ทำไมโลกต้องหมุน ทำไมไม่ลอยอยู่เฉยๆ ได้อย่างไร?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย uthaimai, 29 กันยายน 2012.

  1. uthaimai

    uthaimai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +1,344
    ตามอภิปรัญญาของท่าน ป.วิสุทธิปัญญา โลก หมุนได้ด้วยการระเบิดที่ใจกลางของแกนโลกที่เรียกว่าก้อนธาตุอ๊อกซีเจน ซึ่งมีสถานะเป็นพลังงานไฟฟ้าเป็นลบ ทำปฎิกิริยากับพลังงานที่มาจากด้านบนพื้นผิวโลกที่เป็นบวก จึงเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุ่นแรงแล้วก้อนธาตุที่เป็นแก่นแท้ใจกลางโลกนี้มี ลัษณะเป็นก้อนธาตุที่มีความเหนียวหนึบเหมือนตังเม สีเขียวใสบริสุทธิ์ มันหวาวเหมือนสีปีกแมลงทับ ในขณะที่มันเกิดระเบิดขึ้น จึงมีการเวียงตัวเองเพราะมันเหนียวหนึบแบบที่่ว่ามาแล้ว ต่อเนื่องกันไปตลอดเวลาจึงทำให้มีแรงเวี่ยงแรงหมุนมาโดยตลอด แต่ณะ เวลานี้แรงหมุนไม่ค่อยคงที่แล้ว มากบ้างน้อยบ้าง เร็วบ้างช้าบ้าง ตามปัจจัยของพลังงานด้านบนที่ส่งลงไปทำปฎิกิริยากับพลังงานลบของแกนโลกน้อย ลง ไม่สม่ำเสมอ โลกเวลานี้จึงเหมือนรถยนต์ที่วิ่งกระตุกๆ จนเป็นเหตุให้เกิดแผ่นดินไหวกันทุกวี่ทุกวัน และเหตุอื่นๆที่ตามมาอีกเกือบทั่วทุกมุมโลก พลังที่ว่าที่เป็นพลังงานบวก ที่ส่งลงไปยังแกนโลก ที่ให้พลังมากที่สุดก็มาจากมนุษย์ที่มีจิตสำนึกคิดเป็นบวก ได้มากได้นานเท่าไหร่ก็มีพลังส่งลงไปช่วยทำให้โลกหมุนได้ดีและสม่ำเสมอมาก ยิ่งขึ้น ปัญหาแผ่นดินไหว พายุ น้ำท้วมฯลฯ ก็จะค่อยๆเบาบางลงได้ด้วยครับ เป็นข้อคิดพิจระณา อีกแง่มุมหนึ่งในหลักของนักเรียนรู้ยุคใหม่ที่เรียกว่า นักรบแห่งการรู้แจ้ง อภิปรัญญา เบต้าฟิสิกส์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2012
  2. uthaimai

    uthaimai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +1,344
    ทำให้เกิดพลังงานสนามแม่เหล็กโลก

    แล้วโลกสร้างพลังงานสนามแม่เหล็ก ที่ห่อหุ้มโลกไว้ได่อย่างไร ถ้าท่านทั้งหลายเคยสั่งเกตุพัดลมไฟฟ้าที่เราใช้กันอยู่ทุกๆวัน ก็จะทราบได้ว่า หลักการทำงานที่สำคัญของพัดลมคือมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ทำหน้าที่เวี่ยงหมุนแกนของใบพัดนั่นเอง มอเตอร์สร้างพลังงานแม่เหล็กได้ด้วยหลักการคือ มีขดลวดทองแดงจำนวนมาก ทำหน้าที่หมุนรอบ แท่งหรือแกนแม่เหล็กที่อยู่ด้านใน จึงทำให้เกิดพลังงานขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่อง ทีนี้มาดูกันเพราะโลกก็ทำหน้าที่เหมือนกับมอเตอร์ไฟฟ้า (แต่ความจริงต้องบอกว่า มอเตอร์ทำงานเหมือนกับโลกมากกว่า เพราะโลกเกิดก่อนมอเตอร์ที่นักวิทยาศาสร์จะคิดค้นได้ นานนับล้านๆปี) สนาม แม่เหล็กโลกเกิดขึ้นโดย ก้อนธาตุเขียวๆทีทำหน้าที่สร้างอ๊อกซีเจน ที่เอยไว้แล้วข้างบน แต่จริงๆจะมีขนาดใหญ่มากๆรัศมีกี่กิโลเมตรก็ลองคำนวนดูจากมวลและขนาดของโลก แล้วกันนะครับ เจ้าก้อนธาตุนี้ก็จะถูกห่อหุ้มไว้ด้วยของเหลวที่มีความร้อนสูงมากๆที่นักวิทยาศาสร์เรียกว่า ของเหลวร้อนใต้โลก หรือแม็กม่านั่นเอง แต่ถ้ามันพ่นขึ้นมายังพื้นผิวโลก เราก็จะเรียกมันอีกอย่างหนึ่งคือ ลาวา ครับ............
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2012
  3. uthaimai

    uthaimai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +1,344
    เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้นานแล้ว

    ด้วยการที่แม็กม่าห่อหุ้มก้อนธาตุอ๊อกซีเจนไว้โดยรอบ และมีปริมาณที่มากมาย ของเหลวร้อนนี้ก็จะหมุนย้อนทางกับธาตุอ๊อกซีเจนอยู่ตลอดเวลาและด้วยพลังงาน ที่เป็นลบของก้อนธาตุก็ทำปฏิกิริยากับแม็กม่าที่ใหลทวนอยู่ตลอดเวลาเกิดเป็น พลังงานแม่เหล็กอันมหาศาลแพร่กระจ่ายออกมาโดยรอบและห่อหุ้มโลกไว้ และยังทำหน้าที่เป็นแรงดึงดูดยึดเหนี่ยวทุกๆสรรพสิ่งบนโลกไว้อย่างเหนียวแน่นมั่นคง ถ้าวันใดเราสูญเสียพลังงานแม่เหล็กนี้ไป จะเกิดอะไรขึ้นกับโลกของเรา อะไรจะทำหน้าที่ยึดเหนี่ยวเราไว้ได้ คงไม่ต่างอะไรกับดาวเทียมทั้งหลายที่ลอยคว้างอยู่ในระบบสุริยะของเราหลายพัน ดวง เรามารักษาดูแลโลกของเรา ให้โลกทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ โดนเริ่มที่ตัวเราตัวเล็กๆนี่แหละเล็กกว่าโลกหลายเท่า แต่จะมีพลังมากมายอย่างน่าอัศจรรย์ ที่จะทำให้โลก พังพินาศ หรือ หมุนต่อไปด้วยความสดใสสวยงามในนานดาวสีน้ำเงินต่อไป คิดดี ทำดี พูดดี ใช้ชีวิตด้วยจิตสำนึกที่ดี..........ขอให้ท่านทั้งหลายเจริญในธรรม และปัญญามากยิ่งๆขึ้นไปนะครับ...สาธุ...สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2012
  4. chevasit

    chevasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +424
    ไม่มีอะไรที่ไม่หมุนในธรรมชาติ(อยู่เฉยๆ เราก็ยังหมุนตามโลกอยู่เลย) เพราะมันคือความเป็นอนิจจัง มันจึงยังอยู่ในวัฏจักร(จักรวาล)นี้ได้ เพราะจักรวาลคือความไม่เที่ยง สิ่งที่ไม่เที่ยงย่อมต้องอยู่ในความไม่เที่ยงด้วยกันได้
     
  5. pongsiri

    pongsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,077
    ค่าพลัง:
    +638
    ดาวอังคารไม่มีสนามแม่เหล็ก เพราะเป็นดาวที่ตายแล้ว คือ ไม่มีแมกม่าที่แกนกลาง มันยังหมุนเลยครับ ด้วยที่ไม่มีสนามแม่เหล็กไว้กันพายุสุริยะ ทำให้บรรยากาศค่อย ๆ ถูกทำลายไปที่ล่ะนิด ๆ :'(
     
  6. uthaimai

    uthaimai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +1,344
    ขอบคุณครับ ถ้าไม่มีแม็กม่าก็เป็นไปได้ที่จะไม่มีสนามแม่เหล็ก แต่การหมุนรอบตัวเองไม่รู้ว่าจะเป็นหลักการเดียวกับดาวโลกเราหรือไม่ ที่ใช้การบิดตัวของก้อนธาตุจากแรงระเบิดของปฏิกิริยาพลังงานไฟฟ้าต่างศักดิ์ของลบและบวก แต่ไม่ทราบว่าดาวอังคารมีความดำรงค์เป็นมาอย่างไร ไม่ได้หาข้อมูลมาก่อนเลยครับ พอทราบว่าน่าจะมีสิ่งมีชีวิตโดยเฉพาะต้นไม้ เพียงแต่ว่ามันไม่ได้มีสีเขียวเหมือนกับโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ มันจะออกสีเทาๆ ก็น่าจะเป็นไปตามภมูิอากาศของแต่ละดวงดาว ที่แตกต่างกันแม้กระทั่งสิ่งที่มีชีวิตอยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2012
  7. Kimzo

    Kimzo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    556
    ค่าพลัง:
    +1,046
    อ้าวแล้วใครไปหมุนโลกล่ะคะ?
     
  8. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    [​IMG]

    [​IMG]


    คุ้นๆแหะ ประโยคนี้ :mad:

    ขอพูดแค่ ระบบสุริยะนะ เดี๋ยวไปไกลเกินจะกู่กลับ

    - โลกเป็น 1 ในบริวาร ทั้ง 8 ของดวงอาทิตย์ โคจรอยู่ลำดับที่ 3
    - ดาวเคราะห์ทุกดวง โคจรรอบดวงอาทิตย์ มีวงโคจรที่แน่นอน เพราะความสมดุลของแรงดึงดูด vs แรงเหวี่ยง ไม่งั้น อาจถูกดูดเช้าไปหาดวงอาทิตย์ หรือ ไม่ก็ถูกเหวี่ยงหลุดออกไปจากระบบแล้ว ( มวลของดวงอาทิตย์ มากกว่าดาวพฤหัส 1,000 เท่า มากกว่าโลก 330,000 เท่า )
    - ดาวเคราะห์ทุกดวง ไม่ได้เกิดมาก็กลมเลย แต่ผ่านการหมุนรอบดวงอาทิตย์ และลอยอยู่กลางห้วงอวกาศ มานานนับพันล้านปี แรงเหวี่ยงและแรงดึงดูดของโลกเอง รวมทั้งแรงเสียดทานกับอวกาศ ช่วยขัดเกลาให้ ได้รูปทรงกลม
    - ที่โลกไม่ลอยเฉยๆ เพราะมีแรงดึงดูดด้านดวงอาทิตย์ด้านเดียว ดวงอาทิตย์เปรียบเสมือนก้อนแม่เหล็กใหญ่ที่ดูดโลกไว้ แกนกลางของโลกประกอบด้วยโลหะแข็ง และรอบๆเป็นโลหะเหลวที่ไหลหมุนวน อยู่ใต้ชั้นเปลือกโลก ถ้าใครที่เคยเห็นมอเตอร์พัดลม โลกเปรียบเสมือนแกนของมอเตอร์ ดวงอาทิตย์เป็นคอยล์ขดลวดที่ทำให้เกิดการเหนี่ยวนำทำให้แกนกลางหมุนได้ ( เกี่ยวกับ Geomagneto ) เลยทำให้โลกไม่อยู่ในสภาวะสมดุล ต้องหมุนไปเรื่อยๆ และก็ไม่สามารถหยุดได้ ยกเว้นว่า มีดวงอาทิตย์ 2 ดวงมีแรงเท่ากันเป๊ะ มาขนาบข้างที่ระยะเท่ากันเป๊ะ และดวงอาทิตย์ทั้งสองต้องลอยไปทิศทางเดียวกัน ความเร็วเท่ากัน โลกถึงจะค่อยๆหยุดหมุนลง และอาจจะเข้าสู่สมดุลคือลอยอยู่เฉยๆ ไม่หมุน ในความเป็นจริงคงไม่มีทางเป็นไปได้นะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2012
  9. pongsiri

    pongsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,077
    ค่าพลัง:
    +638
    สรุปว่า การหมุนรอบตัวเอง มีแมกม่า หรือ ไม่มีแมกม่า ก็ได้ใช่ไหมครับเพราะว่ามันไม่ได้ใช้หลักการเดียวกับโลก งั้นแมกม่ามันก็ไม่ได้เป็นตัวกำหนดแล้วสิ เพราะมีหรือไม่มีมันก็หมุนได้ แล้วก้อนเขียวๆ คุณไปเอามาจากไหนครับ ช่วยอธิบาย ก้อนเขียว ๆ หน่อย แจ้งให้เข้าใจนะ
     
  10. John Lee

    John Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +424

    Hands of Gods ครับคุณหอยลอห์ด
     
  11. วิหคอิสระ

    วิหคอิสระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +1,318
    สโลแกนพี่ติ้กชีโร่ แค่ขยับเท่ากับออกกำลังกาย
     
  12. uthaimai

    uthaimai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +1,344
    ก้อนธาตุสีเขียว จัดว่าเป็นแกนกลางของโลกที่แท้จริง ซึ่งวิทยาศาสย์ไม่สามารถตรวจพบได้ เพราะความหนาแน่น และความมีปริมาณมากของแม็กม่า ที่ห่อหุ้มเอาไว้ วิทยาศาสร์จึงสรุปไว้เพียงแกนกลางของโลกเป็นของเหลวร้อนเรียกแม็กม่า แล้วก้อนธาตุนี้ก็มีหน้าที่ ถ้าเปรียบเทียบกับคนก็คือ หัวใจที่คอยสูบฉีดเลือดเพื่อหล่อเลี้ยงร่างกาย ถ้าเปรียบเป็นรถยนต์ก็ทำหน้าที่เหมือนลูกสูบที่คอยอัดฉีดพลังงานให้เครื่องยนต์ทำงานได้ นั่นเอง ก้อนธาตุสีเขียวนี้มีหน้าที่สร้างพลังงานอ๊อกซีเจนให้กับโลกและสร้างพลังงานสนามแม่เหล็ก อย่างที่อธิบายมาแล้ว แล้วก้อนธาตุนี้ใช้อะไรในการสร้างพลังงานให้กับโลก เพราะถ้าเป็นคนก็มาจากอาหารแล้วร่างกายอวัยวะส่วนต่างๆก็แปลงธาตุต่างๆมาใช้ประโยชน์ ถ้าเป็นรถเป็นเครื่องยนต์ก็ได้มาจากน้ำมันชนิดต่างๆ ก้อนธาตุสีเขียวนี้ก็ต้องการพลังงานที่ไปหล่อเลี้ยงเหมือนกันโดยได้มาจาก ต้นไม้พืชต่างๆคนและสัตว์มีชีวิตทั้งหลาย ซึ่งรางกายของมนุษย์และสัตว์ก็มีการสร้างพลังงานไฟฟ้าภายในตัวเองได้เช่นกัน ที่เรียกกันว่าพลัง หยิน หยาง ตามที่ชาวจีนบอก คือธาตุลบธาตุบวกนั่นเอง พลังงานลบและบวกจะมีมากน้อย ก็ขึ้นอยู่ที่ว่ามนุษย์หรือสัตว์สร้างพลังงานสิ่งใดออกมามากกว่ากัน การคิดดี คิดไม่ดี ทำดีทำไม่ดี สิ่งเหล่านี้นี่เองที่จะวัดว่าสร้างพลังงานอะไรออกมา คิดดีทำดีก็เป็นพลังงานบวก คิดไม่ดีทำสิ่งต่างๆที่ไม่ดีก็เป็นการสร้างพลังงานลบ แล้วพลังงานเหล่านี้ก็จะถูกดูดซึมลงไปยังพื้นผิวโลกไปจนถึงแกนกลางที่เรียกว่าก้อนธาตุอ๊อกซีเจน ซึ่งธาตุอ๊อกซีเจนนี้จะมีพลังงานศักดิ์เป็นลบและจะมีปฎิกิริยาไว้ต่อพลังงานศักดิ์ที่เป็นบวกสูงมาก ซึ่งเมื่อพลังงานบวกจากด้านบนที่มาจากพืชคนและสัตว์ก็จะทำการระเบิดอย่างรุ่นแรง จนก้อนธาตุนี้มีการบิดตัวอยู่ตลอดเวลาและระเบิดอยู่ตลอดเวลา มากบ้างน้อยบ้างตามกำลังที่ส่งลงไปตามเหตุปัจจัยที่ได้กล่าวมาแล้ว และนี่เองที่เป็นเหตุของการเกิดภัยธรรมชาติต่างๆ เนื่องจากพลังงานที่ส่งลงไปยังแกนกลางโลก มีน้อยมากและไม่สม่ำเสมอ จนโลกหมุนเบาบ้างแรงบ้างและแถบจะหยุดหมุนไปเลยก็ได้ และนี่ก็เป็นที่มาว่าเหตุใดจึงมีแต่ผู้ที่เตือนให้มนุษย์ช่วยกันรักษาศิล ปฎิบัติธรรม ทำความดีต่อกันให้มากๆ เพราะจะได้มีพลังงานที่เป็นบวกลงไปช่วยสร้องอ๊อกซีเจนและทำสมดุลในการหมุนของโลกให้ได้เป็นปกติและสม่ำเสมอ เพื่อโลกจะได้รอดพ้นและเบาบางจากภัยธรรมชาติต่างๆได้ทันท่วงทีครับ ....ขอให้เจริญในศิลในธรรมกันให้มากๆนะครับ รักกันให้ได้ ให้กันให้เป็น ไม่ก้าวล่วงผู้ใด ใช้ชีวิตอย่างมีจิตสำนึกที่ดี มีสติในการไตร่ตรองสิ่งไม่ดีไว้ให้มากๆ.....อนุโมทนาครับ....สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2012
  13. จอมพล GAY

    จอมพล GAY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +219
    เคยเรียนว่าแกนโลกประกอบด้วยเหล็กและนิกเกิลนี่ครับ แล้วค่อยล้อมด้วยแม็กม่า ...แต่ไม่รู้เค้ารู้ได้ไงนะ :cool:
     
  14. uthaimai

    uthaimai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +1,344
    ถ้าจะเปรียบ ก็ต้องเรียกว่าเป็นทฤษฏีในทางกายภาพ ทั้งทางวิทยาศาสตร์และที่ผมกล่าวมาเพราะใน ณ เวลานี้เครื่องมือทางโลกที่เราจับต้องได้ยังไม่สามารถตรวจและทะลุทะลวงลงไปได้เพราะเหตุของมีความร้อนแม็กม่ามากมายและยังมีสนามแม่เหล็กที่คอยปิดบังคลื่นต่างๆที่จะส่งลงไป คือถูกรบกวนจนไม่สามารถตรวจวัดได้ ต้องใช้วิจาระณญาณในการไตร่ตรองให้ดีครับ อย่าเพิ่งเชื่อแต่ลองหาเหตุหาผลหลายๆด้านหลายๆทาง มาวิเคราะห์แล้วความรู้ที่เกิดจะอยู่ในใจของเรานั่นแหละครับ ขอให้เจริญในธรรม....เจริญในปัญญากันทุกๆคนครับ....สาธุ

    7 ตุลาคม 2555 เวลา13.30 น.ชมถ่ายทอดสดออนไลน์ จากชมรมจิตจักรวาลศึกษาแห่งโลก โดย อ.ปริญญา ตัลสกุล
    http://www.jitchakraval.com/home/index.php?option=com_content&view=article&id=216&Itemid=245
     
  15. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,931
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ที่โลกหมุน เพราะ หันข้างอาบแดด ครับ หมุนเพราะได้รับ พลังงาน จากดวงอาทิตย์ ครับ

    แสง แท้ที่จริง คือ พลังงาน ขั้วหนึ่ง แสงขาว กับแสงดำ

    ความสว่าง คือ แสงขาว ความมืด คือ แสงดำครับ มันเป็น พลังงาน คนละขั้ว กัน ประมาณ ขั้วบวก กับขั้วลบ นั่นแหล่ะครับ และที่หมุน ก็เพราะ ธาตุในโลก มันก็ มี ขั้ว ของ มันอยู่ เหมือน แม่เหล้ก ที่ ดึง ดัน กันไงครับ และ พลังความคิด พลังจิต ก็ เป้นหนึ่ง ในพลังงาน ที่หมุนโลกครับ

    คิดดีก็ บวก คิดไม่ดี ก็ ลบ จักรวาล คือ พลังงาน สนามพลังงาน ชนิดหนึ่ง

    อยากหลุดพ้น จาก วัฏฏะนี้ ก็ จง ดับ พลังงาน นามธรรม ใน ตนไงครับ

    นิพพาน คือ ดับ พลังงาน นามธรรม นี้ให้ได้ แล้วคุณก็ จะเป็นผู้ หลุดพ้น จาก สนามพลังงาน หลุดพ้น จาก วัฏฏะสงสาร นี้ได้ นั่นเอง

    อะแฮ่ม ผมคือ สไตล์ของไอ ปลอมตัวมาครับ
     
  16. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,931
    ค่าพลัง:
    +4,388
    มิน่า ล่ะ มีคนที่มีตาทิพย์ เขาเห็นโลก เป็นก้อน สีเขียว เหมือน มรกต หรือ หยก

    เขียวๆ ฟ้าๆ

    ดวงจันทร์ เป็น สีขาวนวล ดวงอาทิตย์ สีทอง

    เขาเล่าให้ฟัง นะครับ ผมไม่ได้ เห็นเองหรอกครับ แต่ผม เชื่อ เขาครับ
     
  17. tukkuru

    tukkuru เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +213
    ฮ่า ฮ่า ฮ่า กรุณาแยกแยะให้ออกนะครับว่าอะไรคือจินตนาการ (สังขารธรรม ) อะไรคือวิทยาศาสตร์ ( ปรมัตถธรรม )....!!!!
     
  18. มัญญา

    มัญญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +154
    .......................................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2012
  19. Enzo

    Enzo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    279
    ค่าพลัง:
    +60
    ใครจะไปรู้ แกนกลางโลก อาจจะมีมอเตอร์ท็อปสปีด แบบที่เราใส่รถทามิย่าสมัยเด็กๆก็ได้ 55555+
     
  20. Kimzo

    Kimzo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    556
    ค่าพลัง:
    +1,046
    ใครจะไปรู้โลกหมุนอาจเพราะการกระทำหรือกรรมก็ได้ถ้าโลกแตกก็ทุกอย่างสลายหมดไม่มีแรงกระทำของวัตถุโลกก็หยุดนิ่งรอสิ่งมีชีวิตใหม่เกิดขึ้นมาจะได้หมุนใหม่อีกครั้งหนึ่งในทางที่โลกต้องการก็ได้แสดงว่าตอนนี้โลกไม่ชอบการหมุนแบบนี้หรือหมุนไปในทางที่ผิดเพี้ยนไปจากแกนโลกจริงๆก็ได้ถ้าโลกแตกก็เกิดเป็นทุ่งข้าวสาลีจนเกิดเป็นโกโกครั้น555555
     

แชร์หน้านี้

Loading...