ที่ยังมีประจำเดือน และครรภ์เหมือนมนุษย์ความเป็นอยู่ของเทวดาในเทวโลกนี้ เป็นเช่นเดียวกับมนุษย์โลก มีการไปมาหาสู่กันและเบียดเบียนกัน มีความรักใคร่ ปรารถนาเป็นคู่ครองกัน สมบัติของเทวดาเหล่านั้น มีความยิ่งหย่อนกว่ากัน ทั้งบริวาร วิมานและ อิฎฐรมณ์ ต่าง ๆ สุดแต่กรรทที่ตนได้กระทำไว้

    โกสิยเทวราช คือ พระอินทร์ เรียก ท้าวโกสีย์ บ้าง ท้าวสักกเทวราช บ้าง
    เทวดาที่อยู่บนชั้นดาวดึงส์ มี ๒ พวก
    ๑. ภุมมัฏฐเทวดา ได้แก่ พระอินทร์ และเทวดาชั้นผู้ใหญ่ ๓๒ องค์ พร้อมทั้งบริวาร เทวอสุรา
    ๕ จำพวก
    ๒. อากาสัฏฐเทวดา ได้แก่ พวกเทวดาที่อยู่ในวิมานลอยไปกลางอากาศ

    เทพ เทพเจ้า เทวดา

    เทพ ๓
    ๑. สมมติเทพ เทวดาโดยสมมติ ได้แก่ พระราชา พระเทวี และพระราชกุมาร
    ๒. อุปปัตติเทพ เทวดาโดยกำเนิด ได้แก่เทวดาใน กามาวจรสวรรค์ และ พรหม ทั้งหลาย เป็นต้น
    ๓. วิสุทธิเทพ เทวดาโดยความบริสุทธิ์ ได้แก่ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และ พระอรหันต์ ทั้งหลาย

    สุขาวดี แดนที่มีความสุข เป็นชื่อสวรรค์ของพระอมิตาภพุทธ ฝ่ายมหายาน

    ๓. ยามา (สวรรค์ชั้นที่ ๓)
    แดนแห่งเทพผู้ปราศจากความทุกข์ มี ท้าวสุยามเทพบุตร ปกครอง ตั้งแต่ภูมิยามานี้ขึ้นไปตั้งอยู่ในอากาศ จึงไม่มีเทวดา ภุมมัฏฐเทวดา อาศัยอยู่ มีแต่พวก อากาสัฏฐเทวดา พวกเดียว ร่างกายสวยงามประณีต อายุยืนยาวกว่าเทวดาชั้น ดาวดึงส์ มากเป็นภูมิที่สวยงามประณีต ปราศจากความยากลำบาก ไม่มีเรื่องทุกข์ ได้แก่ที่อยู่ของพวกที่รักษา อุโบสถในชั้นฟ้านี้ไม่เห็นพระอาทิตย์เลย เพราะว่าอยู่สูงกว่าพระอาทิตย์มากแต่เทพชั้นนี้เห็นกันได้ด้วยรัศมีแก้ว และด้วยรัศมีของเทพเองจะรู้ว่ารุ่งหรือค่ำด้วยอาศัยดอกไม้ทิพย์ คือ เมื่อเห็นดอกไม้บานจึงรู้ว่ารุ่ง เมื่อเห็นดอกไม้หุบจึงรู้ว่าค่ำ เทพชั้นยามยามาไม่ปรากฏว่าได้ลงมาเกี่ยวข้องกับมนุษย์

    ๔. ดุสิต (สวรรค์ชั้นที่ ๔)
    แดนแห่งเทพผู้เอิบอิ่มด้วยสิริสมบัติของตน มี ท้าวดุสิตเทวราช ปกครอง เป็นภูมิของเทวดาผู้อิ่มเอิบด้วยบารมี ผู้มีปัญญา ผู้อยู่ในภูมินี้จึงมีแต่ความชื่นบาน มีวิมานทิพย์ ทิพย์สมบัติ ร่างกายประณีตกว่าเทวดาในชั้น ยามา เป็น ภพ สุดท้ายของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายทุกพระองค์ก่อนที่จะมาบังเกิดและตรัสรู้ในมนุษย์โลก

    ทิพย์ เป็นของเทวดา วิเศษ เลิศกว่าของมนุษย์

    ๕. นิมมานรดี (สวรรค์ชั้นที่ ๕)
    แดนแก่งเทพผู้ยินดีในการนิรมิต มีท้าวสุนิมมิต หรือ นิมมิตเทวราช ปกครองเทวดาชันนี้ปรารถนาสิ่งใด นิรมิตเอาได้ตามความพอใจของตน ไม่มีคู่ครองของตนเป็นประจำ เมื่อใดปรารถนาใคร่เสพ กามคุณ เวลานั้นก็ เนรมิต เทพบุตร หรือเทพธิดาขึ้นมาตามความปรารถนา และเมื่อใดได้เพลิดเพลินกับ กามคุณ นั้นสมใจแล้ว กามคุณ ที่เนรมิตขึ้นมานั้นก็จะอันตรธานหายไป

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า
    กัมมัง เขตตัง กรรม เป็นเหมือนนา
    วิญญาณัง พีชัง วิญญาณ เป็นเหมือนพืชที่หว่านลงในนา
    ตัณหา สิเนโห ตัณหา เหมือนยางเหนียวมีอยู่ในพืช อันจะทำให้พืชนั้นปลูกงอกงามขึ้นได้
    เพราะฉะนั้น เมื่อยังมี กรรม วิญญาณ และ ตัณหา อยู่ ก็ยังจะต้องไปเกิด
    ในภพต่าง ๆ คือหมายความว่า ยังมี อวิชชา เป็นเครื่องกั้นอยู่ ยังมี ตัณหา
    เป็น สังโยชน์ คือเครื่องผูกอยู่

    ๖. ปรนิมมิตวสวัตดี (สวรรค์ชั้นที่ ๖)
    แดนแห่งเทพผู้ยังอำนาจให้เป็นไปในสมบัติที่ผู้อื่น นิรมิต (บันดาลให้เป็นขึ้นมีขึ้น) ให้
    มีเทพเป็นราชาผู้ปกครองอยู่ ๒ ฝ่าย
    ฝ่าย เทพยดา ปรนิมมิตรสวัตตีเทวราช ปกครองเทพไม่เป็นมาร
    ฝ่าย มาร (๒) ปรนิมมิตวสวัตตีเทวราช (ชื่อเหมือนกัน)
    หรือ พญามาราธิราช หรือ วสวัตตีมาร ปกครองเทพที่เป็นมาร
    ฝ่ายมาร(๒) หรือเทวปุตตมาร
    เป็น มิจฉาทิฎฐฺ เทวดา ที่ไม่มีความเลื่อมใสในพุทธศาสนา มารนี้มีความกลัวเป็นข้อสำคัญอยู่ข้อหนึ่งว่าตนจะสิ้นอำนาจครอบครองโลกไม่ประสงค์ให้ใครทั้งนั้นบรรลุ มรรค ผล นิพพาน เพราะเมื่อผู้ใดพ้นโลก หมายถึงว่ามีจิตใจพ้นกิเลสดังกล่าว ผู้นั้นก็พ้นอำนาจของมารทั้งยังเป็นผู้คอยขัดขวางให้เกิดอุปสรรคต่อ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่เสมอ เมื่อวันที่ พระพุทธองค์ เสด็จอออกบวช พญามารตนนี้ได้มาปรากฏตัว ยกมือห้ามว่าอย่าออกบวชเลย อีกไม่นานเท่าไรท่านก็จะได้เป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แล้ว เจ้าชายสิทธัตถะ ทรงขับไล่ออกไป เมื่อครั้งพระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญ ทุกรกิริยา ก็มากระซิบบอกว่า บัดนี้พระองค์ก็บรรลุสัมโพธิญาณดังหวังแล้ว ปรินิพพาน เถอะพระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า พระองค์จะไม่ ปรินิพพาน จนกว่า พรหมจรรย์ (การประพฤติธรรมอันประเสริฐ) ของพระองค์จะแพร่หลายมั่นคง ครั้นเมื่อเงื่อนไขทุกอย่างพร้อมแล้ว พญามารจึงเข้ามากราบทูลให้ ปรินิพพาน เท่ากับทวงสัญญาว่าบัดนี้ถึงเวลาที่พระองค์จะปรินิพพานแล้วพระพุทธองค์จึงทรง ปลงอายุสังขาร

    พญามาราธิราช จะต้องทำบุญไว้มาก ไม่เช่นนั้นก็จะไม่บังเกิดในสวรรค์ชั้นสูงนี้ได้ภายหลังละ มิจฉาทิฏฐิ และกลับมาเลื่อมใสในพุทธศาสนา

    เทวดาชั้นนี้ปรารถนาสิ่งใดไม่ต้องนิรมิตเอง มีเทวดาอื่นที่รับใช้เนรมิตให้ตามต้องการ เป็นภูมิที่มีความสุขและเพลิดเพลินมากเทวดาที่อยู่ในชั้นปรนิมมิตวสวัตตีนี้ไม่มีคู่ครองเป็นประจำโดยเฉพาะตน เป็นที่อยู่ของพวกที่ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นไว้มาก

    ปลงอายุสังขาร ตกลงใจกำหนดการสิ้นสุดอายุ ตกลงพระทัยว่าจะ ปรินิพพาน
    ปลงสังขาร ทอดอาลัยในกายของตนว่าจะตายเป็นแน่แท้แล้ว
    ทุกรกิริยา การทำความเพียรอันยากที่ใคร ๆ จะทำได้ ได้แก่การบำเพ็ญเพียรเพื่อบรรลุธรรมวิเศษด้วยวิธีการทรมานตนต่าง ๆ เช่นกลั้นลม อัสสาสะ (ลมหายใจเข้า) ปัสสาสะ(ลมหายใจออก) และอดอาหาร เป็นต้น เขียนเต็มเป็น ทุกกรกิริยา

    เทวภูมิ หรือ ฉกามาพจรสวรรค์ ทั้ง ๖ ชั้นยังเกี่ยวข้องกับ กามคุณ
    เทวภูมิ ๖ (ฉกามาพจรสวรรค์ ๖)
    ๑. จาตุมหาราชิกา มีเหมือนมนุษย์
    ๒. ดาวดึงส์ มีเหมือนมนุษย์
    ๓. ยามา มีแต่ กายสังสัคคะ (กายสังสัคคะ ความเกี่ยวข้องด้วยกาย การเคล้าคลึงร่างกาย)
    ๔. ดุสิต มีเพียงจับมือกัน
    ๕. นิมมานรดี มีเพียงยิ้มรับกัน
    ๖. ปรนิมมิตสวัตตี มีแต่มองดูกัน
    ในเทวภูมิไม่มีสัตว์เดรัจฉาน และเมื่อต้องการจะมีม้ารถเทียม ก็จะมีเทพบุตรจำแลง กายของเทวดา เรียกว่าเป็นกายทิพย์ เป็นกายสว่างละเอียด ไม่มีปฏิกูล เกิดเป็น อุปปาติกะ คือ ผุดเกิดขึ้น มีตัวตนโตเต็มที่เลย แต่เป็น อทิสสมานกาย คือ การยที่ไม่ปรากฏแก่ตาคนในเทวภูมิบริบูรณ์ด้วยความสุข อายุก็ยืนยาว แก่เจ็บไม่ปรากฏตายก็ไม่ปรากฏซาก จึงเห็นทุกข์ได้ยาก

    เทวดาจะจุตุ มี ๔ ประการ
    ๑. อายุขัย จุติเพราะสิ้นอายุ
    ได้แก่ เทวดาที่ได้เคยสร้างกุศลมาก็ได้เสวยสมบัติทิพย์จนครบอายุทิพย์ในเทวโลกชั้นที่ตนอยู่นั้น ครั้นหมดอายุแล้วก็จุติ
    ๒. บุญญขัย จุติเพราะสิ้นบุญ
    ได้แก่ เทวดาที่สร้างสมบุญกุศลไว้น้อย เมื่อกุศลผลบุญที่ได้กระทำไว้หมดสิ้นลงเสีย แต่ในระหว่างยังไม่ถึงอายุขัย จำต้องจุติไปเกิดที่อื่น เพราะหมดบุญแล้ว
    ๓. อาหารขัย จุติเพราะสิ้นอาหาร
    ได้แก่ เทวดาบางจำพวกที่เสวยทิพย์สมบัติ จนลืมบริโภคสุธาโภชนาหารทิพย์อันเป็นปัจจัยแก่กาย และชีวิตถ้าแม้ว่าเขาลืมบริโภคภายหลังสักร้อยครั้งพันครั้ง ก็มิอาจจะซ่อมแซมให้ดีขึ้นมาใหม่
    ๔. โกธพลขัย จุติเพราะความโกรธ
    ได้แก่ เทวดาบางจำพวกที่มีจิตริษยาหาเหตุพาล มีความโกรธในหัวใจ

    จุตินิมิตของเทวดา ๕ ประการ นิมิตล่วงหน้า ซึ่งอุบัติเกิดแก่เทวดาผู้จะต้องจุติ
    จุติ เคลื่อนจาก ภพ หนึ่งไปสู่ ภพ อื่น ตาย (ส่วนมากใช้กับเทวดา)
    ๑. ดอกไม้ทิพย์เครื่องประดับเหี่ยวแห้ง
    ๒. ผ้าทิพย์เครื่องประดับสำหรับองค์มีสีเศร้าหมอง
    ๓. มีเหงื่อไหลออกมาจากรักแร้
    ๔. ที่นั่งและที่นอนร้อนดุจมีไฟอยู่ภายใต้
    ๕. กายของเทวดาเหี่ยวแห้งเศร้าหมองหารัศมีเช่นก่อนไม่ได้เหน็ดเหนื่อยเมื่อยเนื้อตัวมือตีน มีความกระวนกระวายใจ
     
  10. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ต้นไม้ต้นนั้นแต่อย่าเป็นต้นนี้ละกัน
    The Tree Of Zaqqum

    ความว่า “นั่นเป็นการต้อนรับที่ดีกว่าหรือว่าต้นซักกูม เเท้จริงเราได้จัดทำไว้เป็นการทดสอบเเก่บรรดาผู้อธรรม เเท้จริงมันเป็นต้นไม้ที่เอาออกมาจากก้นบึ้งของนรกที่มีไฟลุกโชติช่วง ผลของมันคล้ายกับหัวของชัยฎอน เเล้วพวกเขาจะกินมันเเละพวกเขาจะเติมมันให้เต็มท้อง เเล้วนอกจากนั้นพวกเขาจะได้น้ำดื่มที่ผสมจากน้ำเดือด เเล้วเเท้จริงทางกลับของพวกเขานั้นย่อมไปสู่ไฟนรกที่ลุกโชติช่วงอย่างเเน่นอน” (อัศศอฟฟาต 37: 62 - 68)

    ดันไปใกล้เคียงที่สุดที่เกิดในกองเพลิงธารลาวา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 6-zaqqum.jpg
      6-zaqqum.jpg
      ขนาดไฟล์:
      150.4 KB
      เปิดดู:
      81
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2015
  11. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ๑-๕-๒๕๕๘
    ๑๘-๐๐
    รู้ชื่อต้นไม้


    ขอให้เป็นพญาไม้ต้นนี้

    เรารู้ว่าต้นไม้ต้นนั้น มีชื่อเรียกในมหานิมิต "Panan panana" อย่างนี้
    ชื่อที่ใกล้เคียงที่สุดคือ Banyan Tree, ต้นไทร ในวงค์ต้นไม้ประจำชาติอินเดีย

    คิลานสูตร
    ก็สมัยนั้นแล จิตตคฤหบดีป่วย เป็นทุกข์ มีไข้หนัก ครั้งนั้น
    แล อารามเทวดา วนเทวดา รุกขเทวดา (และ) เทวดาที่สิงสถิตอยู่ที่ต้นไม้
    เป็นยา หญ้าและพญาไม้ มาร่วมประชุมกันแล้วกล่าวกับจิตตคฤหบดีว่า ดูกร-
    *คฤหบดี ท่านจงปรารถนาว่า ขอให้เราเป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชในอนาคตเถิด
    เมื่อพวกเทวดากล่าวอย่างนี้แล้ว จิตตคฤหบดีจึงได้กล่าวกะเทวดาเหล่านั้นว่า แม้
    การเป็นเช่นนั้นก็เป็นของไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน จำจะต้องละไป ฯ

    เมื่อจิตตคฤหบดีกล่าวอย่างนี้แล้ว พวกมิตรสหายญาติสาโลหิต
    ของจิตตคฤหบดีได้กล่าวกะจิตตคฤหบดีว่า ข้าแต่ท่านผู้เป็นบุตรนาย ท่านจงตั้ง
    สติไว้ อย่าเพ้อไป ฯ
    จิตต. ฉันได้พูดอะไรออกไปบ้างหรือ ที่เป็นเหตุให้พวกท่านทั้งหลาย
    กล่าวกะฉันอย่างนี้ว่า ข้าแต่ท่านผู้เป็นบุตรนาย ท่านจงตั้งสติไว้ อย่าเพ้อไป ฯ
    มิตร. ข้าแต่ท่านผู้เป็นบุตรนาย ท่านได้พูดอย่างนี้ว่า แม้การเป็นเช่นนั้น
    ก็เป็นของไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน จำจะต้องละไป ฯ
    จิตต. จริงอย่างนั้น อารามเทวดา วนเทวดา รุกขเทวดา (และ) เทวดา
    ที่สิงสถิตอยู่ที่ต้นไม้เป็นยา หญ้าและพญาไม้ได้กล่าวกะเราอย่างนี้ว่า ดูกรคฤหบดี
    ท่านจงตั้งปรารถนาว่า ขอให้เราได้เป็นพระเจ้าจักรวรรดิราชในอนาคตกาล ฉันจึง
    ได้กล่าวกะเทวดาเหล่านั้นว่า แม้การเป็นเช่นนั้นก็เป็นของไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน จำจะ
    ต้องละไป ฯ
    มิตร. ข้าแต่ท่านผู้เป็นบุตรนาย ก็อารามเทวดา วนเทวดา รุกขเทวดา
    (และ) เทวดาที่สิงสถิตอยู่ที่ต้นไม้เป็นยา หญ้าและพญาไม้เหล่านั้น เห็น
    อำนาจประโยชน์อะไร จึงได้กล่าวว่า ดูกรคฤหบดี ท่านจงปรารถนาว่า ขอให้
    เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชในอนาคตเถิด ฯ
    จิตต. อารามเทวดา วนเทวดา รุกขเทวดา (และ) เทวดาที่สิงสถิต
    อยู่ที่ต้นไม้เป็นยา หญ้าและพญาไม้เหล่านั้น มีความคิดอย่างนี้ว่า จิตตคฤหบดี
    ผู้นี้เป็นผู้มีศีล มีกัลยาณธรรม ถ้าเธอจักปรารถนาว่า ขอให้เราได้เป็นพระเจ้า-
    *จักรพรรดิราชในอนาคตไซร้ การปรารถนาด้วยใจของเธอผู้มีศีลนี้จักสำเร็จได้
    เพราะศีลบริสุทธิ์ ผู้ประกอบด้วยธรรมย่อมเพิ่มกำลังให้ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม
    อารามเทวดา วนเทวดา รุกขเทวดา (และ) เทวดาที่สิงสถิตอยู่ที่ต้นไม้เป็นยา
    หญ้าและพญาไม้เหล่านั้น เห็นอำนาจประโยชน์ดังกล่าวมานี้ จึงได้กล่าวว่า
    ดูกรคฤหบดี ท่านจงปรารถนาว่า ขอให้เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชในอนาคต
    เถิด ฉันจึงได้กล่าวกะเทวดาเหล่านั้นว่า แม้การเป็นเช่นนั้นก็เป็นของไม่เที่ยง
    ไม่ยั่งยืน จำจะต้องละไป ฯ
    มิตร. ข้าแต่ท่านผู้เป็นบุตรนาย ถ้าเช่นนั้น ขอท่านจงกล่าวสอนพวก
    ข้าพเจ้าบ้าง ฯ
    จิตต. ฉะนั้น พวกท่านพึงศึกษาอย่างนี้ว่า พวกเราจักประกอบ
    ด้วยศรัทธาอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้าว่า แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาค
    พระองค์นั้นเป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ
    เสด็จไปดีแล้ว รู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็น
    ศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกธรรม
    พวกเราจักประกอบด้วยศรัทธาอันไม่หวั่นไหวในพระธรรมว่า พระธรรมอันพระ-
    *ผู้มีพระภาคตรัสดีแล้ว อันผู้ปฏิบัติจะพึงเห็นเอง ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียก
    ให้มาดู ควรน้อมเข้ามา อันวิญญูชนจะพึงรู้เฉพาะตน พวกเราจักประกอบด้วย
    ศรัทธาอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ว่า พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเป็นผู้
    ปฏิบัติดีแล้ว ปฏิบัติตรง ปฏิบัติเป็นธรรม ปฏิบัติชอบ นี่คือคู่แห่งบุรุษ ๔
    ได้แก่บุรุษบุคคล ๘ นี้คือพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค เป็นผู้ควรของคำนับ
    เป็นผู้ควรของต้อนรับ เป็นผู้ควรของทำบุญ เป็นผู้ควรกระทำอัญชลี เป็นนาบุญ
    ของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งไปกว่า อนึ่ง ไทยธรรมทุกชนิดในตระกูล จักเป็น
    ของควรแบ่งกับท่านผู้มีศีล มีกัลยาณธรรม พวกท่านพึงศึกษาอย่างนี้แล ครั้งนั้น
    แล จิตตคฤหบดี ครั้นแนะนำมิตรสหายญาติสาโลหิตให้เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า
    พระธรรม พระสงฆ์ และจาคะแล้ว ได้กระทำกาละ (ตาย) ฯ
    จบสูตรที่ ๑๐
    จบจิตตคหปติปุจฉา ฯ

    ชนิดอื่นๆ
    ต้นไม้ Kalpaต้นไม่อธิษฐาน ,ต้นไม้ Yggdrasilแห่งชีวิต,
    ไม่ก็ ต้นเบาบับ (Baobab Tree) ต้นไม้มหัศจรรย์เป็นยา

    แต่มันคนละไซส์กันเลย มันใหญ่กว่ามาก สูงใหญ่กว่าเป็นพันเป็นหมื่นเท่า สูงเทียมฟ้า สูงกว่าเทือกเขา สูงกว่าภูเขา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2015
  12. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    (k)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • -14-6 (1).jpg
      -14-6 (1).jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.7 KB
      เปิดดู:
      59
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2015
  13. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    จะเข้ามาอ่านไม่ต้องปลด Log out ไอดียูสเซอร์ ก็ได้ เราไม่ได้หวงไม่ได้ตระหนี่ธรรมนี้หรอก นี่เป็นความห่วงใยที่เราจะถ่ายทอดไว้ก่อน ที่เราจะออกบวชจาริกไปเพียงรูปเดียว บาตรเราน่ะไม่มีฝาหรอก(บาตรดินเผา) คิ้วก็ไม่ได้โกน ครองนิสสัย ๔ รักษาศีลอุโบสถ นามของเราในชาติภพนี้ คือ พระ "{O} ธรรมบุตร ธรรมราชา {O}" อ่านออกเสียงให้เป็นมคธ หรือสุทธมาคธีล่ะกัน

    ทุกข์ทนทรมานแต่ต้องไป
    เป็นการ สละภาชนะดิน เพื่อให้ได้ยังภาชนะทอง
    ถึงเวลาก็จะทราบเอง แล้วจะไม่เสียใจที่ได้มีโอกาส ได้เคยคุยได้ เคยด่าทอ เคยได้โต้แย้งด้วย
    ผู้ไม่เห็นอนาคต จะทิ้งปัจจุบันที่เต็มไปด้วย ชีวิตรักครอบครัว ลาภยศสรรเสริญ ความสุขสบายในกามคุณ ๕ อันเป็นโลกียสุข ไปทำไมกัน?
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2015
  14. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    !!
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    แต่ก็ยังไม่ใช่ อินโดนีเซีย ถ้าเกิดที่นั่นแปลว่าหายเรียบแล้ว

    วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2558 20:03น.

    ภูเขาไฟชิลีระเบิดรอบ 3 ทางการสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ไทยเร่งตรวจสอบพลเมืองหวั่นได้รับผลกระทบ
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ภูเขาไฟกัลบูโก ทางตอนใต้ของประเทศชิลีระเบิดขึ้นเป็นรอบที่ 3 ซึ่งก่อนหน้านี้ ภูเขาไฟกัลบูโกไม่มีท่าที่จะระปุทุขึ้นแต่ สำนักธรณีวิทยา เคยประกาศเตือนมาก่อนหน้านี้แล้ว และในที่สุดก็เป็นจริง สำหรับการปะทุในวันนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายนเป็นต้นมา ประชาชนในพื้นที่รอบๆ ภูเขาไฟ ราว 6,000 คน ถูกอพยพออกจากพื้นที่ ตั้งแต่เกิดการระเบิดขึ้นตึ้งแต่ครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ถูกสั่งให้ออกจากพื้นที่อีกครั้ง ขณะที่การทำความสะอาดบ้านเรือนที่ถูกปกคลุมไปด้วยเศษละอองฝุ่น ควันและเถ้าถ่านในครั้งแรก ยังไม่แล้วเสร็จ

    ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมปลาแซลมอนในพื้นที่ รวมถึงกระทบกับการบินทุกเที่ยวบินที่จะเดินทางไปยังประเทสอาร์เจนตินาด้วย ขณะเดียวกันประชาชนที่อพยพออกจากพื้นที่ ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถกลับเข้าไปยังที่อยู่ของตัวเองได้เมื่อไหร่ แต่ทั้งนี้ทางการระบุว่า การระเบิดครั้งหลังสุดนี้ไม่รุนแรงเท่ากับ 2 ครั้งแรก และเชื่อว่าฝนที่คาดว่าจะตกลงมาอย่างหนักในวันศุกร์นี้ จะสามราถทำลายภูเขาไฟลูกนี้ลงได้ พร้อมกันนี้มีการประเมินคาดว่าภูเขาไฟที่ระเบิดครั้งนี้จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้างเป็นเวลานาน

    ด้านกระทรวงต่างประเทศของไทยขณะนี้กำลังตรวจสอบคนว่ามีคนไทยในพื้นที่ได้รับผลกระทบหรือไม่

    ประเทศชิลีเป็นประเทศหนึ่งในทวีปอเมริกาใต้ อย่าพึ่งเลย ทวีปไหนก็ตาม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 615716-01.jpg
      615716-01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.6 KB
      เปิดดู:
      82
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2015
  16. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ความปวดร้าวของพระแม่ธรณีนั้นคงมีมากมายเหลือเกิน เพราะสรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนแต่ฝากไว้ ซึ่งความเจ็บปวดรวดร้าวระทมขมขื่นใจ


    ในพุทธศาสนา พระแม่ธรณีปรากฏกายเพื่อบีบน้ำจากมวยผมให้ท่วมพญามารที่รังควานสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในคืนวันตรัสรู้ ดั่งรายละเอียดตามพระนิพนธ์ในสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรสว่า
    แต่ในชาติอาตมะเป็นพระยาเวสสันดรชาติเดียวนั้น ก็ได้บำเพ็ญทานบารมีถึงบริจาคนางมัทรีเป็นอวสาน พื้นพสุธาก็กัมปนาการถึง 7 ครั้ง แลกาลบัดนี้ อาตมะนั่งเหนืออปราชิตบัลลังก์อาสน์ หมู่มารอริราชมาแวดล้อมยุทธการเป็นไฉนแผ่นพสุธาธารจึงดุษณีภาพอยู่ฉะนี้ แลพระยามารอ้างบริษัทแห่งตนให้เป็นกฎสักขีขานคำมุสา

    แลพื้นปฐพีอันปราศจากเจตนาได้สดับคำอาตมะในครั้งนี้จงรับเป็นสักขีพยานแห่งข้า แล้วเหยียดพระหัตถ์เบื้องขวาอันประดับด้วยจักรลักษณะอันงามดุจงวงไอยรารุ่งเรืองด้วยพระนขามีพรรณอันแดงดุจแก้วประพาฬออกจากห้องแห่งจีวร ครุวนาดุจวิชุลดาในอัมพรอันออกจากระหว่างห้องแห่งรัตวลาหก ยกพระดัชนีชี้เฉพาะพื้นมหินทรา จึงออกพระวาจาประกาศแก่นางพระธรณีว่า

    ดูก่อนวนิดาดลนารี ตั้งแต่อาตมะบำเพ็ญพระสมภารบารมีมาตราบเท่าถึงอัตภาพเป็นพระเวสสันดรราช ได้เสียสละบุตรทานบริจาคแลสัตตสดกมหาทานสมณะพราหมณาจารย์ผู้ใดผู้หนึ่ง ซึ่งจะกระทำเป็นสักขีพยานในที่นี้ก็มิได้ มีแต่พสุนธารนารีนี้แลรู้เห็นเป็นพยานอันใหญ่ยิ่ง เป็นไฉนท่านจึงนิ่งมิได้เป็นพยานอาตมาในกาลบัดนี้

    ในขณะนั้น นางพสุนธรีวนิดาก็มิอาจดำรงกายาอยู่ได้ ด้วยโพธิสมภารานุภาพยิ่งใหญ่แห่งพระมหาสัตว์ ก็อุบัติบันดาลเป็นรูปนารี ผุดขึ้นจากพื้นปฐพียืนประดิษฐานเฉพาะพระพุทธังกุรราช เหมือนดุจร้องประกาศกราบทูลพระกรุณาว่าข้าแต่พระมหาบุรุษราช ข้าพระบาททราบซึ่งสมภารบารมีที่พระองค์สั่งสมอบรมบำเพ็ญมา

    แต่น้ำทักษิโณทกตกลงชุ่มอยู่ในเกศาข้าพระพุทธเจ้านี้ ก็มากกว่ามากประมาณมิได้ ข้าพระองค์จะบิดกระแสใสสินโธทกให้ตกไหลหลั่งลง จงเห็นประจักษ์แก่นัยนาในครานี้ แลนางพระธรณีก็บิดน้ำในโมลีแห่งตน อันว่ากระแสชลก็หลั่งไหลออกจากเกศโมลีแห่งนางพสุนธรีเป็นท่อธารมหามหรรณพ นองท่วมไปในประเทศที่ทั้งปวงประดุจห้องมหาสาครสมุทร พระผู้เป็นเจ้ารักขิตาจารย์จึงกล่าวสารพระคาถาอรรถาธิบายความก็เหมือนนัยกล่าวแล้วแต่หลัง

    ครั้งนั้น หมู่มารเสนาทั้งหลายมิอาจดำรงกายอยู่ได้ ก็ลอยไปตามกระแสน้ำปลาตนาการไปสิ้น ส่วนคิรีเมขลคชินทรที่นั่งทรงองค์พระยาวัสวดีก็มีบาทาอันพลาดมิอาจตั้งกายตรงอยู่ได้ ก็ลอยตามชลธารไปตราบเท่าถึงมหาสาคร อันว่าระเบียบแห่งฉัตรธวัชจามรทั้งหลาย ก็ทักทบท่าวทำลายล้มลงเกลื่อนกลาดและพระยามาราธิราชได้ทัศนาการเห็นมหัศจรรย์ ดังนั้น ก็บันดาลจิตพิศวงครั่นคร้ามขามพระเดชพระคุณเป็นอันมาก พระคันถรจนาจารย์จึงกล่าวพระคาถาสรรเสริญคุณานุภาพโพธิสัตว์อรรถาธิบายความก็ซ้ำหนหลัง

    ครั้งนั้นมหาปฐพีก็ป่วนปั่นปานประหนึ่งว่าจักรแห่งนายช่างหม้อบันลือศัพท์นฤนาทหวาดไหวสะเทือนสะท้าน เบื้องบนอากาศก็นฤโฆษนาการ เสียงมหาเมฆครืนครั่นปิ่มปานจะทำลายภูผาทั้งหลาย มีสัตตภัณฑ์บรรพต เป็นต้น ก็วิจลจลาการขานทรัพย์สำเนียงกึกก้องทั่วทั้งท้องจักรวาล ก็บันดาลโกลาหลทั่วสกลดังสะท้าน ปานดุจเสียงป่าไผ่อันไหม้ด้วยเปลวอัคคี ทั้งเทวทุนทุภีกลองสวรรค์ก็บันลือลั่นไปเอง เสียงครืนเครงดุจวีหิลาชอันสาดทิ้ง ถูกกระเบื้องอันเรืองโรจน์ร้อนในกองอัคนี การอัสนีบาตก็ประหารลงเปรี้ยง ๆ เพียงพื้นแผ่นปฐพีจะพังภาคดังห่าฝน

    ถ่านเพลิงตกต้องพสุธาดลดำเกิงแสงสว่างหมู่มารทั้งหลายต่าง ๆ ตระหนกตกประหม่า กลัวพระเดชานุภาพแพ้พ่าย แตกขจัดขจายหนีไปในทิศานุทิศทั้งปวงมิได้เศษ แลพระยามาราธิราชก็กลัวพระเดชบารมี ปราศจากที่พึ่งที่พำนักซ่อนเร้นให้พ้นภัยหฤทัย ท้อระทดสลดสังเวชจึงออกพระโอษฐ์สรรเสริญพระเดชพระคุณพระมหาบุรุษราชว่า ดังอาตมาจินตนาการอันว่าผลทานศีลสรรพบารมีแห่งพระสิทธัตถกุมารนี้ ปรากฏอาจให้บังเกิดมหิทธฤทธิ์สำเร็จกิจมโนรถปรารถนาทุกประการ มีพระกมลเบิกบานแผ่ไปด้วยประสาทโสมนัส จึงทิ้งเสียซึ่งสรรพาวุธประนมหัตถ์ทั้ง 2,000 อัญชลีกรนมัสการ

    ก็กล่าวสารพระคาถาว่า นโม เต ปุริสาชญญ เป็นอาทิ อรรถาธิบายความว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ปุริสาชาไนยชาติเป็นอุดมบุรุษราชในโลกนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายวันทนาการชุลีพร้อมด้วยทวารทั้ง 3 คือกายวจีมโนประณามประณตในบทบงกชยุคลบาท บุคคลผู้ใดในมนุษย์โลกธาตุกับทั้งเทวโลก ที่จะปูนเปรียบประเสริฐเสมอพระองค์คงเทียมเทียบนั้นมิได้มี พระองค์ได้ตรัสเป็นพระศรีสรรเพชญ์เสร็จแจ้งจตุราริยสัจจ์ศาสดาจารย์มีพระเดชครอบงำชำนะหมู่มาร เป็นปิ่นปราชญ์ฉลาดในอนุสัยแห่งสรรพสัตวโลกจะข้ามขนนิกรเวไนย์ให้พ้นจตุรโอฆกันดารบรรลุฝั่งฟากอมฤตมหานฤพานอันเกษมสุขปราศจากสังสารทุกข์ในครั้งนี้ แลพระยาวัสวดีมารโถมนาการพระคุณพระมหาบุรุษราชด้วยจิตประสาทเลื่อมใส ผลกุศลนั้นจะตกแต่งให้ได้ตรัสแก่พระปัจเจกโพธิญาณในอนาคตกาลภายหน้า เมื่อพระยามารกล่าวสัมภาวนากถาสรรเสริญคุณพระโพธิสัตว์ แล้วก็นิวัตตนาการสู่สกลฐานเทวพิภพ

    ครั้งนี้ เป็นพญามารตนใหม่สินะ ช่างไม่รู้เรื่องราว ไม่สนใจใครหน้าไหนจริงๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2015
  17. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,285
    ค่าพลัง:
    +1,506
    เขียน ๐.๑๒

    ไม่เท่าไหร่หรอกน่า ลืมกฏอนิจจังไปแล้วหรือไร ท่าน
    ทุกสิ่งไม่เที่ยง สิ่งที่ท่านเห็นมา ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้

    จักรวาลสร้างทุกสิ่งมาตั้งนาน จะมาทำลายทิ้งง่ายๆ มิได้หรอก
    โดยเฉพาะ ในนิทาน ของ "นักรบแสง แห่งหมู่บ้านในนิทาน"
    พระเอกเค้าเก่งมากนะ ขอบอก ถึงไม่หล่อแต่เร้าใจ ๕๕๕
    เอาอยู่น่า หึหึหึ

    ขอยกกลอนมนตราบทนึง เพื่อเป็นกำลังใจแก่ท่านละกันนะ ว่า


    ...ลืมไปได้เลย เรื่องภัยพิบัติ ฉันฝันว่าจัด การมันจนสิ้น
    ไม่ว่าเรื่องน้ำ หรือเรื่องแผ่นดิน ชั้นจัดการสิ้น ไม่ดิ้นรุนแรง
    จะเรื่องดาวหาง หรือดาวผลุบโผล่ ดาวชวนโมโห ผลุบโผล่กวนทีน
    ชั้นเป่าโอมเพี๊ยง โคจรเอียงซักมิล โลกพ้นด้วยกสิณ แล้วนอนดิ้นไปมา

    ...เรื่องแผ่นดินไหว ก็จงวางใจ เราจำฝันได้ ฝันดีติดตา
    เรามองขวาซ้าย คิดไปคิดมา กาวช้างนี่หละหวา เอามาเชื่อมแผ่นดิน
    หยอดหยอดมันเข้าไป ในร่องของแผ่นดิน เชื่อมไว้ไม่ให้ดิ้น แถวแผ่นดินอินโด
    นี่คือเรื่องจริง ที่มันได้เกิด ฉันฝันเตลิด แล้วนอนดิ้นไปมา

    ...เรื่องฝนเรื่องน้ำ ก็ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันฝันตอนง่วง ในห้วงนิทรา
    ว่าได้ตีซี๊ พี่น้องนาครา เรื่องน้ำเรื่องท่า เดี๋ยวนาคราโชว์พาว
    หรือเรื่องพายุ ลูกใหญ่มหึมา มังกรของข้า เลี้ยงมารับมือ
    แค่ส่งขึ้นฟ้า เมฆาครางฮือ ฉันฝันตาปรือ แล้วนอนดิ้นไปมา

    ...เห็นคนอื่นเล่า เรื่องราวที่ฝัน เราก็มีเหมือนกัน เลยแบ่งปันกันมา
    แต่ว่าในฝัน ฉันมักรู้ตัว ไม่ได้พูดมั่ว รู้ตัวไม่ได้ฝัน
    ภาพที่ฉันเห็น ชัดเจนเต็มที่ ดุจดั่งทีวี เฮชดีพลาสม่า
    นี่ว่าเรื่องฝัน ไม่ใช่เรื่องจริง เล่าเสร็จจนสิ้น เดี๋ยวจะนอนดิ้นไปมา
    ๕๕๕


    พระเอก เค้าร่ายเวทย์กลอนมนตราบทนี้ ออกมาสู้กับปี 2012 น่ะครับ
    หยุดกระแสวิตกกังวลของโลก ได้ชะงัดเลย ขอบอก (ว่าในนิทาน ๕๕๕)


    กระต่ายป่า ข้างวัด / น็อต ตรามนุษย์

    .
     
  18. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    เหล็กแดงเผาไฟอุณหภูมิร้อน เห็นระยะไกลหรือจากคำบอกเล่า ไม่น่ากลัวเท่ากับตอนที่ถูกจับมัดแล้วเขาเอามานาบ มาแทง ลูกตา ใบหน้าและร่างกาย

    ปากบอกว่าไม่กลัว ใครไหนเล่าเอยจะเพิกเฉยได้หมด



    วันเทโวโรหณะ ถ้าไม่ได้พระพุทธานุภาพห้อมล้อมครอบไว้ สรรพสัตว์มีหรือจะไม่แตกตื่น กาลนี้แตกต่างเพียงไรแล้ว เรามามือเปล่าและมีมือเปล่าและต้องไปมือเปล่าก็จริง แต่แน่ใจหรือว่า ตอนนี้พร้อมรับชะตากรรมกันทุกผู้ทุกตัวตน

    เรื่องนี้ไม่สนุกหรอก เชื่อสิ ไม่จบแบบ HAPPY ENDING แน่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,618
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    กําลังอ่านอีกกระทู้ของท่าน หายไปต่อหน้าต่อตาเลย แต่อ่านจบพอดี:cool:
     
  20. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    HA HA....!?

    ก็ยังดีนะ ที่หลายท่านได้อ่านผ่านหูผ่านตาบ้าง สำหรับกระทู้นั้น คนที่เข้าใจที่สุด กลัวที่สุด แหยงที่สุด ก็จะเป็นกลุ่มวัดสามแยก เพราะเขียนล่วงหน้าก่อนไปบวช๑เดือน เพื่อพิจารณาธรรมขั้นสูง [คือไม่ละธรรม๕ไม่ได้ รู้ตั้งแต่๒วันแรก] คือเจาะจงเล่นงานเกษมที่แอบอ้างเป็นพระยาธรรมิกราช ด้วยลูกศิษย์ส่งเสริมก็ดี เพราะเตือนแล้วไม่ฟัง พระยาธรรมิกราชที่ไหน? จะเปิดธรรมสอนผู้อื่น โดยนำพระไตรปิฏกที่ไม่สมบูรณ์พร้อม ที่ตีพิมพ์ในโลกมนุษย์มาเปิดสอนธรรมของพระยาธรรมิกราช เรารู้ดีว่าอาการควบคุมตนเองไม่ได้ อยู่อย่างไร้สติมันเป็นเช่นไร? ฤทธิ์นี้เป็นความวิบัติฟุ้งซ่านมาก เป็นการลงโทษในฐานะธรรม
    เคยเตือนมาตลอด ไม่ยอมฟังแล้วบอกจะทำงานรอ งั้นจงไปรอ ผู้ที่จะคืนฐานะให้ได้ มีเพียงผู้นั้นเท่านั้น ถ้าสำเร็จจริง นี่หมายถึงกรณีโดนฤทธิ์นั้นเข้าไปทั้งคู่น่ะนะ (เปิดกรรมเก่า และใหม่ กรณีจาบจ้วงภิกษุณี ผลเลยต้องออกมาต่ำกว่าสตรี )เพราะภาพจะชัดเจน บันทึกไว้หมด รู้เจตนา ดูออกหมด ว่าจริงหรือเท็จ จับผิดจับถูกได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...