ทาน 4 ส่วน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย tritinnapob, 23 ธันวาคม 2014.

  1. tritinnapob

    tritinnapob เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    107
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,286
    หลวงพ่อค่ะ แล้วที่เขาบอกว่าก่อนจะเอาเงินทำบุญทำทานต้องแบ่งเป็น 4 ส่วนก่อน หมายความว่าอย่างไรคะ.....?

    ในเรื่องพระเวสสันดร การให้ทานพระพุทธเจ้าบอกว่าต้องแบ่ง 4 ส่วน คือ
    1. ชำระหนี้เก่า
    2. เป็นเจ้าหนี้ใหม่
    3. ฝังไว้
    4. ทิ้งเหว

    ชำระหนี้เก่าคือ คือบิดามารดาและผู้มีพระคุณ ต้องสงเคราะห์ท่านตามกำลัง

    เป็นเจ้าหนี้ใหม่ ลูกสาวลูกชายต้องสงเคราะห์ใช่ไหม

    ฝังไว้ สร้างความดีในส่วนกุศล

    ทิ้งเหว คือกินทั้ง 4 อย่างนี้ ใช้ 4 หารไม่ได้นะ ต้องดูความเหมาะสมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห่วงให้มากคือทิ้งเหว ตัวนี้ถ้าน้อยเกินไปมันจะเดือดร้อนมันเบียดเบียนตัวเอง

    ต้องแบ่งส่วนให้เหมาะสม
    การทานพระพุทธเจ้าบอกว่า อย่าให้เบียดเบียนตัวเอง ถ้าเบียดเบียนตัวเอง อัตตกิลมถานุโยค เป็นการทรมานตัว
    และการให้ทานพระพุทธเจ้าให้ดูอีกว่า ควรให้หรือไม่ควรให้ ถ้าให้ในเขตของคนเลวอานิสงค์น้อย อาจจะไม่มีเลย รู้ว่าคนนี้ควรจะให้เราก็ให้ ถ้าไม่ควรให้เราก็ไม่ให้ ให้แล้วไปกินเหล้า เมายา ไปสร้างอันตรายกับคนอื่นเราไม่ให้ดีกว่า เป็นการต่อเท้าโจร

    เวลาจะให้ท่านว่างกฎไว้อย่างนี้
    1.ผู้ให้บริสุทธิ์
    2.ผู้รับบริสุทธิ์
    3. วัตถุทานบริสุทธิ์

    ของดีก็ตาม ของเลวก็ตามมีอานิสงค์มาก อานิสงค์คือความดี ความชื่นใจมาก

    ถ้าผู้ให้บริสุทธิ์ ผู้รับบริสุทธิ์ วัตถุทานไม่มีความบริสุทธิ์ ความดีน้อยลง

    แต่ผู้ให้บริสุทธิ์ ผู้รับไม่บริสุทธิ์ วัตถุทานไม่บริสุทธิ์ ให้บาทหนึ่งจะได้สักสตางค์หรือเปล่าก็ไม่รู้

    รวมความว่าต้องบริสุทธิ์ 3 อย่าง ถ้าลดไปอย่างใด อย่างหนึ่งอานิสงส์ก็ลดตัวตัวลงมา ถ้าลดเสียหมดเลยก็ไม่มี

    แต่ว่าทาน พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้อีกประเภทหนึ่งต้องครบ 3 กาลจึงจะมีอานิสงค์


    อนาถบิณฑิกเศรษฐี
    มีเรื่องเล่าว่าในสัมยหนึ่ง เมื่อท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีจนลงเพราะเคราะห์กรรมบางอย่างทำลายท่าน เงินที่เขากู้ไปก็โกง ไอ้คนที่อยู่ภายในบ้านมันก็ขโมยของ ทรัพย์ที่ฝังไว้ชายทะเลชายแม่น้ำ แผ่นดินก็พังทรัพย์จมไปทั้งหมด ท่านจนขนาดข้าวเป็นเม็ดแทบไม่มีกิน ต้องกินปลายข้าว

    แต่ว่าท่านศรัทธาของท่านไม่ถอย ท่านนิมนต์พระพุทธเจ้าพร้อมไปด้วยพระสงฆ์ไปฉันภัตตาหารที่บ้าน ท่านก็เอาปลายข้าวละเอียดเรียกว่าข้าวปลายเกวียนต้ม แล้วก็เอาผักดวงเปรี้ยวๆเค็มๆ ทำมาถวาย พระพุทธเจ้า พุทธเจ้าก็ฉันแบบนี้เหมือนกัน

    เวลาที่พุทธเจ้าฉันอยู่ท่านก็นั่งใกล้ๆ กราบทูลพระพุทธเจ้าว่าเวลานี้ทานของข้าพระพุทธเจ้าเศร้าหมอง พระพุทธเจ้าข้า พระพุทธเจ้าถามว่า เธอมีเจตนายังไง ก่อนจะให้เธอมีความรู้สึกยังไง ท่านจึงได้บอกว่า ก่อนจะให้เต็มใจพร้อมเสอม เตรียมใจก่อนแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...