ทำบุญง่ายๆตามภาษาคน(ไม่ค่อย)มีเวลา

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย na_krub, 27 เมษายน 2012.

  1. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916
    ผมเห็นว่ามีประโยชน์ดีเลยเอามาฝากครับ เหมาะสำหรับกับมนุษย์เงินเดือนจริงๆ

    พูดถึงเวลาถ้าเราจะทำบุญ คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึง การตักบาตรพระหรือเข้าวัดทำบุญเป็นส่วนมาก แต่ถ้าหากว่าเราไม่ค่อยมีเวลาตักบาตรพระหรือเข้าวัดทำบุญ ก็เลยเสียโอกาสในการสะสมบุญของเรา

    วันนี้จึงมีเรื่องเล่าให้ทุกๆคนได้อ่านพิจารณากัน เผื่อจะได้แง่มุมใหม่ๆในการสร้างบุญสร้างกุศลสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือมีเวลาทำเป็นปกติอยู่แล้ว แต่มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้ได้อ่าน เพื่อจะได้เข้าใจว่า ถ้าเราทำอย่างที่บอกต่อไปนี้ เราจะได้อะไรบ้าง?

    เชื่อว่าที่บ้านของทุกคนจะต้องมีหิ้งพระบูชาหรือโต๊ะหมู่บูชา แต่ถ้าไม่มีให้หารูปพระมาติดไว้ที่ผนังบ้านก็ได้ จากนั้นให้เราหาขัน หรือกระปุกออมสิน หรือบาตรพระพลาสติก(ที่ร้านสังฆทานจะมีขาย เป็นบาตรพลาสติกเจาะรูเหมือนกระปุกออมสิน) ทุกวันให้เราทุกคนสละเวลาเพียงวันละประมาณ ๒o-๓o นาที สวดมนต์ไหว้พระเวลาไหนก็ได้ที่เราว่างเราสบายใจ เช้า สาย บ่าย เย็น หรือก่อนนอนก็ได้ โดยเราเริ่มสวดจากบท

    อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ
    อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะยามิ
    อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชะยามิ

    อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)
    สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ)

    ต่อไปก็ตั้ง นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)

    ระหว่างที่ตั้งนะโม ก็ให้เราเอาเงินมาจบไว้ที่มือจะกี่บาทก็ได้ ๕ บาท ๑O บาทหรือจะมากกว่านั้นก็"ด้ตามศรัทธาจากนั้นก็เริ่มสวด

    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

    ต่อจากนั้นก็เริ่มสวด บทถวายพรพระ
    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
    วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
    อนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ
    สัตถาเทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ

    สะหวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฺฐิโก
    อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง
    เวทิตัพโพ วิญญูหีติ

    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
    เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย
    ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย
    อนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ

    ถ้ามีเวลา ให้สวดบทพาหุง มหากา ต่อจบแล้วให้กลับมาสวด พระพุทธคุณบทเดียว ๙ จบ หรือเท่ากับอายุบวกหนึ่ง

    ถ้าไม่มีเวลา ให้กลับมาสวดบทพระพุทธคุณบทเดียว ๙ จบ หรือเท่ากับอายุบวกหนึ่ง

    ต่อจากนั้น ตั้งสมาธิจิตสักระยะหนึ่ง แล้วอธิษฐานจิตเสร็จ เอาเงินที่เราจบไว้ที่มือใส่เข้าไปในภาชนะที่เราเตียมเอาไว้ที่หิ้งพระหรือที่โต๊ะหมู่บูชา เสร็จแล้วแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลทุกครั้ง ทำอย่างนี้ทุกวันอย่าให้ขาด

    ถามว่าเราจะได้อะไรจากการปฏิบัติอย่างนี้?
    ๑ ถามว่า ขณะที่เราสวดมนต์อยู่นั้นเราสวดมนต์บูชาใคร? ตอบ เราสวดมนต์บูชาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขณะที่สวดจิตเราก็น้อมอยู่กับพระรัตนตรัย ขณะนั้นจิตเรามี พุทธานุสสติ, ธัมมานุสสติ, สังฆานุสสติ ได้แล้วกรรมฐาน ๓ กอง
    ๒ ขระที่สวดมนต์อยู่นั้นเราสวดมนต์ด้วยจิตที่มีอาการสำรวม มีความตั้งใจในการสวด ถามว่า อาการที่จิตสำรวม มีความตั้งใจในการสวดนั้น เป็นอาการของอะไร? ตอบ เป็นอาการของสมาธิ ได้แล้วสมาธิเบื้องต้น
    ๓ ขณะที่สวดมนต์ด้วยจิตที่มีอาการสำรวม มีความตั้งใจ จิตของเราก็คอยนึกถึงระวังไม่ให้หลงลืมในบทสวด ถามว่า อาการที่คอยนึกถึงระวังไม่ให้หลงลืมในบทสวดนั้นเป็นอาการของอะไร? ตอบ เป็นอาการของสติ ได้ฝึกสติในการสวดมนต์ไปในตัว
    ๔ ขณะที่เราสวดมนต์เสร็จตั้งจิตเป็นสมาธิอธิษฐานจิต เอาเงินที่จบใส่ลงไปในภาชนะที่ได้เตรียมไว้เป็น ทานบารมี อธิษฐานบารมี ซึ่งก็วกเข้ามาเรื่องของบารมี ๑o ทัศ

    บารมี แปลว่าอะไร? ความดีที่ควรบำเพ็ญซึ่งประกอบด้วย
    ๑) ทานบารมี ๒) ศีลบารมี ๓) เนกขัมมะบารมี ๔) ปัญญาบารมี ๕) วิริยะบารมี
    ๖) ขันติบารมี ๗) สัจจะบารมี ๘) อธิษฐานบารมี ๙) เมตตาบารมี ๑o) อุเบกขาบารมี
    ถ้าจะถามว่า การที่เราสวดมนต์ไม่กี่นาทีตรงนี้ เราจะได้บารมีอะไรบ้าง?
    ตอบ ๑. ขณะที่เราสวดมนต์เสร็จเราทำทาน คือ เอาเงินที่จบใส่ในขัน เป็นทานบารมี
    ๒. ขณะที่เราสวดมนต์อยู่ในขณะนั้นเราไม่ได้ทำบาปกรรมกับใคร มีศีลอยู่ในขณะที่สวดเป็น ศีลบารมี
    ๓. ขณะที่เราสวดมนต์อยู่จิตเราปราศจากนิวรณ์มารบกวนใจ ถือว่าเป็นการบวชใจ เป็นเนกขัมมะบารมี
    ๔. ถ้าจะถามว่า การที่เราสวดมนต์ไหว้พระ เราทำด้วยความงมงายหรือไม่? ตอบ เราทำด้วยความศรัทธา ทำด้วยปัญญาที่เห็นว่ามันเป็นประโยชน์ช่วยฝึกจิตฝึกใจให้เกิดสติ มีสมาธิเป็น ปัญญาบารมี
    ๕. ถ้าเราไม่มีความเพียร เราก็ทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องมีความเพียรเป็น วิริยะบารมี
    ๖. มีความเพียรแล้ว ไม่มีความอดทน ความเพียรก็ตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องมีความอดทน ความอดทนเป็น ขันติบารมี
    ๗. มีความเพียร มีความอดทนแล้ว แต่ขาดสัจจะในการกระทำ หมายถึง ความจริงใจ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมีความจริงใจในการประพฤติปฏิบัติ ความจริงใจเป็น สัจจะบารมี
    ๘. เมื่อเราสวดมนต์เสร็จทำสมาธิ ตั้งจิตอธิษฐาน การอธิษฐานเป็น อธิษฐานบารมี
    ๙. ใส่บาตรเสร็จก็ต้องแผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศล การแผ่เมตตาเป็น เมตตาบารมี
    ๑o. ขณะที่แผ่เมตตา เราก็ต้องทำใจให้เป็นเมตตาไม่มีประมาณในสัตว์ทั้งหลาย ทำใจให้เป็นพรหมวิหาร อุเบกขา วางเฉย อโหสิกรรมกับบุคคลที่เราได้เคยล่วงเกินกันมา ไม่โกรธใคร ไม่เกลียดใคร ไม่ชอบใคร ไม่ชังใคร ทำใจให้นิ่ง ทำจิตให้สงบเย็น วางจิตให้เป็นอุเบกขาเป็น อุเบกขาบารมี (คือ อุเบกขาที่ทรงด้วยพรหมวิหาร)

    เห็นไหมครับ เพียงแค่สวดมนต์เพียงไม่กี่นาทีต่อวัน เราก็ได้บารมีครบถ้วน และสิ่งเหล่านี้เองก็จะสะสมในใจของเราที่ละเล็กละน้อย เหมือนเราเก็บเงินวันละบาท ๑O วันก็ได้ ๑O บาท แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย เราก็จะไม่ได้อะไรเลย แล้วเงินที่เราหยอดทุุกวันที่ได้จากการสวดมนต์ ก็เหมือนกับเราได้ใส่บาตรทุกวัน โดยมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน เมื่อมีโอกาสเข้าวัด เราก็เอาเงินนั้นแหละไปทำบุญ หยอดตู้บริจาค ซื้อของถวายพระงฆ์ ได้ซองผ้าป่ามาเราก็เอาเงินที่เราสวดมนต์นั้นแหละใส่เข้าไปในซองผ้าป่า หากมีการสรา้งพระ สร้างหนังสือธรรมมะ หรืออะไรต่างๆที่เป็นสาธษรณะประโยชน์ก็เอาเงินที่เราหยอดทุกวันนั้นแหละไปทำบุญ ได้อานิสงฆ์มากแล้วจิตของเราก็จะติดอยู่กับกุศลทุกวัน เมื่อถึงเวลามันก็จะรวมเข้าในจิตของเราเป็นหนึ่งเดียว

    มีหลายคนที่แนะนำให้ไปทำ ปรากฎว่าทำแล้วจิตมีสมาธิมากขึ้น มีสติดีขึ้น จากคนที่ใจร้อน ก็ทำให้จิตใจมีอารมณ์เยือกเย็นขึ้น จะคิดทำอะไรก็รู้สึกว่าคล่องตัวมีคนช่วยเหลือ

    ก็ฝากไว้เป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาทำบุญตักบาตรพระ หรือเข้าวัด ถ้าท่านเห็นว่ามีประโยชน์ ก็พยายามเจริญศรัทธาให้มาก ปฏิบัติให้ได้ทุกวันแล้วท่านจะเห็นผลได้ในไม่ช้าอย่างแน่นอนโดยไม่ต้องสงสัย

    อ้างอิง แหล่งที่มา จากหนังสือธรรมมะทางสายเอก ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๑๕ มิถุนายน-ธันวาคม ๒๕๔๕

    สำหรับผู้ที่สงสัยไม่มากก็น้อย ซึ่งคงตอบคำถามได้ส่วนหนึ่งในการทำบุญและอานิสงฆ์ที่ได้จากการสวดมนต์ คงได้ประโยชน์และนำไปใช้ นำไปปฏิบัติกัน

    อนุโมทนาสาธุกับผู้เขียนและผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  2. E22HPS

    E22HPS Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +37
    เป็นอีกแนวทางขอบคุณครับ
     
  3. vaddee

    vaddee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +443
    mo..ta...na..kha ../\..
     

แชร์หน้านี้

Loading...