ที่ตั้งของทุกข์มันอยู่ที่ไหนกันแน่คับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 2 เมษายน 2020.

  1. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ธรรมะ เป็นเรื่องของการ นับหนึ่งใหม่เสมอ

    เหมือน รหัส คอม มีแค่ ศูนย์และหนึ่ง มีแค่ เกิด และ ก้ดับ

    ไม่นับเกิดก้นับดับ ไม่นับดับก็นับเกิด
    ไม่ต้องมีคำบรรยาย มีแต่อะไรไม่รู้เกิดขึ้น อะไรไม่รู้ดับลง


    โจรห้าร้อย ยังบรรลุธรรม ในราตรีเดียว
    ปริญญาร้อยปี ยังกอดตำรา
    มันเจาะจงไม่ได้

    จะได้มหา เปรียญ หรือ อ่านไม่ออก หากมุ่งในมรรคแล้ว ผลออกมาเหมือนกันหมด
     
  2. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,708
    ค่าพลัง:
    +1,563
    ตรงกับปริยัติก็ดีครับ เพราะเท่าที่ผมจำได้ผมคิดว่าผมคิดเองไม่ได้ไปจำมาจากไหน
    ถ้ายัััังไงช่วยเอาปริยัติที่ท่านว่ามาให่ผมอ่านด้วยนะครับ
    หมายถึงตรงที่รู้ว่า
    ทุกข์ควรกำหนดรู้ เป็นความเห็นชอบ
    กำหนดรู้ทุกข์เป็นความเพียรชอบการงานชอบสติสมาธิชอบ
    เดี๋ยวมาตามอ่านนะครับ ทำธุระก่อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2020
  3. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,302
    ค่าพลัง:
    +12,628
    พระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์
    ต้องฟังคำที่ถูกต้องเท่านั้น
    คิดเองนึกเองไม่มีทางถูกตรงตามธรรมะ
    ที่ทรงตรัสรู้ได้เลย
    ไม่มีทางจริงๆคับ
     
  4. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,708
    ค่าพลัง:
    +1,563
    ปริยัติก็ดี ยอมรับว่าตรึกตามปริยัติเอามาเทียบกัน แต่ไม่ได้ไปอ่านเจอมานะ
    ก็เขาถามแค่ว่าพระพุทธองค์ได้ชี้แนะวิธีการจัดการกับอวิชาอย่างไร ก็ต้องตอบอย่างนี้นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2020
  5. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,708
    ค่าพลัง:
    +1,563
    แล้ว รู้ว่าทุกข์ควรกำหนดรู้ มีนผิดตรงไหน
    ไม่เป็นสัมมาทิฐิตรงไหน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2020
  6. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,708
    ค่าพลัง:
    +1,563
    เดี๋ยวๆๆ ของผมกับคุณปราบเทวดาน่ะพูดคนละเรื่องผมตอบคำถามของคุณที่ถามว่าพระพุทธองค์ได้ชี้แนะวิธีจัดการกับอวิชาเอาไว้ยังไง
    ส่วนคุณปราบน่ะเขาพูดในเรื่องของปฏิจจสมุปบาท เขาไม่ได้ตอบคุณ
    ใครเอาคำตอบของผมกับคุณปราบมาเทียบกัน นั้นคือ สับสนแล้วต้องไปอ่านดูใหม่ว่า คุยกันคนละเรื่องนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2020
  7. กระร่อน

    กระร่อน จิตฺเตน นียติ โลโก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +994
    อวิชชา วิชา เป็นของคู่โลกสนใจจะจัดการมันทำไหม
    แก้ไขคนอื่นยังบ่ได้เลย
    จะไปแก้ไขของคู่โลก
    เหนื่อยป่าวๆ
    แก้ไขความทุกข์ในตัวเองดีกว่า
    ทุกวันนี้ยังงงอยู่เลยกูทุกข์หรือป่าวว้า
     
  8. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    เห็น ขอพระสูตร

    อันนี้มันก็ แปลก อะเนาะ พอจะหา
    เพลานี้กลับหาไม่เจอ

    ที่เคยแปะไว้แล้ว ดีจิกหมอน ดัน
    ลบกระทู้ตัวเองออกหมดอีก

    สงสัย กรรม จะให้ผล บังตา

    ไม่รู้กรรมใคร ขำภโต ไปละกัน



    ปล. ภต เขียนด้วยอักขร ภ สำเภา กับ ต เต่า
    จะหมายถึง ความดับ การเห็นความดับ สังเกต
    เห็นความดับ โดยมีรสว่า อยู่ห่างๆไม่เกี่ยว
    ข้องกับความดับนั้น ก็จะเขียน ภต จะใส่
    สระโอ หาก สามารถเห็นได้ต่อเนื่อง ก็จะ
    เขียนว่า ภโต ...ดังนั้น ขำภโต คือ เห็น ขำดับ
    ถ้าสามารถ ห่างได้เบ็ดเสร็จไม่กลับไปขำ
    จะเขียนเป็น ขำภูต ถ้ายังลูกผีลูกคน ขำ
    บ้างไม่ขำบ้าง ก็เป็น ขำภูตัง

    ปล 2 : ตอนนี้พวก AI ของ search engine
    หลายค่าย จะมี พฤติกรรมตรวจได้ว่า เราเข้า
    ไปอ่านอันไหนแล้ว ...พอค้นอีกที มันจะหา
    ที่แตกต่างไปจากเดิม กันส่วนที่เคย อ่านแล้ว
    เข้าไปแล้ว ออกจากการเห็น ...แหม่ม เฮีย!!
     
  9. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ที่ตั้งของกองทุกข์

    การเวียนว่ายตายเกิด ของหมู่สัตว์
    เกิดมาก็ต้องแบกธาตุขันธ์เป็นธรรมดา
    ไม่ว่าเกิดเป็นอะไร สัตว์ประเภทไหน
    อยู่ในภพภูมใด? มีแต่ทุกข์ทั้งนั้น
    ทุกก็คือภพที่เกิดนั้นเอง

    เกิดมาพับก็ทุกข์ทันที
    ขันธ์ทั้งหลายนั้นแหละกองทุกข์
    ทุกข์จากการแบกธาตุขันธ์

    ธาตุขันธ์เป็นคุกจองจำจิต
    เมื่อจิตยังมีอาสวะกิเลส
    มันเป็นตัวการส่งจิตไปเกิดในภพต่างๆ

    ถ้าส่องเข้าไปในดวงจิต
    พวกอาสวกิเลสมันทำงานตลอด
    พร้อมที่จะจุติด้วยบุพกรรมนั้นๆ

    ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2020
  10. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    กั๊กๆๆๆ คณะ จิตเที่ยง
     
  11. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    กั๊กๆๆๆๆ ผู้เลิศกว่า พระศาสดา

    บัญญัติ ขันธ์ 6th
     
  12. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    กั๊กๆ ขันธ์6th บริสุทธิแล้ว มีการประชุมสภา

    แล้ว แบ่งจิต อวตารลงมาเป็น ธมแช๊ตบ้าง(ตั้งก๊วน)
    เป็น มะขีดบ้าง( ถือกุญแจไขภัยพิบัติ )

    นำพา ชน กลับไป เมืองขวด


    ฮิวววววววส์

    สาวก หนาสันติ!!! บัญญัติ จิตเที่ยง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2020
  13. กระร่อน

    กระร่อน จิตฺเตน นียติ โลโก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +994
    พระศาสดาเคยห้ามหนักหนา
    เรื่องอัตตา อนัตตา
    ก็หาที่สรุปไม่ได้
    พระศาสดาคงขอบคุณอย่างสุดซึ้ง
    ถ้าคุยเรื่องกำจัดทุกข์ในตัว
     
  14. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    สำนวน พระไตรปิฏก

    การสนทนาใดเป็นไปเพื่อการบัญญัติ(แล๊คเชอร์
    จำกัดนิยามการพูด จดลิขสิทธิ คำใช้สอน )

    การสนทนานั้นเรียกว่า เป็นไปเพื่อการบัญญัติ
    เป็นการเข้าไปในส่วนสุด ( สุดโต่ง ก็เรียก)

    การสนทนานั้นเป็น อัปมงคล ขวางนิพพาน(ติรัจฉาโน)

    แต่

    การสนทนาใด บัญญัติใด เป็นไปเพื่อ อุบาย
    หรือ กล่าวเป็นเพียงแค่ มรรค(วิธี) คถาเหล่า
    นั้นเป็น สุญญาตาทั้งหมด เป็นโลกุตรแต่ส่วนเดียว
    จัดเป็น คำของ ตถาคต โดยปริยาย ( ไม่มีหนา
    เฮียตัวไหนมาทับความเป็น ตถาคต ได้) โดย
    มี กองธาตุที่ถวายเป็นพุทธบูชาแล้วเป็น "พาหนะ"
    หรือ ท้าวโฆษก(มหา ที่ไปเกิดเป็น "เทวดาคราวเดียว" )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2020
  15. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,708
    ค่าพลัง:
    +1,563
    สับสนกันไป
    หายเหงากันไประหว่างรอ....เณร:)
     
  16. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    งง ไร จั๊บ

    ไหน พูดจิ

    "จิตไม่เกิดไม่ดับ ไม่มีวันตาย"

    [ เวลาพูด ให้เน้น พูดเพื่อหลอกเด็กให้
    ลองสนใจ หัดทำท่า ทำทาง ว่าภาวนา
    ไปก่อน ไม่ต้องไป ทวงหาผลสำเร็จ
    ในอีกแสนกัป หรือ หาเบื้องปลายไม่ได้ ]
     
  17. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    อิอิ ว่างๆไปกราบอัฐิธุาติของพระมหาบัว
    บ้างนะ จะได้หายโง่ ด้วยความรักและห่วงใย
     
  18. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    จิตหมดกิเลสทุกประเภท

    จิตบรมมสุข...
     
  19. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    ลวกเพ่ต้องเข้าใจ

    ในโลกนี้ นิยตมิจฉาทิฏฐิ มี

    คือ จักรวลาแตกดับ จักรวาลที่มีพระพุทธศาสนาประจำ
    แต่ละจักรวาล แตกสลาย จิตพวกที่เป็น นิยตมิจฉาทิฏฐิ
    ก็จะแล่นไปใน จักรวาลอื่น เขตพุทธันดรอื่น

    ไปแล้ว ก็ใช่ว่า จะบรรลุอะไรได้ ยังคงสภาพเป็น
    นิยตมิจฉาทิฏฐิ อย่างเดิม

    เรียกว่า คณะจิตเที่ยง

    บุคคลพวกนี้มี มากกว่ามาก

    เวลาเจอบุคคลพวกนี้ พูดอะไรหลอกให้เขา ใส่ใจทำดีได้
    ก็พูดไปเถอะ

    หากเราหมั่นภาวนา กำหนดรู้ทุกข์ มุ่งนำออก

    พวก มิจฉาทิฏฐิเหล่านี ปิดกั้น นิพพาน ไม่ได้
     
  20. กระร่อน

    กระร่อน จิตฺเตน นียติ โลโก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +994
    อตีตารัมมณัตติกะ - ปฏิจจวาร


    อตีตารัมมณัตติกะ - ปฏิจจวาร

    พระไตรปิฎก ฉบับธรรมทาน

    อตีตารัมมณัตติกะ
    ปฏิจจวาร
    [๑๙๔๗] อตีตารัมมณธรรม อาศัยอตีตารัมมณธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
    คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอตีตารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒
    ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอตีตารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒
    [๑๙๔๘] อนาคตารัมมณธรรม อาศัยอนาคตารัมมณธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุ
    ปัจจัย

    คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนาคตารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
    [๑๙๔๙] ปัจจุปปันนารัมมณธรรม อาศัยปัจจุปปันนารัมมณธรรม เกิดขึ้น เพราะ
    เหตุปัจจัย

    คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นปัจจุปปันนารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
    ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นปัจจุปปันนารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
    [๑๙๕๐] อตีตารัมมณธรรม อาศัยอตีตารัมมณธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณ
    ปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัย ในอธิปติปัจจัย ปฏิสนธิไม่มี

    เพราะอนันตรปัจจัย เพราะสมนันตรปัจจัย เพราะสหชาตปัจจัย เพราะอัญญมัญญ
    ปัจจัย เพราะนิสสยปัจจัย เพราะอุปนิสสยปัจจัย เพราะปุเรชาตปัจจัย เพราะอาเสวนปัจจัย

    ในปุเรชาตปัจจัย ก็ดี ในอาเสวนปัจจัย ก็ดี ปฏิสนธิ ไม่มี

    เพราะกัมมปัจจัย เพราะวิปากปัจจัย
    คือ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอตีตารัมมณธรรม ซึ่งเป็นวิบาก ฯลฯ หัวข้อปัจจัย ๓ พึงใส่ให้
    เต็ม พึงกระทำ ปวัตติ ปฏิสนธิ

    เพราะอาหารปัจจัย เพราะอินทริยปัจจัย เพราะฌานปัจจัย เพราะมัคคปัจจัย
    เพราะสัมปยุตตปัจจัย เพราะวิปปยุตตปัจจัย เพราะอัตถิปัจจัย เพราะนัตถิปัจจัย เพราะ

    วิคตปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย

    [๑๙๕๑] ในเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
    ในอารัมมณปัจจัย มี " ๓
    ในอธิปติปัจจัย มี " ๓ ฯลฯ
    ในปัจจัยทั้งปวง มี " ๓
    ในวิคตปัจจัย มี " ๓
    ในอวิคตปัจจัย มี " ๓
    พึงนับอย่างนี้
    อนุโลม จบ
    [๑๙๕๒] อตีตารัมมณธรรม อาศัยอตีตารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเหตุ
    ปัจจัย

    คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอตีตารัมมณธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๒ ฯลฯ
    ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ โมหะ ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ อาศัย
    ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ

    [๑๙๕๓] อนาคตารัมมณธรรม อาศัยอนาคตารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
    เหตุปัจจัย

    คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนาคตารัมมณธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๒ ฯลฯ
    โมหะ ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา

    ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ

    [๑๙๕๔] ปัจจุปปันนารัมมณธรรม อาศัยปัจจุปปันนารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่
    ใช่เพราะเหตุปัจจัย

    คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นปัจจุปปันนารัมมณธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๒
    ฯลฯ

    ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ โมหะ ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ อาศัย
    ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ ซึ่งเป็นปัจจุปปันนารัมมณธรรม

    [๑๙๕๕] อตีตารัมมณธรรม อาศัยอตีตารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะอธิปติ
    ปัจจัย เหมือนกับสหชาตปัจจัย ในอนุโลม

    [๑๙๕๖] อตีตารัมมณธรรม อาศัยอตีตารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
    ปุเรชาตปัจจัย

    คือ ในอรูปภูมิ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอตีตารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ
    ฯลฯ

    [๑๙๕๗] อนาคตารัมมณธรรม อาศัยอนาคตารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
    ปุเรชาตปัจจัย

    คือ ในอรูปภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนาคตารัมมณธรรม ฯลฯ ขันธ์ ๒
    ฯลฯ

    [๑๙๕๘] ปัจจุปปันนารัมมณธรรม อาศัยปัจจุปปันนารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่
    ใช่เพราะปุเรชาตปัจจัย

    คือ ในปฏิสนธิขณะ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นปัจจุปปันนารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
    [๑๙๕๙] อตีตารัมมณธรรม อาศัยอตีตารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
    ปัจฉาชาตปัจจัย ไม่ใช่เพราะอาเสวนปัจจัย เหมือนกับ ไม่ใช่เพราะอธิปติปัจจัย

    ไม่ใช่เพราะกัมมปัจจัย
    คือ เจตนาที่เป็นอตีตารัมมณธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอตีตารัมมณธรรม
    [๑๙๖๐] อนาคตารัมมณธรรม อาศัยอนาคตารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
    กัมมปัจจัย

    คือ เจตนาที่เป็นอนาคตารัมมณธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอนาคตารัมมณธรรม
    [๑๙๖๑] ปัจจุปปันนารัมมณธรรม อาศัยปัจจุปปันนารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่
    เพราะกัมมปัจจัย

    คือ เจตนาที่เป็นปัจจุปปันนารัมมณธรรม อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นปัจจุปปันนารัมมณ
    ธรรม

    [๑๙๖๒] อตีตารัมมณธรรม อาศัยอตีตารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะวิปาก
    ปัจจัย ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย ปฏิสนธิ ไม่มี

    [๑๙๖๓] ปัจจุปปันนารัมมณธรรม อาศัยปัจจุปปันนารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่
    ใช่เพราะฌานปัจจัย

    คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยปัญจวิญญาณ ขันธ์ ๒ ฯลฯ
    [๑๙๖๔] อตีตารัมมณธรรม อาศัยอตีตารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะมัคค
    ปัจจัย

    คือ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอตีตารัมมณธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะเหมือนกับที่ไม่ใช่เหตุ
    ปัจจัย มีหัวข้อปัจจัย ๓ โมหะ ไม่มี

    [๑๙๖๕] อตีตารัมมณธรรม อาศัยอตีตารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
    วิปปยุตตปัจจัย

    คือ ในอรูปภูมิ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอตีตารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
    [๑๙๖๖] อนาคตารัมมณธรรม อาศัยอนาคตารัมมณธรรม เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะ
    วิปปยุตตปัจจัย

    คือ ในอรูปภูมิ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอนาคตารัมมณธรรม ขันธ์ ๒ ฯลฯ
    [๑๙๖๗] ในปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๓
    ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย
    ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย
    ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย
    ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย
    ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย
    ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย มีวาระ ๓
    ในปัจจัยที่ไม่ใช่ฌานปัจจัย มี " ๑
    ในปัจจัยที่ไม่ใช่มัคคปัจจัย มี " ๓
    ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย มี " ๒
    พึงนับอย่างนี้
    ปัจจนียะ จบ
    [๑๙๖๘] ในปัจจัยที่ไม่ใช่อธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัย มีวาระ ๓
    ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ
    ในปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ
    ในปัจจัยที่ไม่ใช่อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ
    ในปัจจัยที่ไม่ใช่กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ
    ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มีวาระ ๓
    ในปัจจัยที่ไม่ใช่วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มีวาระ ๒
    พึงนับอย่างนี้
    อนุโลมปัจจนียะ จบ
    [๑๙๖๙] ในอารัมมณปัจจัย กับปัจจัยที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย มีวาระ ๓ ฯลฯ
    ในปัจจัยทั้งปวง กับ ฯลฯ มี " ๓
    ในอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี " ๓
    พึงนับอย่างนี้
    ปัจจนียานุโลม จบ
    ปฏิจจวาร จบ
    สหชาตวารก็ดี ปัจจนียวารก็ดี นิสสยวารก็ดี สังสัฏฐวารก็ดี
    สัมปยุตตวารก็ดี เหมือนกับ ปฏิจจวาร
     

แชร์หน้านี้

Loading...