ทำไมหลวงพ่อฤาษีลาพุทธภูมิครับ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย theseng99, 15 มีนาคม 2013.

  1. theseng99

    theseng99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +487
    ทำไมหลวงพ่อฤาษีลาพุทธภูมิครับ ผมเคยอ่านเจอ แต่จำไม่ได้ว่าเล่มไหน เนื่องจากอ่านหลายเล่มมาก มีตอนนึงท่านบอกว่าต้องบริจาคลูกเมียเป็นทาน ท่านเลยลา แต่หากผิดประการใดขอโทษ ณ ที่นี้ด้วย

    แต่เคยอ่านเจอในเน็ตบอกท่านลาเพราะกลัวจะไปฆ่าเขา นี่ยังไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไรครับ
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    ลองไปตรวจดูในหนังสือ ประวัติหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เล่มที่ออกโดยวัดท่าซุง ข้างล่างนี้หละครับ ลองไปดูนะครับ....

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2013
  3. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814


    :cool: ท่านลาพุทธภูมิ ก็เพราะท่านอยากลานะสิ ก็เพราะท่าน เบื่อในการเกิด อีก และข้อสำคัญ ท่านต้องการ มาช่วยประกาศ พระศาสนา ให้ครบ ๕,๐๐๐ พันปี เพราะในสายของท่าน เป็นกำลังใหญ่ เพื่อช่วยพระศาสนา พระโพธิสัตว์แต่ละองค์ ก็มาช่วยกันประกาศสาสนา ถ้าท่านไม่มาช่วยกัน พระศาสนาจะอยู่ไม่ได้ ส่วนรายละเอียด ไปค้นคว้าเอาครับ


    การลาของพระโพธิสัตว์ ต้องมีเหตุ อันควรอยู่แล้ว จริงๆ ผมว่าถ้าท่านรอ คิว ที่จะมาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า ถ้านับจาก พระศรีอารย์ไป ก็อีก ๒๓ พระองค์ ท่านจะมาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า ที่ท่านกล่าวไว้ ถ้านับจาก พระรามเจ้า ก็อีก ๒๒ พระองค์ มาตรัสรู้เป็นพระพุทธพุทธเจ้า ฉนั้นตรงนี้ มันไม่ใช่วิสัยของเรา จึงยากแก่การรู้ครับ แต่ท่านก็เมตตา สงเคราะเล่าให้แก่ศิษย์ ที่อยู่ใกล้ชิดได้ฟัง และเขียนเป็นตำรา ไว้อ่านกัน เป็นอันมูลเหตุมากมายครับ แค่นี้แหละครับขี้เกียจอธิบายมากกว่านี้ครับ:cool:
     
  4. ramo

    ramo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +3,027
    นอกเรื่องนิดนึงครับ หลวงพ่อปานจะตรัสองค์ที่เท่าไหร่ครับ
     
  5. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    ถาม : กัปนี้เป็นกัปพิเศษมีพระพุทธเจ้าทั้งหมดกี่พระองค์ที่ตรัสรู้คับ ? ไม่ทราบว่าหลวงพ่อปานนี่จะตรัสรู้เมื่อไหร่ ?
    ตอบ : หลวงพ่อปานกัปหน้าโน่น ไม่ใช่กัปนี้ กัปนี้จะหมดแค่พระศรีอารย์ (หัวเราะ) นอกตำราอีกแล้ว ไม่ได้นอกตำรานะ กัปที่มีพระพุทธเจ้าก็จะมี สารกัปก็จะมีพระพุทธเจ้า ๑ องค์นะ มัณฑกัปมีพระพุทธเจ้า ๒ องค์ วรกัปมีพระพุทธเจ้า ๓ องค์ สารมัณฑกัปมีพระพุทธเจ้า ๔ องค์ ภัทรกัปมีพระพุทธเจ้า ๕ องค์ ช่วงนี้ฟลุคว่าเป็นภัทรกัป ๒ กัปติดกันเลย
    ถาม : ไม่เคยมีมาก่อน ?
    ตอบ : ไม่เคยมีมาก่อนเลยในอดีตเต็มที่ก็แค่ ๔ องค์นะ แล้วเสร็จแล้วมันก็จะเป็นสุญญกัป อันตรายกัป สัตถันตรกัป ที่หาความดีไม่ได้ มีแต่ที่ประเภทคนใจคอโหดร้ายเห็นคนอื่นเป็นเหยื่อเป็นอะไรไปเลยอย่างนั้น อันนี้ถือว่าฟลุคสุด ๆ
    ถาม : แปลว่ากัปนี้จริง ๆ แล้วมีแค่ ๕ องค์ ๒ กัปชนกัน ?
    ตอบ : ๒ กัปชนกัน ถ้าหากว่านับแล้ว หลวงพ่อปานจะเป็นองค์ที่ ๗
    ถาม : ๗ นับจากองค์ไหนครัับ ?
    ตอบ : นับจากองค์ต้น พระกกุสันโธสัมมาสัมพุทธเจ้า



    ฉบับที่ ๑๕ หน้า ๒

    .
     
  6. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    ลาพุทธภูมิ โดยหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

    การลาพุทธภูมิของหลวงพ่อมีหลายสาเหตุ
    สาเหตุที่สำคัญที่สุดคือต้องการสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ครบ ๕๐๐๐ ปี
    อีกสาเหตุหนึ่งคือท่านเห็นทุกข์จากการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร

    การเจริญพระกรรมฐานที่เราศึกษากัน พวกเรามาเจริญกรรมฐานที่นี่แล้วไปฟังที่อื่นไม่รู้เรื่องน่ะ
    อย่าว่าท่านนะ อย่าไปว่าสำนักนั้นสอนไม่ดี เพราะเราไม่ได้ตามกันมา คือ จะต้องตามกันจึงจะพูดรู้เรื่อง
    คนที่เขาศรัทธาในสำนักอื่นก็เหมือนกัน มาสำนักเราเขาอาจจะฟังไม่รู้เรื่อง เพราะไม่ได้ติดตามกันมา
    ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดี เขาก็ดีเหมือนกัน
    คนที่จะพูดให้คนทุกประเภทรู้เรื่องได้น่ะ มีพระพุทธเจ้าองค์เดียว
    แต่สำหรับพวกสาวกนี่ต้องอาศัยเป็นคนที่ติดตามกันมาแต่ในอดีตชาติ
    ทำบุญร่วมกันมาแบบนี้แหละ
    ฉันก็เกิดเป็นพระเรี่ยไรญาติโยมอยู่ตลอดเวลายังงี้ มันน่าเกิดทุกชาตินะ แต่มันไม่ยังงั้นน่ะซิ
    บางชาติก็พาพวกไปรบกับเขาสนุกสนาน ไอ้ฉันก็หัวโจกผู้หยงผู้หญิงก็คว้าดาบเข้าฟันกับเขา
    ตีกับเขา โอ๊! สนุก! เผลอ ๆ ก็ลงนรกกันสนุกเสียที
    แต่คิดว่าพวกเรานี่คงจะไม่ลงนรกมาประมาณ ๑,๐๐๐ ชาติแล้วนะ
    แล้วอย่ากลับไปอีกเลย ถ้าหัวหน้าไม่ลงลูกน้องก็ไม่ลงหรอก ใช่ไหม...

    ความจริงอาตมาไม่รู้เอง มีอยู่คราวหนึ่ง เมื่อคราว พ.ศ. ๒๔๙๗
    ปีนั้นนั่งนึก ๆ ดู เอ..ไอ้กูนี่ตายแล้วจะไปไหนดีหว่า...มานั่งคิดบัญชีตั้งแต่เกิดมา
    มันทำบาปมากกว่าทำบุญ รู้ตัวว่าทำบาปมาเยอะ แต่การทำบาปก็เป็นสาธารณประโยชน์
    ถึงเป็นสาธรณประโยชน์ก็จริง แต่ไอ้การฆ่าเขานี่มันก็บาป ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นโจรเป็นผู้ร้าย
    ก็มานั่งคิดว่าน่ากลัวจะไปนรกเล่นสบาย ๆ นั่งเลือกเอาสักขุม ขุมไหนก็ช่างมันเถอะ!
    รำพึงดูว่าจะเปลื้องตัวเองให้พ้นนรกจะทำยังไง การเจริญพระกรรมฐานน่ะจริง เจริญมาตั้งแต่วันบวช
    แต่ก็เกรงกำลังใจว่าเวลาตาย ถ้าจิตเราเสียนิดหนึ่งอาจจะไปนรก


    พอคิดถึงตอนนี้ก็มีเสียงไม่แว่วหรอก ดังชัด! เสียงถามว่า "จะไปขุมไหนดีล่ะ?" เสียงจากข้างบน ถ้ามาจากข้างล่างล่ะยุ่งแน่ เสียงเพราะนะ
    เหมือนเสียงเด็กก็ไม่ใช่ เป็นเสียงเด็กกับเสียงผู้หญิงบวกกัน
    เสียงประเภทนี้มาจาก ๒ แห่ง คือ จากพรหมหรือจากนิพพาน
    แต่ตอนนั้นเข้าใจว่าจะเป็นเสียงพรหม ถามว่า "จะไปขุมไหนดี ตัดสินใจแล้วหรือยัง?"
    ตอบไปว่า "ยังหาที่เลือกไม่ได้"
    แล้วเสียงนั้นก็ตอบมาบอกว่า
    "จะไปได้ยังไงในเมื่อท่านไม่ไปมา ๑,๐๐๐ ชาติแล้ว..."

    เราเลยนึกว่าแกโกหกน่ะซิ! ๑,๐๐๐ ชาติถอยหลังไป โอ้โฮ! ขนาดหนักเลย
    ฆ่านับหัวไม่ถ้วน รบทัพจับศึกนี่ฆ่ากันมาเท่าไหร่ ก็ถามว่า
    "มันจะแน่ได้ยังไง ไม่ตกนรก ๑,๐๐๐ ชาติ"
    แกบอกว่า "ถอยหลังไปดูซิ! ทุกชาติเล่นฌานสมาบัติ รบก็รบกัน
    เวลาเลิกจากรบก็ทำบุญสุนทาน สร้างวัดสร้างวาให้ทาน เจริญกรรมฐาน
    ก็ใช้กำลังฌานหนีนรกมาทุกชาติ แล้วทำไมชาตินี้จึงจะไปล่ะ?"


    เอ..ชักครึ้ม ๆ ค่อยยังชั่วหน่อย ก็เลยร้องถามไป "ถ้าฉันตายเวลานี้ไปอยู่ที่ไหน?"
    อีตอนนั้นความจริงยังไม่ถอนจาก "พุทธภูมิ"
    เขาเลยตอบว่า "ชาตินี้ก็เลือกเอาซิ! อยากจะไปอยู่พรหมหรืออยู่ดุสิต?"

    ก็เลยนั่งนึกนอนนึกจะไปไหนดีหว่า .. จะไปอยู่ชั้นดุสิต ผู้หญิงมากนี่ ดูท่าจะไม่ไหว
    เพราะอีตอนนั้นข้าง ๆ วัดแกทะเลาะกันเรื่อย พูดกันแค่คนละคำเราก็แย่แล้ว
    ถ้าจะไปอยู่พรหมก็นานเกินไป เลยคิดว่า เอ้า! อยู่ไหนก็ช่างมันเถอะ! ใช้ได้..
    ถ้าเขาพูดกันมากนัก เราทำเฉย ๆ เสียมันก็หมดเรื่อง..

    ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๐๓ หลายปีนะ ปีนั้นนั่งอยู่คนเดียว
    พระเขาไปหากินผีกันหมด เขานิมนต์ไปมาติกาบังสุกุลหมดวัด
    ฉันมันเป็นคนขี้เกียจนี่ ถ้าไม่มาป้อนถึงวัดก็ไม่ค่อยจะเอาหรอก
    แล้วก็เป็นห่วงถ้าไปกันหมดเดี๋ยวขโมยลักวัด เลยนั่งอยู่คนเดียว
    ประมาณสัก ๔ โมงเช้า ลองนึกดู เออ..ไอ้กูมันเกิดมาเป็นคนมากี่ชาติหนอ
    แล้วเป็นสัตว์มากี่ชาติ นึกเท่านี้ก็มีเสียงกังวานมา เสียงเพราะมาก
    เสียงผู้หญิงบวกผู้ชายเหมือนกัน แต่กังวานมากนี่เป็นเสียงจากนิพพาน
    แต่ฟังชัดมากเหมือนกับเราคุยกันใกล้ ๆ บอกว่า "คุณอยากจะรู้หรือว่าเกิดเป็นคนกี่ชาติ? เกิดเป็นสัตว์กี่ชาติ?"
    ก็เลยตอบว่า "พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าอยากจะทราบ"
    ท่านก็บอกว่า "ดูข้างหน้านี่ซิ!" ก็มองไปข้างหน้า

    ไอ้ชาติที่เกิดเป็นคนนี่นอนเรียงกันยาวสัก ๑๐ กว้าง ๑๐ นี่นะเรียงขึ้นไป มันเลยเขาพลองตั้ง ๒ เท่า
    ส่วนภาพเสดงชาติที่เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานเป็นอีก ๔ เท่า จากสัตว์เล็กถึงสัตว์ใหญ่สูงเท่า ๆ กันแหละ
    คิดเฉลี่ยแล้วเป็นสัตว์มากกว่าเป็นคนมาก แหม...เรามีบุญเยอะ
    ท่านก็เลยบอกว่า "นี่แค่สัตว์กับคนนะ นรกยังไม่ได้คิด" แหม..ขนาดนรกยังไม่ได้คิด

    ท่านก็เลยบอกว่า"เราทิ้งอัตภาพมาขนาดนี้แล้ว ร่างกายเต็มไปด้วยความทุกข์
    ขณะที่เราเกิดเราก็คิดว่าเราไม่ตาย แต่ทุกชาติเราก็ตาย ทำไมชาตินี้เราจะห่วงใยอะไรต่อไปอีกรึ
    ยังคิดว่าเราจะเกิดต่อไปรึ เห็นไหม.. แต่ละอัตภาพที่เกิดมาน่ะมันก็เต็มไปด้วยความทุกข์
    แล้วการเกิดแต่ละชาติมันไม่ใช่เป็นมนุษย์เสมอไป ไปเป็นสัตว์เดรัจฉานจากสัตว์เล็กไปถึงสัตว์ใหญ่ก็มี
    บางคราวเกิดเป็นเทวดาก็มี เป็นพรหมก็มี เป็นสัตว์นรกก็มี แต่ไอ้เทวดากับพรหมน่ะมันน้อยกว่า
    สัตว์นรกและสัตว์เดรัจฉาน แล้วคุณจะหวังเกิดมาทำไมล่ะ .. ?"


    เราก็นั่งตาปริบ ๆ ไอ้เราก็ไม่อยากจะเกิด แต่มันก็เกิดจะไปว่ายังไงมัน เลยถามท่านว่า "ถ้าอย่างนั้นล่ะ! จะไม่เกิดได้ไหม?"
    ท่านบอกว่า "ไม่เห็นมันยากนี่" แน่ะ! พูดกับคนไม่ยากนี่ พูดกับคนที่ไม่รู้จักเกิดก็ "ไม่ยาก!" ถามว่า "ไม่ยากจะทำยังไง?"

    ไอ้ที่ทำอยู่นี่ก็เพื่อความไม่เกิด แต่ว่ากำลังใจยังไม่ได้ตัดสินแน่นอนนัก ยังมีจังหวะห่วงหน้าห่วงหลัง
    มีจุดหนึ่งที่คิดว่าเราต้องการสงเคราะห์ประชาชนให้มีความสุข เพราะอาศัยพุทธภูมิเป็นสำคัญ
    จิตอีกดวงหนึ่งคิดว่าทำบาปขึ้นมานี่ เป็นพระอรหันต์ไปนิพพานเสียดีกว่า

    ท่านบอก "อย่าให้มันแย่งกันซิ! เอาด้านใดด้านหนึ่ง"
    ถามว่า "ถ้าด้านใดด้านหนึ่งใช้เวลานานไหม?"
    ท่านบอก "ไม่นาน" ถามว่า "เท่าไหร่?"
    ท่านก็ตอบ แต่จะไม่บอกนะว่าท่านบอกว่าไง ท่านก็กะเวลาให้ อ๋อ! เรื่องเล็ก ๆ
    แต่ว่าต้องเป็นนักเรียนทุน พอเรียนจบแล้วต้องทำงานใช้หนี้ ๑๒ ปี ก็ทำตามท่านรู้สึกว่าง่าย

    ที่ง่ายเพราะอะไร เพราะว่าอันดับต้นที่บวชใหม่ ๆ เล่นสมาบัติ ๔ ถึงสมาบัติ ๘
    พอถึงสมาบัติ ๘ อาศัยที่ปรารถนาพุทธภูมิ มันก็ยั้งตัวอยู่แค่นั้น ก็ฟัดกันเรื่องสาธารณประโยชน์

    "พุทธภูมิ" นี่ห่วงคนอื่นมากกว่าห่วงตัว ตัวเองจะมีกินหรือไม่มีกินไม่สำคัญ ขอให้สาธารณชนเขามีความสุข
    จิตใจมันขยายไปแบบนั้นนะ ไอ้ที่นอนก็เป็นเสื่อขาด ๆ เก่า ๆ ของใหม่ไม่มีในกุฏิ เวลานี้ที่วัดมีของดี ๆ มาก
    ชาวบ้านเขาจัดให้ ถ้าชาวบ้านเขาให้ชนิดไม่จำกัดล่ะหมด แจกเรียบ!!!...


    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน


    http://palungjit.org/threads/ลาพุทธภูมิ-โดยหลวงพ่อฤาษี-วัดท่าซุง.255696/

    .
     
  7. ramo

    ramo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +3,027
    ถ้าอย่างนั้นหลวงพ่อปานท่านก็เป็นพระเจ้าปเสนทิโกศลในอดีตจะใาตรัสเป็นพระธรรมราชา ?
     
  8. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814


    :cool: s];'x^jxko หลวงปู่ปาน ท่านเป็น พระโพธิสัตว์ใหญ่ หลวงฤาษีท่านกล่าวไว้ว่า หลวงปู่ปานบอก ต่อจากพระรามเจ้า เป็นองค์ที่ ๗ ของกัปนี้ครับ เพราะกับนี้ มีพระพุทธเจ้า ทรงถึง ๑๐ พระองค์


    ขอเอาคำของหลวงพ่อ พยุง วัดบัลลัง อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี ท่านพูดกับผมว่า ตอนท่านไป สวรรค์ชั้นดาวดึง สเทวโลก ท่านบอกว่า บนสวรรค์ ชั้นดาวดึง เขาเรียก หลวงปู่ปาน ว่า สมเด็จ เขาไม่เรียกหลวงปู่หลวงพ่อครับ :cool:
     
  9. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    กัปนี้เป็นภัทรกัปมีพระพุทธเจ้า 5 องค์ครับคุณบุญทรงไม่ใช่ 10 องค์

    แต่ 10 องค์นี่นับรวมกัปนี้กับกัปในอนาคต จึงเป็น 10 องค์
     
  10. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    เคยอ่านประวัติหลวงปู่มั่นเขียนโดยพระอาจารย์ทองคำ ท่านบอกว่าพระเจ้า ปเสนทิโกศล กลับชาติมาเกิด เป็น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ

    ถ้าเป็นตามข้อมูลในหนังสือกระโถนข้างธรรมาส (รู้สึกจะเขียนโดย อ.เล็กวัดท่าขนุน) แสดงว่า พระจอมเกล้าฯ (สวรรคต ปี 2411) กลับชาติมาเกิดเป็นหลวงพ่อปาน (ชาตะ 2418) อีกทีหนึ่ง และจะตรัสรู้เป็นพระธรรมราชาพุทธเจ้า ต่อไป

    http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-mun/lp-mun-hist-06-05.htm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 มีนาคม 2013
  11. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    :cool:ผมเชื่อหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ท่านกล่าวไว้ว่า กับนี้ ทรงพระพุทธเจ้าถึง ๑๐ พระองค์ พระพุทธเจ้า องค์แรก ท่านยังกล่าวไว้ องค์สมเด็จพระพุทธสิขีทศพล ที่ ๑ จนคนทั้งหลาย ยอมรับเกือบจะทั้งโลกแล้ว ร่างกายท่านไม่เนื่อเปื่อย แม้ลูกศิษย์ทั้งหญิงและชาย ที่ตายเอาศพไว้ ก็ไมเน่ายังมี อยู่ ผมมีปัญาญา จะเชื่อพระอริยเจ้า หรือ จะเชื่อ คนมีกิเลสหนา สันดาลยังหยาบอยู่


    ผมสัมผัส หลวงปู่ หลวงพ่อ ต่างๆมามากมาย รุ่นเก่าๆ เกินกว่า ๕๐ พระอง์ พบทั้งพระโพธิสัตว์ ทั้งพระฆราวาส ทั้งผู้หญิงผู้ชาย ทั้งที่เกิดเป็นสัตว์ ผมก็ไม่เชื่ออะไรใครง่ายๆหรอกครับ ก็ไอ้แค่ศึกษามาแค่นี้ ยังไม่ถึงหางอึ่ง จะไปรู้ เรื่องที่ละเอียดกว่านี้แล้วได้อย่างไร ถ้าคุณ รู้จัก ผี เทวดาพรหม หรือเห็น ใจคนอื่นได้ หรือใจตัวเอง ผมก็พอจะเชื่อครับ สิ่งไหนที่ผมยังพิสูตรไม่ได้ ผมจะนิ่งไว้ก่อน ถ้าพิสูตรได้เมื่อไหร่ จึงจะเชื่อ ๑๐๐ เปอร์เซ็น ฉนั้นสิ่งใด ที่ไม่รู้จริง เราควรทำใจไว้ ๕๐-๕๐ก่อน อย่าด่วนตรัสสินลไปและฟันธง


    หลวงปู่บุญเหลือ อยู่ที่ศาลาแก้วกู่ จ.หนองคาย ท่านเป็นฆราวาส ท่านเขียนประวัติ ปั้นรูป พระพุทธเจ้า ในกัป นี้ และพระโพธิสัตว์ ที่จะมาตรัสรู้ ในกัปนี้ อายุเท่าไหร่ ท่านบอกไว้เคร่าๆ เหมือนหลวงพ่อฤาษี และหลวงพ่อฤาษี ท่านเขียนตำรา หนังสือเทป ไว้ให้อ่านจนผม อ่านแล้วลืม และจำมาได้นิดเดียวเอง คนที่เขารู้เรื่องนี้ เป็นล้านๆคน แต่คนที่ศึกษาธรรมมาพอสมควร ถ้าใช้ปัญญา คงไม่เกินวิสัย ของท่านเหล่านั้น ถ้าใจของคุณสอาดพอ บูชาพระธาติ ขอพระธาติ ให้เสด็จ มายังทำได้เลย อันนี้ของใครของมันครับ


    และพุทธเจ้าจะมาตรัสรู้ในอนาคต เมล็ดทรายในมหาสมุทรก็ไม่เท่า พระโพธิสัตว์ที่มีบารมีเต็มแล้ว นับแสนพระองค์ ตามที่หลวงพ่อฤาษี ท่านกล่าวไว้ และยิ่งที่ เป็นบารมีต้น และบารมีกลาง อีกนับไม่ถ้วน ผมไม่ได้ แจงละเอียดทั้งหมด เพราะจำไม่ได้ เอาแต่ยอดแท้ๆมา แต่ที่เฮียปอ นำมากล่าว ก็พอได้ใจความบ้างแล้ว การที่หลวงพ่อ ฤาษี ท่านกล่าวไว้ มีอยู่ในเทป หนังสือ หลายเล่ม จำไม่ได้ และที่ท่านเทศทิ้งไว้ ผมนั่งฟังอยู่ ว่าในกัปนี้ มีพระพุทธเจ้าถึง ๑๐ พระองค์ ยังยืนยันเหมือนเดิม ทุกประการ:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2013
  12. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    :cool:ในสมัยครั้งพุทธกาล หลวงปู่ปาน ท่านเกิดเป็นพระเจ้าโกศล หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง เกิดเป็นพระเจ้าปเสนทิโกศล พระเจ้าแผ่นดินในสมัยครั้งพุทธกาล ชื่อซ้ำกันเยอะครับ จึงต้อง ทำความเข้าใจให้ถูก ตั้งแต่สมัยครั้งพุทธกาลเป็นต้นมา หลวงพ่อฤาษี ท่านเกิดมาอย่างน้อย ๑๓ ชาติจำผิดขออภัยครับ จะไล่เรียงชื่อเคร่าๆ (๑) พระเจ้าปเสนทิโกศล (๒) พระเจ้าพรหมมหาราช (๓) เณรน้อย ๗ ขวบ (๔) พระเจ้าเม็งรายมหาราช (๕) พระยาโกศาเหล็ก (๖) ขุนแผน (๗) พระธรรมราชา มเหสีชื่อพระสุริโยทัย (๘) ร.๑ นายดองด้วง หรือนายจันหนวดเขี้ยวคนๆเดียว มี ๓ ชื่อ ตรงนี้ อาจมีการเขียนประวัติศาสตร์ ผิดเยอะมาก (๙) ร.๕ อันนี้ อย่าเอามาเป็นข้อสำคัญนะครับ เขาเชื่อกันในกลุ่มลูกศิษย์เท่านั้นครับ (คนอื่นไม่เกี่ยวครับ) ที่ไม่ใช่ลูกศิษย์ เขาเชื่อกันในกลุ่มลูกศิษย์และบริวารเท่านั้น นอกนั้น จะเชื่อหรือไมเชื่อ เป็นเรื่องของท่านครับ



    และอีก ๓-๔ ชาติจำไม่ได้ ผิดขอท่านทั้งหลายให้อภัยนะครับ เรียงไม่ตรง หรือจำผิด และท้ายสุดท่านกล่าวว่า ในสายของเราเกิดกันมา นับชาติไม่ถ้วน เกิดเป็นกันมาหมดแล้ว นรกก็ตกกันมามากแล้ว เป็นกันมาทุกอย่าง สัตว์ นรกเปรต อสูรกาย สัตว์เดรัชฉาน ทุกประเภท มนุษย์ คนรวยคนจน ทั้งพระราชามหากษัตย์ ขุนนางใหญ่น้อย เป็นกันมาไม่เหลือ ทั้งเทพเทวดา พรหม นางฟ้า ขอให้ทุกคน เห็นทุกข์ ในการเกิดต่อไป ท่านสอนให้ทุกคนในเกิดต่อไป ท่านสอนทุกคนตรัสกิเลส ไปนิพพาน ถ้ายังมีบารมี ไปไม่ถึงนิพพาน อย่างต่ำท่านสอนให้ทำกำลังใจ ไปสวรรค์ ชั้นดาวดึงสเทวโลก ถ้าพระศรีอริยเมตตรัย มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ได้ฟังธรรมจากท่าน เป็พระอรหันต์ไปนิพพาน ในชาตินั้นเลย นี่เป็นคำสอนของท่านเล็กๆน้อยๆครับ:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2013
  13. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    ผมก็ไม่เชื่อหรอกว่าหลวงพ่อฤาษีจะพูดผิดๆเหมือนที่คุณบุญทรงพูด คุณบุญทรงคงจำมาผิดเสียมากกว่า หรือไม่ก็ไปฟังคนที่พูดผิด แล้วคิดว่าถูก ถ้าคุณไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าหลวงพ่อฤาษีพูดเช่นนั้นจริง คุณอย่ากล่าวอ้างท่านด้วยคำพูดที่ผิดๆเลยจะเป็นบาปแก่ตัวคุณเอง

    อีกอย่างคุณรู้ไหมคุณกำลังทำบาปหนาด้วยการด่าว่าพระพุทธเจ้า และพระสงฆ์ (หลวงพ่ีเล็ก วัดท่าขนุน) ว่ากิเลสหนา สันดานหยาบ อยู่ดังที่คุณโพสมาข้างต้น

    เพราะพระพุทธเจ้าเป็นผู้ตรัสไว้เองในพุทธปกิรณกกัณฑ์ว่าด้วยเรื่องเบ็ดเตล็ดเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าดังนี้

    ในภัทรกัปนี้ มีพระพุทธเจ้า ๓ พระองค์ คือ พระกุกกุสันธะ พระโกนาคมนะ และพระกัสสปะ บัดนี้เรา (พระโคดมพุทธเจ้า) เป็นพระสัมพุทธเจ้าและจักมีพระเมตไตรย์สัมพุทธเจ้า แม้พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์นี้ ก็เป็นนักปราชญ์ อนุเคราะห์โลก บรรดาพระพุทธเจ้า ผู้เป็นธรรมราชาเหล่านี้ พระเมตไตรย์สัมพุทธเจ้าจักตรัสบอกมรรคา นั้นแก่ผู้อื่นหลายโกฏิ แล้วจักเสด็จนิพพานพร้อมด้วยพระสาวก ฉะนี้แล.จะเห็นได้ว่าพระพุทธเจ้าตรัสไว้เองว่า ในภัทรกัปนี้ มีพระพุทธเจ้า 5 พระองค์

    http://www.84000.org/tipitaka/pitaka...&A=8563&Z=8606 )

    ส่วนหลวงพ่่ีเล็ก วัดท่าขนุน ท่านก็เป็นศิษย์เอกองค์หนึ่งของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านก็พูดไว้ตามที่ คุณเฮียปอ นำมาลงไว้ว่า

    ตอบ : หลวงพ่อปานกัปหน้าโน่น ไม่ใช่กัปนี้ กัปนี้จะหมดแค่พระศรีอารย์ (หัวเราะ) นอกตำราอีกแล้ว ไม่ได้นอกตำรานะ กัปที่มีพระพุทธเจ้าก็จะมี สารกัปก็จะมีพระพุทธเจ้า ๑ องค์นะ มัณฑกัปมีพระพุทธเจ้า ๒ องค์ วรกัปมีพระพุทธเจ้า ๓ องค์ สารมัณฑกัปมีพระพุทธเจ้า ๔ องค์ ภัทรกัปมีพระพุทธเจ้า ๕ องค์ ช่วงนี้ฟลุคว่าเป็นภัทรกัป ๒ กัปติดกันเลย

    ไม่ว่าหลวงพ่อฤาษี หรือใครก็ตามก็เป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้าทั้งนั้น ถ้าคุณไม่เชื่อพระพุทธเจ้า ก็อย่าอ้างว่าเป็นชาวพุทธเลย แม้คุณจะอ้างว่าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษี หรือใครก็ตามคุณคุณควรใช้ปัญญาไตร่ตรองตรวจสอบคำสอนแท้ๆของพระพุทธเจ้าให้ดีก่อนที่จะอ้างเอาชื่อหลวงปู่หลวงพ่อเหล่านั้น มาเถียงพระพุทธเจ้าผู้เป็นปรมาจารย์ใหญ่

    แม้ว่าหลวงปู่หลวงพ่อที่ไหน มีชื่อเสียงแค่ไหนก็ตาม ถ้าผิดจากที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ก็คือผิดทั้งนั้น

    อีกอย่างหนึ่งคุณอย่าไปหลงยึดติดกับการเห็น นรก สวรรค์ เปรต ผี พรหม เป็นตัวตัดสินความเชื่อเลย มันไม่ใช่ตัวตัดสินที่ถูกต้องหรอก พวกนี้ฤาษีชีไพรเขาเห็นมาก่อนที่จะมีพระพุทธเจ้าแล้ว แต่ถ้าคุณเห็นแล้วแต่กิเลสคุณไม่ได้ลดลง เลย ยังมีความโกรธ อยู่ การเห็นนิมิตนั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

    พระอรหันต์แบบสุขวิปัสโก แม้ท่านจะไม่เห็นนรก สวรรค์ วิมานอะไร แต่ท่านก็พ้นกิเลสได้ ดีกว่าพวกที่เห็นแล้วเกิดทิฏฐิมานะถือตัว นี่น่ากลัวจะไปนรกเสียมากกว่า เวลาที่ตายแล้ว เช่น เทวทัต นี่แต่ก่อนก็มีฤทธิ์ ได้ฌาน เห็นนรก สวรรค์ ถ้าคุณไปยึดเอาสิ่งเหล่านี้ว่าดี คุณก็คงเชื่อพวกพระแบบเทวทัตด้วยน่ะสิ ถ้าเชื่อเหมือนพระเจ้าอชาตสัตรู ที่ไปลงนรกอยู่ตอนนี้

    สรุปก็คือจะเชื่อ พระพุทธเจ้า หรือเชื่อความจำที่ผิดๆของคุณเอง ก็แล้วแต่คุณตัดสินใจเอาเองแล้วกัน ผมแค่บอกสิ่งที่ถูกต้องให้ คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อแล้วยังมาไม่พอใจผม มันก็เป็นเรื่องของคุณเอง ผมไม่ได้เดือนร้อนอะไรกับคุณด้วยหรอก
     
  14. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,666
    ค่าพลัง:
    +6,165
    นับเลขผิดไม่ไปนรกหรอก
    แล้วที่จริงท่านก็นับคนละหน่วยกัน
    กัปมีหลายชนิด
     
  15. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    ไม่ได้ไปนรกเพราะนับเลขผิด แต่ไปด้วยอำนาจแห่งโทสะ มานะ ทิฏฐิและบิดเบือนคำสอน ของพระพุทธเจ้าต่างหาก

    ส่วนกัปมีหลายแบบจริง แต่ไม่มีกัปไหนที่ มีพระพุทธเจ้า 10 องค์ ส่วนกัปนี้ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่ามี พระพุทธเจ้าทั้งหมด 5 พระองค์
     
  16. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +3,776
    มาทะเลาะอะไรกันครับ
    อยากรู้จริงๆให้ไปถามพระอินทร์ครับ
    555
     
  17. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,666
    ค่าพลัง:
    +6,165
    ลองค่อย ๆ นับเลขดูนะ
    ถ้า ในหนึ่งอันตรกัปสามารถมีพระพุทธเจ้าได้ถึง 5 พระองค์
    1 อสงไขยกัป มี 64 อันตรกัป ทำไมจะมีพระพุทธเจ้าเกิน 5 พระองค์ไม่ได้
    แล้วถ้ามหากัปล่ะ
     
  18. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    5 พระองค์หมายถึงจำนวนพระพุทธเจ้าใน 1 มหากัป (บางทีเรียกย่อๆว่ากัป เฉยๆ แต่เพื่อไม่ให้สับสนกับ อายุกัป หรืออายุขัย เลยเติมคำว่ามหาเข้าไปหน้ากัปเข้าไปเพื่อระบุว่าหมายถึงอายุจักรวาล) มหากัปที่มีพระพุทธเจ้า 5 พระองค์เรียกว่า ภัทรกัป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 มีนาคม 2013
  19. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +20,320
    พระพุทธเจ้าในอนาคต

    ในคัมภีร์อนาคตวงศ์นั้น ได้กล่าวถึงพระพุทธเจ้าในอนาคต 10 พระองค์ที่จะบังเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ดังนี้ [7]
    พระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้า ในสมัยพุทธกาลคือพระอชิตเถระ (เป็นคนละองค์กับชื่อที่ปรากฏในพระไตรปิฎก) ตรัสรู้ที่ไม้กากะทิง พระชนม์ 8 หมื่นพรรษา พระกายสูง 80 ศอก
    พระรามะสัมพุทธเจ้า ในสมัยพุทธกาลคืออุตมรามราช ตรัสรู้ที่ไม้แก่นจันทน์แดง พระชนม์ 9 หมื่นพรรษา พระกายสูง 80 ศอก
    พระธรรมราชาสัมพุทธเจ้า ในสมัยพุทธกาลคือพระเจ้าปเสนทิโกศล ตรัสรู้ที่ไม้กากะทิง พระชนม์ 5 หมื่นพรรษา พระกายสูง 16 ศอก
    พระธรรมสามีสัมพุทธเจ้า ในสมัยพุทธกาลคืออภิภูเทวราช ตรัสรู้ที่ไม้รังใหญ่ พระชนม์ 1 แสนพรรษา พระกายสูง 80 ศอก
    พระนารทะสัมพุทธเจ้า ในสมัยพุทธกาลคืออสุรินทราหู ตรัสรู้ที่ไม้แก่นจันทน์แดง พระชนม์ 1 หมื่นพรรษา พระกายสูง 20 ศอก
    พระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า ในสมัยพุทธกาลคือจังกีพราหมณ์ ตรัสรู้ที่ไม้ดีปลีใหญ่หรือไม้เลียบ พระชนม์ 5 พันพรรษา พระกายสูง 60 ศอก
    พระเทวเทพสัมพุทธเจ้า ในสมัยพุทธกาลคือสุภพราหมณ์ ตรัสรู้ที่ไม้จำปา พระชนม์ 8 หมื่นพรรษา พระกายสูง 80 ศอก
    พระนรสีหสัมพุทธเจ้า ในสมัยพุทธกาลคือโตเทยยพราหมณ์ ตรัสรู้ที่ไม้แคฝอย พระชนม์ 8 หมื่นพรรษา พระกายสูง 60 ศอก
    พระติสสสัมพุทธเจ้า ในสมัยพุทธกาลคือช้างนาฬาคีรี ตรัสรู้ที่ไม้ไทร พระชนม์ 8 หมื่นพรรษา พระกายสูง 80 ศอก
    พระสุมังคลสัมพุทธเจ้า ในสมัยพุทธกาลคือช้างปาลิไลยกะ ตรัสรู้ที่ไม้กากะทิง พระชนม์ 1 แสนพรรษา พระกายสูง 60 ศอก

     
  20. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +20,320
    ========

    ทีนี้กระผมจะขออธิบายเสริมต่อว่า พระโพธิสัตว์ทั้ง10พระองค์ที่จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้านั้น กล่าวคือที่พระพุทธเจ้าท่านรับรองเพราะทั้ง10พระองค์นี้ เป็นพระนิยตะโพธิสัตว์คือ ได้ถูกตรัสพยากรณ์ทำนายไว้แล้ว ส่วนที่เหลือนั้นยังไม่ได้กล่าวถึงเพราะยังไม่ใช่พระนิยตะโพธิสัตว์นั่นเอง ดังนั้นส่วนที่เราท่านทราบกันว่าเป็นพระโพธิสัตว์ ทั้งหลายนั้นพึ่งเข้าใจว่า นอกเหนือจาก10พระองค์นี้แล้วนั้น ยังไม่ถูกตรัสทำนาย ครับ รอสร้างกำลังบารมีขั้นปรมัตถบารมียิ่งๆขึ้นไปครับ

    ทีนี้จากที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้นั้น กระผมขอขยายความตรงนี้จากหลวงปู่พ่อครูอาจารย์ที่ท่านมาสอนในฌาณและญาณสมาธิ เรื่องการสร้างบารมีโพธิญาณเมื่อปีก่อนว่าด้วยเรื่องอนาคตวงค์มีดังนี้
    1พระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้า หมายถึงพระศรีอาริ์ย
    2พระรามะสัมพุทธเจ้า หมายถึงพระสามีรามภิกษุ หรือหลวงปู่ทวด
    3พระธรรมราชาสัมพุทธเจ้า หมายถึงพระพรหมรังษีภิกษุ หลวงปู่โต หรือ สมเด็จโต
    4พระธรรมสามีสัมพุทธเจ้า หมายถึงพระมหาสุธรรมราชายามาธิราช หรือในหลวง ร 9
    5พระนารทะสัมพุทธเจ้า หมายถึง พระราหูโพธิสัตว์
    6พระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า หมายถึง พระพุทธรัศมีโชติ หรือพุทธโชโต หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
    7พระเทวเทพสัมพุทธเจ้า หมายถึง พระพุทธโสนันโทภิกษุ หรือหลวงพ่อปาน บางนมโค
    8 พระนรสีหสัมพุทธเจ้า หมายถึง พระพุทธะโสธะโรเดิม หรือหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพธิ์
    9 พระติสสสัมพุทธเจ้า หมายถึง พญาช้างนาฬาคีรี
    10 พระสุมังคลสัมพุทธเจ้า หมายถึง พญาช้างปาลิไลยกะ

    ขอกล่าวไว่แค่นี้ ส่วนพระโพธิสัตว์ที่ต่อจากลำดับที่10นี้นั้น จะถูกพยากรณ์ทำนายต่อไป ในสมัยพระสัมมาสัมพุทธอริยะเมตตรัยพุทธเจ้าครับ ว่าจะมีพระองค์ใดที่บารมีแก่กล้าและพร้อมที่จะสร้างบารมีจนเต็มตามพุทธปณิธานครับ สาธุครับ




     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...