ทำไมต้องยกศาลพระภูมิ...โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะปรมัติ, 27 สิงหาคม 2008.

  1. ธรรมะปรมัติ

    ธรรมะปรมัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +114
    [​IMG]



    [​IMG]



    ยกศาลพระภูมิ<O:p</O:p

    คราวนี้มาว่ากันถึงการยกศาลพระภูมิดีตรงไหน นี่อาตมาขอสนับสนุนว่าดีจริง ๆ แต่ท่านยกแล้วท่านต้องทำให้ถูกดีนะมันถึงจะได้ดี ถ้าหากว่าท่านทำไปแล้วไม่ชนดี มันก็ไม่พบดีเหมือนกัน การจะชนดีจะพบดีจะถึงดีเอากันยังไง ว่ากันตอนนี้ เมื่อยกศาลพระภูมิขึ้นมาแล้ว ควรบูชาทุกวัน<O:p</O:p
    ถ้าจะมีกล้วย อ้อย น้ำท่าบ้างก็ตามอัธยาศัย ขนมนมเนยอะไรก็ตาม ให้เป้นไปตามอัธยาศัยของท่าน เวลาบูชาเทวดาจุดธูปกี่ดอก พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนไว้ ที่เขามาโมเมกันในตอนหลัง ว่าจุดบูชาผีเท่านั้นดอก บูชาพระเท่านั้นดอก บูชาครูบาอาจารย์เท่านี้ดอก นี่มันเรื่องของคนที่คิดขึ้นทีหลัง จะจุดธูปเทียนกี่ดอกตามใจท่าน ท่านจะจุดเท่าไรก็ตามไม่เป็นไร<O:p</O:p
    ที่นี้ตอนบูชา บูชาแบบไหน ถ้าเราไปนั่งบูชาบอกภุมเทวดาเจ้าคะเจ้าขากรุณาฉันเถิด เวลานี้ที่บ้านฉันเกิดไม่ดีขึ้นแล้ว ผัวออกนอกบ้าน เมียนอกใจ คนใช้ว่าไม่นอนสอนไม่ได้ ขอให้เทวดาช่วยกำจัดให้ด้วย ไปตามผัวให้ที ไปตามเมียให้ที หรือว่าเวลานี้ฉันอยากจะถูกหวยรวยโป อยากจะค้าขายให้มันรวย ถ้าบูชาแบบนี้ไม่เป็นเรื่องแล้ว ไม่ใช่บูชา กลายเป็นเอาเทวดาเป็นคนรับใช้ไป ไม่ถูก แบบนี้ไม่ถูก<O:p</O:p
    การบูชาเขาต้องบูชาแบบนี้ คำว่าบูชาแปลว่ายอมรับนับถือ ก็หมายความว่าเรายอมรับนับถือความดีของท่านภุมเทวดา คิดว่านี่ท่านจะเป็นเทวดาขึ้นมาได้ มีเครื่องทิพย์บริโภค มีร่างกายทิพย์ มีวิมานเป็นที่อยู่เป็นทิพย์<O:p</O:p
    เวลานี้เรายกศาลข้น ความจริงท่านไม่ได้มาอยู่ที่ศาลของเราศาลนี่..เดิมทีสมัยโบราณ เขามีไม้กระบอกปักไว้กลางแจ้ง เวลาจะบูชาก็เอาธูปเทียนไปปักที่กระบอก ต่อมาเห็นว่าถ้าจะมีอะไรให้บ้างก็ไม่มีที่จะวาง ก็ทำศาลเพียงตา ทำเป็นศาล 2 ชั้น คิดว่าเทวดาท่านนั่งชั้นบน แล้วเอาของว่างชั้นล่าง ท่านก็เอื้อมมาหยิบกิน ต่อมาเมื่อฝนตกแดดออกจึกสงสารเทวดาขึ้นมาก็เลยเอาร่มไปกางให้ ทีหลังเห็นว่าท่านั้นไม่เหมาะ ก็เลยเอาใหม่ทำบ้านให้มีหลังคา มีฝาครอบ นี่เป็นเรื่องของเราเอง<O:p</O:p
    มาสมัยนี้เลยมีตึกมีปราสาท รู้สึกว่าเทวดามีวาสนาบารมีมากขึ้นหน่อย อย่างนี้จะทำแบบไหนก็ตาม เทวดาท่านไม่ได้ขึ้นอยู่ วิมานของท่านมี แต่การทำแบบนี้เป็นการยอมรับนับถือซึ่งกันและกันเป็นการบูชาความดี อย่ามานึกว่าท่านมาอยู่บนศาลนะ ไม่ใช่ยังงั้นศาลเล็กจุนจู๋แค่นั้นท่านต้องขดตัวเข้าไปนอนเห็นจะไม่ไหว ภุมเทวดมีร่างกายใหญ่โตกว่าคนมาก<O:p</O:p
    เป็นอันว่าการบูชา ถ้าจะบูชาให้ถูกเขาบูชากันแบบนี้ จำได้แล้วใช่ไหม คำว่าบูชาแปลว่ายอมรับนับถือ<O:p</O:p

    [​IMG]


    เทวธรรม<O:p</O:p

    ตานี้เรามานับถือท่านตรงไหนล่ะ ยอมรับนับถือตอนที่ท่านมีความดี คือว่าก่อนที่ท่านจะเป็นเทวดาท่านมี หิริ และ โอตตัปปะ หมายความว่ามีความอายความชั่ว กลัวผลของความชั่วจะให้โทษเป็นทุกข์ ก็เลยไม่ทำความชั่วเสียเลยทั้งในที่ลับและในที่แจ้ง เมื่อท่านไม่ทำความชั่วก็เลยไปเกิดเป้นเทวดาชั้นี้ เป็นเหตุให้พวกเราบูชากัน<O:p</O:p
    แม้แต่หน่วยราชการเขาก็ยกศาล วัดที่มีความรู้เขาก็ยกศาลเหมือนกัน วัดที่มีพระได้ฌานสมาบัติ บางท่านเป็นพระอริยเจ้า ท่านก็ยกศาลเหมือนกัน แต่ยกเป็นศาลใหญ่ไม่ใช่ศาลเล็ก ๆ ท่านยกทำไม ท่านยกเป็นการประกาศความดีของเทวดา สำหรับท่านที่ได้ฌานสมาบัติได้ทิพจักขุญาณทำมากเพราะอะไร เพราะท่านพวกนี้ท่านเห็นจริง ๆ เห็นผลความดีของท่านพวกนี้<O:p</O:p
    เมื่อยกศาลขึ้นแล้ว พอมองเห็นศาลก็นึกว่าท่านพวกนี้ ท่านทำความดีไว้ก่อน ตายแล้วจึงได้เป็นเทวดา ท่านก็เลยตั้งมโนปณิธานปรารถนาทำใจให้สบาย คิดว่าเราเองเราก็จะเป็นเทวดาอย่างท่านบ้าง อย่างน้อยที่สุดเราก้เป็นผู้มีหิริและโอตตัปปะเอาเทวดาท่านพวกนี้เป็นครูสอน<O:p</O:p
    ที่ยกศาลขึ้นมา บางทีไม่เห็นตัวท่านจะได้นึกได้ว่า นี่เป็น สถานที่ที่เราบูชาเทวดา เวลานึกขึ้นได้แล้วก็นึกขึ้นมาว่าท่านเป็นเทวดาเพราะอะไร เพราะ<O:p</O:p
    1.อายความชั่ว<O:p</O:p
    2.เกรงกลัวผลของความชั่ว<O:p</O:p
    ท่านก็เลยเตือนตัวท่านว่าเราจงเป็นผู้อายความชั่ว เกรงกลัวผลของความชั่วเหมือนท่านเทวดาอย่างนี้ แล้วก็ปฏิบัติตามนั้นนี่อย่างนี้เรียกกันว่าบชา คือเป็นปฏิบัติบูชา หากว่าเราจะบูชาเพียงอามิสบูชาเฉย ๆ เอาข้าวเอาน้ำไปให้ท่าน จุดธูปจุดเทียนไปให้ท่านแล้วเราก็สร้างความชั่ว อย่างนี้ไม่มีผลนะ<O:p</O:p
    บรรดาท่านพุทธบริษัทต้องบูชาตามแบบฉบับที่พระพุทธเจ้าทรงปฏิบัติ คือปฏิบัติบูชา ถ้าหากว่าท่านบูชาภุมเทวดา แบบนี้จำไว้ว่าภุมเทวดาทุกท่านมีเครื่องทิพย์เป็นเครื่องบริโภค มีร่างกายเป็นทิพย์ มีความสุข ไมหนาวไม่ร้อน ไม่หิวไม่กระหาย ไม่ป่วยไข้ ไม่สบาย ไม่แก่เฒ่า หนุ่มเท่าไร ก็เท่านั้น เกิดปุ๊ปก็หนุ่มเลย แล้วไม่มีการแก่ เทวดามีความดีอย่างนี้เพราะอะไร เพราะมีความดีคือไม่ทำความชั่วในที่ลับและที่แจ้ง<O:p</O:p
    เราก็เลยตั้งใจว่าขอให้เทวดาคนนี้เป็นครู จะเอาปฏิปทาของท่านนี้มาเป็นครูของเรา เราจะขอเอาเทวดาองค์นี้เป็นสักขีพยานในการปฏิบัติความดีของเรา อย่างน้อยที่สุดเราตายไปขอให้ได้เป็นเทวดาอย่างท่าน นี้เป็นอย่างน้อยนะ<O:p</O:p
    แล้วก้ตั้งใจบูชาด้วยความเคารพ การาบก็ได้ไหว้ก็ได้ ไม่เสียหาย แล้วก็นึกถึงความดีของท่าน ตั้งใจอายบาป ตั้งใจเกรงกลัวบาป เรียกว่าอายชั่ว กลัวชั่ว อย่างนี้ชื่อว่าท่านทำตัวเหมาะสมกับการบูชาภุมเทวดาแล้ว<O:p</O:p
    เอาละบรรดาท่านพุทธบริษัท เรื่องราวภุมเทวดานี่จะพูดกันจริง ๆ พูดกันทุกวันเดือนหนึ่งไม่จ ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะอาตมาเองก็เคยประสบเรื่องราวของภุมเทวดามามาก แต่ว่าอาศัยการพูดนี้เป็นการพูดเพียงเพื่อให้เป้นตัวอย่างเท่านั้น เพื่อให้รู้ว่าเขาเป็นเทวดาได้เพราะอะไร แล้วก้ภุมเทวดาเป็นเทวดาที่เขาบูชากันมาก ตั้งศาลกันมาก แล้วก็มีนักปราชญ์หลายท่านคัดค้านกันมาก ก็เลยเอาสิ่งที่ควรบูชาและบูชาแบบไหนมันถึงจะถูกมาพูดให้ฟัง..<O:p</O:p

    โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ...หนังสืออุทิศส่วนกุศล<O:p</O:p
    <!-- / message --><!-- attachments -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • modifly-1.jpg
      modifly-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      151.4 KB
      เปิดดู:
      148,355
    • nemiraja15-04.jpg
      nemiraja15-04.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.5 KB
      เปิดดู:
      7,898
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2008
  2. - เงาะป่า -

    - เงาะป่า - เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +565
    อนุโมทนาสาธุครับ
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------
    "จงจำไว้นะ เมื่อยังไม่ถึงเวลา เทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้ ครั้นถึงเวลา ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่ จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดินเมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครไหนมาช่วยเจ้า"
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ขอความเมตตา สร้างชีวิตใหม่ ช่วยน้องผ่าตัดใบหน้า ให้สดใสเหมือนเดิม
    --> http://palungjit.org/showthread.php?p=1440317#post1440317
    ร่วมสร้าง " อุโบสถเงิน" วิหารทานที่ในครั้งนึงในชีวิตไม่ควรพลาดครับ
    --> http://palungjit.org/showthread.php?t=140433
    มาลองทำสังฆทานอย่างง่ายๆ ด้วยตนเองกันครับ
    --> http://palungjit.org/showthread.php?p=1435870#post1435870
    มาเที่ยวศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน จ.ตากกันครับ
    --> http://palungjit.org//showthread.php?t=144889
    มาเที่ยว วัดเกตการาม จ.เชียงใหม่ วัดประจำปีจอกัน
    --> http://palungjit.org/showthread.php?t=136821
     
  3. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    [​IMG]ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...
     
  4. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,270
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,079
    พระภูมิเจ้าที่ท่านอยู่ใกล้เราที่สุด เราเคารพท่าน ท่านก็เมตตาเราครับ เป็นเทวานุสสติด้วยครับ สาธุ
     
  5. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ผู้ถาม : เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ...........?
    หลวงพ่อ : การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปี ๆ บุญก็ยังมีอยู่ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปี ก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้ว เดี๋ยวเดียวมันหายไปไม่ใช่อย่างนั้นนะ
    ผู้ถาม :แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมคะ...?
    หลวงพ่อ : ก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้เขาหรือไม่ให้ การอุทิศส่วนกุศล นี่นะ ถ้าเราไม่ให้ เราก็กินคนเดียวใช่ไหม..... ทีนี้ถ้าเราให้เขาของเราก็ไม่หมดอีก ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญน่ะจะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านรับบาตรนะ ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า

    "สมมุติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย คนอื่นเขามีแต่คบ ไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยมแล้วคบทุกคนสว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม....?
    ท่านอนุรุทธก็บอกว่า ไม่ยุบ
    แล้วท่านก็บอกว่า "การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน ให้เขา เขาโมทนา แต่บุญของเราเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์"


    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ




    ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
     
  6. GARU

    GARU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +1,283
    ถ้าเราได้อยู่บ้านหลังไหนแสดงว่าเราน่าจะเนื่องกะเจ้าที่ ที่นั่นด้วย อยู่อย่างสงบสุขไม่เป็นศัตรูกับผู้ใดน่าจะดีกว่า มิใช่หรือ
     
  7. nippitarnit

    nippitarnit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +182
    "จงจำไว้นะ เมื่อยังไม่ถึงเวลา เทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้ ครั้นถึงเวลา ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่ จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดินเมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครไหนมาช่วยเจ้า"


    อนุโมทนาสาธุ...


    สัพเพ สังขารา อะนิจจา สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง
     
  8. ชั

    ชั Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2011
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +48
    เพียงท่านคิดดี พูดดี ธรรมดี เทพ เทวดา เขาก็มาโมทนาสาธุแล้วละคับ ศาลพระภูมิจะตั้งหรือไม่ตั่ง มันอยุ่ที่ตัวเรา สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เชื่อพระพุทธเจ้าเถิด...คำสาวกยังไม่แน่...
     
  9. intrasilp

    intrasilp สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +11
    ศาลพระภูมิอินทรศิลป์
    อินทรศิลป์ หมายถึง ศิลปะความเป็นไทยที่ยิ่งใหญ่และยังคงไว้ซึ่งความอ่อนช้อย บรรจง โดยร้านคลองตันศาลพระภูมิ ยังคงเปิดกิจการอยู่และเป็นโรงงานผลิตศาลพระภูมิของเรา
    โดยเริ่มผลิตและจำหน่ายศาลพระภูมิมากกว่า 50 ปี จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเรากล้าพูดได้ว่าศาลพระภูมิของเราทุกหลังมีความแข็งแรงทนทาน ผลิตด้วยความประณีต
    มีความงดงามตามแบบสถาปัตยกรรมไทยโบราณและลวดลายที่เราเลือกใช้บนศาลทุกๆ หลัง ต่างก็มีความหมายที่ดีเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ลูกค้า
    ร้านอินทรศิลป์ ศาลพระภูมิ สามารถติดต่อสอบถาม
    086-776-6509 หรือทางwebsite และ facebook
    ศาลพระภูมิอินทรศิลป์ , http://www.facebook.com/ร้านศาลพระภูมิอินทรศิลป์
     
  10. มหาเศรษฐีชัมภล

    มหาเศรษฐีชัมภล สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +17
    เห็นด้วยครับ ถ้ายกศาลให้ดีและนอบน้อมเคารพบูชาท่านอย่างถูกต้องแล้วนี่ท่านเมตตาแบบทันตาเห็นเลยครับ

    เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เองครับ (24 ม.ค. 56) ผมมีบ้านอีกหลังที่โคราชซึ่งตอนแรกปลูกบ้านนั้นก็ได้ตั้งศาลพระภูมิด้วยแต่อาจจะหันหน้าไปไม่ถูกทิศทางและอื่นๆที่ไม่ถูกต้องที่เราไม่ทราบได้

    ชีวิตก็ปกตินั่นแหล่ะมีอุปสรรคบ้าง มีความสำเร็จบ้างตามอัตภาพ แต่เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมามีน้ำท่วมใหญ่ทำให้ดินชุ่มน้ำและทรุดตัวทำให้ศาลเอียงดูไม่ค่อยงาม (ศาลเดิมตั้งบนดินเพราะพื้นแข็งและเทปูนราดพื้นธรรมดาทั่วๆไป) แต่รู้สึกว่าทำอะไรมันติดๆขัดๆ อึดอัดอั้นๆยังไงๆอยู่แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะคอยพิจารณาว่าเป็นอุปสรรค เป็นกรรมเก่าที่มาคอยขัดขวางก็เลยมีแต่ความสุข ความสงบอยู่ในใจ

    หลังน้ำท่วมสักพักผมพาแม่มาพักผ่อนและดูที่ดินส่วนหนึ่งที่จะขาย (เนื่องจากผู้ซื้อตอนนั้นตกลงทำสัญญากันแล้วแต่มาเกิดอุบัติเหตุรถชนกันเสียก่อนต้องเข้าโรงพยาบาลนอนรักษาตัวหลายเดือนอยู่แต่ทางผมไม่ทราบเรื่อง ได้แต่รอและคิดว่ายังไงกันเพราะหลังจากตกลงกันแล้วและกำลังจะรับเงินในอีก 2 วันข้างหน้า ทางผู้ซื้อก็เงียบไปและติดต่อไม่ได้ มารู้ภายหลังว่าขากลับบ้านไปใต้หลังจากตกลงซื้อ-ขายก็เกิดอุบัติเหตุ)

    แม่ก็บอกว่าศาลพระภูมิท่านเอียงดูไม่สวย ไม่ดีเลยน่าจะยกศาลใหม่ดีกว่า ผมก็เห็นด้วยและให้ทางแม่จัดการติดต่อหาผู้ตั้งศาลใหม่และพาไปดูสถานที่ก่อน เมื่ออาจารย์ผู้ที่จะตั้งศาลใหม่มาเห็นท่านก็ทักว่าคุณตั้งศาลไม่ถูกต้อง หันหน้าศาลผิด ที่ตั้งผิด มุมและองศาก็ไม่ถูกต้อง ท่านก็เลยหาสถานที่ที่ถูกต้องและเตรียมหลายๆอย่างให้ รวมทั้งท่านก็ตรวจสอบในบ้านให้หลายอย่างและแนะนำให้จัดวางโต๊ะทำงาน ชุดรับแขกและหลายๆอย่างให้

    เมื่อวันจริงที่จะย้ายศาลพระภูมิ ศาลตายายและยกศาลใหม่ทั้งหมด ท่านก็มาแต่เช้าและบอกกล่าวทำพิธีต่างๆทั้งหมด มีเครื่องบวงสรวงบัดพลี ฉัตร-บายศรี อาหารคาวหวานและเครื่องไหว้มากมาย ท่านก็จะคอยบอกว่าให้กล่าวยังไงบ้าง ให้สวดตามยังไงบ้างและไหว้ยังไง ตรงไหน จนเสร็จพิธี (ศาลใหม่ได้ทำแท่นตั้งอย่างสวยงามและใหญ่โตก่อนยกศาลตั้งข้างบน) เมื่อเสร็จพิธีแล้วทางแม่ เพื่อนแม่และอาจารย์ก็ขึ้นรถกลับบ้านที่กรุงเทพ

    เหมือนกับปาฏิหาริย์จริงๆ สักพักแม่โทรมาบอกว่าคนที่จะซื้อที่ดินอีกแปลงหนึ่งที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งหายไปนานได้ติดต่อมาแล้วบอกว่าตกลงซื้อและจะโอนเงินเลยในวันรุ่งขี้น (25 ม.ค. 2556) แม่ผมก็บอกว่าอาทิตย์หน้าได้ไหมเพราะเพิ่งเดินทางกลับ ท่านเหนื่อยแต่ทางผู้ซื้อก็ยืนยันว่าต้องพรุ่งนี้เลย เขารอไม่ได้แล้ว (ประมาณสองล้านเศษๆ)

    แม่เล่าไปก็มีเสียงอาจารย์พูดกลั้วหัวเราะมาให้ได้ยินว่า เห็นไหมท่านเมตตาแรงจริงๆ นี่รถยังไม่ถึงบ้านเลย (ตอนนั้นรถอยู่แถวสระบุรีเพิ่งเลยค่ายอดิศรมาไม่นาน) แล้วแม่ก็บอกให้ผมตามไปบ้านที่กรุงเทพ ท่านจะให้เงินไว้ครึ่งหนึ่ง ผมก็บอกว่าเดี๋ยวตามไปวันมะรืนก็แล้วกัน

    หลังจากนั้นวันเดียวกันช่วงตอนเย็น ผู้ที่จะซื้อที่ดินที่ได้เกิดอุบัติเหตุ (ที่เล่าให้ฟังในตอนต้น) ก็โทรติดต่อมาและเล่าเรื่องต่างๆให้ฟัง ก็เลยทราบว่าเขาไปเกิดอุบัติเหตุมา และยังยืนยันที่จะต้องการซื้ออยู่และจะจ่ายเงินในต้นๆเดือนกุมภาฯที่จะถึงนี่ (ราวๆสามสิบล้านบาท) รวมทั้งขอซื้อที่ดินอีกแปลงที่แถวหาดกระรนที่ จ.ภูเก็ตอีกด้วย ซึ่งตัวผมก็ไม่ปฏิเสธแต่อย่างใด

    เมื่อถึงวันที่ 26 ม.ค. 2556 ตอนตีห้า ผมและน้องชายก็ขับรถไปกรุงเทพตามที่ได้คุยกับแม่ เหมือนปาฏิหาริย์ซ้ำอีก เมื่อตอนรถอยู่บนทางด่วน ใกล้จะลงทางด่วนตรงแยกประชานุกูลแล้ว มีเพื่อนผมซึ่งอยู่หาดใหญ่ได้โทรมาถามว่าอยู่ไหน ตอนนี้เขามาธุระที่กรุงเทพ เขารออยู่หน้าบ้านอยากจะเจอเพราะไม่เจอกันสัก 2-3 ปีแล้ว ผมก็ว่าให้เขารอไม่เกินครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวค่อยคุยกัน

    เมื่อพบกันคุยกันสักพัก เขาก็คุยเรื่องพระเครื่องที่ผมสะสมไว้แล้วเขาเคยขอแบ่งบูชาไว้นานแล้วแต่ผมหวงๆไม่ให้เขาสักที คุยกันสักพักหนึ่งผมก็ใจอ่อนแบ่งๆให้เขาไปบูชาต่อเป็นพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน 1 องค์ และหลังเตารีดอีก 2 องค์ รวมๆแล้วเขาให้เงินมาล้านเศษๆเกือบสองล้าน

    นี่เป็นเหตุการณ์ในระยะเวลาเพียงแค่อาทิตย์เดียวที่ได้ทำพิธีขอขมาและบวงสรวงตั้งศาลใหม่ครับ เมื่อบูชาท่านควรนอบน้อมสักการะให้ดี ทำความสะอาดบ่อยๆ ถวายอาหารด้วยความเคารพ

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่ที่การกระทำของเราด้วยครับ ต้องปฏิบัติตนให้ดีด้วย อย่างพระที่ผมห้อยในคอผมก็จะเอาไว้ระลึกว่าวันนี้ศีลเราบริสุทธิ์อยู่ไหม วันนี้เราได้ละเมิดศีลข้อไหนบ้าง บางครั้งเกือบทำอะไรที่ไม่ดีก็มีพระในคอนี่แหล่ะที่ทำให้รู้สึกตัวและนำสติกลับมาครับ เพราะจากวันนั้นเป็นเวลากว่า 5 ปีที่ผมได้เห็นบางสิ่งบางอย่างและประสบกับเหตุการณ์บางอย่าง ทำให้ผมที่เคยเป็นนักดื่มเหล้าและเคล้าแต่อบายมุข เป็นผู้ที่ห่างเหินในแก่นของพระพุทธศาสนามานานเกือบห้าสิบปี ได้เลิกดื่มและยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขอย่างเด็ดขาด ณ ตอนนี้ผมยอมสละชีวิตดีกว่าที่จะละเมิดศีล ผมไม่สงสัยใดๆในพระพุทธศาสนาและพระธรรมคำสอนอีกเลย ถ้าท่านเห็นอย่างที่ผมเห็นและพบอย่างที่ผมเจอ ท่านจะพบว่านี่แหล่ะของจริงและพิสูจน์ได้แต่ต้องใช้สติพิจารณานะครับ ไม่ใช่หลงหรือวิปลาสหรือหลอกตนเองจากความเพ้อเจ้อปรุงแต่งและท่านจะมีความมั่นใจในการปฏิบัติมากยิ่งๆขึ้นไปครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 กุมภาพันธ์ 2013

แชร์หน้านี้

Loading...