ทำไมจึงเรียกว่าอารมณ์ญาณ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ม้าไม้, 13 กรกฎาคม 2019.

  1. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,571
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ไอ้่ถั่วงอก มันไม่สดุ้งหรอก เพราะมันอุปโหลก (มโนในกะโหลก) ว่ามันเป็นประเภท "โคติสัตว์"
    +++ หลังจากมัน "มโนหลอนในหัวกะโหลก" เสร็จแล้ว มันก็เอา "มโนในกะโหลก" มาหลอนคนอื่นต่อ
    +++ หลังจาก "มโนในกะโหลก ว่าเป็น โคติสัตว์" แล้ว มันจึง "มโนต่อ ว่า มันสำเร็จ" จึงเกิดอาการ "ไม่แบ่งธรรม" นั่นแหละ
    +++ นั่นแหละ คือ "สิ่งที่มัน อยากได้" คือ "ชื่อเสียงเกียรติยศ"
    +++ ต้องการ "สร้างปมเขื่อง" เพื่อหลอน "ปมด้อย" ปัญญาอ่อน
    +++ ที่มันเป็นมา "ตั้งแต่เกิด" แต่เสือกเอา "ศาสนาพุทธ" มามโนเอาเอง

    +++ วิบากอันมหาศาล ยาวนานผิดปกติ "ยิ่งกว่ารัสปูติน" ในโลกันต์ซะอีก

    +++ รัสปูติน ยังไม่ถึงขั้น "ดึงเอาศาสนาพุทธ" มามั่ว แต่ ไอ้ถั่วงอก มันทำ
    +++ ตรงนี้แหละ "ยาวนานจนผิดปกติ กินเวลา หลายพันอสงไขย" หรือยิ่งกว่านั้น
    +++ พ้นชาตินี้ไปแล้ว "ผู้ที่ไม่ได้มี วิบากผูกพัน กับมัน" ก็จะ จบไปก่อน ไม่เจอมันอีก
    +++ เว้นไว้แต่ "ผู้ที่ เออออห่อหมกกับมัน รวมทั้ง ผู้ที่ รอคำตอบจากมัน" เท่านั้น

    +++ ให้ทำแค่ "เตือน ๆ คนอื่น" จะดีกว่า
    +++ ให้ "สติ" แก่ผู้ที่กำลังจะ "ตกลงไปใน มโนในกะโหลก ของมัน"

    +++ ส่วน "ไอ้ถั่วงอก" ไปเตือนมันนั้น ก็ "ไม่อาจ เกิดผลอะไรขึ้นมาได้" แน่นอน
    +++ วิบากของมันนั้น "สำเร็จ เรียบร้อย ลงตัวไปนานแล้ว"
    +++ แม้ว่าจะมี "กายหยาบ เป็นอุปกรณ์รั้งสติ" ก็ตาม
    +++ แต่มันก็ "ไม่สามารถ ตั้งสติ" ได้เลย


    +++ ยามตาย (ไร้กายหยาบ) ย่อมไร้สติ และ ไปอบาย
    +++ ไอ้ถั่วงอกนั้น ไร้สติ (ทั้ง ๆ ที่กายหยาบ ยังอยู่) ตรงนี้ ชัดเจนมาก

    +++ ใครไปให้ "สติ" มัน มันจะจ้อง "จับผิดเพ่งโทษ" ทันที
    +++ อาการแบบนี้ "จะไปไหนเสีย" และ นี่คือ "กรณีศึกษา" นะครับ
     
  2. คนไทบ้านๆ

    คนไทบ้านๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2018
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +267
    ปัญหาสำคัญอันหนึ่งที่อาจจะทำให้เกิดการเข้าใจผิดพลาดได้ก็คือไปเข้าใจว่า การเข้าถึงสภาวะรู้อันบริสุทธิ์ รวมทั้งเห็นสรรพสิ่งแตกดับลงไปสู่ความว่าง มีสภาวะรู้อันบริสุทธิ์เป็นเนื้อเดียวกับธรรมชาติ นั่นคือนิพพาน นั่นคืออสังขตธรรม บางทีก็ว่ารู้ทั้งสองฝั่ง ฟังดูมันก็คล้ายจะเนียนๆดี แต่จริงๆก็คือยังเข้าใจผิดอยู่ดี ยังเข้าไม่ถึงความจริงจริงๆ คำพูดมันฟ้อง ฟ้องตรงไหน ตรงเป็นเนื้อเดียวกับธรรมชาตินั่นแหละ จริงๆคนละเรื่องเลย ไม่ใช่ค่อยๆพัฒนาสภาวะรู้จนกระทั่งเป็นรู้ที่บริสุทธิ์ แล้วสรุปเอาว่านั่นถึงนิพพานแล้ว มันยังไม่ข้ามเลย พ้นโลกไม่จริง

    ปล.พอดีไปเจอเว็บเดินจิตมา อาจจะเป็นเว็บที่เคยมีกรณีอะไรๆกันอยู่ แต่จริงๆก็ทำได้ ทำไปเถอะ มันพลิกเข้าหาสัจจะความจริงได้ แต่อย่าไปบล็อกตัวเองว่าถึงที่สุดเด็ดขาด อย่าไปเข้าใจว่ามีแค่นั้น ถ้าไปเข้าใจว่ามีแค่นั้น มันก็เลยมีแค่รู้นั้นไง เรื่องใหญ่คือการไปขยายความรู้แบบนั้น เท่ากับไปลดทอนคุณค่าคำสอนของพระพุทธศาสนาเหลือแค่ประสาโลก อย่างเก่งก็นิพพานพรหม พิจารณากันเอาเองครับ
     
  3. แนน จันทบุรี

    แนน จันทบุรี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +82
    ญานเปรียบได้ยังตัวอย่สงที่พอเห็นเคียงกันได้สำหรับบุคคลธรรมดาทัาวไปอย่างเราๆ กล่าวคือ ยกตัวอย่างเรานอนฝัน เราไม่รู้ตัวว่าเราฝัน แต่มันมีความรู้เช่นนั้นๆเกิดขึ้น เราคล้อยไปตามอารมณ์นั้น แจ่เรสเห็นอยู่ รู้อยู่ แต่ทว่า ไม่เห็น ไม่รู้ว่าตนเองกำลังฝันอยู่เช่นนั้นเป็นต้น ก่อน
     

แชร์หน้านี้

Loading...