ทำดีให้ดีปรากฏ (ท่านปิยโสภณ)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย TupLuang, 6 กันยายน 2008.

  1. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    [​IMG]

    ข้าพเจ้าเขียนหนังสือเรื่อง
     
  2. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    การทำดีคือการปลูกไม้ยืนต้น กว่าจะให้ผลต้องใช้เวลานาน บางครั้ง ต้องใช้เวลาให้ผลข้ามภพข้ามชาติ ดูตัวอย่างการสร้างบารมีของพระพุทธองค์ กว่าจะบรรลุธรรมเป็นพระพุทธเจ้า ต้องเกิดตายหลายภพ เพื่อสร้างบารมีอย่างต่อเนื่อง นั่นเป็นการพิสูจน์เรื่องกรรมและการให้ผลของกรรมที่ดียิ่ง

    การทำดีในโลกปัจจุบัน ผลที่ต้องการมักเป็นไปคนละด้าน บางคนทีดีเพื่อความดี แต่มีไม่น้อยทำดีเพื่อเอาเด่นเอาดังเอาผลเป็นโลกธรรม

    .............การทำดีให้ปรากฏผล โดยที่คนไม่ปรากฏตัว เป็นการปิดทองหลังพระ เป็นการทำดีแท้ เมื่อใดดียังไม่ปรากฏผล แต่คนปรากฏตัว ความดีจะวิ่งหนี เหลือเพียงความเด่นดัง ความดีให้ผลสุขใจ แต่เด่นดังจะมีภัยจากอิจฉา
    .............ชาวพุทธทุกคน ได้รับคำสอนทางพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เด็กว่า
     
  3. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    มีไฟล์เสียงอ่านให้ฟังด้วยครับ ประมาณครึ่งชั่วโมง

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.395191/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    นึกว่าตรงนี้ปิดกระทู้ไปแล้ว
    การทำความดีนี้ก็เหมือนศีลเลยขอรับ
    ศีลแปรว่าปกติมีห้าข้อ
    ความดีมีข้อเดียวและมากกว่าศีลเยอะแยะแต่มีหัวใจอยู่สามอย่างคือ...กาย..วาจา..ใจ..รักษาให้ดีและสะอาด

    ในบรรดาผู้ที่รักความสงบอย่างนักปฏิบัติคือรักษาความดีเป็นปกติหากทำไม่ดีผิดปกติเท่านั้นในตัวเองเหมือนการรักษาศีล

    ในประเด็นที่ว่าทำดีเพื่อหวังผล....ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์ทางโลกหรืออรูปทรัพย์ทางโลกคือคำชม.....หากเป็นนักปฏิบัติที่แท้จริงแล้วคงไม่อยากเอามาเป็นสิ่งยึดเกาะหรือเปื้อนอารมณ์เปื้อนกายอีกเป็นแน่เพราะ..........ต้องการที่จะตัดทรัพย์สิ่งที่เปรียบดังอาสวะที่มีตัวตนและไม่มีตัวไม่มีตนเหล่านี้ออกไปจากความคิดและออกไปจากชีวิตเพื่อลดความยุ่งยากในการปฏิบัติ...และคงทำ........บวกกับความต้องทำเพราะหลักพรมวิหารสี่นั้นมากมายในตัวของท่านหรือบุคคลที่เรากล่าวถึง

    ในเหล่าบรรดาท่านที่หลบตนซ่อนตัวอยู่ท่านคงต้องการความสงบมากกว่าเพื่อปฏิบัติให้เสร็จสิ้น....บรรดาท่านที่ไม่หลบ.........รู้บ้างไม่รู้บ้างแต่มีพรมวิหารสี่เช่นกันก็บิดเบี้ยวไปบ้าง...ขาดวิ่นไปบ้างกับความรู้สึกที่สนองตอบกับการกระทำความดีนั้นแล้วได้รับผลสนองตอบไปในทางที่ไม่ดี.....ซึ่งกระทบเพียงเปลือกภายนอกเท่านั้นเนื้อแท้หาได้กระเทือนไม่...ขัดเกลาอีกก็เหมือนเดิมดุจคำว่าทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟในเมื่อเรามีจิตเจตนาที่ดีแล้วก็คือทำความดีหากเราๆท่านๆผิดตรงไหนเราก็เข้าไปแก้ไขผู้ที่เขาเป็นคนดีจริงๆเขาย่อมรู้ย่อมเข้าใจเป็นแน่แท้....อีกประการเปลือกข้างนอกจะเอาผ้าขี้ริ้วห่อข้างในก็คือทอง....และคงกำหนดไม่ได้ว่าความดีนั้นคือทอง.....เพราะบางครั้งเราก็ต้องเอาสิ่งอื่นมาประกอบที่ไม่ใช่ทองเพื่อทำให้เกิดทองเพราะทองมีส่วนผสมอยู่.....และความดีก็ไม่ใช่ทองไม่มีรูป....สิ่งที่เรานำมาประกอบอาจจะเป็นไฟไปเผาเขาเพื่อให้ได้ทองก็ได้.....แต่เบื้องต้นเขาอาจจะไม่รู้ว่าเป็นการกระทำบนความดี

    ขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณท่านปิยโสภนยิ่งแล้วขอรับ...ที่โพสหัวข้อกระทู้อันมีค่านี้เพื่อเหล่าบรรดามิตรรักเหล่าสหายธรรมทั้งหลาย....กระผมขอเสนอความคิดเห็นแบบกลางๆไว้ด้วยในที่นี้...หวังว่าเหล่ามิตรรักสหายธรรมท่านคงพิจารณาไตร่ตรองก่อน...เพื่อเป็นประโยชน์บนความไม่ประมาทขอรับ

    กระผมเข้ามาเพิ่มอีกนิดคือคนปรากฎตัวดีแท้จะวิ่งหนี
    เป็นความจริงอย่างยิ่ง
    เพราะหากใครไม่ปิดทองหลังพระ......เอาทองสักสิบกิโลไปปิดแล้วจะมีแต่ผู้คนวนเวียนไปทั้งกิเลสและไม่กิเลสจนต้องหมดความสงบสุขในชีวิตและการปฏิบัติเป็นแน่...ดังนั้นหากเราทำดีด้วยการปิดทองหลังพระเสียก็ย่อมเป็นผลดีประการหนึ่ง

    กิเลสไม่มีตัวตนแล้วธรรมมะมีตัวตนสู้กับกิเลส.....หากกิเลสมีตาคงเห็นธรรมมะในที่สว่างหรือที่โล่งแต่ธรรมมะบางครั้งบางทีก็ไม่อาจเห็นกิเลสได้.....เมื่อเห็นกิเลสแล้วบางทีบางท่านก็จวนตัวทุกครั้งเมื่อเผลอหรือขาดสติ.....ดังนั้นหากธรรมมะไม่มีตัวมีตนคงเป็นการดียิ่งกว่าการไปทำให้กิเลสรู้จักแล้วไม่กลัว....หากธรรมมะไม่มีตัวตนกิเลสต้องกลัวเพราะหากกิเลสมาวันใดธรรมมะขจัดวันนั้นได้เช่นกันและตลอดไป....ดังนั้นธรรมมะต้องไม่มีตัวมีตนเช่นกันมีตัวตนไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2008
  5. ttt2010

    ttt2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +904
    อนุโมทนาสาธุครับ หวังว่าจะมีบอร์ดดีๆมาให้ได้ชมกันอีก
     

แชร์หน้านี้

Loading...