ทำไมต้องอธิษฐานหลังทำบุญ บทอธิษฐานแสงแห่งพุทธ และบทส่งบุญไพศาล

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย แสงแห่งบารมี, 7 กรกฎาคม 2017.

  1. แสงแห่งบารมี

    แสงแห่งบารมี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    12
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +107
    ทำไมต้องอธิษฐานหลังทำบุญ บทอธิษฐานแสงแห่งพุทธ และบทส่งบุญไพศาล

    1. การทำบุญและส่งบุญให้ไพศาลด้วยบทอธิษฐานที่ถูกต้องก็เหมือนกับการที่เรามีไฟบนเทียน มีแสงสว่างและให้เทวดา วิญญาณทั้งหลายต่อแสงสว่างบนเทียน บุญไม่ได้หายลดลงไป แต่ทำให้บุญนั้นได้มากขึ้นเพราะได้สร้างบารมีเพิ่มขึ้นจากเดิม

    2. ใช้การอธิษฐานกำหนดเส้นทางที่ต้องการ เพื่อให้มีจุดมุ่งหมายปลายทางที่ชัดเจน เพื่อที่จะได้ไม่ออกจากเส้นทางตามกิเลสที่มาหลอกล่อทั้งหลาย หลงผิดไม่รู้จบ ตัวอย่างเช่น อธิษฐานขอให้ได้สร้างบุญบารมียิ่งๆขึ้นไป ด้วยการอธิษฐานบ่อยๆและผลบุญนั้นจะช่วยให้เราได้ใช้บุญต่อบุญไปเรื่อยๆ การไม่อธิษฐานพบเห็นได้ชัดเจนคือ เศรษฐีทั้งหลายที่อยู่บนกองเงินกองทองด้วยผลบุญจากอดีตชาติที่ได้ทำมา แต่ไม่สร้างบุญบารมีเพิ่ม หลงในไปลาภ ยศ กิเลสทำให้เป็นคนไม่ดี สนใจแต่เงินอย่างเดียว เป็นสิ่งที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะเมื่อผลบุญหมดก็ต้องรับกรรมที่ทำไป

    3. ในโลกของวิญญาณ มิติที่ซับซ้อนกับโลกมนุษย์ เทวดาทั้งหลายมีฤทธิ์เดช สามารถช่วยเหลือคนได้ เป็นเพราะบุญบารมี หากเราส่งบุญให้ได้เทวดาประจำตัว เทวดาทั้งหลายก็จะมีฤทธิ์เดชสามารถช่วยเหลือคนได้มากขึ้น และแน่นอนเทวดาได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดีงามย่อมตอบแทนผู้ที่ให้ ทำให้เราได้เทวดาคุ้มครอง ได้สร้างบารมีมากขึ้น

    4. ในโลกของวิญญาณ มิติที่ซับซ้อน บางคนเสียชีวิตจากการประสบอุบัติเหตุ ก่อนที่หมดอายุขัย หรือมีความอาลัยอาวรณ์อยู่มากทำให้ไปเกิดไม่ได้ บางคนสะสมบุญบารมีมาน้อย ทำให้เสกอาหารทิพย์ไม่ได้ หิวโหย อดอยาก การที่เราใช้บทส่งบุญไพศาลนั้นทำให้วิญญาณทั้งหลายเหล่านั้นรับบุญได้ และเต็มอิ่ม เราได้สร้างบารมีมากขึ้นจากเดิม

    5. เมื่อเราทำเป็นประจำ เราย่อมเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดา ไปไหนมาไหนก็จะมีเทวดาคุ้มครอง ช่วยเหลือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างรักใคร่ เอ็นดู ทุกคนมีธาตุรู้อยู่ในตัว เมื่อจิตใจของเราให้ด้วยความบริสุทธิ์ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายย่อมสัมผัสได้และผลของบุญนั้นตอบแทนเสมอไม่ช้าก็เร็ว

    การอธิษฐานนั้น ต้องพึงระวังไม่ให้ไปหวังในผลของบุญ เพราะการทำบุญ ควรทำด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ หวังแต่เพียง สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือใครก็ตามที่รับไป มีความสุข ความเจริญ ได้สร้างคุณงามความดี สร้างบุญบารมีมากขึ้น ให้สังคมและโลกน่าอยู่และดียิ่งๆขึ้นไป


    บทอธิษฐานหลังทำบุญ คลิก


    พื้นฐานเส้นทางแห่งการหลุดพ้น


    เจาะลึก การสร้างบารมีแบบง่ายๆ คลิก




    ====================================================
    บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

    การอธิษฐานเป็นความโลภ ?

    หลวงปู่ดู่เคยสอนไว้ว่า เวลาทำบุญให้อธิษฐานสั้นๆไปเลยว่า

    "ขอให้ประสบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์"

    เพราะคำว่า ความดี นั้นรวมครบหมด ทั้งรวย สุขภาพดี มียศตำแหน่ง มีคนรักเมตตา ฯลฯ

    ส่วนปราศจากความทุกข์ก็ตัดสิ่งไม่ดีหมดทุกอย่าง ไม่มีทุกข์ ไม่มีโรคภัย ไม่มีอุปสรรค ไม่มีศัตรู ฯลฯที่สำคัญคือ

    การ "พบแต่ความดี" นั้นสำคัญมาก เพราะแม้เราจะขอพรจนร่ำรวยจริง แต่ไม่ดี เงินนั้นเราอาจเอาไปเล่นพนัน ไปซื้อยาบ้า สุดท้ายก็พาไปนรก

    แม้จะมียศตำแหน่งแต่ปราศจากความดี ก็อาจเอาตำแหน่งไปข่มเหงคนอื่น คดโกงประเทศชาติ ก็มีนรกเป็นที่ไป

    แม้จะมีแต่ใครๆก็รักเมตตา แต่หากเราไม่ดี เราก็อาจกลายเป็นคนเจ้าชู้ หลอกคนนี้ให้รัก คนนั้นให้หลง สุดท้ายก็ทะเลาะตบตีกัน และไปนรกกันทั้งหมู่

    "การขอให้พบความดี" จึงถือเป็นพรอันสำคัญที่สุด เพราะผู้ที่จะทำความดี ต้องมีปัญญาพอที่จะรู้ว่าความดีมีประโยชน์เช่นใด

    ดังนั้นเมื่อมีปัญญา แม้จะเกิดมาจน ก็ใช้ปัญญาหาเงินจนรวยได้ แม้จะเกิดมาต่ำต้อย ก็ใช้ปัญญาทำงานหายศตำแหน่งมาได้ไม่ยาก แม้เกิดมาไม่มีใครรัก แต่หากมีปัญญารู้จักพูดจา ใครๆก็จะหันมารัก ที่สำคัญคือเมื่อมีปัญญา ก็รู้ว่าความชั่วไม่มีประโญชน์ ไม่ควรทำ ความดี มีแต่ประโยชน์และควรทำ

    ดังนั้นจึุงเป็นผู้มีความสุขทั้งโลกนี้ และโลกหน้า มีแต่สุคติเป็นที่ไป นรกไม่ได้เยี่ยมเยียน ใครอยู่ใกล้ก็มีความสุข

    ดังนั้น เวลาทำบุญครั้งใด อธิษฐานง่ายๆก็ได้ครับว่า

    "ขอให้พบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์..."

    คัดลอกจากบทความในเว็บวัดถ้ำเมืองนะ

    ***********************

    คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง (พระราชพรหมยาน)

    อธิษฐานบารมี จะเข้าถึงความดีได้รวดเร็วการบำเพ็ญบารมีใด ๆ หรือ สร้างความดีใด ๆ เราจะตั้งมโนปณิธาน ความปรารถนา หรือไม่ก็ตาม ถ้าทำความดีมากครั้งเข้า ในที่สุดความชั่วก็สลายตัวไป เราก็เข้าถึงพระนิพพาน ตามเจตนา หรือไม่เจตนา ก็จะต้องเข้าถึงในเมื่อความชั่วถูกตัดเป็นสมุจเฉทปหาน แต่ทว่าถ้าปราศจาก อธิษฐานบารมี กว่าจะเข้าถึงจุดหมายปลายทาง ก็รู้สึกว่า มันเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือไม่ค่อยจะตรงนัก

    ฉะนั้น องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า จึงทรงแนะนำบรรดาท่านพุทธบริษัท ให้มี อธิษฐานบารมี

    ในการนี้ท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ตั้งใจกล่าววาจาว่าอิมาหัง ภควา อัตตภาวัง ตุมหากัง ปริจัจชามิ แปลเป็นใจความว่า ข้าพระพุทธเจ้า ขอมอบกายถวายชีวิต แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี่ก็หมายความว่า เราจะเอาชีวิตของเรา เข้าแลกกับความดีที่องค์สมเด็จพระชินสีห์ทรงแนะนำไว้ อย่างนี้ อาศัยเจตนาและความตั้งใจ จัดว่าเป็น อธิษฐานบารมี บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย จะเข้าถึงความดีด้วยความรวดเร็ว อย่างคาดไม่ถึง

    ***********************

    หลวงพ่อตอบคำถาม ทำบุญทำไมต้องอธิษฐาน
    โดย หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง (พระราชพรหมยาน)

    ถาม :
    "หลวงพ่อคะ การทำบุญทุกอย่าง แต่ไม่ได้ปรารถนาอะไรเลย จะได้ไหมคะ...?"

    ตอบ :
    ได้โยม ทำไมจะไม่ได้ คือถ้าไม่ตั้งมโนปณิธานปรารถนา บุญมันก็ต้องเป็นบุญ แต่ว่าอานิสงส์เบื้องปลายมันไม่เหมือนกัน

    ถาม :
    "เป็นไงคะ...?"

    ตอบ :
    การปรารถนาจัดเป็นอธิษฐานบารมีนะ ตั้งใจว่าการทำบุญอย่างนี้เพื่อผลอะไร อย่างที่ไม่ปรารถนาพุทธภูมิ ไม่ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ไม่ปรารถนาเป็นอัครสาวก แต่ปรารถนาเพื่อการหมดกิเลส ก็ชื่อว่ายังปรารถนาอยู่

    ถาม :
    "ถ้าหากว่าทำเฉย ๆ เล่าคะ...?"

    ตอบ :
    ถ้าหากว่าทำเฉย ๆ ไม่ปรารถนาอะไรเลย ตัวอย่างก็มีท่าน อาฬวีเศรษฐี

    คือว่าท่านอาฬวีเศรษฐีพ่อท่านเป็นมหาเศรษฐี พอพ่อท่านตายลงท่านก็เป็นเศรษฐีแทน เศรษฐีสมัยนั้นพระราชาต้องแต่งตั้ง แล้ว ต่อมาพวกขี้เมาก็ชวนกินเหล้าเมายา ในที่สุดทรัพย์สินก็หมดไป จนกระทั่งกลายเป็นขอทาน

    วันหนึ่งพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสงฆ์เสด็จไปที่เมืองอาฬวี เห็นอาฬวีเศรษฐีนั่งขอทานอยู่ข้างฝาเรือนชาวบ้าน พระพุทธเจ้าก็ทรงแย้มพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้าตามปกติจะไม่แย้มพระโอษฐ์ ถ้ายิ้มแล้วต้องมีเรื่อง พระอานนท์จึงทูลถามว่า

    "พระองค์ยิ้มด้วยเรื่องอะไร พระพุทธเจ้าข้า...?"

    พระพุทธเจ้าถามว่า

    "อานนท์ เธอเห็นอาฬวีเศรษฐีไหม...?"

    พระอานนท์มองไปมองมาไม่เห็น เห็นแต่ขอทาน พระพุทธเจ้าก็บอกว่า ขอทานนั่นแหล่ะคืออาฬวีเศรษฐี แล้วพระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า ถ้าอาฬวีเศรษฐีสมัยเมื่อเป็นเศรษฐี ถ้าฟังเทศน์ของเราเพียงจบเดียวจะได้บรรลุพระอนาคามี เมื่อเงินน้อยลงมาเป็นอนุเศรษฐี ถ้าฟังเทศน์จากเราเพียงจบเดียวจะได้เป็นพระสกิทาคามี เมื่อมีฐานะเป็นคหบดี ถ้าฟังเทศน์จากเราเพียงจบเดียวจะได้เป็นพระโสดาบัน แต่ว่านี่อาฬวีเศรษฐีเป็นขอทานเสียแล้ว เราเทศน์จึงไม่มีผล

    ตอนนี้พระอานนท์ทูลถามว่า

    "ตามธรรมดาคนจะบรรลุมรรคผล องค์สมเด็จพระทศพลเคยตรัสว่าจะตายก่อนก็ยังไม่ได้ ต้องบรรลุมรรคผลก่อนนี่ พระพุทธเจ้าข้า...?"

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า

    "นั่นเขามี อธิษฐานบารมี"

    ตอบ :
    เป็นอันว่าอาฬวีเศรษฐี ไม่มีอธิษฐานบารมีใช่ไหมโยม

    ถาม :
    "ใช่ค่ะ"

    ตอบ :
    คนจะได้ดี เลยไม่ได้ดี ต่อไปอธิษฐานเสียนะ.

    คัดลอกจาก : รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    ***********************

    อธิษฐานบารมีเป็นเรื่องที่สำคัญ
    โดย หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน

    ถาม :
    เขาบอกว่าไม่ทำหวังผล

    ตอบ :
    ในลักษณะนั้นก็ดีจ้ะ คือว่าปล่อยวางได้ แต่ว่าลักษณะเหมือนกับการทำงาน ถึงเราต้องการหรือไม่ต้องการ ปลูกต้นไม้ลงไป ถึงเวลาดอกผลมันต้องออก พอถึงเวลาดอกผลมันออกมาไม่ดี คนปลูกบอกว่าไม่หวังผล แต่เห็นแล้วอาจจะไม่สบายใจไปเลยก็มี

    ีเพราะฉะนั้นถ้าหากว่าเราไว้ว่าทำอะไร วัตถุที่เราตั้งใจจะทำ ได้มาโดยถูกต้อง

    ตัวเรามีศีลบริสุทธิ์
    ผู้รับมีศีลบริสุทธิ์
    ผลมันเต็ม ๑๐๐ ส่วนอย่างนี้ ก็เลือกทำในสิ่งที่ดีๆ ดีกว่า พอถึงวาระถึงเวลา ผลที่ได้มามันก็ชื่นใจสมกับที่เรารอคอย

    มีหลายคนที่คิดแบบนี้ อย่างเช่นว่าทำบุญแล้วอธิษฐานขอโน่นขอนี่เป็นการโลภ แบบนี้มันต้องไปเกิดเป็นอาฬวีเศรษฐี มันถึงจะเข็ด....

    ...อธิษฐานบารมีนี่เป็นบารมีที่สำคัญมาก ถ้าบุคคลที่สร้างบารมีมายังไม่ถึงตอนปลาย จะใช้อธิษฐานบารมี ไม่เป็นเลย ผลทุกอย่างไม่ว่าดีหรือชั่วที่เราทำไป ต้องการหรือไม่ต้องการ มันก็เกิดผลแน่นอน

    ทางวิทยาศาสตร์ยังยืนยันเลยใช่ไหม ว่าทุกอย่างที่ทำไปมันมีผล คราวนี้ถ้าหากว่าผลนั้นมันมาในจังหวะที่เราต้องการมันก็ดี ถ้ามันมาในจังหวะที่เราไม่ต้องการ เราก็จะแย่ไปเลย...

    ...อธิษฐานบารมีเหมือนกับยิงปืนแล้วเราเล็งเป้า อย่างไรๆ ให้มันถูกเป้าแน่อนดีกว่า ไม่ใช่ยิงส่งเดช โอกาสมันจะถูกมันก็น้อย

    เพราะฉะนั้น คนที่จะใช้อธิษฐานบารมีก็คือ เราทำอะไรต้องการหรือไม่ต้องการก็ตาม ถึงวาระผลนั้นจะเกิด การอธิษฐานเป็นการเจาะจงว่าให้ผลนั้นเกิดอย่างไร เกิดเมื่อไหร่ เพื่อที่มันจะได้พอเหมาะพอดี พอควรกับความต้องการของเรา ไม่ใช่หิวข้าวตอนนี้ อีก ๓ วัน ข้าวค่อยมาก็อดแย่เลย

    เพราะฉะนั้นอธิษฐานบารมีเป็นเรื่องสำคัญมาก

    คนที่ไม่เข้าใจมักจะคิดว่าทำบุญแล้วยังขอโน่นขอนี่เป็นการโลภ เข้าใจผิดมากเลย

    คัดลอกจาก : สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนธันวาคม ๒๕๔๕(ต่อ)ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

    ***********************

    รวบรวมเผยแพร่เป็นธรรมทานถวายเป็นพุทธบูชา
    โดย พระการัณ เตชกโรการอธิษฐานเป็นความโลภ ?

    หลวงปู่ดู่เคยสอนไว้ว่า เวลาทำบุญให้อธิษฐานสั้นๆไปเลยว่า

    "ขอให้ประสบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์"

    เพราะคำว่า ความดี นั้นรวมครบหมด ทั้งรวย สุขภาพดี มียศตำแหน่ง มีคนรักเมตตา ฯลฯ

    ส่วนปราศจากความทุกข์ก็ตัดสิ่งไม่ดีหมดทุกอย่าง ไม่มีทุกข์ ไม่มีโรคภัย ไม่มีอุปสรรค ไม่มีศัตรู ฯลฯที่สำคัญคือ

    การ "พบแต่ความดี" นั้นสำคัญมาก เพราะแม้เราจะขอพรจนร่ำรวยจริง แต่ไม่ดี เงินนั้นเราอาจเอาไปเล่นพนัน ไปซื้อยาบ้า สุดท้ายก็พาไปนรก

    แม้จะมียศตำแหน่งแต่ปราศจากความดี ก็อาจเอาตำแหน่งไปข่มเหงคนอื่น คดโกงประเทศชาติ ก็มีนรกเป็นที่ไป

    แม้จะมีแต่ใครๆก็รักเมตตา แต่หากเราไม่ดี เราก็อาจกลายเป็นคนเจ้าชู้ หลอกคนนี้ให้รัก คนนั้นให้หลง สุดท้ายก็ทะเลาะตบตีกัน และไปนรกกันทั้งหมู่

    "การขอให้พบความดี" จึงถือเป็นพรอันสำคัญที่สุด เพราะผู้ที่จะทำความดี ต้องมีปัญญาพอที่จะรู้ว่าความดีมีประโยชน์เช่นใด

    ดังนั้นเมื่อมีปัญญา แม้จะเกิดมาจน ก็ใช้ปัญญาหาเงินจนรวยได้ แม้จะเกิดมาต่ำต้อย ก็ใช้ปัญญาทำงานหายศตำแหน่งมาได้ไม่ยาก แม้เกิดมาไม่มีใครรัก แต่หากมีปัญญารู้จักพูดจา ใครๆก็จะหันมารัก ที่สำคัญคือเมื่อมีปัญญา ก็รู้ว่าความชั่วไม่มีประโญชน์ ไม่ควรทำ ความดี มีแต่ประโยชน์และควรทำ

    ดังนั้นจึุงเป็นผู้มีความสุขทั้งโลกนี้ และโลกหน้า มีแต่สุคติเป็นที่ไป นรกไม่ได้เยี่ยมเยียน ใครอยู่ใกล้ก็มีความสุข

    ดังนั้น เวลาทำบุญครั้งใด อธิษฐานง่ายๆก็ได้ครับว่า

    "ขอให้พบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์..."

    คัดลอกจากบทความในเว็บวัดถ้ำเมืองนะ

    ***********************

    คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง (พระราชพรหมยาน)

    อธิษฐานบารมี จะเข้าถึงความดีได้รวดเร็วการบำเพ็ญบารมีใด ๆ หรือ สร้างความดีใด ๆ เราจะตั้งมโนปณิธาน ความปรารถนา หรือไม่ก็ตาม ถ้าทำความดีมากครั้งเข้า ในที่สุดความชั่วก็สลายตัวไป เราก็เข้าถึงพระนิพพาน ตามเจตนา หรือไม่เจตนา ก็จะต้องเข้าถึงในเมื่อความชั่วถูกตัดเป็นสมุจเฉทปหาน แต่ทว่าถ้าปราศจาก อธิษฐานบารมี กว่าจะเข้าถึงจุดหมายปลายทาง ก็รู้สึกว่า มันเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือไม่ค่อยจะตรงนัก

    ฉะนั้น องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า จึงทรงแนะนำบรรดาท่านพุทธบริษัท ให้มี อธิษฐานบารมี

    ในการนี้ท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ตั้งใจกล่าววาจาว่าอิมาหัง ภควา อัตตภาวัง ตุมหากัง ปริจัจชามิ แปลเป็นใจความว่า ข้าพระพุทธเจ้า ขอมอบกายถวายชีวิต แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี่ก็หมายความว่า เราจะเอาชีวิตของเรา เข้าแลกกับความดีที่องค์สมเด็จพระชินสีห์ทรงแนะนำไว้ อย่างนี้ อาศัยเจตนาและความตั้งใจ จัดว่าเป็น อธิษฐานบารมี บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย จะเข้าถึงความดีด้วยความรวดเร็ว อย่างคาดไม่ถึง

    ***********************

    หลวงพ่อตอบคำถาม ทำบุญทำไมต้องอธิษฐาน
    โดย หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง (พระราชพรหมยาน)

    ถาม :
    "หลวงพ่อคะ การทำบุญทุกอย่าง แต่ไม่ได้ปรารถนาอะไรเลย จะได้ไหมคะ...?"

    ตอบ :
    ได้โยม ทำไมจะไม่ได้ คือถ้าไม่ตั้งมโนปณิธานปรารถนา บุญมันก็ต้องเป็นบุญ แต่ว่าอานิสงส์เบื้องปลายมันไม่เหมือนกัน

    ถาม :
    "เป็นไงคะ...?"

    ตอบ :
    การปรารถนาจัดเป็นอธิษฐานบารมีนะ ตั้งใจว่าการทำบุญอย่างนี้เพื่อผลอะไร อย่างที่ไม่ปรารถนาพุทธภูมิ ไม่ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ไม่ปรารถนาเป็นอัครสาวก แต่ปรารถนาเพื่อการหมดกิเลส ก็ชื่อว่ายังปรารถนาอยู่

    ถาม :
    "ถ้าหากว่าทำเฉย ๆ เล่าคะ...?"

    ตอบ :
    ถ้าหากว่าทำเฉย ๆ ไม่ปรารถนาอะไรเลย ตัวอย่างก็มีท่าน อาฬวีเศรษฐี

    คือว่าท่านอาฬวีเศรษฐีพ่อท่านเป็นมหาเศรษฐี พอพ่อท่านตายลงท่านก็เป็นเศรษฐีแทน เศรษฐีสมัยนั้นพระราชาต้องแต่งตั้ง แล้ว ต่อมาพวกขี้เมาก็ชวนกินเหล้าเมายา ในที่สุดทรัพย์สินก็หมดไป จนกระทั่งกลายเป็นขอทาน

    วันหนึ่งพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสงฆ์เสด็จไปที่เมืองอาฬวี เห็นอาฬวีเศรษฐีนั่งขอทานอยู่ข้างฝาเรือนชาวบ้าน พระพุทธเจ้าก็ทรงแย้มพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้าตามปกติจะไม่แย้มพระโอษฐ์ ถ้ายิ้มแล้วต้องมีเรื่อง พระอานนท์จึงทูลถามว่า

    "พระองค์ยิ้มด้วยเรื่องอะไร พระพุทธเจ้าข้า...?"

    พระพุทธเจ้าถามว่า

    "อานนท์ เธอเห็นอาฬวีเศรษฐีไหม...?"

    พระอานนท์มองไปมองมาไม่เห็น เห็นแต่ขอทาน พระพุทธเจ้าก็บอกว่า ขอทานนั่นแหล่ะคืออาฬวีเศรษฐี แล้วพระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า ถ้าอาฬวีเศรษฐีสมัยเมื่อเป็นเศรษฐี ถ้าฟังเทศน์ของเราเพียงจบเดียวจะได้บรรลุพระอนาคามี เมื่อเงินน้อยลงมาเป็นอนุเศรษฐี ถ้าฟังเทศน์จากเราเพียงจบเดียวจะได้เป็นพระสกิทาคามี เมื่อมีฐานะเป็นคหบดี ถ้าฟังเทศน์จากเราเพียงจบเดียวจะได้เป็นพระโสดาบัน แต่ว่านี่อาฬวีเศรษฐีเป็นขอทานเสียแล้ว เราเทศน์จึงไม่มีผล

    ตอนนี้พระอานนท์ทูลถามว่า

    "ตามธรรมดาคนจะบรรลุมรรคผล องค์สมเด็จพระทศพลเคยตรัสว่าจะตายก่อนก็ยังไม่ได้ ต้องบรรลุมรรคผลก่อนนี่ พระพุทธเจ้าข้า...?"

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า

    "นั่นเขามี อธิษฐานบารมี"

    ตอบ :
    เป็นอันว่าอาฬวีเศรษฐี ไม่มีอธิษฐานบารมีใช่ไหมโยม

    ถาม :
    "ใช่ค่ะ"

    ตอบ :
    คนจะได้ดี เลยไม่ได้ดี ต่อไปอธิษฐานเสียนะ.

    คัดลอกจาก : รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    ***********************

    อธิษฐานบารมีเป็นเรื่องที่สำคัญ
    โดย หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน

    ถาม :
    เขาบอกว่าไม่ทำหวังผล

    ตอบ :
    ในลักษณะนั้นก็ดีจ้ะ คือว่าปล่อยวางได้ แต่ว่าลักษณะเหมือนกับการทำงาน ถึงเราต้องการหรือไม่ต้องการ ปลูกต้นไม้ลงไป ถึงเวลาดอกผลมันต้องออก พอถึงเวลาดอกผลมันออกมาไม่ดี คนปลูกบอกว่าไม่หวังผล แต่เห็นแล้วอาจจะไม่สบายใจไปเลยก็มี

    ีเพราะฉะนั้นถ้าหากว่าเราไว้ว่าทำอะไร วัตถุที่เราตั้งใจจะทำ ได้มาโดยถูกต้อง

    ตัวเรามีศีลบริสุทธิ์
    ผู้รับมีศีลบริสุทธิ์
    ผลมันเต็ม ๑๐๐ ส่วนอย่างนี้ ก็เลือกทำในสิ่งที่ดีๆ ดีกว่า พอถึงวาระถึงเวลา ผลที่ได้มามันก็ชื่นใจสมกับที่เรารอคอย

    มีหลายคนที่คิดแบบนี้ อย่างเช่นว่าทำบุญแล้วอธิษฐานขอโน่นขอนี่เป็นการโลภ แบบนี้มันต้องไปเกิดเป็นอาฬวีเศรษฐี มันถึงจะเข็ด....

    ...อธิษฐานบารมีนี่เป็นบารมีที่สำคัญมาก ถ้าบุคคลที่สร้างบารมีมายังไม่ถึงตอนปลาย จะใช้อธิษฐานบารมี ไม่เป็นเลย ผลทุกอย่างไม่ว่าดีหรือชั่วที่เราทำไป ต้องการหรือไม่ต้องการ มันก็เกิดผลแน่นอน

    ทางวิทยาศาสตร์ยังยืนยันเลยใช่ไหม ว่าทุกอย่างที่ทำไปมันมีผล คราวนี้ถ้าหากว่าผลนั้นมันมาในจังหวะที่เราต้องการมันก็ดี ถ้ามันมาในจังหวะที่เราไม่ต้องการ เราก็จะแย่ไปเลย...

    ...อธิษฐานบารมีเหมือนกับยิงปืนแล้วเราเล็งเป้า อย่างไรๆ ให้มันถูกเป้าแน่อนดีกว่า ไม่ใช่ยิงส่งเดช โอกาสมันจะถูกมันก็น้อย

    เพราะฉะนั้น คนที่จะใช้อธิษฐานบารมีก็คือ เราทำอะไรต้องการหรือไม่ต้องการก็ตาม ถึงวาระผลนั้นจะเกิด การอธิษฐานเป็นการเจาะจงว่าให้ผลนั้นเกิดอย่างไร เกิดเมื่อไหร่ เพื่อที่มันจะได้พอเหมาะพอดี พอควรกับความต้องการของเรา ไม่ใช่หิวข้าวตอนนี้ อีก ๓ วัน ข้าวค่อยมาก็อดแย่เลย

    เพราะฉะนั้นอธิษฐานบารมีเป็นเรื่องสำคัญมาก

    คนที่ไม่เข้าใจมักจะคิดว่าทำบุญแล้วยังขอโน่นขอนี่เป็นการโลภ เข้าใจผิดมากเลย

    คัดลอกจาก : สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนธันวาคม ๒๕๔๕(ต่อ)ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

    รวบรวมเผยแพร่เป็นธรรมทานถวายเป็นพุทธบูชา
    โดย พระการัณ เตชกโร
    ===================================
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2017
  2. แสงแห่งบารมี

    แสงแห่งบารมี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    12
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +107
    บทอธิษฐานแสงแห่งพุทธ และบทส่งบุญไพศาล

    It appears your Web browser is not configured to display PDF files. No worries, just click here to download the PDF file.

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • light.pdf
      ขนาดไฟล์:
      112.2 KB
      เปิดดู:
      621
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 กรกฎาคม 2017

แชร์หน้านี้

Loading...